บทที่ 472 ศีรษะของศพโบราณกะพริบตาขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทำให้เสี่ยวหยาตกใจกลัว!
ณ แดนหยิน ชิงโจว
อาณาเขตตระกูลหยวน
“ข้าประเมินสิ่งที่อยู่ด้านในโลงศพต่ำเกินไป!”
หยวนอีถอนหายใจ เดิมทีนางคิดว่าหลังจากขอบเขตของตนเองพัฒนาขึ้นแล้ว นางจะสามารถเปิดฝาโลงศพดูสิ่งที่อยู่ภายในได้
แต่ผู้ใดจะคาดคิดว่าสิ่งที่อยู่ภายในโลงศพน่าตื่นตะลึงเกินไป แม้ว่าขอบเขตของนางจะพัฒนาขึ้นหลายครั้ง ก็ยังไม่สามารถเปิดฝาโลงศพได้
‘ด้านในเป็นเซียนจริง ๆ หรือ?’
นางอดคิดขึ้นมาไม่ได้ ทั้งหัวใจและวิญญาณสั่นสะท้านเล็กน้อย
แม้นางจะมีจี้กระบี่หยกที่คุณชายมอบให้ช่วยให้นางระเบิดพลังมหาศาลออกมาได้ สุดท้ายกลับไม่สามารถสะเทือนโลงศพสีชาดได้ เช่นนั้นแล้วผู้ที่นอนอยู่ภายในโลงศพสีชาดจะเป็นเซียนจริงดังเช่นที่มังกรดำกล่าวหรือ?
นางกำลังตั้งตนเป็นศัตรูกับเซียนอยู่หรือ?
“คุณชายจะสามารถจัดการสิ่งที่อยู่ในโลกศพได้หรือไม่?”
นางพึมพำกับตัวเอง รู้สึกเหมือนตนกำลังร่วงหล่นลงไปในพายุลูกใหญ่อาจต้องพลีชีพดับสลายไปเมื่อใดก็ได้
ทว่านางกลับไม่เสียใจแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม นางยังรู้สึกภาคภูมิใจเสียด้วยซ้ำ
สิ่งที่อยู่ภายในโลงศพสีชาดนั้น ไม่ต้องคิดอะไรมากมายก็รู้ว่าไม่ใช่ของดีอะไร เมื่อสิ่งที่อยู่ด้านในออกมาจะต้องสังหารชีวิตจำนวนมาก โลหิตหลั่งรินเป็นสายน้ำอย่างแน่นอน
ในช่วงเวลาอันยาวนานที่ผ่านมา มังกรดำตัวนั้นพยายามทำทุกหนทางเพื่อล่อสิ่งมีชีวิตอันแข็งแกร่งเข้ามาด้านในโพรงมังกร จากนั้นก็สังหารผู้แข็งแกร่งเหล่านั้นทิ้ง แล้วถ่ายเลือดเข้าไปในโลงศพสีชาด
สิ่งที่อยู่ด้านในโลงศพสีชาดจะต้องชั่วร้ายอย่างถึงที่สุด แม้ว่าจะเป็นเซียนจริง ก็ต้องเป็นเซียนที่แสนจะชั่วร้าย
ถ้าเซียนที่ชั่วร้ายเช่นนี้ออกมาภายนอก สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ จะต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแน่นอน ทั้งอาณาจักรจะต้องหลั่งรินด้วยเลือดเป็นแน่
คุณชายทนเห็นเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นไม่ได้ จึงมอบกระบี่หยกให้นางมาจัดการกับสิ่งที่อยู่ในโลงศพ นางรู้สึกภาคภูมิใจในหน้าที่นี้อย่างถึงที่สุด
น่าเสียดายที่ตอนนี้นางยังไม่อาจทำหน้าที่ที่คุณชายมอบหมายมาได้สำเร็จ นางยังคงไม่สามารถจัดการกับโลงศพสีชาดได้
ไม่ต้องพูดถึงการทำลายโลงศพสีชาดเลย นางยังไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่ามีสิ่งใดอยู่ภายในนั้น
รู้เพียงแค่สิ่งที่อยู่ด้านในโลงศพสีชาดน่าหวาดกลัวและน่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง
“ข้าคงต้องไปรบกวนคุณชาย!”
สีหน้าของหยวนอีจริงจัง ครั้งที่นางไปโพรงมังกรเมื่อไม่นานมานี้ นางพบว่าสิ่งที่อยู่ด้านในโลงศพสีชาดเริ่มแสดงสัญญาณของการฟื้นตัว
อีกทั้งนางไม่สามารถหยุดยั้งมันได้
แม้ว่าพลังที่นางสามารถเรียกใช้จากจี้กระบี่หยกจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ก็ยังคงไม่สามารถสั่นคลอนโลงศพสีชาดได้
นางต้องการจะไปพบคุณชาย เพื่อดูว่าคุณชายจะมีความคิดเห็นและคำสั่งอย่างไร
“ควรพูดหรือไม่ ตอนนี้อาณาจักรแห่งนี้ก็กำลังวุ่นวายเป็นอย่างมาก!”
นางถอนหายใจออกมา นางเองก็ได้ข่าวว่าสิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวนกำลังเข้ามาก่อการฆ่าฟัน
ตระกูลหยวนได้รับการแจ้งเตือนเช่นเดียวกัน
สิ่งที่อยู่ในโลงศพสีชาดกำลังจะฟื้นขึ้นมา สิ่งมีชีวิตจากอาณาจักรเทียนหยวนเองก็กำลังจะมาเช่นกัน ทุกสิ่งอย่างล้วนวุ่นวายเป็นอย่างยิ่ง!
หัวใจของนางหนักอี้งเป็นอย่างมาก จนรู้สึกตัดสินใจลำบากยิ่ง
ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่อยู่ในโลงศพสีชาด หรือจะเป็นสิ่งมีชีวิตจากโลกเทียนหยวน ก็ไม่มีทางใดสามารถจัดการได้โดยง่าย หากล้มเหลวสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในอาณาจักรแห่งนี้จะต้องดับสูญ หยาดเลือดหลั่งรินเป็นสายธาร
‘ยังดีที่มีคุณชายอยู่!’
นางคิดถึงคุณชาย ภายในใจถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก หลังจากเห็นฝีมือและความแข็งแกร่งของคุณชายแล้ว นางก็รู้ว่าคุณชายแข็งแกร่งเป็นที่สุด
หากไม่ใช่เพราะที่แห่งนี้มีคุณชาย เกรงว่าสิ่งมีชีวิตบนอาณาจักรแห่งนี้จะไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวของความหวัง!
นางคิดดูแล้ว บางทีนี่อาจเป็นสาเหตุที่คุณชายปรากฏตัวขึ้นมายังอาณาจักรแห่งนี้?
คุณชายรู้ว่าอาณาจักรแห่งนี้จะต้องเผชิญความวุ่นวายและหายนะที่ไม่อาจหยุดยั้ง ดังนั้นจึงปรากฏตัวขึ้นมายังอาณาจักรแห่งนี้เพื่อกำจัดความวุ่นวายและหายนะ
สิ่งนี้ทำให้นางอดชื่นชมคุณชายไม่ได้ เกิดความรู้สึกเลื่อมใส่จากก้นบึ้งของหัวใจ!
อย่างไรเสียตัวตนเช่นคุณชายก็สามารถคงอยู่ไปชั่วนิรันดร์ กาลเวลาไม่อาจสั่นคลอน ความสามารถทั้งหมดล้วนอยู่ระดับสะท้านฟ้าเหนือยิ่งกว่าจินตนาการ
ไม่เพียงเท่านั้น ด้วยตัวตนของคุณชายแล้ว สิ่งมีชีวิตภายในอาณาจักรอย่างพวกเขาอาจเทียบไม่ได้แม้กระทั่งฝุ่นธุลี ไม่มีสิ่งใดควรค่าแก่การสนใจ
ทว่าคุณชายกลับไม่เป็นเช่นนั้น
คุณชายไม่ได้คิดเช่นนั้นเลยแม้แต่น้อย ทั้งยังต้องการจะหยุดยั้งการนองเลือดและความวุ่นวายของสิ่งมีชีวิตที่อาจเทียบไม่ได้แม้กระทั่งฝุ่นธุลี นี่คือผู้ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง ควรค่าแก่การเคารพศรัทธา!
“นอกจากนี้ท่านเซียนยังคงไม่สนใจในชื่อเสียงและโชคลาภ มักจะอยู่เบื้องหลังเสมอ ไม่ออกหน้าให้คนทั่วไปรับรู้ จิตใจเช่นนี้ช่างน่าเลื่อมใสยิ่งนัก!”
หยวนอีถอนหายใจกล่าวออกมา
คุณชายวางแผนการเผื่อจะยับยั้งการนองเลือดและความวุ่นวายของอาณาจักรแห่งนี้ บุญคุณยิ่งใหญ่เพียงนี้ คุณชายกลับไม่เคยคิดจะทิ้งชื่อตนเอาไว้ ช่างน่าเลื่อมใสเหลือเกิน!
ได้ทำงานให้กับคุณชายเช่นนี้ นางรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก!
นับเป็นเกียรติยศอันสูงสุด!
“ข้ายอมสละกระทั่งชีวิตเพื่อทำงานให้คุณชาย”
นางกล่าวออกมาด้วยความหนักแน่นและแววตาแน่วแน่
หลังจากนั้น หญิงสาวก็ออกจากตระกูลหยวน มุ่งตรงไปยังเมืองชิงซาน
…
ภายในจักรวาลหมื่นดาราอันกว้างใหญ่ไพศาล มีเรือเดินสมุทรลำหนึ่งแล่นผ่านอย่างรวดเร็ว
“ใกล้เข้าไปเรื่อย ๆ แล้ว!”
ประกายตาของเสี่ยวหยาสดใส นางยิ้มออกมาเผยให้เห็นลักยิ้ม ดูแล้วน่ารักเป็นอย่างยิ่ง
นางเพิ่งบรรเลงบทเพลงคะนึงหาเสร็จ ด้วยท่วงทำนองเพลงทำให้นางสัมผัสได้ว่าระยะห่างระหว่างพี่ชายกับนางขยับใกล้เข้ามามากขึ้น
นอกจากนี้ นางยังสามารถพึ่งพาการบรรเลงบทเพลง ส่งพลังไปให้พี่ชายได้มากขึ้นกว่าแต่ก่อน ทำให้นางรับรู้ได้ว่าสติของพี่ชายมั่นคงมากยิ่งขึ้น ค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นมาจากสภาพอ่อนแอ
นางมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง มีความสุขอย่างถึงที่สุด พี่ชายคือผู้ที่สำคัญที่สุดในใจของนาง
“ยอดเยี่ยม!”
หลิงอินเองก็ยิ้มเช่นนั้น นางร่วมมีความสุขไปกับเสี่ยวหยา ในที่สุด ความเสียใจในอดีตก็ถูกชดเชย นับเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง
ทว่าในตอนนั้นเอง เรือเดินสมุทรก็หยุดลงอย่างกะทันหัน ราวกับมันชนเข้ากับอะไรบางอย่างจนสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
หลิงอินกับเสี่ยวหยามองหน้ากันก่อนรีบตรงมายังดาดฟ้าเรือ เพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น
เรือเดินสมุทรชนเข้ากับอะไรบางอย่างจริง ๆ บางอย่างที่ว่าก็คือศีรษะที่ใหญ่เท่าดวงดาว!?
หลิงอินและเสี่ยวหยามองดู มันเป็นศีรษะจริง ๆ ศีรษะที่ลักษณะเหมือนเผ่ามนุษย์เพศชาย ปกคลุมไปด้วยเส้นผมสีดำยาว ขนาดใหญ่เท่าดวงดาว
จักรวาลหมื่นดาราถึงกับมีศีรษะขนาดเท่าดวงดาวลอยอยู่ นับเป็นภาพที่แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก!
ศีรษะนั่นแข็งเป็นอย่างมาก ถึงกับชนเรือจนสะเทือนไปหมดได้ สิ่งนี้ทำให้หลิงอินรู้สึกเหลือเชื่ออยู่บ้าง
เรือเดินสมุทรลำนี้เป็นเรือโบราณที่ถูกสร้างขึ้นมาจากวัสดุที่พิเศษเป็นอย่างมาก หลิงอินเคยทำการประเมินครั้งหนึ่ง แม้ว่าจะเป็นขั้นเทียนตี้ก็ไม่อาจทำลายเรือลำนี้ลงได้อย่างง่ายดาย จะต้องใช้พลังทั้งหมดจึงจะสามารถทำลายเรือลำนี้ลงได้
ทว่าศีรษะนี่กลับสามารถกระแทกเรือจนกลายเป็นรูขนาดใหญ่ จะไม่ให้นางแปลกใจได้อย่างไร?
นี่มันศีรษะของอะไรกันแน่!
“มัน…กะพริบตาได้ด้วย!”
ทันใดนั้นเอง เสี่ยวหยาก็ตะโกนออกมาด้วยใบหน้าซีดเผือด นางเห็นศีรษะเบื้องหน้ากะพริบตาจริง ๆ!
นางตกใจกลัวจนรีบซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังหลิงอิน มือเล็ก ๆ คว้ากำเสื้อของหลิงอินเอาไว้แน่น ร่างบอบบางของนางสั่นสะท้านจนน่าเวทนา
นางเคยเห็นภาพแปลกประหลาดน่าตกใจกลัวที่ไหนกัน นางเป็นเพียงสาวน้อยธรรดาในหมู่บ้านยุคโบราณ แม้ว่าหลิงอินจะสอนนางเล่นฉิน นำพานางเข้าสู่หนทางการฝึกตน นางก็ยังไม่เคยออกไปเจอโลก เฝ้ารออยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ รอคอยการกลับมาของพี่ชาย
ทว่าหลังจากนั้นเองไม่นานนางก็ได้พบกับจักรพรรดิบุปผา ก่อนจะถูกจักรพรรดิบุปผาสังหาร
แม้นางจะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง นางก็ยังคงมีประสบการณ์เพียงน้อยนิด หัวใจของนางเปราะบางเป็นอย่างยิ่ง
หลิงอินเองก็รู้เรื่องนี้ ดังนั้นนางจึงพาเสี่ยวหยาไปด้วยทุกหนแห่ง ด้านหนึ่งก็เพื่อให้เสี่ยวหยาได้รับประสบการณ์มากขึ้น อีกด้านหนึ่งก็เพื่อฝึกฝนจิตใจของเสี่ยวหยา
อย่างเช่นตอนที่ไปยังเผ่าอสูรฟ้าชิงหนิว หรือตอนที่ไปยังทะเลต้องห้าม
เมื่อไปทะเลต้องห้ามที่แปลกประหลาดน่ากลัวไม่ต่างกัน จิตใจของเสี่ยวหยาก็เหมือนจะพัฒนามากยิ่งขึ้น ทว่าภาพที่เห็นตอนนี้แปลกประหลาดและน่ากลัวยิ่งกว่าทะเลต้องห้าม!
สาเหตุหลังคือความไม่คาดคิดและความกะทันหันเกินไป
ศีรษะของศพโบราณที่ล่องลอยอยู่ในจักรวาลหมื่นดาราจู่ ๆ ก็กะพริบตาขึ้นมาอย่างกะทันหัน ไม่ต้องพูดถึงเสี่ยวหยาเลย กระทั่งหลิงอินเองยังตกใจ
ทว่าหลิงอินก็ไม่ใช่คนธรรมดา นางเคยผ่านประสบการณ์แปลกประหลาดและอันตรายมากมาย เพียงแค่ชั่วพริบตานางก็สงบใจลงได้ในทันที
“ไม่ต้องกลัว!”
นางอยู่เบื้องหน้าพลางปลอบโยนเสี่ยวหยา