ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 477 สถานการณ์(ต้น)

ตอนที่ 477 สถานการณ์(ต้น)

​ไท่ฮู​หยิน​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​พยักหน้า​อย่าง​เห็นด้วย

แม้ว่า​จะ​มี​ความสัมพันธ์​ทาง​เครือญาติ​ ​แต่​ก็​ไม่​ควร​แสดงออก​อย่างชัดเจน​เกินไป

​“​ใน​ใจ​เจ้า​รู้​ว่า​ควร​ทำ​อย่างไรก็ดี​แล้ว​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​พลาง​ไป​นั่ง​ที่​เตียง​เตา​ริม​หน้าต่าง

​จากนั้น​สวี​ซื่อ​จุน​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​็​วิ่ง​เข้ามา​หา​ ​“​ท่าน​ย่า​ ​ท่าน​ย่า​”​ ​เอ่ย​เรียก​พลาง​โค้ง​คำนับ

​ไท่ฮู​หยิน​มอง​เด็ก​ทั้งสอง​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​หันไป​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ที่พึ่ง​ร้องไห้​มาจาก​อ้อมแขน​ของ​แม่นม​กู้​ ​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​ ​ใคร​รังแก​จิ​่น​เกอ​ของ​พวกเรา​!​ ​บอก​ย่ามา​ ​ย่า​จะ​ช่วย​เจ้า​สั่งสอน​พวกเขา​ให้​เอง​”​ ​แล้ว​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​จิ​่น​เกอ​ของ​พวกเรา​สวม​เสื้อแขนยาว​แล้ว​ดู​เรียบร้อย​ขึ้น​เยอะ​เลย​”​ ​พูด​พลาง​หอม​แก้ม​จิ​่น​เกอ​หนึ่ง​ที

​จิ​่น​เกอ​เบิกตา​กว้าง​มอง​ไท่ฮู​หยิน​ด้วย​ดวงตา​เปล่งประกาย​สีดำ​แวววาว​ราวกับ​หยก​เพราะ​พึ่ง​ผ่าน​การร้องไห้​มา​เมื่อ​ครู่

​ไท่ฮู​หยิน​เห็น​ดังนั้น​ก็​รู้สึก​ชอบใจ​เป็นอย่างมาก​ ​หอม​แก้ม​จิ​่น​เกอ​อีก​หนึ่ง​ที​ ​แล้ว​ถาม​สวี​ซื่อ​จุน​กับ​สวี​ซื่อ​เจี้ยว​่า​ ​“​เหตุใด​พวก​เจ้า​ถึง​พากั​นมา​รบกวน​ท่าน​แม่​”

​สวี​ซื่อ​จุน​รีบ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​บอกว่า​หายป่วย​แล้ว​ ​ต่อไปนี้​ตอนกลางวัน​พวกเรา​สามารถ​มาทา​นอา​หาร​กลางวัน​ที่นี่​ทุกวัน​ได้​เช่นเคย​แล้ว​ขอรับ​!​”

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ไท่ฮู​หยิน​หันไป​มอง​สือ​อี​เหนียง

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ก็​เพียงแค่​ทานอาหาร​กลางวัน​เท่านั้น​ ​แล้วก็​ยัง​มีบร​รดา​สาวใช้​และ​ป้า​รับใช้​คอย​ปรนนิบัติ​อยู่​ ​ท่าน​แม่​ไม่ต้อง​กังวล​เจ้าค่ะ​”

​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ไท่ฮู​หยิน​เห็น​ว่า​ขณะที่​ตัวเอง​กำลัง​พูดคุย​อยู่​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​สวี​ซื่อ​จุน​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​็​พากั​นมา​หา​จิ​่น​เกอ​ ​คน​หนึ่ง​จับมือ​จิ​่น​เกอ​ ​อีก​คน​หนึ่ง​ดึง​มือ​จิ​่น​เกอ​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​เจ้า​ก็ตาม​ใจ​พวกเขา​มากเกินไป​แล้ว​!​”

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ถ้า​ไม่​ให้​ตามใจ​เด็กน้อย​แล้ว​จะ​ตามใจ​ผู้ใหญ่​หรือ​เจ้า​คะ​!​ ​อีก​อย่าง​จุน​เกอ​กับ​เจี​้ย​เกอ​ก็​เชื่อฟัง​เช่นนี้​ ​ต่อให้​ข้า​ตามใจ​ก็​ไม่ต้อง​กลัว​ว่า​จะ​เสียนิ​สัย​”

​ขณะที่​พูดคุย​กัน​บรรดา​อี๋​เหนียง​ก็​เข้ามา

​เมื่อ​เห็น​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​อยู่​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ก็​ค่อนข้าง​ระมัดระวัง​อยู่​บ้าง​ ​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ท่าทาง​สุภาพ​เรียบร้อย​ ​ส่วน​คุณนาย​สาม​สกุล​เหลียง​ก็​ท่าทาง​นอบน้อม​เป็นอย่างมาก

​“​รู้​มา​ว่าฮู​หยิน​ย้าย​กลับมา​ที่​เรือน​หลัก​แล้วจึง​ตั้งใจ​มา​เยี่ยม​”​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ทำตัว​ไม่​ปกติ​ ​ไม่​ช่างพูด​ช่าง​จา​อย่างที่​เคย​เป็น​ ​ส่วน​เฉียว​เหลียน​ฝัง​ยืน​อยู่​ตรงนั้น​อย่างสงบ​เสงี่ยม​ ​คุณนาย​สาม​สกุล​เหลียง​เห็น​ว่า​บรรยากาศ​ค่อนข้าง​เงียบเชียบ​ ​จึง​เดิน​เข้าไป​พลาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​หากฮู​หยิน​มีเรื่อง​อัน​ใด​ก็​กำชับ​มา​ได้​เลย​เจ้าค่ะ​”

​“​ก็​ไม่ได้​มีเรื่อง​อัน​ใด​หรอก​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​ใน​เรือน​หลัก​ก็​เผา​เตา​ให้​ความอบอุ่น​อยู่​ตลอด​ ​พวก​ผง​ฝุ่น​ใน​เรือน​ก็​มี​ซิ่ว​เหลียน​และ​คนอื่นๆ​ ​คอย​ช่วย​ปัดกวาด​”​ ​นาง​พูด​พลาง​ส่ง​แขก​ ​“​หาก​มีเรื่อง​อัน​ใด​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​จะ​ต้อง​ขอให้​บรรดา​อี๋​เหนียง​ช่วยเหลือ​อย่างแน่นอน​”

​เมื่อ​ทั้ง​สาม​คน​เห็น​ดังนั้น​ก็​ย่อเข่า​คำนับ​แล้ว​เดิน​เรียง​กัน​ออก​ไป

​ไท่ฮู​หยิน​มองตาม​หลัง​คุณนาย​สาม​สกุล​เหลียง​ ​อยาก​จะ​พูด​อะไร​บางอย่าง​แต่​ก็​หยุด​ไป

​จนถึง​ตอนนี้​คุณนาย​สาม​สกุล​เหลียง​ก็​ยัง​ไม่เคย​ได้​ปรนนิบัติ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เข้านอน​ ​เชื่อ​ว่า​หลาย​คนใน​จวน​ต่าง​ก็​รู้​ ​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​ไท่ฮู​หยิน​ ​ตอนที่​สือ​อี​เหนียง​ตั้งครรภ์​นั้น​อาการ​ไม่ดี​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เป็นห่วง​มาก​จึง​คอย​ดูแล​นาง​อยู่​ที่​เรือน​ ​ต่อมา​พอ​ถึงกำหนด​คลอด​ก็​ประสบปัญหา​คลอด​บุตร​ยาก​ ​หลังจาก​คลอด​แล้ว​เด็ก​ก็​ไม่​ค่อย​สบาย​ ​ตอนนี้​นาง​ก็​มี​อาการ​ตกเลือด​ ​ต้อง​รักษา​นาน​ถึง​สาม​ถึง​ห้า​ปี​ ​ตาม​บรรทัดฐาน​ของ​ภรรยา​ที่​ดี​ ​นาง​ควรจะ​จัดเตรียม​อนุภรรยา​ไว้​คอย​ปรนนิบัติ​ ​เมื่อถึง​วัน​ของ​ตัวเอง​ก็​ยิ่ง​ต้อง​จัดเตรียม​สาวใช้​ห้อง​ข้าง​ไว้​คอย​ปรนนิบัติ​ถึง​จะ​ถูก​ ​แต่​ตอนนี้​สวี​ลิ่ง​อี๋​เอาแต่​อยู่​ที่​เรือน​ของ​นาง​อย่าง​เดียว​…

​แต่​นาง​แกล้งทำ​เป็น​ไม่รู้

​“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​ทานข้าว​แล้ว​หรือยัง​ ​หาก​ยัง​ไม่ได้​ทาน​ ​ไม่​สู้​พวกเรา​มาทา​นข​้าว​ด้วยกัน​ดี​หรือไม่​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​กอด​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​แล้ว​โอบ​ไหล่​สวี​ซื่อ​จุน​ ​“​พวกเรา​ก็​ยัง​ไม่ได้​ทานอาหาร​กลางวัน​เลย​เจ้าค่ะ​”

​ไท่ฮู​หยิน​เห็น​ดังนั้น​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เช่นนั้น​ก็ดี​ ​ให้​คนครัว​ของ​เจ้า​ทำ​เป็ด​ตุ๋น​หน่อไม้​แห้ง​ให้​ข้า​เถิด​!​”

​นี่​เป็น​อาหาร​ที่​ไท่ฮู​หยิน​โปรดปราน​มาก​ที่สุด

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​รับคำ​ ​กำชับ​ให้​จู๋​เซียง​ไป​ยก​อาหาร​มา

​สวี​ซื่อ​จุน​กับ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยล​้​อม​วง​กัน​เข้ามา​ ​คน​หนึ่ง​ตะโกน​ว่า​จะ​กิน​กุ้ง​ผัด​ชา​หลง​จิ​่ง​ ​อีก​คน​ตะโกน​ว่า​จะ​กิน​ขนม​เปี๊ยะ​กุหลาบ​ ​ทำเอา​ไท่ฮู​หยิน​หัวเราะ​ ​พูด​กับ​จิ​่น​เกอ​ที่​ไม่รู้​อิ​โหน่​อิ​เหน่​ว่า​ ​“​เจ้า​ดู​พี่​ห้า​ของ​เจ้า​สิ​ ​รู้จัก​แต่​ขนม​เปี๊ยะ​กับ​ซาลาเปา​ไส้​เนื้อ​”

​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ชอบ​ทาน​ซาลาเปา​ไส้​เนื้อ​ ​เรื่อง​นี้​ไม่มีใคร​ไม่รู้​ ​เขา​ก้ม​ศีรษะ​ลง​ด้วย​ความ​เขินอาย​เล็กน้อย

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​ลูบ​ศีรษะ​เขา​ ​กระซิบ​ข้าง​หู​ว่า​ ​“​ข้า​ก็​ชอบ​กิน​ซาลาเปา​ไส้​เนื้อ​เหมือนกัน​”

​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เงยหน้า​ขึ้น​มา​ ​หน้าแดง​ก่ำ​แต่​ดวงตา​กลับเป็น​ประกาย

​******

​สอง​วัน​ต่อมา​ ​สือ​อี​เหนียง​ไป​จวน​จง​ฉินปั​๋ว​เพื่อ​เพิ่มสิน​สอด​ทองหมั้น​ใส่​หีบ​ให้​เสียน​เจี่ย​เอ๋อร​์

​กานฮู​หยิน​ออกมา​ต้อนรับ​ด้วย​ใบหน้า​ยิ้มแย้ม

​“​เจ้า​สุขภาพ​ไม่​ค่อย​ดี​ก็​ยัง​อุตส่าห์​มาด​้วย​ตัวเอง​ ​ข้า​ไม่รู้​ว่า​จะ​พูด​อย่างไร​เลย​จริงๆ​!​”

​สือ​อี​เหนียง​กล่าว​อย่าง​สุภาพ​ว่า​ ​“​เสียน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ออกเรือน​ทั้งที​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​ข้า​ก็​ต้อง​มาดู​ให้​ได้​”

​ทั้งสอง​พูดคุย​กัน​พลาง​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้องโถง​เรือน​หลัก

​มีส​ตรี​แปลกหน้า​นั่ง​อยู่​สอง​คนใน​ห้องโถง​ ​ดูแล​้​วอา​ยุ​ประมาณ​สิบ​แปดสิบ​เก้า​ปี​ ​คน​หนึ่ง​แต่งตัว​หรูหรา​แต่​หน้าตา​ดู​ธรรมดา​ ​ส่วน​อีก​คน​หนึ่ง​แต่งตัว​อย่าง​เรียบ​เงียบ​ ​แต่​หน้าตา​ดู​สดใส​ ​ทั้งสอง​คน​นั่ง​ข้าง​กัน​บน​เก้าอี้​ไท่​ซือ​ ​แม้ว่า​กำลัง​พูดคุย​กัน​ ​แต่​บรรยากาศ​ใน​ห้อง​กลับ​ดู​เย็นยะเยือก

​สือ​อี​เหนียง​อด​ประหลาดใจ​ไม่ได้

​กานฮู​หยิน​ยิ้ม​พลาง​แนะนำ​นาง​ ​“​สอง​ท่าน​นี้​เป็น​สะใภ้​จวน​เดียวกัน​กับ​คุณหนู​เจ็ด​ของ​พวกเรา​”​ ​พูด​พลาง​ชี้​ไป​ยัง​คนที​่​หน้าตา​ธรรมดา​ ​“​นี่​คือ​คุณนาย​สาม​สกุล​เหลียง​ ​แซ่​หยาง​”​ ​แล้ว​ชี้​ไป​ที่​อีก​คน​หนึ่ง​ ​“​นี่​คือ​คุณนาย​สอง​สกุล​เหลียง​ ​แซ่​หวง​”​ ​ขณะที่​พูด​สายตา​ของ​ทั้งสอง​คน​ก็​จับจ้อง​มาที​่​สือ​อี​เหนียง​โดย​ไม่ได้​นัดหมาย

​สือ​อี​เหนียง​ซูบผอม​ลง​ไม่น้อย​ ​วันนี้​ตั้งใจ​มวยผม​ขึ้น​ ​สวม​เสื้อแขนยาว​สีเขียว​ทะเลสาบ​ ​และ​สวม​กระโปรง​สีเขียว​เข้ม​ปัก​ลาย​ดอก​เหมย​สีเขียว​อ่อน​ ​ฤดูหนาว​เช่นนี้​กลับ​สวม​ชุด​บาง​เฉียบ​ ​ทั้ง​ยัง​สวม​สร้อยข้อมือ​ทับทิม​ที่​พัน​รอบ​ข้อมือ​ประมาณ​เจ็ด​แปด​รอบ​ ​ดู​งดงาม​แฝง​ไว้​ด้วย​เสน่ห์

​แววตา​ของ​คุณนาย​สาม​สกุล​เหลียง​ผู้​นั้น​เผย​ให้​เห็น​ถึง​ความอิจฉา​ ​แต่​แววตา​ของ​คุณนาย​สอง​สกุล​เหลียง​นั้น​ปรากฏ​ความสงสัย​เล็กน้อย

​กานฮู​หยิน​แนะนำ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ท่าน​นี้​คือ​หย่ง​ผิง​โหวฮู​หยิน​ ​แซ่​หลัว​ ​พึ่ง​จะ​คลอด​คุณชาย​น้อย​เมื่อไม่นานมานี้​ ​พอ​หมด​ช่วง​อยู่ไฟ​ก็​มา​เพิ่มสิน​สอด​ทองหมั้น​ใส่​หีบ​ให้​เสียน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ของ​พวกเรา​”​ ​น้ำเสียง​แฝง​ไว้​ด้วย​ความภาคภูมิใจ​เล็กน้อย

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​ทักทาย​สตรีทั​้ง​สอง​ท่าน

​นัยน์ตา​ของ​คุณนาย​สาม​สกุล​เหลียง​เผย​ให้​เห็น​ความ​เย็นชา​ครู่หนึ่ง​ ​ขณะที่​คุณนาย​สอง​สกุล​เหลียง​นั่ง​หลัง​ตรง​พลาง​ยิ้ม​เล็กน้อย​ ​ท่าทาง​ดู​เย่อหยิ่ง​เป็นอย่างมาก

​สือ​อี​เหนียง​เหลือบมอง​คุณนาย​สาม​สกุล​เหลียง​ด้วย​แววตา​เจ้าเล่ห์​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​ทักทาย​คุณนาย​สอง​สกุล​เหลียง​ ​“​นึกไม่ถึง​ว่า​จะ​ได้​พบ​บุตรสาว​ของ​ใต้เท้า​หวง​ที่นี่​”

​คุณนาย​สอง​สกุล​เหลียง​ประหลาดใจ​เล็กน้อย

​สือ​อี​เหนียง​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​สกุล​เดิม​ข้า​อยู่​ที่​อวี​๋​หัง​ ​ตอน​วันเกิด​ท่าน​ย่า​ของ​พวก​เจ้า​ใน​ตอนนั้น​ ​พี่ชาย​ข้า​ก็ได้​รับคำ​สั่ง​จาก​ท่าน​พ่อ​ให้​ไปร​่วม​แสดงความยินดี​ด้วย​”

​คุณนาย​สอง​สกุล​เหลียง​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​มีท​่า​ทาง​เป็นกันเอง​ขึ้น​มา​เล็กน้อย​ ​“​ที่แท้ฮู​หยิน​ก็​เป็น​คน​อวี​๋​หัง​ ​ตอนนั้น​ข้า​ตาม​ท่าน​พ่อ​ไป​ประจำตำแหน่ง​”

​ ​“​นี่​นับว่า​คือ​โชคชะตา​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​พูดว่า​ ​“​ตอนนั้น​ยัง​ไม่รู้​จัก​กัน​ ​แต่กลับ​ได้มา​เจอกัน​ที่​เยี​่​ยน​จิง​”

​รอยยิ้ม​ของ​คุณนาย​สอง​สกุล​เหลียง​เริ่ม​ดู​สนิทสนม​ขึ้น​มา

​“​คนกันเอง​ทั้งนั้น​ ​ทุกคน​นั่งลง​คุย​กัน​เถิด​”​ ​กานฮู​หยิน​เห็น​ดังนั้น​ก็​เชิญ​ให้​พวก​นาง​นั่งลง​อย่าง​เป็นกันเอง

​สือ​อี​เหนียง​ถามถึง​หลาน​ถิง​ ​“​…​เหตุใด​ถึง​ไม่เห็น​นาง​เลย​!​”

​ ​“​นาง​กำลัง​คุย​อยู่​กับ​พี่ชาย​ใหญ่​ของ​นาง​!​”​ ​กานฮู​หยิน​ยิ้ม​พลาง​ให้​สาวใช้​น้อย​นำ​ชากับ​ขนม​มา​วาง

​สือ​อี​เหนียง​กับ​คุณนาย​สอง​สกุล​เหลียง​พูดถึง​เรื่อง​ใน​เจียง​หนาน​จึง​ได้​ละเลย​คุณนาย​สาม​สกุล​เหลียง​ไป

​ใบหน้า​ของ​คุณนาย​สาม​สกุล​เหลียง​ดู​มืดมน​เล็กน้อย

​คุณนาย​สอง​สกุล​เหลียง​เห็น​ดังนั้น​ก็​ดูเหมือน​มีความสุข​มาก​ ​ยิ่ง​พูดคุย​กับ​สือ​อี​เหนียง​อย่าง​ออกรส​ออก​ชาติ​มากกว่า​เดิม

​สีหน้า​คุณนาย​สาม​สกุล​เหลียง​เริ่ม​ดู​ไม่ดี​มากขึ้น​เรื่อยๆ​

อย่างไร​เสีย​ก็​เป็น​แขก​ ​เป็น​เช่นนี้​ต่อไป​ ​หาก​คุณนาย​สาม​สกุล​เหลียง​อารมณ์ไม่ดี​ ​จะ​เป็น​สกุล​กาน​ที่​ดู​ไม่ดี​เอา

​เมื่อ​ความคิด​ผ่าน​เข้ามา​ใน​หัว​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​กำลังจะ​หันไป​พูดคุย​กับ​คุณนาย​สาม​สกุล​เหลียง​ ​หลาน​ถิ​งก​็​เดิน​เข้ามา​พอดี

​นาง​สวม​เสื้อแขนยาว​สีแดง​ลูก​ท้อ​ ​มวยผม​ขึ้น​ ​ใส่​ต่างหู​สีทอง​และ​ปักปิ่น​ปัก​ผม​ ​สีหน้า​ตึงเครียด​ทำให้​ดู​จริงจัง​เล็กน้อย

​เมื่อ​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​อยู่​นาง​ก็​ยิ้ม​อย่าง​สดใส​เหมือนปกติ

​“​สือ​อี​เหนียง​ ​เจ้า​มา​ได้​อย่างไร​!​”​ ​หลาน​ถิง​รีบ​เข้าไป​จับมือ​นาง​ ​“​ข้า​ได้ยิน​มา​ว่า​หมอ​หลวง​หลิว​ไป​ติดตาม​อาการ​เจ้า​ทุกๆ​ ​ห้าวัน​ ​เจ้า​ดีขึ้น​แล้ว​หรือยัง​”

​“​ค่อยๆ​ ​ดีขึ้น​แล้ว​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่​อยาก​พูด​อะไร​มาก​จึง​ตอบ​ไป​สั้น​ๆ​

​หลาน​ถิง​พยักหน้า​ไม่​ถาม​อะไร​อีก

​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​อยาก​จะ​ไป​พบ​กาน​ไท่ฮู​หยิน

​กานฮู​หยิน​ไม่ได้​รู้สึก​แปลกใจ​ ​ทุกคน​ต่าง​ก็​รู้​ว่า​กาน​ไท่ฮู​หยิน​กับ​สือ​อี​เหนียง​ทำ​กิจการ​ร่วมกัน​และ​ทำเงิน​ได้มา​กมาย

​หลาน​ถิง​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​รีบ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​พอ​ข้า​กลับมา​พี่ใหญ่​ก็​ลาก​ข้า​ไป​คุย​ด้วย​ ​ยัง​ไม่ได้​ไป​คารวะ​ท่าน​แม่​เลย​”​ ​แล้ว​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​พวกเรา​ไป​เยี่ยม​นาง​ด้วยกัน​เถิด​!​”

​ดูเหมือนว่า​กานฮู​หยิน​จะ​อารมณ์ไม่ดี​เท่าไร​ ​แต่​ก็​ยัง​ส่ง​สาวใช้​น้อย​ให้​พา​พวก​นาง​ไปหา​กาน​ไท่ฮู​หยิน

​ระหว่างทาง​ ​สือ​อี​เหนียง​ถาม​หลาน​ถิง​ว่า​ ​“​ที่​พี่ใหญ่​เจ้า​เรียก​เจ้า​ไป​พบ​ ​หรือว่า​เป็น​เพราะ​เรื่อง​ที่​เฉวียน​โจว​”

​บางที​อาจ​เป็น​เพราะ​อยู่​ต่อหน้า​สหาย​ที่​ไว้ใจได้​ ​หลาน​ถิง​จึง​ยอม​เล่า​ให้​ฟัง​ ​“​…​เขา​ยัง​บอกอี​กว่า​ขนาด​เรื่องเล็ก​น้อย​แค่นี้​ก็​ยัง​ช่วยไม่ได้​ ​แล้ว​เขา​จะ​ไป​อธิบาย​กับ​คน​สกุล​กง​อย่างไร​ ​ข้า​เกลี่ย​กล่อม​เขา​ไม่​ให้​ทำ​ธุรกิจ​ขนส่ง​ทาง​มหาสมุทร​กับ​สกุล​กง​แล้ว​ ​สกุล​กง​เป็น​สกุล​ทำ​กิจการ​รายใหญ่​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​สละ​เรือ​ใน​มหาสมุทร​ไป​หนึ่ง​ลำ​ก็​ไม่​ต่าง​อะไร​กัน​กับ​ถอนขน​ไป​หนึ่ง​เส้น​ ​แต่​สำหรับ​สกุล​เรา​กลับ​เหมือนกับ​ถูก​ถอน​เอ็น​ ​หาก​มี​อะไร​เกิดขึ้น​ ​จะ​รู้สึก​เสียใจ​ภายหลัง​ก็​คง​ไม่ทัน​ ​คำพูด​เช่นนี้​ ​พี่ใหญ่​กลับ​ไม่​ฟัง​เลย​สัก​คำ​ ​ข้า​เอง​ก็​หมดปัญญา​แล้ว​ ​ช่าง​เป็นเรื่อง​ที่​น่ารำคาญ​เสีย​จริง​”​ ​แล้ว​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​เจ้า​เอง​ก็​เห็น​แล้ว​ ​แม้ว่า​พวกเรา​จะ​มีสะ​ใภ้​เพียง​สาม​คน​ ​แต่​ต่าง​คน​ก็​ต่าง​มีแผน​และ​ความคิด​ของ​ตัวเอง​ ​หากว่า​ข้ามา​ขอร้อง​เพื่อ​เรื่อง​สกุล​เดิม​ของ​ข้า​ ​เกรง​ว่า​พวก​นาง​ก็​จะ​รู้ทัน​ที​ ​เมื่อถึง​ตอนนั้น​แล้ว​ข้า​จะ​เอาหน้า​ไป​ไว้​ที่ไหน​”

​ก่อนที่​สือ​อี​เหนียง​จะ​ได้​ตอบ​ ​พวก​นาง​ก็​มา​อยู่​ที่​ประตู​หน้า​เรือน​ของ​กาน​ไท่ฮู​หยิน​พอดี

​ทั้งสอง​คน​หยุด​การ​สนทนา​แล้ว​เดินตาม​สาวใช้​น้อย​เข้าไป​ใน​เรือน

​กาน​ไท่ฮู​หยิน​มีความสุข​มาก​ที่​ได้​พบ​พวก​นาง​ ​ยิ้ม​พลาง​จับมือ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​หลาย​วัน​มานี​้​ประเดี๋ยว​ข้า​ก็ได้​ยิน​คนอื่น​บอกว่า​เจ้า​ประสบปัญหา​คลอด​บุตร​ยาก​ ​ประเดี๋ยว​ก็ได้​ยิน​คนอื่น​บอกว่า​เจ้า​มี​อาการ​ตกเลือด​ ​ทำเอา​ข้า​สับสน​ไป​หมด​ ​พอส​่​งคน​ไป​ถาม​ก็​ไม่ได้​คำตอบ​ที่​แน่นอน​ ​ข้า​เป็นห่วง​อยู่​ทุกวัน​ ​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​”

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​เล่า​เหตุการณ์​สั้น​ๆ​ ​“​…​ไม่มี​อะไร​ ​เป็น​เพียง​เรื่องเล็ก​น้อย​ ​ไม่จำเป็น​ต้อง​กังวล​เจ้าค่ะ​”

​เมื่อ​รู้​ว่า​ทุกอย่าง​เรียบร้อย​ดี​ ​กาน​ไท่ฮู​หยิน​ก็​แสดง​สีหน้า​โล่งใจ​ ​หันไป​ไถ่ถาม​หลาน​ถิง

​“​ข้า​ก็​สบายดี​เช่นกัน​!​”​ ​หลาน​ถิง​สีหน้า​เรียบ​เฉย​ ​ตอบ​กาน​ไท่ฮู​หยิน​สอง​สาม​ประโยค​แล้ว​ลุกขึ้น​กล่าว​ลา

​สือ​อี​เหนียง​คิดถึง​จิ​่น​เกอ​ ​เตรียมตัว​จะ​กลับ​จวน​แล้ว​เช่นกัน​ ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​คราวหน้า​ค่อย​มา​เยี่ยม​ท่าน​อีก​”​ ​แล้ว​เดิน​ออกจาก​เรือน​ของ​กาน​ไท่ฮู​หยิน​พร้อมกับ​หลาน​ถิง

​ช่วงนี้​อากาศ​แจ่มใส​ ​แสงอาทิตย์​สาดส่อง​มาที​่​ใบหน้า​ ​ส่องแสง​เจิดจ้า​แต่​ไม่​แสบ​ตา​ ​เพียงแค่​รู้สึก​อบอุ่น​เท่านั้น

​ฝีเท้า​ของ​กาน​หลาน​ถิง​ช้า​ลง​เล็กน้อย​ ​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ ​“​เมื่อวาน​ข้า​ได้รับ​จดหมาย​จาก​สาวใช้​ข้าง​กาย​ของ​พี่​หญิง​สาม​ ​บอกว่า​พี่​หญิง​สาม​ตั้งครรภ์​แล้ว​”

พึ่ง​เข้า​จวน​ไป​ก็​มีเรื่อง​มงคล​เลย​ ​ถือว่า​เป็นเรื่อง​ดี​!

แต่​เหตุใด​สีหน้า​ของ​หลาน​ถิ​งก​ลับ​ประหลาด​เช่นนี้​

​ขณะที่​กำลัง​ครุ่นคิด​ก็ได้​ยิน​หลาน​ถิง​พูด​พึมพำ​ว่า​ ​“​ปรากฏ​ว่า​ถูก​อนุร​รยา​ทำให้​โกรธ​จน​แท้ง​บุตร​”

​“​ว่า​อย่างไร​นะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​หยุด​ฝีเท้า

​หลาน​ถิ​งก​็​หยุด​เช่นกัน

​นาง​มอง​สือ​อี​เหนียง​พลาง​ยิ้ม​เจื่อน​ๆ​ ​“​ข้า​ก็​ไม่ได้​หวัง​ให้​พี่ใหญ่​ไป​ถกเถียง​กับ​สกุล​เจียง​ ​เพียงแค่​อยาก​ให้​เขา​เขียนจดหมาย​ไป​ตักเตือน​ ​ใคร​จะ​ไปรู​้​ว่า​…​”​ ​หลาน​ถิง​หันหน้า​หนี​ ​มีน​้ำ​ใส​ๆ​ ​ไหลริน​ออกมา​จาก​ดวงตา

ดังนั้น​จึง​ได้​เลือก​กลับ​สกุล​เดิม​วันนี้​เพื่อมา​เพิ่มสิน​สอดใส่​หีบ​ให้​เสียน​เจี่ย​เอ๋อร​์​กระมัง

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท