แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了] – ตอนที่ 478 เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการตรวจค้น

ตอนที่ 478 เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการตรวจค้น

ตอนที่ 478 เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการตรวจค้น

เหตุที่ถนนเป่าเถิงถูกเรียกว่าเป็นถนนแห่งอิเล็คทรอนิกส์นั้น เป็นเพราะถนนตลอดทั้งสายล้วนขายผลิตภัณฑ์อุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องเสียง

วิทยุ เครื่องบันทึกเสียงและเครื่องเสียงต่างๆ มีทั้งสินค้าใหม่สินค้ามือสองอยู่แทบจะทั้งหมด

ในยุคนี้ สินค้าเหล่านี้ต่างก็ถือว่าเป็นสินค้าเกรดสูงทั้งนั้น

เหล่าเถ้าแก่เจ้าของร้านแต่ละคนต่างมีท่าทางหยิ่งผยองลำพองใจ ดวงตาเชิดมองยอดหน้าเย้ยหยันดูแคลนทุกสิ่ง

เมื่อมีลูกค้าเข้าร้านมา เจ้าของร้านก็พิจารณาการแต่งตัวของเขาก่อนเป็นอันดับแรก หากแต่งตัวดูต๊อกต๋อยเขาก็ไม่สนใจ

ในทางกลับกัน เขาก็จะกระตือรือร้นขึ้นมาเล็กน้อย

ระดับความกระตือรือร้น ขึ้นอยู่กับราคาของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ลูกค้าซื้อ

เจ้าของร้านในถนนสายนี้ แสดงสิ่งที่เรียกว่าประจบสอพลอออกมาได้ถึงรสถึงเครื่องเลยทีเดียว

หลินม่ายสวมเสื้อเชิ้ตผ้าชีฟองสีขาวแขนสามส่วนประดับชายลูกไม้ คู่กับกระโปรงยีนส์ยาว และรวบผมทรงดังโงะประดับโบว์วัสดุผ้ายีนส์

ทั้งสวยหวานทั้งทันสมัย แค่มองก็รู้ว่าคงมีฐานะไม่เลวทีเดียว

บวกกับหน้าตาสวยงามของเธอ ทั้งยังขี่จักรยานสำหรับผู้หญิงด้วย เหล่าเจ้าของร้านขายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์พวกนั้นจึงจัดว่าเธอเป็นคนรวยไปในทันที

ในยุคนี้ หากไม่มีเงินก็คงไม่อาจตัดใจซื้อจักรยานสำหรับผู้หญิงได้ลง

จักรยานสำหรับผู้หญิงไม่ได้มีประโยชน์ใช้สอยและทนทานเท่าจักรยาน28 มันจึงเป็นเพียงจานรองกระถางดอกไม้(1)ในสายตาของคนจำนวนไม่น้อย

หลินม่ายเดินช้อปปิ้งที่ร้านขายเครื่องเสียงมือสองอยู่หลายร้าน ขนาดเครื่องเสียงซันโย(2)มือสองเครื่องหนึ่งยังเรียกตั้งห้าหกร้อย แพงเกินไปแล้วจริงๆ

ทว่าถึงมันจะแพง สำหรับหลินม่ายในตอนนี้ก็เป็นเพียงเงินเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น

แต่ปัญหาคือ หลินม่ายดูไม่ออกว่าซันโยมือสองพวกนี้มีข้อดีหรือข้อบกพร่องตรงไหนบ้าง กลัวว่าตอนที่ลองฟังที่ร้านมันก็ไม่เลวในทุกๆ ด้าน แต่พอซื้อกลับไปแล้วกลับเป็นเศษโลหะกองหนึ่ง ดังหมดทุกส่วนยกเว้นลำโพง ใช้งานไม่ได้เลยสักนิดเดียว

ในตอนนี้ ผู้ทำธุรกิจอิสระมากมายล้วนไร้ซึ่งความน่าเชื่อถือ ของที่ขายออกไปแล้วไม่รับคืนไม่รับเปลี่ยน

เจ้าของร้านเครื่องเสียงมือสองพวกนี้หลายคนต่างก็มีความสามารถทำให้เครื่องเสียงพังๆ สามารถฝืนทำงานต่อไปได้อีกสามถึงห้าวัน เมื่อผ่านไปสามสี่วันเครื่องเสียงก็พัง ลูกค้ามาหาที่ร้าน ร้านก็จะไม่ยอมรับ กลับกันจะบอกว่าลูกค้าเป็นคนทำพังเองเสียมากกว่า

ไม่อย่างนั้นทำไมตอนลองที่ร้านยังดีๆ อยู่ แต่กลับไปแล้วดันพังเสียได้

แม้ว่าหลินม่ายจะมีเงิน แต่ก็ไม่ยอมถูกใครหลอกเอาเงินหรอก

สุดท้ายเธอก็จากไปมือเปล่า วางแผนไว้ว่าจะให้ฟางจั๋วเยวี่ยช่วยซื้อซันโยมือสองให้เธอสักเครื่อง

ฟางจั๋วหรานเคยบอกเธอว่าฟางจั๋วเยวี่ยเรียนจบสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า จะเลือกเครื่องบันทึกเสียงมือสองสักเครื่องก็คงจะไม่ใช่ปัญหา

อืม ให้เขาซื้อเครื่องบันทึกเสียงใหม่ไว้ฟังเพลงเองที่บ้านด้วยสักเครื่องดีกว่า

หลินม่ายขี่จักรยานกลับบ้านอย่างเชื่องช้าเนิบนาบ

สุดท้ายก็ใกล้จะถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์แล้ว อากาศก็เย็นลงไม่น้อยแล้ว สายลมที่พัดกระทบร่างนั้นทั้งเย็นฉ่ำและแสนสบาย

ไม่เหมือนกับฤดูร้อน ที่แม้แต่ลมก็ยังร้อนผ่าว

หลินม่ายซื้อหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งที่แผงหนังสือใกล้บ้าน

หลังกลับมาถึงบ้าน เธอก็กินองุ่นพลางอ่านหนังสือพิมพ์

บนหนังสือพิมพ์ของวันนี้มีข่าวที่เกี่ยวกับกวนหย่งหัวอยู่ไม่น้อย

หากพูดกันแบบอีกหลายสิบปีข้างหน้า กวนหย่งหัวก็คือผู้ชายที่มีคุณลักษณะที่ไม่ว่าทำอะไรก็เป็นประเด็นฮอตไปหมด

ในช่วงนี้ ข่าวเกี่ยวกับเขาบนหนังสือพิมพ์และสื่อก็มีได้ไม่หยุดหย่อน

นอกจากนี้ระดับความนิยมก็สูงไม่แผ่วเลยด้วย

หากมีการจัดอันดับการค้นหาหัวข้อประเด็นฮอต เขาคงต้องครองหัวข้อข่าวยอดนิยมตลอดทั้งปีอย่างแน่นอน

ข่าวแรกที่เกี่ยวกับกวนหย่งหัวที่หลินม่ายเห็นก็คือ ผลการตรวจสอบคุณภาพของผ้าพันคอที่เสื้อผ้าซีม่านมอบให้เป็นของขวัญของกรมการอุตสาหกรรมและการพาณิชย์

ผ้าพันคอเหล่านั้นเกิดการเสื่อมคุณภาพ เนื่องจากการเก็บค้างไว้เป็นเวลานานเกินไป ไม่ใช่เพราะผู้บริโภคซักและบำรุงรักษาไม่ถูกวิธีจนเกิดความเสียหาย

อุตสาหกรรมและการพาณิชย์สั่งให้เสื้อผ้าซีม่านทำการชดเชยแก่ผู้บริโภค และยังปรับซีม่านเป็นเงินสามหมื่นหยวน

แม้ว่าเงินสามหมื่นหยวนสำหรับกวนหย่งหัวจะเป็นเพียงเงินเล็กน้อย แต่ก็สามารถสร้างความวุ่นวายใจให้เขาได้

ข่าวอีกหัวข้อหนึ่งเกี่ยวกับกวนหย่งหัวคือ ภรรยาของผู้ช่วยชงเป็นพยาน ว่าการข่มขู่คุกคามเถาจืออวิ๋นทั้งหมดนั้นเป็นความคิดของสามีหล่อนเพียงผู้เดียว

ที่สามีของหล่อนทำเช่นนี้ ก็เพราะอยากจะแสดงความสามารถของตนต่อหน้าประธานอย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อปูทางไปสู่การเลื่อนตำแหน่งและขึ้นเงินเดือนในอนาคต

เมื่อหลินม่ายเห็นข่าวนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าก็ค่อยๆ เลือนหายไป

เธอรู้ชัดแจ้งแล้วว่า กวนหย่งหัวคงหนีรอดไปได้อีกครั้ง

ข่าวเกี่ยวกับกวนหย่งหัวข้อที่สามคือคดีบัตรกำนัล Unique ปลอมที่หนิวลี่ลี่เป็นคนเขียน

ในบทความบอกว่าพ่อหรงแม่หรงได้ยอมรับแล้ว ว่าพวกเขาสองสามีภรรยาเป็นผู้วางแผนก่อคดีบัตรกำนัลปลอมทั้งหมด

ตอนนี้พวกเขาสองสามีภรรยาและแม่เฒ่าหวังล้วนถูกคุมขังอยู่ที่สถานกักกัน

เพราะคดีปลอมแปลงบัตรกำนัลเงินสดนี้เป็นกรณีแรกของประเทศ และมีจำนวนเงินที่เกี่ยวข้องมหาศาล ศาลจึงยังกำลังพิจารณาว่าจะตัดสินลักษณะของโทษและพิจารณาลงโทษอย่างไร

สิ่งที่สามารถยืนยันได้เพียงอย่างเดียวคือ ตัวการทั้งสองจะต้องได้รับโทษทางกฎหมายสถานหนักอย่างแน่นอน

ในบทความยังพูดถึงแม่เฒ่าหวังเอาไว้ด้วย

แม้ว่านางจะไม่รู้เรื่องอะไรเลยในคดีนี้ แต่เพราะได้กระทำการขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ จึงถูกตัดสินจำคุก15วัน และยังต้องรับโทษตามกฎหมายความปลอดภัยสาธารณะจีนด้วย

หลินม่ายอ่านบทความนั้นจบ ก็เอาแต่เอ่ยว่าน่าเวทนาอยู่ในใจ

ไม่นึกเลยจริงๆ ว่าพ่อแม่ของหวังหรงจะรับโทษแทนกวนหย่งหัว

เธอยังคิดว่าจะฟ้องร้องแม่หรงต่อศาลในวันแต่งงานของหวังหรง ให้งานแต่งของหวังหรงกลายเป็นเรื่องน่าขำไปเสียเลย

ตอนนี้แม่หรงถูกจับไปแล้ว แผนการนี้ของตนก็คงไม่เข้าท่าเท่าไรแล้วล่ะ

ในห้องทำงานประธานบริษัทเสื้อผ้าซีม่าน กวนหย่งหัวเองก็เพิ่งอ่านหนังสือพิมพ์จบ ในใจทั้งยินดีทั้งวิตก

ยินดีเพราะภรรยาของผู้ช่วยชงช่างฉลาดจริงๆ ตอนที่เจ้าหน้าที่สอบปากคำหล่อน ก็พูดคำให้การเช่นนั้นออกไป

หนึ่งคือช่วยล้างมลทินให้เขา สองคือส่งข้อความถึงผู้ช่วยชง ว่าหล่อนได้ให้เขาเป็นแพะรับบาปแล้ว เขาก็คงรับผิดแทนไปแต่โดยดีล่ะนะ

ผู้ช่วยชงก็ไม่ใช่คนไม่รู้ความ ในเมื่อภรรยาของเขาให้เขาเป็นแพะรับบาป ก็ต้องเป็นเพราะประธานกวนให้ผลประโยชน์ที่คุ้มค่าพอให้เขาไปเป็นแพะแน่นอน เขาก็ย่อมต้องให้ความร่วมมืออยู่แล้ว

ส่วนพ่อหรงแม่หรงไม่ได้ดึงกวนหย่งหัวเข้าไปพัวพัน จึงทำให้กวนหย่งหัวจิตใจเบิกบานเช่นกัน

ตัวปัญหาใหญ่ทั้งสองคนไม่อยู่แล้ว เขาจึงรู้สึกผ่อนคลายลงไปกว่าครึ่ง

แต่ข่าวฉาวโฉ่เรื่องการให้ของกำนัลคุณภาพต่ำที่แดงขึ้นมาก็ทำให้เขาปวดหัวมากเช่นกัน

เดิมทีธุรกิจของบูธจำหน่ายสินค้าตามห้างต่างๆ ก็ซบเซามากอยู่แล้ว ดันมีข่าวฉาวนี่ออกมาอีก

หลินม่ายต้องเอาเรื่องนี้มาได้ทีขี่แพะไล่แน่ๆ ธุรกิจค้าส่งของตนน่ากลัวว่าคงจะจบเห่แล้ว

สองมือของเขานวดขมับ กำลังคิดวิธีที่จะสามารถพลิกกลับมามีชัย

แต่คิดจนหัวแทบแตกก็ยังคิดหาวิธีไม่ออกเลย

……

พ่อหรงแม่หรงแบกรับความผิดทั้งหมดไปแล้ว พวกเขาล้วนจำใจต้องทำเช่นนี้

ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีบอกว่า พวกเขาสองคนจะรับผิดแทนไปก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรม

พวกเขาสองสามีภรรยาเป็นคนคิดวิธีการออกมา แถมยังเป็นคนยุยงกวนหย่งหัวให้พวกเขาทำแบบนี้ด้วย

ถ้าพวกเขาไม่รับผิดและใครจะรับล่ะ?

ดึงกวนหย่งหัวออกรับโทษแทนงั้นเหรอ?

ถ้าทำอย่างนั้นจริงๆ คงจะไปยั่วโมโหกวนหย่งหัวเข้าแน่ๆ เรื่องแต่งงานของลูกสาวกับเขาก็อาจจะเกิดตัวแปรขึ้นก็ได้

ถึงตอนนั้น พวกเขาทั้งบ้านไม่เพียงจะลดฐานะลงกลายเป็นแค่ตัวตลกของเพื่อนบ้านและญาติพี่น้องเท่านั้น ยังสูญเสียที่พึ่งพิงใหญ่อย่างกวนหย่งหัวไปด้วย

พวกเขารับผิดแทน อย่างน้อยก็สามารถปกป้องการแต่งงานของลูกสาวไว้ได้ ไม่แน่ว่ากวนหย่งหัวอาจจะหาวิธีช่วยพวกเขาออกไปก็ได้

แต่ต่อให้ไม่มีวิธีจะช่วยพวกเขาออกไป กวนหย่งหัวเองก็อาจเห็นแก่ที่พวกเขาปกป้องผลประโยชน์ของเขาไว้ แล้วให้รางวัลพวกเขาก้อนโตก็ได้

รอให้หวังเฉียงออกจากคุกแล้ว ถึงจะไม่มีงานทำ ก็ยังสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสุขสบาย

ดังนั้นถ้าพวกเขารับผิดแทน แม้ว่าราคาที่ต้องจ่ายจะไม่น้อย แต่มันก็เท่านั้น หากทำแบบนี้กำไรที่ได้รับจะมากที่สุด

เพราะพวกเขาสองสามีภรรยารู้ดี ว่าต่อให้ลากกวนหย่งหัวลงน้ำ พวกเขาสองคนก็ยังยากจะหนีจากคุกไปได้

……

หลินม่ายอ่านหนังสือพิมพ์จบ กำลังจะเข้าห้องไปเรียนหนังสือ เสิ่นเสี่ยวผิงก็โทรศัพท์มาหา บอกกับเธออย่างตื่นตระหนกว่าเมื่อครู่นี้มีเจ้าหน้าที่สันติบาลมาที่โรงงานหลายคน

บอกว่าในโรงงานมีของโจร พวกเขาแสดงหมายค้นแล้วจะทำการตรวจค้นในทันที

หัวหน้าเถาและหัวหน้าโฮ่วเจรจากับเจ้าหน้าที่พวกนั้น แล้วส่งเสี่ยวผิงมาเรียกให้เธอรีบมา

หลินม่ายยังอยากจะถามอีกสองสามคำ แต่เสิ่นเสี่ยวผิงที่อีกฝั่งของสายนั้นได้วางสายไปเสียแล้ว

หลินม่ายรีบออกจากบ้าน แล้วขี่จักรยานไปที่โรงงานเสื้อผ้า Unique ทันที

ระหว่างนั้นก็คิดไปตลอดทาง ในโรงงานมีของโจรที่ไหนกัน?

หรือว่าจะมีหนอนบ่อนไส้ที่สมคบกับซีม่านปั้นเรื่องใส่ความเธออีก แต่ติงไห่เฟิงจะสะเพร่าละเลยจนปล่อยให้พวกเขาทำสำเร็จได้เลยเหรอ?

แต่ไม่ว่าหลินม่ายจะคิดยังไงก็รู้สึกว่าติงไห่เฟิงไม่มีทางประมาทจนพลาดไปได้

อย่าเห็นว่าเขาร่างใหญ่สูงเทอะทะเชียว เพราะว่าความคิดของเขากลับละเอียดอ่อนมาก ไม่เช่นนั้นในตอนแรกเฉินเฟิงก็คงไม่สนับสนุนเขาเป็นหัวหน้าฝ่ายรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่หรอก

แล้วของโจรนี่มันมาจากไหนกันแน่?

……………………………………………………………………………………………………………………….

(1)ที่รองกระถางดอกไม้ อุปมาว่าสวยแต่รูปจูบไม่หอม

(2)ซันโย (Sanyo) บริษัท ซันโย อิเล็กทริก จำกัด เป็นบริษัทผู้ผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์รวมถึงแผงวงจรรวมของญี่ปุ่น

สารจากผู้แปล

มีใครวางแผนใส่โรงงานของม่ายจื่ออีกหรือเปล่าเนี่ย เรื่องเยอะจริงๆ

ไหหม่า(海馬)

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

แม่ปากร้ายยุค​ 80 [八零辣妈飒爆了]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท