ตอนที่ 423 สามร้อยปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว พบองค์ราชันฮวงเทียนอีกครา!
“ฝูเทียน เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง” หนิงฝานไถ่ถาม
ฝูเทียนคลำมือ สัมผัสได้ถึงพลังต้องห้ามโดยกำเนิดที่น่าสะพรึงกลัวและมหาศาลสายหนึ่งเดือดพล่านอยู่ในร่างกายของเขา จึงเอ่ยอย่างตื่นเต้น “ดี! ดีขึ้นกว่าเดิม!”
แม้ว่าฝูเทียนในอดีตจะเคยแข็งแกร่ง แต่สิ่งที่แข็งแกร่งคือจิตของเขา แต่ตอนนี้เมื่อเปิดผนึกร่างต้องห้ามโดยกำเนิด ทั้งร่างกายและจิตใจก็แข็งแกร่งขึ้นยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา!
ปัจจุบันเขาสามารถกวาดล้างศัตรูทั้งหมดภายใต้กึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นหกได้อย่างสมบูรณ์ แม้แต่กึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นหกก็เรียกได้ว่า ไร้ผู้ใดทัดเทียม!
“จุ๊จุ๊!”
“เจ๋งไปเลย! ฝูเทียน เจ้าในตอนนี้ตราบใดที่ไม่มีเรื่องเหนือความคาดหมาย มีโอกาสเก้าส่วนที่จะไปถึงระดับรู้แจ้งทางอื่น กระทั่งมีโอกาสไปยังสถานที่สูงสุดเพื่อแข่งขันแย่งชิงโชคชะตาหนึ่งเดียว!”
เวลานี้ เหลยเหมิงและซวีคุนที่อยู่ด้านข้างพูดอีกครั้งโดยแสดงความอิจฉาอย่างที่สุด
“พี่ใหญ่ทั้งสอง แย่งชิงโชคชะตาอะไรกัน? พวกท่านประเมินข้าสูงเกินไปแล้ว แล้วอีกอย่าง ยังมีท่านอาจารย์อยู่ในโลกนี้ ข้าจะมีคุณสมบัติในการแย่งชิงโชคชะตาได้อย่างไร!” ฝูเทียนส่ายหัวและยิ้ม
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เหลยเหมิงและซวีคุนก็ตกใจ จากนั้นก็ตบหน้าผาก
จริงสิ!
ยังมีหนิงฝาน!
แม้ว่าฝูเทียนจะควบคุมสองวิถีพลังอันน่ากลัวอย่างยิ่ง แต่หนิงฝานนั้นเป็นการดำรงอยู่อันน่าสยดสยองยิ่งกว่า!
หนิงฝานใช้กงล้อแห่งโชคชะตาอีกครั้ง เพื่อแบกรับพลังแห่งจิตและพลังต้องห้ามโดยกำเนิดของฝูเทียน เขาในตอนนี้ แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงคน ๆ เดียว แต่เขาก็เชี่ยวชาญวิถีพลังหกประการ!
เป็นคนแรกนับหลายหมื่นปีอย่างแน่นอน!
“หึ ๆ!”
“เอาล่ะ หยุดประจบสอพลอได้แล้ว!”
หนิงฝานหัวเราะเบา ๆ เขามองฝูเทียนที่กำลังครุ่นคิดอยู่ลึก ๆ “ฝูเทียน เจ้าไม่ต้องคิดมาก ร่างกายของเจ้า หลังจากได้พบกับองค์ราชันฮวงเทียนในอนาคต เจ้าก็ค่อยถามเถอะ!”
“อืม!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ฝูเทียนก็ระงับความคิดนับพัน!
“ไปกันเถอะ อย่ามัวโอ้เอ้ เดินหน้าต่อไป!” ในที่สุดหนิงฝานก็ออกคำสั่ง
“ขอรับ!”
ทั้งสามพยักหน้าและตามหนิงฝานไปตามเส้นทางต่อไป เมื่อมีซวีคุน อสูรซวีคงนี้อยู่ ทั้งกลุ่มจึงเดินทางได้เร็วมาก
เพียงสามปีต่อมา พวกเขาก็มาถึงด่านที่สิบเอ็ด!
เมื่อไม่มีหมายจับโลหิตของเส้นทางราชันจักรพรรดิ หนิงฝานก็จะไม่ตกเป็นเป้าหมายของสภาผู้พิทักษ์บนเส้นทางราชันจักรพรรดิอีกต่อไป!
เริ่มเข้าสู่ด่านที่สิบเอ็ดทีละขั้นตอน และเข้าร่วมการทดสอบบุตรแห่งสวรรค์ของด่านที่สิบเอ็ด
การทดสอบครั้งนี้แทบจะไม่ได้ยากลำบากสำหรับหนิงฝาน พรรคพวกคว้าชัยชนะอย่างง่ายด่าย!
หลังจากได้รับรางวัลชนะเลิศและลงชื่อเข้าใช้ด่านที่สิบเอ็ด หนิงฝานและพรรคพวกก็รีบออกจากด่านที่สิบเอ็ดและรีบไปที่ด่านที่ระดับที่สิบสอง!
ต่อมา หนิงฝานกับพรรคพวกเริ่มต้นการเดินทางอันน่าเบื่อและยาวนาน ข้ามความว่างเปล่าไร้ขอบเขตและผ่านด่านราชันจักรพรรดิมากมาย
และทุกครั้งที่เขามาถึงด่านราชันจักรพรรดิ หนิงฝานจะไม่ลืมลงชื่อเข้าใช้
[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ด่านที่สิบสองสำเร็จ ได้รับหนึ่งล้านผลึกเต๋า!]
[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ด่านที่สิบสามสำเร็จ ได้รับหนึ่งล้านผลึกเต๋า!]
[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ด่านที่สิบสี่สำเร็จ ได้รับวิชาราชันจักรพรรดิไร้เทียมทาน!]
[ติ๊ง! ลงชื่อเข้าใช้ด่านที่สิบห้าสำเร็จ ได้รับหินโบราณแห่งยุคเริ่มต้น!]
…
ด้วยวิธีนี้ เวลาค่อย ๆ ผ่านไประหว่างการเดินทางอันยาวไกลของเส้นทางราชันจักรพรรดิ
ร้อยปี!
สองร้อยปี!
สามร้อยปี!
ชั่วพริบตา สามร้อยปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว!
ตอนนี้เกือบสี่ร้อยปีผ่านไป ตั้งแต่หนิงฝานก้าวเข้าสู่เส้นทางราชันจักรพรรดิ
ในช่วงสี่ร้อยปีที่ผ่านมา หนิงฝานและพรรคพวกได้ก้าวข้ามความว่างเปล่าอันไร้ที่สิ้นสุด ผ่านด่านราชันจักรพรรดิมากมาย ลับคมตัวเองในการต่อสู้ เข้าใจวิถีพลังผ่านการเข่นฆ่า และกักตนยกระดับการบ่มเพาะ… ทุกคนได้รับความคืบหน้าอย่างเพียงพอ!
ในหมู่พวกเขา เหลยเหมิงและซวีคุน ทั้งสองประสบความสำเร็จในการเลื่อนขั้นสู่ขอบเขตกึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นหก และฝูเทียนบรรลุถึงสุดยอดกึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นหก!
ส่วนผู้ที่น่ากลัวที่สุดคือหนิงฝาน แม้การฝึกฝนของเขาจะมาถึงขอบเขตสุดยอดกึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นห้า แต่ความแข็งแกร่งของเขานั้นน่าสยดสยองที่สุด!
เขาในตอนนี้ไม่ต้องใช้กฎแห่งเส้นทางราชันจักรพรรดิ ก็สามารถสังหารผู้ฝึกยุทธ์กึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นหกได้อย่างง่ายดาย แม้กระทั่งกึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นแปดก็สามารถต่อกรได้!
และอีกสี่ร้อยปีต่อมา วันนี้
ในความว่างเปล่าอันไร้ที่สิ้นสุด อสูรร้ายสีดำขนาดมหึมาเคลื่อนผ่านความว่างเปล่าอย่างรวดเร็ว!
บนหัวของอสูรยักษ์ มีร่างสามร่างนั่งขัดสมาธิ ร่างหนึ่งในชุดคลุมธรรมดา ร่างหนึ่งมีผมสีม่วง และร่างหนึ่งเยาว์วัยในชุดดำ!
นั่นคือหนิงฝานและพรรคพวก
“ลูกพี่ ใกล้จะถึงด่านห้าสิบแล้ว!” ซวีคุนเอ่ยเตือน
“ดี!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หนิงฝานผู้ซึ่งกำลังหลับตาฝึกฝนก็ลืมตาขึ้นทันที ภายในดวงตาเขาเต็มไปด้วยความผันผวนของกาลเวลา!
การเดินทางสี่ร้อยปีเต็ม ๆ บนเส้นทางราชันจักรพรรดิทำให้หนิงฝานดูอ่อนโยนน้อยลง และดุดันขึ้นเล็กน้อย!
ควับ!
หนิงฝานลุกขึ้นมองไปรอบ ๆ และเห็นเมืองโบราณที่ยิ่งใหญ่ตระหง่านอยู่ในความว่างเปล่าอันหนาวเย็นและมืดมิดในระยะไกล คืบคลานราวกับสัตว์ประหลาดในยุคบรรพกาล ประตูเมืองสูงใหญ่ดำสนิทน่ากลัวราวกับปากเหว !
บนประตูเมืองสลักคำว่า ‘ตุ้นอี’ ด้านล่างมีอักษรขนาดเล็ก——เส้นทางราชันจักรพรรดิด่านที่ห้าสิบ!
เส้นทางราชันจักรพรรดิด่านที่ห้าสิบนั้นยิ่งใหญ่โอ่อ่ายิ่งกว่าด่านราชันจักรพรรดิที่ผ่านมา และชื่อของด่าน นามตุ้นอี (หายไปหนึ่ง) นั้นมาจาก ‘วิถีดำเนินสี่สิบเก้า หายไปหนึ่ง*[1]’ สามารถจินตนาการถึงความสำคัญได้ของด่านราชันจักรพรรดินี้ได้!
ในความเป็นจริงก็เป็นเช่นนี้
ในฐานะที่ด่านตุ้นอี เป็นด่านที่ห้าสิบของเส้นทางราชันจักรพรรดิ ทำหน้าที่เป็นทางเชื่อมระหว่างอดีตและอนาคตบนเส้นทางราชันจักรพรรดิทั้งหมด
เพราะหลังจากด่านที่ห้าสิบ ไม่เพียงแต่ภัยคุกคามในความว่างเปล่าที่ไร้ที่สิ้นสุดได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทว่าแม้แต่การทดสอบที่ตั้งขึ้นโดยแต่ละด่านราชันจักรพรรดิก็ยิ่งโหดร้ายและนองเลือดมากขึ้น!
จากนี้ไป จะไม่มีคนธรรมดาที่สามารถเดินต่อไปจากที่นี่ได้อีก
“เข้าด่าน!”
ตามคำสั่งของหนิงฝาน ซวีคุนใช้พลังศักดิ์สิทธิ์แห่งความว่างเปล่า กระโดดข้ามผ่านหลายครั้งติดต่อกันทันที แล้วทุกคนก็มาถึงด่านราชันจักรพรรดิ!
“โอ๊ะ! อสูรซวีคงในตำนาน!”
“โห! มีคนอยู่บนอสูรซวีคง คนเหล่านี้ใช้อสูรซวีคงเป็นพาหนะ!”
“จิ๊จิ๊! ดูเหมือนว่าจะมีผู้แข็งแกร่งหลายคนมาถึงด่านที่ห้าสิบ!”
“พูดเช่นนี้ หมายความว่าในช่วงเวลานี้ผู้แข็งแกร่งที่มาถึงด่านห้าสิบมีน้อยเช่นนั้นหรือ!”
“ก็ดูท่านนั้นที่แขวนอยู่ที่ประตูเมืองเกือบสองพันปีสิ เขาเคยเป็นผู้แข็งแกร่งไร้เทียมทานเหมือนกัน!”
“ตั้งแต่สมัยโบราณด่านที่ห้าสิบของเรานั้นเชี่ยวชาญการเก็บมังกรและพยัคฆ์ที่ข้ามแม่น้ำและขึ้นภูเขามาโดยเฉพาะ!”
“…”
เมื่อหนิงฝานและพรรคพวกเข้าใกล้ประตูเมือง สิ่งมีชีวิตตรงประตูเมืองก็ส่งเสียงดังทันที
“โอ้!”
“เส้นทางราชันจักรพรรดิหนึ่งร้อยแปดด่าน มาถึงด่านห้าสิบแล้ว ได้ถือว่าเดินทางมาเกือบครึ่งทางแล้ว!”
พวกหนิงฝานทั้งสามคนกระโดดลงจากหัวของซวีคุน ซวีคุนกลายร่างเป็นมนุษย์ แล้วทั้งกลุ่มก็เดินไปที่ประตูเมือง
“ลูกพี่ ดูสิ มีคนถูกแขวนอยู่เหนือประตูเมืองด้วย!” เวลานี้ ซวีคุนเงยหน้าขึ้นและพูดด้วยความประหลาดใจ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หนิงฝานและคนอื่นๆ ก็เงยหน้าขึ้นมอง
เห็นชายคนหนึ่งมีผมกระเซิงปิดหน้าถูกล่ามโซ่ไว้ที่ประตูเมือง ร่างสวมชุดมอมแมม ราวกับว่าถูกลมและแดดมาไม่รู้จบสิ้น!
ผิวหนังของเขาที่ถูกเปิดออกนั้นเต็มไปด้วยบาดแผลเปื้อนเลือด ดูน่าเวทนายิ่ง!
แต่เมื่อพวกเขาเห็นชายคนนั้น หนิงฝานและฝูเทียนกลับสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่คุ้นเคยเป็นอย่างมาก
เมื่อมองใกล้ ๆ ก็ต้องตกใจทันที!
“องค์ราชันฮวงเทียน!!”
[1] มาจากประโยค 大道五十,天衍四九,遁去其一 ในคัมภีร์อี้จิง อธิบายอย่างง่ายว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดในโลกใบนี้มีเลขจำนวนคือห้าสิบ แต่ขั้นตอนที่เรื่องราวดำเนินไปมีเพียงสี่สิบเก้า หายไปหนึ่ง ซึ่งหมายความว่า หนึ่งที่หายไปอาจจะเป็นตัวแปร หรือโอกาสที่จะให้เกิดความเปลี่ยนแปลง