บทที่ 418 ผู้ฝึกตนเข้าใจเล่นจริง สร้างโลกเสมือนจริงสนุกได้ตามใจ!
หากเป็นโลกในมือ ควบคุมได้ตามใจนึกก็คงดี
หลี่จิ่วเต้าคิดในใจ
จากนั้น เขาทำการทดลอง
“ฝนมา!”
เขาถือกระจก เอ่ยเสียงเข้มเบา ๆ
หากนี่คือโลกในมือจริง ควบคุมได้ตามใจนึก เช่นนั้นต่อจากนี้โลกภายในกระจกต้องมีฝนตก
ครืนคราน!
แทบจะทันทีที่สิ้นเสียงเขา ก็มีเสียงฟ้าร้องดังออกมาจากกระจก ท้องฟ้าที่เคยมีแดดจ้าพลันเต็มไปด้วยเมฆครึ้ม สายฝนเทห่าลงมา!
เจ๋ง!
นี่คือโลกในมือจริง ๆ ควบคุมได้ตามใจนึก!
หลี่จิ่วเต้าปีติยินดีในใจ นี่อย่างไร เขาขอฝนก็ได้ฝน
เดี๋ยวก่อน ถ้าเป็นเพียงความบังเอิญเล่า
เขาระงับความเต็มตื้น
“หยุด!”
เขาเอ่ยปากอีกครั้ง จากนั้น สายฝนที่โหมกระหน่ำในกระจกก็ชะงักงัน เมฆครึ้มถดถอย กลับมามีแดดจ้าอีกครั้ง
“หิมะมา!”
“ลมมา!”
…
เขายังไม่วางใจนัก จึงทดลองอีกหลายครา
ผลปรากฏว่าเขาขอสิ่งใดก็ได้สิ่งนั้น!
หลายครั้งปานนี้ไฉนเลยจะเป็นเรื่องบังเอิญไปได้?
เป็นไปไม่ได้เลย!
ภายในกระจกบานนี้เป็นโลกในมือจริง ๆ กำกับได้ตามต้องการ!
“ไม่เลว ไม่เลว โลกในมือนี้ดีเยี่ยม เหมือนคราวข้าเล่นเกมในแท็บเล็ตที่บ้านเกิด”
หลี่จิ่วเต้าหัวเราะ ท่าทางดีอกดีใจ
เหมือนเมื่อครั้งเขาเล่นเกมในแท็บเล็ตที่ดาวเคราะห์สีฟ้าจริง ๆ โลกในมือที่สะท้อนผ่านกระจกคือเกม ส่วนกระจกคือแท็บเล็ต เขาใช้กระจกเป็นแท็บเล็ตเพื่อเล่นเกมโลกในมือได้
ที่เจ๋งที่สุดคือ เมื่อเขาเล่นเกมในแท็บเล็ตที่ดาวเคราะห์สีฟ้าก็มิใช่ว่าทำอะไรก็ได้ ในเกมมีกฎและข้อจำกัดอยู่มากมาย
ทว่าสิ่งนี้ไม่เหมือนกัน เขาไม่ถูกจำกัดใด ๆ กับสิ่งนี้ ทำสิ่งใดก็ได้ บรรลุทุกอย่าง!
นี่ทำให้เขาดีใจแทบแย่
จากนี้ไปหากตนมีกระจกนี้ในครอบครอง ย่อมไม่มีทางเบื่อแน่
มีโลกในมือให้เขาเล่นได้ตามใจนึก ซ้ำยังทำได้ทุกอย่างที่ต้องการ แล้วเขาจะเบื่อได้อย่างไร
ไม่มีทางซะหรอก!
จากนี้ไปมีแต่จะสาแก่ใจยิ่งขึ้น!
โลกในมือ!?
บ้านเกิด?
แท็บเล็ต?
ไป๋มู่ฟังแล้วงุนงงไปหมด ไม่เข้าใจเลยสักนิด
โลกในมือที่ว่ามาจากที่ใด?
บ้านเกิด แท็บเล็ตหมายความว่าอย่างไร
เดี๋ยวสิ…
บ้านเกิด!
ท่านเซียนคงมิได้กล่าวถึงภพเซียนกระมัง!?
แท็บเล็ต!
หรือนี่จะเป็นชื่อเรียกสมบัติเซียน!?
โลกในมือ…
โลกที่อยู่ในกำมือ!?
เขาใคร่ครวญดู คล้ายว่าจะเริ่มเข้าใจ
กระจกสรรพสิ่งก็คือแท็บเล็ต!
และสรรพคุณของกระจกสรรพสิ่งมิใช่แค่แสดงทิวทัศน์ของสถานที่ต่าง ๆ แต่สามารถควบคุมพื้นที่ทั่วทั้งแห่งไว้ได้!
เมื่อครู่เขาเห็นว่าท่านเซียนพูดถึงสิ่งใด สิ่งนั้นก็ปรากฏในกระจก!
นี่เป็นการควบคุมทุกอย่างไว้ในกำมืออย่างแท้จริง!
‘ข้าก็ว่ากระจกสรรพสิ่งไม่มีทางกระจอกงอกง่อย ทำได้เพียงแสดงทัศนียภาพ ไม่มีสรรพคุณอื่นใด!’
ไป๋มู่กล่าวในใจ
ลองคิดดูว่าวัสดุของกระจกสรรพสิ่งนั้นล้ำค่าสูงส่งทั้งสิ้น แล้วคุณสมบัติของกระจกสรรพสิ่งเป็นไปได้อย่างที่จะกากเดนธรรมดา
เขาเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว
กระจกสรรพสิ่งมีนามว่าแท็บเล็ต เป็นของจากบ้านเกิดของท่านเซียน หรือก็คือของในภพเซียน และเป็นสมบัติเซียนชิ้นหนึ่ง!
ที่พวกเขา รวมถึงบรรพชนของพวกเขาเทียนตี้ไป๋ไม่อาจค้นพบคุณสมบัติของกระจกสรรพสิ่ง นั่นก็เพราะพวกเขามีพลังไม่พอ!
ท่านเซียนเป็นการดำรงอยู่ระดับใด เมื่อกระจกสรรพสิ่งได้อยู่ในมือท่านเซียน ท่านเซียนก็สามารถใช้คุณสมบัติของกระจกสรรพสิ่งได้อย่างง่ายดาย!
มิหนำซ้ำไม่ต้องพูดถึงว่ากระจกสรรพสิ่งอาจเป็นของของท่านเซียนอยู่แล้ว!
‘อย่างที่คิด อย่างที่คิด สมองน้อย ๆ ของข้าไม่เฉลียวเอาเสียเลย!’
อีกด้าน เซี่ยเหยียนคิดในใจ ยังดีที่นางตื่นรู้ในนาทีสุดท้าย พาไป๋มู่เข้ามา
มิฉะนั้น นางคงทำความผิดใหญ่หลวงลงไปเสียแล้ว!
ท่านเซียนต้องการพบไป๋มู่ นั่นเพราะเขาต้องการแท็บเล็ต หรือก็คือกระจกสรรพสิ่ง ซึ่งเป็นสิ่งของจากบ้านเกิดท่านเซียนคืน!
“สวรรค์ สมกับเป็นสมบัติเซียน!”
อีกด้าน ไป๋มู่สะท้านใจอย่างน่าประหลาด เขาเห็นนิ้วมือท่านเซียนไถขึ้นลงบนกระจกสรรพสิ่ง และมีภาพสถานที่ใหม่ปรากฏ
เดิมเขาเห็นว่าภาพนี้ค่อนข้างแปลกตา แต่ยิ่งมองยิ่งรู้สึกคุ้นเคย
ดินแดนในภาพมิใช่อาณาจักรม่อเยวียน หนึ่งในอาณาจักรเก้าตอนบนหรอกหรือ
ยอดนิกายมีรากฐานมั่นคงลึกล้ำ จึงรู้เรื่องอาณาจักรต่าง ๆ ไม่น้อย แม้แต่อาณาจักรเก้าตอนบนซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของอาณาจักรทั้งปวงพวกเขาก็พอรู้บ้าง
ภาพที่ปรากฏในกระจก ก็คือดินแดนอันน่าประหวั่นพรั่นพรึงและอันตรายที่สุดในอาณาจักรม่อเยวียน ห้วงวารีทมิฬ!
ห้วงน้ำลึกไหลหลากไม่เห็นข้างใต้ ราวกับตัดการเชื่อมต่อระหว่างฟ้าดิน ภายในนั้นมืดมนจนมองไม่เห็นสิ่งใด ประดุจความมืดมิดอันไร้ที่สิ้นสุด กลืนกินได้ทุกสิ่ง!
‘ข้าคิดว่ากระจกสรรพสิ่งควบคุมได้เพียงอาณาจักรเดียวเท่านั้น หารู้ไม่ ข้านี่เป็นกบในกะลาจริง ๆ สมบัติเซียนมีหรือจะมีแสนยานุภาพแค่นี้ อาณาจักรทั้งปวงล้วนอยู่ในกำมือทั้งสิ้น!’
ไป๋มู่หัวเราะฝืดเฝื่อนในใจ นึกไปว่าเขาช่างตาต่ำนัก ประเมินอานุภาพสมบัติเซียนไว้กระจอกเกินไป
เดิมเขาคิดว่ากระจกสรรพสิ่งควบคุมได้เพียงอาณาจักรที่พวกเขาอยู่เท่านั้น!
ทว่าท่านเซียนปัดมือไปมา ก็ปัดไปถึงฟากอาณาจักรม่อเยวียน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอาณาจักรทั้งปวงล้วนอยู่ในการควบคุม!
“ห้วงน้ำลึกนี่ไม่ดี มืดจนมองอะไรไม่เห็น ขืนมีคนไม่ทันระวังตกลงไปจะทำอย่างไร”
หลี่จิ่วเต้าเอ่ยปาก “ถมให้เรียบเสีย”
จากนั้น ภาพในกระจกแสดงให้เห็นว่ามีหินยักษ์มหาศาลจุติลงจากฟ้า ห้วงวารีทมิฬที่ลึกจนมองไม่เห็นข้างใต้ถูกถมจนราบในเวลาไม่นาน
“!!!”
เมื่อได้เห็นภาพนี้ ไป๋มู่ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้น!
พับผ่าสิ สุดยอดเกินไปแล้ว!
ดินแดนที่น่าประหวั่นพรั่นพรึงสยดสยองที่สุดในอาณาจักรม่อเยวียน ไม่ว่ายอดฝีมือจะแข็งแกร่งปานใดเมื่อเข้าไปแล้วก็ไม่อาจกลับออกมาอีก ต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นั่น
ท่านเซียนถมให้ราบในประโยคเดียวเลยหรือ!?
สวรรค์! สวรรค์!
ฝีมือของท่านเซียนเหนือความคาดหมายสุด ๆ!
“เล่นได้สะใจจริง ๆ”
หลี่จิ่วเต้าเล่นต่ออีกพักหนึ่ง สุดท้ายก็วางแท็บเล็ตลง
เขาคิดในใจว่าผู้ฝึกตนคนนี่สุดยอด สร้างโลกในมือเสมือนจริง อยากทำอะไรก็ทำได้
ทว่ากระจกบานนี้สนุกส่วนสนุก แต่นี่คือสิ่งที่ไป๋มู่มอบให้เซี่ยเหยียน เขาไฉนเลยจะกล้าปริปากขอ
ถ้าเซี่ยเหยียนรับไว้ วันหน้าเขาขอยืมมาเล่นสักวันสองวันคงพอได้
เขากับเซี่ยเหยียนสนิทสนมกันยิ่ง
“คุณชายชอบกระจกบานนี้หรือ”
ไป๋มู่เอ่ย “หากคุณชายชอบ ข้าขอมอบกระจกบานนี้ให้คุณชาย!”
“ข้าจะกล้ารับได้อย่างไร…”
หลี่จิ่วเต้าคลี่ยิ้ม แม้ว่าเขาอยากได้มาก ทว่าจะกล้ารับไว้ได้อย่างไร
เขาหันมองเซี่ยเหยียน ความหมายชัดเจน นี่คือของขวัญสำหรับนาง
เซี่ยเหยียนเห็นสายตาท่านเซียน ก็ถึงบางอ้อทันที
“คุณชายรับไว้เถิด ผู้เฒ่าไป๋นำของมาให้ตั้งมากมาย อีกอย่าง ผู้เฒ่าไป๋บอกเองว่าจะให้คุณชาย”
เซี่ยเหยียนเอ่ยยิ้ม ๆ
“ใช่แล้ว คุณชายรับไว้เถิด”
ไป๋มู่กล่าว
หลี่จิ่วเต้าครุ่นคิด เซี่ยเหยียนพูดไม่ผิด ผู้เฒ่าไป๋นำของมาให้ตั้งมากมาย มีของชิ้นนี้หรือไม่มีก็ไม่ต่าง
“เช่นนั้นข้าขอหน้าหนารับไว้แล้วกัน พวกเจ้าคุยกันไปก่อน ข้าจะไปต้มเกี๊ยว”
หลี่จิ่วเต้าเก็บกระจกสรรพสิ่งไป พร้อมกล่าวยิ้ม ๆ
…
บนท้องนภา หนึ่งในอาณาจักรเก้าตอนบน อาณาจักรม่อเยวียน
“ให้…ตายสิ! นี่มันเรื่องอะไรกัน! ห้วงวารีทมิฬถูกถมจนเรียบไปแล้วหรือ”
“ฝีมือผู้ใด สุดยอดเกินไปแล้ว!”
สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในอาณาจักรม่อเยวียนตะลึงงันกันหมด สะท้านใจถึงขีดสุด
ดินแดนที่สยดสยองอันตรายที่สุด ถูกถมจนราบง่าย ๆ อย่างนี้เลยหรือ!
อย่าให้พูดเลยว่าพวกเขาอึ้งปานใด!