รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 448 ครั้งนี้ กองกำลังจากแดนมรณาจักกรีธาทัพเต็มกำลัง!

บทที่ 448 ครั้งนี้ กองกำลังจากแดนมรณาจักกรีธาทัพเต็มกำลัง!

บทที่ 448 ครั้งนี้ กองกำลังจากแดนมรณาจักกรีธาทัพเต็มกำลัง!

น่ากลัวเกินไปแล้ว!

บัดนี้ ผู้เฒ่าเมิ่งจีหวนย้อนนึกไปถึงการพยากรณ์ในครานั้นยังขวัญผวาอยู่บ้าง ไม่อาจสงบใจได้

จะให้เขาสงบใจอย่างไรไหว

เขาเคยพักอยู่กับท่านเซียนพักใหญ่ ได้รับการชี้แนะจากท่านเซียนหลายต่อหลายครั้ง วิถีวาดภาพของเขา วิถีพยากรณ์ของเขา ล้วนได้รับการยกระดับใหญ่หลวงจนยากจะจินตนาการได้!

โดยเฉพาะเมื่อเขาได้ทัศนาจรไปตามแคว้นต่าง ๆ ก็ยิ่งตื่นรู้อีกหลายอย่าง จนวิถีวาดภาพและวิถีพยากรณ์พัฒนาขึ้นไปอีก

และข้อนี้ เห็นได้จากการที่เขาลงมือต่อสู้กับเหลิงเจี้ยน

หากวิถีวาดรูปของเขาลึกล้ำไม่พอ เขาไม่มีทางเปล่งพลานุภาพของพู่กันได้น่าทึ่งเพียงนี้

ตี้จวินชั้นเลิศยังไม่อาจต้านทานอานุภาพของพู่กัน วิถีวาดภาพของเขาอยู่ในระดับสูงยิ่งอย่างไม่ต้องสงสัย!

อันที่จริง ที่เขาสำเร็จวิถีวาดภาพจนอยู่ในระดับสูงส่งเยี่ยงนี้ได้เป็นเรื่องปกติ หากให้ว่ากันจริง ๆ ความสำเร็จของเขาในยามนี้ยังนับว่าต่ำไป เขาควรสำเร็จมากกว่านี้ด้วยซ้ำ

ถึงอย่างไร เขาก็เคยอาศัยในเรือนเล็กท่านเซียนเป็นเวลานาน ซ้ำท่านเซียนยังชี้แนะวิถีวาดภาพของเขาอย่างละเอียดทุกวี่วัน ที่เขามีความแตกฉานด้านวิถีวาดภาพขนาดนี้ไม่นับว่าแปลก

นี่มิใช่เรื่องที่ผู้อื่นเทียบได้ แม้แต่หลิงอิน เซี่ยเหยียน และคนอื่น ๆ ยังเทียบไม่ได้ ท่านเซียนให้คำชี้แนะเขามากที่สุด ช่วยให้เขาเข้าใจในวิถีวาดภาพอย่างลึกซึ้ง

ในวิถีวาดภาพที่ท่านเซียนให้คำชี้แนะต่อเขา มิได้มีเพียงทักษะวาดภาพ แต่ยังแฝงไว้ด้วยวิชาพยากรณ์ความลับสวรรค์ ความเข้าใจและความตื่นรู้ในวิถีพยากรณ์ของเขาลึกซึ้งเหลือคณา มีความสำเร็จสูงส่ง

ความสำเร็จในวิถีพยากรณ์ของเขาเลิศล้ำยิ่ง ในสถานการณ์ปกติ ต่อให้เขาพยากรณ์เทียนตี้ก็ไม่มีทางเป็นอะไรแม้แต่น้อย สามารถพยากรณ์ได้ทุกสิ่ง

ทว่าเขาที่อยู่ในระดับนี้ ยามพยากรณ์เบื้องหลังอาณาจักรเทียนหยวนกลับแทบสิ้นลม!

น่าพรั่นพรึงเกินไปแล้ว!

ยามพยากรณ์เบื้องหลังอาณาจักรเทียนหยวน มีหมอกทะมึนปริศนาปรากฏในการพยากรณ์ บดบังความลับสวรรค์ทั้งปวง เขาไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะปัดเป่าหมอกให้ออก แค่แตะเบา ๆ เขาก็ถูกพลังสะท้อนกลับอย่างร้ายแรง พลังแสนสยดสยองบุกมาฆ่าเขาตามโซ่กรรม!

พลังนั้นเกินกว่าเขาจะต้านทานไหว ชั่วพริบตาเดียวเขาก็รู้สึกถึงอันตรายถึงชีวิต หากมิใช่ช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานพู่กันที่ท่านเซียนประทานให้เปล่งแสนยานุภาพ ยับยั้งพลังนั้นไว้ เขาคงถูกฆ่าไปแล้วอย่างสมบูรณ์!

เบื้องหลังอาณาจักรเทียนหยวนคือสิ่งใดกันแน่?

เขาเพิ่งแตะโดน ไม่ทันได้รับรู้สักสิ่งก็ประสบเรื่องน่ากลัวเยี่ยงนี้ เขารู้สึกผวาอย่างมาก มีสิ่งที่น่าประหวั่นพรั่นพรึงเกินจินตนาการอยู่เบื้องหลังอาณาจักรเทียนหยวน!

ความประหวั่นพรั่นพรึงนี้น่ากลัวกว่ากองกำลังทั้งหมด!

เกรงว่าแม้แต่อาณาจักรเก้าตอนบนก็ไม่อาจเทียบเทียม!

รู้หรือไม่ เขาใช้พู่กันที่ท่านเซียนประทานในการพยากรณ์ ผลสุดท้ายก็ยังไม่มีสิทธิ์แตะต้อง ช่างน่าหวาดหวั่นเหลือเกิน!

ต่อให้เขาพยากรณ์อาณาจักรเก้าตอนบนยังไม่เป็นเช่นนี้!

อีกด้าน หัวใจเหลิงเจี้ยนกระตุก ‘วูบ’

คนผู้นั้นรู้ได้อย่างไรว่าอาณาจักรเทียนหยวนของพวกเขามีพลังบางอย่างสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง

ตามหลักปกติ เรื่องนี้ไม่สมควรเกิดขึ้น พลังเบื้องหลังอาณาจักรเทียนหยวนเกินกว่าที่สิ่งมีชีวิตในอาณาจักรนี้รับรู้ได้

ไม่ต้องพูดถึงสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรนี้ แม้แต่ในอาณาจักรทั้งปวง ก็แทบไม่มีสิ่งมีชีวิตตนใดรับรู้

พลังเบื้องหลังอาณาจักรเทียนหยวนลึกลับอย่างยิ่ง ผู้ที่รู้จักน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย!

แม้แต่ตัวเขาเองยังรู้เพียงน้อยนิด รู้แค่ว่าพลังนั้นมาจากแดนมรณา จุติมายังอาณาจักรเทียนหยวนของพวกเขาตั้งแต่เนิ่นนานก่อนกาล นำทัพอาณาจักรเทียนหยวนของพวกเขาพัฒนาจนอยู่ในระดับสูงส่ง!

ที่บุกมายังอาณาจักรแห่งนี้ ก็เป็นคำสั่งจากแดนมรณา ทว่าสาเหตุที่แท้จริงคืออะไร เขาไม่อาจทราบได้

แดนมรณาสั่งให้พวกเขากำจัดสิ่งมีชีวิตท้องถิ่นในอาณาจักรแห่งนี้ให้สิ้นซาก ไม่เหลือแม้แต่คนเดียว หมายใจให้โลหิตของสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรนี้ไหลรินไปทั่วทุกมุมของแดนดิน มิให้เหลือที่ว่างสักจุด

พวกเขาทำตาม บุกเข้ามาตั้งแต่ยุคโบราณ

อนิจจา พวกเขาล้มเหลว ทำไม่สำเร็จ

สาเหตุที่พวกเขาล้มเหลวส่วนหนึ่งเป็นเพราะยอดนิกายและยอดเผ่าในอาณาจักรนี้ ทว่าสาเหตุส่วนใหญ่เป็นเพราะพลังในปฐพีผืนนี้แข็งแกร่งอย่างมาก จำกัดพลังพวกเขาไว้มหาศาล จนพวกเขาไม่อาจเปล่งพลังสูงสุด

หากในยุคโบราณ พลังในปฐพีนี้ย่ำแย่เหมือนยุคนี้ พวกเขาไม่มีทางพ่าย

ลำพังยอดนิกายและยอดเผ่าในอาณาจักรนี้ไม่มีทางสกัดกั้นพวกเขาได้เลย

ถึงแม้ยอดนิกายและยอดเผ่าในครานั้นทรงพลังเหลือคณา กำลังรบระดับเทียนตี้ก็มีไม่น้อย กระนั้นก็ไม่อาจเทียบเทียมพวกเขา

“เป็นพลังเช่นไรข้าเองไม่ทราบ พวกมันลึกลับมาก ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน รู้แต่เพียงพวกมันอ้างตนว่ามาจากแดนมรณา”

เหลิงเจี้ยนกล่าว มิได้ปิดบังแต่อย่างใด

เพราะเขารู้ดีว่าปิดบังไปก็เปล่าประโยชน์ ผู้เฒ่าเมิ่งจีล่วงรู้ข้อมูลเหล่านี้ได้โดยการค้นวิญญาณเขา มิสู้ให้เขาสารภาพทุกอย่างไปเลย

“พวกเราเคยมาที่นี่ในยุคโบราณ ทว่าล้มเหลว แต่นั่นเป็นเพราะพลังในปฐพีผืนนี้ของพวกเจ้ายังแข็งแกร่งมาก พลังจากแดนมรณาก็ไม่เคยมาถึง”

เขากล่าวต่อ “ทว่าคราวนี้ไม่เหมือนกัน! ในฐานะสิ่งมีชีวิตของอาณาจักรแห่งนี้ เจ้าควรรู้ว่าโมงยามนี้ พลังในปฐพีผืนนี้ของพวกเจ้าอ่อนแรงลงปานใด! และคราวนี้ กองกำลังจากแดนมรณาจักกรีธาทัพมาเต็มกำลัง! พวกเจ้าไม่มีทางต้านทานได้ไหว!”

ในยุคโบราณ พลังในปฐพีผืนนี้ยังแข็งแกร่งอยู่มาก พลังจากแดนมรณาถูกจำกัดเช่นกัน ครานั้น กองกำลังจากแดนมรณามิได้รุกรานมาถึงปฐพีผืนนี้

เขาหันมองผู้เฒ่าเมิ่งจี “ขอเพียงเจ้าไม่ฆ่าข้า ข้ารับประกันว่าในภายภาคหน้าเจ้าจะไม่เป็นไร และข้ายังรับประกันได้อีกว่าจะช่วยให้เจ้าแข็งแกร่งกว่านี้! พลังของแดนมรณาเกินกว่าที่เจ้าจะจินตนาการออก มันช่วยให้เจ้าอยู่เหนือทุกสิ่ง!”

“แดนมรณา…”

ผู้เฒ่าเมิ่งจีขมวดคิ้ว กล่าวตามเสียงเบา สีหน้าเคร่งเครียด

เขารู้สึกถึงแรงกดดัน แรงกดดันมหาศาล

จากที่เขาได้พยากรณ์อาณาจักรเทียนหยวนทำให้รู้ว่าแดนมรณาน่าประหวั่นพรั่นพรึงเพียงใด และบัดนี้ กองกำลังจากแดนมรณาจักกรีธาทัพเข้ามาเต็มกำลัง แล้วจะยับยั้งได้หรือ?

‘ท่านเซียนสั่งให้ข้าท่องเที่ยวไปทั่ว ก็เพื่อให้ข้าได้รับรู้เรื่องราวของแดนมรณาหรือ’

เขาคิดในใจ

ก่อนหน้านี้เขาเคยขบคิดมานานถึงเหตุผลที่ท่านเซียนให้เขาท่องเที่ยวไปทั่ว

แต่เดิมเขาคิดเพียงท่านเซียนสั่งให้เขาท่องเที่ยวไปทั่วเพื่อให้เขาก้าวหน้ามากขึ้น

ทว่าต่อมา ตระกูลจักรพรรดิและเผ่าจักรพรรดิโบราณต่าง ๆ พากันปรากฏกาย เขาเริ่มระแคะระคาย ตระหนักได้ว่ากำลังจะเกิดเรื่องใหญ่ในอาณาจักรนี้ จึงเดาว่าที่ท่านเซียนให้เขาท่องเที่ยวไปทั่วอาจมีความหมายลึกซึ้งกว่านั้น

บัดนี้ เขาได้รู้ถึงการมีอยู่ของแดนมรณา น่ากลัวว่าท่านเซียนตั้งใจให้เขาไปต่อกรกับแดนมรณา!

‘ข้า…ทำได้หรือ’

ผู้เฒ่าเมิ่งจีหัวเราะฝืดเฝื่อนในใจ รู้สึกว่าเขาอาจแบกรับภาระหน้าที่ใหญ่หลวงนี้ไม่ไหว

เขาไม่สามารถพยากรณ์ลอบสังเกตการณ์แดนมรณาด้วยซ้ำ อีกทั้งเกือบสิ้นลมเพราะพยากรณ์แดนมรณา ด้วยกำลังของเขา เกรงว่ายากจะต้านทานการรุกรานของแดนมรณา

‘บัดซบ! เจ้าไม่เชื่อใจตัวเองย่อมได้ แต่เจ้าจะไม่เชื่อใจท่านเซียนหรือ’

ผู้เฒ่าเมิ่งจีก่นด่าตัวเองในใจ ท่านเซียนเห็นว่าเขาทำได้ เช่นนั้นเขาย่อมทำได้!

ต่อให้ไม่ได้ก็ต้องได้!

‘ไม่ว่าจะเป็นแดนมรณา แดนสัมภเวสี หรืออะไรก็ตาม ตราบใดที่ข้ายังอยู่ พวกเจ้าก็อย่าหวังว่าจะได้เข้ามา!’

เขาเอ่ยในใจอย่างหนักแน่น

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท