ตอนที่ 384 ทูตผู้พิทักษ์ คุณชายจื่อเซียว!
“อ๋อ! เช่นนี้นี่เอง!”
หนิงฝานพยักหน้า
ตู้ม! ตู้ม!
ตอนนี้เอง กลิ่นอายยิ่งใหญ่สองกลุ่มพลันปรากฏขึ้นจากประตูสวรรค์ ตามมาด้วยชายชราที่ลอยลงมาก่อน เส้นผมและเคราสีขาว ดูภูมิฐานเหมือนกับเซียน ทั่วร่างแผ่ความผันผวนของระดับการฝึกฝนกึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นห้า
ด้านหลังชายชรา ตามมาด้วยชายหนุ่มชุดคลุมสีม่วง ท่วงท่าโอ่อ่า ร่างสูงโปร่ง กลิ่นอายทั่วร่างไม่ได้ด้อยไปกว่าชายชราผู้นั้น
“หืม! ทูตผู้พิทักษ์!”
เมื่อเห็นชายชราเส้นผมสีขาวผู้นี้ เหลยเหมิงตกตะลึงทันที โดยไม่รอให้หนิงฝานผู้อยู่ด้านข้างเอ่ยถาม เขาอธิบายทันทีว่า “นายท่าน นี่คือทูตผู้พิทักษ์ประตูบานที่หนึ่งของเส้นทางราชันจักรพรรดิ เส้นทางราชันจักรพรรดิมีทั้งสิ้นหนึ่งร้อยระดับ แต่ละระดับจะมีทูตผู้พิทักษ์หนึ่งคน สังกัดกับสภาผู้พิทักษ์เส้นทางราชันจักรพรรดิ รับผิดชอบเรื่องการทดสอบแต่ละระดับ ส่วนชายหนุ่มในชุดคลุมสีม่วงที่อยู่ด้านหลังนั้นไม่ทราบเหมือนกันว่าเขาเป็นใคร!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หนิงฝานเพียงพยักหน้า ไม่ถามอะไรอีก
เวลานี้ หลังจากทูตผู้พิทักษ์เหินลงมา เขาก็กล่าวเสียงดังว่า “การทดสอบในวันนี้มาถึงแล้ว ใครอยากเปิดประตูสวรรค์ให้มารวมตัวกัน!”
หลังจากกล่าวจบ ทูตผู้พิทักษ์ส่งสัญญาณให้ชายหนุ่มชุดคลุมสีม่วงที่อยู่ด้านข้าง “คุณชายจื่อเซียว รบกวนด้วย!”
ฟ้าว!
เมื่อได้ยินคำว่าคุณชายจื่อเซียว สิ่งมีชีวิตทั้งหมดตรงหน้าประตูสวรรค์ก็ตกอยู่ในความโกลาหลทันที!
“หืม! คุณชายจื่อเซียว! หรือว่าจะเป็นบุตรชายของจ้าวอาณาจักรจื่อเซียว คุณชายจื่อเซียวผู้เกิดมาพร้อมกายาเก้าตะวันม่วง?”
“ผู้ที่สามารถนำผู้พิทักษ์ด้วยตัวเองได้ จะต้องเป็นคุณชายจื่อเซียวที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานแน่นอน!”
“จุ๊ ๆ! มีข่าวลือว่าคุณชายจื่อเซียวเกิดมาเมื่อหนึ่งแสนปีก่อน เพียงแค่หนึ่งแสนปี เขาถึงกับก้าวเข้าสู่เส้นทางราชันจักรพรรดิ ดูจากกลิ่นอายแล้ว เกรงว่าคงอยู่กึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นสามหรือไม่ก็ระดับสี่นี่แหละ!”
“ใช่แล้ว! ว่ากันตามตรงแล้ว อัจฉริยะระดับนี้สามารถถูกส่งไปยังระดับสิบของเส้นทางราชันจักรพรรดิได้เลย เหตุใดคุณชายจื่อเซียวถึงมาเริ่มจากระดับหนึ่งกันล่ะ!”
“จะเหตุผลอะไรอีกล่ะ เขาคงอยากทิ้งชื่อบนรายชื่อประตูสวรรค์บานนี้ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เชยชม!”
“…”
ฟ้าว!
คุณชายจื่อเซียวคล้ายกับยินดีการต่อบทสนทนาและเสียงอึกทึกของฝูงชนอันดุเดือด ทำให้เงยหน้าขึ้นสูงทันที ก่อนจะเดินเชิดอกอย่างภาคภูมิใจ
ฟิ้ว! ฟิ้ว!
ขณะที่คุณชายจื่อเซียวก้าวออกมา อัจฉริยะมากพรสวรรค์บางส่วนที่อยากเปิดประตูสวรรค์ก่อนก็ได้มารวมตัวกันคนแล้วคนเล่า ชั่วพริบตามีผู้คนมารวมตัวกันหลายร้อยคน นอกจากไม่กี่ร้อยคนที่อยู่ขอบเขตกึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ ที่เหลือล้วนอยู่ขอบเขตจักรพรรดิขั้นสุด
หนิงฝานเองก็ก้าวออกไปเช่นกัน
ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจ เหลยเหมิงลังเลสักพัก ก่อนจะตามหลังเขามาติด ๆ ราวกับอยากร่วมด้วย!
“เจ้า?”
เมื่อเห็นหนิงฝานประหลาดใจ เหลยเหมิงก็กล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “นายท่าน ข้าหาเรื่องในระดับหนึ่งมานานเกินไป ข้าไม่ตั้งใจจะต่อสู้อีกแล้ว แต่รูปลักษณ์ของท่านทำให้ข้ารู้ว่า ไม่ว่าข้าจะอยู่ที่ไหน ข้าก็อยากทำให้เต็มที่ พลังคือสิ่งสำคัญที่สุด ดังนั้นนับจากนี้ไป ข้าคิดว่าจะติดตามนายท่าน!”
“จะก้าวสู่เส้นทางราชันจักรพรรดิหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเจ้า แต่ว่าเจ้าไม่ต้องติดตามข้าหรอก ข้าไม่ฆ่าเจ้าแล้ว!”
หนิงฝานส่ายหน้า แต่เหลยเหมิงยังคงตามหลังเขามาราวกับทหารยามผู้จงรักภักดี
ชายหนุ่มอยากพูดอะไรต่ออีกหน่อย ทว่าตอนนี้เอง ทูตผู้พิทักษ์ลูบเคราและป่าวประกาศว่า “ถึงเวลาแล้ว ทุกท่าน เริ่มทำการฝ่าทะลวงได้เลย!”
“ข้าขอลุยก่อน!”
ทันทีที่สิ้นเสียงของทูตผู้พิทักษ์ ชายไม่สวมเสื้อร่างสูงกำยำผู้ดูเหมือนกับหอคอยเหล็กก้าวออกมา พลังบ่มเพาะของเขาอยู่ขอบเขตจักรพรรดิเซียนขั้นสุด
“ชื่อของข้าคือเถียอวิ่น ข้าล้มเหลวในการฝ่าประตูสวรรค์มาแล้วเก้าครั้ง วันนี้ข้าจะต้องเปิดประตูสวรรค์ให้จงได้!”
ขณะที่ชายไม่สวมเสื้อกล่าวออกมา ลมหายใจต่อมาเขาก็ตะโกน พลังอันน่าพรั่นพรึงของจักรพรรดิขั้นสุดกลายเป็นลำแสงวิญญาณทะลวงถึงท้องนภา พุ่งเข้าใส่ประตูสวรรค์
ตู้ม!
บังเกิดเสียงคำรามรุนแรงมาจากเหนือประตูสวรรค์ แต่เมื่อสิ้นเสียงคำราม ประตูสวรรค์โอ่อ่าก็ไม่ขยับแม้แต่นิดเดียว
“ประตูสวรรค์ไม่เปิด การฝ่าทะลวงล้มเหลว!”
ตอนนี้ ทูตผู้พิทักษ์ประกาศด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ไม่!”
“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร!”
“ข้าคือบุตรสวรรค์แห่งอาณาจักรดาราลับฟ้า เหตุใดข้าถึงยังไม่ผ่านระดับหนึ่งของเส้นทางราชันจักรพรรดิอีก!”
ชายไม่สวมเสื้อร่างกำยำแผดเสียงคำรามด้วยความสิ้นหวัง หัวใจเต๋าของเขาแตกสลายในพริบตา จนกระอักโลหิตออกมา
ทว่าไม่มีใครเห็นใจเขา เพราะถึงอย่างไร เส้นทางราชันจักรพรรดิมันก็โหดเหี้ยมเช่นนี้อยู่แล้ว!
“ข้าเอง!”
“ข้าเอง!”
“ข้าก็ด้วย!”
“…”
หลังจากนั้น อัจฉริยะคนแล้วคนเล่าก้าวออกมาอยู่หน้าประตูสวรรค์
แต่ผลลัพธ์ไม่น่าพึงพอใจนัก
นอกจากผู้แข็งแกร่งบางส่วนที่ไปถึงกึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นหนึ่งจึงจะหาทางเปิดประตูสวรรค์ได้หนึ่งหมื่นฉื่อจนผ่านระดับดังกล่าวไปได้สำเร็จ ส่วนอัจฉริยะที่เหลือไม่อาจเปิดประตูสวรรค์ได้!
ผู้สัญจรไปมายิ่งมายิ่งน้อย
“นายท่าน ข้าขอไปก่อน!”
ตอนนี้เอง เหลยเหมิงผู้อยู่ด้านข้างประสานมือให้หนิงฝาน แล้วก้าวไปด้านหน้าทันที
“โอ๊ะ! นี่มันหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างมารยักษ์ เหลยเหมิงไม่ใช่หรือ!”
“เกิดอะไรขึ้น หมอนี่มันคนแก่จากระดับหนึ่งไม่ใช่หรือ ทำไมจู่ ๆ ถึงคิดจะเปิดประตูสวรรค์กันล่ะ!”
“ไม่รู้สิ แต่ด้วยพลังของเหลยเหมิงแล้วน่าจะสามารถเปิดประตูสวรรค์จนผ่านระดับหนึ่งไปได้นะ!”
“…”
ทันทีที่เหลยเหมิงก้าวออกมา ฝูงชนรอบข้างพลันส่งเสียงเซ็งแซ่ เห็นได้ชัดว่าหลายคนรู้จักเหลยเหมิง
“ข้า เหลยเหมิง จะทำการฝ่าทะลวงประตูสวรรค์แล้ว!”
เหลยเหมิงก้าวออกมาข้างหน้าพร้อมตะโกน กลิ่นอายอันเป็นของกึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นหนึ่งพลันปะทุออกจากร่างกาย
ตู้ม!
ในฐานะที่เหลยเหมิงเป็นผู้นำระดับหนึ่ง เขาไม่ได้อ่อนแอแต่อย่างใด ซ้ำยังไปถึงจุดสูงสุดของกึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นหนึ่งแล้ว ด้วยหมัดของเขา พลังหมัดที่ต่อยออกไปอย่างน่าสะพรึงกระแทกใส่ประตูสวรรค์ในบัดดล!
สิ้นเสียงคำรามกึกก้อง ประตูสวรรค์เปิดออก
สิบฉื่อ!
หนึ่งร้อยฉื่อ!
หนึ่งพันฉื่อ!
และไปถึงหนึ่งพันฉื่อในพริบตา!
“เปิดอีก!”
เหลยเหมิงตะโกนอีกครั้ง กลิ่นอายทั่วร่างพลันระเบิดอีกครา เขาขยับจากจุดสูงสุดของกึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นหนึ่งสู่กึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นสอง
ตู้ม!
ทันใดนั้น ประตูสวรรค์ที่เพิ่งหยุดไปก็เปิดออกอีกครั้ง!
สองพันฉื่อ!
สามพันฉื่อ!
ในที่สุด มันหยุดอยู่ที่สามพันฉื่อ
“โอ้! สามพันฉื่อ! เหลยเหมิงถึงกับเปิดประตูสวรรค์ได้สามพันฉื่อ!”
“จุ๊ ๆ! เหลยเหมิงถึงกับไปถึงกึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นสอง นี่มันคมในฝักของแท้!”
“ความสำเร็จสามพันฉื่อ ถึงแม้จะไม่มากพอต่อการติดอันดับบนรายชื่อประตูสวรรค์ แต่ก็มากพอที่จะเหนือกว่าอัจฉริยะจำนวนมากบนโลกได้!”
“…”
เมื่อเห็นผลลัพธ์ของเหลยเหมิง สิ่งมีชีวิตจำนวนมากตรงหน้าประตูสวรรค์พลันเกิดบทสนทนาอันดุเดือดขึ้นมา
แม้แต่หนิงฝานยังประหลาดใจ แล้วเขาก็ยิ้มออกมา
อย่างที่คิดไว้ ผู้ที่กล้ายืนอยู่บนเส้นทางราชันจักรพรรดิ ไม่มีใครธรรมดาเลยสักคน
อย่างเหลยเหมิงตรงหน้าเขา ไม่นานมานี้ เขาอยู่กึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นหนึ่ง แต่หลังจากมาปล้นเขา ทำให้ปรับสภาพจิตใจก่อนทำการฝ่าทะลวง จนมุ่งสู่กึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นสองได้สำเร็จ!
ทว่าตอนนี้ เสียงเย้ยหยันพลันดังขึ้นมา
“เหอะ ๆ ก็แค่สามพันฉื่อ ขยะชัด ๆ เดี๋ยวข้าจะให้ดูว่าอัจฉริยะของจริงมันเป็นอย่างไร!”