บุปผาลิขิตแค้น – ตอนที่ 426 ฟื้น

ตอนที่ 426 ฟื้น

ฟ้า​สว่าง​ขึ้น​อีกครั้ง

เช้า​วันนี้​เมื่อ​ขุนนาง​ที่​ปฏิบัติหน้าที่​เดิน​เข้ามา​ ​องค์​รัชทายาท​ก็​กำลัง​เช็ดหน้า​และ​มือ​ให้​ฮ่องเต้​อย่างตั้งใจ

“​ควร​เสวย​ยา​แล้ว​หรือไม่​”​ ​ขุนนาง​เดิน​ขึ้นหน้า​ดู​ฮ่องเต้​ ​เห็น​ฮ่องเต้​ยังคง​ไม่ได้​สติ

หมอ​หลวง​ที่​ปฏิบัติหน้าที่​กล่าว​ ​“​ยัง​ไม่​ถึง​เวลา​ ​ทาง​ห้อง​ยามี​หมอ​หลวง​กำลัง​ต้ม​ยา​อยู่​”

“​หวัง​ว่า​จะ​ได้ผล​จริง​”​ ​ขุนนาง​ถอนหายใจ​ ​แต่​ก็​คาดหวัง​ ​“​ฝ่า​บาท​จะ​ทรง​ฟื้น​ขึ้น​มา​”

แม้ว่า​หลังจาก​ฟื้น​ขึ้น​มา​จะ​พูด​ได้​เพียง​คำ​สอง​คำ​ก็ตาม

พระสนม​เสียน​ ​พระสนม​สวี​และ​บรรดา​ท่าน​อ๋อง​ต่าง​เดินทาง​มา​ ​เมื่อ​ได้ยิน​ขุนนาง​พูดถึง​เรื่อง​ยา​ ​ก่อน​จะ​มอง​ฮ่องเต้​ที่​ยัง​ไม่ดี​ขึ้น​แม้แต่น้อย​ ​พระสนม​สวี​ก็​อด​ร้องไห้​เสียง​เบา​อยู่​ข้าง​เตียง​ฮ่องเต้​ไม่ได้

“​พระสนม​สวี​”​ ​องค์​รัชทายาท​เอ่ย​ ​“​อย่า​ได้​รบกวน​ฝ่า​บาท​”

พระสนม​สวี​พูด​พลาง​ร้องไห้​ ​“​หาก​การร้องไห้​ของ​ข้า​รบกวน​ฝ่า​บาท​จน​พระองค์​ทรง​ฟื้น​ขึ้น​มา​ ​ข้า​ยอม​ร้องไห้​ทุกวัน​ทุกคืน​”

องค์​รัชทายาท​ขมวดคิ้ว​ ​สตรี​ผู้​นี้​เชื่อฟัง​มาระ​ยะ​หนึ่ง​แล้ว​ ​เวลานี้​เมื่อ​ได้ยิน​ว่า​ฮ่องเต้​มีความหวัง​ที่จะ​ดีขึ้น​ ​นาง​ก็​ยโส​ขึ้น​มา​อีกครั้ง

พระสนม​เสียน​ถอนหายใจ​อยู่​ด้าน​ข้าง​ ​“​ตอนที่​หู​ไต้​ฟู​อยู่​นั้น​เห็นผล​ได้​อย่างรวดเร็ว​ ​เวลานี้​ชีพจร​ดีขึ้น​แล้ว​ ​แต่​ผู้ใด​จะ​รู้​ว่า​เป็นผลดี​หรือ​ผลร้าย​กัน​”

เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​ของ​นาง​ ​ผู้คน​ใน​ห้อง​ต่าง​มีสี​หน้า​ซับซ้อน​ ​จะ​พูด​อย่างไร​ดี​ ​ที่​พระสนม​เสียน​พูด​ก็​มีเหตุผล​ ​อาการ​ของ​ฝ่า​บาท​ไม่มี​ยารั​กษา​ได้​ ​แต่​ก็​ไม่​อาจ​ใช้​ยา​ใด​ก็ได้​ ​หาก​สุดท้าย​ตาย​เพราะ​ยา​…​สู้​ป่วย​ตาย​เสียดี​กว่า

องค์​รัชทายาท​มอง​สีหน้า​ของ​ทุกคน​ ​สายตา​หลุบ​ต่ำ​ลง​ ​พลาง​พูด​ ​“​อย่า​พูด​เรื่อง​นี้​เลย​ ​ยา​ใช้​ไป​แล้วก็​เชื่อมัน​เถิด​”

เสียง​ฝีเท้า​ดัง​ขึ้น​จาก​ด้านนอก​ ​หมอ​หลวง​จาง​พา​เหล่า​หมอ​หลวง​เดิน​เข้ามา​ ​เขา​เดิน​เข้าไป​ตรวจดู​ฮ่องเต้​ก่อน​ ​จากนั้น​ถาม​หมอ​หลวง​ที่​ปฏิบัติหน้าที่​เมื่อคืน​ว่า​มีส​ถาน​การณ์​ใด​เกิดขึ้น​ ​จากนั้น​ให้​นำ​ยา​เข้ามา

“​วันนี้​เสวย​อีก​วัน​”​ ​เขา​พูด​ ​“​หาก​ยัง​ไม่ได้ผล​ ​ข้า​จะ​ปรับ​ใหม่​”

มี​ขุนนาง​อด​พูด​ไม่ได้​ ​“​หาก​ยัง​ไม่ได้ผล​ก็​พอ​เถิด​ ​หมอ​หลวง​จาง​ ​ท่าน​รักษา​ฝ่า​บาท​ไม่ได้​ ​ทุกคน​ก็​ไม่​โทษ​ท่าน​”

หมอ​หลวง​จาง​มอง​เขา​ ​“​รักษา​ฝ่า​บาท​ไม่ได้​ ​ข้า​จะ​โทษ​ตัว​ข้า​เอง​”

ขุนนาง​ผู้​นั้น​ขุ่นเคือง​ ​“​ท่าน​ทำ​เพื่อให้​ตัวเอง​สบายใจ​ ​แต่​ท่าน​จะ​ทรมาน​ฝ่า​บาท​ไม่ได้​”

เมื่อ​เห็น​คน​ทั้งสอง​กำลังจะ​เถียง​กัน​ ​องค์​รัชทายาท​รีบ​ห้ามปราม

เวลานี้​บรรดา​หมอ​หลวง​ใน​ห้อง​ยาก​็​ยก​ยา​เข้ามา​ ​องค์​รัชทายาท​ยื่นมือ​มารับ​ ​ในขณะที่​กำลังจะ​นั่งลง​ป้อน​ยาที​่​ข้าง​เตียง​ ​ฉู่​ซิว​หยง​ที่​เงียบ​อยู่​เสมอ​พูด​ขึ้น​ ​“​ช้าก่อน​”

มือ​ของ​องค์​รัชทายาท​ชะงัก​ลง​ ​ทันใดนั้น​สายตา​ที่​ยาก​จะ​ปิดบัง​ความ​เย็นชา​มอง​ไป​ทาง​เขา

ผู้คน​ภายใน​ห้อง​ก็​มอง​ไป​ทาง​เขา

“​หมอ​หลวง​จาง​”​ ​ฉู่​ซิว​หยง​พูด​ ​“​ข้า​คิด​ว่า​ต้อง​ระวัง​เรื่อง​ยา​เสีย​จะ​ดีกว่า​”

กำลัง​สงสัย​เขา​หรือ​ ​หมอง​หลวง​จาง​ร้อนใจ​ ​“​ยา​ของ​กระหม่อม​ ​กระหม่อม​จะ​รับผิดชอบ​เอง​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​พูด​พลาง​แย่ง​ยามา​จาก​มือ​ของ​องค์​รัชทายาท

มือ​ของ​องค์​รัชทายาท​ยัง​ค้าง​อยู่​ ​เขา​ยัง​ไม่ทัน​รู้ตัว​ว่า​เหตุใด​ชาม​ยาจึง​ถูก​แย่ง​ไป​ ​ใช่​ ​ถูกต้อง​ ​เขา​ให้พระ​สนม​เสียน​เอ่ย​เรื่อง​นี้​ขึ้น​มา​ ​ทำให้​ทุกคน​เกิด​ความสงสัย​ ​เมื่อ​สิ้นเรื่อง​จึง​หัน​หัวลูกศร​ไป​ทาง​หมอ​หลวง​จาง

แต่​หัวลูกศร​นี้​หัน​เกินไป​หรือไม่

“​หมอ​หลวง​จาง​”​ ​องค์​รัชทายาท​รีบ​พูด​ ​“​ทุกคน​ไม่ได้​หมายความ​เช่นนั้น​”​ ​จากนั้น​จึง​หันไป​ตำหนิ​ฉู่​ซิว​หยง​ ​“​อา​ซิว​ ​อย่า​เสียมารยาท​”

เขา​ยื่นมือ​อีกครั้ง

“​ข้า​เชื่อ​ใต้เท้า​จาง​ ​ข้า​จะ​ป้อน​ยา​ให้​ฝ่า​บาท​เอง​”

ฉู่​ซิว​หยง​ไม่ได้​เงียบ​และ​ถอยหลัง​ไป​เหมือน​แต่ก่อน​ ​หากแต่​พูด​ต่อ​ ​“​หมอ​หลวง​จาง​ดู​ยานี​้​ให้​ดี​เถิด​ ​ตกลง​มัน​เหมือนกับ​ของ​หู​ไต้​ฟู​หรือไม่​”

หมอ​หลวง​จาง​พูด​ ​“​กระหม่อม​…​”​ ​เขา​พูด​พลาง​ยก​ชาม​ยา​ไว้​ริม​ปาก​ ​ทำท่า​เหมือน​จะ​ดื่ม​ลง​ไป

หมอ​หลวง​ชรา​ผู้​นี้​เสียสติ​แล้ว​หรือ​ ​ผู้คน​รอบด้าน​กำลังจะ​ห้ามปราม​ ​แต่​ก็​เห็น​มือ​ของ​หมอ​หลวง​จาง​ชะงัก​ลง​ ​เขา​ไม่ได้​ดื่ม​ยาลง​ไป​ ​หากแต่​วาง​ไว้​ใต้​จมูก​สูดดม​ ​สีหน้า​ของ​เขา​เปลี่ยนไป​เล็กน้อย​ ​ก่อน​จะ​กลับมา​เป็นปกติ

“​…​กระหม่อม​จะ​ไป​ปรับ​ยา​ใหม่​ด้วย​ตนเอง​”​ ​เขา​พูด

ผู้คน​รอบด้าน​ประหลาดใจ​ ​อีกทั้ง​ขุ่นเคือง​เล็กน้อย​ ​หมายความว่า​อย่างไร​ ​ยาที​่​เขา​ทำ​เชื่อถือ​ไม่ได้​จริง​หรือ​ ​ถึงขั้น​ต้อง​ไป​ปรับ​อย่างกะทันหัน

เวลานี้​บรรดา​ขุนนาง​ต่าง​เดินทาง​มาถึง​ ​เมื่อ​ได้ยิน​จึง​ทำ​สีหน้า​ไม่พอใจ

“​หมอ​หลวง​จาง​!​ ​ตกลง​ท่าน​ปรุงยา​ออกมา​ได้​หรือไม่​”

“​พวก​ท่าน​กำลัง​ใช้​ฝ่า​บาท​ทดลอง​ยา​หรือ​”

“​เหลวไหล​สิ้นดี​!​”

แต่​เมื่อ​เผชิญหน้า​กับ​การ​ตำหนิ​ของ​เหล่า​ขุนนาง​ ​หมอ​หลวง​จาง​ไม่​โต้แย้ง​แม้แต่น้อย​ ​เพียงแค่​มอง​ไป​ยัง​เหล่า​หมอ​หลวง​ ​“​ทุกคน​หารือ​กัน​อีกครั้ง​ก่อน​”​ ​จากนั้น​ถาม​ขึ้น​ ​วันนี้​ผู้ใด​ปฏิบัติหน้าที่​ใน​ห้อง​ยา​ ​ทาง​นี้​ผู้ใด​ปฏิบัติหน้าที่​ ​ไม่ว่า​ผู้ใด​ปฏิบัติหน้าที่​ล้วน​ไป​ด้วยกัน​…

คราวนี้​องค์​รัชทายาท​ไม่​พูด​สิ่งใด​ ​สายตา​ของ​เขา​กวาด​ผ่าน​ทุกคน​ใน​ห้อง​ ​สบตา​กับ​หมอ​หลวง​ที่​ยืน​อยู่​ด้านหลัง​ผู้คน​ ​หมอ​หลวง​ผู้​นั้น​สีหน้า​ซีดเผือด​ ​องค์​รัชทายาท​ส่ายหน้า​ให้​เขา​เบา​ๆ​ ​ถึงแม้​หมอ​หลวง​จาง​จะ​พบ​ว่ายา​มีปัญหา​โดยบังเอิญ​ ​แต่​ไม่ต้อง​กังวล​ ​เวลานี้​ใน​วัง​หลวง​เขาใหญ่​ที่สุด​ ​หมอ​หลวง​จาง​จะ​สืบ​สิ่งใด​ได้

เสียดาย​ ​ทำได้​เพียง​หาวิ​ธี​อื่น​ ​อีกทั้ง​ยัง​ต้อง​ป้อน​ให้​ฝ่า​บาท​ก่อนที่​ยา​ใหม่​จะ​ออกมา​ ​มิฉะนั้น​หาก​ยา​ได้ผล​จริง​จะ​ยิ่ง​จัดการ​ยาก

องค์​รัชทายาท​ยืน​อยู่​ที่​เดิม​มองดู​ผู้คน​ที่​กำลัง​ถกเถียง​กัน​อย่าง​ไม่ใส่ใจ​ ​เขา​เหม่อลอย​จนกระทั่ง​ได้ยิน​เสียง​หนึ่ง​ดัง​ขึ้น

“​ยานี​้​มีปัญหา​ใด​”

เสียง​นี้​ไม่​ดัง​มาก​ ​แต่​ก็​ไม่ใช่​น้ำเสียง​ตำหนิ​ด้วย​ความโกรธเคือง​ ​หากแต่​เป็นการ​ซักถาม​ด้วย​ความสงบ​ปะปน​ไป​ด้วย​ความอยากรู้

แต่​เมื่อ​องค์​รัชทายาท​ได้ยิน​ ​เขา​ก็​รู้สึก​เหมือน​มี​ฟ้าผ่า​ลงมา​ที่​ศีรษะ

“​ใช่​ ​ยานี​้​มีปัญหา​ใด​”

คนใน​ห้อง​ได้ยิน​ก็​ถาม​ขึ้น​ตาม

แต่​คราวนี้​ไม่มี​คน​คล้อยตาม​เขา​มากขึ้น​ ​หากแต่​เงียบเสียง​ลง​ ​สายตา​ของ​ทุกคน​มอง​ไป​ทาง​เตียง

เนื่องจาก​ก่อนหน้านี้​องค์​รัชทายาท​จะ​ทรง​ป้อน​ยา​ ​พระสนม​สวีที​่​นั่ง​ร้องไห้​อยู่​ข้าง​เตียง​จึง​หลีกทาง​ ​เวลานี้​ข้าง​เตียง​มี​เพียง​องค์​รัชทายาท​กับ​ขันที​จิ้น​จง​ที่​ยืน​อยู่

เวลานี้​องค์​รัชทายาท​ผงะ​ ​ขันที​จิ้น​จง​โน้มตัว​ไป​ทาง​เตียง​ ​พยุง​คน​ผู้​หนึ่ง​ออกมา​ ​การเคลื่อนไหว​ของ​เขา​ช้า​มาก​ ​ราวกับ​กำลัง​พยุง​เครื่องกระเบื้อง​ที่​แตก​ง่าย

ใบหน้า​ซีดเซียว​ของ​ฮ่องเต้​ปรากฏ​ต่อ​สายตา​ของ​ผู้คน​อย่าง​ช้าๆ​ ​สายตา​ของ​เขา​กวาด​ผ่าน​ทุกคน​ ​จับจ้อง​ไป​ยัง​หมอ​หลวง​จาง

“​ยานี​้​มีปัญหา​ใด​”​ ​เขา​ถาม​อีกครั้ง​ ​“​หลายครั้ง​ก่อน​ให้​ข้า​กิน​ ​แต่​คราวนี้​ไม่​ให้​”

องค์​รัชทายาท​คุกเข่า​ลง​ ​เรียก​ด้วย​เสียงสั่น​เครือ​ ​“​เสด็จ​พ่อ​…​”

คำ​ว่า​เสด็จ​พ่อ​ทำให้​ทุกคน​ใน​ห้อง​ตั้งสติ​ได้​ ​เสียง​คุกเข่า​ ​เสียง​ตะโกน​รวมทั้ง​เสียงร้อง​ไห้​ของ​พระสนม​สวี​ดังก้อง

คน​รอบด้าน​ตำหนัก​บรรทม​ของ​ฮ่องเต้​ต่าง​ตกใจ​เมื่อ​ได้ยิน​ ​พวกเขา​ต่าง​มองหน้า​กัน​ ​ฮ่องเต้​สวรรคต​แล้ว​หรือ

คน​จำนวนมาก​ขึ้น​วิ่ง​มาทาง​นี้

แต่​ด้านนอก​ตำหนัก​บรรทม​ของ​ฮ่องเต้​ถูก​เฝ้า​อย่างเข้มงวด​ ​ทุกคน​ต่าง​ถูก​รั้ง​ไว้​ด้านนอก​ ​ได้ยิน​เพียง​เสียงร้อง​ไห้​ที่​ดัง​ขึ้น​จาก​ภายใน​ตำหนัก

“​ฝ่า​บาท​”​ ​ขุนนาง​ทั้งหลาย​น้ำตา​นองหน้า​ ​พวกเขา​คลานเข่า​ไป​ข้าง​เตียง​ ​“​ฝ่า​บาท​ ​พระองค์​ทรง​ฟื้น​แล้ว​”

ฮ่องเต้​มอง​พวกเขา​ที่​ยื่นมือ​มา​ ​พลาง​จับมือ​กับ​พวกเขา​ทีละ​คน​ ​“​ใช่​ ​ข้า​ฟื้น​แล้ว​ ​ทำให้​ทุกคน​เป็นกังวล​แล้ว​”

ถึงแม้​ลมหายใจ​ของ​เขา​จะ​ยัง​แผ่วเบา​ ​แต่​น้ำเสียง​ของ​เขา​ชัดเจน​หนักแน่น​ ​ทรง​มีสติ​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​ ​ไม่ใช่​ฝ่า​บาท​ที่​ทรง​พูด​ได้​เพียง​สอง​คำ​เหมือนก่อน​อีกแล้ว​ ​อีกทั้ง​พระองค์​ยัง​ทรง​นั่ง​ขึ้น​มา​ได้

บรรดา​ขุนนาง​ต่าง​หลั่ง​น้ำตา​ด้วย​ความดีใจ​ ​“​รีบ​ประกาศ​ข่าวดี​นี้​ต่อ​แผ่นดิน​”

ฮ่องเต้​โบกมือ​ ​“​เรื่อง​นี้​ยัง​ไม่​รีบ​ ​ข้ามี​เรื่อง​ต้อง​จัดการ​ก่อน​…​หมอ​หลวง​จาง​”

ทุกคน​ต่าง​ผงะ​ไป​ ​ก่อน​จะ​เงียบ​ลง​ ​สายตา​มอง​ไป​ทาง​หมอ​หลวง​จาง

หมอ​หลวง​จางคุก​เข่า​อยู่​ที่​มุม​ห้อง​ ​ก่อนหน้านี้​บรรดา​ขุนนาง​เบียด​เข้ามา​ด้วย​ความตื่นเต้น​ ​บรรดา​พระสนม​และ​ท่าน​อ๋อง​ต่าง​หลีกทาง​ ​บรรดา​หมอ​หลวง​ย่อม​ต้อง​ถอยหลัง​เช่นเดียวกัน

“​หมอ​หลวง​จาง​”​ ​ฮ่องเต้​ชี้​ไป​ที่​ชาม​ยา​ใน​มือ​ของ​เขา​ ​“​ยานี​้​มีปัญหา​ใด​กัน​แน่​ ​เหตุใด​เจ้า​จึง​ไม่ยอม​ป้อน​ให้​ข้า​”

ฮ่องเต้​ถาม​เป็น​ครั้ง​ที่สาม​ ​คนที​่​โง่​เพียงใด​ก็​ควรจะ​รู้​ว่า​มีปัญหา

หมอ​หลวง​จาง​โน้มตัว​ทูล​ ​“​ยาชา​มนี​้​ถูก​คน​เปลี่ยน​ยา​ชนิด​หนึ่ง​ ​ดังนั้น​จึง​ไร้​ประสิทธิภาพ​ ​อีกทั้ง​ยัง​เป็นอันตราย​ต่อ​ฝ่า​บาท​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

อะไร​นะ​!

ภายใน​ห้อง​เงียบสงัด​ ​ก่อน​จะ​แปรเปลี่ยน​เป็นความ​ตกใจ​ ​มี​ขุนนาง​ไม่น้อย​ลุกขึ้น​ยืน​ถาม​ ​“​เป็นไปได้​อย่างไร​”

​“​ผู้ใด​”

“​ก่อนหน้านี้​ฝ่า​บาท​ทรง​ไม่ได้​สติ​ ​กระหม่อม​ไม่กล้า​ทูล​ ​ดังนั้น​จึง​ปิดบัง​ ​เตรียมตัว​นำ​คน​กลับ​ไป​สืบสวน​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​หมอ​หลวง​จาง​พูด​ ​พลัน​ยก​ชาม​ยา​ขึ้น​มา​ ​“​เวลานี้​ฝ่า​บาท​ทรง​ฟื้น​แล้ว​ ​ขอ​ฝ่า​บาท​โปรด​สืบ​ให้​กระจ่าง​”

ฮ่องเต้​ตอบรับ​ ​“​จิ้น​จง​ ​สืบ​”

ขันที​จิ้น​จง​โน้มตัว​ตอบรับ

เนื่องจาก​เป็นเรื่อง​ใหญ่​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​การ​ลอบทำร้าย​ฮ่องเต้​ ​ดังนั้น​ทุกคน​จึง​ไม่มี​ผู้ใด​จากไป​ ​พวกเขา​ต่าง​รอ​ผล​การ​สอบสวน​ ​ในเวลาเดียวกัน​ก็​ต้อง​ถูก​สอบสวน​อย่างละเอียด​ ​ทุกคน​ที่​ปรากฏตัว​ล้วน​ต้องสงสัย

ความดีใจ​ที่​ฮ่องเต้​ทรง​ฟื้น​ขึ้น​มาถูก​แทนที่​ด้วย​ความ​ตกตะลึง​ที่​ฮ่องเต้​ถูก​ลอบทำร้าย​ ​บรรดา​ขุนนาง​ต่าง​มีสี​หน้า​หนักใจ​ ​บ้าง​นั่ง​เงียบ​ ​บ้าง​พูดคุย​เสียง​เบา

บรรยากาศ​ภายใน​ตำหนัก​บรรทม​ตึงเครียด​กว่า​ตอน​ฮ่องเต้​ประชวร​เสียอีก

บรรดา​พระสนม​ยัง​สามารถ​แสดง​อารมณ์​ได้​ตามใจ​ ​พระสนม​เสียน​ป้อน​น้ำแกง​ฮ่องเต้​หนึ่ง​ชาม​ ​ส่วน​พระสนม​สวี​นั่ง​ร้องไห้​อยู่​ข้าง​เตียง

“​เอาเถิด​”​ ​ฮ่องเต้​หยิบ​ผ้าเช็ดปาก​ ​พูด​พลัน​ขมวดคิ้ว​ ​“​เจ้า​มาร​้​อง​ไห้​ข้าง​หู​ข้า​ทุกวัน​ ​หู​ของ​ข้า​จะ​หนวก​อยู่​แล้ว​”

พระสนม​สวี​ได้ยิน​จึง​ยิ่ง​ร้องไห้​หนัก​ขึ้น​ ​“​ฝ่า​บาท​”​ ​นาง​จับ​แขน​เสื้อ​ของ​ฮ่องเต้​ไม่ยอม​ปล่อย​ออก​ ​“​หม่อมฉัน​บอก​แล้ว​ว่า​เสียงร้อง​ไห้​ของ​หม่อมฉัน​สามารถ​ปลุกพระ​องค์​ให้​ทรง​ฟื้น​ขึ้น​มา​ได้​”

ฮ่องเต้​หัวเราะ​ ​“​พูด​เรื่อง​ใด​กัน​”​ ​ก่อน​จะ​มอง​คนอื่น​ ​“​ความจริง​ข้า​ฟื้น​นาน​แล้ว​ ​เพียงแต่​เพิ่ง​พูด​ได้​เมื่อวาน​”

คนอื่น​ได้ยิน​จึง​ตกตะลึง​อีกครั้ง​ ​ฮ่องเต้​ทรง​ฟื้น​นาน​แล้ว​หรือ​ ​เมื่อวาน​ก็​ทรง​พูด​ได้​แล้ว​ ​แต่กลับ​ปิดบัง​ทุกคน​ ​หมายความว่า​อย่างไร

ก่อน​จะ​เชื่อมโยง​กับ​ยาที​่​ฮ่องเต้​เสวย​ถูก​คน​เปลี่ยน​ใน​วันนี้​…

ฮ่องเต้​มอง​สีหน้า​ตกตะลึง​ของ​ทุกคน​ ​จากนั้น​จึง​ยิ้ม​ออกมา​ ​“​อีก​อย่าง​นับแต่​ข้า​เริ่ม​ป่วย​ ​ความจริง​ข้า​ไม่ได้​หมดสติ​ ​เพียงแค่​ลืมตา​ไม่ได้​ ​พูด​ไม่ได้​ ​แต่​ข้า​ได้ยิน​ตลอด​ ​ใน​ใจ​ก็​กระจ่าง​อยู่​เสมอ​”

ทุกคน​ตะลึง​จน​ลุกขึ้น​ยืน​ ​พระสนม​สวี​ก็​หยุด​ร้องไห้​ ​ส่วน​องค์​รัชทายาท​ที่นั่ง​อยู่​สีหน้า​ย่ำแย่​กว่า​เก่า

“​ระยะนี้​เกิดเรื่อง​ใด​ขึ้น​ ​พวก​เจ้า​ทำ​สิ่งใด​ ​พวก​เจ้า​ถกเถียง​เรื่อง​ใด​ ​ข้า​ล้วน​ได้ยิน​อย่างชัดเจน​”​ ​ฮ่องเต้​พูด​ ​น้ำเสียง​ของ​เขา​แหบ​พร่า​ ​“​จิน​เหยา​ของ​ข้า​…​”

องค์​รัชทายาท​คุกเข่า​ลง​ ​ก้มหน้า​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​สะอื้น​ ​“​กระหม่อม​ไร้ความสามารถ​ ​ขอ​เสด็จ​พ่อ​โปรด​ลงโทษ​”

ทุกคน​ใน​ห้อง​ต่าง​รีบ​คุกเข่า​ลง​ก้มหน้า​ขออภัย​โทษ

สายตา​ของ​ฮ่องเต้​เหมือน​กำลัง​จ้องมอง​พวกเขา​ ​แต่​ก็​เหมือน​ไม่ได้​มอง

“​ไร้ความสามารถ​ไม่ใช่​ความผิด​เสมอไป​”​ ​เขา​พูด​อย่าง​เชื่องช้า​ ​“​แต่​…​”

เขา​ยัง​พูด​ไม่ทัน​จบ​ ​ขันที​จิ้น​จง​ก็​นำ​องครักษ์​รักษา​พระองค์​เข้ามา​ ​พร้อมทั้ง​โยน​หมอ​หลวง​ผู้​หนึ่ง​ลง​บน​พื้น

“​ฝ่า​บาท​ ​หา​คนที​่​เปลี่ยน​ยา​พบ​แล้ว​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​เขา​พูด

สายตา​ของ​ฮ่องเต้​มอง​มา​ ​เขา​พินิจ​หมอ​หลวง​ผู้​นั้น​ ​อีก​ฝ่าย​เป็น​หมอ​หลวง​ที่​ไม่​โดดเด่น​อย่างมาก​ ​เขา​ไม่เคย​พบ​มาก​่อน

“​เหตุใด​เจ้า​จึง​ปองร้าย​ข้า​”​ ​ฮ่องเต้​ถาม

หมอ​หลวง​ผู้​นั้น​ตัวสั่น​เทา​อยู่​บน​พื้น​ ​“​ฝ่า​บาท​ ​กระหม่อม​ ​กระหม่อม​หมดหนทาง​ ​กระหม่อม​ถูก​บังคับ​…​”

ใบหน้า​ของ​ฮ่องเต้​ไร้อารมณ์​ ​“​ผู้ใด​บังคับ​เจ้า​ให้​ปองร้าย​ข้า​”

หมอ​หลวง​นั้น​ราวกับ​ไม่กล้า​พูด​ ​เขา​ถูก​ขันที​จิ้น​จง​เตะ​เข้าที่​เอว​เบา​ๆ​ ​เขา​ก็​ตะโกน​ขึ้น​มารา​วกับ​หมู​ที่​ถูก​เชือด​ ​ขดตัว​เป็น​ก้อน​อยู่​บน​พื้น

“​ข้า​พูด​ ​ข้า​พูด​ ​องค์​รัชทายาท​ ​องค์​รัชทายาท​…​”

บุปผาลิขิตแค้น

บุปผาลิขิตแค้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท