ฉู่อวี๋หยงลูบหัวของน้องสาว ในขณะที่เขากำลังจะพูดบางอย่าง องค์หญิงจินเหยาก็ผละตัวออกจากอ้อมกอดของเขา
“เสด็จพี่หก” นางกดเสียงต่ำ พลันดึงฉู่อวี๋หยงให้เดินห่างจากประตู “ที่นี่มีแต่คนขององค์รัชทายาท”
นางพินิจใบหน้าของฉู่อวี๋หยง ถึงแม้จะเปลี่ยนเป็นชุดของขันที แต่อันที่จริงใบหน้ายังเป็นลักษณะที่นางคุ้นเคย…แต่นางก็ไม่คุ้นชินกับใบหน้าขององค์ชายหกมากนัก เพราะนางไม่เห็นลักษณะที่แท้จริงของเสด็จพี่หกมานานแล้ว เมื่อพบกันอีกครั้งก็ไม่ได้พบกันบ่อยนัก
เวลานี้สามารถเห็นใบหน้าของพี่หก ช่างน่าดีใจและเศร้าโศกเสียจริง
นางเคยคิดว่าฉู่อวี๋หยงจะมาพบนางเมื่อรู้ข่าว
แต่…
“องค์รัชทายาทคาดว่าท่านจะมา” องค์หญิงจินเหยาพูดด้วยความเศร้าและร้อนใจ “ด้านนอกมีทหารที่หลบซ่อนไว้เพื่อรอจับท่านอยู่เป็นจำนวนมาก”
ฉู่อวี๋หยงจูงนางเดินไปที่โต๊ะ พูดกลั้วหัวเราะ “ข้ารู้ ในเมื่อข้าเข้ามาได้ย่อมจากไปได้ เจ้าอย่าดูถูกเสด็จพี่หกของเจ้า”
ใช่ เสด็จพี่หกของนางไม่ใช่คนทั่วไป เขาเคยเป็นแม่ทัพหน้ากากเหล็กมาก่อน เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ องค์หญิงจินเหยาก็รู้สึกเศร้าอีกครั้ง “เสด็จพี่หก องค์รัชทายาทต้องการกำจัดท่านเพราะเรื่องแม่ทัพหน้ากากเหล็กหรือ เขาเข้าใจผิดใช่หรือไม่ เสด็จพ่อประชวรจนเลอะเลือน…”
ฉู่อวี๋หยงยิ้มพลันกดนางนั่งลงบนเก้าอี้ “เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องคิดมาก ข้าจะจัดการเอง”
พี่จะฆ่าน้อง บิดาจะฆ่าบุตร เรื่องแบบนี้ช่างทำให้คนอึดอัดใจเมื่อนึกถึง องค์หญิงจินเหยานั่งก้มหน้า แต่นาทีถัดมาก็ลุกขึ้นยืน
“เสด็จพี่หก” สีหน้าของนางจริงจัง “หม่อมฉันรู้ว่าท่านทำเพื่อหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันไม่อาจไปกับท่านได้”
ฉู่อวี๋หยงมองนางราวกับระอา “เจ้าฟังข้า…”
“เสด็จพี่หก ท่านฟังหม่อมฉัน” องค์หญิงจับเขาเอาไว้ พลางแย่งพูด “หม่อมฉันรู้ว่าออกเรือนไปยังซีเหลียงอาจไม่มีชีวิตที่ดี แต่ในเมื่อหม่อมฉันรับปากแล้ว ในฐานะองค์หญิงของต้าเซี่ย หม่อมฉันไม่อาจผิดคำพูดได้ องค์รัชทายาทไม่กล้าทำสงครามกับซีเหลียงก็ทำให้ต้าเซี่ยอับอายมากพอแล้ว หากหม่อมฉันหนีไปในเวลานี้ หม่อมฉันย่อมกลายเป็นความอับอายของต้าเซี่ย หม่อมฉันยอมตายในซีเหลียง ดีกว่าหนีระหว่างทาง”
ฉู่อวี๋หยงมองนาง พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “แน่นอน องค์หญิงแห่งต้าเซี่ยจะหนีได้อย่างไร จินเหยา ข้าไม่ได้มาพาเจ้าหนี ข้ามาเพื่อขอให้เจ้าช่วยข้า”
จินเหยาผงะไป “ฮะ? ไม่ได้มาพาหม่อมฉันหนีหรือ”
ฉู่อวี๋หยงกดนางนั่งลงอีกครั้ง “เจ้าไม่ให้ข้าพูดเสียที เจ้าพูดเองทั้งหมดไปแล้ว”
องค์หญิงจินเหยาหัวเราะออกมา “ได้ ท่านพูด ให้หม่อมฉันช่วยเรื่องใด”
เวลานี้นางยังทำสิ่งใดได้อีก
“ก่อนอื่นข้าต้องบอกเจ้าก่อน เสด็จพ่อไม่เป็นอันใด” ฉู่อวี๋หยงพูดเสียงเบา
องค์หญิงจินเหยาลุกพรวดขึ้นอีกครั้ง “เสด็จพี่หก ท่านมีทางช่วยเสด็จพ่อหรือ”
ฉู่อวี๋หยงยิ้มพลันส่ายหน้า “เสด็จพ่อไม่ต้องให้ข้าช่วย พระองค์ไม่ได้ประชวร ยิ่งไม่มีทางอยู่ได้ไม่นาน”
เรื่องนี้? องค์หญิงจินเหยาถลึงตาด้วยความสับสน “เหล่าหมอหลวงบอกว่า…อีกทั้งท่าทางของเสด็จพ่อ…”
“ข้าจะพูดง่ายๆ” ฉู่อวี๋หยงพิงเก้าอี้ คิ้วเรียวเลิกขึ้น “หูไต้ฟูหรือหมอเทวดาผู้นั้น ไม่ใช่ไต้ฟู”
หูไต้ฟูไม่ใช่ไต้ฟู เขาย่อมไม่อาจรักษาเสด็จพ่อได้ แต่หมอหลวงล้วนบอกว่าอาการของเสด็จพ่อรักษาไม่ได้…องค์หญิงจินเหยาถลึงตาโต สายตาของนางจากไม่เข้าใจแปรเปลี่ยนเป็นครุ่นคิด จากนั้นเหมือนเข้าใจบางอย่าง สีหน้าของนางเปลี่ยนเป็นขุ่นเคือง
“หมอหลวง!” นางกำมือแน่นพลันกัดฟัน “หมอหลวงทั้งหลายกำลังทำร้ายเสด็จพ่อ!”
ทั้งที่เสด็จพ่อไม่ได้ประชวร แต่บรรดาหมอหลวงที่มีหมอหลวงจางเป็นผู้นำกลับบอกว่าพระองค์ประชวรหนัก หมอหลวงจางต้องการทำร้ายเสด็จพ่ออย่างนั้นหรือ
ไม่ เรื่องนี้ไม่อาจเป็นฝีมือของหมอหลวงจางเพียงผู้เดียว อีกทั้งหากหมอหลวงจางต้องการทำร้ายเสด็จพ่อจริง เขาย่อมมีวิธีอื่นทำให้เสด็จพ่อเสียชีวิตได้ทันที ไม่ใช่ทรมานเช่นนี้
โจวเสวียนเป็นคนหาหูไต้ฟูมา คนที่ต้องการทำร้ายเสด็จพ่อคือโจวเสวียนหรือ แต่โจวเสวียนแทบจะไม่เข้าวังหลวง
องค์รัชทายาท…
ฉู่อวี๋หยงเอื้อมมือหนึ่งจับศีรษะของนางเอาไว้ พลันเคาะเบาๆ เพื่อขัดความคิดของนาง
“เอาเถิด เจ้าไม่ต้องคิดแล้ว” ฉู่อวี๋หยงพูด ก่อนจะกดองค์หญิงจินเหยานั่งลงอีกครั้ง “เจ้าฟังข้าพูด ก่อนหน้านี้ที่เสด็จพ่อทรงไม่ได้สติในตอนแรก ข้านำไต้ฟูเข้าวังหลวงเพื่อตรวจดูเสด็จพ่อจึงรู้ว่าไม่เป็นอันใด ต่อมาข้าหนีจากการตามจับ ได้ยินว่าอาการของเสด็จพ่อเลวร้ายลง จึงรู้สึกยิ่งมีปัญหา ดังนั้นจึงจับตาดูทางวังหลวงอยู่เสมอ ข้าให้คนติดตามเมื่อหูไต้ฟูถูกคุ้มกันกลับบ้านเกิด”
องค์หญิงจินเหยานั่งลงบนเก้าอี้และรับฟังอย่างตั้งใจ
“พบว่ามีคนแอบลงมือกับม้าของหูไต้ฟู หลังจากนั้นมีคนมาเปลี่ยนม้าของหูไต้ฟูไป”
“ตอนตกหน้าผา คนของข้าก็ใช้โซ่เหล็กกระโดดตามลงไป แต่ไม่คิดว่าหูไต้ฟูก็ใช้โซ่เหล็กปีนลงไปอย่างง่ายดาย”
“ม้าตัวนั้นตกจากหน้าผาตาย แต่ด้านล่างหน้าผามีคนรออยู่ไม่น้อย พวกเขาขนม้าตายตัวนี้จากไป อีกทั้งยังจัดการคราบเลือด”
“คนของข้าแอบตามคนเหล่านี้ คนเหล่านี้มีความสามารถมากทำให้เกือบจะตามไม่ทันหลายครั้ง โดยเฉพาะหูไต้ฟูผู้นั้น ประสาทสัมผัสว่องไว มือเท้าคล่องแคล่ว คนเหล่านั้นเรียกเขาว่าใต้เท้า ไม่ใช่ไต้ฟู”
คนแบบใดที่เรียกแทนว่าใต้เท้าได้! องค์หญิงจินเหยากำมือแน่น ย่อมต้องเป็นคนที่เป็นขุนนาง
“เขาน่าจะเป็นขุนนางฝ่ายทหาร” ฉู่อวี๋หยงพูด “สำเนียงเหมือนคนแคว้นฉี”
องค์หญิงจินเหยาเข้าใจแล้ว อีกฝ่ายเป็นคนของท่านอ๋องฉี
“ไม่ต้องคิดว่าเป็นคนของผู้ใด สิ่งที่ต้องทำคือจับตาดูคนเหล่านี้ไว้ให้ดี” ฉู่อวี๋หยงพูด “พวกเขาอ้อมไปอ้อมมาแต่ยังคงมุ่งหน้ามายังทิศทางของเมืองหลวง หลังจากนี้ย่อมรู้ว่าเป็นคนของผู้ใด”
องค์หญิงจินเหยาต้องการพูดบางสิ่ง แต่ฉู่อวี๋หยงพูดขัดนางอีกครั้ง
“ข้ามาเพื่อบอกเจ้า ให้เจ้ารู้ว่าเกิดเรื่องใดขึ้น ทางนี้มีข้าดูอยู่ เจ้าสามารถเดินทางไปซีเหลียงอย่างวางใจ” เขาพูด
องค์หญิงจินเหยาพยักหน้า นางวางใจแล้วจริงๆ นางถามอย่างจริงจังเมื่อนึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของฉู่อวี๋หยง “หม่อมฉันไปถึงซีเหลียงต้องทำสิ่งใด”
“ท่านอ๋องซีเหลียงย่อมไม่ได้ต้องการเพียงแค่สู่ขอ” ฉู่อวี๋หยงพูด “แต่เวลานี้ตัวตนของข้าไม่เหมาะสม ทางเมืองหลวงก็อันตรายอย่างมาก ข้าไม่อาจเดินทางไปดูด้วยตนเอง ดังนั้นเมื่อเจ้าถึงซีจิง ราชวงศ์ซีเหลียงย่อมออกมาต้อนรับ เจ้าต้องถ่วงเวลา อีกทั้งยังต้องรับมือกับราชวงศ์ซีเหลียง สืบจุดประสงค์ที่แท้จริงของพวกเขา”
องค์หญิงจินเหยาพยักหน้า พลันเผยยิ้ม “หม่อมฉันรู้แล้ว เสด็จพี่หก ท่านวางใจเถิด”
ดวงตาของฉู่อวี๋หยงอ่อนโยน “จินเหยา เรื่องนี้อันตรายอย่างมาก เพราะคนขององค์รัชทายาทติดตามอยู่ข้างกายเจ้า ข้าไม่อาจส่งคนมาคุ้มกันเจ้าได้มาก เจ้าต้องปรับตัวตามสถานการณ์” เขาหยิบแผ่นป้ายไม้รูปปลาออกมา
“เสด็จพี่หก ท่านให้ยันต์ป้องกันตัวแก่หม่อมฉันหรือ” องค์หญิงจินเหยายิ้มพลางยื่นมือรับมา
ฉู่อวี๋หยงพูดด้วยรอยยิ้ม “ใช่ ยันต์ป้องกันตัว หากมีสถานการณ์วิกฤต เจ้าถือป้ายนี้เอาไว้ ทางซีจิงมีกองกำลังให้เจ้าเคลื่อนย้าย” เขามองป้ายรูปปลาในมือของจินเหยาอีกครั้ง สีหน้าเย็นชา “ในมือข้ามีสิ่งที่เสด็จพ่อไม่ทรงอนุญาตอยู่มาก เขากลัวข้า เขาอยากฆ่าข้าในชั่วขณะที่คิดว่าตนเองกำลังจะตายก็ไม่ผิด”
องค์หญิงจินเหยายื่นมือกอดเขา “เสด็จพี่หกท่านเป็นคนที่เมตตาที่สุดในแผ่นดินนี้ คนอื่นไม่ดีต่อท่าน ท่านก็ไม่โกรธ”
ฉู่อวี๋หยงยิ้ม ลูบหัวขององค์หญิงจินเหยา
“ข้าไม่ใช่คนที่มีเมตตา” เขาพูดเสียงเบา “เจ้าจะเห็นเอง”
เมื่อเทียบกับฮ่องเต้ องค์รัชทายาท องค์ชายห้าหรือคนอื่น เขาเป็นคนที่เลือดเย็นที่สุด