รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 419 นมวัวดีเยี่ยมถึงเพียงนี้เชียวหรือ กลับไปจะให้ทุกคนดื่มนมกันถ้วนหน้า!

บทที่ 419 นมวัวดีเยี่ยมถึงเพียงนี้เชียวหรือ กลับไปจะให้ทุกคนดื่มนมกันถ้วนหน้า!

บทที่ 419 นมวัวดีเยี่ยมถึงเพียงนี้เชียวหรือ กลับไปจะให้ทุกคนดื่มนมกันถ้วนหน้า!

หลี่จิ่วเต้ากลับไปทำกับข้าวในห้องครัว ไป๋มู่มองร่างท่านเซียนนิ่งค้างอยู่อย่างนั้น ฝีมือท่านเซียนน่ากลัวยิ่งนัก น่าเหลือเชื่ออย่างถึงที่สุด!

อาณาจักรทั้งปวงล้วนเป็นของเล่นในมืออย่างนั้นหรือ!?

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า สิ่งนี้ทำลายความเชื่อทั้งหมดของเขาที่ผ่านมา!

“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าขอรับทั้งหมดนี้ไว้แล้วกัน”

เซี่ยเหยียนคลี่ยิ้ม เก็บของกำนัลแทนคำขอโทษที่ไป๋มู่นำมาให้ทั้งหมด

เดิมทีนางไม่อยากเก็บไว้ อย่างไรนางก็หยิบของดีมาจากตระกูลไป๋มามาก ไฉนเลยจะกล้ารับของกำนัลแทนคำขอโทษของไป๋มู่อีก

แต่ในเมื่อพูดออกไปแบบนั้นเมื่อครู่ นางไม่รับก็คงต้องรับไว้

“ได้!”

ไป๋มู่ได้สติกลับมา เอ่ยด้วยความสะท้อนใจเหลือคณา “คนในตระกูลของข้าช่างไม่รู้ความ โชคดีที่แม่นางเซี่ยเหยียนใจกว้างดั่งมหาสมุทร ไม่ถือสาพวกเขา!”

จะไม่ให้เขาสะท้อนใจเช่นนี้ได้อย่างไร

เบื้องหลังอีกฝ่ายมีท่านเซียนระดับนี้อยู่!

เขานึกโชคดีอยู่เต็มเปี่ยม โชคดีที่เซี่ยเหยียนใจกว้างไม่เอาความ มิฉะนั้น ทั้งตระกูลไป๋คงต้องสูญสิ้นโดยไม่ทราบสาเหตุด้วยซ้ำ!

ฝีมือท่านเซียนน่ากลัวเกินไปแล้ว!

และเซี่ยเหยียนซึ่งติดตามอยู่ข้างกายท่านเซียนมาเสมอ ย่อมต้องน่ากลัวถึงขีดสุดเช่นกัน!

“เรื่องในอดีตอย่าได้พูดถึงอีกเลย”

หญิงสาวคลี่ยิ้ม “ข้ารับของกำนัลแทนคำขอโทษของท่านไว้ เรื่องราวทั้งหมดถือว่าผ่านพ้นไปแล้ว สิ่งของพวกท่านข้าก็จะคืนให้ทั้งหมด”

หากว่ารับของกำนัลแทนคำขอโทษมาแล้ว นางยังเก็บของดีที่เอามาจากตระกูลไป๋ นางคงกระดากเหลือทน

“มิต้อง มิต้อง นี่คือราคาที่ตระกูลไป๋สมควรต้องจ่าย”

ไป๋มู่ส่ายหัว

เซี่ยเหยียนมิได้เอาเรื่องตระกูลไป๋ เขาก็ดีใจมากแล้ว ส่วนสิ่งของเหล่านั้น บอกตามตรงแม้เขาจะเสียดาย กระนั้นเป็นดั่งที่เขาว่า นี่คือราคาที่ตระกูลไป๋สมควรต้องจ่าย

“ไม่ต้องพูดอะไรไปมากกว่านี้แล้ว ข้าจะคืนให้”

ทีท่าเซี่ยเหยียนเด็ดเดี่ยว ไป๋มู่ได้แต่รับคำไว้ เขาไม่ต้องการสร้างความระคายใจให้นางเพราะเหตุการณ์นี้อีก

“จริงสิ ของบางอย่างคืนให้ไม่ได้ ท่านเข้าใจใช่หรือไม่”

เซี่ยเหยียนกล่าว

“เข้าใจ ๆ!”

ไป๋มู่พยักหน้ารัว เขารู้ว่านางหมายถึงสิ่งใด

เซี่ยเหยียนหมายถึงต้นผลไม้สามต้นนั้น

ต้นผลไม้สามต้นนั้นถูกปลูกลงในลานท่านเซียนแล้ว เขาไฉนเลยจะขอคืน

ไม่มีทาง!

นอกจากนี้ เขาปรารถนาให้ต้นผลไม้ทั้งสามต้นนี้อยู่กับท่านเซียนด้วย

ท่านเซียนน่าพรั่นพรึงปานใด มีสิ่งใดที่เขาไม่รู้บ้าง?

ถึงแม้ว่านี่คือสิ่งที่เซี่ยเหยียนมอบให้ท่านเซียน กระนั้นคิดแล้วท่านเซียนย่อมต้องรู้ว่าต้นผลไม้สามต้นนี้เป็นของพวกเขาตระกูลไป๋

ต้นไม้ผลสามต้นนี้อยู่กับท่านเซียน ถือเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับตระกูลไป๋ของพวกเขา เกรงว่าท่านเซียนต้องคุ้มครองตระกูลไป๋บ้างไม่มากก็น้อย!

ก่อไฟต้มเกี๊ยวใช้เวลาไม่นาน หลี่จิ่วเต้าก็ต้มเกี๊ยวเสร็จ

หลิงอินกับเซี่ยเหยียนเข้าไปช่วยยกเกี๊ยวออกมา

หลี่จิ่วเต้าผสมน้ำจิ้มเสร็จแล้วยกเข้าไปให้

“ชิมดูว่าฝีมือเป็นอย่างไร”

หลี่จิ่วเต้าเอ่ยกับไป๋มู่ยิ้ม ๆ “นี่คือของที่อร่อยที่สุดในบ้านเกิดของข้า ทุกครั้งที่มีเทศกาล หรือมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น คนในบ้านเกิดข้ามักต้มเกี๊ยวกินกัน”

เกี๊ยวไม่เพียงแต่อร่อย ยังมีความหมายพิเศษมากอีกด้วย อาหารมื้อที่คนในครอบครัวได้กินกันพร้อมหน้าพร้อมตาย่อมต้องมีเกี๊ยวอยู่

หลังได้ยินคำกล่าวของท่านเซียน อย่าให้พูดเลยว่าไป๋มู่ตื้นตันปานใด

เกี๊ยวที่เป็นอาหารของเหล่าเซียนหรือ

ซ้ำยังเป็นเกี๊ยวที่มีความสำคัญถึงปานนั้น!

เขาหยิบตะเกียบคีบเกี๊ยวขึ้นมาหนึ่งชิ้น หมายจะเอาเข้าปาก

หลี่จิ่วเต้าหัวเราะ พลางเอ่ยเตือนไป๋มู่ “จิ้มน้ำจิ้มกินจะอร่อยยิ่งขึ้น”

“ได้!”

ไป๋มู่จิ้มน้ำจิ้มแล้วกินเกี๊ยวเข้าไปชิ้นหนึ่ง

เพียงเสี้ยวอึดใจเขาก็ต้องตะลึง เกี๊ยวนี้แป้งบางไส้แน่น ยามได้กินอย่าให้พูดเลยว่ารสเลิศเพียงใด โดยเฉพาะเมื่อได้จิ้มกับน้ำจิ้ม รสชาตินั้นดีเยี่ยม!

นอกจากนี้ เขายังรู้สึกว่าหลังกินเกี๊ยวเข้าไปแล้ว พลังมหาศาลมากมายกำลังหล่อหลอมอยู่ในตัวเขา ผนึกที่ต้นหลิวลงไว้ให้ทลายในบัดดล!

พลังของเขากลับมาอีกครั้ง!

ยิ่งกว่านั้น เขายังรู้สึกว่าแก่นกำเนิดชีวิตยกระดับขึ้นอย่างยิ่งยวด อายุขัยทวีคูณกว่าเท่าตัว!

ไป๋มู่ในตอนนี้ มีชีวิตอยู่ต่อไปอีกหลายพันปียังไม่เป็นปัญหา!

‘หลังขัดเกลาพลังในตัวจนหมด น่ากลัวว่าข้าคงบรรลุจุดสูงสุดขั้นตี้จวิน หรืออาจบรรลุไปถึงขั้นเทียนตี้ได้!’

เขาเต็มตื้นเหลือคณา พลังในเกี๊ยวช่างเข้มข้นเหลือเกิน ช่วยให้เขาได้รับประโยชน์มหาศาล!

“อร่อย อร่อย ฝีมือคุณชายสุดยอดยิ่งนัก!”

ไป๋มู่พูดจากใจจริง

ไม่ต้องกล่าวถึงพลังล้นหลามที่เจืออยู่ในเกี๊ยว ลำพังรสชาติของเกี๊ยวก็ล้ำเลิศหนักหนา ไม่มีอาหารโอชะจานใดในใต้หล้าเทียบเทียม!

“ฮ่า ๆ ชอบกินก็ดีแล้ว”

หลี่จิ่วเต้าคลี่ยิ้ม “สายหน่อยหากท่านมาอีก ข้าจะทำนมเปรี้ยวให้ท่านดื่ม”

เซี่ยเหยียนกับเสี่ยวหยานำวัวกลับมาให้เขา เขายังจำได้ นมสดนั้นแน่นอนว่าดี แต่นมเปรี้ยวรสชาติกลมกล่อมกว่า!

เพียงแต่ขั้นตอนการปรุงนมเปรี้ยวค่อนข้างยุ่งยาก

“นมเปรี้ยวหรือ?”

ไป๋มู่ถามด้วยท่าทางฉงน เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินคำนี้

“นมเปรี้ยว เป็นนมวัวชนิดหนึ่ง ทำโดยใช้นมเป็นวัตถุดิบ”

หลี่จิ่วเต้าอธิบายให้ไป๋มู่ฟัง “นมเป็นของดี มีประโยชน์ต่อร่างกายมหาศาล คนที่บ้านเกิดของข้าดื่มกันถ้วนหน้า ยิ่งนมเปรี้ยวยิ่งเป็นที่นิยมใหญ่”

นมวัวดีเยี่ยมถึงเพียงนั้นเชียว!?

เซียนทุกตนในภพเซียนดื่มกันถ้วนหน้าเลยหรือ

เข้าใจแล้ว!

ท่านเซียนกำลังชี้แนะหนทางเพิ่มความแข็งแกร่ง!

ไม่ได้ยินหรือที่ท่านเซียนบอกว่านมวัวเป็นประโยชน์อย่างมากต่อร่างกาย!

ไป๋มู่คิดในใจ

เขาตัดสินใจว่ารอเขากลับไปเมื่อใด จักให้คนเริ่มจัดการควานหาแม่วัวทั้งหมด เพื่อให้ผู้ฝึกตนทุกคนมีนมดื่มกิน!

“เช่นนี้ต้องขอบคุณคุณชายมาก!”

ไป๋มู่เอ่ยเสียงซาบซึ้ง

ชายหนุ่มแย้มยิ้ม “ไม่เป็นไร”

หลังกินเกี๊ยวเสร็จ หลี่จิ่วเต้าสนทนากับไป๋มู่ต่ออีกครู่หนึ่ง ท้ายสุดไป๋มู่ถึงบอกลาท่านเซียน กลับออกจากร้าน

ฟ้ามืดแล้ว หลิงอิน เสี่ยวหยา เซี่ยเหยียนต่างบอกลาท่านเซียนและไปจากที่นี่

“ชีวิตหลังจากนี้คงหรรษาขึ้นเยอะ…”

หลี่จิ่วเต้ายิ้มละไม เอนกายบนเก้าอี้โยก ก่อนจะหยิบกระจกสรรพสิ่งออกมาเล่น

อีกด้านหนึ่ง นอกเมืองชิงซาน บนเขาเล็กลูกหนึ่ง

ผู้เฒ่าผมขาวคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียงอย่างสบายอุรา

“วันนี้เล่นหมากกับคนไปไม่น้อย…”

เขาหัวเราะเบา ๆ วันนี้เขาจงใจดึงดูดคนเล่นหมากมาไม่น้อย อีกทั้งยังเล่นหมากกับพวกเขาทีละคน และเป็นการเดินที่ชนะอย่างบดขยี้ คนเหล่านี้ก็ได้ทราบแล้วว่าทักษะเล่นหมากของเขาสูงส่ง

“ข้าผู้นี้ไม่มีงานอดิเรกใด เพียงแต่ชื่นชอบการเล่นหมากมาก อนิจจา เล่นหมากมากว่าครึ่งชีวิตยังไม่เคยแพ้ เป็นเรื่องน่าเสียดายของข้า! หากเป็นไปได้ ขอรบกวนทุกท่านช่วยแพร่ข่าวนี้ออกไป ให้คนที่ชื่นชอบการเล่นหมากมาเล่นกับข้าสักตา ข้าปรารถนาเพียงแพ้กระดานหมากสักตาก่อนตาย!”

ครานั้น เขาจงใจกล่าวเช่นนี้ออกไป

และคนเหล่านั้นก็บอกว่าจะช่วยกันแพร่ข่าวให้เขา

บางคนในที่นั้นถึงขั้นกล่าวถึงหลี่จิ่วเต้า อ้างว่าฝีมือการเล่นหมากของเขาไร้เทียมทาน

“หลี่จิ่วเต้าเก่งกาจมากเลยหรือ ขออภัยตาแก่ผู้นี้มัวศึกษาการเดินหมากล้อมอยู่แต่ในเขา จึงไม่ค่อยทราบเรื่องภายนอก”

ครานั้น เขาว่าไปอย่างนั้น “ข้าผู้นี้แก่แล้ว สุขภาพมิสู้ดีนัก หากหลี่จิ่วเต้าผู้นี้เต็มใจ ทุกท่านช่วยเชิญเขามาเล่นหมากกับข้าสักตาได้หรือไม่”

“ไม่มีปัญหา!”

“ได้สิ! คุณชายหลี่ชื่นชอบการเล่นหมากเช่นกัน เชื่อว่าหลังทราบเรื่องราวคงยินดีเล่นหมากกับคุณลุงหลายตา”

ตอนนั้น คนพวกนั้นบอกเขาแบบนี้

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน