ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 453 ระลอกคลื่น (ต้น)

ตอนที่ 453 ระลอกคลื่น (ต้น)

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​หันไป​มอง​เงา​แผ่น​หลัง​ของ​สวี​ซื่อ​ฉิน​ที่​กำลัง​ส่ายหน้า​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ยัง​เรือน​ของ​สือ​อี​เหนียง

สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยกำ​ลัง​นั่ง​อยู่​บน​เตียง​เตา​ใหญ่​ริม​หน้าต่าง​ ​ทั้งคู่​กำลัง​ดื่ม​น้ำแกง​สมุนไพร​ไป่​เห​อพ​ลาง​พูดคุย​กับ​สือ​อี​เหนียง

“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​ว่า​ชื่อ​ลี่ว​์​เสวี​่​ยกับ​เอ๋อร​์​หรุ​่​ยดี​หรือไม่​ ​ชื่อ​เข้ากับ​ปี้​หลัว​และ​อวี​่ฮ​วา​พอดี​เลย​”​ ​หลังจากที่​เขา​ป่วย​นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​สวี​ซื่อ​จุน​ออกจาก​เรือน​ ​เขา​พึ่ง​ได้​สาวใช้​ใหม่​มาส​องคน​ ​และ​กำลังจะ​ตั้งชื่อ​ให้​กับ​สาวใช้​ทั้งสอง​ ​ขณะที่​เขา​กำลัง​พูด​อยู่​นั้น​ ​จู่ๆ​ ​เขา​ก็​ชะงัก​ไป​ ​แล้วจึง​ค่อย​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​เหมาะกับ​ฉา​เซียง​ด้วย​”

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ว่า​ชื่อ​ที่​พ่อแม่​ตั้ง​ให้​นั้น​ถือเป็น​ชื่อ​ที่​มี​เอกลักษณ์​เฉพาะตัว​ ​ไม่​เหมือนกับ​ใคร​ใน​สังคม​นี้​ ​เดิมที​สาวใช้​มีชื่อ​ว่า​อะไร​ ​พอ​มาป​รน​นิ​บัติ​รับใช้​ข้าง​กาย​นาง​ก็​ยัง​ใช้​ชื่อ​เดิม​ของ​พวก​นาง​ ​แต่​ไท่ฮู​หยิน​และฮู​หยิน​สอง​กลับ​คิด​ไม่​เหมือนกัน​ ​สาวใช้​ที่​ปรนนิบัติ​รับใช้​ข้าง​กาย​จะ​ถูก​ตั้งชื่อ​ใหม่​ตาม​ความชอบ​ของ​ตนเอง​ทุกคน​ ​สวี​ซื่อ​จุน​เอง​ก็ได้​รับ​อิทธิพล​มาจาก​ไท่ฮู​หยิน​ ​แต่ทว่า​ ​เรื่อง​เหล่านี้​ล้วน​เป็นเรื่อง​ธรรมดา​ทั่วไป​ของ​ตระกูล​ที่​ร่ำรวย​และ​มี​ฐานะ​บรรดาศักดิ์​สูงส่ง​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​ชื่อ​ชาเขียว​เต็ม​ทั้ง​เรือน​”

สวี​ซื่อ​จุน​ได้ยิน​แล้วก็​เม้มปาก​ยิ้ม​ตาม

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​จ้องมอง​สือ​อี​เหนียง​ที่​กำลัง​ยิ้ม​บาง​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​มอง​สวี​ซื่อ​จุน​ที่​กำลัง​อารมณ์ดี​ ​เขา​จึง​พูด​ขึ้นเสียง​ดัง​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ข้า​ก็​จะ​ตั้งชื่อ​ให้​สาวใช้​ด้วย​!​”

แต่​ครั้งนี้​ไม่ได้​เปลี่ยน​สาวใช้​ที่​เรือน​ของ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยด​้วย

สือ​อี​เหนียง​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​รอ​ให้​เรือน​ของ​เจ้า​มีสาว​ใช้​ใหม่​ ​เจ้า​ค่อย​ตั้งชื่อ​ให้​กับ​พวก​นาง​ก็​ยัง​ไม่​สาย​!​”

สวี​ซื่อ​เจี​้ย​รู้สึก​ผิดหวัง​เป็นอย่างมาก​ ​สายตา​ของ​เขา​เหลือบ​ไป​มอง​ซื่อ​สี่​ที่​กำลัง​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ ​ดวงตา​ของ​เขา​ก็​เป็นประกาย​ขึ้น​มา​ ​รีบ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ข้า​ตั้งชื่อ​ใหม่​ให้​กับ​ซื่อ​สี่​ดีกว่า​!​”

ซื่อ​สี่​ที่​ถูก​พูดถึง​ก็​อึ้ง​จน​ตาค้าง​ไป​หมด

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​เจื่อน​ๆ​ ​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ซื่อ​สี่​ก็​มีชื่อ​อยู่​แล้ว​ ​อีก​อย่าง​ทุกคน​ก็​เรียก​จน​ชินปาก​แล้วด้วย​”

ซื่อ​สี่​ได้ยิน​แล้วก็​รู้สึก​ใจกล้า​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​นาง​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​บ่าว​เป็น​บุตรสาว​คนที​่​สี่​ของ​ที่​บ้าน​ ​อีกทั้ง​ยัง​เป็น​บุตรสาว​เพียง​คนเดียว​ ​ท่าน​พ่อ​ของ​ข้า​ดีใจ​เป็นอย่างมาก​ ​ก็​เลย​ตั้งชื่อ​บ่าว​ด้วย​อักษร​ ​‘​สี่​’​ ​ที่​แปล​ว่า​สิริมงคล​เจ้าค่ะ​…​”

สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​็​รู้สึก​ผิดหวัง​เป็นอย่างมาก​ ​“​แล้ว​…​แล้ว​จะ​ทำ​อย่างไร​ดี​เล่า​”

สวี​ซื่อ​จุน​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​“​เช่นนั้น​เจ้า​เลือก​จาก​ลี่ว​์​เสวี​่​ยกับ​เอ๋อร​์​หรุ​่ย​ไป​สัก​คนดี​หรือไม่​”

“​แต่​พวก​นาง​มี​กัน​ชื่อ​กัน​หมด​แล้ว​นี่​นา​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ยังคง​ติดกับ​ปัญหา​เดิม

สือ​อี​เหนียง​หัวเราะ​ออกมา​เสียงดัง​ด้วย​ความ​เอ็นดู​ ​ขณะที่​กำลัง​ลูบ​ศีรษะ​ของ​เขา​เบา​ๆ​ ​ก็​มีสาว​ใช้​เปิดม่าน​พา​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เข้ามา​ด้านใน

สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ตะโกนเรียก​เสียงดัง​ว่า​ ​“​พี่​หญิง​ใหญ่​”

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​อุ้ม​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ขึ้น​มาก​อด​ไว้​ ​แล้ว​หันไป​ถาม​สวี​ซื่อ​จุน​ว่า​ ​“​เจ้า​ดีขึ้น​บ้าง​แล้ว​หรือยัง​”

สวี​ซื่อ​จุน​ยิ้ม​พร้อมกับ​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​พรุ่งนี้​ข้า​จะ​ไป​เรียนหนังสือ​ที่​เรือน​ซวงฝู​แล้ว​”

“​เช่นนั้น​เจ้า​จะ​ต้อง​ตั้งใจ​เรียน​ให้​มาก​ๆ​!​”​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​รีบ​ชดเชย​บทเรียน​ที่​เจ้า​ไม่ได้​เรียน​กลับมา​ให้​หมด​!​”

สวี​ซื่อ​จุน​รีบ​พยักหน้า​ตอบ​ทันที

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​พูดถึง​สวี​ซื่อ​อวี​้​ขึ้น​มา​ ​“​…​เห็น​บอกว่า​จะ​เดินทาง​พรุ่งนี้​แล้ว​ ​ตอนที่​ข้า​ไป​ถึง​ ​พี่ใหญ่​และ​น้อง​สาม​ก็​กำลัง​อำลา​พี่​สอง​อยู่​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​แล้ว​ออก​ความคิดเห็น​ว่า​ ​“​พรุ่งนี้​พวกเรา​ไป​ส่ง​เขา​ด้วยดี​กว่า​!​”

นี่​คือ​สิ่ง​ที่​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ต้องการ​ ​ส่วน​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​เพราะว่า​เป็นความ​คิด​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​ทั้งสอง​ก็​ย่อม​เห็นด้วย​กับ​สือ​อี​เหนียง

ทุกคน​ก็​พากัน​ปรึกษาหารือ​กัน​ว่าวั​นพรุ​่ง​นี้​จะ​มอบ​อะไร​ให้​สวี​ซื่อ​อวี​้​ดี

จากนั้น​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็ได้​พูดถึง​สวี​ซื่อ​ฉิน​ให้​สือ​อี​เหนียง​ฟัง

สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ถอนหายใจ​ออกมา​เบา​ๆ

จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ย​่​วน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เป็น​บุตรสาว​อนุ​ของ​จง​ฉินปั​๋ว​ ​สวี​ซื่อ​ฉิน​สู่ขอ​นาง​มา​เป็น​ภรรยา​ ​ก็​ถือว่า​ไม่น้อย​หน้า​ใคร​แล้ว​ ​โทษ​ก็​แต่​นิสัยใจคอ​ของฮู​หยิน​สาม​และ​กานฮู​หยิน​ที่​หัวรั้น​จน​เกินไป​ ​จากนั้น​ก็ได้​นึกถึง​โจวฮู​หยิน​และ​หวงฮู​หยิน​ ​ที่​ต่าง​ก็​เป็นห่วง​เรื่อง​งานแต่ง​ของ​สวี​ซื่อ​ฉิน​กัน​ ​แต่​ดู​จาก​ท่าที​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ราวกับว่า​ไม่​อยาก​ยื่นมือ​เข้ามา​ยุ่ง​กับ​เรื่อง​นี้​อย่างไร​อย่างนั้น​ ​ไม่ใช่​แค่​โจวฮู​หยิน​และ​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​เท่านั้น​ที่​ไม่​สามารถ​ตัดสินใจ​เรื่อง​นี้​ได้​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​เป็น​ตระกูล​อื่น​ ​ก็​ไม่​สามารถ​พูด​อะไร​ได้มา​กก​ว่านี​้​ ​ก็​คงจะ​ต้อง​พัก​เรื่อง​นี้​ไว้​ก่อน

แต่ทว่า​ ​หลังจากที่​ลอง​คำนวณ​เวลา​ดูแล​้ว​ ​วัน​ก็​ตรง​กับ​ที่​คุณชาย​สาม​ต้อง​กลับมา​ปฏิบัติตาม​กฎข้อบังคับ​และ​รับ​การ​ตรวจสอบ​พอดี​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​คงจะ​ตั้งอกตั้งใจ​รอคอย​คุณชาย​สาม​และฮู​หยิน​สาม​กลับมา​ก่อน​เสียมา​กก​ว่า

“​หากย​่​วน​เจี่ย​เอ๋อร​์​กำหนด​วัน​แต่ง​เรียบร้อย​แล้ว​ ​ข้า​จะ​บอก​เจ้า​เอง​”

หลังจากที่​แบกรับ​ความผิด​ใน​คราว​นั้น​ ​หาก​รู้​ว่าย​่​วน​เจี่ย​เอ๋อร​์​สามารถ​แต่งงาน​ออกเรือน​ได้​อย่างราบรื่น​ ​ก็​คงจะ​รู้สึก​สบายใจ​ขึ้น​กระมัง​!

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​อย่าง​อ่อนช้อย

สวี​ซื่อ​จุน​เดิน​เข้ามา​พูด​ต่อ​จาก​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ว่า​ ​“​พี่​หญิง​ใหญ่​ ​พี่​หญิง​ใหญ่​ ​ข้า​กับ​น้อง​ห้า​ช่วยกัน​ทำ​โคมไฟ​มอบให้​เขา​ดี​หรือไม่​”

“​วัน​ค่ำ​สิบห้า​เดือนอ้าย​ผ่าน​ไป​แล้ว​ ​วัน​ค่ำ​สิบห้า​เดือน​แปด​ก็​ยัง​ไม่​ถึง​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​จะ​ทำ​โคมไฟ​อะไร​ดี​!​”

ตั้งแต่​สอง​คน​นี้​ถูก​คน​ทั้ง​จวน​ชม​ไม่ขาดสาย​ตอน​ไป​ลอย​ประ​ธี​ปด​อก​บัว​ที่​แม่น้ำ​ใน​เทศกาล​วัน​สารท​จีน​ ​หลังจากนั้น​สิ่ง​ที่​ทั้งสอง​ชอบ​ทำ​มาก​ที่สุด​ก็​คือ​โคมไฟ​หลาก​สีสัน

สวี​ซื่อ​จุน​เก้อเขิน​และ​ไม่กล้า​ที่จะ​หัวเราะ​ออกมา

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​พี่​สอง​ชอบ​อ่านหนังสือ​ตำรา​ที่สุด​ ​พวกเรา​มอบ​สี่​สิ่งล้ำค่า​แห่ง​ห้อง​ตำรา​ให้​กับ​พี่​สอง​ก็แล้วกัน​!​”

ทุกคน​พูดคุย​โต้ตอบ​กัน​อย่าง​ชื่นมื่น​ ​คุย​กัน​ราว​ครึ่ง​ค่อนวัน​เห็นจะ​ได้​ ​เมื่อถึง​เวลา​พลบค่ำ​ ​ก็​ไป​ทานอาหาร​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ด้วยกัน​ ​ครึกครื้น​เป็นอย่างมาก​ ​พลอย​ทำให้​สีหน้า​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ดู​สดชื่น​ขึ้น​มาก

เช้าตรู่​วันรุ่งขึ้น​ ​สือ​อี​เหนียง​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​็​ไป​ส่ง​สวี​ซื่อ​อวี​้​ที่​หน้า​ประตู​ใหญ่​ ​สือ​อี​เหนียง​มอบ​พู่กัน​ขน​หมาป่า​สอง​ด้าม​ให้​กับ​เขา​ ​ส่วน​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​มอบ​กระดาษ​เฉิง​ซิน​สี่​ปึก​ ​สวี​ซื่อ​จุน​มอบ​ที่​ล้าง​พู่กัน​ทรง​ใบบัว​ ​สวี​ซื่อ​เจี้ยม​อบ​ที่​วาง​พู่กัน​ไม้​ไผ่​ ​สวี​ซื่อ​ฉิน​และ​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​จะ​ออก​ไป​ส่ง​เขา​ที่​ประตูเมือง

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​หันไป​มอง​รถม้า​ที่​คลุม​ด้วย​ผ้าไหม​สีดำ​ทั้งสอง​คันที​่​จอด​อยู่​หน้า​ประตู​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รู้สึก​บีบ​หัวใจ​ ​นาง​จึง​หันไป​กำชับ​กับ​เหวิน​จู๋​ว่า​ ​“​…​เจ้า​จะ​ต้อง​ดูแล​คุณชาย​น้อย​สอง​ให้​ดี​ ​หาก​มีเรื่อง​อะไร​จะ​ต้อง​รีบ​กลับมา​แจ้ง​ข่าว​ทันที​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​เห็น​ว่านาง​เศร้าใจ​เป็นอย่างมาก​ ​จึง​ปลอบโยน​นาง​ว่า​ ​“​เขาลั​่ว​เย​่ว​์​ห่าง​จาก​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​เพียง​ครึ่ง​วัน​เท่านั้น​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​นี่​ก็​ใกล้​จะ​ถึง​เทศกาล​วัน​ไหว้พระ​จันทร์​แล้ว​ ​อีก​ไม่​กี่​วัน​ข้า​ก็​จะ​กลับมา​อีก​”

เทศกาล​วัน​ไหว้พระ​จันทร์​เป็น​วันที่​ครอบครัว​มารวม​ตัว​กัน​อย่าง​พร้อมหน้าพร้อมตา​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ย่อม​ต้อง​กลับมา​ร่วมงาน​เทศกาล​ไหว้พระ​จันทร์ที​่​จวน​อย่างแน่นอน

เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​จึง​ไม่ได้​พูด​อะไร​ต่อ​ ​หลังจากที่​สวี​ซื่อ​อวี​้​ออกเดินทาง​ไป​แล้ว​ ​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​็​ได้​ไป​ยัง​เรือน​ซวงฝู​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ก็​ประคอง​สือ​อี​เหนียง​ค่อยๆ​ ​เดิน​กลับ​เรือน

เวลานี้​เอง​พ่อบ้าน​ไป๋​ก็ได้​ให้​บ่าว​รับใช้​ชาย​มาแจ้ง​ว่า​เรือน​ที่​ตรอก​จิน​อวี​๋​ของ​สือ​อี​เหนียง​สร้าง​เสร็จ​แล้ว

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ดีใจ​เป็นอย่างมาก

ที่นั่น​เป็น​ทรัพย์สมบัติ​ภายใต้​ชื่อ​ของ​นาง​เอง​ ​เวลา​ที่​ต้อง​ถอย​ออกมา​ยัง​มีที​่​นั่น​ให้​พักพิง​ ​จึง​ทำให้​มีความรู้สึก​ปลอดภัย​อย่าง​บอก​ไม่​ถูก

สือ​อี​เหนียง​อยาก​จะ​ไปดู​เสียหน่อย

แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​อนุญาต​ให้​ไป​ ​“​…​อากาศ​ร้อน​ขนาด​นี้​ ​นั่ง​รถม้า​ก็​เหน็ดเหนื่อย​ ​รอค​ลอด​ก่อน​แล้ว​ค่อย​ไป​”​ ​จากนั้น​ก็​เลย​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​ข้า​ให้​พวกเขา​ปล่อย​เรือน​ให้​ว่าง​ไว้​ก่อน​ ​รอ​เจ้า​สะดวก​เมื่อไร​ ​ก็​ค่อย​ไป​ต่อเติม​ก็​พอ​”

สือ​อี​เหนียง​จึง​ใช้​วิธี​จินตนาการ​เอา​ ​นาง​ให้​คน​ไป​นำ​แบบ​ของ​เรือน​ที่​ตรอก​จิน​อวี​๋​มา​ให้​ ​เวลาว่าง​ก็​จะ​ปรึกษาหารือ​กับ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​และ​หู่​พั่ว​ ​ว่า​ควรจะ​จัดวาง​ข้าวของเครื่องใช้​ไว้​ตรงไหน​อย่างไรบ้าง

หยาง​อี๋​เหนียง​ก็​ถือโอกาส​ตอนที่​มาคา​รวะ​มอบ​ผ้าอ้อม​เด็ก​ที่​ปัก​ด้วย​ลาย​เด็กน้อย​กำลัง​ละ​เล่น​ของเล่น​โบราณ

เด็กน้อย​แลดู​ร่าเริง​แจ่มใส​ ​สีสัน​สดใส​สวยงาม​ ​ดูออก​ว่า​ตั้งใจ​ทำเป็น​อย่างมาก

สือ​อี​เหนียง​กล่าว​ขอบคุณ​ ​สั่ง​ให้​หู่​พั่ว​นำ​ไป​เก็บ​ ​“​รอ​เด็ก​คลอด​ออกมา​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​อีกที​ก็แล้วกัน​!​”

หยาง​อี๋​เหนียง​ขานรับ​ด้วย​ความอ่อนโยน​แล้ว​หย่อน​กาย​นั่งลง​บน​เก้าอี้​ ​พูดคุย​ถามไถ่​เกี่ยวกับ​เด็ก​ใน​ครรภ์

“​สบายดี​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตอบกลับ​อย่าง​เรียบง่าย

สือ​อี​เหนียง​พูดคุย​กับ​นาง​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​หลังจากนั้น​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​ยก​น้ำชา​ขึ้น​มา​จิบ

หยาง​อี๋​เหนียง​จึง​ถอย​ออก​ไป​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​เมื่อ​กลับ​ไป​ถึง​เรือน​ ​สีหน้า​ของ​นาง​ก็​เปลี่ยนไป​ทันที

“​สือ​อี​เหนียง​คน​นี้​ ​เย่อหยิ่ง​เสีย​จริง​”

ป้า​หยาง​รู้สึก​เป็นห่วง​แทน​นาง​ขึ้น​มา​ ​“​แล้ว​…​แล้ว​เรา​จะ​ทำ​อย่างไร​ดีเจ​้า​คะ​!​”​ ​เมื่อ​นึกถึง​เรื่อง​ที่​ไท​เฮา​สวรรคต​แล้ว​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​เอง​ก็​ยัง​บริสุทธิ์​ ​จึง​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ ​“​ใน​ตอนแรก​ครรภ์​ของฮู​หยิน​ไม่​ค่อย​แข็งแรง​เท่าไร​นัก​ ​อีกทั้ง​ยัง​เกิดเรื่อง​ของ​ฉิน​อี๋​เหนียง​ขึ้น​มาด​้วย​ ​ท่าน​โหว​ไม่มี​กะ​จิต​กะ​ใจ​ก็​ย่อม​เป็นเรื่อง​ธรรมดา​อยู่​แล้ว​ ​อีก​อย่าง​ครึ่ง​ปี​ที่ผ่านมา​นี้​ท่าน​โหวดื​่ม​สุรา​ที่​เรือน​ของฮู​หยิน​เสีย​ส่วนใหญ่​…​หาก​จะ​รอ​ให้ท่าน​โหว​ว่าง​จริงๆ​ ​ก็​ยัง​มี​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​และ​เฉียว​อี๋​เหนียง​อีก​ ​ถึง​เวลา​นั้น​เกรง​ว่า​คงจะ​ไม่​ง่าย​เจ้าค่ะ​”

จันทร์เพ็ญ​จันทร์​เสี้ยว​ ​ท่าน​โหวก​็​อดทน​มาค​รึ​่​งค​่อน​ปี​แล้ว​ ​นี่​ก็​ถึง​เดือน​จันทร์​เสี้ยว​พอดี​ ​หากว่า​ตน​ไม่​สามารถ​ที่จะ​คว้า​โอกาส​นี้​ไว้​ได้​…​ไม่รู้​ว่า​มี​อะไร​บ้าง​ที่​ตน​จะ​ต้อง​ไป​เผชิญหน้า

หยาง​อี๋​เหนียง​นั่ง​อยู่​บน​เตียง​เตา​พร้อมกับ​กำมือ​แน่น

จากนั้น​ขยัน​ไปหา​สือ​อี​เหนียง​มากขึ้น​กว่า​เดิม

สือ​อี​เหนียง​ก็​ยังคง​เฉยชา​เหมือนเช่น​เดิม

หยาง​อี๋​เหนียง​จึง​รู้สึก​ร้อนใจ​ขึ้น​มา​ ​แต่​เวลา​นั้น​นาง​ก็​ไม่มี​วิธี​อื่น​ที่​ดีกว่า​นี้​เลย

วัน​คืน​ค่อยๆ​ ​ผ่าน​ไป​จนถึง​เทศกาล​วัน​ไหว้พระ​จันทร์​ ​ทั้ง​หน้า​เรือน​และ​หลัง​เรือน​ดังระงม​ไป​ด้วย​เสียงร้อง​ของ​จักจั่น

เริ่ม​จาก​จวน​จง​ฉินปั​๋​วที​่​ได้​ทำพิธี​สิ้นสุด​การ​ไว้ทุกข์​ให้​แก่นาย​ท่านปั​๋ว​คน​ก่อน​ ​จากนั้น​ก็​เป็น​กาน​เหล่า​เฉวียน​ที่​แอบ​ช่วย​คุณชาย​สาม​สร้าง​เรือน​สาม​ประตู​ทางเข้า​สาม​ห้อง​อาคาร​ลับหลัง​จวน​สกุล​สวีที​่​ตรอก​สือ​จี​ถัดจาก​ตรอก​จิน​อวี​๋​ไม่​ไกล​เท่าไร​นัก​ ​ต่อมา​ก็​เป็น​หลาน​ถิง​ที่​ต้องการ​จะ​แขวะ​เรื่อง​สินเดิม​ของ​เฉา​เอ๋อร​์​จึง​ได้​ไปหา​สือ​อี​เหนียง​ที่​จวน

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รู้สึก​ใจหาย​ ​พอต​กก​ลาง​คืน​ก็ได้​พูด​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ว่า​ ​“​…​เพื่อ​เป็นหน้าเป็นตา​ให้​กับ​เสียน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​ถึงขั้น​นำ​เครื่องประดับ​ผม​จำนวน​หนึ่ง​ที่มา​รดา​ของ​เฉา​เอ๋อร​์​เก็บ​ไว้​ให้​เฉา​เอ๋อร​์​ไป​ให้​กับ​เสียน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​เฉา​เอ๋อร​์​โมโห​จน​เอาแต่​นอนซม​อยู่​บน​เตียง​ ​ยังดี​ที่​หลาน​ถิง​เป็น​คน​นิสัย​ใจร้อน​พอตัว​ ​จึง​สามารถ​นำ​ของ​กลับมา​ได้​ ​เฉา​เอ๋อร​์​เป็น​น้องสาว​ร่วม​มารดา​ของ​ท่านปั​๋ว​ ​กานฮู​หยิน​ทำ​เช่นนี้​ก็​ถือว่า​เกินไป​หน่อย​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​จ้องมอง​ไป​ยัง​สือ​อี​เหนียง​ที่​เพราะ​ตั้งครรภ์​ใบหน้า​ของ​นาง​จึง​ดู​อุดมสมบูรณ์​และ​ขาว​เนียน​ผุดผ่อง​กว่า​เดิม​มาก​ ​จึง​ได้​กุมมือ​ของ​นาง​ด้วย​อาการ​ใจลอย​ไม่อยู่​กับ​เนื้อ​กับ​ตัว​ ​เขา​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ที่แท้​แล้ว​คุณหนู​สาม​สกุล​กาน​มีนาม​ว่า​เฉา​เอ๋อร​์​หรอก​หรือ​!​”

สือ​อี​เหนียง​ค่อนข้าง​รู้สึก​กระอักกระอ่วน​ใจ

ใน​สมัยโบราณ​ผู้คน​จะ​ไม่​ค่อย​เปิดเผย​นาม​จริง​ของ​บุตรสาว​ออกมา​ ​ตน​เป็น​เช่นนี้​ ​ดูเหมือนว่า​จิตใจ​ไม่​ค่อย​อยู่​กับ​เนื้อ​กับ​ตัว​เท่าไร​นัก​ ​จากนั้น​นาง​ก็ได้​นึกย้อน​กลับ​ไป​ยัง​คำพูด​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ว่า​เหตุใด​สวี​ลิ่ง​อี๋​ถึง​รู้​ว่า​คนที​่​นาง​พูดถึง​นั้น​เป็นคุณ​หนู​สาม​สกุล​กาน​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​เขา​รู้จัก​ชื่อสกุล​เดิม​ของ​เฉา​เอ๋อร​์​ ​จึง​พูด​ขึ้น​ด้วย​ความไม่พอใจ​ว่า​ ​“​หาก​ท่าน​โหว​ไม่รู้​จัก​นาม​จริง​ของ​คุณหนู​สาม​สกุล​กาน​ ​เหตุใด​ถึง​รู้​ว่า​คนที​่​ข้า​กำลัง​พูดถึง​นั้น​เป็น​เฉา​เอ๋อร​์​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​ดวงตา​ของ​นาง​เป็นประกาย​แวววาว​ขึ้น​มา​ ​ราวกับ​ดาวพระศุกร์​ที่​ขอบฟ้า​ก็​ไม่​ปาน​ ​จู่ๆ​ ​ก็​เกิด​รู้สึก​อิ่มเอม​ใจ​ขึ้น​มา​อย่าง​บอก​ไม่​ถูก​ ​หากว่า​สือ​อี​เหนียง​เป็น​เช่นนี้​ตลอดไป​ ​จะ​ดี​แค่ไหน​กัน

เขา​ยิ้ม​พร้อมกับ​บีบ​มือ​ของ​สือ​อี​เหนียง​เบา​ๆ​ ​“​พักผ่อน​เถิด​!​ ​พรุ่งนี้​เช้า​ต้อง​ไป​เดินเล่น​ที่​สวนดอกไม้​หลัง​เรือน​มิใช่​หรือ​!​”

ตั้งแต่​ครรภ์​ของ​นาง​เข้าสู่​เดือน​ที่​แปด​ ​ป้า​เถี​ยน​และ​ป้าวั​่​นก​็​คอย​พานาง​ไป​เดินเล่น​ที่​สวนดอกไม้​ทุกวัน​ ​วัน​ละครึ​่ง​ชั่ว​ยาม​ ​เห็น​ว่า​สามารถ​ช่วย​ให้​คลอด​ได้​ง่าย​ขึ้น

สือ​อี​เหนียง​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​เอน​ตัว​นอน

สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​หันไป​ดับไฟ​ใน​ตะเกียง​ ​วางมือ​ลง​บน​ท้อง​ของ​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​ความเคยชิน

สือ​อี​เหนียง​ดึง​ผ้าห่ม​ผืน​บาง​ขึ้น​มา​ห่ม​ ​จู่ๆ​ ​ก็ได้​ยิน​เสียง​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​อุทาน​ออกมา​พร้อมกับ​ลุกขึ้น​นั่ง

“​เกิด​อะไร​ขึ้น​หรือ​เจ้า​คะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ถาม​ขึ้น​ ​จากนั้น​ก็​รู้สึก​ว่า​มือ​ทั้งสอง​ข้าง​ของ​เขา​กำลัง​ลูบ​ท้อง​ของ​ตน​อยู่

“​เมื่อครู่นี้​เขา​เตะ​ข้า​ไป​หนึ่ง​ครั้ง​!​”​ ​น้ำเสียง​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เต็มไปด้วย​ความดีใจ​ ​“​ข้า​รู้สึก​อย่างชัดเจน​ว่า​เขา​เตะ​ข้า​ไป​หนึ่ง​ครั้ง​”​ ​แล้วจึง​พูด​ขึ้น​พึมพำ​ว่า​ ​“​เอ๊ะ​ ​เหตุใด​ถึง​ไม่​เคลื่อนไหว​แล้ว​ล่ะ​”​ ​จากนั้น​เขา​ก็​ลุกขึ้น​ไป​จุดไฟ​ตะเกียง​อีกครั้ง​ ​ลูบคลำ​ท้อง​ของ​นาง​ด้วย​ความตั้งใจ​ ​อยาก​จะ​สัมผัส​การเคลื่อนไหว​ของ​ลูก​อีกครั้ง

เพียงแต่ว่า​เด็ก​ขยับตัว​ค่อนข้าง​น้อย​ ​สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​ไม่ได้​รู้สึก​บ่อยครั้ง​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​คงจะ​ยิ่ง​แล้ว​ใหญ่

นาง​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​พร้อมกับ​หย่อน​ตัว​นั่งลง​ ​เอน​ตัว​พิง​ลง​บน​หมอนอิง​ ​“​เขา​ค่อนข้าง​เกียจคร้าน​…​”​ ​พึ่ง​จะ​พูด​จบ​ ​จู่ๆ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​แสดง​สีหน้า​ดีใจ​ออกมา​ ​“​เขา​เตะ​ข้า​อีกแล้ว​!​”​ ​จากนั้น​ก็​ชี้​ไป​ยัง​จุด​ที่​เด็ก​เตะ​ออกมา​ ​“​ตรงนี้​…​”​ ​ขณะที่​พูด​อยู่​นั้น​ ​จู่ๆ​ ​แววตา​ของ​เขา​ก็​เต็มไปด้วย​ความ​ไม่เข้าใจ​ ​“​แต่ทว่า​ก่อนหน้านี้​ไม่ใช่​ตรงนี้​นี่​นา​…​”​ ​พูด​พลาง​ขยับ​มือ​ไป​ลูบ​อีกที​่​หนึ่ง

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ว่าการ​อธิบาย​เรื่อง​เหล่านี้​ให้​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​นั้น​ค่อนข้าง​ยากลำบาก​ ​จึง​พูด​ขึ้น​ด้วย​ความคลุมเครือ​ว่า​ ​“​ป้า​เถี​ยน​บอกว่า​เป็น​อย่างนี้​อยู่​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

“​เช่นนั้น​หรือ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​หันไป​มอง​นาง​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​ก่อน​จะ​ค่อยๆ​ ​ลูบ​ท้อง​ของ​นาง​อย่างเบามือ​ ​“​เจ้า​ว่า​เขา​จะ​รู้สึก​ไม่สบาย​ตัว​หรือไม่​ ​มิเช่นนั้น​เขา​จะ​ถีบ​ท้อง​ทำไม​กัน​”

“​คง​เพราะ​อยู่​คนเดียว​ไม่สนุ​กก​ระ​มัง​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ลอยๆ

สวี​ลิ่ง​อี๋​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​แล้วก็​ได้​เพิ่ม​น้ำหนัก​มือ​มากขึ้น​กว่า​เดิม​ ​ค่อยๆ​ ​ลูบ​ท้อง​ของ​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​ความอ่อนโยน

แต่​เด็ก​ใน​ครรภ์​กลับ​ไม่มี​ปฏิกิริยา​ตอบสนอง​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​…

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท