ตอนที่ 407 สัตว์ประหลาดล้อมเมือง กู่เจิ้นโส่ว!
บึ้ม! ตู้ม! พลั่ก! โฮกก!!
ขณะที่ทั้งสามคนเพิ่งมาถึงด่านที่สิบ ก่อนที่ร่างของพวกเขาจะหยุดนิ่ง เสียงระเบิดโครมครามก็ดังออกมาจากหูของทั้งสาม ผสมกับเสียงตะโกนและเสียงคำรามของสัตว์ร้าย
“หืม? เกิดอะไรขึ้น?”
หนิงฝานตรวจสอบทันที สิ่งที่สะท้อนเข้าสายตาคือเมืองโบราณที่สูงเด่นกว่าในด่านที่สองมาก
ทว่าเมืองโบราณในยามนี้ ไม่รุ่งเรืองเท่าด่านที่สอง มันกลับเต็มไปด้วยการฆ่าฟันที่อลหม่านวุ่นวาย!
มีสัตว์ประหลาดอยู่ทั่วเมืองโบราณ บางตัวยาวกว่าสิบจั้ง บางตัวยาวหลายร้อยจั้งหรือแม้แต่หลายพันจั้ง!
พวกมันมีรูปร่างที่แตกต่างกัน ซ้ำยังมีพลังมหาศาล แต่รูม่านตาของพวกมันไม่มีความเหมือนสัตว์ประหลาดทั่วไป กลับทอประกายเป็นสีแดงเข้มและทั่วร่างเต็มไปด้วยกลิ่นอายดุร้ายป่าเถื่อน!
สัตว์ประหลาดดุร้ายเหล่านี้กำลังเข่นฆ่าผู้คนในเมืองโบราณ รวมถึงยอดฝีมือที่มาเข้าร่วมการทดสอบจำนวนมากในเมือง ฉีกทึ้ง กลืนกิน และสังหาร… เมืองโบราณทั้งเมืองเต็มไปด้วยความโศกเศร้า เสียงกรีดร้องดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า!
“บัดซบ!”
“เกิดอะไรขึ้น”
เมื่อเหลยเหมิงและซวีคุนมองเห็นสิ่งที่ปรากฏในด่านที่สิบแล้ว ทั้งคู่ก็ตกใจ!
นี่มันใช่ด่านราชันจักรพรรดิที่ไหนกัน นี่มันทุ่งสังหารชัด ๆ!
ฟิ้ว!
ทันใดนั้นก็มีเสียงแหลมเสียดหูหวีดร้อง วิหคยักษ์สีทองที่มีความยาวหลายร้อยจั้งบินโฉบลงมาจากความสูงพันจั้ง บนตัวพวกมันสามตัวสะท้อนแสงอำพันที่น่าเกรงขาม กรงเล็บแผ่ไอเย็นเยียบดูราวกับว่าท้องฟ้าอาจแหลกสลายได้ด้วยกรงเล็บคู่นั้น!
ยิ่งกว่านั้น วิหคยักษ์สีทองยังเร็วมาก เกือบจะพุ่งขึ้นไปบนทั้งสามในพริบตา
“สัตว์ชั้นต่ำ!”
“ตายซะ!!”
โดยไม่รอให้หนิงฝานเคลื่อนไหว เหลยเหมิงและซวีคุนที่ด้านข้างต่างพุ่งเข้าไปโจมตีพร้อมกัน หนึ่งหมัดหนึ่งกรงเล็บ พลังรุนแรงอย่างหาที่เปรียบมิได้ทั้งสองก็พุ่งเข้าใส่วิหคยักษ์สีทองที่กำลังพุ่งลงมาทันที!
ตู้ม!
บังเกิดเสียงระเบิด วิหคยักษ์สีทองที่บินโฉบมาระเบิดเป็นหมอกโลหิต ณ จุดนั้นโดยไม่ทันได้ส่งเสียงร้องแม้แต่น้อย!
ฟิ้ว! โฮก! โฮก!
ลมหายใจต่อมา เหลยเหมิงและซวีคุนยังคงไม่หยุดโจมตี พลันรอบ ๆ พวกเขามีเสียงคำรามของสัตว์ร้ายดังขึ้นอีกครั้ง เห็นกลุ่มสัตว์ร้ายที่มีดวงตาสีแดงดุจโลหิตและปราณปีศาจอันน่าสะพรึงกลัวพร้อมกับแรงกดดัน พุ่งเข้าหาพวกหนิงฝานด้วยความกราดเกรี้ยวจากทุกสารทิศ
“หึ!”
เหลยเหมิงและซวีคุนแค่นเสียงอย่างเย็นชา ทว่าก่อนจะได้พุ่งตัวออกไปฆ่าสัตว์ร้ายเหล่านี้…
ชิ้ง
พลันมีเสียงชักดาบดังขึ้น แล้วคมดาบก็สว่างวาบระหว่างท้องฟ้าและโลก
ปัง! ปัง! ปัง!
สรรพสิ่งพังทลาย สัตว์ร้ายที่ว่อนไปทั่วต่างตายตกอย่างน่าสลดใจ ณ จุดนั้น และไม่มีตัวใดรอดชีวิต!
“หืม? ช่างเป็นวิชาดาบที่แข็งแกร่งยิ่งนัก!”
เมื่อเห็นเช่นนี้เหลยเหมิงและซวีคุนก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ แม้แต่หนิงฝานเองก็เงยหน้าขึ้นมอง
พรึ่บ!
พวกเขาเห็นร่างกำยำที่สูงตระหง่าน สวมชุดเกราะสีดำทอง ถือดาบสีดำทองอยู่ในมือ เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นผู้คุมกฎ!
ทว่าคนผู้นี้กลับแตกต่างจากผู้คุมกฎทั่วไปเล็กน้อย มัน…มีเงาลึกลับอยู่บนชุดเกราะของบุคคลนี้!
ดูเหมือนว่าจะเป็นระดับที่สูงกว่าชุดเกราะสีดำทองทั่วไป!
“ผู้บัญชาการใหญ่!”
ชั่วอึดใจต่อมา น้ำเสียงทำความเคารพดังขึ้น ผู้คุมกฎร้อยนายในชุดเกราะสีดำทองและถือกระบี่สีดำทอง ทั้งหมดต่างพุ่งเข้ามา ชุดเกราะของทุกคนอาบไปด้วยเลือดสัตว์ร้าย ซ้ำยังมีบางส่วนยุบบุบไป ราวกับว่าพวกเขาเพิ่งผ่านสงครามใหญ่มา ทั้งร่างเต็มไปด้วยไอสังหาร!
“รีบจัดการกับสัตว์ประหลาดที่บุกเข้ามาในเมือง!”
ผู้คุมกฎซึ่งได้รับความเคารพในฐานะผู้บัญชาการสูงสุดเอ่ยปาก จากนั้นกลุ่มผู้คุมกฎก็แยกย้ายกันไปทันที สังหารสัตว์ประหลาดที่ดุร้ายซึ่งกำลังเดือดดาลและสังหารผู้คนในเมือง
“เจ้าเป็นคนคุ้มกันหรือ”
เวลานี้ ผู้บัญชาการมองไปที่พวกหนิงฝาน
หนิงฝานไม่ได้พูด แต่เหลยเหมิงและซวีคุนพยักหน้า ถามว่า “ผู้บัญชาการ ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในด่านที่สิบหรือ?”
“สัตว์ประหลาดโจมตีเมือง!”
ผู้บัญชาการตอบสั้น ๆ “ในเมื่อเจ้าอยู่ที่นี่ จงรีบไปที่กำแพงเมืองและสู้กับพวกสัตว์ร้ายซะ!”
“นี่มัน…!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทั้งสามคนกลับไม่ได้ขยับ
เพราะอย่างไรแล้ว พวกเขาทั้งสามเพิ่งมาถึง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรก็ต้องไปสู้กับฝูงสัตว์ประหลาดแล้วหรือ?
เมื่อเห็นเช่นนี้ ผู้บัญชาการก็ขมวดคิ้ว จากนั้นเขาทำได้เพียงอธิบายอีกครั้งว่า “เจ้าไม่ต้องไปก็ได้ แต่ข้าอยากจะเตือนเจ้าว่าเนื้อหาของการทดสอบด่านที่สิบมีการเปลี่ยนแปลง หากเจ้าต้องการได้รับพิกัดด่านถัดไป จำต้องฆ่าสัตว์ประหลาดที่อยู่ขอบเขตเดียวกับเจ้าอย่างน้อยสิบตัว แน่นอนว่ายิ่งฆ่ามากรางวัลก็ยิ่งมากขึ้น และผู้ที่ฆ่าได้มากที่สุดจะสามารถเป็นผู้นำของการทดสอบได้!”
“เพราะฉะนั้น ไปหรือไม่ไปก็เรื่องของเจ้า!”
พรึ่บ!
พูดจบ ร่างของผู้บัญชาการสูงสุดก็พุ่งเข้าไปหาสัตว์ประหลาดที่อาละวาดในเมือง
“ลูกพี่ เราจะทำอย่างไรดี”
เวลานี้ เหลยเหมิงและซวีคุนหันไปมองหนิงฝาน
หนิงฝานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็พูดว่า “ไป ไปดูกำแพงเมืองกันก่อน!”
พรึ่บ!
แล้วพวกเขาก็ทะยานไปที่กำแพงเมือง
ระหว่างทาง เห็นได้ชัดว่าสัตว์ประหลาดจำนวนมากพุ่งเข้ามาในด่านเพื่อสังหารหมู่ชาวเมือง!
แม้แต่ผู้คุมกฎก็ยังมิอาจรับมือได้ทัน!
ระหว่างทางพวกหนิงฝานจัดการกับสัตว์ประหลาดที่พบเจอได้อย่างราบรื่น จนในที่สุดก็มาถึงกำแพงเมือง!
เห็นว่ากำแพงเมืองที่สูงอย่างหาที่เปรียบมิได้นั้นแออัดไปด้วยผู้คน นอกจากผู้คุมกฎจำนวนหนึ่งแล้ว ส่วนใหญ่เป็นยอดฝีมือที่มาทดสอบ มีคนมากถึงหลายแสนคน และพวกเขากำลังป้องกันไม่ให้สัตว์ประหลาดเข้ามาในด่าน!
พรึ่บ!
เมื่อหนิงฝานพุ่งตัวขึ้นไปบนกำแพงเมืองและมองออกไปด้านนอก พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ!
นอกด่าน มีสัตว์ประหลาดอยู่ทุกหนทุกแห่งทั่วฟ้า บนพื้นดินหนึ่งแสนตัว หนึ่งล้านตัว สิบล้านตัว… ราวกับกระแสน้ำที่มืดมิดไร้จุดหมาย สัตว์ร้ายคำรามก่นฟ้า ไอสังหารพวยพุ่งออกไป!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ตอนนี้เอง ในความว่างเปล่านอกกำแพง พลันบังเกิดเสียงคำรามลั่นปฐพี!
เผยร่างของชายชราเคราขาวกำลังต่อสู้อย่างดุเดือดกับสัตว์ประหลาดยักษ์สองตัวที่สูงถึงสิบจั้ง!
หนึ่งคน สองสัตว์ร้ายทรงพลังเป็นอย่างมาก แผ่กลิ่นอายกึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นหก ในระหว่างสมรภูมิที่ดุเดือด ท้องฟ้าแหลกลาญ โลกถูกทำลาย จักรวาลแตกเป็นเสี่ยง ๆ น่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างยิ่ง!
ปัง! ปัง!
ทว่าชายชราเคราขาวนั้นแข็งแกร่งกว่าอย่างเห็นได้ชัด หลังจากรอยฝ่ามือขนาดใหญ่ระเบิดออก สัตว์ประหลาดขนาดมหึมาทั้งสองก็ล่าถอยไปในความว่างเปล่าทันที ทิ้งไว้เพียงรอยเลือดของมัน
“ผู้พิทักษ์โบราณแข็งแกร่ง!”
“ผู้พิทักษ์โบราณแข็งแกร่ง!”
“ผู้พิทักษ์โบราณแข็งแกร่ง!”
“…”
เมื่อเห็นฉากนี้ ผู้คุมกฎที่ต่อต้านฝูงสัตว์ประหลาด ยอดฝีมือที่มาทดสอบและคนอื่น ๆ ต่างยกแขนขึ้นและร้องตะโกน!
เวลานี้ ชายชราเคราขาวที่รู้จักกันในนามกู่เจิ้นโส่ว (ผู้พิทักษ์โบราณ) ตอบกลับด้วยเสียงกึกก้อง “ทุกคน อดทนไว้ก่อน ทูตของข้าได้แจ้งสภาผู้พิทักษ์แล้ว กองกำลังเสริมจะมาถึงในไม่ช้า!”
ทันทีที่คำกล่าวนี้ออกมา ทุกคนในด่านที่สิบพลันตกตะลึง แล้วขวัญกำลังใจที่ถดถอยก็กลับคืนมา!
แต่ตอนนี้เอง เสียงหัวเราะแปลกประหลาด พลันดังก้องไปทั่วด่านที่สิบ
“เคี๊ยกเคี๊ยก!”
“เคี๊ยกเคี๊ยกเคี๊ยก!”