ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] – ตอนที่ 393 ข้อห้ามบุกเบิกฟ้าดิน อสูรร้ายขนาดใหญ่จากหลุมดำ!

ตอนที่ 393 ข้อห้ามบุกเบิกฟ้าดิน อสูรร้ายขนาดใหญ่จากหลุมดำ!

ในความว่างเปล่าไร้ที่สิ้นสุด มืดมิดเย็นเยือก มีโลกที่แตกสลายพาดอยู่ มีเศษซากดวงดาวไร้ที่สิ้นสุดกำลังลอยไปมา

เทียบกับความมีชีวิตชีวาของประตูสวรรค์แล้ว ความเย็นและความเงียบในความว่างเปล่าคือหัวใจหลักของเส้นทางราชันจักรพรรดิ!

ฟิ้ว! ฟิ้ว!

หนิงฝานและเหลยเหมิงกลายเป็นลำแสงสองสายขณะพุ่งผ่านความว่างเปล่าไร้ที่สิ้นสุด ราวกับดาวตกสองดวง ถึงแม้กลิ่นอายของทั้งสองจะแข็งแกร่ง แต่เมื่อเทียบกับความว่างเปล่าแล้ว พวกเขายังคงดูเหมือนกับมดบนพื้นที่มืดมิด ไม่มีค่าแต่อย่างใด!

ถึงแม้ความมืดและความว่างเปล่าจะกว้างใหญ่ไร้พรมแดน แต่หลังจากทั้งสองเปิดประตูสวรรค์ พิกัดด่านที่สองของเส้นทางราชันจักรพรรดิก็ปรากฏขึ้นในใจ เมื่อมีพิกัดด่านที่สอง ก็จะไม่หลงทาง

ส่วนเส้นทาง แน่นอนว่ามีอันตรายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มิติและเวลาปั่นป่วน อีกทั้งยังมีพายุแห่งการทำลายล้างกับอสูรร้ายบรรพกาล

เมื่อมีหนิงฝานอยู่ที่นี่ พวกเขาทั้งสองจึงปลอดภัยดี

ทว่าหลังจากเดินทางสักพัก หนิงฝานและเหลยเหมิงหยุดอยู่ข้างดวงดาวดวงหนึ่ง

“เหลยเหมิง ถึงแม้เจ้าจะไปถึงกึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นสองแล้ว แต่เจ้ายังอ่อนแอเกินไป รีบหลอมเมล็ดพันธุ์ปราณม่วงบุกเบิกฟ้าดินเสีย”

บนเศษซากดวงดาว หนิงฝานออกคำสั่งกับเหลยเหมิง

“ขอรับ! นายท่าน!”

เหลยเหมิงพยักหน้า จากนั้นหยิบเมล็ดพันธุ์ปราณม่วงบุกเบิกฟ้าดินออกมาด้วยความตื่นเต้นแล้วเริ่มหลอมรวมกับตัวเอง!

ตู้ม!

ขณะเมล็ดพันธุ์ปราณม่วงบุกเบิกฟ้าดินหลอมรวมเข้ากับร่างกาย พลังมหาศาลของโชคลาภบรรพกาลพลันระเบิด ในเวลาเดียวกันนั้นมีคลื่นปราณม่วงบุกเบิกฟ้าดินพลุ่งพล่านออกจากร่างของเหลยเหมิง

สามร้อยลี้!

สามพันลี้!

สามหมื่นลี้!

ปราณสีม่วงเดินทางไปสามหมื่นลี้ ก่อนที่มันจะหยุดนิ่ง!

ตู้ม! ตู้ม!

รากฐานการฝึกฝนของเหลยเหมิงหลอมรวมเข้ากับเมล็ดพันธุ์ปราณม่วงบุกเบิกฟ้าดินเช่นกัน มันเริ่มก้าวกระโดดอย่างบ้าคลั่ง

ขั้นกลางของกึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นสอง!

ขั้นสูงของกึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นสอง!

ขั้นสุดยอดของกึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นสอง!

…

เป็นไปได้ว่า ทันทีที่เมล็ดพันธุ์ปราณม่วงบุกเบิกฟ้าดินถูกหลอมรวมอย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นพรสวรรค์หรือพละกำลังของเหลยเหมิง ต่างเกิดการเปลี่ยนแปลงที่สะเทือนปฐพี

“ไม่เลว!”

ชายหนุ่มพยักหน้า จากนั้นเขานั่งขัดสมาธิบนพื้น หยิบกงล้อโชคชะตาออกมา

เห็นร่องวงกลมอยู่ตรงกลางของกงล้อโชคชะตา ร่องยาวสามพันเส้นถูกสลักอยู่รอบข้าง การทำงานของมันเหมือนกับการแนะนำระบบ มันสามารถแบกรับโชคชะตา แบกรับสามพันมหาวิถีได้

พลังของกงล้อโชคชะตาจะแข็งแกร่งขึ้นเมื่อมันแบกรับมหาวิถีและโชคชะตาเอาไว้ หากแบกรับโชคชะตาและสามพันมหาวิถี มันถึงขั้นสามารถควบคุมสวรรค์และปฐพี หรือแม้กระทั่ง…อุตรภาพ!!

“ข้าไม่รู้ว่ามหาวิถีบุกเบิกฟ้าดินที่อยู่ในเมล็ดพันธุ์ปราณม่วงบุกเบิกฟ้าดินจะสามารถแบกรับโดยกงล้อโชคชะตาได้หรือไม่?”

ทันใดนั้น หนิงฝานพยายามใช้กงล้อโชคชะตา!

ฟ้าว!

หลังจากนั้นลำแสงพุ่งออกจากกงล้อโชคชะตาก่อนปกคลุมเหลยเหมิงเอาไว้ ไม่สิ มันคือเมล็ดพันธุ์ปราณม่วงบุกเบิกฟ้าดินที่อยู่ในร่างของเหลยเหมิง แหล่งกำเนิดลึกลับของมหาวิถีถูกดึงออกมาในทันที หลอมรวมเข้ากับกงล้อโชคชะตา!

ตู้ม!

ด้วยการหลอมรวมกับแหล่งกำเนิดของมหาวิถีบุกเบิกฟ้าดิน ลำแสงที่ทะลวงท้องนภาพลันระเบิดออกจากกงล้อโชคชะตา สาดส่องความว่างเปล่ามืดมิดภายในรัศมีหนึ่งล้านลี้

“นายท่าน?” เหลยเหมิงตกตะลึง

หนิงฝานถามว่า “ทำแบบนี้ส่งผลกับเจ้าหรือไม่?”

เหลยเหมิงสัมผัสสักพักจากนั้นก็ตอบว่า “มันไม่ได้ส่งผลกับข้า แค่รู้สึกว่าเมล็ดพันธุ์ปราณม่วงบุกเบิกฟ้าดินมีพลังมากขึ้น ข้าจะพูดอย่างไรดี มันเหมือนกับแม่กุญแจ ส่วนข้ามีกุญแจอยู่กับตัว แต่ตอนนี้คนอื่นก็มีเช่นกัน มันเป็นความรู้สึกที่ถูกควบคุม!”

“อย่างนั้นหรือ?”

หนิงฝานขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่ากงล้อโชคชะตาอยากแบกรับมหาวิถีเอาไว้ แต่มันไม่จำเป็นต้องสังหารเจ้าของมหาวิถีแต่อย่างใด

แน่นอน การควบคุมมหาวิถีของผู้อื่น ใช่ว่าจะทำได้โดยง่าย

“นายท่าน นี่มันสมบัติอะไรกัน?”

ตอนนี้ เหลยเหมิงอดที่จะถามไม่ได้ ไม่ใช่เพราะเขาไม่พึงพอใจหนิงฝาน ถึงอย่างไร เมล็ดพันธุ์ปราณม่วงบุกเบิกฟ้าดินก็เป็นสิ่งที่หนิงฝานมอบให้ ต่อให้โดนเอากลับคืนไปเขาก็ไม่อาจบ่นได้ เขาเพียงแค่สงสัยก็เท่านั้น

“อย่าถามมาก!”

ทว่าหนิงฝานส่ายหน้า จากนั้นก็กล่าวว่า “รีบหลอมรวมเสีย!”

“ขอรับ!”

เหลยเหมิงไม่ถามอะไรอีก ยังคงหลอมรวมเมล็ดพันธุ์ปราณม่วงบุกเบิกฟ้าดินต่อไป

“โห! ในเมื่อสามารถแบกรับต้นกำเนิดของมหาวิถีเมล็ดพันธุ์ปราณม่วงบุกเบิกฟ้าดินได้ มหาวิถีต้องห้ามที่เป็นตัวแทนพลังต้องห้ามในร่างกายของข้า น่าจะสามารถแบกรับไว้ได้เหมือนกัน!”

ลมหายใจต่อมา หนิงฝานครุ่นคิด ลำแสงสายหนึ่งปรากฏขึ้นบนกงล้อโชคชะตา ปกคลุมเขาเอาไว้!

วิ้ง!

เมื่อกงล้อโชคชะตาสั่นสะท้าน พลังต้นกำเนิดมหาวิถีต้องห้ามถูกดึงออกมาทันที ก่อนหลอมรวมเข้าไปในกงล้อโชคชะตา!

ตู้ม!

ลำแสงอีกสายทะลวงขึ้นท้องนภา มหาวิถีต้องห้ามถูกแบกรับไว้อีกครั้ง!

“เหอะ ๆ! ยอดเยี่ยม!”

เมื่อเห็นเช่นนี้ หนิงฝานลอบยิ้มออกมา

เมื่อแบกรับมหาวิถีทั้งสองเอาไว้ เขาสามารถใช้พลังของมหาวิถีทั้งสองได้ เป็นไปได้ว่า หากสามารถแบกรับมหาวิถีโดยใช้โชคชะตาเพียงอย่างเดียวได้ กงล้อโชคชะตานี้ย่อมน่าสะพรึงไม่เบา!

วิ้ง! วิ้ง!

ในที่สุด เมื่อกงล้อโชคชะตาลอยอยู่เหนือศีรษะ กลิ่นอายลึกลับสองกลุ่มของมหาวิถีพลันเคลื่อนลงมา

หนิงฝานเริ่มฝึกฝน

ตู้ม! ตู้ม!

ด้วยการทำงานของคัมภีร์โบราณราชันจักรพรรดิเซียน สมบัติเซียนจำนวนมากที่ได้รับมาจากด่านแรกของเส้นทางราชันจักรพรรดิกลายเป็นคลื่นพลังงานก่อนเข้าสู่ร่างกาย เพียงพริบตา รากฐานการฝึกฝนของหนิงฝานเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน

หลังจากนั้น…

หนึ่งปี!

สองปี!

สามปี!

สามปีเต็ม ที่หนิงฝานใช้ทรัพยากรทั้งหมด จึงทำให้การฝึกฝนของเขาถึงจุดสูงสุดของกึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นสาม!

ในวันเดียวกัน เหลยเหมิงหลอมรวมเข้ากับเมล็ดพันธุ์ปราณม่วงบุกเบิกฟ้าดินได้อย่างสมบูรณ์

ในตอนนี้ เขาไม่หัวล้านอีกต่อไป แต่มีผมยาวสีม่วง ลวดลายศักดิ์สิทธิ์รูปทรงเพชรก่อเกิดขึ้นตรงหว่างคิ้ว แผ่กลิ่นอายสีม่วงโอ่อ่าออกมา!

ลวดลายศักดิ์สิทธิ์รูปทรงเพชรคือ เมล็ดพันธุ์ปราณม่วงบุกเบิกฟ้าดิน หากพละกำลังของเหลยเหมิงเพิ่มขึ้นจนเข้าใจมหาวิถีบุกเบิกฟ้าดินในอนาคต เมล็ดพันธุ์ปราณม่วงบุกเบิกฟ้าดินจะงอกขึ้นมา ก่อเกิดใบ… เมื่อมันเติบโตเป็นต้นบุกเบิกฟ้าดินในที่สุด มันจะสามารถควบคุมมหาวิถีบุกเบิกฟ้าดินได้ ก่อนก้าวเข้าสู่ขอบเขตแห่งการรู้แจ้งทางเลือก!

ถึงแม้ตอนนี้จะมีเพียงเมล็ดพันธุ์ แต่การฝึกฝนของเขายังคงไปถึงกึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นสี่!

เหลยเหมิงในตอนนี้ ไม่ได้ด้อยไปกว่าคุณชายจื่อเซียวที่ตายไปแล้ว อาจจะแข็งแกร่งกว่าเสียด้วยซ้ำ!

“ขอบคุณนายท่านที่ให้ข้าฝึกฝน!”

ตอนนี้เหลยเหมิงคุกเข่าข้างหนึ่ง กล่าวขอบคุณหนิงฝานจากใจจริง

วันนี้เขากล้าพูดได้ว่าตัวเองเหมือนเกิดใหม่ แม้แต่ในอนาคตก็อาจจะมีโอกาส คำชื่นชมต่าง ๆ อีกในอนาคต ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่หนิงฝานมอบให้

“ด้วยความยินดี ลุกขึ้นเสีย!”

หนิงฝานยิ้ม จากนั้นกล่าวว่า “ในเมื่อหลอมรวมเมล็ดพันธุ์ปราณม่วงบุกเบิกฟ้าดินเสร็จแล้ว เช่นนั้นก็ไปกันต่อเถอะ!”

ฟิ้ว!

หลังจากนั้นทั้งสองออกจากซากดาวดวงนี้ไป กลายเป็นแสงสว่างศักดิ์สิทธิ์อีกครั้งก่อนบินเข้าไปในความว่างเปล่าไร้ที่สิ้นสุด ยังคงมุ่งสู่ด่านที่สองของเส้นทางราชันจักรพรรดิ

ไม่ช้า ระหว่างทางทั้งสองเผชิญหน้ากับอันตราย ในเศษซากดวงดาวแห่งหนึ่ง กลุ่มสิ่งมีชีวิตจำพวกตั๊กแตนพุ่งออกมา แต่ละตัวมีขนาดใหญ่เท่าขุนเขา ทั้งดุร้ายและน่าสะพรึง!

ฝูงแมลงนับล้าน อย่างน้อยพวกมันทั้งหมดอยู่ระดับจักรพรรดิขอบเขตขีดสุด ถึงขั้นมีกึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นสามรวมอยู่ด้วย!

“แมลงกินดวงดาว!”

หนิงฝานจดจำสิ่งมีชีวิตนี้ได้อย่างรวดเร็ว เพราะจากแผนที่เส้นทางราชันจักรพรรดิในแหวนของทูตพิทักษ์ ได้มีการบันทึกหลายสิ่งบนเส้นทางราชันจักรพรรดิ หนึ่งในนั้นคือแมลงกินดวงดาวเหล่านี้ มีขนาดเท่าขุนเขา บางตัวใหญ่เท่าดวงดาว จึงทำให้กลืนกินดวงดาวได้!

เมื่อเห็นแมลงกินดวงดาวมาจากทั่วท้องนภา ชายหนุ่มเตรียมที่จะชักกระบี่!

ทว่าครั้งนี้เหลยเหมิงพูดล่วงหน้าว่า “นายท่าน เชิญท่านพักก่อน ให้ข้าจัดการเอง!”

ตู้ม!

เหลยเหมิงก้าวไปข้างหน้า ทั่วทั้งร่างสั่นสะท้าน คลื่นพลังงานสีม่วงโอ่อ่าขนาดใหญ่พลุ่งพล่านในร่างกาย

“ทำลาย!!”

ทันใดนั้น สิ้นเสียงตะโกนดังสนั่น เหลยเหมิงซัดหมัดตรงไปข้างหน้า!

ตู้ม!

เพียงหนึ่งหมัด พลังบรรพกาลไร้ที่สิ้นสุดพลันกวาดออกไปราวกับทะเลคลุ้มคลั่ง

ปัง!

ขณะรอยหมัดบุกเบิกฟ้าดินผ่าน ปราณสีม่วงพลุ่งพล่านอย่างรุนแรง แมลงกินดวงดาวล้มลง!

ท้ายที่สุด เมื่อรอยหมัดซัดออกไปสามหมื่นลี้ แมลงกินดวงดาวทั้งหมดที่พุ่งเข้ามาถูกกวาดล้าง ไม่มีตัวไหนรอด!

“ยอดเยี่ยม!”

เมื่อเห็นอย่างนี้ หนิงฝานก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจทันที

เหตุผลที่ทำไมเขาปลูกเมล็ดพันธุ์ปราณม่วงบุกเบิกฟ้าดินไว้กับเหลยเหมิง เป็นเพราะอยากฝึกฝนนักสู้แข็งแกร่ง ถึงอย่างไร เส้นทางราชันจักรพรรดิยังอีกยาวไกล อันตรายมากล้น ดังนั้นเขาจะทำทุกอย่างเพียงคนเดียวไม่ได้!

เมื่อมาดูตอนนี้ ผลลัพธ์นับว่าไม่เลว!

เหลยเหมิงในวันนี้ได้หลอมรวมกับเมล็ดพันธุ์ปราณม่วงบุกเบิกฟ้าดินแล้ว นับว่าเป็นอัจฉริยะผู้แข็งแกร่งที่สุดในเส้นทางราชันจักรพรรดิ หากมีเขา อันตรายโดยส่วนใหญ่ สามารถให้เขาจัดการได้อย่างอยู่หมัด

“ขอบคุณสำหรับคำชม!”

เมื่อได้รับคำชมของหนิงฝาน เหลยเหมิงคล้ายกับตื่นเต้นยิ่งเช่นกัน

ถึงอย่างไรในฐานะผู้ติดตาม หากหนิงฝานลงมือทำทุกอย่าง เขาคงรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า

“ไปกันต่อ!”

หลังจากสังหารแมลงกินดวงดาวแล้ว พวกหนิงฝานยังคงไปข้างหน้าต่อ!

ระหว่างทาง อันตรายจำนวนมากปรากฏขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งแมลงกินดวงดาว คลื่นทำลายโลก เพลิงมรณะแห่งความว่างเปล่าและอื่น ๆ

แต่ด้วยฝีมือของเหลยเหมิง หนิงฝานแทบไม่ต้องลงมือแต่อย่างใด

หนึ่งปี!

สามปี!

ห้าปี!

พวกเขาอยู่ในความว่างเปล่ามานาน เพียงพริบตา เวลาก็ผ่านมาห้าปีแล้ว

ถึงแม้หนิงฝานและเหลยเหมิงจะเดินทางมาห้าปี แต่พวกเขากลับไปได้เพียงครึ่งทางก่อนจะเข้าด่านที่สองของเส้นทางราชันจักรพรรดิ

ตู้ม! ครืนนน! ในวันนี้ ตรงหน้าทั้งสอง หลุมดำขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น

หลุมดำกลืนกินทุกสิ่งในความว่างเปล่านี้ ชิ้นส่วนของโลก รวมถึงเศษซากดวงดาวล้วนถูกกลืนกิน ฉีกกระชาก เป็นภาพที่น่าสยดสยองนัก!

“อ้อมไป!”

หากเป็นหลุมดำ หนิงฝานไม่กล้าเข้าปะทะ

ถึงอย่างไร หลุมดำเป็นตัวแทนของสิ่งที่ไม่รู้จักและความโกลาหล หากพยายามทะลวงเข้าไป มีหวังถูกฉีกกระชากหากพลาดพลั้งขึ้นมา ต่อให้ไม่ถึงขั้นถูกฉีกกระชาก ก็จะถูกย้ายไปสู่ดินแดนที่ไม่รู้จัก หลงทางตลอดกาล

“ได้!”

เหลยเหมิงย่อมทราบถึงอันตรายของหลุมดำ หลุมดำประเภทนี้ หากไม่ใช่ยอดฝีมือไร้เทียมทานอย่างผู้รู้แจ้งคนอื่น แม้กระทั่งยอดฝีมือกึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นเก้า ยังไม่กล้าทะลวงเข้าไป!

โฮก!

ทว่า เมื่อหนิงฝานและเหลยเหมิงกำลังจะผ่านหลุมดำไป เสียงคำรามของอสูรร้ายทรงพลังยิ่งพลันดังออกมาจากหลุมดำ คลื่นเสียงอันน่าสะพรึง ทำให้ความว่างเปล่าภายในรัศมีหนึ่งล้านลี้แตกสลาย!

ภายใต้สายตาตกตะลึงของทั้งสอง อสูรร้ายขนาดใหญ่ยิ่งโผล่ออกมาจากหลุมดำ!