ตอนที่ 379 สังสารวัฏหกวิถีพังทลาย พวกเรากลับบ้านกัน!
ตู้ม! ตู้ม! ครืน!
ตามคำสั่งของราชันวิญญาณปัญจทิศ ยมโลกทั้งหมดตกอยู่ในจลาจลอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ทหารและขุนพลผีที่น่ากลัวจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าหาหนิงฝานราวกับกระแสน้ำอนธการ และขณะเดียวกัน วิญญาณอาฆาตไม่รู้จบก็ผุดออกมาจากยมโลกทุกซอกทุกมุม มันกลายเป็นกระแสปราณภูตผีกวาดไปทั่ว
คลุ้มคลั่ง!
สับสน!
หวาดกลัว!
ในเวลาเดียวกัน ราชันวิญญาณปัญจทิศก็ตกอยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง!
สังสารวัฏหกวิถีเป็นรากฐานของยมโลก หากมันพังทลาย ยมโลกจะไม่เหลืออะไรนอกจากชื่อ
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ในพริบตา ราชันวิญญาณปัญจทิศโคจรพลังราชันจักรพรรดิออกมาอีกครั้ง ก่อนจะพุ่งเข้าไปสังหารราชันจักรพรรดิเซียนทั้งหลาย
“หึ! วันนี้มีเราอยู่ที่นี่ ยมโลกจะต้องพินาศแน่!!”
เมื่อเห็นฉากนี้ เหล่าราชันจักรพรรดิเซียนก็ตะโกนอย่างเย็นชาทันที จากนั้นก็เรียกใช้พลังราชันจักรพรรดิถึงขีดสุดล้อมสังหารราชันวิญญาณปัญจทิศไว้ทุกด้าน
ตู้ม ตู้ม ตู้ม!
สงครามราชันจักรพรรดิที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดปะทุขึ้นในพริบตา ทั้งยมโลกตกอยู่ในความพินาศ จลาจล…
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ขณะที่ราชันจักรพรรดิเซียนกำลังต่อสู้ ทหารและขุนพลผีจำนวนมากที่อยู่ด้านล่างรีบพุ่งเข้ามาหาหนิงฝานอย่างกล้าหาญและไม่เกรงกลัว แม้จะไม่มีราชันจักรพรรดิเซียนในหมู่พวกเขา แต่ก็มีกึ่งราชันจักรพรรดิจำนวนมาก
และคนที่พุ่งตัวออกไปคืออ๋องทั้งห้าที่เหลืออยู่!
“หนิงฝาน ไปตายซะ!!”
อ๋องทั้งห้าเป็นผู้นำ และข้างหลังพวกเขามีขุนพลผีกึ่งราชันจักรพรรดิจำนวนมาก ซึ่งทุกคนมาเพื่อสังหารหนิงฝาน
เมื่อเห็นเช่นนี้ หนิงฝานไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหยุด หันกลับมาเตรียมรับการโจมตี
หึ่ง!
ทว่าตอนนี้เอง จักรพรรดิสวรรค์พุ่งออกมาจากทะเลแห่งวิญญาณอีกครั้ง “หนิงฝาน ปล่อยคนเหล่านี้ให้เป็นหน้าที่ของข้า เจ้าจงทำลายสังสารวัฏหกวิถีโดยเร็ว!”
ตู้ม!
สิ้นคำ จักรพรรดิสวรรค์ก็โจมตีออกไปอีกครั้ง แม้ว่าเขาจะใช้พลังวิญญาณไปมากในการต่อสู้กับราชันวิญญาณปัญจทิศ แต่เมื่อเขาโบกมือ ก็ยังสามารถสกัดขุนพลผีที่กำลังพุ่งเข้ามาทั้งหมดไว้ได้
“ขอบคุณ!”
เมื่อเห็นเช่นนี้ หนิงฝานจึงขอบคุณเขา จากนั้นชายหนุ่มก็ใช้เจตจำนงของตี้ลั่วฟันประตูเดรัจฉานบานสุดท้าย!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
หลังเสียงคำรามสั่นสะเทือนแผ่นดิน ประตูเดรัจฉานก็ค่อย ๆ เต็มไปด้วยรอยร้าว
จนถึงตอนนี้ ประตูของสังสารวัฏหกวิถีเต็มไปด้วยรอยร้าว ใกล้จะพังทลายเต็มทน!
“สังสารวัฏหกวิถี จงพังทลาย!!”
หนิงฝานแหงนหน้าขึ้นฟ้าพร้อมกับปล่อยเสียงคำรามกึกก้อง กระบี่ต้าหลัวในมือของเขาเพิ่มพูนเจตจำนงที่แท้จริงของตี้ลั่ว ก่อนจะฟาดฟันเข้าใส่ประตูสังสารวัฏหกวิถีที่เต็มไปด้วยรอยร้าวมากมาย
“ไม่!!”
เมื่อเห็นฉากนี้ ใบหน้าของราชันวิญญาณปัญจทิศก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง!
เหล่าราชันจักรพรรดิเซียนเลิกคิ้วขึ้นด้วยความปีติยินดี
ทุกคนรู้ว่าหากกระบี่นี้ฟาดลงไป ประตูทั้งหกของสังสารวัฏซึ่งอยู่ในยมโลกมาอย่างเนิ่นนาน จะพังทลายลง!
ตู้ม!
แน่นอนว่า ภายใต้การจับตามองของทุกคนที่นี่ กระบี่ต้าหลัวสับฟันประตูสังสารวัฏหกวิถี ณ จุดนั้น
ตู้ม!
ด้วยการฟันกระบี่นี้ลงไป ประตูสวรรค์ภูมิที่สูงตระหง่านก็ย่อยยับในพริบตา!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ทันทีหลังจากนั้น ประตูอสุรภูมิ ประตูมนุษยภูมิ ประตูนรกภูมิ ประตูเปรตภูมิ และประตูเดรัจฉานก็พังทลายลงทีละแห่ง!
สังสารวัฏหกวิถี…พังทลาย!!
ตู้ม ตู้ม ตู้ม!
เมื่อสังสารวัฏหกวิถีพังทลาย กฎเกณฑ์แห่งโทสะทั้งหกสายอันน่าสะพรึงกลัวอย่างหาที่เปรียบมิได้ก็ปะทุออกมาทันที และแผ่ซ่านไปทั่ว ไม่ว่าจะต่ำกว่ากึ่งราชันจักรพรรดิ หรือกึ่งราชันจักรพรรดิ ต่างก็ถูกกวาดออกไปจนหมด
แม้แต่กลุ่มของราชันจักรพรรดิเซียนก็ยังสั่นคลอนจากผลกระทบ!
“อ๊าก!”
“ไม่นะ!”
“มันจบแล้ว!”
“สังสารวัฏหกวิถีพังทลายลง และรากฐานยมโลกของข้า…หายไปแล้ว!!”
“มันเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร มันเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร!!”
“…”
เมื่อเห็นฉากนี้ ราชันวิญญาณปัญจทิศที่นำโดยจักรพรรดิเฟิงตูต่างก็คำรามอย่างไม่เชื่อสายตา
“ฮ่าฮ่า!”
“ดี ดีมาก!”
“สังสารวัฏหกวิถีได้พังทลายลงแล้ว จากนี้ไปยมโลกจะเหลือเพียงชื่อเท่านั้น!”
“…”
เมื่อเทียบกับราชันวิญญาณปัญจทิศที่คำรามโศกาครั้งแล้วครั้งเล่า อีกด้านเหล่าราชันจักรพรรดิเซียนต่างก็รู้สึกดีใจ!
เมื่อสังสารวัฏหกวิถีพังทลายลง ยมโลกจะสูญเสียรากฐาน และความทะเยอทะยานที่จะรวมฟ้าดินเป็นหนึ่งเดียวก็ถึงวาระล่มสลาย!
“ชิงเซียน!”
ส่วนหนิงฝานนั้น เขาเพียงต้องการค้นหาร่างของหลัวชิงเซียนทันทีที่เขาทำลายสังสารวัฏหกวิถีได้
หึ่ง! หึ่ง! หึ่ง!
ทว่าหลังจากสังสารวัฏหกวิถีพังทลาย กลับไม่มีวิญญาณปรากฏขึ้นมาตามที่หนิงฝานจินตนาการไว้ แต่ด้วยเสียงที่ดังกระหึ่ม ปราณจำนวนมากก็ลอยออกมา ราวกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดารา แต่ละแสงแต่ละดวงมีคลื่นชีวิต แต่นอกเหนือจากคลื่นชีวิตแล้วไม่มีจิตสำนึกใด ๆ ทั้งสิ้น
“นี่มันอะไรกัน!” เมื่อเห็นแสงเต็มท้องฟ้า ใบหน้าของหนิงฝานก็แข็งทื่อทันที
“ชิงเซียน!”
“ชิงเซียนของข้าอยู่ที่ใด”
“ชิงเซียน!!”
หนิงฝานตะโกนออกไป แต่แสงวิญญาณแต่ละดวงไม่มีสติ จึงไม่มีใครตอบเขา
พรึ่บ!
ตอนนี้ จักรพรรดิสวรรค์กลับไปยังทะเลวิญญาณของเขา และพูดด้วยเสียงทุ้มว่า “หนิงฝาน ถ้าข้าเดาถูก พวกนี้น่าจะเป็นวิญญาณแท้จริง!!”
“ว่ากันว่าหลังจากวิญญาณเข้าสู่สังสารวัฏ มันจะกลับสู่สถานะเริ่มต้นของชีวิต ซึ่งก็คือวิญญาณแท้จริง!”
“วิญญาณแท้จริง? สถานะเริ่มต้นของชีวิต?”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หัวใจที่ปั่นป่วนของหนิงฝานก็สงบลงเล็กน้อย
ตราบใดที่หลัวชิงเซียนยังไม่ได้กลับชาติไปเกิด หลัวชิงเซียนก็จะยังคงเป็นหลัวชิงเซียนคนเดิม
ลมหายใจต่อมา หนิงฝานค้นหาหลัวชิงเซียนท่ามกลางวิญญาณแท้จริงที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า แต่สถานะของวิญญาณแท้จริงนั้นเหมือนกันทั้งหมด มีวิญญาณแท้จริงอยู่มากมาย ทำให้หนิงฝานไม่รู้ว่าดวงไหนคือหลัวชิงเซียน
“หนิงฝาน อย่าตกใจ! อย่าลืมว่ายายเมิ่งไม่ได้ให้นางดื่มน้ำแกง แม้ว่านางจะกลายเป็นวิญญาณแท้จริง แต่นางก็ยังมีความทรงจำของตัวเอง ซึ่งแตกต่างจากวิญญาณดวงอื่นแน่นอน!”
พลันเวลานี้ จักรพรรดิสวรรค์เอ่ยปากเตือนออกมา
ใช่แล้ว!
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หนิงฝานก็ตบหน้าผากของเขา ทำให้จิตสำนึกของกึ่งราชันจักรพรรดิเซียนกระจัดกระจายไปทันที ห่อหุ้มวิญญาณแท้จริงที่นี่ทั้งหมดไว้
“สามี…สามี…”
ชั่วพริบตาเดียว หนิงฝานก็ได้ยินเสียงเรียกเบา ๆ ชายหนุ่มพุ่งเป้าไปยังวิญญาณแท้จริงหนึ่งในร้อยล้านดวงทันที
ฟึ่บ!
ด้วยการโบกมือของเขา วิญญาณแท้จริงก็ปรากฏขึ้นในมือ วิญญาณแท้จริงนั้นสั่นสะท้านในบัดดล เปล่งคลื่นแห่งชีวิตที่คุ้นเคย…คือหลัวชิงเซียน!
“ภรรยา ข้าเจอเจ้าแล้ว ในที่สุดข้าก็เจอเจ้าแล้ว!!”
เมื่อเห็นวิญญาณแท้จริงนี้ หนิงฝานก็ยิ้มอย่างมีความสุขเหมือนเด็กน้อย เดี๋ยวก็หัวเราะ เดี๋ยวก็ร้องไห้!
ก่อนจากกัน หลัวชิงเซียนยังคงมีชีวิตที่สมบูรณ์ แต่ตอนนี้เหลือวิญญาณแท้จริงเพียงดวงเดียว!
“สามี พาข้ากลับบ้าน ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่ ที่ประตูนั้นมันหนาวมาก!” วิญญาณแท้จริงของหลัวชิงเซียนกล่าว
“ได้!”
“กลับบ้านกัน!”
“พวกเรากลับบ้านกัน!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หนิงฝานก็เช็ดน้ำตา จากนั้นเขาก็ประคองวิญญาณแท้จริงของหลัวชิงเซียนอย่างระมัดระวัง ก่อนจะหันหลังและจากไป