ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 468 เรื่องหยุมหยิม(ต้น)

ตอนที่ 468 เรื่องหยุมหยิม(ต้น)

​สือ​อี​เหนียง​พูด​พึมพำ​ ​“​เช่นนั้น​พี่ใหญ่​ทำ​อย่างไร​”

​“​อยู่​ที่​จวน​อี๋​เหนียง​หก​เอาแต่​ก่อเรื่อง​ ​ท่าน​พ่อ​ก็​ฟัง​แต่​นาง​อย่าง​ไม่ลืมหูลืมตา​ ​แม้ว่า​สุดท้าย​พี่ใหญ่​จะ​ไม่ได้​ตอบ​ตกลง​ ​แต่​ก็​ไม่ได้​ปฏิเสธ​ ​จากนั้น​ก็​ส่ง​นาง​มาที​่​นี่​”​ ​คุณนาย​สี่​สกุล​หลัว​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​ความหมาย​ท่าที​ของ​พี่ใหญ่​ก็​คือ​ให้​คุณหนู​สิบเอ็ด​ช่วย​หาวิ​ธี​ที่จะ​ไม่​ทำให้​สกุล​หลัว​เสียหน้า​ ​อย่างไร​เสีย​เจ้า​ก็​เป็น​คนที​่​คุ้นเคย​กับ​กฎเกณฑ์​และ​มารยาท​ของ​เยี​่​ยน​จิง​ ​คำพูด​ของ​เจ้า​หนึ่ง​คำ​น่าเชื่อถือ​กว่า​คำพูด​ของ​พวกเรา​สิบ​คำ​”

อี๋​เหนียง​หก​ผู้​นี้​…

​สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​“​ข้า​รู้​แล้ว​ ​ให้​นาง​มา​พบ​ข้า​ใน​วันพรุ่งนี้​”

​คุณนาย​สี่​สกุล​หลัว​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​พูด​ด้วย​ความรู้สึกผิด​ว่า​ ​“​คุณหนู​กำลัง​อยู่​ใน​ช่วง​อยู่ไฟ​แท้ๆ​ ​เดิมที​ก็​ไม่​ควร​ทำให้​เจ้า​ไม่สบายใจ​…​แต่ว่า​ช่วงนี้​ ​หาก​อยู่​ที่​เจียง​หนาน​ ​ไม่แน่​อี๋​เหนียง​หก​อาจจะ​ทำสำเร็จ​ไป​แล้ว​”

สิ่ง​สำคัญ​คือ​ความคิด​ของ​นายท่าน​ใหญ่​สกุล​หลัว

​สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​อย่าง​เข้าใจ​ ​“​พี่สะใภ้​สี่​อย่า​ได้​เกรงใจ​ ​แผน​ของ​อี๋​เหนียง​หก​นั้น​มากเกินไป​จริงๆ​ ​ถ้าหาก​ลำบากใจ​จริง​ท่าน​ก็​ให้​อี๋​เหนียง​หก​มา​พบ​ข้า​เถิด​”​ ​จากนั้น​ก็​บอก​ความคิด​ของ​โจวฮู​หยิน​ให้​คุณนาย​สี่​สกุล​หลัว​ฟัง​ ​“​…​สกุล​หวัง​ต้องการ​จะ​แต่งงาน​ก่อน​ตรุษจีน​ ​ท่าน​กลับ​ไป​บอก​พี่​สี่​สักหน่อย​ ​จะ​ได้​มีคำ​ตอบ​ให้​กับ​พี่เขย​สี่​ ​หาก​ตกลง​ก็​ให้​พี่เขย​สี่​ดู​ฤกษ์​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​จะ​ได้​กำหนด​วัน​แต่งงาน​กับ​สกุล​หวัง​ ​หาก​ไม่​ตกลง​ ​พวก​ท่าน​ก็​ไปดู​ฤกษ์​มา​ ​พี่เขย​สี่​จะ​ได้​บอก​เหตุผล​กับ​สกุล​หวัง​”

​คุณนาย​สี่​สกุล​หลัว​เข้าใจ​กฎ​เหล่านี้​ดี​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ข้าว​่า​เลือก​ฤกษ์​แต่งงาน​ก่อน​วัน​ตรุษจีน​นั้น​ดี​แล้ว​ ​น้อง​หญิง​สิบสอง​ก็​อายุ​ไม่น้อย​แล้ว​ ​อย่างไร​ก็​ต้อง​แต่ง​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​การ​ที่​สกุล​หวัง​เป็นกังวล​นั้น​ก็​ใช่​ว่า​จะ​ไม่มีเหตุผล​ ​ถ้าหาก​แม่​สามี​มาจาก​ไป​แล้ว​ต้อง​ไว้ทุกข์​อีก​สอง​ปี​…​อย่างไร​ก็​ต้อง​คิดถึง​คนอื่น​ด้วย​”

​จากนั้น​ก็​ทำการ​กำหนด​วัน​แต่งงาน​โดย​ไม่ได้​ปรึกษา​ใคร​ ​ราวกับว่า​ ​‘​แค่​ข้า​ตกลง​ก็​พอแล้ว​’

​สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​นิสัย​ของ​หลัว​เจิ​้น​เซิง​ ​แล้ว​นึกถึง​ความเก่งกาจ​และ​มี​ไว​พริบ​ของ​คุณนาย​สี่​สกุล​หลัว​ ​ก็​อด​คาดเดา​ไม่ได้​ว่า​เหตุผล​ที่​หลัว​เจิ​้น​เซิง​สามารถ​จัดการ​กิจการ​ได้​ใน​ช่วง​สอง​ปี​ที่ผ่านมา​นั้น​เป็น​เพราะ​มี​ภรรยา​อย่าง​คุณนาย​สี่​สกุล​หลัว​คอย​ช่วยเหลือ

​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เช่นนั้น​ข้า​จะ​นำ​คำของ​พี่สะใภ้​สี่​ไป​บอก​แก่​โจวฮู​หยิน​”

​คุณนาย​สี่​สกุล​หลัว​พยักหน้า​ ​จิบ​ชา​ให้​ชุ่ม​คอ​แล้ว​เงยหน้า​มอง​สือ​อี​เหนียง​ที่​กำลัง​เอนกาย​พิง​หมอนอิง​สีแดง​ด้วย​ใบหน้า​ซีดเซียว​ ​ใจเต้น​เล็กน้อย​ ​พูด​อย่าง​ลังเล​ว่า​ ​“​ทาง​ด้าน​คุณหนู​ห้า​กับ​คุณหนู​สิบ​…​ข้า​กะ​ว่า​จะ​ไป​เยี่ยม​พรุ่งนี้​ ​ไม่รู้​ว่า​คุณหนู​สิบ​…​อยู่​จวน​หรือไม่​”

​หลังจาก​งานศพ​ของ​นาย​หญิง​ใหญ่​ ​สือ​อี​เหนียง​กับ​สือ​เหนียง​ก็​ไม่ได้​เจอกัน​อีก​เลย​ ​ทุก​เทศกาล​ตรุษจีน​สกุล​หวัง​ก็​จะ​ส่ง​ของขวัญ​ตรุษจีน​มา​ ​สกุล​สวี​ก็​จะ​ส่ง​ของขวัญ​กลับ​ไป​ ​แต่กลับ​เป็น​เพียง​เรื่อง​ที่​ต้อง​ทำ​ไป​ตามมารยาท​ ​แม้แต่​พิธี​สรง​สาม​ของ​จิ​่น​เกอ​ ​สือ​เหนียง​ก็​ให้​คน​นำ​เงินก้อน​แกะสลัก​มาม​อบ​ให้​ห้า​อัน​ ​แต่​นาง​กลับ​ไม่ได้​มาด​้วย

​เมื่อ​ได้​ฟัง​คุณนาย​สี่​สกุล​หลัว​พูดถึง​นาง​ ​แววตา​ของ​สือ​อี​เหนียง​มี​ความ​สับสน​เล็กน้อย​ ​นาง​ส่ายหน้า​เบา​ๆ​ ​แล้ว​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​พี่​หญิง​สิบ​บอกว่า​ตัวเอง​เป็น​หญิง​ม่าย​ ​จึง​กักตัว​อยู่​แต่​ใน​จวน​ ​แทบ​ไม่ได้​ไปมาหาสู่​กับ​ข้า​แล้ว​”

​คุณนาย​สี่​สกุล​หลัว​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ถอนหายใจ​ยาว​ ​“​คุณหนู​สิบ​ช่าง​น่าสงสาร​นัก​”

​สือ​อี​เหนียง​เอนหลัง​พิง​หมอนอิง​ไม่ได้​พูด​อะไร

​******

​ไม่รู้​ว่า​อี๋​เหนียง​หก​สร้าง​ปัญหา​มากเกินไป​หรือว่า​คุณนาย​สี่​สกุล​หลัว​เพียงแค่​อยาก​จะ​ดับ​ความร้อน​ของ​มันเทศ​ที่​กำลัง​ลวก​มือ​ให้​เร็ว​ขึ้น​เท่านั้น​ ​วันรุ่งขึ้น​คุณนาย​สี่​สกุล​หลัว​ก็​หา​ข้ออ้าง​ส่ง​ของ​มา​ให้​สือ​อี​เหนียง​ ​เพื่อให้​อี๋​เหนียง​หก​มา​พบ​สือ​อี​เหนียง

​“​อี๋​เหนียง​เป็น​เช่นนี้​ ​อย่า​ว่าแต่​พี่ใหญ่​เลย​ ​แม้แต่​ข้า​พอได้​ฟัง​ก็​ไม่​อยาก​จะ​เชื่อ​”​ ​อี๋​เหนียง​หก​เป็น​คนฉลาด​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​พูด​อย่างตรงไปตรงมา​ว่า​ ​“​น้องเขย​สิบสอง​จะ​คิด​อย่างไร​หาก​รู้​ว่า​สกุล​หลัว​ของ​พวกเรา​เตรียม​สินสอดทองหมั้น​เพียง​หนึ่ง​พัน​ตำลึง​ ​แล้วยัง​เพิ่ม​เงิน​ใส่​หีบ​อีก​สี่​พัน​ตำลึง​ ​น้องเขย​เป็น​คน​มีเกียรติ​ ​ต่อให้​สกุล​หวัง​จะ​ยากจน​แค่ไหน​ ​ก็​ไม่​ถึงขั้น​ให้​สกุล​หลัว​ของ​พวกเรา​ช่วย​ด้วย​วิธี​นี้​ ​อี๋​เหนียง​ทำ​เช่นนี้​ไม่ใช่​ว่า​เป็นการ​เพิ่ม​ปัญหา​ให้​น้อง​หญิง​สิบสอง​หรือ​”

​อี๋​เหนียง​หก​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​พูด​อย่างชัดเจน​จึง​ไม่​เสแสร้ง​ทำเป็น​สับสน​ ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ข้า​เอง​ก็​หมดปัญญา​แล้ว​เช่นกัน​”​ ​ใน​ใจ​ของ​นาง​เต็มไปด้วย​ความน้อยใจ​ ​“​ท่าน​ว่างาน​แต่​ของ​คุณหนู​สิบสอง​รีบร้อน​เช่นนี้​ ​ใช้​ทั้งที่​ดิน​ทำ​กิน​ของ​สกุล​ใน​ตอนนี้​และ​ที่ดิน​เปล่า​มา​เป็น​สินสอดทองหมั้น​ ​เมื่อถึง​เวลา​ที่​ต้อง​รีบร้อน​ใช้​เงิน​ก็​ไม่มี​คนคุ้นเคย​หรือ​มีน้ำใจ​ที่จะ​ช่วย​ซื้อขาย​ ​หาก​เอาแต่​พึ่งนาย​หน้า​เหล่านั้น​ ​สิ่งของ​ที่​มีค่า​สิบ​ตำลึง​อย่างมาก​ก็​ให้​แค่​ห้า​ตำลึง​ ​จะ​ไม่​เป็นการ​เสียเปรียบ​ให้​พวก​คน​เหล่านั้น​โดย​เปล่าประโยชน์​หรือ​ ​อีก​อย่าง​ทรัพย์สิน​ใน​เยี​่​ยน​จิง​ ​หาก​รีบร้อน​ซื้อ​ ​ส่วนมาก​ก็​ต้อง​ซื้อ​ใน​ราคา​สูง​ ​เวลา​ขาย​เกรง​ว่า​คงจะ​ขาย​ได้​เพียง​สอง​ใน​สาม​ของ​ราคาตลาด​ ​ไม่​สู้​ให้เงิน​ไป​เลย​โดยตรง​จะ​ไม่​คุ้ม​กว่า​หรือ​”

​สือ​อี​เหนียง​แปลกใจ​ ทำไม​อี๋​เหนียง​หก​เอาแต่​คิด​เรื่อง​ขาย​สินสอดทองหมั้น​เป็น​เงินสด​กัน​เล่า

​อี๋​เหนียง​หก​ยิ้ม​เจื่อน​ๆ​ ​“​ข้า​เอง​ก็​คิด​มาดี​แล้ว​ ​เหตุผล​ที่​ท่าน​เขย​สิบสอง​ไม่​เรียนหนังสือ​แล้ว​เป็น​เพราะ​เขา​มีน​้​อง​ชาย​ที่​เรียนหนังสือ​ได้ดี​กว่า​เขา​ ​หาก​คุณหนู​สิบสอง​แต่ง​เข้าไป​เป็น​พี่สะใภ้​ใหญ่​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​จะ​ควัก​เงิน​ออกมา​เพื่อ​ส่งเสริม​การศึกษา​ของ​น้องชาย​สามี​ได้​อย่างไร​ ​ผู้​ที่​ผ่าน​การ​สอบ​ระดับ​มณฑล​ ​หรือ​ผู้​ที่​ผ่าน​การคัดเลือก​ข้าราชการพลเรือน​ใน​เจียง​หนา​นนั​้​นก​็​มี​เยอะแยะ​มากมาย​ ​หาก​ไม่ใช่​คนใน​สกุล​สูงศักดิ์​ ​จะ​มีสั​กกี​่​คนที​่​จะ​มีโอกาส​เรียน​จน​สอบผ่าน​ได้​ ​ไม่ได้​เป็นเพราะว่า​เด็ก​ๆ​ ​จาก​สกุล​อื่น​ไม่​ฉลาด​ ​แต่​เป็น​เพราะ​การ​ที่จะ​สนับสนุน​เด็กผู้ชาย​ที่​เอาแต่​เรียนหนังสือ​โดย​ไม่ทำงาน​อะไร​เลย​เป็นเวลา​หลาย​ปีนั​้น​ไม่​สามารถ​ทำได้​จริงๆ​ ​สกุล​ที่​มี​ฐานะ​ไม่​ค่อย​ดี​ ​ก็​มี​แค่​กำลัง​ค้ำจุน​คนใน​ครอบครัว​ ​ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​อื่น​ ​เพียงแค่​จำนวน​ใช้​รถม้า​ใน​เขต​ ​ใน​มณฑล​ ​และ​ใน​เมืองหลวง​นั้น​ก็​ถือว่า​ไม่น้อย​เลย​ ​หาก​เดินทาง​ไป​กลับ​ระหว่าง​บ้าน​กับ​สนาม​สอบ​ซ้ำแล้วซ้ำเล่า​ ​ก็​มี​คน​ไม่น้อย​ที่​ทำเอา​สกุล​ต้อง​ล้มละลาย​ ​คนจน​คน​ไหน​ที่​ไม่มี​พรสวรรค์​ ​หาก​ไม่​ฝืน​ดันทุรัง​สอบ​เป็น​ซิ่ว​ไฉ่​นั้น​ก็​ถือว่า​ดี​ไป​ ​ ​บรรพบุรุษ​ของ​ท่าน​เขย​สี่​ของ​พวกเรา​ทำงาน​ใน​ราชสำนัก​ ​เมื่อถึง​ตาเขา​แล้ว​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​นายท่าน​สอง​คอย​ให้เงิน​สนับสนุน​แล้ว​จะ​มี​วันนี้​ได้​อย่างไร​ ​ข้า​ได้ยิน​มา​ว่า​หลาย​ปี​ที่ผ่านมา​นาย​หญิง​สอง​ไม่มี​แม้แต่​เสื้อผ้า​ใหม่​ๆ​ ​ต่อไป​รายจ่าย​ที่​คุณหนู​สิบสอง​ต้อง​ใช้​เงิน​ก็​มี​เยอะแยะ​ไป​ ​ตอนนี้​ห่วง​หน้าตา​ ​ห่วง​ศักดิ์ศรี​ไป​จะ​มีประโยชน์​อะไร​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​หาก​ท่าน​เขย​สิบสอง​ไม่ใช่​คนซื่อ​สัตย์​แล้ว​จะ​มีชื่อเสียง​ของ​ซิ่ว​ไฉ่​ได้​อย่างไร​แล้วยัง​ลด​ระดับ​ตัวเอง​ติดตาม​ผู้ดูแล​ไป​เรียนรู้​กิจการ​ทั่วไป​ ​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​การ​ที่นาย​ท่าน​ใหญ่​ส่งข้ามา​เยี​่​ยน​จิง​นั้น​ก็​สม​ความตั้งใจ​ข้า​พอดี​ ​ข้า​ก็​อยาก​จะ​มาบ​่น​ให้ท่าน​ฟัง​เช่นกัน​ ​คนใน​สกุล​ข้าว​่า​มี​เพียง​ท่าน​คนเดียว​ที่​เข้าใจ​ ​ข้า​ก็​เพียงแค่​คิด​ว่า​ต่อไป​คุณหนู​สิบสอง​จะ​ต้อง​ใช้ชีวิต​อย่างลำบาก​ ​ประหยัด​ได้​ก็​ประหยัด​ไป​”​ ​พูด​จบ​ ​ก็​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​อย่างไร​ข้า​ก็​คิด​อย่างละเอียด​แล้ว​ ​คุณหนู​สิบสอง​ได้​แต่งงาน​ก็ได้​เติมเต็ม​ความปรารถนา​ของ​ข้า​แล้ว​ ​ต่อไป​ชีวิต​ตัวเอง​จะ​ไป​ทาง​ไหน​ก็​คง​ไม่​พ้น​คำ​ว่า​ ​‘​ตาย​’​ ​อยู่ดี​ ​ไม่​สู้​ดึง​ความกล้า​ออกมา​ถึงแม้ว่า​จะ​ต้องตา​ยก​็​ตาม​ ​แต่​เรื่อง​นี้​ข้า​ก็​ต้อง​วางแผน​ให้​คุณหนู​สิบสอง​อย่างละเอียด​รอบคอบ​”

​สือ​อี​เหนียง​ได้​ฟัง​ก็​รู้สึก​ประหลาดใจ​ ​แต่​อย่างไรก็ตาม​คุณค่า​อื่นใด​หรือ​จะ​เทียบ​การศึกษา​หาความ​รู้​ด้วย​การเรียนหนังสือ​ได้​ ​ใน​สายตา​ของ​ผู้อื่น​ ​หวัง​เจ๋อ​ก็​คือ​บัณฑิต​ซิ่ว​ไฉ่​ ​แต่​พอ​วาง​หนังสือ​แล้วไป​ดูแล​จัดการ​เรื่อง​การเงิน​ ​ก็​ไม่​ต่าง​อะไร​กับ​การยินยอม​ลด​ระดับ​ตัวเอง

​นาง​ยอมรับ​ว่า​สิ่ง​ที่​อี๋​เหนียง​หก​พิจารณา​นั้น​มีเหตุผล

​แต่ว่า​สกุล​หลัว​ก็​มี​กฎ​ของ​สกุล​หลัว​ ​อย่างไร​เสียงาน​แต่ง​ของ​บุตรสาว​ก็​ไม่​ควร​ใช้​เงิน​อย่าง​ฟุ่มเฟือย​แต่​อี๋​เหนียง​หกกลับ​ทำให้​เรื่อง​วุ่นวาย​เช่นนี้​เลย​ทำให้​นาง​รู้สึก​ไม่สบายใจ​อยู่เล็ก​น้อย

ความ​อกตัญญู​มีอยู่​สาม​ประการ​ ​แต่​ที่​เป็น​ที่สุด​ของ​ความ​อกตัญญู​ก็​คือ​การ​ไร้​ทายาท​สืบสกุล​ ​แต่​การ​ที่​เอาแต่​เชื่อฟัง​บิดา​มารดา​ ​ไม่ยอม​ห้ามปราม​เมื่อ​เห็น​พวกเขา​ทำผิด​ก็​ถือเป็น​การ​อกตัญญู​อย่างหนึ่ง​ ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​เพียงแค่​ไม่​อยาก​ให้​น้อง​หญิง​สิบสอง​ต้อง​ลำบากใจ​ ​มิเช่นนั้น​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ก็​คง​นำ​สินสอดทองหมั้น​ของ​ตัวเอง​ ​อู่​เหนียง​ ​กับ​สือ​เหนียง​มา​เปรียบเทียบ​แล้ว​ ​สินสอดทองหมั้น​ของ​ตน​นั้น​มาก​ที่สุด​ ​นั่น​เป็นเพราะว่า​ตน​แต่ง​กับ​หย่ง​ผิง​โหว​ ​ส่วน​อู่​เหนียง​กับ​สือ​เหนียง​ ​คน​หนึ่ง​แต่ง​กับ​จู่​เห​ริน​ ​อีก​คน​หนึ่ง​แต่ง​กับ​ซื่อ​จื่อ​จวนกั​๋​วกง​ ​หาก​เทียบ​กัน​แล้ว​หวัง​เจ๋อ​เป็น​เพียง​ซิ่ว​ไฉ่​ตำแหน่ง​เล็ก​ๆ​ ​เท่านั้น​ ​หาก​ดึงดัน​ที่จะ​ให้​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​แต่ง​ตาม​แบบ​อู่​เหนียง​ ​เกรง​ว่านาย​ท่าน​ใหญ่​สกุล​หลัว​ก็​คง​ไม่มีทาง​เลือก

​“​ข้า​เข้าใจ​ความคิด​ของ​อี๋​เหนียง​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​อย่าง​เคร่งขรึม​ว่า​ ​“​แต่​บางครั้ง​คนเรา​ก็​ไม่​ควร​เอาแต่​คำนวณ​บัญชี​ของ​ตัวเอง​”​ ​เรื่องราว​มักจะ​มีส​อง​ด้าน​เสมอ​ ​โต้แย้ง​ไปมา​อาจจะ​ไม่​สามารถ​โน้มน้าว​ผู้อื่น​ได้​ ​ตน​ก็​ไม่ได้​มี​จุดประสงค์​อื่น​ ​มี​เพียง​การแก้ปัญหา​คือ​เป้าหมาย​ ​หาก​พูด​เรื่อง​อื่น​ ​อี๋​เหนียง​หก​อาจจะ​ไม่เข้าใจ​ ​ไม่​สู้​พูด​ไป​ตาม​แนวคิด​ของ​นาง​ ​สือ​อี​เหนียง​พึมพำ​ว่า​ ​“​ว่า​กัน​ว่าการ​นั่งกินนอนกิน​โดย​ไม่ยอม​ทำ​อะไร​ ​ต่อให้​มีเงินทอง​มาก​อง​เท่า​ภูเขา​ก็​ย่อม​ใช้​หมด​ไม่มี​เหลือ​ ​ท่าน​ทำ​เพื่อน​้​อง​หญิง​สิบสอง​ ​ทำไม​ไม่​คิด​เรื่อง​นี้​ให้​รอบคอบ​ ​ท่าน​พูด​เช่นนี้​ก็​เพียงแค่​หวัง​ว่า​จะ​สามารถ​สนับสนุน​น้องชาย​ของ​ท่าน​เขย​สิบสอง​ได้​ ​ตราบใดที่​สนับสนุน​จน​สอบผ่าน​ ​น้อง​หญิง​สิบสอง​ก็​จะ​ใช้ชีวิต​อย่าง​สบาย​ ​แต่​หาก​สนับสนุน​แล้ว​สอบ​ไม่​ผ่าน​เงิน​ทั้งหมด​นี้​จะ​ไม่​ถูก​ใช้​ไป​โดย​เปล่าประโยชน์​อย่างนั้น​หรือ​ ​แทนที่จะ​ค่อยๆ​ ​เติม​เงิน​เข้าไป​ทีละเล็กทีละน้อย​ ​ไม่​สู้​นำ​ไป​ทำ​กิจการ​ ​เพื่อให้​ได้​กำไร​เยอะ​บ้าง​น้อย​บ้าง​ใน​ทุกๆ​ ​ปี​ ​แม้ว่า​จะ​ไม่​สามารถ​สนับสนุน​น้องชาย​ของ​ท่าน​เขย​สิบสอง​ให้​สอบผ่าน​ได้​ ​แต่​ใน​ภายภาคหน้า​ตำแหน่ง​ขุนนาง​ใน​จวน​ก็​ต้อง​มี​ผู้สืบทอด​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ต่อไป​น้อง​หญิง​สิบสอง​ก็​จะ​ต้อง​มีบุ​ตร​ของ​ตัวเอง​ ​หาก​เป็น​เหมือนกับ​ท่าน​อา​ของ​เขา​ที่​เป็น​ผู้เรียน​หนังสือ​ได้ดี​ ​จะ​สนับสนุน​หรือไม่​สนับสนุน​ก็ตาม​ ​แต่​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​จะ​เอา​เงิน​อะไร​มาส​นับ​สนุน​ ​ข้าว​่า​ต่อให้​น้องชาย​ของ​ท่าน​เขย​สิบสอง​จะเข้า​สู่​เส้นทาง​ของ​บัณฑิต​ขั้นสูง​ ​แต่ว่า​บุตร​ของ​น้อง​หญิง​สิบสอง​ก็​จะ​เอาแต่​หวัง​ให้ท่า​นอา​ของ​เขา​คอย​ช่วยเหลือ​อย่างนั้น​หรือ​ ​แม้แต่​สามี​ก็​ยัง​มี​กระทบกระทั่ง​กัน​บ้าง​ ​แล้ว​นับประสา​อะไร​กับ​เครือญาติ​”

​อี๋​เหนียง​หก​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​มีสี​หน้า​ตกใจ​ ​เงียบ​อยู่นาน​ก่อน​จะ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ความหมาย​ของ​คุณหนู​ก็​คือ​ให้​เหลือ​เงินเก็บ​ไว้​ให้​ตัวเอง​ดีกว่า​อย่างนั้น​หรือ​”

ไม่​ใช้​ทางซ้าย​ก็​เป็น​ทางขวา​ ​อี๋​เหนียง​หก​ผู้​นี้​ ​ตอนนี้​ถือว่า​คิดได้​เสียที

​“​ความหมาย​ของ​ข้า​ก็​คือ​ให้​แบ่ง​เงิน​ออก​เป็น​หลาย​ๆ​ ​ส่วน​ ​เก็บ​เอาไว้​ซื้อ​อสังหาริมทรัพย์​ ​เก็บ​เอาไว้​ซื้อ​ที่ดิน​ ​และ​เก็บ​เอาไว้​ใช้​ใน​ชีวิตประจำวัน​ ​เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ไม่ว่า​จะ​เกิด​อะไร​ขึ้น​ก็​จะ​มีทาง​ออก​เสมอ​”​ ​แล้ว​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​เพียงแต่ว่า​เงิน​มี​ไม่​มาก​นัก​ ​พวกเรา​ต้อง​คิด​หาวิ​ธี​ช่วย​น้อง​หญิง​สิบสอง​ซื้อ​อสังหาริมทรัพย์​ที่​ไม่​เสื่อม​ราคา​ ​อย่างเช่น​ซื้อ​เรือน​ก็​พยายาม​ให้​อยู่​ติดกับ​ตลาด​ใหญ่​ ​ตลาด​เล็ก​ ​หรือ​วัด​ ​เรือน​ใน​บริเวณ​นี้​หาก​ไม่อยู่​ติดกับ​ราช​วัง​ก็​จะ​อยู่​ติดตลาด​ฝั่ง​ตะวันออก​หรือ​ฝั่ง​ตะวันตก​ ​หาก​วันใด​ต้องการ​จะ​ขาย​ก็​จะ​ไม่​ขาดทุน​มาก​นัก​ ​ส่วน​เรื่อง​ซื้อ​ที่ดิน​ ​ให้​พยายาม​อยู่​ใน​มณฑล​ซาน​ตง​ ​อยู่​ใกล้​กับ​เมืองหลวง​ ​และ​มี​รายได้​ดีกว่า​ผลผลิต​ใน​เขต​ต้า​ซิ่ง​”

​อี๋​เหนียง​หก​พยักหน้า​ ​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​ข้า​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​คุณหนู​ ​เพียงแต่ว่า​สถานที่​ดี​ๆ​ ​เช่นนี้​หา​ได้​ง่ายๆ​ ​เสียที​่​ไหน​กัน​…​”

​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​รอ​ประโยค​นี้​ของ​นาง​อยู่​ ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​พี่เขย​สี่​เดินทาง​ไป​กับ​คณะ​ราชทูต​ ​คนที​่​ไปมาหาสู่​ต่าง​ก็​เป็น​ขุนนาง​ระดับสูง​ ​ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​อื่น​ ​เรื่อง​ข่าวสาร​นับว่า​เร็ว​มาก​ ​พี่​หญิง​เจ็ด​แต่ง​ไป​อยู่​ที่​ซาน​ตง​ ​พี่เขย​เจ็ด​ก็​เป็นที่รู้จัก​ในนาม​เซ​วี​ยอี​้จ​วิน​แห่ง​เกา​ชิง​ ​ใน​พื้นที่​แถบ​นั้น​ไม่มีใคร​ที่​เขา​ไม่รู้​จัก​…​”​ ​นาง​ตั้งใจ​ไม่​เอ่ยถึง​ตัวเอง​ ​มอง​ไป​ที่​อี๋​เหนียง​หก​อย่าง​มีนัย​ยะ​ ​“​พี่ใหญ่​ไม่ถือสา​สิ่ง​เหล่านี้​ ​เพียงแค่​หวัง​ว่า​พวกเรา​พี่น้อง​จะ​สามัคคี​กัน​และ​มีชีวิต​ที่​ดี​ ​ต้นไม้​ต้น​เดียว​ไม่​สามารถ​เป็น​ป่า​ได้​ ​การร่วมแรง​ร่วมใจ​กัน​ถึง​จะ​ทำให้​ทอง​แตกหัก​ได้​ ​ในเมื่อ​อี๋​เหนียง​หก​วางแผน​เพื่อน​้​อง​หญิง​สิบสอง​ ​ก็​มีบาง​เรื่อง​ที่จะ​ต้อง​ปรึกษา​พูดคุย​กัน​ให้​มาก​จึง​จะ​ถูก​ ​เมื่อ​น้อง​หญิง​สิบสอง​แต่ง​เข้าไป​ใน​จวน​ก็​จะ​มีบร​รดา​สะใภ้​มากมาย​ ​ไม่​อาจ​หลีกเลี่ยง​ความขัดแย้ง​ได้​ ​ช่วง​สอง​สาม​ปี​แรก​จะ​ต้อง​ใช้ชีวิต​อย่างระมัดระวัง​และ​สะสม​ประสบการณ์​ไป​เรื่อยๆ​ ​อย่างไร​ท่าน​ก็​ต้อง​คอย​ช่วยเหลือ​นาง​ไม่ใช่​หรือ​”

​อี๋​เหนียง​หก​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​เข้าใจ​ในทันที​ ​และ​ด้วย​ความ​ที่​เป็น​คน​มีไหวพริบ​จึง​รีบ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ที่​คุณหนู​พูด​ก็​มีเหตุผล​ ​เช่นนั้น​ข้า​ก็​หวัง​ให้​คุณหนู​ช่วย​จัดการ​ให้​ข้า​แล้ว​”

สุดท้าย​แล้ว​ ​ใคร​เป็น​คน​คิด​ ​คน​นั้น​ก็​เป็น​คน​ทำ​สินะ

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ที่​สกุล​เดิม​ยัง​มี​ผู้ดูแล​หญิง​ที่​มี​ความสามารถ​ ​คง​ไม่ต้อง​ถึงขั้น​ให้​ข้า​ที่​แต่ง​ออกมา​แล้ว​ยื่นมือ​เข้าไป​แทรกแซง​ ​นิสัย​เช่นนี้​ของ​อี๋​เหนียง​ควรจะ​ปรับเปลี่ยน​สักหน่อย​กระมัง​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท