รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 470 มัจฉาสัตมายา ‘อ่า นายท่านช่างเป็นปลาที่มีสายตาเฉียบแหลม!’

บทที่ 470 มัจฉาสัตมายา ‘อ่า นายท่านช่างเป็นปลาที่มีสายตาเฉียบแหลม!’

บทที่ 470 มัจฉาสัตมายา ‘อ่า นายท่านช่างเป็นปลาที่มีสายตาเฉียบแหลม!’

ปรากฏว่าแดนบรรพโกลาหลดำรงอยู่บนอาณาจักรแห่งนี้!

พวกเมิ่งจีนึกถึงท่านเซียนขึ้นมาในทันที

ท่านเซียนมาจากแดนบรรพโกลาหลใช่หรือไม่?

นี่…มีโอกาสเป็นไปได้มาก!

ความสามารถท่านเซียนน่าเหลือเชื่อและเหนือชั้นถึงเพียงนั้น!

หลังจากได้สติกลับมา เมิ่งจีก็มองไปที่จ้าวสมุทรแล้วเอ่ยถาม “เจ้ารู้จักแดนมรณามากน้อยเพียงใด?”

พฤติกรรมของของแดนมรณาต่างจากทะเลต้องห้ามอย่างเห็นได้ชัด แดนมรณาต้องการจะกลบฝังสิ่งมีชีวิตทั้งหมด หมายจะให้อาณาจักรแห่งนี้อาบย้อมไปด้วยโลหิต เขาอยากรู้ว่าแดนมรณาต้องการทำสิ่งใด!

“รู้ไม่มาก”

จ้าวสมุทรตอบทุกคำด้วยความสัตย์จริง เขาเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่ตนเองรู้เกี่ยวกับแดนมรณาออกมา

ที่แห่งนั้นคือขุมพลังอันน่าหวาดกลัวอย่างแท้จริง อยู่เหนือยิ่งกว่าดินแดนทั้งหมด แม้จะเป็นอาณาจักรเก้าแดนต้องห้ามก็ไม่อาจเทียบได้กับแดนมรณา ทั้งยังห่างชั้นเป็นอย่างมาก

“น่าปวดหัว!”

เมิ่งจีอดเกาหัวขึ้นมาไม่ได้ อาณาจักรแห่งนี้เสมือนบ่อน้ำที่ลึกเกินไป ไม่อาจคาดเดาได้จริง ๆ ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นอีกในวันข้างหน้า!

แค่คิดเขาก็รู้สึกปวดหัวแล้ว!

ตอนนี้เขาค่อนข้างเข้าใจแล้วว่าเหตุใดท่านเซียนจึงไม่ทำตัวโดดเด่น อาศัยอยู่ในเมืองชิงซานในฐานะปุถุชน ดูเหมือนว่าจะมีพายุอันไม่อาจจินตนาการถึงหลบซ่อนอยู่ในความมืด!

“ต้องปิดผนึกเส้นทางนี้!”

ในใจของเมิ่งจีได้ข้อสรุป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เขาก็ยังต้องทำในสิ่งที่สมควรทำ

เส้นทางนี้เชื่อมต่อกับภายนอกอาณาจักร ปล่อยไว้จะต้องเป็นภัยร้ายแอบแฝงอย่างแน่นอน

ใจจริงเขาอยากทำลายเส้นทางนี้ทิ้งเสีย แต่หากเส้นทางนี้ถูกทำลาย อาณาจักรเบื้องหลังทะเลต้องห้ามจะต้องไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปอย่างแน่นอน นั่นหมายความว่าเป็นการผลักทะเลต้องห้ามไปอยู่ฝั่งอาณาจักรเทียนหยวน ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปกว่าเดิม

ดังนั้นเขาจึงยังไม่คิดจะทำลายเส้นทางนี้ แต่ตั้งใจจะปิดผนึกเอาไว้ก่อน

หลังจากปิดผนึกเส้นทางนี้แล้ว แม้ว่าอาจไม่สามารถหยุดยั้งสิ่งมีชีวิตที่ต้องการจะข้ามเส้นทางนี้ อย่างน้อยเขาก็ยังสามารถรับรู้ได้ว่ามีผู้ผ่านผนึกเข้ามาแล้ว

เมื่อรู้ว่าแดนบรรพโกลาหลตั้งอยู่ในอาณาจักรของพวกเขา ทั้งยังส่อแววจะปรากฏออกมา เขาก็เข้าใจได้ว่าในอนาคตอาณาจักรแห่งนี้จะไม่สามารถปิดกั้นสิ่งมีชีวิตจากภายนออกได้

จะปิดกั้นได้อย่างไร?

เมื่อแดนบรรพโกลาหลปรากฏขึ้น อาณาจักรนับหมื่นคงไม่สงบนิ่งพากันรุมเข้ามา พวกเขาจะสามารถต่อกรปิดกั้นไม่ให้หมื่นอาณาจักรเข้ามาได้อย่างไร?

มันไม่มีทางเป็นไปได้

และไม่สามารถปิดกั้นได้ด้วย

ถึงจะสามารถปิดกั้นได้ชั่วระยะเวลาหนึ่ง แต่จะสามารถปิดกั้นไว้ได้ตลอดกาลเลยหรือ?

‘ต้องสยบสิ่งมีชีวิตจากภายนอกอาณาจักร พวกมันเข้ามาได้ แต่ไม่อาจก่อเรื่องวุ่นวายในอาณาจักรแห่งนี้ได้!’

เมิ่งจีคิดขึ้นมาในใจ หากไม่สามารถยับยั้งการเข้ามาได้ นี่ก็เป็นทางออกเดียว

เขายังคิดอีกว่าเหตุผลที่ท่านเซียนชี้แนะคนไม่น้อย อาจมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็เป็นได้?

ท่านเซียนไม่ออกหน้า แต่ให้เหล่าคนที่เคยชี้แนะและสั่งสอนเป็นผู้ออกหน้าเพื่อสยบสิ่งมีชีวิตจากต่างอาณาจักรไม่ให้ก่อความวุ่นวายหรือ?

มีความเป็นไปได้มาก!

หากไม่มีการสยบสิ่งมีชีวิตจากต่างอาณาจักรเอาไว้ก่อน พวกมันจะต้องไม่เห็นสิ่งมีชีวิตในอาณาจักรแห่งนี้อยู่ในสายตาอย่างแน่นอน

‘เรื่องนี้เอาไว้ทีหลัง ตอนนี้จะต้องซ่อมรอยแยกเสียก่อน จะได้ยื้อเวลาได้นานขึ้น!’

เมิ่งจีคิดขึ้นมาในใจ

การซ่อมแซมรอยแยกเป็นเรื่องที่สำคัญสุดในตอนนี้ หากซ่อมรอยแยก พลังฟ้าดินก็จะกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง ทำให้สามารถต้านทานได้นานขึ้นอีกหน่อย

เวลาที่ยื้อออกมานี้สามารถใช้เพื่อให้คนที่ท่านเซียนชี้แนะและสั่งสอนได้เติบโตขึ้น!

อย่างเช่นอ้ายฉาน สือเฟิง และคนอื่น ๆ

สุดท้ายแล้วเมิ่งจีก็วาดพู่กัน ปิดผนึกเส้นทางของทะเลต้องห้ามด้วยความช่วยเหลือจากสมบัติล้ำค่า

ระหว่างขั้นตอนนี้ จ้าวสมุทรมองดูด้วยความรู้สึกอึดอัดใจจนไม่อาจบรรยายได้

พู่กันในมือเมิ่งจีเองก็ไม่ใช่ของสามัญ เปี่ยมด้วยเต๋าสูงสุดอันไม่อาจจินตนาการถึงการไหลเวียน พลังที่ใช้ในการผนึกเส้นทางทรงพลังเป็นอย่างมาก จากการคาดคะเนของเขา ต่อให้ขั้นเทียนตี้ลงมือก็ไม่อาจสั่นคลอนผนึกนี้ได้โดยง่าย

ทว่าแม้จะรู้สึกอึดอัดใจเพียงใด เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมาสักคำ

ทุกคำที่พูดออกไปล้วนอาจนำพาไปหาความตาย!

“ไป ไปแดนต้องห้ามอื่นกัน!”

เมิ่งจีออกจากทะเลต้องห้ามไปพร้อมกับคนอื่น ๆ

แน่นอน ก่อนจากไปเขาได้กวาดสมบัติล้ำค่าทั้งหมดของทะเลต้องห้ามไปด้วย สมบัติเหล่านี้เขาจะใช้พวกมันเพื่อซ่อมรอยแยก

ณ เมืองชิงซาน

ด้านในลานเล็ก ๆ ของหลี่จิ่วเต้า

“นับตั้งแต่นี้ไปเรียกข้าว่านายท่านเข้าใจหรือไม่?”

ในถังน้ำ ปลามังกรวางอำนาจเป็นอย่างมาก ไม่เห็นปลาตัวอื่นอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย

มันน่ากลัวและแข็งแกร่งเกินไป แม้ว่าพลังของมันจะถูกยับยั้งเอาไว้ แต่มันก็ยังแข็งแกร่งกว่าปลาตัวอื่นอยู่มาก โดยเฉพาะหลังจากมันรู้ว่าปลาเหล่านี้เป็นเพียงอาหารแมว มันก็เหยียดหยามปลาตัวอื่นมากยิ่งกว่าเดิม

“เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว!”

“นายท่าน!”

ปลาตัวอื่นในถังน้ำไม่กล้าทำให้ปลามังกรขุ่นเคืองใจ พากันร้องเรียกปลามังกรว่านายท่านทีละตัว

“แล้วเจ้าล่ะ?”

ปลามังกรมองไปยังมัจฉาสัตมายา ปลาทั้งหมดในถังต่างยอมจำนนให้กับมัน เหลือเพียงแต่มัจฉาสัตมายาที่ไม่เคลื่อนไหวใด ๆ

“อย่าคิดว่าเจ้ามีความสัมพันธ์อันดีกับแมวที่ท่านบรรพจารย์เซียนแล้วข้าจะไม่กล้าทำอะไรเจ้า! ข้าจะบอกเจ้าให้ ข้าดีกว่าแมวตัวนั้นมาก ในอนาคตสถานะของข้าจะต้องดีกว่าแมวตัวนั้น!”

มันหรี่ตาลงเล็กน้อย “ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าแมวตัวนั้นไม่อยู่ที่นี่ ไม่มีผู้ใดปกป้องเจ้าได้!”

ความสัมพันธ์ของมัจฉาสัตมายาและแมวขาว มันเองก็ทราบเรื่องนี้จากปลาตัวอื่น ๆ

ทว่ามันก็ไม่ได้ใส่ใจ

มันเป็นเซียนมัจฉา ลั่วสุ่ยจะสามารถเทียบมันได้อย่างไร?

ท่านบรรพจารย์เซียนจะต้องให้ความสนใจกับมันมากขึ้นในอนาคต แมวขาวตัวนั้นก็ทำได้แต่เพียงอยู่ด้านหลังมันเท่านั้น

มัจฉาสัตมายาไม่สนใจปลามังกร

ปลามังกรตัวนี้นับเป็นสิ่งใด กล้าไปเปรียบเทียบกับพี่ลั่วสุ่ยได้อย่างไร?

ท่านเซียนใจดีกับพี่ลั่วสุ่ยเป็นอย่างมาก แม้ว่าปลามังกรจะเป็นเซียนมัจฉา แต่มันก็ไม่เชื่อว่าปลามังกรจะอยู่เหนือกว่าพี่ลั่วสุ่ย

พี่ลั่วสุ่ยจากไปพร้อมกับเซี่ยเหยียน มันดีใจกับพี่ลั่วสุ่ยเป็นอย่างมาก มันรู้ว่าพี่ลั่วสุ่ยกำลังจะได้ทำตามความปรารถนาของตนเอง เมื่อพี่สาวลั่วสุ่ยกลับมาก็จะแปลงกายเป็นมนุษย์ คอยอยู่ข้างกายท่านเซียน

“ผู้เข้าใจสถานการณ์คือผู้เฉลียวฉลาด ข้าเชื่อว่าเจ้าจะเป็นปลาที่รู้จักดูสถานการณ์!”

ปลามังกรกล่าวอีกครั้ง

“คิดอะไรอยู่! ข้ามัจฉาสัตมายาจะยอมศิโรราบง่าย ๆ ได้อย่างไร!”

ท่าทีของมัจฉาสัตมายาแข็งกร้าวเป็นอย่างมาก ภายในใจคิดว่าปลามังกรตัวนี้จะกล้ากินมันหรืออย่างไร?

อีกด้านหนึ่ง ปลามังกรไม่พูดจาสิ่งใด

มันกัดปลาตัวหนึ่งในทันที!

อ๊าก!

ปลาตัวที่โดนกัดน้ำตาไหลพรากด้วยความเจ็บปวด ภายในใจกล่าวว่าปลามังกรกัดปลาผิดตัวแล้วหรือไม่? มันไม่ใช่ผู้ที่ไม่ยอมเรียกปลามังกรว่านายท่าน!

ควรไปกัดมัจฉาสัตมายา มากัดข้าด้วยเหตุใดกัน!

ปลามังกรโหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่กัดปลาตัวนั้นอย่างง่ายดาย ยังอ้าปากกินปลาตัวนั้นไปภายในคำเดียวต่อหน้ามัจฉาสัตมายา

บัดซบ!

โหดเหี้ยมอะไรเพียงนี้!

มัจฉาสัตมายารู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที

ปลามังกรตัวนี้บอกกินก็คือกิน โหดเหี้ยมอย่างมาก!

“อ่า นายท่านช่างเป็นปลาที่มีสายตาเฉียบแหลม ข้าเป็นปลาที่รู้จักดูสถานการณ์ตั้งแต่เด็กจริง ๆ!”

มันกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มทันที

ลูกผู้ชายยืดได้หดได้!

มันไม่สามารถเอาชนะปลามังกรได้ พี่ลั่วสุ่ยเองก็ไม่อยู่ที่นี่ หากมันต้องการจะต่อกรกับปลามังกรตัวนี้จริง ๆ ก็ไม่มีผลลัพธ์ดี ๆ ให้มันแม้แต่น้อย!

ปลามังกรตัวนี้ดุร้ายกราดเกรี้ยวเช่นนี้ มันรู้สึกได้ว่าปลามังกรจะไม่พบจุดจบที่ดี!

มันจะอดทนเอาไว้ก่อน คอยดูว่าปลามังกรตัวนี้จะกำเริบเสิบสานได้นานเพียงใด!

“ใช่แล้ว ข้ามองออกนานแล้วว่าเจ้าเป็นปลาที่รู้จักดูสถาการณ์”

ปลามังกรพูดด้วยรอยยิ้ม มันพึงพอใจกับท่าทีของมัจฉาสัตมายามาก

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน