หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting – บทที่ 1174 ผู้หญิง?

บทที่ 1174 ผู้หญิง?

“ที่แท้…นั่นก็คือตะปูไม้!” หวังหวังเป่านิ่งเงียบ ไม่นานก็ถอนหายใจเบาๆ แม้จะยังไม่อาจสงบสติอารมณ์ได้ในขณะนี้ อีกทั้งยังได้เห็นเรื่องบางอย่างที่เขาอยากรู้มาตลอด แต่ในใจเขาก็ยังอดรู้สึกสับสนไม่ได้

ความสับสนนี้มาจาก…ต้นกำเนิดของตนเอง

“ข้าคือตะปูหรือ” หวังเป่าเล่อรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย แต่โชคดีที่ความคิดนี้ถูกระงับไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ร่าง 108 ร่างในภาพที่เขาเคยเห็นจะผุดขึ้นในหัว

“ทุกร่างล้วนไม่อาจหยั่งรู้ได้ ฐานการฝึกฝนเหนือกว่าที่ข้าคิดไว้…ไม่รู้ว่ามันคือระดับใด แล้วยังมีโลกบรรจุอยู่ในร่างเหล่านั้นอีก” หวังเป่าเล่อพึมพำในใจ จากนั้นร่างขนาดมหึมาหาใดเปรียบราวกับจะสามารถสยบทุกสิ่งได้เหนือร่างทั้ง 108 ร่างก็ผุดขึ้นในหัว!

ความครอบงำนั้น ทั้งยังมีพลังปราณของจักรพรรดิทำให้หวังเป่าเล่อมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว

“จักรพรรดิ…” หวังเป่าเล่อเผยดวงตาล้ำลึก เขายืนยันได้เจ็ดถึงแปดส่วนแล้วว่าร่างของจักรพรรดิผู้นั้นก็คือจักรพรรดิในตำนาน และสถานที่ที่เขาและร่าง 108 ร่างนั้นอยู่ก็คงจะเป็น…จักรพิภพเต๋าไม่รู้สิ้นที่แท้จริง

“โลกศิลาที่ข้าอยู่เป็นเพียงที่ที่ร่างแยกของจักรพรรดิถือกำเนิดเท่านั้น” เรื่องนี้หวังเป่าเล่อทราบแล้ว เขาก็เข้าใจกระจ่างขึ้นไปอีกว่าหากไม่ใช่การมาถึงของเซียนโบราณ หากไม่ใช่ผนึกกับดักที่แปลงมาจากมือหลัวเทียน จักรพิภพย่อยไม่รู้สิ้นในตอนนั้นคงจะกลับมานานแล้ว

เป็นเพราะผนึกกับดักของมือหลัวเทียนที่ก่อตัวเป็นเหตุผลทำให้จักรพิภพย่อยไม่รู้สิ้นราวกับถูกตัดขาดจากจักรพิภพหลัก และยังมีการปราบปรามจากสำนักแห่งความมืดในฐานะทูต เมื่อเริ่มต้นใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่าก็อ่อนแอลง อีกทั้งการกวาดล้างร่องรอยของไม่รู้สิ้นก็ทำให้ผนึกกับดักนี้ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น

แท้จริงแล้วหากไม่ใช่เพราะหลัวเทียนเกิดปัญหา ตระกูลไม่รู้สิ้นในโลกศิลาก็ไม่มีโอกาสฟื้นคืนชีพ แม้ว่า…เป้าหมายของหลัวเทียนจะไม่ได้มุ่งไปที่จักรพรรดิ แต่มุ่งไปที่ผนึกเซียนโบราณ ทว่าสุดท้ายก็เพราะเหตุนี้…ถึงได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับจักรพรรดิที่น่าสะพรึงกลัวผู้นั้น

ทั้งสองคนผู้ใดแข็งแกร่งกว่า หวังเป่าเล่อไม่อาจรู้ได้ แต่เขารู้ว่า…หลัวเทียนดับสิ้นไปแล้ว การเปรียบเทียบนี้จึงไม่มีความหมายอีก ที่เขาสนใจยิ่งกว่าคือตะปูไม้สีดำบนหว่างคิ้วจักรพรรดิ!

ตะปูไม้สีดำนั้นมาจากไหน ทำไมจักรพิภพย่อยไม่รู้สิ้นถึงสามารถเรียกมันออกมาได้…

หวังเป่าเล่อหรี่ตา หลังจากครุ่นคิด ในหัวก็ค่อยๆ เกิดการคาดเดาอันบ้าบิ่น

“เป็นไปได้ไหมว่าสาเหตุที่จักรพรรดิกระจายวิญญาณสารัตถะออกมาจำนวนมากและรวบรวมร่างแยกกลับไป จุดประสงค์…ก็คือเพื่อต่อสู้กับตะปูไม้สีดำตรงหว่างคิ้วของเขา จึงได้มีเสียงเพรียกจากจักรพิภพย่อย ภาพที่ตะปูไม้สีดำปรากฏขึ้นนั้นบางทีอาจเป็น…การช่วยตัวเองอย่างหนึ่ง?” หวังเป่าเล่อรู้สึกปวดหัว ข้อมูลที่เขารู้น้อยเกินไป สิ่งที่เขาคิดจึงเป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น ไม่สามารถยืนยันความจริงได้

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น สำหรับหวังเป่าเล่อในตอนนี้ก็เพียงพอแล้ว

เขาสัมผัสได้ลึกๆ ว่าโลกใบนี้หรือจะเรียกว่าจักรวาลแห่งนี้ หรือจะเรียกว่าจักรพิภพเต๋าไม่รู้สิ้นที่แท้จริง ความลับทั้งหมดกำลังค่อยๆ เปิดเผยให้เขารู้

หากเส้นทางของเขาสามารถดำเนินต่อไปได้ หากเต๋าของเขายังสมบูรณ์ต่อไปได้ สักวันหนึ่งเขาก็จะได้รู้ความจริงทั้งหมด เข้าใจคำตอบทั้งหมด…และหาต้นกำเนิดของตนเจอ!

“ถึงต้นกำเนิดจะสำคัญ แต่ที่สำคัญยิ่งกว่าคือ…ข้าอยากมีชีวิตอยู่ด้วยตัวเอง!” ดวงตาที่หรี่ลงของหวังเป่าเล่อระเบิดแสงแรงกล้า หลังจากปัดความคิดทั้งหมดออกไปได้แล้ว เขาก็สัมผัสถึงการเก็บเกี่ยวของวิญญาณเทพ

วิญญาณเทพมาถึงขีดสุดของระดับดารานิรันดร์ชั้นมหาวัฏจักรแล้วเหมือนกับกายเนื้อ ทั้งสองอย่างเรียกได้ว่าเป็นระดับกึ่งจักรพิภพ ต่างไปถึงหนึ่งร้อยก้าวแล้ว!

รากฐานอันล้ำลึกเช่นนี้ ในจักรพิภพเต๋าไม่รู้สิ้นทั้งหมด ในตระกูลหมื่นสำนักนับแต่อดีตจนถึงปัจจุบันก็เพียงพอที่จะเรียกได้ว่าหาตัวจับยาก

ทั้งสามด้านมาถึงขีดสุด จนถึงตอนนี้ยังไม่เคยปรากฏมาก่อน

แค่ถึงขีดสุดในด้านเดียวก็สามารถกลายเป็นมหาศิษย์แห่งเต๋าชั้นยอดของกองกำลังแรกได้แล้ว ถึงขีดสุดสองด้านเรียกได้ว่าปาฏิหาริย์ หากคนนอกได้รู้เข้าย่อมสะเทือนไปทั้งจักรพิภพเต๋าไม่รู้สิ้นเป็นแน่

แล้วถึงขีดสุดถึงสามด้าน…นั่นเป็นเพียงตำนานเท่านั้น!

โดยเฉพาะหลังจากวิญญาณเทพถึงขีดจำกัดหนึ่งร้อยก้าวดารานิรันดร์ ความรู้สึกที่สามารถฝ่าฟันและควบคุมกฏต่างๆ ได้ตลอดเวลา ทำให้หวังเป่าเล่อสงบใจลงได้ไม่น้อย แม้ฐานการฝึกฝนจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงมาก แต่การพัฒนาของวิญญาณเทพกับกายเนื้อ เขาก็สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าแม้จะไม่มีโอกาสหรือแม้กระทั่งไม่ได้ฝึกฝนถึงสิบปี ฐานการฝึกฝนของเขาก็จะก้าวหน้าได้ด้วยตัวมันเอง

“แต่ก็ยังช้าไปหน่อย” ดวงตาหวังเป่าเล่อเผยแววดื้อรั้น ก่อนจะเงยหน้ามองรอบๆ

สิ่งแรกที่เขาเห็นคือรูปปั้นสีแดงที่เต็มไปด้วยรอยแตกร้าว หลังจากหวังเป่าเล่อมองมัน สีหน้าของเขาก็แปลกไป อารมณ์ในใจท่วมท้นและแอบขอบคุณสตรีชุดแดงผู้นั้น หากไม่ใช่เพราะอีกฝ่าย วันนี้เขาคงไม่ได้เข้าใจความจริงมากมาย

ขณะเดียวกันเขาก็เห็นหุ่นกระบอกที่ถูกสตรีชุดแดงทิ้งไป เหล่านั้นล้วนเป็นผู้ฝึกตนสำนักแห่งความมืดที่เข้ามาที่นี่ทั้งสิ้น แต่ไม่ใช่ทั้งหมด

ผู้เยี่ยมยุทธ์จักรพิภพห้าถึงหกคนไม่ได้อยู่ในนั้น แม้จะมีความเป็นไปได้ว่าพวกเขาจะตายแล้ว แต่ก็เป็นไปได้ว่าพวกเขาจะใช้วิธีการบางอย่างหนีออกจากที่นี่และเข้าสู่ระดับถัดไปแล้ว

ส่วนเหล่ากึ่งบุตรแห่งความมืดส่วนใหญ่ก็กลายเป็นหุ่นกระบอกอยู่ตรงนี้ หวังเป่าเล่อกวาดตามองและสัมผัสได้ถึงความมีชีวิตชีวาและจิตใต้สำนึกบนร่างพวกเขากำลังค่อยๆ ฟื้นคืนกลับมา

เขากำลังจะถอนสายตากลับ แต่พริบตานั้นก็ต้องอุทานเสียงเบา นัยน์ตาเป็นประกายหันไปมองเหล่ากึ่งบุตรแห่งความมืดอีกครั้ง เขาเห็นเด็กหนุ่มที่เคยมายั่วยุตน และเห็น…ร่างสวมหน้ากากอยู่ด้านข้าง!

“เจ้านี่ก็ติดอยู่ที่นี่ด้วยหรือ” หวังเป่าเล่อประหลาดใจเล็กน้อย ร่างสวมหน้ากากนั้นคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาบุตรแห่งความมืด ตามความเข้าใจของหวังเป่าเล่อ อีกฝ่ายควรจะต้องมีเคล็ดวิชาบางอย่างช่วยให้ตนไม่ติดอยู่ที่นี่สิถึงจะถูก

ในไม่ช้าหวังเป่าเล่อก็หรี่ตาลงอย่างรวดเร็ว เพราะเขาพบว่ากึ่งบุตรแห่งความมืดในที่แห่งนี้หายไปสองคน…

หนึ่งคือสตรีที่เก็บซ่อนพลังแท้จริงตอนขยายความลึกก่อนหน้า!

สองคือคนที่หวังเป่าเล่อแทบจะไม่เคยใส่ใจเลยด้วยซ้ำ แม้จะนึกย้อนกลับไป กึ่งบุตรแห่งความมืดที่หายไปคนนี้ก็ไม่ได้สร้างความประทับใจอะไรยิ่งใหญ่ เขาจำได้แค่ว่าอีกฝ่ายดูเหมือนจะเป็นผู้ฝึกตนวัยกลางคน อย่างอื่นดูเลือนรางไปหมด

“หืม” เรื่องนี้ทำให้หวังเป่าเล่อแปลกใจ หลังจากครุ่นคิดเขาก็ขยับร่างไปยังหุ่นกระบอกสวมหน้ากากที่กำลังจะตื่น มองหุ่นกระบอกที่กำลังกลายเป็นเลือดเนื้ออย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงยกมือจับหน้ากากบนใบหน้าของผู้ฝึกตนออกแล้วกวาดตามอง

“ผู้หญิง?” เขาผงะไปชั่วครู่ ไม่ได้คาดคิดว่านี่จะกลับตาลปัตรกับภายนอกที่เห็น กระจ่างชัดแล้วว่าบุตรแห่งความมืดที่แข็งแกร่งที่สุดซึ่งได้รับการยอมรับจากทุกคนในสำนักแห่งความมืด ไม่ใช่ผู้ชายอย่างที่แสดงให้เห็นภายนอก

ใบหน้านี้…เป็นสตรีที่ดูอ่อนโยน

“ไม่น่าใช่กระมัง หรือว่าแค่หน้าตาเหมือนผู้หญิงกัน” หวังเป่าเล่ออยากรู้ เขาอยากรู้จริงๆ…จึงก้มหน้ามองเรือนร่างของผู้ฝึกตนที่ถูกถอดหน้ากากออกแล้ว Aileen-novel

อดที่จะก้มตัวลงไปมองสำรวจอย่างละเอียดถี่ถ้วนไม่ได้ กระนั้น ก็ไม่ได้ใช้มือ แต่ก็ยืนยันได้แล้วว่า…อีกฝ่ายเป็นสตรี แต่ก็ยังไม่มั่นใจเต็มร้อย

“ไม่สิ…” หวังเป่าเล่อขมวดคิ้วมุ่น การคาดเดามากมายผุดขึ้นในหัวเขาคิดว่าบางทีคนผู้นี้อาจถูกเข้าใจผิด บุตรแห่งความมืดที่แข็งแกร่งแท้จริงแล้วคือคนอื่น

หรือไม่ก็คนผู้นี้ไม่ใช่ผู้ฝึกตนที่เขาเคยเห็นตอนอยู่ด้านนอก แต่ถูกสลับตัวเมื่อเข้ามาในนี้

หรือไม่ก็พลังเทพของสตรีชุดแดงทำให้ผู้ฝึกตนบางส่วนเปลี่ยนไป…การคาดเดาไหลผ่านความคิดหวังเป่าเล่อไป เขารีบใส่หน้ากากกลับเข้าไปตามเดิม ดวงตาเผยแววครุ่นคิด ก่อนจะวาบร่างออกมายังปากทางเข้าหน้ารูปปั้นสีแดง ข่มกลั้นการคาดเดาทั้งหมดแล้วก้าวเข้าไป!

“คิดมากไปก็ไร้ประโยชน์ รีบช่วยศิษย์พี่นำซากจักรพรรดิแห่งความมืดกลับไปให้เร็วที่สุดดีกว่า!” ดวงตาหวังเป่าเล่อเปล่งประกาย ร่างหายวับไปเข้าไปด้านในทันที

……………………………………

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting

Status: Ongoing

เรื่อง : หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา (三寸人间)ผู้เขียน : เอ่อร์เกิน (耳根) ผู้แปล : Thunderbird Translators ค.ศ. 3029 วิทยาการบนโลกมนุษย์พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแต่ละประเทศไม่มีเขตพรมแดนกั้นอีกต่อไป โลกได้ผสานรวมกลายเป็นหนึ่งเดียว เริ่มต้นยุคสมัยแห่งสหพันธรัฐ ตอนนั้นเอง กระบี่ยักษ์เล่มหนึ่งตกลงมาจากห้วงอวกาศ ปักเข้าใจกลาง ดวงอาทิตย์ ฝักกระบี่แตกออกเป็นเศษชิ้นส่วนจำนวนมาก กระจัดกระจายไปทั่ว ทั้งจักรวาลรวมถึงบนโลก และก่อให้เกิดแหล่งพลังงานรูปแบบใหม่อันไร้ขีดจำกัด พลังงานนี้มีชื่อเรียกกันว่า ปราณวิญญาณ ‘หวังเป่าเล่อ’ หนุ่มร่างท้วมผู้ทะเยอทะยาน ใฝ่ฝันจะได้เป็นผู้นำสหพันธรัฐ ด้วยหวังว่าจะไม่มีใครมารังแกเขาได้อีกต่อไป และเมื่อเดินทางเข้ามาศึกษาใน สำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ใช้ความรู้เหล่านั้นบวกกับความหน้าหนาหน้าทน ของตัวเอง วางกลยุทธ์อันฉลาดล้ำกำราบศัตรูคนแล้วคนเล่า ใครหน้าไหนก็ไม่อาจมาขัดขวางเส้นทางสู่การเป็นหนึ่งในใต้หล้าของชายอ้วนผู้นี้ได้ เว้นเสียแต่คำสาปประจำตระกูล ที่บอกไว้ว่าหวังเป่าเล่อจะต้องตาย หากเขาไม่ผอมลงก่อนอายุสามสิบปี ในเมื่อบรรพบุรุษร่างจ้ำม่ำมายืนรอให้เขาไปอยู่ด้วยขนาดนี้ ชายหนุ่มจึงต้องทั้งฝึกตนและลดน้ำหนักไปพร้อมๆ กัน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท