ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 448 กลับจวน (ปลาย)

ตอนที่ 448 กลับจวน (ปลาย)

​จู่ๆ​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ก็​สะบัด​มือ​ออก​อย่าง​เต็มแรง​ ​“​ไม่​ ​เป็นไปไม่ได้​ ​เจ้า​ไม่ใช่​คุณชาย​น้อย​สอง​ ​คุณชาย​น้อย​สอง​ยังอยู่​ที่​เล่อ​อาน​ ​ชุ่ย​เอ๋อร​์​นัง​สารเลว​คน​นั้น​เอา​จดหมาย​ของ​ข้า​ไป​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ ​ข้า​รู้​…​นาง​กลัว​ว่า​ข้า​จะ​ไป​คิดบัญชี​กับ​นาง​ ​นาง​ก็​เลย​ชิง​ผูก​คอ​ฆ่าตัวตาย​ไป​เสียก่อน​ ​ข้า​รู้​ทุกอย่าง​ ​ข้า​รู้​ทุก​เรื่อง​ ​ข้า​ไม่​บอก​กับ​พวก​เจ้า​หรอก​…​”​ ​สีหน้า​ของ​นางใน​ตอนแรก​นั้น​เต็มไปด้วย​ความหวาดกลัว​และ​สับสนวุ่นวาย​ ​พอ​พูด​มา​จนถึง​ตอนท้าย​ใบหน้า​ของ​นาง​ก็​ดู​คล้าย​จะ​ยิ้ม​ก็​ไม่เชิง​ ​บวก​กับ​ใบหน้า​ที่​ผอม​และ​ซูบ​ตอบ​จน​เห็น​กระดูก​ของ​นาง​ ​พลอย​ทำให้​เหลียน​เจียว​และ​เสี่ยว​ลู่​จื่อ​ที่​ติดตาม​สวี​ซื่อ​อวี​้​มา​พลอย​รู้สึก​ตกใจ​ไป​ด้วย​ ​ทั้งสอง​หันมา​สบตา​กัน​ ​ไม่รู้​ว่า​ควร​ฟัง​หรือไม่​ควร​ฟัง​ดี​ ​แต่​เมื่อ​ตอน​หันกลับ​มา​ ​ไม่รู้​ว่า​ประตู​ถูก​ปิด​ลง​ไป​ตั้งแต่​เมื่อไร​ ​ป้า​รับใช้​ที่​นำทาง​พวกเขา​เข้ามา​ก็​หาย​ไป​อย่างไร​้​ร่องรอย

​สวี​ซื่อ​อวี​้​พลัน​รู้สึก​เจ็บปวด​ราวกับ​ถูก​มีด​กรีด​แทง​ ​เขา​ค่อยๆ​ ​คลาน​ขึ้นไป​บน​เตียง​ ​จากนั้น​ก็​จับมือ​ของ​ฉิน​อี๋​เหนียง​อีกครั้ง​ ​“​ข้า​คือ​อวี​้​เกอ​ ​ข้า​คือ​อวี​้​เกอ​จริงๆ​ ​หลังจากที่​รับ​จดหมาย​จาก​ท่าน​แล้ว​ ​ข้า​ก็​รีบ​กลับมา​ทันที​ ​หาก​ท่าน​ไม่เชื่อ​ ​ลอง​ลูบ​ศีรษะ​ของ​ข้า​ดู​”​ ​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​ก้ม​ศีรษะ​ลง​ ​จากนั้น​ก็​นำ​มือ​ของ​ฉิน​อี๋​เหนียง​มา​ลูบ​ผม​ของ​เขา​เบา​ๆ

​รอยแผล​เป็น​ขนาดใหญ่​ ​เป็น​รอยแผล​เป็น​ที่​ได้มา​เพราะ​ปีน​ต้นไม้​ไป​เล่น​รังนก​แล้ว​ตกลง​มา​ ​จน​เกือบตาย​เสียด​้วย​ซ้ำ

​“​เจ้า​คือ​คุณชาย​น้อย​สอง​ ​เจ้า​คือ​คุณชาย​น้อย​สอง​จริงๆ​ ​ด้วย​”​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ดีอกดีใจ​อย่าง​ล้นพ้น​ ​จากนั้น​ก็​โอบกอด​สวี​ซื่อ​อวี​้​ไว้​แน่น​ ​“​ข้า​รู้อยู่​แล้ว​ ​ว่า​เจ้า​จะ​ต้อง​กลับมา​ ​เจ้า​ไม่ได้​เป็น​เหมือน​คน​เหล่านั้น​ ​เห็น​ว่า​ข้า​เกิด​จาก​ครอบครัว​ที่​ต้อยต่ำ​ ​ก็​ทิ้ง​ข้า​อย่าง​ไม่สน​ใจ​ไยดี​ ​หาก​เจ้า​รู้​ว่า​ข้า​ป่วย​ ​เจ้า​จะ​ต้อง​กลับมา​ดู​ข้า​อย่างแน่นอน​…​”​ ​ขณะที่​กำลัง​พูด​อยู่​นั้น​ ​จู่ๆ​ ​นาง​ก็​ชะงัก​ไป​ ​สีหน้า​เต็มไปด้วย​ความหวาดระแวง​ ​“​ยัง​มี​ใคร​อยู่​ตรงนั้น​ ​ใคร​ ​เป็น​คนที​่​ไท่ฮู​หยิน​ส่ง​มา​ใช่​หรือไม่​”​ ​ใบหน้า​ของ​นาง​ท่วมท้น​ไป​ด้วย​ความหวาดกลัว

อี๋​เหนียง​กลัว​ไท่ฮู​หยิน​เป็นอย่างมาก​ ​นาง​มักจะ​รู้สึก​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​นั้น​ทั้ง​เก่งกาจ​และ​น่ากลัว​ ​เวลา​ที่นา​งอา​รมณ์​ไม่ดี​ขึ้น​มา​ ​ก็​สามารถ​สั่ง​เอาชีวิต​ของ​เหล่า​บรรดา​อี๋​เหนียง​ ​สาวใช้​หรือ​ป้า​รับใช้​ได้​เลย​ ​ตาม​หลัก​ความเป็นจริง​แล้ว​ ​ทุก​สรรพสิ่ง​บน​โลก​ใบ​นี้​ล้วนแล้วแต่​อยู่​ใน​วงจร​วัฏจักร​แห่ง​ห่วง​โซ่​ทั้งสิ้น​ ​สำหรับ​อี๋​เหนียง​แล้ว​ ​ไท่ฮู​หยิน​เป็น​คนที​่​สูงส่ง​และ​ไม่​อาจจะ​แตะต้อง​ได้​ ​คำพูด​เพียง​คำ​เดียว​สามารถ​ตัดสิน​ความ​เป็นความ​ตาย​ของ​คน​คน​หนึ่ง​ได้​ ​แต่​สำหรับ​ไท่ฮู​หยิน​แล้ว​ ​เบื้องบน​ของ​นาง​ยัง​มี​ฮ่องเต้​ ​ฮองเฮา​และ​ชื่อเสียงเรียงนาม​นับ​ร้อย​ปี​ของ​สกุล​สวี​ ​จึง​ไม่​สามารถ​ทำ​อะไร​ตามอำเภอใจ​ได้​ นี่​คง​เป็น​ดัง​คำพูด​ที่​อาจารย์​เจียง​เคย​สอน​ว่า​ ​วิสัยทัศน์​ของ​คนเรา​มีทั​้ง​ใกล้​และ​ไกล​ฉันใด​ ​จิตใจ​ของ​คนเรา​ก็​ย่อม​มีทั​้ง​แคบ​และ​กว้าง​ฉันนั้น​!

​สวี​ซื่อ​อวี​้​ค่อยๆ​ ​สาง​ผม​ที่​ยุ่งเหยิง​ของ​ฉิน​อี๋​เหนียง​อย่างเบามือ​ ​แล้ว​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ ​“​ไม่มี​คนนอก​ ​ที่นี่​มี​เพียง​เสี่ยว​ลู่​จื่อ​และ​เหลียน​เจียว​ ​พวกเขา​มา​เยี่ยม​ท่าน​เป็นเพื่อน​ข้า​เท่านั้น​”

​ฉิน​อี๋​เหนียง​ได้ยิน​แล้ว​ไม่เพียงแต่​ไม่​ผ่อนคลาย​ลง​เท่านั้น​ ​แต่กลับ​เครียด​หนัก​กว่า​เดิม​ ​สีหน้า​ของ​นาง​เต็มไปด้วย​ความ​ตื่นตระหนก​ ​ตะโกน​โวยวาย​เสียงดัง​ลั่น​ว่า​ ​“​ให้​พวกเขา​ออก​ไป​…​ให้​พวกเขา​ออก​ไป​ให้​หมด​”​ ​จากนั้น​ก็​หันมา​กระซิบ​ข้าง​หู​สวี​ซื่อ​อวี​้​ว่า​ ​“​ข้า​จะ​บอกอะ​ไร​เจ้า​ ​สาวใช้​และ​บ่าว​รับใช้​ชาย​เหล่านั้น​ล้วนแล้วแต่​เป็น​นกสองหัว​ทั้งนั้น​ ​เจ้า​ดู​อย่าง​ชุ่ย​เอ๋อร​์​สิ​ ​ข้า​ดี​กับ​นาง​ถึงขนาด​นั้น​ ​นาง​ยัง​ทำร้าย​ข้า​ได้​ลงคอ​…​คน​เหล่านี้​เชื่อถือ​ไม่ได้​เลย​”

​สวี​ซื่อ​อวี​้​ได้ยิน​แล้วก็​ค่อนข้าง​กระอักกระอ่วน​ใจ

​เมื่อก่อน​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็นสาว​ใช้​หรือ​ป้า​รับใช้​ ​หยวน​เหนียง​ก็​เป็น​คน​จัดหา​เอง​ทั้งสิ้น​ ​คน​เหล่านั้น​ไม่เคย​ห้ามปราม​ตอนที่​เขา​ทำความ​ผิด​เลย​ ​ตอนนั้น​เขา​ยัง​เด็ก​มาก​ ​จึง​ไม่เข้าใจ​เจตนา​ที่แท้​จริง​ ​พอ​โต​ขึ้น​มา​หน่อย​ก็ได้​ร่ำเรียน​กับ​ป้า​สะใภ้​สอง​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​เก่ง​ขึ้น​มาก​แล้ว​ ​แต่กลับ​ไม่​สามารถ​เปลี่ยนแปลง​อะไร​ได้​เลย​ ​จน​มา​ได้​เสี่ยว​ลู่​จื่อ​ที่​ป้า​สะใภ้​สอง​แนะนำ​มา​ ​เขา​ไม่เพียงแต่​ซื่อสัตย์​และ​ภักดี​เท่านั้น​ ​มีต​รง​ไหน​ที่​ตน​คิดไม่ถึง​หรือ​ขาดตกบกพร่อง​ไป​ ​เสี่ยว​ลู่​จื่อ​ก็​มักจะ​คอย​ช่วย​เตือนสติ​อยู่​เสมอ​ ​ไม่ใช่​บ่าว​รับใช้​ประเภท​ที่​คอย​แต่​จะ​ประจบสอพลอ​หรือ​ประเภท​ที่​อ่อนน้อม​ถ่อมตน​ไม่มี​ปาก​ไม่มี​เสียง​ไม่​แสดงความคิดเห็น​ใดๆ​ ​ทั้งสิ้น

อี๋​เหนียง​พูด​เช่นนี้​ ​มี​แต่​จะ​ทำให้​เสี่ยว​ลู่​จื่อ​เสียใจ​!

​เมื่อ​นึกถึง​ตรงนี้​ ​เขา​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หันกลับ​ไป​มอง

​แต่​ใน​เรือน​กลับ​ว่างเปล่า​ ​ไม่มี​เสี่ยว​ลู่​จื่อ​และ​เหลียน​เจียว​เลย

เสี่ยว​ลู่​จื่อ​ฉลาด​หลักแหลม​และ​มี​ความสามารถ​ ​ทั้ง​ยัง​สังเกต​สีหน้า​เป็น​อีกด้วย​ ​คงจะ​ถอย​ออก​ไป​แล้ว​กระมัง

​เมื่อ​คิด​เช่นนี้​ ​ไม่รู้​เป็น​เพราะอะไร​ ​จู่ๆ​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ก็​แอบ​ถอนหายใจ​ออกมา​ด้วย​ความ​โล่งอก

ตั้งแต่​เข้า​ประตู​มา​ ​เสี่ยว​ลู่​จื่อ​ก็​รู้สึก​ว่า​ฉิน​อี๋​เหนียง​แปลก​ๆ​ ​แต่​ไม่ว่า​อย่างไร​นาง​ก็​เป็นมา​รดา​ของ​คุณชาย​น้อย​สอง​ ​คุณชาย​น้อย​ย่อม​ไม่​อยาก​ให้​คนอื่น​เห็น​ฉิน​อี๋​เหนียง​ที่​กำลัง​ตก​อยู่​ใน​สภาพ​น่าเวทนา​เช่นนี้

เขา​จึง​แอบ​ดึง​แขน​เสื้อ​ของ​เหลียน​เจียว​เบา​ๆ​ ​ส่งสายตา​บอกเป็นนัย​ให้​นาง​ออก​ไปรอ​ข้างนอก​พร้อมกับ​เขา

แต่​เหลียน​เจียว​ก็​เอาแต่​นึกถึง​คำพูด​ที่​หู่​พั่ว​ได้​สั่ง​ไว้​ ​‘​ตอนนี้​ฉิน​อี๋​เหนียง​จำ​ใคร​ไม่ได้​เลย​ ​ประเดี๋ยว​เจ้า​อย่า​ออกห่าง​คุณชาย​น้อย​สอง​จน​เกินไป​ ​ระวัง​ฉิน​อี๋​เหนียง​เป็นบ้า​ขึ้น​มา​แล้ว​จะ​ไป​ทำร้าย​คุณชาย​น้อย​สอง​เข้า​’

นาง​จึง​เล่า​คำพูด​ที่​หู่​พั่ว​สั่ง​ไว้​ให้​เสี่ยว​ลู่​จื่อ​ฟัง​ ​“​คน​หนึ่ง​สติ​ดี​ ​คน​หนึ่ง​สติ​เลอะเลือน​ ​คน​หนึ่ง​เป็นมา​รดา​ผู้ให้กำเนิด​ ​ส่วน​อีก​คน​เป็น​…​”

​เหลียน​เจียว​ยัง​ไม่ทัน​จะ​พูด​จบ​ ​เสี่ยว​ลู่​จื่อ​ก็ได้​ยิน​ฉิน​อี๋​เหนียง​พูด​ขึ้น​ว่า​ชุ่ย​เอ๋อร​์​ทำร้าย​นาง

​เขา​จึง​รีบ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เรา​ไป​หลบ​อยู่​หลัง​ซุ้ม​ไม้​แกะสลัก​ดีกว่า​ ​หาก​ฉิน​อี๋​เหนียง​เกิด​คลุ้มคลั่ง​ขึ้น​มา​ ​เจ้า​ก็​เข้าไป​ดึง​คุณชาย​น้อย​สอง​ ​ส่วน​ข้า​จะ​ไป​ขวาง​ฉิน​อี๋​เหนียง​ไว้​เอง​”

​เหลียน​เจียว​พยักหน้า​รับรู้​ ​ทั้งคู่​พากัน​ไป​หลบ​อยู่​หลัง​ซุ้ม​ไม้​แกะสลัก​อย่างเบามือ​เบา​เท้า

​สวี​ซื่อ​อวี​้​เอ่ย​ปลอบโยน​ฉิน​อี๋​เหนียง​เสียง​เบา​ ​“​ไม่เป็นไร​ ​พวกเขา​เป็น​คน​ของ​ข้า​ ​อี๋​เหนียง​มี​อะไร​ก็​พูด​ออกมา​ได้​เลย​…​”

​อี๋​เหนียง​เอาแต่​หวาดระแวง​บ่าว​รับใช้​ของ​เขา​ ​เอาแต่​คิด​ว่า​คน​เหล่านั้น​มี​เจตนา​แอบแฝง​ ​แต่​สำหรับ​เขา​แล้ว​ ​ถึงแม้​บางคน​จะ​ประจบสอพลอ​ไป​บ้าง​ ​แต่​หากว่า​จะ​พูดถึง​เรื่อง​เจตนาร้าย​แอบแฝง​ ​ตอนที่​หยวน​เหนียง​เป็น​ผู้ดูแล​หลัก​อาจจะ​มี​ความเป็นไปได้​มากกว่า​ ​ส่วน​สือ​อี​เหนียง​ถึงแม้ว่า​ภายใน​จะ​ดูโอ​หัง​ ​ใช่​ว่า​จะ​ไร้​ซึ่ง​แผนการ​หรือ​กลอุบาย​ใดๆ​ ​แต่​ถ้าหาก​ชัยชนะ​นั้น​ได้มา​ด้วย​ความ​ไม่​ซื่อสัตย์​ ​ก็​ไม่​ควรค่า​ให้ความสนใจ​ใดๆ

​ฉิน​อี๋​เหนียง​ได้ยิน​แล้ว​กลับ​รีบ​ผลัก​สวี​ซื่อ​อวี​้​ออก​พร้อมกับ​ตะโกน​ด้วย​ความแปลกใจ

​“​เจ้า​ไม่ใช่​คุณชาย​น้อย​สอง​ ​เจ้า​ไม่ใช่​คุณชาย​น้อย​สอง​”​ ​สีหน้า​ของ​นาง​เต็มไปด้วย​ความหวาดกลัว​ ​นาง​รีบ​ถอย​เข้าไป​ที่​มุม​เตียง​อีกครั้ง​ ​กอด​ผ้าห่ม​ไว้​แน่น​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​พึมพำ​ว่า​ ​“​คุณชาย​น้อย​สอง​ไม่​พูดจา​เช่นนี้​กับ​ข้า​!​ ​ข้า​รู้​…​ข้า​รู้​ทุกสิ่งทุกอย่าง​ ​พวก​เจ้า​ปลอมตัว​เป็นคุณ​ชายน้อย​สอง​มา​หลอก​ข้า​…​”

​“​อี๋​เหนียง​!​”​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​จ้องมอง​ฉิน​อี๋​เหนียง​ด้วย​ความตกใจ​ ​พลัน​รู้สึก​แปลก​ๆ​ ​ไม่​ค่อย​ชอบมาพากล

​เขา​จ้องมอง​ฉิน​อี๋​เหนียง​ที่​สีหน้า​เต็มไปด้วย​ความ​หวาดผวา​ราวกับ​เด็กน้อย​ก็​ไม่​ปาน​ ​เขา​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ค่อยๆ​ ​คลาน​เข้าไป​หา​ฉิน​อี๋​เหนียง

​“​ท่าน​เป็น​อะไร​ไป​”​ ​เขา​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​อ่อนโยน​ ​“​อี๋​เหนียง​เป็น​คนเขียน​จดหมาย​ให้​ข้า​เอง​ไม่ใช่​หรือ​ ​ท่าน​เขียนจดหมาย​มาบ​อก​ข้าว​่า​อาการ​ใจสั่น​ของ​ท่าน​กำเริบ​อีกแล้ว​ ​ให้​ข้า​รีบ​กลับมา​ที่​บ้าน​ไม่ใช่​หรือ​ ​เหตุใด​ท่าน​ถึง​จำ​มัน​ไม่ได้​แล้ว​”

​ฉิน​อี๋​เหนียง​ขมวดคิ้ว​แน่น​พร้อมกับ​เอียง​ศีรษะ​เล็กน้อย

​สวี​ซื่อ​อวี​้​จึง​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​อ่อนโยน​และ​สนิทสนม​มากกว่า​เดิม​ว่า​ ​“​ท่าน​จำได้​หรือไม่​ ​ตอนที่​ข้า​ยัง​เด็ก​ ​เรา​เคย​สัญญา​ด้วยกัน​”​ ​เขา​พูด​ขึ้น​พร้อมกับ​หันกลับ​ไป​มอง​ด้านหลัง​ ​“​ปีนั​้น​ดอก​กุ้ยฮ​วาบาน​สะพรั่ง​ไป​ทั่ว​ ​ท่าน​จึง​ทำ​น้ำเชื่อม​ดอก​กุ้ยฮ​วา​แล้ว​แอบ​เอา​ไป​ฝัง​ไว้​ที่​ใต้​ต้นไม้​ ​พอ​ถึง​ช่วง​ฤดูใบไม้ผลิ​ท่าน​ก็​นำ​ออก​ไป​ทำ​ขนม​เปี๊ยะ​ดอก​กุ้ยฮ​วา​ ​ไท่ฮู​หยิน​มอบหมาย​ให้ท่าน​ป้า​สะใภ้​สอง​เป็น​คนดู​แล​ข้า​ ​ท่าน​จึง​ไม่กล้า​มาหา​ข้า​ตามอำเภอใจ​ ​จึง​ฉวยโอกาส​ตอนที่​หิมะ​ตกหนัก​และ​ไม่มีใคร​อยู่​ที่​เรือน​ ​แอบ​เอา​ขนม​เปี๊ยะ​ดอก​กุ้ยฮ​วา​ซ่อน​ไว้​ใน​เสื้อ​แล้ว​เอา​มา​ให้​ข้า​ทาน​ ​จากนั้น​ท่าน​ก็​คอย​ย้ำ​คอย​เตือน​ข้า​นับ​ครั้ง​ไม่​ถ้วน​ ​ว่า​ห้าม​บอก​เรื่อง​นี้​กับ​ใคร​ ​หากว่า​ไท่ฮู​หยิน​รู้เรื่อง​เข้า​ ​ท่าน​ก็​จะ​ไม่​สามารถ​มาหา​ข้า​ได้​อีก​ ​จนถึง​ตอนนี้​ข้า​ก็​ไม่เคย​บอก​เรื่อง​นี้​กับ​ใคร​เลย​ ​แล้ว​อี๋​เหนียง​เล่า​…​ได้​บอก​เรื่อง​นี้​กับ​ผู้อื่น​หรือไม่​”

​ฉิน​อี๋​เหนียง​ได้ยิน​แล้ว​ ​ใบหน้า​ของ​นาง​ก็​ค่อยๆ​ ​ปรากฏ​รอยยิ้ม​ที่​อ่อนโยน​ขึ้น​มา​ ​“​ข้า​จำได้​ ​ตอนนั้น​เป็นช่วง​ฤดูหนาว​ ​เพราะ​กลัว​ว่า​ขนม​เปี๊ยะ​ดอก​กุ้ยฮ​วา​เย็น​แล้ว​จะ​ไม่อร่อย​ ​ก็​เลย​นำ​ไป​ซุก​ไว้​ใน​เสื้อ​ ​พอก​ลับ​ไป​แล้ว​แผ่น​อก​ของ​ข้า​ก็​พลอย​เป็น​รอย​แดง​ขนาดใหญ่​ไป​ด้วย​”​ ​นาง​พูด​ขึ้น​พลาง​กวาดตา​มอง​ไปหา​สวี​ซื่อ​อวี​้​ด้วย​แววตา​ที่ว่างเปล่า​ ​“​ข้า​เอง​ก็​ไม่เคย​พูด​เรื่อง​นี้​กับ​ผู้อื่น​ ​เจ้า​เป็นคุณ​ชายน้อย​สอง​ ​เจ้า​เป็นคุณ​ชายน้อย​สอง​จริงๆ​…​”

​สวี​ซื่อ​อวี​้​กุมมือ​ของ​นาง​ไว้​แน่น​ ​นึกถึง​คำพูด​ของ​บิดา​ขึ้น​มา​ ​ว่า​อี๋​เหนียง​คงจะ​มีชีวิต​อยู่​ได้​อีกไม่นาน​ ​น้ำตา​ของ​เขา​ก็​ค่อยๆ​ ​ซึม​ออกมา​ ​“​อี๋​เหนียง​มี​อะไร​ที่จะ​กำชับ​ข้า​หรือไม่​ ​ข้า​ยัง​เป็น​คน​เดิม​เหมือนเช่น​เมื่อก่อน​ ​จะ​ไม่​บอก​กับ​ใคร​ทั้งนั้น​!​”

​ฉิน​อี๋​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ๆ

​ฉิน​อี๋​เหนียง​ผลัก​ผ้าห่ม​ที่อยู่​ใน​อ้อมกอด​ไป​ไว้​ข้างๆ​ ​จากนั้น​ก็​จับมือ​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ไว้​ ​ดวงตา​ที่​มองไม่เห็น​อะไร​แต่กลับ​กวาดตา​มอง​ไปร​อบ​ๆ​ ​ห้อง​ ​“​เจ้า​เงียบๆ​ ​ไว้​ ​ข้า​จะ​ลอง​ฟัง​ดู​ว่า​ใน​นี้​มี​คน​หรือไม่​!​”​ ​จากนั้น​นาง​ก็​เอียง​ศีรษะ​และ​เงี่ยหู​ฟัง​อีกครั้ง​ ​ฟัง​อยู่​ครู่ใหญ่​ ​ก่อน​จะ​ค่อยๆ​ ​นั่ง​ตัวตรง​ขึ้น​มา​แล้ว​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้า​ฟัง​ดูแล​้ว​ ​ใน​นี้​ไม่มี​คน​!​”​ ​จากนั้น​นาง​ก็​ค่อยๆ​ ​ไล่​สัมผัส​ไป​ตาม​แขน​ของ​เขา​ ​หยุด​ลง​ตรง​ไหล่​ทั้งสอง​ข้าง​ของ​เขา​ ​ดึง​เขา​ให้​นั่ง​ตัวตรง​ ​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่จริง​จัง​ว่า​ ​“​คุณชาย​น้อย​สอง​ ​เจ้า​ตั้งใจฟัง​ให้​ดี​ ​เรื่อง​นี้​สำคัญ​เป็นอย่างมาก​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​ชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็ได้​พูด​ต่อไป​ด้วย​สีหน้า​ที่​เคร่งขรึม​และ​จริงจัง​ยิ่งกว่า​เดิม​ ​“​เจ้า​ต่างหาก​ที่​เป็น​ซื่อ​จื่อ​ที่แท้​จริง​ของ​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​!​”

อีกแล้ว​…

​สวี​ซื่อ​อวี​้​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ทอดถอนใจ​ออกมา​ ​พูด​ขึ้น​อย่าง​จนใจ​ว่า​ ​“​อี๋​เหนียง​ ​ข้า​เคย​บอก​ท่าน​ไป​หลาย​ต่อ​หลายครั้ง​แล้ว​ ​ถึงแม้ว่า​ข้า​จะ​เป็น​บุตรชายคนโต​ ​แต่​เป็น​บุตรชาย​ที่เกิด​จาก​อนุ​ ​บุตรชาย​ของ​ภรรยา​เอก​เท่านั้น​ที่จะ​มีสิทธิ์​ขึ้น​เป็น​ซื่อ​จื่อ​ ​นี่​เป็น​กฎเกณฑ์​…​”

​“​ไม่ใช่​”​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​โต้แย้ง​เสียงดัง​ว่า​ ​“​สิ่ง​เหล่านั้น​เชื่อถือ​ไม่ได้​ ​ก็​เหมือนกับ​ฮ่องเต้​ ​คนที​่​สามารถ​ขึ้น​ครองราชย์​ได้​ ​คือ​ลิขิต​สวรรค์​ ​และ​คนที​่​สามารถ​เป็น​ซื่อ​จื่อ​สืบทอด​ตระกูล​หย่ง​ผิง​โหว​ได้​ ​ก็​เป็น​ลิขิต​สวรรค์​เช่นกัน​ ​เจ้า​ก็​คือ​ซื่อ​จื่อ​แห่ง​ตระกูล​หย่ง​ผิง​โหว​ที่​สวรรค์​ได้​เลือก​แล้ว​ ​ต่อไป​ภายภาคหน้า​ ​เจ้า​ก็​จะ​กลายเป็น​หย่ง​ผิง​โหว​ ​ผู้สืบทอด​กิจการ​และ​มรดก​อายุ​นับ​ร้อย​ปี​ของ​จวน​สกุล​สวี​…​”

​สวี​ซื่อ​อวี​้​ตะโกนเรียก​เสียงดัง​ ​“​อี๋​เหนียง​!​”​ ​ราวกับว่า​ต้องการ​จะ​ปลุก​มารดา​ของ​เขา​ให้​ตื่นขึ้น​มาจาก​ฝัน​ก็​ไม่​ปาน​ ​“​สวี​ซื่อ​จุน​ได้​เป็น​ซื่อ​จื่อ​ไป​แล้ว​ ​ท่าน​พ่อ​ได้​แต่งตั้ง​ให้​สวี​ซื่อ​จุน​ขึ้น​รับ​ตำแหน่ง​เรียบร้อย​แล้ว​!​”

​ฉิน​อี๋​เหนียง​กลับหัว​เราะ​ดังลั่น

​“​ข้า​บอก​แล้ว​ว่า​สิ่ง​เหล่านี้​ยึดถือ​ไม่ได้​”

​สวี​ซื่อ​อวี​้​ชะงัก​ไป​ชั่วขณะ

​เขา​นึกถึง​คำพูด​บิดา​ของ​ตน​ขึ้น​มา​ ​‘​มารดา​ของ​เจ้า​ด้อย​ประสบการณ์​วิสัยทัศน์​คับแคบ​ ​จึง​ได้​ทำ​อะไร​บางอย่าง​ผิด​ไป​ ​แต่​เห็นแก่​นาง​ที่​ป่วย​จน​ดวงตา​มืด​บอด​ ​ข้า​จึง​ไม่ได้​สืบสาวราวเรื่อง​อะไร​มากมาย​ ​ข้า​รู้​ว่า​เจ้า​เป็นกังวล​และ​ร้อนใจ​ ​เจ้า​รีบ​ไป​เยี่ยม​นาง​ก่อน​ก็แล้วกัน​ ​หลังจาก​กลับมา​แล้ว​ ​เรา​สอง​พ่อ​ลูก​ค่อย​มานั​่​งคุ​ยกั​นอีก​ที​’​ ​จากนั้น​เขา​ก็ได้​นึกถึง​ท่าน​ย่า​ของ​เขา​ที่​เข้มงวด​กับ​เขา​กว่า​ปกติ​ที่ผ่านมา​ ​สือ​อี​เหนียง​ที่​ดูเหมือน​พยายาม​หลบสายตา​ ​และ​สวี​ซื่อ​จุน​ที่​จู่ๆ​ ​ก็​เกิด​ป่วย​ขึ้น​มา​…

​“​ท่าน​ทำ​อะไร​ลง​ไป​”

​คำถาม​ที่​เต็มไปด้วย​ความสงสัย​ถูก​เอ่ย​ออกมา​จาก​ปากของ​เขา

​“​ข้า​ไม่ได้​ทำ​อะไร​เลย​!​”​ ​จู่ๆ​ ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ก็​หัวเราะ​ขึ้น​มา​อย่าง​แปลกประหลาด​ ​“​ข้า​ไม่ได้​ทำ​อะไร​ทั้งนั้น​!​”

​สวี​ซื่อ​อวี​้​จ้องมอง​นาง​ด้วย​ความ​ตะลึง​ ​เรื่องราว​ใน​อดีต​ที่ผ่านมา​กำลัง​พรั่งพรู​เข้ามา​ใน​หัว​ของ​เขา​เต็มไปหมด

​“​หาก​เจ้า​เชื่อฟังฮู​หยิน​สอง​ ​ตั้งใจ​เรียนรู้​สิ่ง​ที่นาง​สอนดี​ๆ​ ​นาง​เป็น​สตรีที​่​สามารถ​ดูแล​ลาน​นอก​ได้​ ​เป็น​สตรีที​่​ฉลาด​หลักแหลม​และ​เก่งกาจ​ ​ถึง​เวลา​นั้น​ ​พอท​่าน​โหว​เห็น​ว่า​เจ้า​รู้​กระทั่ง​เรื่อง​ของ​ลาน​นอก​ ​ก็​จะ​รู้​ได้​ในทันที​ว่า​ใคร​กัน​แน่​ที่​เหมาะสม​กับ​การ​รับหน้าที่​เป็น​ผู้ดูแล​ต่อ​”

​บิดา​ของ​เจ้า​พึ่ง​ชนะสงคราม​กลับมา​ ​แน่นอน​ว่า​ต้อง​ดีใจ​เป็นอย่างมาก​ ​เขา​เป็น​คนที​่​จิตใจ​กล้าหาญ​ ​ดังนั้น​เขา​ย่อม​ชอบ​คนที​่​จิตใจ​กล้าหาญ​อยู่​แล้ว​ ​ประเดี๋ยว​ตอนที่​เจ้า​ไป​คารวะ​บิดา​ของ​เจ้า​ ​จำไว้​ว่า​ห้าม​ทำตัว​ขลาดกลัว​เป็นอันขาด​ ​หาก​เจ้า​ขลาดกลัว​ขึ้น​มา​ ​บิดา​ของ​เจ้า​ก็​จะ​ไม่​ชอบ​เจ้า​อีก​ ​เจ้า​อย่า​ได้​เป็น​เหมือนเช่น​จุน​เกอ​อย่างเด็ดขาด​…

​ใน​เรือน​หลัง​ ​ไท่ฮู​หยิน​มีอำนาจ​สูงสุด​ ​ขอ​แค่​เจ้า​สามารถ​ทำให้​ไท่ฮู​หยิน​รัก​และ​เอ็นดู​เจ้า​ได้​ ​แม้แต่​แม่​ใหญ่​ของ​เจ้า​ก็​จะ​ไม่​สามารถ​ทำ​อะไร​เจ้า​ได้​!

​เจ้า​จะ​กลัว​ไป​ทำไม​ ​เดิมที​เจ้า​ก็​เป็น​คนฉลาด​หลักแหลม​กว่า​จุน​เกอ​ ​มี​ความสามารถ​มากกว่า​จุน​เกอ​อยู่​แล้ว​…​เขา​เป็น​บุตร​ของ​ภรรยา​เอก​แล้ว​อย่างไรเล่า​ ​เจ้า​เป็น​ถึง​บุตรชายคนโต​เชียว​นะ​”

​ไรผม​ของ​เขา​ค่อยๆ​ ​ผุด​เม็ด​เหงื่อ​ขึ้น​มา

​“​อี๋​เหนียง​”​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​พยายาม​ข่ม​ความเจ็บปวด​ที่​ขมขื่น​เอาไว้​ ​“​ท่าน​ทำ​ใช่​หรือไม่​…​”

ทำ​อะไร​บางอย่าง​ที่​ผิด​ต่อ​สวี​ซื่อ​จุน​ใช่​หรือไม่​!

​แต่​ใน​ใจ​ของ​เขา​กลับ​ยัง​พอ​มีความหวัง​อัน​ริบหรี่

เป็นไปไม่ได้​ ​ถึงแม้ว่า​อี๋​เหนียง​จะ​วาดหวัง​อยู่​เสมอ​ว่า​อยาก​ให้​เขา​ขึ้น​มา​เป็น​ซื่อ​จื่อ​ผู้สืบทอด​ ​แต่​ฉิน​อี๋​เหนียง​เพียงแค่​บ่นพึมพำ​กับ​เขา​ตามประสา​เท่านั้น​ ​เวลา​เจอ​ไท่ฮู​หยิน​ ฮู​หยิน​สอง​หรือ​คนอื่นๆ​ ​กลับ​เกรงกลัว​เหมือน​หนู​ที่​เจอ​แมว​อย่างไร​อย่างนั้น​ ​ไม่กล้า​แม้กระทั่ง​จะ​หายใจ​แรง​เสียด​้วย​ซ้ำ​ ​คนอื่น​อาจจะ​ไม่รู้​ ​แต่​เขา​รู้ดี​เป็น​ที่สุด

​ฉิน​อี๋​เหนียง​จ้องมอง​เขา​พลาง​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​“​ข้า​ไม่ได้​ทำ​อะไร​ทั้งนั้น​ ​ให้​ข้า​สาบาน​ต่อหน้า​พระโพธิสัตว์​ก็​ยัง​ได้​ ​ข้า​ไม่ได้​ทำ​อะไร​ทั้งนั้น​!​ ​หาก​ข้า​ได้​ทำ​อะไร​ลง​ไป​จริงๆ​ ​ตอนที่ถ​งอี​๋​เหนียง​เสียชีวิต​ ​บิดา​ของ​เจ้า​ก็​รู้​ ​แล้วยัง​จะ​ให้​ข้ามี​ชีวิต​อยู่รอด​จนถึง​ตอนนี้​หรือ​”

​เมื่อ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​จู่ๆ​ ​นาง​ก็​เหมือน​จะ​คิด​อะไร​บางอย่าง​ออก​ ​จึง​ได้​หัวเราะ​เสียงดัง​ออกมา
เพิ่มขนาดช่อง ดึงมุมขวามือลง

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท