หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting – บทที่ 1160 ดาราจักรโลกันตร์!

บทที่ 1160 ดาราจักรโลกันตร์!

หวังเป่าเล่อนิ่งเงียบ ภาพในสนามรบก่อนหน้านี้ผุดขึ้นในหัว แท้จริงแล้วศิษย์พี่เฉินชิงจื่อสามารถบอกความจริงแก่เขาตั้งแต่แรกได้

แต่ถึงแม้จะไม่บอก หวังเป่าเล่อก็ไม่ได้โกรธ อย่างไรเรื่องนี้ก็เกี่ยวข้องกับสำนักแห่งความมืด ศิษย์พี่จะคำนึงถึงความปลอดภัยก็ไม่ผิด

ยิ่งกว่านั้นเขาก็เป็นคนได้รับชะตา แม้การถูกเปิดเผยจะเป็นอันตราย แต่ทุกอย่างก็เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ เว้นแต่ว่าเขาจะไป ไม่เช่นนั้นก็ยากที่จะซ่อนตัว

อีกอย่างคือตั้งแต่ต้นจนจบศิษย์พี่ก็ปกป้องเขาจริงๆ ก่อนจะจากมาก็ยังให้ตนอยู่หลังร่างจริงของเขา

ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็ไม่มีปัญหาตรงไหนเลย แต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดหวังเป่าเล่อถึงมีความรู้สึกแปลกประหลาดอยู่เสมอ ศิษย์พี่ตรงหน้ากับผู้ที่อยู่ในความทรงจำของเขามีบางอย่างไม่เหมือนกัน

ส่วนอะไรที่ทำให้เขามีความคิดแบบนี้ หวังเป่าเล่อก็ไม่อาจทราบได้ เขาทำได้แค่บอกตัวเองว่า…บางทีการผนึกกายและฟื้นคืนชีพของเต๋าสวรรค์คงทำให้บนร่างของศิษย์พี่ดูน่าเกรงขามขึ้นและมีความรู้สึกลดลง

“บางทีอาจเพราะการเปรียบเทียบกระมัง” หวังเป่าเล่อคิดถึงปรมาจารย์แห่งไฟ บนร่างของอาจารย์ผู้นี้ทุกอย่างดูจริงมาก มองเห็นชัดเจน สัมผัสได้ แต่ในทางกลับกันศิษย์พี่นั้น…ค่อนข้างคลุมเครือ

กระนั้น หวังเป่าเล่อก็ไม่เคยไม่ไว้ใจศิษย์พี่เฉินชิงจื่อ เขายังคงเชื่อมั่นเมื่อคิดถึงภาพตอนที่ตนอยู่ในสหพันธรัฐ จากนั้นไม่นานหวังเป่าเล่อก็ได้ข้อสรุป เขาหันกลับมามองปรมาจารย์แห่งไฟ

ปรมาจารย์แห่งไฟคิดจะกล่าวบางอย่าง แต่แล้วก็หยุดชะงัก

“อาจารย์” หวังเป่าเล่อเอ่ยเสียงเบา ไม่ได้ประสานมือคำนับ แต่กลับคุกเข่าและก้มศีรษะลง

แม้ไม่ได้เอ่ย แต่ปรมาจารย์แห่งไฟก็เข้าใจได้ หลังจากเงียบไปจึงถอนหายใจเบาๆ

“จำคำที่ข้าพูดกับเจ้าให้ดี ดาราจักรไฟคือทางหนีของเจ้า”

หวังเป่าเล่อพยักหน้า เขาไม่สามารถอยู่ที่ดาราจักรไฟต่อได้ เพราะหากทำเช่นนั้น เรื่องระหว่างสำนักแห่งความมืดกับตระกูลไม่รู้สิ้นจะดึงตัวอาจารย์เข้ามาเกี่ยว ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ

อีกอย่างบนร่างของเขายังมีตราประทับสำนักแห่งความมืดในฐานะบุตรแห่งความมืด นั่นเป็นเหตุผลข้อใหญ่ที่ไม่อาจแยกจากสำนักแห่งความมืดได้ เขาเข้าใจดีว่าตนไม่อาจหนีไปโดยง่าย

แล้วอีกอย่างก็คือ…หวังเป่าเล่ออยากแข็งแกร่งขึ้น!

หากอยู่ที่ดาราจักรไฟ เขาต้องเสียโอกาสที่จะแข็งแกร่งไป ในเมื่อมีเวลาไม่มากแล้ว ตะขาบสีโลหิตจะปรากฏตัวขึ้นมาอีกเมื่อไรก็ได้ หวังเป่าเล่อต้องเผชิญหน้ากับมัน

เหตุผลทั้งหมดทำให้หวังเป่าเล่อตัดสินใจแน่วแน่ หลังจากลุกขึ้นจึงหันไปมองเซี่ยไห่หยางที่กำลังระแวดระวัง และหันไปพูดกับศิษย์พี่เฉินชิงจื่อ

“ศิษย์พี่ เตาหลอมวงแหวนปราณของจักรพรรดิสวรรค์เดือนแยกเป็นตระกูลเซี่ยที่จุดขึ้น เรื่องนี้ขอให้แล้วกันไปได้หรือไม่ขอรับ”

เฉินชิงจื่ออมยิ้มเมื่อได้ยินเช่นนี้ ก่อนจะปรายตามองเซี่ยไห่หยางที่ดูกังวลอย่างเห็นได้ชัดหลังจากได้ยินคำพูดของหวังเป่าเล่อ เขาพยักหน้า

“ตระกูลเซี่ยไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้”

ทันทีที่เอ่ยออกมา เซี่ยไห่หยางก็ราวกับสูญสิ้นเรี่ยวแรง เขาประสานมือยื่นไปทางหวังเป่าเล่อและเฉินชิงจื่อ ก่อนจะโค้งคำนับสุดตัว ในใจอารมณ์ท่วมท้น แท้จริงแล้วตอนที่เขาติดตามหวังเป่าเล่อก็ไม่ได้คาดคิดว่าเฉินชิงจื่อจะทำเรื่องใหญ่อย่างแปลงตัวเองเป็นเต๋าสวรรค์เช่นนี้

คนที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ต่อให้เป็นตระกูลเซี่ยของเขาก็ยังต้องเผชิญหน้าอย่างระมัดระวัง อย่างไรในตอนนี้ก็ยังไม่มีฝ่ายไหนอยากเข้าร่วมสงครามระหว่างสำนักแห่งความมืดกับตระกูลไม่รู้สิ้น

“ศิษย์น้อง เราไปกันเถอะ” เมื่อสะสางเรื่องนี้เสร็จแล้ว เฉินชิงจื่อก็เอ่ยอย่างยิ้มแย้ม

หวังเป่าเล่อหมุนตัวหันไปค้อมคำนับปรมาจารย์แห่งไฟอีกครั้ง ก่อนจะก้าวออกจากเทพวัวและเหยียบลงบนทะเลเพลิงที่อยู่รายรอบ ก้าวเข้าไปหาศิษย์พี่ทีละก้าว เมื่อเห็นศิษย์ของตนค่อยๆ จากไป หัวใจปรมาจารย์แห่งไฟก็มืดมนลงเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเหตุใดเขาถึงได้คิดถึงศิษย์คนอื่นๆ ที่ตายจากไป

เขากับตระกูลไม่รู้สิ้นเป็นปรปักษ์กัน แต่เขาไม่มีความสามารถพอที่จะล้างแค้น มีเพียงคำสาปที่ขัดขวางมากกว่าความเป็นจริง เขาเคยคิดจะทุ่มกำลังทั้งหมดระเบิดตนเอง ต่อให้ต้องตายก็ต้องฝังรวมกับจักรพรรดิสวรรค์สักคน

แต่…เขายังมีเรื่องให้อาวรณ์อีกมากนัก อาวรณ์แรกคือศิษย์รอง ศิษย์เพียงคนเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ และตอนนี้…ก็มีหวังเป่าเล่อเพิ่มเข้ามาอีกคน

ดังนั้นความจริงแล้วเขาต้องการปกป้องอยู่ข้างกายหวังเป่าเล่อ หากศิษย์คนนี้ยืนยันที่จะเข้าร่วมสำนักแห่งความมืด ตนก็จะอุทิศช่วยและใช้ชีวิตแลกกับจักรพรรดิสวรรค์ไม่รู้สิ้นสักคน

แต่เขามองออกแล้วว่าหวังเป่าเล่อไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น

ในความเงียบงัน ปรมาจารย์แห่งไฟจดจ้องมองหวังเป่าเล่อที่อยู่ข้างกายเฉินชิงจื่อ ก่อนจะเอ่ยปากกล่าวกับเฉินชิงจื่อ

“เขาปฏิบัติต่อเจ้าเหมือนกับพี่ชายของเขาจริงๆ ดังนั้น…เฉินชิงจื่อ ไม่ว่าเจ้าจะมีแผนอะไร มีจุดประสงค์อะไร หากศิษย์ของข้าเป็นอะไรไปขึ้นมา แม้ข้าไม่อาจทำอะไรเจ้าได้ แต่จะแลกด้วยชีวิตนำคำสาปผนึกเข้ากับเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้น เพิ่มพลังแห่งเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้น!”

หวังเป่าเล่อไม่ได้ยินประโยคนี้ แต่เขาเห็นศิษย์พี่เฉินชิงจื่อข้างกายชะงักฝีเท้า

“ข้าเองก็เห็นศิษย์น้องเป็นญาติเพียงคนเดียวของข้าเช่นกัน เฉินชิงจื่อจะทำอะไรย่อมมั่นใจ” เขาเอ่ยตอบปรมาจารย์แห่งไฟเบาๆ แล้วจึงหันไปยิ้มให้หวังเป่าเล่อ ก่อนจะสะบัดแขนเสื้อ ทันใดนั้นหมอกดำก็แผ่ออกมาก่อตัวเป็นปลายักษ์สีดำแผดเสียงคำรามอย่างเงียบงันในจักรวาล ก่อนจะกระโจนพาหวังเป่าเล่อหายเข้าไปในความว่างเปล่าอย่างไร้ร่องรอย

ผ่านไปเนิ่นนานกว่าปรมาจารย์แห่งไฟจะถอนสายตากลับมาได้ สีหน้านั้นมืดมนลง ในใจไร้ความเบิกบาน จู่ๆ เขาก็ดูแก่ชราขึ้นมาก

เซี่ยไห่หยางที่อยู่ข้างกายเห็นปรมาจารย์แห่งไฟเป็นเช่นนี้จึงครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนเอ่ยเสียงต่ำ

“อาจารย์ปู่ อาจารย์อาเป่าเล่อไปแล้ว แต่ข้ายังอยู่…”

“เจ้าหรือ” ปรมาจารย์แห่งไฟหรี่ตามองแล้วพ่นลมหายใจ

“หนวกหู!” พูดจบก็โบกมือขวา ทันใดนั้นเทพวัวใต้ร่างก็แผดเสียงร้องและควบไปข้างหน้า ทิศทางยังคงเป็นดาราจักรไฟ ส่วนเซี่ยไห่หยางบนหลังเทพวัวนั้นกำลังคับข้องใจเสียเต็มประดา

ร่างของปรมาจารย์แห่งไฟค่อยๆ หายลับไปในจักรวาล หวังเป่าเล่อและเฉินชิงจื่อก็จากไปในความว่างเปล่า ผู้ฝึกตนตระกูลหมื่นสำนักก่อนหน้านี้ต่างแยกย้ายและกลับไปยังเขตอำนาจของตน การต่อสู้ระดับจักรพรรดิสวรรค์ครั้งนี้จึงถือว่าสิ้นสุดลงแล้ว ขณะเดียวกันเรื่องราวการต่อสู้ก็ได้เผยแพร่ออกไปเช่นกัน

เต๋าสวรรค์สำนักแห่งความมืดฟื้นคืนชีพในร่างเฉินชิงจื่อ เฉินชิงจื่อ…คือเต๋าสวรรค์สำนักแห่งความมืด

เรื่องนี้แพร่สะพัดไปทั่วจักรพิภพเต๋าไม่รู้สิ้นอย่างรวดเร็วราวกับพายุ ทำให้เหล่าสำนักและตระกูลแทบทั้งหมดหวาดหวั่น ในบรรดาพวกเขาคนที่ไม่รู้จักสำนักแห่งความมืดต่างก็ออกตามหากันอย่างรวดเร็ว ส่วนสำนักและตระกูลที่รู้จักสำนักแห่งความมืดนั้นกลับวิตกกังวลอย่างไร้ที่สิ้นสุดอยู่ในใจ

ราวกับความตึงเครียดก่อนเกิดสงคราม ตระกูลและสำนักน้อยใหญ่ต่างแยกตัวออกไปและไม่เต็มใจที่จะเข้าร่วม ความจริงคือ…จุดจบของสงครามครั้งนี้ทำให้ทุกคนต่างตกตะลึง

เดือนแยกสิ้นชีพ ร่างเต๋าของตี้ซานถูกฟันสะบั้น กวงหมิงและเสวียนหัวไม่สามารถทำอะไรเฉินชิงจื่อได้ ห้าจักรพรรดิสวรรค์ผู้ยิ่งใหญ่ในตระกูลไม่รู้สิ้นไม่สามารถคุกคามเฉินชิงจื่อได้เลย เว้นแต่ปรมาจารย์ดั้งเดิมไม่รู้สิ้นที่ลึกลับที่สุดผู้นั้น

แต่ปรมาจารย์ผู้ลึกลับไม่เผยร่างแท้จริงให้เห็นมานานหลายปีแล้ว สิ่งที่รักษาเมืองตลอดทั้งปีมีเพียงศพนามเต๋าว่าจีเจียซึ่งเป็นตัวแทนของปรมาจารย์

เป็นผลให้ทั่วทั้งจักรพิภพเต๋าไม่รู้สิ้นตกอยู่ในความเงียบสงบราวกับช่วงก่อนพายุจะมา…

เวลาเดียวกันในความว่างเปล่า เฉินชิงจื่อที่แปลงร่างเป็นปลาเต๋าสวรรค์ก็กำลังพาหวังเป่าเล่อมุ่งหน้าไปอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่มุ่งสู่สามยอดจักรพิภพศักดิ์สิทธิ์ในจักรวาล แต่…จมดิ่งลงไปในความว่างเปล่า ลึกลงไป ลึกลงไปเรื่อยๆ…

หากเปรียบจักรวาลเป็นกระดาษ ทุกอย่างบนกระดาษและเหนือขึ้นไปด้านบนคือจักวาล คือสามยอดจักรพิภพศักดิ์สิทธิ์ เช่นนั้นใต้กระดาษ…ก็คือนรกเก้าโลกันตร์

ขณะนี้เฉินชิงจื่อที่แปลงร่างเป็นปลาเต๋าสวรรค์ได้พาหวังเป่าเล่อเข้ามาในนรกเก้าโลกันตร์และว่ายลึกเข้าไป

ค่อยๆ เข้าใกล้…ถิ่นที่ผู้คนที่หลงเหลืออยู่ของสำนักแห่งความมืดอยู่อาศัย!

ดาราจักรโลกันตร์!

………………………………………

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting

Status: Ongoing

เรื่อง : หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา (三寸人间)ผู้เขียน : เอ่อร์เกิน (耳根) ผู้แปล : Thunderbird Translators ค.ศ. 3029 วิทยาการบนโลกมนุษย์พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแต่ละประเทศไม่มีเขตพรมแดนกั้นอีกต่อไป โลกได้ผสานรวมกลายเป็นหนึ่งเดียว เริ่มต้นยุคสมัยแห่งสหพันธรัฐ ตอนนั้นเอง กระบี่ยักษ์เล่มหนึ่งตกลงมาจากห้วงอวกาศ ปักเข้าใจกลาง ดวงอาทิตย์ ฝักกระบี่แตกออกเป็นเศษชิ้นส่วนจำนวนมาก กระจัดกระจายไปทั่ว ทั้งจักรวาลรวมถึงบนโลก และก่อให้เกิดแหล่งพลังงานรูปแบบใหม่อันไร้ขีดจำกัด พลังงานนี้มีชื่อเรียกกันว่า ปราณวิญญาณ ‘หวังเป่าเล่อ’ หนุ่มร่างท้วมผู้ทะเยอทะยาน ใฝ่ฝันจะได้เป็นผู้นำสหพันธรัฐ ด้วยหวังว่าจะไม่มีใครมารังแกเขาได้อีกต่อไป และเมื่อเดินทางเข้ามาศึกษาใน สำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ใช้ความรู้เหล่านั้นบวกกับความหน้าหนาหน้าทน ของตัวเอง วางกลยุทธ์อันฉลาดล้ำกำราบศัตรูคนแล้วคนเล่า ใครหน้าไหนก็ไม่อาจมาขัดขวางเส้นทางสู่การเป็นหนึ่งในใต้หล้าของชายอ้วนผู้นี้ได้ เว้นเสียแต่คำสาปประจำตระกูล ที่บอกไว้ว่าหวังเป่าเล่อจะต้องตาย หากเขาไม่ผอมลงก่อนอายุสามสิบปี ในเมื่อบรรพบุรุษร่างจ้ำม่ำมายืนรอให้เขาไปอยู่ด้วยขนาดนี้ ชายหนุ่มจึงต้องทั้งฝึกตนและลดน้ำหนักไปพร้อมๆ กัน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท