บทที่ 461 ลูกวัวเองก็มีศักยภาพมากเช่นกัน ข้าต้องการจะแย่งชิงความใกล้ชิดลูกวัว!
“ได้”
หลังจากฟังเซี่ยเหยียนพูด หลี่จิ่วเต้าก็หัวเราะแล้วกล่าวออกมา “หากเสี่ยวไป๋สามารถแปลงกายเป็นมนุษย์ได้ จะต้องเป็นสตรีที่งดงามมากอย่างแน่นอน!”
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว จะต้องสวยมากอย่างแน่นอน!”
“ข้าจะเฝ้ารอเลย!”
พวกอ้ายฉานพากันพูดเจื้อยแจ้ว
ด้านในน้ำ มัจฉาสัตมายาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ดูเหมือว่ามันจะคิดมากไปเอง ท่านเซียนใจดีกับพี่ลั่วสุ่ยเป็นอย่างมาก ทั้งยังช่วยให้ลั่วสุ่ยสามารถทำตามความปรารถนาของตนเองได้
มันรู้ว่าพี่ลั่วสุ่ยต้องการจะแปลงกายเป็นมนุษย์เพื่ออยู่ข้างกายท่านเซียนอย่างถึงที่สุด พี่ลั่วสุ่ยเคยพูดเรื่องนี้ให้กับมันฟัง
‘พี่สาว น้องชายหวังว่าชีวิตของท่านจะดีขึ้นเรื่อย ๆ! ท่านอย่าได้ทำอะไรโง่เง่าเพื่อน้องชายเลย!’
มันกล่าวขึ้นมาในใจ ยินดีกับลั่วสุ่ยอย่างยิ่ง
อีกด้านหนึ่ง ลั่วสุ่ยมองไปทางถังน้ำราวกับว่าภายในใจยังคงมีเรื่องราวบางอย่าง
“ไม่ต้องดูแล้ว ปลาจะไม่ถูกส่งให้ผู้อื่น”
หลี่จิ่วเต้ายิ้ม “ไม่ต้องกังวลแล้ว!”
“เมี้ยว เมี้ยว เมี้ยว!”
ลั่วสุ่ยร้องออกมาอย่างมีความสุข เจ้าแมวน้อยถูไถหัวตัวเองไปมาในอ้อมแขนของท่านเซียน
ทุกสิ่งล้วนไม่อาจหลบซ่อนจากท่านเซียนได้!
แม้จะเป็นเพียงเรื่องราวที่คิดอยู่ในใจก็ตาม!
ท่านเซียนล่วงรู้ทุกสิ่ง!
นางตื้นตันใจมากกว่าเดิม ท่านเซียนปฏิบัติกับนางดีอย่างมาก ทั้งยังเปลี่ยนความคิดเพราะนาง ยอมปล่อยมัจฉาสัตมายาไป
ด้านในถังน้ำ มัจฉาสัตมายาตื่นเต้น ตอนนี้มันรู้สึกโล่งอกที่จะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับมันแล้ว
บุ๋ง บุ๋ง!
ยินดีด้วยพี่ชี!
พี่ชีได้รู้จักพี่สาวที่ดีจริง ๆ!
ปลาตัวอื่นในถังน้ำกล่าวกับมัจฉาสัตมายา
พวกเขารู้แจ้งชัดเป็นอย่างยิ่ง หากไม่มีลั่วสุ่ย เกรงว่าชะตาครั้งนี้ของมัจฉาสัตมายาจะถูกกำหนดแล้ว
สิ่งนี้ทำให้พวกมันอิจฉาเป็นอย่างมาก ตราบใดที่มีลั่วสุ่ยอยู่ ชีวิตของมัจฉายาสัตมายาก็จะมั่นคง
พี่สาว!
ข้าเองก็อยากเป็นน้องชายของท่านด้วย!
พวกมันต่างตะโกนขึ้นมาในใจว่าอยากจะเป็นน้องชายของลั่วสุ่ย ต้องการให้ลั่วสุ่ยปกป้องพวกเขา
“วัว! ลูกวัวตัวนั้น! ท่านเซียนยังใจดีกับลูกวัวตัวนั้นเป็นอย่างมาก ถึงกับพาออกไปเดินเล่นอยู่บ่อยครั้ง ทั้งยังดูแลเป็นอย่างดี!”
ปลาตัวอื่นต่างคิดถึงลูกวัวซึ่งท่านเซียนให้ความเอ็นดูเป็นอย่างมาก
‘เหอเหอ พวกเจ้าไปแข่งกันเป็นน้องชายของลั่วสุ่ยเสียเถอะ! ข้าจะไปเป็นน้องชายของลูกวัวตัวน้อย! ในอนาคตลูกวัวจะต้องทรงพลังเป็นอย่างมาก สามารถปกป้องข้าได้อย่างแน่นอน!’
มันคิดในใจ แต่ไม่ได้พูดสิ่งใดออกมา
มันจะพูดอะไรออกมาซี้ซั้วได้อย่างไร!
ถ้าเกิดพูดออกไป ปลาตัวอื่นจะต้องแก่งแย่งลูกวัวกันอย่างแน่นอน มันเองก็จะไม่มีข้อได้เปรียบอันใด
ฮัดชิ้ว!
ที่ลานเล็ก ๆ ข้างบ้าน ลูกวัวจามออกมาอย่างกระทันหัน
มันใช้กีบเท้าเกาหัวของตนเองด้วยความฉงน เป็นผู้ใดกันที่คิดถึงมัน?
ช่างมันเถอะ นอนต่อดีกว่า!
มันนอนบนพื้นอย่างเกียจคร้าน ก่อนจะหลับสบาย มันมานอนพักกลางวันที่นี่เป็นประจำทุกวัน
อีกด้านหนึ่ง หลี่จิ่วเต้าพูดกับต้าเต๋อว่า “หลังจากกินเสร็จแล้ว ข้าจะพาเจ้าไปตกปลาด้วยกัน แล้วปลาทั้งหมดที่ข้าจับได้ล้วนมอบให้เจ้า”
ปลาตัวไหนก็ล้วนเหมือนกันหมดไม่แตกต่าง ทั้งหมดล้วนเป็นปลาที่เขาจับมาจากแม่น้ำสายเล็ก ปลาที่จะมอบให้ต้าเต๋อก็เป็นปลาที่จะตกจากที่แห่งนั้นเหมือนกัน
“ตกลง! ขอบคุณคุณชาย!”
ต้าเต๋อตอบกลับอย่างไม่รู้สึกเสียดายอะไร ปลาที่ท่านเซียนบอกจะมอบให้กับเขา มันจะต้องเป็นปลาที่ไม่เลวอย่างแน่นอน
หลังจากกินเสร็จแล้ว ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นหยิบอุปกรณ์ตกปลาออกจากบ้าน
“ตอนเย็นก็อย่าเพิ่งไปไหนกันเล่า อยู่ทานข้าวเย็นที่บ้านเสียก่อน”
หลี่จิ่วเต้าพูดกับเซี่ยเหยียนและคนอื่น ๆ ด้วยรอยยิ้ม
“พวกเจ้าอยากกินสิ่งใด?” เขาถาม
“หม้อไฟ!”
“ใช่แล้ว กินหม้อไฟกันเถอะ! หม้อไฟอร่อยที่สุดแล้ว!”
พวกอ้ายฉานตอบ พวกเด็ก ๆ ยังคงจำหม้อไฟได้ เพียงแค่คิดก็หวนนึกถึง
“ได้!”
หลี่จิ่วเต้ากล่าว “เรื่องเนื้อต้องมอบให้พวกเจ้าจัดการแล้ว”
“ไม่มีปัญหา!”
พวกอ้ายฉานพากันตบอกตอบรับด้วยความกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก นึกถึงการกินหม้อไฟครั้งล่าที่สุดที่พวกเขาได้กินสัตว์อสูรที่จับกันมา
“เช่นนั้นพวกเจ้าไปเถอะ ข้าจะไปตกปลานอกเมือง”
หลี่จิ่วเต้าและต้าเต๋อออกจากลานเล็ก ๆ ไปตกปลายังแม่น้ำสายเล็กด้านนอกเมือง
ส่วนพวกอ้ายฉานต่างพากันไปจับสัตว์อสูรกลับมาอย่างมีความสุข
พูดตามสัตย์จริงแล้ว หม้อไฟนั้นอร่อยเป็นอย่างมาก!
หากให้พวกเขากล่าวถึงอาหารที่อร่อยที่สุดในใจของพวกเขา อันดับที่หนึ่งย่อมต้องเป็นหม้อไฟอย่างแน่นอน!
เอ๊ะ ไม่สิ เค้กเองก็อร่อย นับว่าเป็นที่หนึ่งเหมือนกัน!
ไม่สิ ไม่สิ!
เนื้อตุ๋นของท่านเซียนเองก็อร่อย
เนื้อย่างเองก็อร่อย!
อ๊า ทั้งหมดล้วนเป็นอันดับหนึ่ง!
“คุณชายดีกับเจ้าจริง ๆ!”
ภายในลานเล็ก ๆ เซี่ยเหยียนเอ่ยกับลั่วสุ่ยด้วยอารมณ์ลึกซึ้ง
นางเองก็รู้ว่าลั่วสุ่ยต้องการจะแปลงกายเป็นมนุษย์มากที่สุด มาคราวนี้ท่านเซียนก็ช่วยให้ความปรารถนาของลั่วสุ่ยเป็นจริง
ตอนที่ท่านเซียนพึ่งพูด นางควรจะนึกถึงจุดนี้ให้ออกเร็วกว่านี้
ท่านเซียนมักทำตัวเป็นปุถุชนอยู่เสมอ ไม่เคยกล่าวถึงเรื่องการฝึกตนอย่างชัดเจน แน่นอนว่าในครั้งนี้ก็ไม่บอกตรง ๆ ให้ลั่วสุ่ยแปลงกายเป็นมนุษย์
ท่านเซียนจึงกล่าวว่าลั่วสุ่ยมีจิตวิญญาณ นางควรจะคิดออกว่าท่านเซียนต้องการให้ลั่วสุ่ยสามารถแปลงกายเป็นมนุษย์ตามปรารถนา
น่าเสียดายที่ในตอนนั้นนางไม่สามารถตอบสนองได้ทันที
ยังดีที่สุดท้ายนางก็คิดออก สามารถตระหนักได้ถึงเรื่องนี้
“ใช่แล้ว! สามารถติดตามอยู่ข้างกายคุณชาย นับว่าเป็นโชคดีในชีวิตข้าแล้ว!”
ลั่วสุ่ยกล่าวออกมาอย่างทอดถอนใจ
…
แดนหยิน
ณ ดินแดนของตระกูลไป๋
ผู้เฒ่าเมิ่งจีตามไป๋มู่กลับมายังตระกูลไป๋
หลังจากที่กลับมาแล้ว พวกเขาก็ต้องทำงานอย่างหนักจนหัวหมุน
แต่หากพูดให้ถูกก็คือ มีเพียงไป๋มู่ผู้เดียวที่ทำงานหนักจนหัวหมุน ส่วนเมิ่งจีนั้นไม่ได้ยุ่งอะไรมากมาย
การไปยังเก้าแดนต้องห้ามไม่นับเป็นเรื่องเล็ก พวกเขาจำเป็นต้องเตรียมตัวให้พร้อม
แม้เมิ่งจีจะรู้สึกว่าท่านเซียนเตรียมแผนการอื่นเอาไว้แล้ว ทว่าตัวเขาเองก็ควรเตรียมตัวให้พร้อม ไม่สามารถไปที่เก้าแดนต้องห้ามทั้งอย่างนี้
อย่างไรจนกระทั่งถึงตอนนี้ เขาก็ยังไม่เคยเห็นแผนการของท่านเซียน และไม่รู้ว่าแผนการของท่านเซียนคือสิ่งใด!
“ข้าแจ้งให้ทุกตระกูลทราบแล้ว อีกไม่ช้ายอดฝีมือของพวกเขาก็จะมาเข้าร่วมกับพวกเราที่นี่ หลังจากนั้นพวกเราค่อยไปทะเลต้องห้ามด้วยกัน!”
ไป๋มู่กล่าวกับเมิ่งจี
เมิ่งจีพยักหน้า “ดี รอพวกเขามาแล้วพวกเราค่อยไปกัน!”
…
ภายในมหาสมุทรสีดำอันไร้ที่สิ้นสุด
บนพื้นผิวทะเลกลับปรากฏซากศพเน่าเปื่อยลอยเกลื่อนไปทั่ว
ที่แห่งนี้คือทะเลต้องห้าม ส่วนซากศพเหล่านี้ก็ล้วนเป็นอสูรสินธุที่ล้วนตายไปจนหมดสิ้นแล้ว
จนกระทั่งถึงตอนนี้ จ้าวสมุทรก็ยังคงไม่สามารถฟื้นฟูส่วนนี้กลับมาได้ ทั้งยังไม่สามารถทำให้อสูรสินธุเหล่านี้ฟื้นคืนกลับมาได้
อสูรสินธุเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตจริง ๆ พวกมันถูกทะเลต้องห้ามสร้างขึ้นมาจากวิชาลับ ขอเพียงแค่มีพลังเพียงพอ พวกมันก็จะสามารถกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง
“เหตุใดท่านบรรพชนถึงยังมาไม่ถึงอีก?”
จ้าวสมุทรกล่าวด้วยความไม่สบายใจเป็นอย่างมาก
นี่มันแปลกเป็นอย่างมาก หากกล่าวตามหลักเหตุผล ท่านบรรพชนควรจะมาถึงได้แล้ว!”
ทว่าจนกระทั่งถึงตอนนี้ เส้นทางยังคงไร้การเคลื่อนไหว ท่านบรรพชนยังคงมาไม่ถึง
‘เป็นไปได้หรือไม่ที่สมรภูมิในแดนสังสารวัฏจะเกิดความตึงเครียด ท่านบรรพชนจึงต้องกลับไปอีกครั้ง?’
จ้าวสมุทรคิดขึ้นมาในใจ รู้สึกว่าสิ่งนี้มีโอกาสเป็นไปได้มาก ไม่เช่นนั้นท่านบรรพชนคงจะมาถึงแล้ว
‘อาจจะไม่ใช่! ถ้าเป็นเช่นนั้น ท่านบรรพชนจะต้องแจ้งให้ข้ารู้!’
จ้าวสมุทรคิดขึ้นมาอีกครั้ง ที่แห่งนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ท่านบรรพชนไม่มีเหตุผลที่จะไม่มา แต่หากไม่มากจริง ท่านบรรพชนจะต้องบอกกล่าวเรื่องนี้กับเขา”
ท่านบรรพชนคงจะมีเรื่องบางอย่างจึงมาถึงล่าช้า เขาไม่ได้รับแจ้งสิ่งใด นั้นหมายถึงว่าท่านบรรพชนจะต้องมาอย่างแน่นอน
“ต้องเร่งฟื้นฟูขึ้นอีก! เมื่อท่านบรรพชนมาข้าจะได้ถูกลงโทษน้อยลง!”
เขาลงมือด้วยความตึงเครียดอีกครั้ง ค่อย ๆ ฟื้นฟูพื้นที่รอบ ๆ ทะเลต้องห้าม