บทที่ 447 น่ากลัวเกินไปแล้ว เคยเกือบชีวาวายเพราะการพยากรณ์!
ภายในหลุมใหญ่ ไป๋มู่อาบเลือดไปทั้งตัว เนื้อหนังถลอกปอกเปิก ถูกพลังพิศวงจากเคียวสีดำรัดตัว อย่าให้พูดเลยว่าสภาพยับเยินเพียงใด
เขาพยายามรีดเร้นพลังสุดชีวิตหมายจะยืนให้ขึ้น แต่กลับทำไม่ได้เลย พลังพิศวงนั่นตัดขาดการเชื่อมต่อระหว่างเขาและพลังในกาย
เคียวสีดำง้างสูง เหลิงเจี้ยนมีสีหน้าเย็นชา เขาตั้งใจสังหารไป๋มู่ลง ณ ที่นี้!
โลหิตของตี้จวินเลอค่ามาก มอบพลังที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นแก่ ‘แผ่นดิน’ นี้ได้
เขามิได้เอ่ยคำใดให้มากความ ฟาดฟันเคียวในมือลงมาทันที ในเมื่อเขามาเพื่อเข่นฆ่า เช่นนั้นสิ่งมีชีวิตทุกตนตรงหน้าเขาต้องตายทั้งหมด!
ฟึ่บ!
เวลานั้นเอง ประกายเจิดจ้าสว่างไสวขึ้น เคียวที่กำลังสับลงมาถูกยับยั้งไว้!
โล่โบราณเล่มหนึ่งปรากฏออกมากลางอากาศ ปกป้องไป๋มู่เอาไว้ หยุดยั้งเคียวสีดำที่กำลังฟาดฟันลงมา
“หืม!?”
เหลิงเจี้ยนเลิกคิ้ว ดวงตาเปล่งประกายเจิดจ้าน่าเกรงขาม ผู้ใดกันที่สกัดเขาไว้
“เจ้าหรือ”
เขามีสีหน้าประหลาด คล้ายว่าไม่อยากเชื่อ
ห่างออกไปไม่ไกลเบื้องหน้าเขา มีผู้เฒ่าคนหนึ่งปรากฏกาย ประกายนักบุญห้อมล้อมอยู่รอบ ๆ ขั้วศักดิ์สิทธิ์เข้มข้น
ผู้เฒ่าคนนี้หรือที่หยุดเขาไว้?
เขาทำใจเชื่อได้ยาก หรือเรียกได้ว่าไม่อาจเชื่อได้ลง
ตาเฒ่าขอบเขตนักบุญหยุดเขาได้หรือนี่…
จะให้เขาเชื่อได้เยี่ยงไร
กำลังรบระดับนักบุญ เมื่ออยู่ต่อหน้าตี้จวินสูงส่งอย่างเขา ต้อยต่ำยิ่งกว่ามดตัวหนึ่งเสียอีก!
“นั่นมัน…พู่กันกระไร!”
ม่านตาของเขาหรี่ลงฉับพลัน สีหน้าเคร่งเครียดเหลือคณา ถูกพู่กันในมือผู้เฒ่าดึงดูดสายตาไป!
นั่นมันพู่กันระดับไหนกัน?
ตัวพู่กันขนาดไม่ใหญ่ ไม่ต่างจากพู่กันปกติทั่วไป
แต่หากเทียบกับพู่กันทั่วไปแล้ววิจิตรประณีตกว่ามาก!
แท่งพู่กันตรงดิ่ง วัสดุไม้วาววับเป็นประกาย ขนแปรงพู่กันทุกเส้นล้วนเล็กเรียวนุ่มลื่น ระยิบระยับแพรวพราว
มิหนำซ้ำ บนพู่กันแท่งนี้ยังมีจังหวะแห่งเต๋าสูงส่งเหนือจินตนาการไหลเวียน สูงส่งขนาดที่ระดับตี้จวินชั้นเลิศอย่างเขายังรู้สึกต่ำต้อย วิถีที่ตนบำเพ็ญเป็นเพียงเม็ดข้าว ไม่ต่างจากฝุ่นธุลี!
ต้องเป็นผู้ยิ่งใหญ่ปานใดถึงรังสรรค์พู่กันขั้นนี้ออกมาได้!?
เขามิกล้าคิดต่อ ความทึ่งอัดแน่นอยู่ในอก!
บนโลกนี้มีพู่กันที่วิเศษถึงเพียงนี้ด้วยหรือ?
เขาไม่อาจเชื่อได้ลง สายตายิ่งประหลาดขึ้นไปใหญ่
“คนของคุณชาย!”
ไป๋มู่หันกลับไปอย่างยากลำบาก เขาเห็นผู้เฒ่าคนนั้น และเห็นพู่กันวิเศษในมือผู้เฒ่าคนนั้น
จังหวะแห่งเต๋าสูงส่งเยี่ยงนี้เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี เคยสัมผัสยามอยู่กับคุณชายมาก่อน ทุกสิ่งทุกอย่างในบ้านท่านเซียนล้วนมีจังหวะแห่งเต๋าสูงส่งเยี่ยงนี้ไหลเวียนอยู่!
เขาเข้าใจในบัดดล ผู้เฒ่าเกี่ยวข้องกับท่านเซียน!
โลหิตกระจายไปทั่วทุกทิศ ทุกจุดที่มองเห็นมีศพนอนอยู่ทั้งสิ้น ตัวผู้เฒ่าสั่นระริก เนื้อตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ
“เจ้ากล้าดีอย่างไร!?”
ผู้เฒ่าต่อว่าเหลิงเจี้ยนอย่างกราดเกรี้ยว จิตสังหารในตัวท่วมท้นนภา จิตใจคนผู้นี้อำมหิตยิ่ง ถึงขั้นฆ่าล้างคนที่นี่ไปมากมายปานนี้!
“ฆ่า!”
เขาลงมือทันที พู่กันในมือตวัดวาดภาพในอากาศ มีดพร้าเล่มใหญ่ปรากฏออกมาตามการวาดของเขา จากนั้น ภาพวาดกลายเป็นของจริงพร้อมด้วยพลังอันไร้ที่สิ้นสุด ฟาดฟันไปทางเหลิงเจี้ยน!
เหลิงเจี้ยนสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก เป็นครั้งแรกที่แสดงหน้าตาหวาดกลัวเช่นนี้
นี่มันพู่กันอะไรกันแน่
มีดพร้าที่ถูกวาดโดยพู่กันแท่งนี้สร้างความอกสั่นขวัญแขวนแก่เขา พลังที่แฝงไว้นั้นน่าสะพรึงยิ่ง!
นอกจากนี้ ใจเขารู้สึกเหลือเชื่อ
นักบุญเล็ก ๆ คนหนึ่ง เหตุใดถึงรีดเร้นพู่กันวิเศษสูงส่งไม่ธรรมดาเยี่ยงนี้ได้
เขามิกล้าลังเล เปล่งพลังทั้งหมดในตัว เคียวสีดำทอประกายพิศวงออกมาหลายชั้น อานุภาพของเคียวถูกรีดเร้นถึงขีดสูงสุด!
นี่คือเคียวที่แดนมรณาประทานให้ แสนยานุภาพลึกล้ำเกินหยั่ง การต่อสู้ด้วยเคียวเล่มนี้ ต่อให้เจอกับเทียนตี้ยังเข้าประจัญบานได้!
ทว่าเคียวที่ทรงพลังปานนี้ ไร้เทียมทาน ไม่อาจต้านทานปานนี้ กลับมิสู้มีดพร้าที่วาดขึ้นโดยพู่กันเล่มนั้น!
มีดพร้าเล่มใหญ่ฟาดฟันเข้ามา เคียวสีดำปะทุพลังพิศวง คลื่นพลังแสนสยดสยองซัดสาด แต่ไม่อาจยับยั้งได้เลย เมื่อครู่ทันทีที่ปะทะ เคียวสีดำก็ถูกฟันเป็นสองท่อน!
“อะไรกัน!”
เหลิงเจี้ยนอุทานเสียงหลง ขวัญผวาไปหมด น่ากลัวเกินไปแล้ว!?
เขาคิดอยากถอยในบัดดล อยากจะไปจากที่นี่ ไม่อยากสู้ต่อไปแล้ว
จะให้สู้ต่อได้เยี่ยงไร?
เร่งพลานุภาพเคียวสีดำถึงขีดสุดแล้วยังมิวายต้านไม่ได้ ทันทีที่ปะทะก็ถูกหั่นเป็นสองท่อน ความต่างชั้นมากเกินไป เกินกว่าที่เขาจะต่อกรด้วยได้!
ไอ้…บัดซบ!
หากรู้เช่นนี้แต่แรก ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่ควรโอหังเอิกเกริกปานนี้
เขาควรหาที่ซ่อนตัว รอให้กองทัพอาณาจักรเทียนหยวนมาเมื่อใดค่อยลงมือมิดีกว่าหรือ?
บัดนี้สิดี!
มีตาเฒ่าแกร่งเกินมนุษย์เช่นนี้ปรากฏในที่แห่งนี้!
จุดจบของเขาคงไม่สู้ดีแล้ว!
เขาแหวกมิติเพื่อหนี ทว่ามีดพร้าเล่มใหญ่เล็งเป้าเขาไว้แต่แรก ไล่ตามเข้าไปถึงมิติ และผ่าเขาออกมาด้วยการฟันครั้งเดียว!
เลือดสาดกระเซ็น ร่างของเขาถูกตัดแบ่งครึ่ง พลังปราณอ่อนแรง มีดนี้เกือบสังหารเขาจนสิ้นซาก!
เขารีดเร้นพลังอย่างยากลำบาก ผสานร่างสองท่อนที่ถูกผ่าครึ่งกลับมาเป็นหนึ่งเดียว
“อย่าฆ่าข้า! ขอเพียงเจ้าไม่ฆ่าข้า ไม่ว่าเรื่องใดล้วนคุยกันได้!”
เขารีบร้องขอความเมตตาจากผู้เฒ่า “พลังป้องกันของอาณาจักรนี้เริ่มมีรอยร้าว ต่อไปต้องถูกทลายจนราบคาบเป็นแน่ ถึงคราวนั้น ยอดฝีมือจากอาณาจักรเทียนหยวนของเราก็จะทยอยมาเยือนอาณาจักรแห่งนี้! หากเจ้าไม่ฆ่าข้า ข้ารับประกันความปลอดภัยของเจ้าได้ ไม่ปล่อยให้ยอดฝีมืออาณาจักรเทียนหยวนของข้าฆ่าเจ้า!”
“เบื้องหลังอาณาจักรเทียนหยวนมีสิ่งใดอยู่!?”
ผู้เฒ่าตวาด คาดคั้นเหลิงเจี้ยน
ในยุคโบราณ อาณาจักรเทียนหยวนบุกมาจากภายนอก ฆ่าล้างสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรนี้ไปมากมายนับไม่ถ้วน ถึงแม้ท้ายที่สุดอาณาจักรเทียนหยวนถูกตีจนล่าถอย รายละเอียดของสงครามยุคโบราณก็มีเพียงสิ่งมีชีวิตไม่เท่าไรที่รู้ สิ่งมีชีวิตอีกนับคณาไม่ทราบถึงรายละเอียดของสงครามในครานั้น
เขาเองก็ไม่รู้ รู้แต่เพียงเคยมีสงครามใหญ่อุบัติในยุคโบราณ แต่ไม่ทราบถึงรายละเอียดของสงครามนั้น และไม่รู้จักอาณาจักรเทียนหยวน
ทว่าเขาชำนาญด้านพยากรณ์ เคยพยากรณ์ถึงอาณาจักรเทียนหยวน!
นั่นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นยามเขาพเนจรในอีกแคว้นหนึ่ง
คราวนั้น ตระกูลจักรพรรดิ ลัทธิจักรพรรดิมากมายในยุคโบราณพากันเผยตัว ร่วมสร้างสถานศึกษาเทียนตี้ เป็นที่สนใจของเขา เขารู้สึกว่าต้องมีเรื่องใหญ่กำลังจะเกิดขึ้น จึงทำการพยากรณ์ถึงการนี้
แต่สิ่งที่เขาคิดไม่ถึงคือ การพยากรณ์ในคราวนั้นเกือบคร่าชีวิตของเขา!
เบื้องหลังของอาณาจักรเทียนหยวนน่าประหวั่นพรั่นพรึงเป็นที่สุด การพยากรณ์ถึงสิ่งนั้นต้องแบกรับพลังแห่งกรรมอย่างใหญ่หลวง ซึ่งเป็นพลังที่เขาไม่อาจทานได้ไหว หากมิใช่ว่ามีพู่กันวิเศษที่ท่านเซียนประทาน ครานั้นเขาคงตายไปแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย!
และเขาก็มิได้ล่วงรู้สิ่งใดมากนัก การพยากรณ์ถึงเรื่องราวของอาณาจักรเทียนหยวนล้วนถูกพลังแสนสยดสยองบดบัง ไม่อาจสำแดงให้เห็น
เขารู้จากการพยากรณ์เพียงว่าที่กองกำลังโบราณในอาณาจักรนี้ออกโรงอย่างพร้อมเพรียงก็เพื่อเข้าต่อสู้กับการบุกอีกครั้งของอาณาจักรเทียนหยวน ส่วนสิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวนจะมาเมื่อใด มาจากที่ใด แล้วมีจุดประสงค์อันใด เขาไม่รู้สักอย่าง
ใช่แล้ว เขาก็คือผู้เฒ่าเมิ่งจี เคยพำนักในเรือนเล็กท่านเซียนอยู่พักใหญ่ ต่อมาทัศนาจรไปทั่วทุกแห่งในดินแดนหยิน จนสุดท้ายมาอยู่ที่จวินโจว
เขาเพิ่งมาถึงจวินโจว ก็สัมผัสถึงหมอกเลือดชั่วร้ายสะท้านฟ้าจากทางนี้ จึงรีบรุดหน้ามา ยับยั้งเหลิงเจี้ยน