หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting – บทที่ 1156 แผนของเฉินชิงจื่อ!

บทที่ 1156 แผนของเฉินชิงจื่อ!

เฉินชิงจื่อหัวเราะพลางสะบัดแขนเสื้อ ทันใดนั้นพลังมหาศาลก็ม้วนตัวหวังเป่าเล่อไปยังจุดที่เดือนแยกอยู่ ในพริบตาหวังเป่าเล่อก็มายืนอยู่ด้านหลังจักรพรรดิสวรรค์เดือนแยก!

ตรงนี้แม้แรงกดดันจากเดือนแยกจะน่าหวาดหวั่น แต่ก็เป็นจุดที่ปลอดภัยที่สุด โดยเฉพาะเมื่อถูกพลิกกลับ บนร่างจักรพรรดิสวรรค์เดือนแยกแผ่กฎแตกกระจายของเขาออกมาอย่างต่อเนื่อง

แต่กฎเหล่านี้ดีต่อฝักกระบี่เจ้าชะตาของหวังเป่าเล่ออย่างยิ่ง!

ขณะเดียวกันยังมีไอมรณะจำนวนมากที่สลายไป หวังเป่าเล่อกลั้นหายใจ จ้องมองจักรพรรดิสวรรค์ผู้นี้ถูกพลิกกลับ

สำหรับเขา นี่คือชะตาที่ใหญ่ที่สุด หากเขาได้มันมา วิญญาณเทพและฐานการฝึกฝนจะต้องเพิ่มขึ้นแน่!

จนถึงตอนนี้หวังเป่าเล่อพอจะเข้าใจแผนของศิษย์พี่เฉินชิงจื่อแล้ว!

เขากำลังตกปลาและมันก็คือเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้น และจุดประสงค์คือใช้เต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นเป็นสารอาหารให้เต๋าสวรรค์สำนักแห่งความมืด ซึ่งทำให้…เต๋าสวรรค์สำนักแห่งความมืดสูงขึ้น ถูกยกระดับจนมันยืนตระหง่านอยู่ในจู๋ชิงกลางจักรพิภพเต๋าไม่รู้สิ้น

แบบนี้ก็จะเท่ากับในจักรพิภพเต๋าไม่รู้สิ้นมีเต๋าสวรรค์สองตัวอยู่ร่วมกัน!

หากทำสำเร็จจริง ก็จะหมายความว่ากฎของสำนักแห่งความมืดจะไม่ถูกสยบไว้เหมือนที่เป็นมาอีกต่อไป และเหล่าชนรุ่นหลังของสำนักแห่งความมืดที่ซ่อนตัวอยู่ก็จะสามารถปรากฏตัวได้อีกครั้งโดยมีเต๋าสวรรค์คุ้มครอง!

แม้จะยังไม่นับว่าเป็นคู่ต่อสู้ของตระกูลไม่รู้สิ้น แต่ตราบใดที่เต๋าสวรรค์ไม่ดับสิ้น สำนักแห่งความมืดก็จะไม่สลายไป และหากคิดจะทำลายเต๋าสวรรค์สำนักแห่งความมืดที่ผสานเข้ากับเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นก็ไม่ใช่เรื่องที่สามารถทำได้โดยง่าย

แผนการนี้ทำให้จิตใจหวังเป่าเล่อสั่นสะท้าน เขาไม่คาดคิดว่าความคิดของศิษย์พี่จะบ้าคลั่งได้ขนาดนี้ เพราะเห็นได้ชัดว่า หากคิดจะทำให้เต๋าสวรรค์สำนักแห่งความมืดกลายเป็นหนึ่งในเต๋าสวรรค์ของจักรพิภพแห่งนี้แล้ว นอกจากดูดซับพลังของเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นแล้ว ยังต้องมีเคล็ดวิชายกเต๋าสวรรค์สำนักแห่งความมืดขึ้นจมดิ่งสู่ความว่างเปล่า

เรื่องนี้ก็ทำได้ยากมากเช่นกัน ถึงได้มีการ…พลิกจักรพรรดิสวรรค์เดือนแยก!

ใช้การสังเวยจักรพรรดิสวรรค์เพื่อแลกกับการยกเต๋าสวรรค์สำนักแห่งความมืด!

หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป จะต้องเขย่าขวัญผู้คนจนสะเทือนไปทั่วทั้งจักรพิภพเต๋าไม่รู้สิ้นเป็นแน่ โดยเฉพาะจากการวิเคราะห์ของหวังเป่าเล่อในตอนนี้ ศิษย์พี่ของตนคิดจะพลิกเดือนแยกก่อน ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นทำให้มันเกิดช่องโหว่ จากนั้นก็จะสังเวยเดือนแยกที่ถูกพลิกกลับเพื่อยกระดับเต๋าสรรค์

“เยี่ยมไปเลย!” หวังเป่าเล่อหายใจถี่ขึ้นเล็กน้อย ชั่วขณะหนึ่งเขาไม่เชื่อว่าทั้งหมดนี้เป็นความคิดของศิษย์พี่ จนกระทั่งย้อนคิดกลับไป เขาก็รู้สึกว่า…หรือบางทีนี่อาจเป็นแผนการที่ศิษย์พี่เริ่มทำมานานแล้ว!

ค่อยๆ ทำให้ตระกูลไม่รู้สิ้นอ่อนแอลงเรื่อยๆ จากนั้นจึงมอบโอกาสให้เดือนแยกมารับช่วงต่อแล้วแว้งกัดแต่ไม่สังหารทิ้ง จากนั้นจึงค่อยๆ ดึงดูดความสนใจจากทุกฝ่ายจนกระทั่งตระกูลไม่รู้สิ้นมาช่วยและเต๋าสวรรค์จุติ

“เช่นนั้น…บางทีตอนนี้ผู้ที่ซ่อนตัวอยู่ที่โลกภายนอกคงจะมี…ผู้ฝึกตนสำนักแห่งความมืดด้วย!” หวังเป่าเล่อหรี่ตา เขาคิดว่าการสันนิษฐานข้อนี้น่าจะเป็นจริงแปดถึงเก้าส่วน

แต่ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็ใหญ่เกินไปสำหรับสำนักแห่งความมืด แม้ศิษย์พี่จะมั่นใจ หากแต่ที่นี่ก็คือจักรพิภพเต๋าไม่รู้สิ้นจึงจำเป็นต้องมีการเตรียมการสำรองไว้

หวังเป่าเล่อคิดถึงตรงนี้ก็ได้ยินเสียงคำรามดังมาจากเดือนแยกที่ถูกพลิกกลับ ความคิดถูกขัดจังหวะ ขณะที่ดวงตาเผยแสงเปล่งประกาย บนท้องฟ้าด้วงเกราะสีทองที่แปลงมาจากเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นก็แผดเสียงคำรามโกรธเกรี้ยวถึงขีดสุดและปลดปล่อยพลังแห่งเต๋าสวรรค์ออกมาจำนวนมากเพื่อขัดขวางไม่ให้เดือนแยกถูกพลิกกลับ

ในเวลาเดียวกันนั้นเองด้านหลังด้วงเกราะสีทองก็เกิดท้องฟ้าบิดเบี้ยวจนเผยให้เห็นร่างสูงใหญ่ร่างหนึ่ง ร่างนั้น…ก็คือจักรพรรดิสวรรค์เสวียนหัว เขายืนจ้องเฉินชิงจื่อจากตรงนั้น

“เฉินชิงจื่อ!”

“ตระกูลไม่รู้สิ้นของข้าดีต่อเจ้าแล้วเหตุใดเจ้าถึงทำเช่นนี้!” เสวียนหัวเอ่ยช้าๆ แต่น้ำเสียงกลับดังสะเทือนราวกับฟ้าร้องไปทั่วทุกสารทิศ จักรวาลสั่นสะเทือนราวกับสร้างกฎบังคับใช้ มันก่อตัวขึ้นมาเป็นพลังแห่งกฎจักรวาลและกลายเป็นเส้นไหมพันธนาการร่างของเฉินชิงจื่อเอาไว้ ไอลีนโนเวล

อีกทั้งยังทำให้เต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นราวกับได้พลังเสริม พลังปราณสูงขึ้นทำให้เดือนแยกที่ดูเหมือนจะไม่สามารถพลิกกลับมาได้ตัวสั่นเทิ้ม การพลิกนั้นค่อยๆ หยุดลงราวกับมันกำลังจะย้อนกลับ!

“เคยกระทำผิดและอยากกลับใจก็เท่านั้น” เฉินชิงจื่อถอนหายใจเสียงเบา หลังจากยิ้มเยาะกับตัวเองแล้วก็ยกเหล้าขึ้นมาดื่มอึกใหญ่ จากนั้นก็ผนึกมุทรา ทันใดนั้นกระบี่ไม้ข้างกายพลันเปล่งแสงเจิดจ้าก่อตัวเป็นแสงกระบี่ที่ดูราวกับจะฉีกจักรวาลได้ ก่อนที่มันจะพุ่งเข้าใส่เสวียนหัวพร้อมกับเสียงคำรามราวกับอัสนีบาต

ขณะเดียวกันเสียงหัวเราะของเฉินชิงจื่อก็ดังขึ้นเรื่อยๆ ร่างของเขาเหยียบไปบนความว่างเปล่าทีละก้าว

“เมื่อสวรรค์และพื้นพิภพแยกจากกัน กงล้อแห่งโชคชะตาหยุดนิ่ง…”

“ครั้นได้รับรู้สิ่งที่บังเกิดในอดีต เขาผู้ซึ่งทนทุกข์นั้น…”

“ครั้นได้รับรู้สิ่งที่จะเกิดในอนาคต เขาผู้ซึ่งทำงานหนักนั้น…” บทกวีแห่งความมืดเก่าแก่ดังออกมาจากปากเฉินชิงจื่อ เสียงหัวเราะของเขาทำให้หวังเป่าเล่อสับสนอยู่ครู่หนึ่ง นั่นคือเสียงหัวเราะหรือเสียงร้องไห้กันแน่

เขาเห็นเพียงแผ่นหลังของเฉินชิงจื่อที่ก้าวออกไปด้านนอกเตาหลอมที่เสวียนหัวยืนอยู่ทีละก้าว พร้อมกับเอ่ยบทกวี

พริบตาต่อมาบทกวียังคงดังกังวาน และเฉินชิงจื่อก็ออกไปด้านนอกเตาหลอมแล้ว ที่ด้านนอกเตาหลอม กระบี่เล่มหนึ่งตกลงมา ทั่วทั้งจักรวาลสีเทาพลันเกิดเสียงระเบิดราวกับถูกสับแยกจากกัน

เสวียนหัวถอยร่น ใบหน้าบิดเบี้ยว ก่อนจะตีหน้าเคร่งขรึมและเอ่ยเสียงต่ำ

“เฉินชิงจื่อ การล่มสลายของสำนักแห่งความมืดเป็นเรื่องที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และเรื่องการกลับมาของไม่รู้สิ้น เจ้าก็รู้อยู่แก่ใจว่าไม่อาจย้อนกลับได้!” เฉินชิงจื่อหยิบเหล้าขึ้นมาดื่มอีกครั้ง จากนั้นจึงสะบัดศีรษะ นัยน์ตาฉายแววบ้าคลั่ง

“หนวกหู!” เฉินชิงจื่อหัวเราะเสียงยาว ก่อนจะส่งกระบี่ไปทางเสวียนหัวอีกครั้ง!

จักรวาลสั่นสะเทือนไปทั่วทิศ ยามนี้ผู้ฝึกตนตระกูลหมื่นสำนักต่างถอยหนี พวกเขาเห็นแสงกระบี่ เห็นจักรพรรดิสวรรค์เสวียนหัวที่เผยร่างแท้ไม่รู้สิ้นอยู่ตรงหน้าแสงกระบี่ และยังเห็น…ผู้ที่ก้าวเข้ามาทีละก้าวด้านหลังแสงกระบี่นั้น…เฉินชิงจื่อ!

ชุดคลุมโบกสะบัด เสื้อผ้าสีครามทั้งกาย น้ำเต้าสุรา!

แม้เฉินชิงจื่อจะไม่ใช่สตรี แต่ก็สามารถใช้คำว่าดาวจรัสแสงมาบรรยายได้!

ท่ามกลางเสียงคำราม สงครามพลันปะทุ!

ในตอนนี้สงครามปะทุขึ้นที่โลกภายนอก ด้านในเตาหลอมชะตาของหวังเป่าเล่อพลันเปิดออก เมื่อเสวียนหัวถูกขัดขวาง และพลังเสริมของเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นหายไป การพลิกกลับร่างเดือนแยกจึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง

แม้จะเชื่องช้า ทว่ากลับต่อเนื่อง ขณะนั้นเองกระแสเต๋าที่แผ่ออกมาจากร่างเดือนแยกก็ถูกหวังเป่าเล่อดูดซับอย่างรวดเร็ว อีกทั้งกฎแตกกระจายเหล่านั้นก็พุ่งตรงมาที่ฝักกระบี่เจ้าชะตาของหวังเป่า

ยิ่งกว่านั้นในระหว่างกระบวนการนี้ยังมีพลังจากเต๋าสวรรค์ไม่รู้สิ้นซึ่งเดิมเป็นพลังเสริมให้เดือนแยก แต่เพราะตำแหน่งและการดูดซับของหวังเป่าเล่อมันจึงถูกดึงออกไปบางส่วน

ในชั่วพริบตาร่างของหวังเป่าเล่อก็ส่งเสียงคำราม วิญญาณเทพของเขา ฐานการฝึกฝนของเขา และพลังแห่งกายเนื้อพลันระเบิดและพุ่งสูงขึ้นพร้อมกัน!

การบ่มเพาะเช่นนี้เรียกได้ว่าเหนือกว่าชะตาทั่วไป เพราะปกติแล้วไม่มีชะตาใดที่สามารถเทียบกับกระแสเต๋าที่แผ่ออกมาจากการพลิกกลับของจักรพรรดิสวรรค์ผู้หนึ่งได้

และไม่มีชะตาใดที่จะสำคัญไปกว่าพลังของกฎที่เต๋าสวรรค์ทั้งสองกำลังต่อสู้กันเองแผ่ออกมาแล้ว

การต่อสู้ที่มองไม่เห็นระหว่างพวกมันไม่เหมือนกับการปะทะกันของกฎและกฎหมาย และหวังเป่าเล่อซึ่งเป็นคนเดียวที่อยู่ใกล้ ในขณะนี้จึงได้ดูดซับและเรียนรู้กฎในระดับที่น่าเหลือเชื่อเลยทีเดียว

ดังนั้นในช่วงเวลาอันสั้น ดวงวิญญาณเทพของเขาจึงขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของระดับดารานิรันดร์ชั้นปลาย ส่วนฐานการฝึกฝนก็ก้าวกระโดดจากดารานิรันดร์ชั้นกลางเข้าใกล้จุดสูงสุดของขั้นกลางมากขึ้นเรื่อยๆ

ขณะที่ฐานการฝึกฝนและดวงวิญญาณเทพเพิ่มขึ้น แม้ว่ามันจะนำมาซึ่งการเติบโตและความยิ่งใหญ่ของพลังอมตะในร่าง กระทั่งตอนนี้ด้านหลังของเขายังมีดาวเคราะห์เต๋าลอยเด่นและกึ่งเต๋าเก้าดวงก็แปลงเป็นดาวพิเศษนับหมื่น

ยิ่งกว่านั้นด้านหลังแผนที่ดวงดาวยังปรากฏร่างในชาติก่อนของหวังเป่าเล่อและกำลังดูดซับ ท้ายที่สุด…แผ่นไม้สีดำลวงตาแผ่นหนึ่งก็ปรากฏขึ้นเลือนราง!

“ครั้งนี้ดวงวิญญาณเทพ ฐานการฝึกฝน กายเนื้อของข้าจะต้องก้าวไปสู่ระดับจักรพิภพได้แน่ ทั้งสามอย่างก้าวเข้าไป… หากไม่ได้อย่างน้อยก็ควรจะมีสองอย่างที่ก้าวเข้าไปได้!” ดวงตาหวังเป่าเล่อฉายแววดื้อดึง เขาดูดซับอย่างบ้าคลั่งท่ามกลางการบ่มเพาะที่หาได้ยากครั้งนี้

………………………………………………

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting

Status: Ongoing

เรื่อง : หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา (三寸人间)ผู้เขียน : เอ่อร์เกิน (耳根) ผู้แปล : Thunderbird Translators ค.ศ. 3029 วิทยาการบนโลกมนุษย์พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแต่ละประเทศไม่มีเขตพรมแดนกั้นอีกต่อไป โลกได้ผสานรวมกลายเป็นหนึ่งเดียว เริ่มต้นยุคสมัยแห่งสหพันธรัฐ ตอนนั้นเอง กระบี่ยักษ์เล่มหนึ่งตกลงมาจากห้วงอวกาศ ปักเข้าใจกลาง ดวงอาทิตย์ ฝักกระบี่แตกออกเป็นเศษชิ้นส่วนจำนวนมาก กระจัดกระจายไปทั่ว ทั้งจักรวาลรวมถึงบนโลก และก่อให้เกิดแหล่งพลังงานรูปแบบใหม่อันไร้ขีดจำกัด พลังงานนี้มีชื่อเรียกกันว่า ปราณวิญญาณ ‘หวังเป่าเล่อ’ หนุ่มร่างท้วมผู้ทะเยอทะยาน ใฝ่ฝันจะได้เป็นผู้นำสหพันธรัฐ ด้วยหวังว่าจะไม่มีใครมารังแกเขาได้อีกต่อไป และเมื่อเดินทางเข้ามาศึกษาใน สำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ใช้ความรู้เหล่านั้นบวกกับความหน้าหนาหน้าทน ของตัวเอง วางกลยุทธ์อันฉลาดล้ำกำราบศัตรูคนแล้วคนเล่า ใครหน้าไหนก็ไม่อาจมาขัดขวางเส้นทางสู่การเป็นหนึ่งในใต้หล้าของชายอ้วนผู้นี้ได้ เว้นเสียแต่คำสาปประจำตระกูล ที่บอกไว้ว่าหวังเป่าเล่อจะต้องตาย หากเขาไม่ผอมลงก่อนอายุสามสิบปี ในเมื่อบรรพบุรุษร่างจ้ำม่ำมายืนรอให้เขาไปอยู่ด้วยขนาดนี้ ชายหนุ่มจึงต้องทั้งฝึกตนและลดน้ำหนักไปพร้อมๆ กัน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท