หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting – บทที่ 1204 ร้อยขั้นสมบูรณ์!

บทที่ 1204 ร้อยขั้นสมบูรณ์!
ขณะที่พลังฝึกตนของหวังเป่าเล่อเลื่อนระดับถึงดารานิรันดร์ชั้นมหาวัฏจักรระดับเก้าสิบห้าขั้น จักรพิภพสิบกว่าคนที่อยู่ตรงจุดขาดแหว่งของแผ่นเลื่อนระดับโลกาก็ส่งเสียงกรีดร้องเจ็บปวด ร่างกายแห้งเหี่ยวในพริบตา จากนั้นก็คล้ายจะกลายเป็นฝุ่นธุลีที่สลายหายไปกลางอวกาศ
ร่างกายของพวกเขา พลังชีวิตของพวกเขา ดวงวิญญาณเทพของพวกเขา พลังฝึกตนของพวกเขา ตลอดจนทุกสิ่งทุกอย่าง ขณะนี้ล้วนถูกสังเวยออกมาทั้งหมดเพื่อเสริมให้มุมที่ขาดแหว่งของแผ่นเลื่อนระดับโลกา
แต่…แม้ว่าจะสังเวยพวกเขาแล้วก็ยังไม่อาจเสริมจุดที่ขาดหายไปของแผ่นเลื่อนระดับโลกาได้อย่างสมบูรณ์
การเติมเต็มอย่างแท้จริงคือการซ่อมแซมตัวจริงของมันเพื่อให้แผ่นเลื่อนระดับโลกาสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง จุดนี้ยากเกินไป ตามการคาดคะเนของหวังเป่าเล่อ คิดจะทำสิ่งนี้ได้ จำนวนของจักรพิภพที่นำมาสังเวยจะต้องอยู่ในระดับที่น่าตกตะลึง แน่นอนว่าถ้าหากมีความสามารถนำจักรพรรดิสวรรค์ระดับจักรวาลคนหนึ่งมาสังเวยได้ก็เป็นไปได้เช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งวิธี นั่นก็คือตามหาสมบัติฟ้าดินอันล้ำค่าอย่างที่สุดมาจำนวนหนึ่ง หรือไม่ก็วิญญาณที่มีจิตพิเศษซึ่งแฝงด้วยกระแสแห่งกาลเวลาอันเข้มข้นจากทั่วทั้งโลกแห่งศิลา
ดูคล้ายจะมีวิธีการมากมาย แต่ความจริงแล้วแต่ละอย่างล้วนแทบจะทำไม่ได้เลย
ดังนั้นก่อนหน้านี้หลังจากหวังเป่าเล่อศึกษาแผ่นเลื่อนระดับโลกา เขาก็คิดได้ถึงวิธีการอย่างหนึ่ง นั่นก็คือไม่เติมเต็มส่วนที่ขาดไป แต่ควบคุมเครือข่ายลวงตา ใช้ประโยชน์จากปราณวิญญาณและวิญญาณเทพจำนวนมากมาเติมเต็มช่องว่างของแผ่นเลื่อนระดับโลกาให้ดูสมบูรณ์แบบขึ้น
จากนั้นนำมาหนุนนำตัวเองให้ทะลวงถึงระดับจักรพิภพ แต่…หลังจากตอนนี้ที่พลังฝึกปรือเลื่อนขั้นถึงดารานิรันดร์ชั้นมหาวัฏจักรเก้าสิบห้าขั้น หวังเป่าเล่อก็สัมผัสได้ถึงการขาดพลังดำเนินต่อไปของแผ่นเลื่อนระดับโลกาแล้ว
เมื่อพิจารณาดู การสังเวยจักรพิภพสิบกว่าคนเหล่านั้นมากที่สุดก็แค่เติมเต็มส่วนที่ขาดไปของแผ่นเลื่อนระดับโลกาแค่หกส่วนเท่านั้นเอง
“น่าเสียดาย!” หวังเป่าเล่อถอนหายใจเสียงเบา รู้สึกเสียใจเล็กน้อย แต่…สำหรับจอมพลังจากสำนักและตระกูลที่อยู่ด้านนอกระบบสุริยะแล้ว ความตื่นตะลึงที่มาพร้อมกับภาพนี้กลับรุนแรงอย่างยิ่ง
“นี่…นี่มัน…”
“ช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก!!”
“ดึงดันสังเวยผู้เยี่ยมยุทธ์ระดับจักรพิภพเพื่อมาเติมส่วนที่ขาดหาย หวังเป่าเล่อ เจ้าจะชั่วร้ายเกินไปแล้ว!”
เสียงคำรามต่ำอย่างตื่นตกใจหลายเสียงดังออกมาจากจอมพลังของสำนักเหล่านั้นที่อยู่นอกระบบสุริยะ ดวงตาของชายชราชุดขาวของเต๋าเก้ารัฐก็หดเกร็ง ตกตะลึงด้วยภาพการสังเวยของหวังเป่าเล่อ ร่างกายสั่นไหวจนเซถอยหลัง ยามที่จ้องมองไปยังระบบสุริยะ จักรพิภพชั้นปลายของอีกสี่สำนักก็ล่าถอยอย่างรวดเร็ว
ปรมาจารย์แห่งไฟไม่ได้ขัดขวาง เขาแค่นเสียงเย็นออกมาแล้วยืนอยู่นอกระบบสุริยะ ตอนนี้ศิษย์ใหญ่ของเขาและศิษย์คนรอง รวมถึงเทพวัวก็มารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว ทางด้านประมุขซิงอี้ลังเลเล็กน้อยแต่ก็เข้ามาประสานหมัดคำนับให้ปรมาจารย์แห่งไฟเช่นกัน
ปรมาจารย์แห่งไฟยิ้มบางพลางพยักหน้า จากนั้นยามที่มองไปยังพวกเต๋าเก้ารัฐ ในแววตาก็เผยประกายเย็นเยียบออกมา
“มาสิ เข้ามาสิ ครั้งนี้พวกเจ้าไม่ขัดขวางแล้วหรือ”
ชายชราชุดขาวของเต๋าเก้ารัฐขมวดคิ้วมุ่น ตอนนี้กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเล็กน้อย ถ้าหากลงมือก็กังวลว่าแผ่นเลื่อนระดับโลกานี้จะยังมีแรงดึงดูดอยู่ ถ้าไม่ลงมือ การยืนกรานไม่ยอมอ่อนข้อก็ไม่ใช่วิธีการอะไร
ผู้อาวุโสจากสำนักใหญ่อีกสี่สำนักก็มีสีหน้าอึมครึมเช่นกัน ก่อนหน้านี้ถึงแม้พวกเขาจะเดาว่าจุดขาดแหว่งนั่นอาจมีอันตราย แต่กลับคิดไม่ถึงว่าอันตรายนี้จะเป็นการสังเวย
โชคดีที่ในประสาทสัมผัสของพวกเขาตรวจพบชัดเจนว่าพลังฝึกปรือของหวังเป่าเล่อที่นั่งขัดสมาธิอยู่ภายในดวงอาทิตย์ดารานิรันดร์ยังไม่ได้บรรลุถึงระดับเต็มขั้นอย่างสมบูรณ์ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็นับว่าพวกเขาบรรลุเป้าหมายแล้ว
“หวังเป่าเล่อ ครั้งนี้ถ้าเจ้ารับปากพวกข้าสองสามข้อ พวกข้าไม่เอาแผ่นเลื่อนระดับโลกาก็ได้ อีกทั้งจักรพิภพศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋าฝั่งซ้ายก็จะต้อนรับการเลื่อนขั้นสหพันธรัฐของเจ้า ยอมรับสถานะของสหพันธรัฐของเจ้า สองฝ่ายเป็นพันธมิตร ไม่มีการต่อสู้อีก!” ผ่านไปพักหนึ่ง ชายชราชุดขาวของเต๋าเก้ารัฐก็เอ่ยขึ้นทันที
หวังเป่าเล่อยังไม่ทันได้ตอบกลับ ชายชราชุดขาวก็พูดขึ้นอีกครั้ง
“หนึ่ง เจ้าต้องเลื่อนระดับถึงจักรพิภพทันที ไม่อาจสะสมพลังให้สมบูรณ์ต่อไปได้!”
“สอง ภายในหมื่นปีสหพันธรัฐห้ามขยายตัวอีก ให้รักษารูปแบบเช่นนี้เอาไว้!”
“สาม เจ้าต้องเชื่อฟังคำสั่งของสภาจักรพิภพศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋าฝั่งซ้าย หากพบศัตรูภายนอกจงร่วมมือกันจัดการ!”
“สามเงื่อนไขนี้ ถ้าหากเจ้าตอบรับ สภาจักรพิภพศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋าฝั่งซ้ายจะมอบสิทธิให้แก่สหพันธรัฐของเจ้า ทั้งยังได้รับการปกป้องจากจักรพิภพศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋าฝั่งซ้ายด้วย แต่ถ้าหากไม่ยอมรับ…วันนี้พวกข้าจะลงมือเต็มกำลังเพื่อทำลายสหพันธรัฐของเจ้า!” เมื่อชายชราชุดขาวเอ่ยออกมา กลิ่นอายของจักรพิภพชั้นมหาวัฏจักรทั่วร่างก็พวยพุ่งมโหฬาร จักรพิภพคนอื่นๆ ของเต๋าเก้ารัฐที่อยู่ข้างกายเขาก็ทำเช่นเดียวกัน ทำให้อวกาศคล้ายสั่นสะเทือน ทันใดนั้นโซ่มหาเต๋าเก้าเส้นเปลี่ยนรูปอีกครั้งแล้วปกคลุมไปทั้งสี่ทิศ ราวกับต้องการจะกักขังระบบสุริยะเอาไว้ภายใน
สี่สำนักที่เหลือก็ทำเช่นเดียวกัน ในพริบตา หม้อใหญ่ก็ส่งเสียงเลื่อนลั่น ยักษ์ร้องคำราม ขวานแยกฟ้าและสะเก็ดดาวแผ่อานุภาพเต๋าอนันต์ออกมา ราวกับจะแช่แข็งการเคลื่อนไหวปราณทั้งหมดของระบบสุริยะ
จักรพิภพเกินกว่าห้าสิบคนรายล้อมอยู่รอบๆ อานุภาพของแต่ละคนสะเทือนฟ้าสะเทือนดิน ทำให้อวกาศ ณ ที่แห่งนี้ถูกบีบอัดรุนแรงจนแสดงร่องรอยพังทลายออกมา
เมื่อเผชิญหน้ากับสิ่งเหล่านี้ ต่อให้เป็นปรมาจารย์แห่งไฟก็ยังมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นเล็กน้อย เทพวัวและศิษย์ใหญ่ของเขาที่อยู่ด้านหลังก็มีอาการเช่นเดียวกันเพราะต่างก็เป็นร่างแยกของเขา มีเพียงทางด้านศิษย์คนรองเท่านั้นที่หน้าตาไร้อารมณ์ แต่แววตากลับมีความแน่วแน่ปรากฏอยู่
ส่วนประมุขซิงอี้ก็หรี่ตาลงคล้ายชั่งน้ำหนักอยู่ในใจ แต่สุดท้ายไม่รู้นึกถึงอะไร ในดวงตาจึงฉายแววตัดสินใจได้แล้ว จิตวิญญาณการต่อสู้จึงพุ่งทะยานขึ้น
สองฝ่ายเผชิญหน้ากัน จู่ๆ ปรมาจารย์แห่งไฟก็ส่งดวงจิตเทพไปให้กับหวังเป่าเล่อในใจ
“เป่าเล่อ ครั้งนี้อาจารย์ประมาทเลินเล่อ ใช้วิธีการสุดท้ายของเจ้าเถอะ ต้องการให้อาจารย์สังเวยพลังฝึกปรือส่วนหนึ่งเพื่อเติมเต็มจุดที่ขาดไปหรือไม่”
“อาจารย์เป็นห่วงศิษย์ จะเรียกว่าประมาทเลินเล่อได้อย่างไร ในใจของศิษย์ซาบซึ้งนักขอรับ เรื่องนี้ขอบคุณท่านอาจารย์มาก เป็นศิษย์เองที่วางแผนได้ไม่แม่นยำ ไม่โทษท่านอาจารย์ขอรับ!” หวังเป่าเล่อลุกขึ้นยืนจากการนั่งขัดสมาธิแล้วเงยหน้ามองไปนอกระบบสุริยะ เขาคำนับอย่างล้ำลึกให้กับทางฝั่งอาจารย์ของตนก่อน
ยามที่หยัดกายกวาดมองผู้เยี่ยมยุทธ์อย่างพวกเต๋าเก้ารัฐ แววตาของหวังเป่าเล่อก็เผยจิตสังหารออกมา เรื่องวันนี้ถึงแม้เขาจะวางกลอุบายกับสำนักเหล่านี้ แต่ถ้าหากพวกเขาไม่มาก็ย่อมไม่เกิดเรื่องเช่นก่อนหน้านี้ขึ้นหรอก
“ยังขาดไปหน่อย…” แววตาของหวังเป่าเล่อเผยความแน่วแน่ เขาก็ไม่ใช่พวกลังเลไร้ความเด็ดขาด แม้ว่าแผนการต่อไปจำเป็นต้องได้ความช่วยเหลือจากอาจารย์ แต่จะต้องไม่ส่งผลใดๆ ต่ออาจารย์ เพียงจำกัดให้เขาอยู่แค่สหพันธรัฐชั่วครู่เท่านั้น
ในชั่วครู่ก็เพียงพอจะให้ตนตามหาวิธีอื่นมาทดแทนได้แล้ว
เมื่อคิดถึงตรงนี้ หวังเป่าเล่อก็ส่งดวงจิตเทพออกไปทันที
“ไม่จำเป็นต้องให้อาจารย์จัดการด้วยตัวเอง แค่ฉุดดึงดาราจักรไฟเข้ามาสยบจุดขาดแหว่งของแผ่นเลื่อนระดับโลกา ก็พอ วิธีการนี้จะทำให้ดาราจักรไฟสูญเสียปราณวิญญาณเล็กน้อย แต่มากที่สุดครึ่งปี ศิษย์สามารถหาของมาทดแทนได้ เมื่อปล่อยดาราจักรไฟออกมามันก็จะเสริมปราณวิญญาณที่เสียไป เพียงแต่ในครึ่งปีนี้ ศิษย์เกรงว่าอาจารย์จะถูกจำกัดให้อยู่แต่ในสหพันธรัฐเพราะดาราจักรไฟมาสยบจุดขาดหาย…ศิษย์…”
“เรื่องเล็กแค่นี้เองหรือ” ปรมาจารย์แห่งไฟหัวเราะ ไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิด ถึงขั้นที่ไม่ได้ฟังประโยคส่วนหลังของหวังเป่าเล่อด้วยซ้ำ เขายกมือขวาขึ้นทันใดแล้วคว้าจับไปที่ความว่างเปล่า
เมื่อคว้าจับลงไป ดวงแสงเปลวเพลิงก็ปรากฏออกมาจากว่างเปล่าแล้วถูกปรมาจารย์แห่งไฟจับเอาไว้ในมือ จากนั้นก็โยนไปทางจุดขาดหายตามอำเภอใจ
ดวงแสงจากเปลวเพลิงรวดเร็วอย่างยิ่ง หลังจากมาถึงจุดขาดหายในพริบตามันก็ขยายตัวขึ้นโดยพลัน ทันใดนั้นเกิดเสียงสะเทือนเลื่อนลั่นขึ้นจากความว่างเปล่า ดวงไฟขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ชั่วพริบตาก็มีขนาดเท่ากับจุดขาดหายแล้ว เปลวเพลิงในนั้นม้วนตัว มองเห็นได้ว่าข้างในมีดาราจักรขนาดกว้างใหญ่ไพศาลสถิตอยู่
นั่นก็คือ…ดาราจักรไฟ
ภาพนี้ทำให้พวกชายชราชุดขาวตกใจ สีหน้าเปลี่ยนไปทันทีแล้วคิดจะเข้าขัดขวาง แต่เห็นได้ชัดว่าทำไม่ได้ พริบตาต่อมา…เมื่อดวงแสงของเปลวเพลิงปรากฏขึ้น มันก็ตรงไปสยบจุดขาดหาย
เสียงสะเทือนเลื่อนลั่นดังสนั่นฟ้า ระบบสุริยะสั่นสะเทือนรุนแรง ภายในดวงแสงเปลวเพลิงได้ระเบิดปราณวิญญาณอันน่าตะลึงออกมาทันที ปราณวิญญาณเหล่านี้แผ่ขยายอย่างรวดเร็วแล้วก่อตัวเป็นเส้นสายมากมายแพร่กระจายไปยังมุมที่ขาดหาย ทำให้ส่วนที่ขาดหายซึ่งถูกเติมเต็มไปหกส่วนได้รับการเสริมเข้ามาจนสมบูรณ์ขึ้นในพริบตา!
แม้ว่ายังไม่ได้สมบูรณ์ในรูปลักษณ์จริง แต่หากดูจากมุมที่ถูกเติมเต็มก็นับว่าสมบูรณ์แบบแล้ว!
และขณะที่ถูกเสริมจนสมบูรณ์นั้น แผ่นเลื่อนระดับโลกาก็ส่งเสียงสะเทือนเลื่อนลั่น พลังฝึกปรือของหวังเป่าเล่อก็ยกระดับอีกครั้งจากเดิมที่หยุดอยู่ ณ เก้าสิบห้าขั้น
เก้าสิบหกขั้น!
เก้าสิบเจ็ดขั้น!
เก้าสิบแปดขั้น!
เก้าสิบเก้าขั้น!
จนถึง…หนึ่งร้อยขั้น!!
ผมของหวังเป่าเล่อปลิวไสว ขณะที่อานุภาพเลื่อนระดับขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัดและท่ามกลางจิตใจที่สั่นสะท้านของทุกคนที่อยู่นอกระบบสุริยะ ประกายแสงภายในดวงตาของเขาก็ระเบิดออกมาในพริบตาแล้วเอ่ยขึ้นทันที
“อาศัยอะไรให้พวกเจ้ามามอบเงื่อนไขสามอย่างให้ข้า แทนที่จะเป็นข้ามอบเงื่อนไขสามอย่างให้พวกเจ้า วันนี้…ข้าแซ่หวังก้าวสู่จักรพิภพ!!”
เมื่อเขาเอ่ยขึ้น ภายในร่างของเขาก็มีเสียงอวกาศดังกึกก้องขึ้นมาสั่นคลอนมหาเต๋า ทำให้ทั่วทั้งระบบสุริยะรวมเป็นหนึ่งเดียวในชั่วพริบตาแล้วผสานเข้ากับร่างกายของเขา กฎเกณฑ์จำนวนนับไม่ถ้วนในร่างระเบิดออกมาอย่างบ้าคลั่ง!
…………………..
หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา A World Worth Protecting

Status: Ongoing

เรื่อง : หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา (三寸人间)ผู้เขียน : เอ่อร์เกิน (耳根) ผู้แปล : Thunderbird Translators ค.ศ. 3029 วิทยาการบนโลกมนุษย์พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว จนแต่ละประเทศไม่มีเขตพรมแดนกั้นอีกต่อไป โลกได้ผสานรวมกลายเป็นหนึ่งเดียว เริ่มต้นยุคสมัยแห่งสหพันธรัฐ ตอนนั้นเอง กระบี่ยักษ์เล่มหนึ่งตกลงมาจากห้วงอวกาศ ปักเข้าใจกลาง ดวงอาทิตย์ ฝักกระบี่แตกออกเป็นเศษชิ้นส่วนจำนวนมาก กระจัดกระจายไปทั่ว ทั้งจักรวาลรวมถึงบนโลก และก่อให้เกิดแหล่งพลังงานรูปแบบใหม่อันไร้ขีดจำกัด พลังงานนี้มีชื่อเรียกกันว่า ปราณวิญญาณ ‘หวังเป่าเล่อ’ หนุ่มร่างท้วมผู้ทะเยอทะยาน ใฝ่ฝันจะได้เป็นผู้นำสหพันธรัฐ ด้วยหวังว่าจะไม่มีใครมารังแกเขาได้อีกต่อไป และเมื่อเดินทางเข้ามาศึกษาใน สำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ เขาก็ใช้ความรู้เหล่านั้นบวกกับความหน้าหนาหน้าทน ของตัวเอง วางกลยุทธ์อันฉลาดล้ำกำราบศัตรูคนแล้วคนเล่า ใครหน้าไหนก็ไม่อาจมาขัดขวางเส้นทางสู่การเป็นหนึ่งในใต้หล้าของชายอ้วนผู้นี้ได้ เว้นเสียแต่คำสาปประจำตระกูล ที่บอกไว้ว่าหวังเป่าเล่อจะต้องตาย หากเขาไม่ผอมลงก่อนอายุสามสิบปี ในเมื่อบรรพบุรุษร่างจ้ำม่ำมายืนรอให้เขาไปอยู่ด้วยขนาดนี้ ชายหนุ่มจึงต้องทั้งฝึกตนและลดน้ำหนักไปพร้อมๆ กัน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท