ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 471 พักฟื้น(ต้น)

ตอนที่ 471 พักฟื้น(ต้น)

​สือ​อี​เหนียง​ลูบ​หน้าผาก​ที่​ไม่ได้​มี​เหงื่อ​แม้แต่​หยด​เดียว​ ​พูด​ติดๆ​ ​ขัด​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ไม่​ ​ไม่ต้อง​หรอก​ ​มี​แม่นม​กู้​คอย​ช่วย​อยู่​…​”​ ​ไม่ทัน​ได้​รอ​ให้​นาง​พูด​จบ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​พูด​ยืนกราน​ด้วย​เสียง​เรียบ​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​ก็​เอา​ตาม​นี้​เถิด​”​ ​ตัดบท​พูด​ของ​นาง

​ชิว​อวี​๋​ไม่กล้า​รอช​้า​ ​รีบ​เรียก​ให้​สาวใช้​น้อย​เข้ามา​ปรนนิบัติ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ล้างหน้า

​ป้า​เถี​ยน​กำชับ​สือ​อี​เหนียง​ซ้ำๆ​ ​ด้วย​น้ำเสียง​จริงจัง​ว่า​ ​“​ร่างกาย​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​ ​บาง​เรื่องฮู​หยิน​ก็​ไม่​ควร​ตามใจ​ท่าน​โหว​ ​หาก​ไม่ได้​จริงๆ​ ​ก็​เรียก​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​มาป​รน​นิ​บัติ​เถิด​เจ้าค่ะ​”

​สือ​อี​เหนียง​พูดไม่ออก​ ​ใน​ใจ​ของ​นาง​รู้สึก​คลุมเครือ​ ​คิด​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​ควร​เป็น​เช่นนี้​…​เมื่อ​เงยหน้า​ขึ้น​ก็​เห็น​แม่นม​กู้​กำลัง​ปูที่นอน​อยู่​บน​เตียง​ไม้​ ​จึง​รีบ​กำชับ​ฟัง​ซี​ ​“​ไป​เอา​ฉาก​กั้น​มากั​้น​สักหน่อย​เถิด​!​”

​ครอบครัว​ที่​มั่งคั่ง​ ​เวลา​ที่สามี​ภรรยา​นอน​ด้วยกัน​ ​ก็​มักจะ​มีสาว​ใช้​คนสนิท​คอย​ปรนนิบัติ​นั้น​ถือเป็น​เรื่อง​ปกติ​ ​เพียงแต่ว่า​ด้วย​นิสัย​ของ​สือ​อี​เหนียง​ทำให้​รู้สึก​แปลก​ๆ​ ​เล็กน้อย​ ​ไม่ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​พักผ่อน​อยู่​ที่​ห้อง​หรือไม่​ ​นาง​ก็​ไม่​ชอบ​ให้​มีสาว​ใช้​มาคอย​เฝ้า​เวร​ยาม​นอน​อยู่​ใน​ห้อง​เดียวกัน​กับ​ตัวเอง​ ​ทุกคน​ต่าง​ก็​เห็น​จน​เคยชิน​แล้ว​ ​ฟัง​ซีสั​่ง​ให้​ป้า​รับใช้​สอง​สาม​คน​นำ​ฉาก​กั้น​ไม้​กฤษณา​แกะสลัก​สี่​ฤดู​จาก​ห้อง​ปีก​ตะวันออก​เข้ามา

​แต่ว่า​ข้าวของเครื่องใช้​ใน​ห้อง​ล้วน​เป็น​สีดำ​ ​ทำให้​รู้สึก​ขัดหู​ขัดตา​อยู่​บ้าง

​“​ข้า​จำได้​ว่า​ใน​ห้องเก็บของ​มี​ฉาก​กั้น​แกะสลัก​งาช้าง​เคลือบ​สีดำ​อยู่​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​พรุ่งนี้​ไป​เอา​มา​เปลี่ยน​”

​ฟัง​ซียิ​้ม​แล้ว​ขานรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​หลังจากนั้น​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ออกมา​จาก​ห้อง​ชำระ​ ​“​ไปหา​อะไร​มา​เปลี่ยน​หรือ​”

เหตุใด​วันนี้​ถึง​พูด​เยอะ​กว่า​ปกติ

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ฉาก​กั้น​ไม้​กฤษณา​ไม่​เหมาะสำหรับ​ที่นี่​ก็​เลย​ให้​พวก​นาง​ไปหา​ฉาก​กั้น​สีดำ​ที่​ห้องเก็บของ​มา​เปลี่ยน​เจ้าค่ะ​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​เล็กน้อย​ ​นั่ง​มอง​จิ​่น​เกอ​อยู่​ข้าง​เตียง​ ​“​เจ้า​รู้สึก​หรือไม่​ว่า​เขา​ยิ่ง​โต​ ​ผิว​ก็​ยิ่ง​ดู​ขาวผ่อง​!​”

​สือ​อี​เหนียง​สำรวจ​ดู​อย่างละเอียด

​สีหน้า​ดูดี​กว่า​ตอน​พึ่ง​เกิด​มาก​ ​แต่​เรื่อง​ผิวขาว​หรือไม่​นั้น​ยัง​มอง​ไม่​ค่อย​ออก

​“​อาจจะ​เป็นเพราะว่า​เขา​อยู่​กับ​ข้า​ทุกวัน​ ​ข้า​จึง​มอง​ไม่​ออก​กระมัง​”​ ​นาง​พูด​อย่าง​อ้อมค้อม

​“​ดังนั้น​ข้า​จึง​ได้​บอกว่า​ยิ่ง​โต​เขา​ก็​ยิ่ง​ขาว​ขึ้น​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยืนยัน​ความคิด​ของ​ตัวเอง​ ​ยิ้ม​พลาง​ลูบ​ศีรษะ​เด็กน้อย​ ​ถอด​เสื้อ​แล้ว​ขึ้นไป​บน​เตียง​ ​“​ให้​จิ​่น​เกอ​นอน​ตรงกลาง​เถิด​”​ ​ท่าทาง​ดู​ชอบใจ​เป็นอย่างมาก

​“​ถ้าหาก​ตอนกลางคืน​ไม่ทัน​ระวัง​นอน​ทับ​เขา​จะ​ทำ​อย่างไร​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ปฏิเสธ​อย่าง​อ้อมค้อม​ ​“​ให้​เขา​นอน​ข้างๆ​ ​ข้า​เถิด​!​”

​“​เช่นนั้น​ก็​ให้​นอน​ข้าง​ข้า​เถิด​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​มิน่าล่ะ​ถึง​ได้​ผอม​ลง​เรื่อยๆ​…​ข้าว​่า​เจ้า​กังวล​มาก​ไป​ ​ไม่แน่​อาจจะ​เป็น​เพราะ​ตอนกลางคืน​ไม่ได้​พักผ่อน​อย่างเต็มที่​”​ ​พูด​จบ​ก็​ไม่ได้​สน​ว่า​สือ​อี​เหนียง​จะ​เห็นด้วย​หรือไม่​ ​อุ้ม​เด็กน้อย​มา​ไว้​ข้าง​กาย​เขา

​สือ​อี​เหนียง​สะกิด​เขา​ ​“​ท่าน​ระวัง​หน่อย​เจ้าค่ะ​!​”

​“​วางใจ​เถิด​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​วาง​จิ​่น​เกอ​ไว้​ข้าง​หมอน​ของ​ตัวเอง​เหมือน​ที่​สือ​อี​เหนียง​ทำ​ ​“​ตอน​เดินขบวน​กองทัพ​ใน​ปีนั​้น​ต้อง​นอนหลับ​โดย​ไม่ได้​ถอด​เสื้อ​เกราะ​ ​วาง​ดาบ​ไว้​ใต้​หมอน​ ​เพียงแค่​ลม​พัด​ต้น​หญ้า​พลิ้วไหว​ก็​ตื่น​แล้ว​”​ ​ขณะที่​พูด​ก็​ประคอง​สือ​อี​เหนียง​นอนลง​ ​“​เจ้า​นอนหลับ​อย่างสบายใจ​เถิด​”

​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ไม่​ค่อย​วางใจ​ ​กำชับ​ซ้ำแล้วซ้ำเล่า​ ​“​เช่นนั้น​ท่าน​ก็​ระวัง​ด้วย​!​”

​“​เจ้า​นอนหลับ​อย่างสบายใจ​เถิด​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ช่วย​นาง​จัด​มุม​ผ้าห่ม​ ​“​ไม่ต้อง​คิดมาก​”

​สือ​อี​เหนียง​จึง​ทำได้​เพียง​หลับตา​ลง​ ​เพียงแค่​สวี​ลิ่ง​อี๋​เหลือบมอง​ที่​หาง​ตาก​็​มองเห็น​บุตรชาย​นอน​อยู่​ข้าง​หมอน​ ​รู้สึก​ว่าน​่า​สนใจ​เป็นอย่างมาก​จึง​หันหน้า​จ้องมอง​เขา​โดยตรง

​ผิวเนียน​นุ่ม​ ​ขนคิ้ว​บาง​ๆ​ ​จมูก​เล็ก​ๆ​ ​เป็น​สัน​ตรง​…​ยิ่ง​มอง​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​ว่าน​่า​สนใจ​จึง​ค่อยๆ​ ​ลุกขึ้น​นั่ง​เบา​ๆ

​เดิมที​สือ​อี​เหนียง​ก็​ยัง​ไม่ได้​หลับ​ ​พอ​เขา​ขยับ​ก็​ลืมตา​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​“​มี​อะไร​หรือ​เจ้า​คะ​”

​“​ไม่มี​อะไร​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​พลาง​ก้มหน้า​มอง​ดวงตา​คู่​หนึ่ง​ที่​ดู​เลือนลาง​เช่นเดียวกับ​ดวงจันทร์​ใน​สาย​หมอก​ ​ดู​สงบ​และ​สวยงาม​ ​ใน​ใจ​ของ​เขา​พลอย​สงบ​ตาม​ไป​ด้วย​ ​“​แค่​รู้สึก​ว่า​จิ​่น​เกอ​น่าสนใจ​เป็นอย่างมาก​”​ ​จู่ๆ​ ​ก็​ไม่รู้​สึก​ง่วง​ ​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​ทั้งสอง​คน​ไม่ได้​คุย​กัน​อย่างสงบ​เช่น​ตอนนี้​มานาน​แล้ว​ ​จึง​หยิบ​หมอนอิง​มา​พิง​หลัง​อย่าง​สบาย​อารมณ์​ ​“​เหตุใด​ถึง​วาง​จิ​่น​เกอ​ไว​ที่​ข้าง​หมอน​ ​วาง​ไว้​ใน​ผ้าห่ม​จะ​ไม่​อุ่น​กว่า​หรือ​”

​สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​ไม่รู้​เช่นกัน

​เมื่อก่อน​เวลา​ไป​เยี่ยม​เพื่อนร่วมชั้น​หรือ​เพื่อนร่วมงาน​ที่​คลอด​บุตร​ ​ทุกคน​ก็​มักจะ​วาง​บุตร​ไว้​ที่​ข้าง​หมอน​ ​คิด​ว่า​คงจะ​มีเหตุผล​อยู่​บ้าง​จึง​ได้​ทำตาม​ ​ตอนนี้​พอส​วีลิ​่​งอี​๋​ถาม​ขึ้น​มา​ ​นาง​ก็​ไม่รู้​ว่า​จะ​ตอบ​อย่างไร​อยู่​ชั่วขณะ​ ​พูด​พึมพำ​ว่า​ ​“​เช่นนี้​เวลา​ที่​ลูก​ลืมตา​ขึ้น​มา​แล้ว​ได้​เห็น​หน้า​พ่อแม่​ก็​จะ​ได้​ไม่รู้​สึก​กลัว​!​”​ ​น้ำเสียง​แฝง​ไว้​ด้วย​ความลังเล

​สวี​ลิ่ง​อี๋​หัวเราะ

​ไม่ว่า​มารดา​จะ​เป็น​คนมีเหตุผล​และ​กล้าหาญ​เพียงใด​ ​แต่​พอ​เป็นเรื่อง​ของ​บุตร​ก็​มักจะ​เผย​ให้​เห็น​ด้าน​ที่​อ่อนแอ

​เขา​นึกถึง​หญิง​เฒ่า​ที่​เจอ​ตอนที่​ไป​ส่ง​หมอ​หลวง​หลิว​ ​จึง​ถาม​นาง​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​ทาง​ด้าน​ตรอก​กง​เสียน​เกิดเรื่อง​อัน​ใด​ขึ้น​กัน​แน่​ ​หาก​ไม่รีบร้อน​ ​ให้​ข้า​ส่ง​ให้​พ่อบ้าน​ไป๋​ไป​ช่วย​ดู​ให้​เจ้า​ดี​หรือไม่​ ​ตอนนี้​เจ้า​อยู่​ใน​ช่วง​อยู่ไฟ​ ​ข้า​ได้ยิน​คนพูด​มา​ว่า​ ​หาก​ป่วย​ใน​ช่วง​ที่อยู่​ไฟ​ ​ต่อไป​ก็​ยาก​ที่จะ​รักษา​ได้​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ด้วย​สถานการณ์​ของ​เจ้า​ใน​ตอนนี้​ ​ควรจะเป็น​กังวล​ให้​น้อยลง​จะ​ดีกว่า​!​”

​เมื่อก่อน​สือ​อี​เหนียง​ไม่เคย​คิด​ว่า​อาการป่วย​ของ​ตัวเอง​จะ​ร้ายแรง​เช่นนี้​ ​นาง​นอนตะแคง​เอา​มือ​หนุน​ศีรษะ​แล้ว​เล่า​ถึง​สาเหตุ​ทั้งหมด​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ฟัง​อย่างละเอียด​ ​“​…​ข้า​ก็​เพียงแค่​ช่วย​จับคู่​ให้​เท่านั้น​ ​พี่สะใภ้​สี่​เป็น​คน​มี​ความสามารถ​ ​สุดท้าย​แล้ว​จะ​เป็น​อย่างไร​ก็​ขึ้นอยู่กับ​การตัดสินใจ​ของ​นาง​”

​“​แม้ว่า​จะ​เป็น​เพียง​การ​ช่วย​จับคู่​ ​แต่​ก็​ใช่​ว่า​จะ​ไม่มี​อะไร​ต้อง​กังวล​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เขี่ย​ปอยผม​ที่อยู่​บน​แก้ม​ของ​นาง​ไป​ทัด​หู​ ​“​เรื่อง​นี้​เจ้า​ไม่ต้อง​ยุ่ง​แล้ว​ ​พรุ่งนี้​ข้า​จะ​เขียนจดหมาย​ถึง​ผู้บัญชาการ​องครักษ์​เสื้อ​แพร​ซาน​ตง​ ​ให้​เจิ​้น​เซิง​ถือ​จดหมาย​ไป​ซาน​ตง​ก็​พอแล้ว​ ​ส่วน​เรื่อง​เรือน​”​ ​เขา​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​ร้านค้า​และ​เรือน​ใน​ย่าน​ที่​ดี​ของ​เยี​่​ยน​จิง​ล้วน​อยู่​ใน​มือ​ของ​ผู้​พักอาศัย​เก่าแก่​ของ​เยี​่​ยน​จิง​ ​ทุกคน​ต่าง​ก็​อาศัย​อยู่​ใน​พื้นที่​เดียวกัน​ย่อม​มีโอกาส​ได้​พบกัน​บ่อย​ ​เรื่อง​เช่นนี้​ก็​พอย​อม​ให้​กันได​้​ ​ต่อให้​จะ​ขาย​ก็​คง​ไม่​ขอให้​นายหน้า​ช่วย​ออกหน้า​ให้​ ​ส่วนใหญ่​ก็​จะ​ให้​สหาย​ช่วย​ไป​สอบถาม​แล้ว​ขาย​อย่าง​เงียบๆ​ ​ราคา​ก็​ไม่​แพง​ ​ซุ่น​อ๋อง​เป็น​คน​มี​มนุษย์สัมพันธ์​ดี​ ​สังคม​กว้างขวาง​ ​ไม่​กี่​ปี​ที่ผ่านมา​ที่​องค์​หญิง​ฉัง​หนิง​กับ​จวน​จง​ฉินปั​๋ว​ขาย​เรือน​ก็​มี​เขา​เป็น​คนกลาง​ให้​ ​นี่​ก็​ใกล้​จะ​ตรุษจีน​แล้ว​ ​ใน​ช่วงนี้​จะ​มี​คน​ขาย​เรือน​เยอะ​ที่สุด​”​ ​ขณะที่​พูด​เขา​ก็​หัวเราะ​ ​“​จะ​ว่า​ไป​นี่​ก็​ถือว่า​เป็นความ​โชคดี​ของ​สือ​เอ้อร​์​เหนียง​”

ที่แท้​เส้นสาย​ก็​คือ​ทรัพยากร​อย่างแท้จริง​!

​“​ขอบคุณ​ท่าน​โหว​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เพียงแต่ว่า​หาก​จะ​ให้​ผู้บัญชาการ​องครักษ์​เสื้อ​แพร​ช่วย​หา​ซื้อ​ที่ดิน​ให้​…​จะ​ถือว่า​เป็นการ​ทำการ​ใหญ่​เกินไป​หรือไม่​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ตอนนี้​ก็​ไม่มี​สงคราม​ต้อง​ทำ​แล้ว​ ​ก็​ถือเป็น​การ​หาเรื่อง​เล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​ให้​เขา​ทำ​พอดี​”​ ​ขณะที่​พูด​ก็​นึก​เรื่อง​หนึ่ง​ขึ้น​มา​ได้​ ​“​สกุล​หลี​่​ส่ง​เทียบ​เชิญ​งานแต่ง​มา​ให้​ข้า​เมื่อ​บ่าย​วันนี้​ ​จะ​แต่ง​ลูกสะใภ้​วันที่​ยี่สิบ​หก​เดือน​สิบ​”

​คนที​่​ชื่อ​แซ่​เดียวกัน​มี​เยอะแยะ​มากมาย​ ​สือ​อี​เหนียง​คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​สกุล​ของ​ผู้บัญชาการฝู​เจี​้​ยน​ ​ใต้เท้า​หลี​่​หรือ​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​ ​“​ข้า​คิด​ว่า​ตอนนั้น​เจ้า​คง​ยังอยู่​ใน​ช่วง​อยู่ไฟ​จึง​กำชับ​ให้​ผู้ดูแล​จ้าว​ไป​แทน​”

​“​คราว​ที่แล้ว​ข้า​ได้ยิน​พี่​หญิง​โจว​บอกว่า​สกุล​หลี​่​อยาก​จะ​แต่ง​ลูกสะใภ้​เข้ามา​ให้​เร็ว​หน่อย​ ​แต่​องค์​หญิง​อาน​เฉิง​คิด​ว่า​หลี​่​จี้​อยู่​ที่ฝู​เจี​้​ยน​ไม่​ค่อย​สะดวก​จึง​เลื่อน​งานแต่ง​ไป​ช่วง​ฤดูใบไม้ผลิ​ปีหน้า​ ​ทำไม​จู่ๆ​ ​ถึง​ได้​รีบ​แต่ง​ก่อน​ตรุษจีน​ ​เกิด​อะไร​ขึ้น​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ตอน​ฤดูร้อน​หลี​่​จี้​ปราบปราม​โจรสลัด​ญี่ปุ่น​กว่า​ห้า​พัน​คน​ ​ฝ่า​บาท​จึง​มี​ราชโองการ​พิเศษ​เลื่อนขั้น​ให้​เขา​เป็น​ผู้บัญชาการ​เฉวียน​โจว​ ​เมื่อ​ไม่​กี่​วันก่อน​ได้​กลับ​เมืองหลวง​มา​ขอบ​พระทัย​ฮ่องเต้​ ​องค์​หญิง​อาน​เฉิง​จึง​เร่ง​ให้​จัดงาน​แต่งงาน​ให้​เสร็จสิ้น​ ​ดังนั้น​จึง​เป็นการ​ตัดสินใจ​อย่างกะทันหัน​”

ผู้บัญชาการ​เฉวียน​โจว​ถือเป็น​ขุนนาง​ระดับ​สี่

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ปีนี​้​คุณชาย​หลี​่​พึ่ง​จะ​อายุ​สิบ​เจ็ด​ปี​เอง​!​”​ ​ท่าทาง​ทอดถอนใจ​อยู่เล็ก​น้อย

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​พลาง​หยิก​จมูก​นาง​ ​“​ตอน​ข้า​อายุ​สิบ​เจ็ด​ปีก​็​ได้​เป็น​ผู้บัญชาการ​องครักษ์​เสื้อ​แพร​ที่​ค่าย​ใหญ่​ซาน​ซี​แล้ว​!​”

กลัว​ว่านาง​จะ​มี​ปม​ใน​ใจ​จึง​ได้​ตั้งใจ​ปลอบโยน​นาง​กระมัง​!

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​จะ​มีสั​กกี​่​คนที​่​จะ​เหมือนกับ​ท่าน​โหวกั​นล​่ะ​เจ้า​คะ​!​”

​“​ใช่​แล้ว​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​หยอกล้อ​นาง​ ​“​ยืน​อยู่​บน​ตำหนัก​จิน​หลวน​แล้ว​มอง​ลง​ไป​ ​คนที​่​อายุ​น้อยที่สุด​ก็​คือ​ข้า​…​”

​ขณะที่​ทั้งสอง​คน​กำลัง​คุย​ไป​หัวเราะ​ไป​ ​จิ​่น​เกอ​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ก็​ตื่นขึ้น​มา

​ดวงตา​ของ​เขา​กลอกกลิ้ง​ไปมา​อยู่นาน​ก็​ไม่มีใคร​สนใจ​ ​จึง​ร้องไห้​ออกมา​เสียงดัง​ อุแว้

​สวี​ลิ่ง​อี๋​รีบ​อุ้ม​ลูก​น้อย​ด้วย​ความ​ตื่นตระหนก​ ​“​นี่​เขา​หิว​นม​หรือว่า​ต้องการ​ถ่าย​เบา​”

​แม่นม​กู้​ที่​ได้ยิน​เสียง​ความเคลื่อนไหว​ก็​รีบ​วิ่ง​มาที​่​หลังฉาก​กั้น​ ​“​ท่าน​โหว​ ​คุณชาย​น้อย​หก​อยาก​ทาน​นม​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตอบ​เพียง​ ​“​อ้อ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ลุกขึ้น​หมาย​จะ​อุ้ม​บุตร​ ​“​ข้า​จะ​อุ้ม​ไป​ให้​แม่นม​!​”

​“​ประเดี๋ยว​ข้า​อุ้ม​เอง​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​อุ้ม​เด็กน้อย​พลาง​ใส่​รองเท้า​ ​“​เจ้า​พักผ่อน​เถิด​”​ ​แล้ว​นำ​บุตร​ไป​ส่ง​ให้​แม่นม​กู้

พอ​แม่นม​กู้​ป้อน​นม​เด็ก​แล้ว​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​อุ้ม​มา​ไว้​บน​เตียง​เหมือนเดิม​ ​“​ทุกคืน​เขา​กิน​นม​กี่​ครั้ง​!​”

​“​สองครั​้ง​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​ต้น​ยาม​ไฮ​่​หนึ่ง​ครั้ง​ ​ยาม​โฉ่ว​หนึ่ง​ครั้ง​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​แอบ​จดจำ​เอาไว้​ ​กล่อม​เด็กน้อย​เหมือน​ที่​แม่นม​ทำ​ ​เมื่อ​เห็น​ว่า​บุตรชาย​หลับ​แล้วก็​นำ​ไป​วาง​ไว้​ที่​ข้าง​หมอน​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​รีบ​นอน​เถิด​!​ ​พรุ่งนี้​คุณนาย​สี่​สกุล​หลัว​จะ​มาหา​แต่เช้า​ ​เจ้า​เอง​ก็​อย่า​ฝืน​เลย​ ​หาก​รู้สึก​เหนื่อย​ ​ก็​พูดคุย​กัน​ผ่าน​ฉาก​กั้น​เถิด​”

​“​ข้า​รู้​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​พลัน​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​พรุ่งนี้​หมอ​หลวง​หลิว​จะ​มา​ฝังเข็ม​ให้​นาง​อีก​ ​“​…​พรุ่งนี้​ท่าน​โหว​จะ​อยู่​ด้วย​หรือไม่​”

​“​แน่นอน​ว่า​ข้า​ต้อง​อยู่​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​เจ้า​ไม่ต้อง​กลัว​ ​หมอ​หลวง​หลิว​ชำนาญ​เรื่อง​การฝังเข็ม​เป็นอย่างมาก​”

​เรื่อง​นี้​สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​มองออก

​“​ตอนที่​ฝังเข็ม​ให้​เจ้า​ ​มี​เพียงแค่​หู่​พั่ว​ที่​ปรนนิบัติ​อยู่​ใน​ห้อง​”​ ​เขา​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​ต่อหน้า​ไท่ฮู​หยิน​ข้า​บอก​เพียง​ว่า​แค่​มาตร​วจ​ดู​อาการ​…​หาก​เจ้า​เจอ​กับ​ท่าน​แม่​ก็​อย่า​เผลอ​พูด​ไป​เป็นอันขาด​”

​“​เข้าใจ​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”​ ​น้ำเสียง​ของ​สือ​อี​เหนียง​นุ่มนวล​และ​อ่อนโยน​ราวกับ​สายลม​ใน​ฤดูใบไม้ผลิ​ ​พลอย​ทำให้​คน​รู้สึก​อบอุ่น

​******

​วันรุ่งขึ้น​ ​ไท่ฮู​หยิน​กับฮู​หยิน​สอง​มา​เยี่ยม

​“​เจ้า​แค่​ตั้งใจ​รักษา​เนื้อ​รักษาตัว​ก็​พอแล้ว​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ตบมือ​สือ​อี​เหนียง​เบา​ๆ​ ​“​เรื่อง​ใน​เรือน​มี​ข้า​คอย​ดูแล​ ​การ​บำรุง​ร่างกาย​ให้​ดีขึ้น​จึง​เป็น​สิ่ง​ที่​เจ้า​ควร​ทำ​”

ฮู​หยิน​สอง​กลับ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​สิ่ง​ที่​น่ากลัว​ที่สุด​ของ​อาการป่วย​คือ​การวินิจฉัย​ผิดพลาด​ ​ในเมื่อ​รู้​ต้นเหตุ​ของ​อาการป่วย​ก็​ทาน​ยารั​กษา​ให้​ถูกโรค​ก็​พอแล้ว​ ​เจ้า​ไม่ต้อง​กังวล​มากเกินไป​”

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​เอ่ย​ขอบคุณฮู​หยิน​สอง​

​หลังจากนั้น​ป้า​สือ​ก็​มาหา

​“​ไท่ฮู​หยิน​กับฮู​หยิน​สอง​ก็​อยู่​ด้วย​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​นาง​ยิ้ม​พลาง​ย่อเข่า​คำนับ​ ​นำ​กล่อง​ไม้​สีแดง​ใน​มือ​มอบให้​หู่​พั่ว​ ​“​ได้ยิน​ว่าฮู​หยิน​สี่​สุขภาพ​ไม่​ค่อย​ดี​ ฮู​หยิน​ห้า​จึง​ตั้งใจ​ให้​บ่าว​นำ​โสม​ร้อย​ปี​สอง​หัว​ที่เก็บ​ไว้​ใน​เรือน​มา​ให้ฮู​หยิน​สี่​บำรุง​ร่างกาย​เจ้าค่ะ​”​ ​แล้ว​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“ฮู​หยิน​ห้า​ของ​พวกเรา​ตื่น​แต่เช้า​ ​เดิมที​เตรียม​จะ​ให้​บ่าว​พามา​เยี่ยมฮู​หยิน​สี่​ด้วยตัวเอง​ ​แต่​บังเอิญ​ว่า​ไม่สบาย​เล็กน้อย​ ​บ่าว​จึง​ได้มา​เอง​ ​ขอฮู​หยิน​สี่​โปรด​อภัย​ด้วย​เจ้าค่ะ​!​”

​ไท่ฮู​หยิน​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​เป็นกังวล​ ​“​ตาน​หยาง​เป็น​อะไร​หรือ​”

​แววตา​ของ​ป้า​สือ​กลับ​เผย​ให้​เห็น​ถึง​ความยินดี​ ​“ฮู​หยิน​ของ​พวกเรา​ตั้งครรภ์​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

​“​ตาย​จริง​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​พูด​ด้วย​ความดีใจ​ว่า​ ​“​นี่​ช่าง​เป็นเรื่อง​ที่​น่ายินดี​อย่างยิ่ง​”​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​ถาม​ว่า​ ​“​ตั้งครรภ์​ตั้งแต่​เมื่อไร​ ​ได้​เชิญ​หมอ​หลวง​มาตร​วจ​ดูหรือ​ไม่​”

​“​สักพัก​หนึ่ง​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​ป้า​สือ​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​แต่ว่า​ครั้งนี้​ไม่​เหมือนกับ​ครั้ง​ที่แล้ว​ ​ครั้ง​ที่แล้ว​อาการ​รุนแรง​ราวกับ​ฟ้า​ถล่ม​ดิน​ทลาย​ ​แต่​ครั้งนี้​กลับ​ไม่มี​อาการ​อะไร​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​ ​วันนี้​ตอนเช้า​พึ่ง​จะ​เชิญ​หมอ​หลวง​มาตร​วจ​ดู​ ​มิเช่นนั้น​คง​ไม่กล้า​พูด​ออกมา​หรอก​เจ้าค่ะ​!​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท