บุปผาลิขิตแค้น – ตอนที่ 425 สถานการณ์

ตอนที่ 425 สถานการณ์

เฉิน​ตัน​จูนั​่​งอยู​่​ใน​คุก​ ​มองหน้า​ต่าง​ด้วย​ความเบื่อหน่าย​ ​แสง​และ​เงา​ประสานกัน​ ​นาง​มองดู​จนกระทั่ง​ลายตา

องค์​หญิง​จิน​เหยา​ไป​ถึง​ไหน​แล้ว

เฉิน​ตัน​จู​ก้มหน้า​ ​บน​พื้น​มีแผน​ที่​อย่าง​ง่าย​ที่​ใช้​ตะเกียบ​วาด​ขึ้น​ ​แผนที่​นี้​จู๋​หลิน​เคย​วาด​ให้​นาง​เพื่อ​รู้​เส้นทาง​ของ​ครอบครัว​ ​เมื่อ​พวกเขา​เดินทาง​ไป​ซีจิง​ในเวลานั้น

ตอนนั้น​นาง​ดู​เป็นประจำ​จึง​จำได้​ ​แต่​ไม่​คิด​ว่า​จะ​ได้​ใช้​ใน​การ​ส่ง​คนที​่​ระลึกถึง​จากไป​อีก​ใน​สักวัน

นาง​ถือ​ตะเกียบ​จิ้ม​แผนที่​บน​พื้น​ ​องค์​หญิง​จิน​เหยา​คงจะ​ได้​พบ​ฉู่​อวี​๋​หยง​ระหว่างทาง​ใช่​หรือไม่​ ​ถึงแม้​ฉู่​อวี​๋​หยง​จะ​หนี​ไป​ ​แต่​เขา​ไม่มีทาง​ทิ้ง​องค์​หญิง​จิน​เหยา​โดย​ไม่สน​ใจ​ ​องค์​รัชทายาท​คงมี​การ​เตรียมการ​แอบ​ซุ่ม​รอ​ฉู่​อวี​๋​หยง​มา​…

เวลานี้​นาง​ไม่รู้​เรื่อง​ที่เกิด​ขึ้น​ด้านนอก​แม้แต่น้อย

นับแต่​ฉู่​ซิว​หยง​จากไป​วันนั้น​ ​นาง​ก็​ตัดขาด​จาก​โลก​ ​ถึงแม้​จะ​ยัง​มี​อาหาร​วัน​ละ​สาม​มื้อ​ ​อีกทั้ง​ยัง​มีตำ​ราส​่​งมา​ให้​นาง​ ​แต่​เมื่อ​ไม่มี​องค์​หญิง​จิน​เหยา​ ​ไม่มี​อาจี​๋​ ​โลก​ที่​เงียบสงบ​ก็​เหมือนกับ​มีนาง​แค่​คนเดียว

เมื่อ​ฟ้า​เริ่ม​สว่าง​ขึ้น​ ​อา​เถี​ยน​เดิน​วนรอบ​วัง​หลวง​หลาย​รอบ​ ​ยิ่ง​มอง​กำแพง​วัง​ยิ่ง​สูง​ขึ้น​ ​ราวกับ​แปลงร่าง​เป็น​นก​ก็​บิน​ออก​ไป​ไม่ได้

ตอนที่​เฉิน​ตัน​จู​ถูกจับ​ไป​ ​อา​เถี​ยน​ก็​ถูกจับ​เข้า​ห้องขัง​ใน​ฐานะ​ผู้สมรู้ร่วมคิด​ ​แต่​นาง​ไม่ได้​ถูก​ขัง​ไว้​ร่วมกับ​เฉิน​ตัน​จู​ ​อีกทั้ง​ยัง​ถูก​ปล่อย​ออกมา​จาก​วัง​หลวง​เมื่อไม่นานมานี้

ไม่มี​ผู้ใด​บอก​เหตุผล​นาง​ ​ไม่มี​ผู้ใด​สนใจ​นาง

“​อา​เถี​ยน​ ​เจ้า​อย่า​วู่วาม​”​ ​เสียง​ของ​จู๋​หลิน​ดัง​ขึ้น​จาก​ระยะไกล​ ​คนที​่​เดิน​เข้ามา​จาก​ระยะไกล​ ​“​หาก​เจ้า​บุกเข้าไป​ ​เจ้า​จะ​ไม่ได้​พบ​คุณหนู​ตัน​จู​อีก​”

อา​เถี​ยน​ที่​มักจะ​เถียง​หรือไม่​สนใจ​คำพูด​ของ​เขา​ไม่​พูด​สิ่งใด​ ​นาง​ก้มหน้า​จับ​ผ้า​คาด​เอว​ของ​ตนเอง

จู๋​หลิน​ก็​อด​ก้มหน้า​ลง​ไม่ได้​ ​เสียง​ของ​เขา​อ่อนโยน​ลง​ ​“​คุณหนู​ต้อง​ไม่​เป็นอัน​ใด​ ​มิฉะนั้น​ไม่มีทาง​ไม่มี​ข่าว​”

อา​เถี​ยน​ตอบรับ​ ​“​เจ้า​อย่า​กังวล​ ​ข้า​ไม่มีทาง​หา​ที่​ตาย​ ​ถึงแม้​จะ​ต้องตาย​ ​ข้า​ก็​จะ​รอคุณ​หนู​ตาย​…​”​ ​เมื่อ​พูดถึง​ตรงนี้​ก็​ครุ่นคิด​ ​พลัน​ส่ายหน้า​ ​“​คุณหนู​ตาย​แล้ว​ ​ข้า​ก็​ตาย​ทันที​ไม่ได้​ ​ยัง​มีเรื่อง​ต้อง​ทำ​อีก​มาก​”

เก็บ​ร่าง​ของ​คุณหนู​ ​ฝัง​หรือ​ส่ง​ร่าง​ของ​คุณหนู​ไป​ให้​คุณหนู​ใหญ่​ใน​ซีจิง​ ​หาก​นายท่าน​ไม่ยอม​ให้​คุณหนู​เข้า​ประตู​ก็​ฝัง​อยู่​บน​ภูเขา​ดอก​ท้อ

จู๋​หลิน​ถอนหายใจ​ ​“​เรื่อง​ยัง​ไม่​เกิดขึ้น​ ​เจ้า​ก็​อย่า​คิด​เลย​ ​ข้า​รู้สึก​ว่า​คุณหนู​ตัน​จู​จะ​ไม่​เป็นอัน​ใด​”

อา​เถี​ยน​เงยหน้า​มอง​เขา​ ​“​จริง​หรือ​”

จู๋​หลิน​พยักหน้า​ ​“​ใช่​ ​คุณหนู​ตัน​จู​ก่อเรื่อง​มากมาย​เพียงนั้น​ ​สุดท้าย​เรื่อง​ร้าย​ก็​กลายเป็น​ดี​ ​คราวนี้​ก็​จะ​เป็น​เช่นนั้น​”

อา​เถี​ยน​หัวเราะ​ออกมา​ ​“​จู๋​หลิน​พูด​ถูก​”​ ​พลัน​ยื่นมือ​จับ​แขน​เสื้อ​ของ​เขา​ ​“​พวกเรา​กลับกัน​เถิด​”

เมื่อ​รู้สึก​ว่า​แขน​เสื้อ​ของ​ตนเอง​เป็น​ที่พึ่ง​ทั้งหมด​ของ​หญิงสาว​ ​ภายในใจ​ของ​จู๋​หลิน​ทั้ง​หนักอึ้ง​ทั้ง​เศร้าโศก​ ​ในขณะที่​กำลังจะ​พานาง​จากไป​ ​ทันใดนั้น​เขา​ก็​หรี่​ตาล​งม​อง​ไป​ทางขวา​ ​ทาง​นั้น​เป็น​ทิศทาง​ของ​ประตู​วัง​หลวง

แสงแดด​ยาม​เข้า​สาดส่อง​ ​มี​ขุนนาง​จำนวน​ไม่น้อย​กำลัง​มุ่งหน้า​ไป​ทาง​ประตูเมือง​ ​พวกเขา​เดิน​อย่างเร่งรีบ​ ​มี​ขุนนาง​ที่​อายุ​มาก​บางคน​กำลัง​วิ่ง​จน​เหนื่อยหอบ​ก็​ไม่ยอม​หยุด​ลง​…

เหล่า​ขุนนาง​ไม่ได้​วิ่ง​เช่นนี้​มาระ​ยะ​หนึ่ง​แล้ว​ ​จู๋​หลิน​กำมือ​แน่น​ ​ใน​วัง​หลวง​เกิดเรื่อง​แล้ว​ ​สายตา​ของ​เขามอง​ตาม​ขุนนาง​เหล่านั้น​เข้าไป​ใน​ส่วนลึก​ของ​เมืองหลวง

ในที่สุด​ฮ่องเต้​จะ​สวรรคต​แล้ว​หรือ

องค์​รัชทายาท​ถูก​ปลุก​ใน​ตำหนัก​ทรง​งาน​ ​เวลานี้​มี​งาน​มากมาย​ ​องค์​รัชทายาท​จึง​ประทับ​อยู่​ใน​ตำหนัก​ทรง​งาน​บ่อย​มากขึ้น

“​เกิดเรื่อง​ใด​ขึ้น​”​ ​เขา​พลาง​เดิน​พลาง​ถาม​ขันที​ข้าง​กาย

ขันที​ตัว​น้อย​เหนื่อยหอบ​ ​“ฝู​ชิง​กง​กง​ไม่ได้​บอก​ละเอียด​ ​เหมือน​จะ​เป็นเรื่อง​ยา​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

ฝู​ชิง​เฝ้า​อยู่​ทาง​ฮ่องเต้​ตลอดเวลา​ ​เวลานี้​ขันที​จิ้น​จง​ทำหน้าที่​เพียงแค่​เฝ้าดู​ฮ่องเต้​ ​เรื่อง​ส่วนใหญ่​ใน​ทาง​ตำหนัก​ของ​ฮ่องเต้​ล้วน​ต้อง​ให้​เขา​ตัดสินใจ​ ​รวมทั้ง​จับตาดู​บรรดา​ท่าน​อ๋อง​และ​พระสนม

องค์​รัชทายาท​เสด็จ​มาถึง​ตำหนัก​บรรทม​ของ​ฮ่องเต้​ ฝู​ชิง​วิ่ง​ออกมา​ต้อนรับ​ด้วย​ตนเอง

“​องค์​รัชทายาท​ ​องค์​รัชทายาท​ ​ข่าวดี​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​เขา​ตะโกน

ถึงแม้​ปากของ​เขา​จะ​ตะโกน​ว่า​ข่าวดี​ ​แต่​ใน​ดวงตา​ของ​เขา​เต็มไปด้วย​ความกลัว

ส่วน​องค์​รัชทายาท​ที่​ได้ยิน​เขา​ตะโกน​ว่า​ข่าวดี​ก็​ชะงัก​ไป

“​…​สมุนไพร​ ​สมุนไพร​ที่เก็บ​จาก​บ้านเกิด​ของ​หู​ไต้​ฟู​ ​หมอ​หลวง​จาง​พวกเขา​ปรุงยา​ออกมา​ได้​แล้ว​”​ ฝู​ชิง​พูด​ต่อ​ ​“​ให้​ฝ่า​บาท​เสวย​แล้ว​…​ได้ผล​แล้ว​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​!​”

สำเร็จ​แล้ว​หรือ​ ​ชีวิต​ของ​ฮ่องเต้​ช่าง​…​มือ​ที่ซ่อน​ไว้​ใน​แขน​เสื้อ​ของ​องค์​รัชทายาท​กำ​แน่น​ ​เขา​เดิน​เข้าไป​ใน​ตำหนัก​ใหญ่​อย่าง​รีบร้อน

บรรดา​ท่าน​อ๋อง​และ​พระสนม​ยังคง​อยู่​ใน​ตำหนัก​เหมือนเคย​ ​แต่ว่า​ล้วน​อยู่​ใน​ห้อง​ด้านนอก​ ​ห้อง​ด้านใน​มี​เพียง​ขันที​จิ้น​จง​และ​หมอ​หลวง​จาง

ไม่เลว​ ​ถึงแม้​เขา​ไม่อยู่​ ​ทาง​นี้​ก็​ไม่ได้​ละเมิด​กฎ​ที่​เขา​กำหนด​เอาไว้​ ​องค์​รัชทายาท​ไม่สน​ใจ​ผู้คน​ใน​ห้อง​ด้านนอก​ ​เขา​เดิน​ตรง​เข้าไป​ ​ก่อน​จะ​เห็น​ว่า​ฮ่องเต้​ยังคง​นอน​อยู่​บน​เตียง​ ​ไม่มี​แนวโน้ม​ว่า​จะ​ฟื้น

“​เกิดเรื่อง​ใด​ขึ้น​”​ ​เขา​ถาม​อย่าง​รีบร้อน​ ​“​บอกว่า​ฝ่า​บาท​ทรง​เกิดเรื่อง​ ​ข้า​เรียก​บรรดา​ขุนนาง​มา​แล้ว​…​ทรง​ดีขึ้น​จริง​หรือ​ ​ปรุงยา​ได้​แล้ว​จริง​หรือ​”

พูดถึง​ตรงนี้​ก็​ร้อนใจ

“​ยานี​้​ใช้ได้​จริง​หรือไม่​ ​ใช้​เช่นนี้​จะ​อันตราย​หรือไม่​”

หมอ​หลวง​จาง​กล่าว​ทูล​ ​“​องค์​รัชทายาท​ ​หมดหนทาง​แล้ว​ ​หาก​ฝ่า​บาท​ไม่​ทรง​ใช้​ยาก​็​…​”

ฮ่องเต้​เป็น​เช่นนี้​ ​ไม่​ใช้​ยา​คือ​ตาย​ ​หาก​ใช้​ยา​แล้ว​ไม่ได้ผล​ก็​คือ​ตาย​ ​ไม่ทัน​ได้​พิสูจน์​ถึง​ฤทธิ์​ยา​อย่างละเอียด

องค์​รัชทายาท​ย่อม​เข้าใจ​ ​เขา​พยักหน้า​ให้​หมอ​หลวง​จาง​ด้วย​ความรู้สึกผิด​ ​“​ข้า​ร้อนใจ​เอง​…​บอกว่า​เห็นผล​แล้ว​ไม่ใช่​หรือ​ ​เหตุใด​เสด็จ​พ่อ​ยัง​ทรง​ไม่ได้​สติ​”

หมอ​หลวง​จาง​ทำ​หน้า​ฉงน​ ​“​หลังจาก​ใช้​ยา​แล้ว​ ​ชีพจร​ของ​ฝ่า​บาท​ดีขึ้น​จริง​ ​เสถียร​และ​มี​กำลัง​ ​ดังนั้น​กระหม่อม​จึง​ให้​คน​ไป​ทูล​รายงาน​ด้วย​ความตื่นเต้น​…​แต่​ฝ่า​บาท​ไม่​ทรง​ฟื้น​ขึ้น​มา​แม้แต่น้อย​”

เวลานี้​ขุนนาง​ที่​รู้​ข่าว​ก็​เดิน​เข้ามา​ ​พวกเขา​ที่​วิ่ง​จน​แทบจะ​เป็นลม​หายใจ​เกือบ​ไม่ทัน​ ​“​หมอ​หลวง​จาง​ ​ท่าน​ประมาท​เกินไป​แล้ว​!​”

ใน​ฐานะ​ที่​หมอ​หลวง​จาง​เป็น​หมอ​หลวง​มานาน​ ​เขา​ไม่มี​ความกลัว​เมื่อ​เผชิญหน้า​ต่อ​ขุนนาง​ชรา​เหล่านี้​ ​“​ข้า​รักษา​อย่าง​ประมาท​หรือไม่​ ​ใต้เท้า​ทั้งหลาย​เกรง​ว่า​จะ​ไม่มี​สิทธิ์​ตัดสิน​”

เมื่อ​เห็น​ทั้งสองฝ่าย​กำลังจะ​เถียง​กัน​ ​องค์​รัชทายาท​รีบ​เกลี้ยกล่อม​ ​“​ล้วน​ทำ​เพื่อ​ฝ่า​บาท​ ​เวลานี้​ยัง​ไม่​รีบ​ ​ในเมื่อ​ชีพจร​ดีขึ้น​แล้วก็​รอก​่อน​ ​ยา​เพิ่ง​ให้​ไป​ครั้ง​เดียว​”

บอกว่า​รอ​ ​ทุกคน​ก็​เริ่ม​รอ​ ​ตั้งแต่​กลางวัน​ถึง​กลางคืน​ ​จนกระทั่ง​แสงแดด​ยามเช้า​สาด​เข้ามา​ใน​ห้อง​อีกครั้ง​ ​ฮ่องเต้​ยังคง​ไม่​ฟื้น

“​ยา​ไม่มีปัญหา​”​ ​เมื่อ​เผชิญหน้า​กับ​คำถาม​ของ​ทุกคน​ ​หมอ​หลวง​จาง​ยังคง​ยืนกราน​ ​อีกทั้ง​ยัง​ให้​บรรดา​หมอ​หลวง​จาก​สำนัก​หมอ​หลวง​มาตร​วจ​ชีพจร​ ​“​ชีพจร​ของ​ฝ่า​บาท​ดีขึ้น​แล้ว​”

มี​หมอ​หลวง​จำนวน​ไม่น้อย​เดิน​ขึ้นหน้า​มาตร​วจ​ชีพจร​ ​นอกจากนี้​ยัง​มี​ขุนนาง​ที่​รู้​วิชาแพทย์​ต่าง​มา​ลอง​ ​เหมือน​ดั่ง​ที่​หมอ​หลวง​จาง​พูด​ ​ชีพจร​ของ​ฮ่องเต้​มี​แรง​ขึ้น​แล้ว

“​พรุ่งนี้​”​ ​มี​ขุนนาง​คาดเดา​ ​“​พรุ่งนี้​ฝ่า​บาท​ต้อง​ทรง​ฟื้น​แน่นอน​”

ในที่สุด​ภายใน​ตำหนัก​บรรทม​ของ​ฮ่องเต้​ก็อบ​อวล​ไป​ด้วย​ความดีใจ​ ​ในเมื่อ​มั่นใจ​ใน​ข่าวดี​แล้ว​ ​องค์​รัชทายาท​ก็​เกลี้ยกล่อม​ให้​ทุกคน​ไป​พักผ่อน

แต่​บรรดา​ขุนนาง​ไม่ยอม​จากไป​ ​บรรดา​พระสนม​และ​ท่าน​อ๋อง​ต่าง​แสดงออก​ว่า​อยาก​เฝ้า​ฮ่องเต้​จนกว่า​จะ​ทรง​ฟื้น​ขึ้น​มา

เพียงแค่​บอกว่า​ฝ่า​บาท​ทรง​ดีขึ้น​ ​ท่าที​ของ​ทุกคน​ก็​เปลี่ยนไป​อีกแล้ว​ ​ไม่สน​ใจคำ​พูด​ของ​องค์​รัชทายาท​อย่าง​เขา​แล้ว​ ​ภายในใจ​ของ​องค์​รัชทายาท​ยิ้ม​เย็น

องค์​รัชทายาท​ไม่ได้​ไล่​ทุกคน​ไป​ ​หากแต่​จัดเตรียม​สถานที่พักผ่อน​ใน​ตำหนัก​บรรทม​ของ​ฮ่องเต้

“​อยู่​มาทั​้ง​วันทั​้​งคืน​แล้ว​ ​หาก​เสด็จ​พ่อ​ทรง​ฟื้น​ขึ้น​มา​ ​พระองค์​คง​ไม่​อยาก​เห็น​ทุกคน​เหน็ดเหนื่อย​”​ ​องค์​รัชทายาท​เกลี้ยกล่อม​ด้วย​ความจริงใจ

ทุกคน​ซาบซึ้ง​น้ำใจ​ของ​องค์​รัชทายาท​ ​อีกทั้ง​ยัง​สามารถ​พักผ่อน​อยู่​รอบด้าน​ตำหนัก​บรรทม​ของ​ฮ่องเต้​ ​ทุกคน​จึง​กระจาย​ตัว​ไป

หลังจาก​ผ่าน​การรอคอย​อีก​หนึ่ง​วัน​ ​ฮ่องเต้​ยังคง​ไม่มี​แนวโน้ม​จะ​ฟื้น​ขึ้น​มา​ ​ค่ำคืน​ที่​มืดสนิท​ ​ตำหนัก​บรรทม​เงียบสงัด​กว่า​ตอนกลางวัน​เสียอีก

องค์​รัชทายาท​นั่ง​อยู่​บน​เก้าอี้​ห้อง​ด้านนอก​ ​มือ​ลูบไล้​อยู่​บน​พนักเก้าอี้​แผ่วเบา

เมื่อ​หมอ​หลวง​ที่​เข้าเวร​เดิน​ออกมา​จาก​ห้อง​ด้านใน​ถวายบังคม​ให้​เขา

“​เป็น​อย่างไร​”​ ​องค์​รัชทายาท​ถาม

หมอ​หลวง​พยักหน้า​ ​“​ชีพจร​ของ​ฝ่า​บาท​ดีขึ้น​ต่อเนื่อง​ ​พรุ่งนี้​คง​เห็นผล​แล้ว​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

“​เช่นนั้น​ก็ดี​ ​เช่นนั้น​ก็ดี​”​ ​องค์​รัชทายาท​พยักหน้า​ด้วย​ความดีใจ​ ​แต่​ภายใน​ดวงตา​เต็มไปด้วย​ความ​เย็นชา

องค์​รัชทายาท​ลุกขึ้น​เดิน​เข้า​ห้อง​ด้านใน​หลังจาก​ให้​หมอ​หลวง​ถอย​ออก​ไป​ ​ภายใน​ห้อง​มี​ขุนนาง​ชรา​ที่​เข้าเวร​นั่ง​งีบ​อยู่​ข้าง​เตียง

“​องค์​รัชทายาท​ทรง​พักผ่อน​เถิด​”​ ​ขันที​จิ้น​จง​เกลี้ยกล่อม​องค์​รัชทายาท​เสียง​เบา​ ​“​หมอ​หลวง​จาง​บอกว่า​ ​อย่างเร็ว​สุด​ก็​ต้อง​เป็น​พรุ่งนี้​เช้า​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​อดนอน​อยู่​ทาง​นี้​ ​ฝ่า​บาท​ทรง​ไม่สน​ใจ​เรื่อง​เหล่านี้​หรอก​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

องค์​รัชทายาท​พูด​ ​“​ข้า​นอน​อยู่​ห้อง​ด้านนอก​ ​ข้า​ไป​ส่ง​ใต้เท้า​ซ่ง​ก่อน​”​ ​พูด​พลาง​พยุง​ขุนนาง​ชรา​ ​“​ใต้เท้า​ซ่ง​ ​ไป​พักผ่อน​เถิด​”

ขุนนาง​ชรา​ผู้​นั้น​ยังคง​ยืนกราน​ ​แต่​ก็​ถูก​ขันที​จิ้น​จง​ไล่ออก​ไป​ด้วย​ความรำคาญ​ ​เมื่อ​เห็น​ทั้งสอง​จากไป​ ​ขันที​จิ้น​จง​แอบ​ถอนหายใจ​เบา​ๆ​ ​พลัน​นั่งลง​ข้าง​เตียง​ ​นำ​ผ้าเช็ดหน้า​จุ่มน้ำ​จน​เปียก

“​เฝ้า​อยู่​ตรงนี้​ก็​ไร้ประโยชน์​ ​ความเจ็บป่วย​ไม่มี​ผู้ใด​เป็น​แทน​ได้​”​ ​เขา​พึมพำ​ ​“​ผู้ใด​ก็​ไม่​อาจ​เข้าใจ​แทน​ผู้อื่น​ได้​”

เขา​พับผ้า​เช็ดหน้า​ที่​บิด​เสร็จ​แล้ว​ ​ก่อน​จะ​หันมา​เพื่อ​เช็ดหน้า​ให้​ฮ่องเต้​ ​แต่​เมื่อ​เพิ่ง​หันมา​ ​เขา​ก็​เห็น​ฮ่องเต้​ที่นอน​อยู่​บน​เตียง​ลืมตา​มอง​เขา

ภายใน​ม่าน​ที่​มืด​สลัว​ ​ใบหน้า​ที่​ขาวซีด​ ​ดวงตา​ทั้งคู่​ดำ​เงา

ขันที​จิ้น​จง​ผงะ​ ​ผ้า​ใน​มือ​หล่น​ลง​ ​เขา​อ้า​ปาก​ ​ในขณะที่​เสียง​แหบ​พร่า​จะ​ดัง​ขึ้น​…

ฮ่องเต้​ยกมือ​วาง​ไว้​ที่​ริม​ปาก​ ​“​ชู่ว​์​…​”

ผ้า​ที่​หล่น​ลง​ไป​กลับมา​อยู่​ใน​มือ​ของ​ขันที​จิ้น​จง​อีกครั้ง​ ​ปาก​ที่​เขา​อ้า​ออก​ก็​ปิด​ลง​อย่าง​สนิท

แต่​เวลานี้​ ​องค์​รัชทายาท​ยืน​อยู่​บริเวณ​ที่​มืด​ที่สุด​ด้านนอก​ตำหนัก​ ​ด้าน​ข้าง​ไม่มี​ใต้เท้า​ซ่ง​ ​มี​เพียง​เงา​หนึ่ง​ที่​ยืน​โค้ง​ตัว​อยู่

“​ยา​ของ​พรุ่งนี้​เช้า​ ​เจ้า​จัดการ​ให้​ดี​”​ ​เขา​พูดเสี​ยง​เรียบ

เงา​นั้น​ก้ม​ต่ำ​ลง​กว่า​เดิม

องค์​รัชทายาท​เดิน​ออกมา​จาก​ความมืด​ ​เดินผ่าน​โคมไฟ​ใต้​ทางเดิน​พร้อมกับ​เงา​ที่​ลาก​ยาว​ ​เงา​ของ​เขา​สั่น​ไหว​แตกสลาย​อยู่​บน​พื้น

ยืน​มอง​จาก​ระยะไกล​ ​กำแพง​วัง​หลวง​ที่สูง​ตระหง่าน​ ​หลังคา​ที่​ซ้อนทับ​กัน​เป็น​ชั้น​กลืน​กิน​แสงไฟ​ ​เมืองหลวง​เหมือน​ถูก​แช่​อยู่​ใน​น้ำหมึก​สีดำ​ ​ลม​ยามค่ำคืน​พัดผ่าน​ ​ชุด​ของ​ฉู่​อวี​๋​หยง​ที่​ยืน​อยู่​บน​หลังคา​สำนัก​ราชการ​แห่งหนึ​่ง​พลิ้วไหว​ราวกับ​จะ​ลอย​ขึ้น

“​องค์​ชาย​”​ ​เฟิง​หลิน​เข้ามา​จาก​ทาง​ด้านหลัง​ ​“​หู​ไต้​ฟู​และ​คนอื่น​เข้า​วัง​หลวง​ไป​แล้ว​ ​พวกเรา​จะ​ตาม​เข้าไป​หรือไม่​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

ฉู่​อวี​๋​หยง​พูดเสี​ยง​เรียบ​ ​“​ละคร​บท​ใหญ่​ยัง​ไม่​เริ่ม​ ​เสือ​สอง​ตัว​ยัง​ไม่​ปะทะ​กัน​ ​ไม่​รีบ​”

บุปผาลิขิตแค้น

บุปผาลิขิตแค้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท