รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 445 สภาพแวดล้อมเลวร้ายเกินไป ไม่มีผู้ใดสามารถหยุดยั้งได้!

บทที่ 445 สภาพแวดล้อมเลวร้ายเกินไป ไม่มีผู้ใดสามารถหยุดยั้งได้!

บทที่ 445 สภาพแวดล้อมเลวร้ายเกินไป ไม่มีผู้ใดสามารถหยุดยั้งได้!

โลหิตหลั่งผืนดินไม่หยุด เพียงแค่พริบตาเดียวก็เต็มไปด้วยศพนอนกองบนแอ่งเลือด

อาณาจักรโบราณอันรุ่งโรจน์ สืบทอดกันมาอย่างยาวนานจนเกินจะนับ บัดนี้กลับถูกทำลายสิ้น ตึกรามบ้านช่องพังทลาย กลายเป็นเพียงซากปรักหักพัง

อาณาจักรโบราณแห่งหนึ่งล่มสลายสิ้น

เหลิงเจี้ยนร่อนลงมาจากบนฟ้า เท้าเหยียบลงแอ่งเลือดเกิดเป็นเสียงเฉอะแฉะดังต่อเนื่อง

สีหน้าของเขาเฉยเมย นอกจากจะไม่สนใจเลือดนองเต็มพื้น ยังมีความรู้สึกเพลิดเพลินเป็นอย่างมาก

เขาก้าวไปข้างหน้าทีละก้าว ทิ้งรอยเท้าเปื้อนเลือดเอาไว้เป็นทาง

ยังมีคนรอดชีวิตหลงเหลืออยู่ในอาณาจักรโบราณ

“ข้า…ข้าจะสู้ตายกับเจ้า!”

เด็กหนุ่มผู้หนึ่งพุ่งออกมาจากซากปรักหักพัง ในมือของเขาถือดาบน้ำ บนใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตา แม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าตนเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหลิงเจี้ยนแต่ก็ยังยกดาบขึ้นสู้สุดชีวิต

อ๊าาา!

หัวใจของเขาโศกเศร้าปนอาฆาต เดิมทีทั้งครอบครัวของเขากำลังร่วมทานข้าวกันอย่างมีความสุข แต่กลับเกิดภัยร้ายขึ้น พลังอันน่าสะพรึงกลัวทำลายทุกสิ่ง พ่อแม่ของเขา น้องชายของเขา พี่สาวของเขา ทุกคนล้วนตายหมดสิ้นไม่เหลือกระทั่งร่างไร้วิญญาณ!

“ข้าจะฆ่าเจ้า!”

เขาตะโกนออกมาทั้งน้ำตา พุ่งเข้าฟันเหลิงเจี้ยนด้วยดาบยาว

“เจ้าอาศัยสิ่งใดมาสังหารข้ากัน!?”

เหลิงเจี้ยนเหวี่ยงเคียวสีดำในมือตัดร่างครึ่งร่างของเขา เด็กหนุ่มล้มลงกับพื้นเช่นเดียวกับดาบในมือที่ร่วงหล่น

“เจ้ามันไม่ใช่คน เจ้าจะต้องถูกกรรมตามสนอง! อ๊าาา!”

หญิงสาวผู้หนึ่งที่ร่างกายครึ่งหนึ่งถูกทำลายจนล้มลงบนพื้นกล่าวออกมา ใบหน้าที่แต่เดิมงดงามเต็มไปด้วยเลือด ขาของนางก็ขาดหายไป

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น นางก็ยังคงคลานไปจับดาบยาวบนพื้น กระเสือกกระสนพาร่างตนเองคลานไปหาเหลิงเจี้ยนทีละน้อย ก่อนจะพยายามเหวี่ยงดาบยาวหมายสั่งหารเหลิงเจี้ยน

โพละ!

โลหิตสาดกระเซ็น เหลิงเจี้ยนใช้เท้าเหยียบหัวของหญิงสาวผู้นั้นอย่างไร้ความปรานี

“ผลกรรมจะมาจากที่ใดกัน? สิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนอาณาจักรของพวกเจ้าล้วนจะต้องตาย เลือดจะต้องอาบย้อมทั่วทั้งแผ่นดิน นี่คือชะตากรรมของพวกเจ้า!”

เหลิงเจี้ยนก้าวเดินไปข้างหน้า ไม่ปล่อยให้แม้สักชีวิตหลุดรอด

ภายใต้ประสาทสัมผัสมหาจักรพรรดิอันทรงพลังของเขา ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดสามารถหลุดรอดออกไปได้ เคียวสีดำของเขาตวัดปลิดชีพผู้ที่ยังเหลือรอด จนหยาดเลือดสาดกระเซ็น

“ยังมีเด็กเหลืออีกหนึ่ง หลังจากฆ่าเสร็จก็ย้ายสถานที่ได้”

ดวงตาของเขาทอประกายเหี้ยมโหด ด้านในซากปรักหักพังที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลมีเด็กน้อยอายุเพียงไม่กี่ขวบขดตัวหลบอยู่

นี่คือผู้รอดชีวิตที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียว เขายกมือข้างหนึ่งขึ้น ซากปรักหักพังก็ระเบิดออกเผยให้เห็นเด็กน้อยที่กำลังขดตัวอยู่ภายใน

“ตายเสียเถอะ”

เหลิงเจี้ยนไร้ความเมตตา ยกเคียวในมือที่กวัดไปมาเต็มไปด้วยเจตนาสังหารเด็กน้อยผู้นี้

“เดรัจฉาน!”

“อ๊ากกก! ถูกสับออกเป็นหมื่น ๆ ชิ้นก็ยังไม่สาสมกับความผิดของเจ้า!”

มีผู้แข็งแกร่งตรงมายังที่แห่งนี้

พวกเขาต่างอยู่ใกล้กับอาณาจักรโบราณ หลังจากเกิดเหตุขึ้น พวกเขาก็รีบตรงมาทันที ทว่ามันยังสายเกินไป เมื่อพวกเขามาถึง อาณาจักรแห่งนี้ก็เต็มไปด้วยซากศพ หยาดโลหิตเจิ่งนองไปทั่วทุกหนแห่ง!

ดวงตาของพวกเขาเคียดแค้นจนเป็นสีแดงก่ำ ภายในใจเต็มไปด้วยเพลิงโทสะ อาณาจักรโบราณกว้างใหญ่ถึงเพียงนี้ มีสิ่งมีชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนอาศัยอยู่ กลับถูกเหลิงเจี้ยนสังหารสิ้น หลงเหลือเพียงเด็กน้อยหนึ่งคนเท่านั้น!

“ฆ่า!”

“เจ้าจะต้องไม่ตายดี!”

พวกเขาต่างพากันชูอาวุธขึ้น ขอบเขตแต่ละคนเองก็ไม่ธรรมดา มีตั้งแต่ขอบเขตนักบุญจนถึงขอบเขตสูงสุด มีไม่น้อยที่เป็นคนจากยุคโบราณ!

“หนวกหู!”

เหลิงเจี้ยนตวาดอย่างเย็นชา เคียวในมือวาดออก แสงสีดำแปลกประหลาดถูกปล่อยออกมาตามแนวตัด

ฉับ! ฉับ! ฉับ!

ทุกคนไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าจะเป็นนักบุญหรือขั้นสูงสุด ผู้มาจากยุคสมัยโบราณหรือปัจจุบันล้วนถูกสังหารทิ้งโดยไม่สามารถแม้กระทั่งจะต่อต้าน ช่องว่างที่มีนั้นห่างชั้นจนเกินไป!

“จำเป็นต้องยกกองทัพมาด้วยหรือ? เพียงแค่ข้าคนเดียวก็สามารถทำลายทุกสิ่งได้!”

เหลิงเจี้ยนแสดงสีหน้าไม่แยแส หลังจากเขามาถึงอาณาจักรแห่งนี้ก็รู้ได้ทันทีว่าอาณาจักรแห่งนี้ไม่อาจต้านทานได้ สภาพแวดล้อมของฟ้าดินเลวร้ายเกินไป ยากที่จะให้กำเนิดขอบเขตระดับสูง

และสถานการณ์ก็ไม่แตกต่างอะไรไปจากที่เขาคิดมากนัก

ยอดฝีมือระดับสูงที่เขาพบนั้นแทบทั้งหมดล้วนชราแก่จนหง่อม เห็นได้ชัดว่าล้วนมีชีวิตรอดมาจากสมัยโบราณ ไม่ใช่คนจากยุคปัจจุบัน

ต้องการจะหยุดยั่งอาณาจักรเทียนหยวนของพวกเขาอย่างนั้นหรือ?

คิดอะไรอยู่!

เขาเพียงแค่คนเดียวก็สามารถสังหารสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนอาณาจักรแห่งนี้ได้!

แปร้น!

เสียงคำรามดังขึ้น พลังมหาศาลปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมกับยอดอสูรร้าย พุ่งเข้าใส่หมายสังหารเหลิงเจี้ยน

มันคือช้างยักษ์ตัวหนึ่งที่มีสีขาวทั้งตัวราวกับหยก สายเลือดกล้าแกร่งเป็นอย่างยิ่ง แข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าสิบอสูรร้ายบรรพกาล

มันพุ่งไปด้านหน้า ช้างยักษ์ตัวใหญ่เสียยิ่งกว่าภูเขาวิ่งเข้าใส่ ผืนดินถึงกับสั่นสะเทือนไม่หยุด!

“เผ่าของเจ้าสังหารยอดฝีมือจากอาณาจักรเทียนหยวนไปไม่น้อยในสมัยโบราณ นับว่าค่อนข้างแข็งแกร่ง ทว่าด้วยสภาพฟ้าดินอันเลวร้ายเกินไป แม้ว่าพวกเจ้าจะมีสายเลือดแข็งแกร่งแค่ไหนก็ไร้ค่า ก็เป็นเรื่องยากยิ่งที่จะก้าวสู่ขอบเขตขั้นสูง!”

เหลิงเจี้ยนพูด “เจ้ามาที่นี่ก็เป็นเพียงการส่งตัวเองมาตายเท่านั้น!”

เขากระโดดขึ้น หมอกสีดำลอยเวียนรอบตัว เคียวในมือถูกกวัดแกว่งเข้าปะทะกับช้างสีขาวหยก!

สายเลือดของยอดอสูรร้ายน่าอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง นี่เป็นถึงอสูรขั้นตี้หวงตนหนึ่ง ทั้งยังไม่เป็นอสูรแก่ชราจนหง่อม แต่เต็มไปด้วยพลัง อยู่ในสภาวะดีเป็นอย่างมาก

สายเลือดของมันทรงพลังและน่ากลัว สามารถต่อสู้ข้ามขั้นได้อย่างสมบูรณ์ ขั้นตี้หวงอย่างมันสามารถต่อกรกับตี้จวินได้!

น่าเสียดายที่เหลิงเจี้ยนเองก็ไม่ใช่ตี้จวินธรรมดา เหนือยิ่งกว่าตี้จวินทั่วไปเป็นอย่างมาก

แปร้น!

คชสารหยกขาวร้องคำรามออกมาด้วยความเจ็บปวด เหลิงเจี้ยนน่ากลัวเกินไป มันไม่สามารถหยุดยั้งเคียวสีดำที่ฟันลงมาได้แม้แต่น้อย จึงโดนตัดขาข้างหนึ่งไปในทันที!

“ฆ่า!”

ร่างของมันเปล่งแสงสีขาวพิสุทธิ์ พลังสายเลือดระเบิดออกมาอย่างสุดกำลังทำให้ร่างมหึมาของมันขยายขนาดขึ้นอีก คล้ายกับจะทำให้ฟ้าดินปริแตก!

“ไร้ค่า!”

เคียวสีดำในมือเหลิงเจี้ยนถูกยกขึ้นอีกครั้ง มันเองก็ขยายขนาดใหญ่ขึ้นก่อนจะถูกสับลงมา

พลังอันน่าสะพรึงกลัวของตี้จวินไหลเวียนทำลายการโจมตีของคชสารหยกขาวลงไปอย่างสมบูรณ์ หัวของมันถูกตัดออก จนตัวขนาดมหึมาล้มลงพื้นเสียงดังสนั่น

พลังขอบเขตมหาจักรพรรดินั้นยากยิ่งนักจึงจะสามารถสังหารลงได้ ทว่าเคียวสีดำในมืองของเหลิงเจี้ยนนั้นไม่ใช่อาวุธธรรมดา มีพลังแปลกประหลาดน่าสะพรึงกลัว อสูรขั้นตี้หวงอย่างคชสารหยกขาวยังถูกสังหารตายไปอย่างสมบูรณ์!

“หลังจากแยกส่วนแล้วเลือดจะไหลได้ไวยิ่งขึ้น”

เหลิงเจี้ยนลงมือแกว่งเคียวสีดำสับร่างของคชสารหยกขาวออกเป็นชิ้น ๆ ทำให้เลือดของคชสารหยกขาวไหลลงสู่พื้นดินรวดเร็วยิ่งขึ้น

“อ๊ากกก!”

“ผู้ใดจะฆ่าเขาได้!”

เหล่าผู้มายังที่แห่งนี้ร้องออกมาด้วยความสิ้นหวัง

ยอดนิกายและยอดเผ่าเป็นที่พึ่งอันยิ่งใหญ่สุดของพวกเขา อสูรขั้นตี้หวงอย่างคชสารหยกขาว ยังไม่ใช่คู่ต่อกรของเหลิงเจี้ยน ถูกสังหารลงไปเพียงไม่กี่กระบวนท่า

นี่…นี่เป็นเพียงคนผู้เดียวจากอาณาจักรเทียนหยวน!

ถ้าหากกองทัพของอาณาจักรเทียนหยวนมาถึง พวกเขาจะใช้สิ่งใดมาหยุดยั้ง?

อาณาจักรแห่งนี้กำลังจะสูญสิ้นจริง ๆ อย่างนั้นหรือ?

“อาณาจักรเทียนหยวนต้องการให้เลือดหลั่งรินไปทั้งแผ่นดิน เพราะกำลังจะพยายามปลุกสิ่งใดขึ้นมาหรือไม่?”

มีเสียงรำพึงดังขึ้นมา พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตจากแดนต้องห้ามที่อยู่ใกล้กับจวินโจว จึงได้เห็นภาพการฆ่าสังหารหมู่ครั้งใหญ่ของเหลิงเจี้ยน ก็พลันเกิดความคิดนี้ขึ้นมา

“ถ่ายทอดคำสั่งไป ห้ามสมาชิกทุกคนออกไปด้านนอกในช่วงเวลานี้อย่างเด็ดขาด!”

จ้าวแห่งแดนต้องห้ามออกคำสั่ง เกรงว่าเบื้องหลังของอาณาจักรเทียนหยวนจะมีอาณาจักรอันทรงพลังสนับสนุนอยู่

แม้ว่าพวกมันจะแข็งแกร่งทั้งยังมีอาณาจักรอันทรงพลังอยู่เบื้องหลัง พวกมันก็ยังคงรู้สึกหวาดกลัว

อาณาจักรที่อยู่เบื้องหลังเทียนหยวนอาจเหนือยิ่งกว่าพวกมัน!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท