ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 455 ระลอกคลื่น (ปลาย)

ตอนที่ 455 ระลอกคลื่น (ปลาย)

ตอนที่​สวี​ซื่อ​ฉิน​และ​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​สอง​พี่น้อง​เดินทาง​ไป​ถึงลั​่ว​เย​่ว​์​ ​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​กำลัง​อ่านหนังสือ​อยู่

เมื่อ​เห็น​หน้า​พวกเขา​ทั้งสอง​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ก็​รีบ​ออกมา​ต้อนรับ​ด้วย​ความดี​อก​ดีใจ

พอส​วี​ซื่อ​ฉิน​มองเห็น​หนังสือ​ที่​กองพะเนิน​บน​โต๊ะ​ของ​เขา​ ​พู่กัน​ที่​วาง​อยู่​บน​แท่น​หิน​ ​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รู้สึก​กังวลใจ

ตั้งแต่​ที่​สวี​ซื่อ​อวี​้​มาที​่ลั​่ว​เย​่ว​์​ ​ ​เขา​เอง​ก็ได้​มา​เยี่ยม​อยู่​หลายครั้ง​ ​ทุกครั้งที่​มา​ ​หาก​สวี​ซื่อ​อวี​้​ไม่ได้​กำลัง​อ่านหนังสือ​ก็​จะ​กำลัง​เขียนหนังสือ​อยู่​แทน​ ​เทียบ​กับ​ตน​ที่​เรียน​ห้าวั​นพัก​ผ่อน​หนึ่ง​วัน​และ​เรียน​สิบ​วัน​ก็​จะ​ได้​หยุดพัก​ผ่อน​ใหญ่​แล้ว​ ​ถือว่า​เขา​ลำบาก​กว่า​มาก​ ​แต่​เขา​กลับ​ทำให้​ผู้คน​รอบข้าง​รู้สึก​ได้​ว่า​เขา​ค่อยๆ​ ​ขยับ​เข้าใกล้​เป้าหมาย​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​ส่วน​ตน​และ​น้องชาย​ที่​เติบโต​มาด​้ว​ยกั​นนับ​วัน​กลับ​ยิ่ง​เหินห่าง​จาก​เป้าหมาย​มากขึ้น​เรื่อยๆ​!

เขา​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​น้อง​สอง​ ​อาจารย์​เจียง​มี​เงื่อนไข​ใน​การ​รับ​ลูกศิษย์​อย่างไร​หรือ​”

สวี​ซื่อ​อวี​้​ชะงัก​ไป​เล็กน้อย​ ​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้ว​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​รู้สึก​ว่าไม่ได้​มี​เงื่อนไข​พิเศษ​อะไร​มากมาย​ ​ขอ​เพียงแค่​สามารถ​จ่าย​ค่าเล่าเรียน​ไหว​และ​ทำตาม​กฎระเบียบ​ของ​สำนัก​ศึกษา​ก็​พอ​”​ ​พอ​พูด​จบ​ก็​รู้สึก​ว่า​ไม่​ค่อย​ถูก​ ​จึง​ได้​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​แต่​ก็​มีบา​งค​นที​่​ไม่​สามารถ​จ่าย​ค่าเล่าเรียน​ได้​ ​ท่าน​อาจารย์​เจียง​ก็​เลย​ให้​พวกเขา​ค้างชำระ​ไว้​ก่อน​”​ ​ครั้น​จะ​พูด​เช่นนี้​ก็​รู้สึก​ไม่​ค่อย​ถูก​อยู่ดี​ ​“​และ​ก็​มีบา​งค​นที​่​ไม่​สามารถ​จ่าย​ได้​ ​แต่​สุดท้าย​ท่าน​อาจารย์​เจียง​ก็ได้​สั่ง​ให้​นำ​หนังสือ​บัญชี​ที่​บันทึก​ข้อมูล​ไว้​ไป​เผา​ทิ้ง​”​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ก็​นึกถึง​จุดประสงค์​คำถาม​ของ​เขา​ขึ้น​มา​ ​จึง​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ ​“​พี่ใหญ่​เอง​ก็​อยาก​ไป​เล่าเรียน​ที่​สำนัก​ศึกษา​หรือ​”

สวี​ซื่อ​ฉิน​พยักหน้า​พร้อมกับ​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ ​“​เจ้า​เอง​ก้าวหน้า​ได้​ถึงขนาด​นี้​ ​หากว่า​ข้า​ยัง​จะ​ใช้ชีวิต​เช่นนี้​ต่อไป​ ​ก็​ดู​ไม่คู่ควร​กับ​การ​เป็น​พี่ใหญ่​เกินไป​แล้ว​”

สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ได้ยิน​แล้วก็​รีบ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​พี่ใหญ่​ดี​กับ​พวก​ข้า​เป็นอย่างมาก​แล้ว​ ​พี่ใหญ่​มัก​คอย​ดูแล​พวก​ข้า​เป็น​อย่างดี​มาโดยตลอด​ ​เหตุใด​ถึง​พูดว่า​ไม่คู่ควร​กับ​การ​เป็น​พี่ใหญ่​ด้วย​เล่า​”​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​พูด​กับ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ว่า​ ​“​พี่​สอง​ ​พวก​ข้า​ไป​เล่าเรียน​ที่​สำนัก​ศึกษา​ด้วยดี​หรือไม่​ ​ไม่แน่​บางที​พวกเรา​อาจจะ​สอบ​บัณฑิต​ซิ่ว​ไฉ​ผ่าน​ ​หรือ​ได้​เป็น​บัณฑิต​จู่​เห​ริน​ก็ได้​!​”

“​ผู้นำ​วงศ์ตระกูล​ที่​ทรงเกียรติ​และ​ภูมิฐาน​นั้น​ถือ​ความกตัญญู​มา​เป็นอัน​ดับ​แรก​”​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​หาก​พี่ใหญ่​และ​น้อง​สาม​ยินดี​ที่จะ​ไป​ ​ข้า​เอง​ก็​จะ​ได้​มี​เพื่อน​เล่าเรียน​ด้วย​ ​ดี​เสีย​ยิ่งกว่า​อะไร​ ​แต่ทว่า​เรื่อง​นี้​ควรจะ​ไป​ปรึกษาหารือ​กับ​ท่าน​ลุง​สาม​เป็นการ​ส่วนตัว​ก่อน​จะ​ดีกว่า​!​”

สวี​ซื่อ​ฉิน​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​เขา​รู้สึก​ว่าการ​ที่นั่ง​เฉยๆ​ ​เช่นนี้​จะ​เป็นการ​เสียเวลา​อัน​มีค่า​โดย​เปล่าประโยชน์​ ​จึง​ขอยืม​พู่กัน​และ​หมึก​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​มา​เขียนจดหมาย​ให้​กับ​คุณชาย​สาม

ทาง​ฝั่ง​สือ​อี​เหนียง​ก็​กำลัง​ต้อนรับ​โจวฮู​หยิน

“​หาก​ข้า​จำ​ไม่ผิด​ ​เดือน​หน้า​ก็​จะ​จัด​พิธี​เซ่นไหว้​วัน​ครบรอบ​การ​เสียชีวิต​ของ​มารดา​เจ้า​แล้ว​ใช่​หรือไม่​”

สือ​อี​เหนียง​หันไป​สั่ง​ให้​สาวใช้​น้อย​ไป​นำ​ลูก​พลับ​ที่​ใน​ราช​วัง​ประทาน​ให้​เมื่อ​หลาย​วันก่อน​มา​จำนวน​หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็ได้​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​จัด​พิธี​เซ่นไหว้​กลางเดือน​หน้า​”

โจวฮู​หยิน​ยิ้ม​เจื่อน​ ​นาง​ยก​ถ้วย​น้ำชา​พร้อมกับ​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ ​“​ข้า​เอง​ก็​รู้​ว่า​ข้ามา​เร็ว​เกินไป​หน่อย​ ​แต่​มารดา​ของ​หวัง​เจ๋อ​ที่​ป่วย​เป็นโรค​ลมหนาว​เมื่อปีก่อน​ก็​เอาแต่​ป่วย​ออด​ๆ​ ​แอด​ๆ​ ​มา​จนถึง​ตอนนี้​ ​เดิมที​ก็ได้​คุย​กัน​เป็น​ที่​เรียบร้อย​แล้ว​ว่า​จะ​รอ​หลัง​พิธี​ขึ้น​ปิ่นปักผม​…​”

สือ​อี​เหนียง​ก็​เข้าใจ​ได้​ในทันที

ถึงแม้ว่า​ไท่ฮู​หยิน​จะ​ออกทุกข์​ใน​เดือน​หน้า​ ​แต่​อวี​๋​หัง​ห่าง​จาก​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​นับ​พัน​ลี้​ ​การ​ส่งตัว​เจ้าสาว​ก็​ต้อง​ใช้เวลา​นับ​เดือน​ ​หาก​ไม่ได้​ปรึกษาหารือ​กันตั​้ง​แต่​เนิ่นๆ​ ​เรื่อง​งานแต่ง​ด่วน​ที่สุด​ก็​คงจะ​ต้อง​เป็น​ฤดูร้อน​หรือ​ฤดูใบไม้ร่วง​ของ​ปีหน้า

“​มารดา​ของ​คุณชาย​ป่วยหนัก​มาก​หรือไม่​”

หวัง​เจ๋อ​อายุ​มากกว่า​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​ห้า​ปี​ ​ปีนี​้​ก็​อายุ​สิบ​แปด​แล้ว​ ​สำหรับ​ผู้ชาย​ถือว่า​โตมาก​แล้ว​ ​หาก​เจอ​กับ​การ​ไว้ทุกข์​ก็​ต้อง​เลื่อน​ไป​อีก​สอง​ปี​…​พอ​ถึง​เวลา​ยัง​ต้อง​จัด​พิธี​ปลอบขวัญ​ดวงวิญญาณ​และ​พิธี​เซ่นไหว้​ใหญ่​ ​คนใน​ตระกูล​ต้อง​มา​จุด​ธูป​ทุกคน​ ​สกุล​หวัง​เป็น​ตระกูล​ที่​ค่อนข้าง​ใหญ่​ ​แต่​หาก​ใน​ตระกูล​ไม่มี​แม้แต่​ผู้ดูแล​หลัก​ ​ก็​คงจะ​ยุ่งเหยิง​วุ่นวาย​เป็นอย่างมาก

“​ก็​เพราะ​ช่วงนี้​ข้า​ไม่​สะดวก​มาหา​เจ้า​เลย​”​ ​โจวฮู​หยิน​สีหน้า​เคร่งเครียด​ ​“​หลาย​ปี​มานี​้​พี่สะใภ้​ข้า​ทำงานหนัก​เป็นอย่างมาก​”

ตอนนี้​จวน​สกุล​หวัง​ต้องการ​คน​ช่วย​ที่สุด​ ​หาก​ยัง​เอาแต่​ยึดถือ​ข้อตกลง​เดิม​ก็​ถือว่า​ค่อนข้าง​ไร้​มนุษยธรรม​และ​แล้งน้ำใจ​จน​เกินไป

“​พี่​หญิง​โจว​วางใจ​เถิด​ ​ข้า​จะ​สั่ง​คน​ไป​แจ้ง​ข่าว​ที่​อวี​๋​หัง​ประเดี๋ยวนี้​เลย​”

เรื่อง​นี้​จะ​ว่า​ไป​แล้วก็​ถือว่า​ค่อนข้าง​เสียมารยาท

โจวฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้วจึง​ค่อยๆ​ ​ถอน​ลมหายใจ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็ได้​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​ที่​เรือน​ ​คุย​กัน​เพียง​ไม่นาน​นาง​ก็​ขอตัว​ลาก​ลับ

สือ​อี​เหนียง​ให้​ป้า​ซ่ง​นำ​สมุนไพร​บำรุง​ร่างกาย​จำนวน​หนึ่ง​ไป​เยี่ยม​มารดา​ของ​หวัง​เจ๋อ​ ​จากนั้น​ก็​เขียนจดหมาย​สอง​ฉบับ​ส่ง​ไป​ยัง​เมือง​อวี​๋​หัง​ ​ฉบับ​ที่หนึ่ง​ส่ง​ให้​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ ​บอกกล่าว​เกี่ยวกับ​เรื่อง​ของ​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​ ​ส่วน​อีก​ฉบับ​ส่ง​ไป​ให้​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​ ​เพื่อให้​นาง​หาวิ​ธี​สอน​งาน​เกี่ยวกับ​การ​ดูแล​จัดการ​ธุระ​ต่างๆ​ ​ภายใน​จวน​ให้​กับ​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​ให้​ได้มาก​ที่สุด​ ​จากนั้น​ก็ได้​ให้​จู๋​เซียง​ไป​เตรียม​ตั๋วเงิน​หนึ่ง​พัน​ตำลึง​ ​“​ถึง​เวลา​นั้น​ก็​นำ​เงิน​จำนวน​นี้​มอบให้​กับ​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​ไว้​เป็น​สมบัติ​ก้น​หีบ​ ​เงิน​จำนวน​นี้​หาก​ใช้​อย่าง​มีสติ​ ​ก็​ยัง​สามารถ​ใช้ได้​อีก​หลาย​ปี​”

จู๋​เซียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​ขานรับ​ ​ขณะที่​นาง​กำลังจะ​ไป​เตรียม​ตั๋วเงิน​นั้น​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​ก็​มาหา​พอดี

“​วันนี้​ข้า​ไป​ที่​เรือน​หน​่​วน​ฝัง​มา​ ​เห็น​ว่า​ดอก​จิน​หรู​อี้​บาน​ได้​งดงาม​ ​ก็​เลย​ตัด​มาส​อง​กิ่ง​”​ ​ใน​มือ​ของ​นาง​กำลัง​ถือ​ดอก​กล้วยไม้​ตระกูล​หวาย​สีแดง​สด​ ​บน​ศีรษะ​ของ​นาง​ประดับ​ด้วย​ดอก​เบญจมาศ​สีเหลือง​หนึ่ง​ดอก​ ​สีสัน​สดใส​และ​เข้ากัน​เป็นอย่างมาก​ ​สอดคล้อง​กับ​ประโยค​ที่ว่า​ ​‘​ตกแต่ง​เพียง​เล็กน้อย​แต่​พิถีพิถัน​และ​เน้น​ความสวยงาม​’​ ​ดูออก​ว่านาง​ทุ่มเท​และ​ตั้งใจ​ไม่น้อย​ ​“​ก็​เลย​นำมา​ประดับ​บน​โต๊ะ​เตียง​เตา​ให้ฮู​หยิน​เชยชม​ด้วย​”

สือ​อี​เหนียง​ก็ได้​ให้​ชิว​อวี​่​นำ​ดอกไม้​ไป​ไว้​ที่​ห้อง​ปีก​ทิศตะวันออก​ที่​เป็น​สถานที่​จัดงาน​เลี้ยง​ ​“​โต๊ะ​ริม​หน้าต่าง​บน​เตียง​เตา​ของ​ข้า​ยัง​มีด​อก​อวี​้​เหลียน​หวน​อยู่​สอง​กิ่ง​”​ ​จากนั้น​ก็​สั่ง​ให้​สาวใช้​น้อย​ไป​ยก​เก้าอี้​มา​ให้​นาง​นั่ง

หยาง​อี๋​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​นั่งลง​บน​เก้าอี้​ ​แล้ว​ถามไถ่​เกี่ยวกับ​เรื่อง​ร้าน​ผ้า​ปัก​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ช่วง​ก่อน​ข้า​เอาแต่​ก้มหน้าก้มตา​เย็บผ้า​ห่อ​ตัว​ให้​คุณชาย​น้อย​ทั้งวันทั้งคืน​ ​ก็​เลย​ไม่ได้​ถามไถ่​เลย​ ​พ้น​เทศกาล​ไหว้พระ​จันทร์​ก็​จะ​ถึง​เทศกาล​ฉง​หยาง​แล้ว​ ​ไม่ทราบ​ว่างา​นที​่​ร้าน​ทำ​ทัน​กัน​หรือไม่​”

ตอนนี้​ร้าน​ผ้า​ปัก​ของ​สือ​อี​เหนียง​ได้​เป็น​ร้าน​ที่​ดูแล​ผ้า​ปัก​ลาย​ทั้งหมด​ของ​กรมพระราชวัง​แล้ว​ ​ไม่​เพียงแค่​นั้น​ ​ชื่อเสียงเรียงนาม​ยัง​เลื่องลือ​ไป​ทั่ว​อีกด้วย​ ​ทุกคน​ต่าง​ก็​พากั​นบ​อก​ว่า​ผ้า​ปัก​ลาย​ที่​ร้าน​ของ​นาง​งดงาม​เป็นอย่างมาก​ ​คนที​่​เข้ามา​ใน​เมือง​ล้วน​ต้อง​มา​เลือก​ซื้อ​ผ้า​ปัก​ที่​ร้าน​ของ​นาง​ทั้งนั้น​ ​หลัง​ฤดูใบไม้ผลิ​ก็ได้​เพิ่ม​ช่าง​ปัก​เย็บ​อีก​สิบ​คน​ ​พอ​ถึง​ฤดูร้อน​ก็ได้​เพิ่ม​อีก​สิบสอง​คน​ ​สอง​วันก่อน​อาจารย์​เจี่ย​นก​็​ได้มา​ปรึกษาหารือ​กับ​นาง​ว่า​อยาก​จะ​เพิ่ม​ช่าง​ปัก​เย็บ​อีก​สิบห้า​คน​ ​เช่นนี้​ ​เมื่อ​ลอง​คำนวณ​ดูแล​้ว​ ​หาก​ไม่​นับ​เหล่า​บรรดา​สาวใช้​และ​หญิง​วัยกลางคน​ใน​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​ที่​รับ​ผ้า​ปัก​ไป​ปัก​หรือ​นำ​ผ้า​ปัก​ของ​ตน​ออกมา​ขาย​ ​ก็​เท่ากับ​ว่า​ร้าน​ขายของ​มงคลสมรส​ของ​พวก​นาง​มี​ช่าง​ปัก​เย็บ​รวม​ห้าสิบ​คน​แล้ว​ ​ตอนที่​คำนวณ​บัญชี​ช่วง​กลางปี​ ​ได้​กำไร​ทั้งหมด​ราว​สอง​พัน​ตำลึง​เงิน​ ​พลอย​ทำให้​กาน​ไท่ฮู​หยิน​ตกใจ​เป็นอย่างมาก​ ​โวยวาย​จะ​เอา​ร้าน​ที่อยู่​ใกล้​ๆ​ ​มาทำ​เป็น​ร้าน​ขาย​ผ้า​ปัก​ด้วย​ ​แต่​อาจารย์​เจี่ย​นก​ลับ​อยาก​จะ​ซื้อ​เรือน​ที่​ไม่​ไกล​จาก​ร้าน​มาก​เท่าไร​นัก​ ​เพื่อที่จะ​ใช้​เป็น​ที่พัก​ให้​กับ​ช่าง​ปัก​เย็บ​ที่​เดินทาง​มาจาก​เจียง​หนาน​ ​เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​ก็​จะ​ต้อง​เอา​เงิน​ออกมา​จำนวน​หนึ่ง​ ​สือ​อี​เหนียง​และ​กาน​ไท่ฮู​หยิน​ต่าง​ก็​ไว้ใจ​อาจารย์​เจี่ย​นอยู​่​แล้ว​ ​ทั้งสอง​จึง​ออก​เงิน​คนละ​ห้าสิบ​ตำลึง​เงิน​ ​อาจารย์​เจี่ย​นก​็​ได้​นำ​เงิน​จำนวน​นี้​รีบ​ไปดู​เรือน​กับ​พ่อค้า​นายหน้า​ทันที

“​ข้า​เอง​ก็​ไม่ได้​ไป​ที่​ร้าน​มา​พัก​หนึ่ง​แล้ว​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​ตอบกลับ​นาง​ ​“​อาจารย์​เจี่ยน​เป็น​คนดู​แล​และ​จัดการ​ที่​ร้าน​ ​ฟัง​จาก​น้ำเสียง​แล้ว​ ​การค้าขาย​ของ​ที่​ร้าน​ถือว่า​ดี​ไม่น้อย​”

หยาง​อี๋​เหนียง​หยิบ​ภาพ​แบบอย่าง​ผ้า​ปัก​ออกมา​จำนวน​หนึ่ง​ ​“​ข้า​ใช้เวลา​ช่วง​ที่ว่าง​ลอง​วาด​แบบ​ดู​ ฮู​หยิน​ลองดู​ว่า​พอ​จะ​ใช้ได้​หรือไม่​”

มี​ภาพวาด​สระน้ำ​อุดมสมบูรณ์​ ​ภาพวาด​พบปะ​สังสรรค์​และ​ภาพวาด​สิบ​ผสมผสาน​ ​ล้วนแล้วแต่​ภาพวาด​ที่​เป็น​สิริมงคล​ทั้งสิ้น

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​รับ​มา​ ​จากนั้น​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​กลับมา​ถึง​พอดี

หยาง​อี๋​เหนียง​รีบ​ลุกขึ้น​พร้อมกับ​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ

สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​เมื่อ​เขา​หันไป​เห็น​แบบ​ของ​ผ้า​ปัก​ที่​วาง​อยู่​บน​โต๊ะ​ก็​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ไหน​บอกว่า​ช่วงนี้​จะ​ไม่​ปัก​ผ้า​ ​แล้ว​นี่​จะ​เริ่ม​เย็บปักถักร้อย​อีกแล้ว​หรือ​”

“​เป็น​แบบ​ของ​ผ้า​ปัก​เท่านั้น​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เดิน​เข้าไป​รับ​ชุด​เครื่องแบบ​ขุนนาง​จาก​สวี​ลิ่ง​อี๋​แล้ว​ยื่น​ให้​กับ​สาวใช้​น้อย​ที่​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ ​จากนั้น​ก็​ให้​สาวใช้​น้อย​ไป​ยก​ถั่วเขียว​ต้ม​ที่​แช่เย็น​แล้ว​เข้ามา​ ​นาง​อยาก​จะ​ถาม​ว่า​ฮองเฮา​เรียก​เขา​เข้า​วัง​ไป​คุย​ธุระ​อะไร​ ​แต่​ก็​เห็น​ว่า​หยาง​อี๋​เหนียง​กำลัง​ช่วย​สาวใช้​น้อย​ยก​น้ำ​อยู่​ ​จึง​กลืน​คำพูด​ลงคอ​ไป

สวี​ลิ่ง​อี๋​ไป​ล้างหน้าล้างตา​ที่​ห้อง​ชำระ​ ​เปลี่ยนไป​สวม​ชุด​เต้า​เผา​ผ้า​เก๋​อปู​้​เนื้อ​ละเอียด​เรียบๆ​ ​จากนั้น​ก็​หย่อน​ตัว​นั่งลง​บน​เตียง​เตา​ริม​หน้าต่าง​ที่​ถูก​ปูด​้วย​เสื่อ​ไม้​ไผ่​ ​หันไป​รับ​ถั่วเขียว​ต้ม​จาก​สาวใช้​น้อย​มาทาน​ ​แล้วจึง​ค่อย​พูดถึง​เรื่อง​ใน​วัง​ขึ้น​มา​ ​“​เจ้า​ลอง​ทาย​ดู​ว่าวั​นนี​้​ฮองเฮา​เรียก​ข้า​เข้า​วัง​ไป​คุย​เรื่อง​อะไร​”

สือ​อี​เหนียง​หันไป​มอง​หยาง​อี๋​เหนียง​และ​ไม่ได้​พูด​อะไร​ออกมา

สวี​ลิ่ง​อี๋​ค่อนข้าง​รู้สึก​ประหลาดใจ​ ​ก็​เลย​มองตาม​สายตา​ของ​นาง​ ​เขา​จึง​ได้​สั่ง​กับ​คนที​่​อยู่​ใน​ห้อง​ว่า​ ​“​พวก​เจ้า​ถอย​ออก​ไป​ก่อน​!​”

เมื่อ​สาวใช้​ได้ยิน​ว่า​ท่าน​โหว​เอ่ยถึง​ฮองเฮา​ ​ก็​เข้าใจ​ว่า​คงจะ​เป็นเรื่อง​ที่​สำคัญ​ ​จึง​รีบ​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​ ​ขานรับ​ว่า​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​พากัน​เรียงแถว​ถอย​ออกจาก​ห้อง​ชั้นใน​ไป​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​เอง​ก็​เม้มปาก​แน่น​ ​ทำได้​เพียงแค่​เดินตาม​หางแถว​ถอย​ออกจาก​ห้อง​ไป

สือ​อี​เหนียง​จึง​ค่อย​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ฮองเฮา​ทรง​รับสั่ง​อย่างไรบ้าง​หรือ​เจ้า​คะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​หันไป​มอง​นาง​พร้อมกับ​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​“​ทรง​รับสั่ง​ให้​ข้า​เข้า​วัง​ไปรับ​ตัว​หมอตำแย​สอง​คน​และ​หมอ​หญิง​หนึ่ง​คน​กลับมา​”

หมอ​หญิง​เผิง​ที่​พูดถึง​เมื่อคราว​ก่อน​น่ะ​หรือ

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​รีบ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เข้า​จวน​มา​แล้ว​หรือ​เจ้า​คะ​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​นาง​จะ​ต้อง​กลับ​ไปรับ​ป้าย​คู่​ที่​กรม​ราชกิจ​ภายใน​ก่อน​ ​อีก​ประเดี๋ยว​ก็​คงจะ​มาถึง​”

สือ​อี​เหนียง​เรียก​ป้า​ซ่ง​เข้ามา​ ​สั่ง​ให้​จัดแจง​ให้​พวก​นาง​ไป​พัก​ที่​ห้อง​ปีก​ทิศตะวันออก​ ​“​…​ให้เงิน​ตอบแทน​เท่ากับ​ที่​ไท่ฮู​หยิน​ให้​ป้า​ตู้​ก็แล้วกัน​”

เมื่อ​ป้า​ซ่ง​ได้ยิน​ว่า​ฮองเฮา​ทรง​ประทาน​คน​มา​ให้​ ​ใบหน้า​ของ​นาง​ก็​เต็มไปด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​เมื่อ​เดิน​ออกจาก​ประตู​ไป​ก็​เห็น​หยาง​อี๋​เหนียง​กำลัง​ยืน​คุย​กับ​ซิ่ว​เหลียน​และ​อวี​้​เหมย​อยู่​ ​จึง​ได้​กล่าว​ทักทาย​ไป​ว่า​ ​“​ฮองเฮา​ทรง​ประทาน​หมอตำแย​มา​ให้​สอง​คน​และ​หมอ​หญิง​อีก​หนึ่ง​คน​เข้ามา​ปรนนิบัติ​รับใช้ฮู​หยิน​เจ้าค่ะ​ ​บ่าว​กำลัง​ขาด​คน​มาช​่ว​ยปั​ดก​วาด​ทำความสะอาด​เรือน​…​”

หยาง​อี๋​เหนียง​ชะงัก​ไป​เล็กน้อย​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​หาก​ท่าน​ป้า​ไม่รังเกียจ​ว่า​ข้า​ทำงาน​ช้า​ ​ข้า​จะ​ไป​ช่วย​ด้วย​อีก​แรง​!​”

ป้า​ซ่ง​ยิ้ม​พร้อมกับ​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​กำลัง​คิด​จะ​มา​ขอแรง​หยาง​อี๋​เหนียง​อยู่​เลย​เจ้าค่ะ​”​ ​จากนั้น​ก็​หันไป​สั่ง​กับ​ซิ่ว​เหลียน​ว่า​ ​“​เจ้า​ไป​เรียก​ตง​หง​ที่​เรือน​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​แล้วก็​ซิ่ว​หยวน​ที่​เรือน​ของ​เฉียว​อี๋​เหนียง​มา​หน่อย​ ​คนที​่​มาจาก​วัง​จะ​ต้อนรับ​แบบ​ปกติ​ทั่วไป​ไม่ได้​ ​ให้​สาวใช้​น้อย​ที่​ซุ่มซ่าม​และ​มือ​ไม้​เก้งก้าง​ไป​ทำไม​่​ค่อย​วางใจ​เท่าไร​นัก​ ​จึง​จำเป็นต้อง​ไป​ขอแรง​จาก​สาวใช้​ที่​ค่อนข้าง​เป็น​งาน​ใน​เรือน​ของ​อี๋​เหนียง​มา​พา​พวก​เจ้า​ไป​ทำความสะอาด​”

ซิ่ว​เหลียน​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​ตน​เป็นสาว​ใช้​น้อย​ที่​เพิ่ง​เข้า​จวน​มา​ใหม่​ ​ก็​ย่อ​ตัว​ขานรับ​ด้วย​ใบหน้า​ที่​แดงก่ำ​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​ไป​ยัง​เรือน​เล็ก​ทาง​ทิศตะวันออก​ทันที

ป้า​ซ่ง​หันไป​ยิ้ม​ให้​กับ​หยาง​อี๋​เหนียง​ ​“​หยาง​อี๋​เหนียง​ ​พวกเรา​ไป​ที่​เรือน​ปีก​ทิศตะวันออก​ของ​ลาน​หน้า​กัน​เถิด​เจ้าค่ะ​!​”

หยาง​อี๋​เหนียง​ตอบกลับ​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เย็นชา​ ​“​อืม​”

ให้​สาวใช้​น้อย​ทำงาน​แล้ว​ไม่​ค่อย​ไว้วางใจ​อะไร​กัน​ ​เห็นได้ชัด​ว่าที่​ต้องการ​จะ​ใช้​สาวใช้​คนสนิท​ของ​เหล่า​บรรดา​อี๋​เหนียง​ก็​เพื่อ​ต้องการ​จะ​โอ้อวด​ว่า​ฮองเฮา​ทรง​รัก​และ​เอ็นดูฮู​หยิน​แค่ไหน​ต่างหาก

บน​ใบหน้า​ของ​นาง​ไม่มี​ความไม่พอใจ​แม้แต่​นิดเดียว​ ​นาง​ยิ้ม​พร้อมกับ​เดิน​เข้าไป​ประคอง​แขน​ป้า​ซ่ง​ ​“ฮู​หยิน​ของ​เรา​ช่าง​เป็น​ที่รัก​และ​โปรดปราน​ของ​ฮองเฮา​โดยแท้​ ​ไม่เพียงแต่​ทรง​ประทาน​คน​มาป​รน​นิ​บัติ​รับใช้​เท่านั้น​ ​แต่​ยัง​ทรง​ประทาน​หมอตำแย​มา​ให้​ถึง​สอง​คน​และ​หมอ​หญิง​อีก​ตั้ง​หนึ่ง​คน​ ​ทรง​คิด​เผื่อฮู​หยิน​เสียร​อบ​ด้าน​”

ตอน​ไหน​ควร​เบา​เสียง​ก็​ต้อง​เบา​เสียง​ ​ตอน​ไหน​ควร​เสียงดัง​ก็​ต้อง​เสียงดัง​ ​“​แน่นอน​อยู่​แล้ว​ ​ไม่​เพียงแค่​นั้น​ ​ฮองเฮา​ยัง​ทรง​ตรัส​อีกว่า​หลังจากที่​คลอด​เสร็จ​แล้ว​ ​ยัง​ทรง​ให้ฮู​หยิน​ไป​เลือก​แม่นม​จาก​จวน​แม่นม​อีกด้วย​ ​จวน​แม่นม​เป็น​ถึง​สถานที่​ที่​เตรียม​พระนม​ไว้​สำหรับ​เหล่า​บรรดา​องค์​ชาย​ใน​ราชสำนัก​ชั้นใน​ทีเดียว​เชียว​เจ้าค่ะ​…​”

หยาง​อี๋​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​ฟัง​ไป​ด้วย​ ​ใน​หัว​ของ​นาง​คิด​ไป​ถึง​เรื่อง​ต่างๆ​ ​นานา

หลังจาก​ทาง​ฝั่ง​ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​ข่าว​แล้ว​ ​ก็ได้​มา​เจอ​หน้า​ทั้ง​สาม​คนที​่​มาจาก​วัง​ด้วยตัวเอง

หมอตำแย​ทั้งสอง​ร่างกาย​ค่อนข้าง​อ้วน​กลม​ ​ดู​เป็น​คนที​่​ค่อนข้าง​ซื่อสัตย์​ ​ส่วน​หมอ​หญิง​เผิ​งมี​รูปหน้า​ทรง​จันทร์​เสี้ยว​เพราะ​นาง​มี​คาง​ที่​ยื่น​ออกมา​เล็กน้อย​ ​ร่างกาย​ผอม​และ​มีสี​ผิว​ที่​ค่อนข้าง​ดำคล้ำ​ ​สวม​ชุด​เป้ย​จื่อ​สีม่วง​เข้ม

ไท่ฮู​หยิน​ก็ได้​กำชับ​สือ​อี​เหนียง​เป็นการ​ส่วนตัว​ว่า​ ​“​หมอ​หญิง​แซ่​เผิ​งค​นนั​้น​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​โชคดี​เป็นอย่างมาก​ที่​ได้รับ​ความ​โปรดปราน​จาก​ฮองเฮา​ ​ก็​คงจะ​ฝีมือ​เก่งกาจ​ไม่เบา​ ​แต่​ไม่ว่า​จะ​เป็น​อย่างไร​ ​การ​ที่​ได้มา​ที่​จวน​ของ​เรา​ก็​ถือว่า​มีบุญ​วาสนา​ต่อกัน​ ​เจ้า​เอง​ก็​จะ​ต้อง​ให้เกียรติ​พวก​นาง​ด้วย​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​กลัว​ว่า​สือ​อี​เหนียง​จะ​ตัดสิน​คน​จาก​รูปลักษณ์ภายนอก

จริงๆ​ ​ไท่ฮู​หยิน​เอง​ก็ได้​หา​หมอตำแย​สอง​คน​เตรียม​ไว้​ให้​สือ​อี​เหนียง​ตั้งแต่แรก​แล้ว

สือ​อี​เหนียง​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​วางใจ​เถิด​ ​ในเมื่อ​เป็น​คนที​่​ฮองเฮา​ทรง​ประทาน​มา​ให้​ ​ข้า​จะ​กำชับ​เหล่า​บรรดา​บ่าว​รับใช้​ให้​ปฏิบัติ​ต่อ​พวก​นาง​อย่างดี​เจ้าค่ะ​”

ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​แล้วก็​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​ข้าว​่า​ใช้​ห้อง​เอ่อร​์​ฝัง​เป็น​ห้อง​คลอด​ก็แล้วกัน​”

การคลอดบุตร​ใน​สมัยโบราณ​ถือเป็น​เรื่อง​ที่​ไม่​สะอาด​ ​ตระกูล​ที่​มี​ฐานะ​หน่อย​ก็​จะ​มี​ห้อง​คลอด​แยก​ออกมา​ต่างหาก

สวี​ลิ่ง​อี๋​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​สือ​อี​เหนียง​เป็น​คนที​่​ค่อนข้าง​เจ้าระเบียบ​ละเอียดอ่อน​ ​เขา​จึง​ถาม​นาง​ว่า​ ​“​เจ้า​เห็น​ว่า​อย่างไร​”

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ว่า​ห้อง​เอ่อร​์​ฝัง​ไม่​ค่อย​เรียบร้อย​เท่าไร​นัก​ ​แต่​หาก​ซ่อมแซม​เสียหน่อย​ก็​ถือว่า​พอใช้ได้​เหมือนกัน​ ​“​ท่าน​แม่​เป็น​คนที​่​มีประสบการณ์​ ​เชื่อฟัง​ท่าน​แม่​ไม่มีปัญหา​อย่างแน่นอน​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​วัน​ถัดมา​กลับ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​เริ่ม​ซ่อมแซม​และ​ตกแต่ง​ห้อง​เอ่อร​์​ฝัง​ ​เขา​ชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หัวเราะ​ออกมา

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท