ตอนที่ 428 ฝ่ามือชางเทียน หมัดฝูเทียน!
ตู้ม!
เพียงพริบตา ฝูเทียนและเทียนหลิงจื่อก็ปะทะกันราวกับว่าดวงอาทิตย์สองดวงพุ่งชนกัน พลังทำลายล้างอันน่าสะพรึงกลัวระเบิดออกมาจากกำปั้นและฝ่ามือ ความว่างเปล่าทุกทิศทางถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ เหมือนกระจกแตก แม้แต่ตระกูลเทียนทั้งหมด จวนทั้งจวนสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!
พลั่ก! ผลัวะ!
ทั้งสองยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ตามด้วยเสียงระเบิด ร่างของทั้งสองถูกบังคับให้ถอยรนไป
การโจมตีนี้…สูสีกัน!
เมื่อเห็นฉากนี้ สิ่งมีชีวิตทั้งภายในและภายนอกจวนตระกูลเทียนต่างระเบิดเสียงสนทนาอย่างดุเดือดทันที
“สวรรค์! ต้านไว้ได้!”
“ชายที่มีร่างกายต้องห้ามแต่กำเนิดผู้นี้ สกัดกั้นการโจมตีของเทียนหลิงจื่อได้อย่างแท้จริง!”
“เขาอยู่ในขอบเขตกึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นหกเท่านั้น กลับสามารถแข่งขันกับเทียนหลิงจื่กึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นเจ็ดได้!”
“จุ๊จุ๊! สมแล้วที่เป็นร่างกายต้องห้ามโดยกำเนิดในตำนานจริง ๆ น่ากลัวนัก!”
“…”
ตอนนี้ ผู้คนที่เฝ้าดูการต่อสู้มองฝูเทียนด้วยสายตาตกตะลึง!
“เหอะเหอะ! ดี! ดีมาก!”
ทว่าเวลานี้ การแสดงออกของเทียนหลิงจื่อไม่เพียงไม่หดหู่ แต่ยังตื่นเต้นอย่างมาก
ร่างโดยกำเนิดของเขาเปลี่ยนไปจนถึงขีดสุด ตราบใดที่เขากำจัดฝูเทียนและกลืนกินอีกฝ่ายได้ เขาจะสามารถไปถึงระดับใหม่ และแม้แต่แย่งชิงโชคชะตากับเหล่ายอดฝีมือในอนาคตได้!
“หึ! ไอ้มารหัวขน คิดจะต่อสู้กับข้า เจ้ามีคุณสมบัติพอแล้วหรือ!”
ช่วงเวลาต่อมา ดวงตาของเทียนหลิงจื่อสาดประกายแสงสีทองออกมา พลังอันน่าสะพรึงกลัวของขอบเขตกึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นเจ็ดพุ่งสูงขึ้นราวกับทะเลคลั่ง!
ตู้ม!
ทันใดนั้น เทียนหลิงจื่อลงมือโจมตีอีกครั้ง เมื่อฝ่ามือถูกปล่อยออกไป ความว่างเปล่าทั้งหมดของโลกก็พังทลายลง รอยฝ่ามือที่น่าสะพรึงกลัวยาวหลายหมื่นจั้งเข้าห่อหุ้มฝูเทียนไว้
“ทั้งสองคน ถอยไปเดี๋ยวนี้!”
เวลานี้ สายตาของฝูเทียนกลายเป็นจริงจังเช่นกัน เขาหันกลับมาพูดกับเหลยเหมิงและซวีคุน
“ได้!”
“ระวังตัวด้วย!”
ทั้งสองรู้ว่าการอยู่ต่ออาจเป็นภาระของฝูเทียน ดังนั้นพวกเขาจึงถอยกลับไปด้านข้างของหนิงฝานทันที
“นายท่าน เทียนหลิงจื่อเป็นถึงอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบได้ในขอบเขตกึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นเจ็ด ท่านจะไม่ช่วยฝูเทียนหรือ?” ทั้งสองคนพูด แต่หนิงฝานและองค์ราชันฮวงเทียนส่ายหัว “วันนี้ข้ามาที่นี่เพื่อช่วยฝูเทียนพิสูจน์ การต่อสู้กับยอดฝีมืออันดับหนึ่ง เทียนหลิงจื่อ เป็นการต่อสู้ที่ดีที่สุดสำหรับเรื่องพิสูจน์ตัวฝูเทียน ข้าเชื่อว่าเขาจะชนะการต่อสู้ครั้งนี้อย่างแน่นอน!”
เช่นเดียวกัน เทียนชางประมุขแห่งตระกูลเทียนไม่ได้ส่งใครไปต่อสู้อีก เขาเชื่อมั่นว่าเทียนหลิงจื่อสามารถชนะได้!
สำหรับผู้ชมทั้งภายในและภายนอกตระกูลเทียน พวกเขาทั้งหมดจ้องมองไปที่ฝูเทียนและเทียนหลิงจื่ออย่างตั้งอกตั้งใจ
“สู้!”
ภายใต้ความสนใจของผู้คนนับไม่ถ้วน ฝูเทียนเงยหน้าขึ้นไปบนฟ้าและตะโกนเสียงดัง ชุดสีดำโบกสะบัดพริ้วทั้งที่ไม่มีลม กระแสของพลังต้องห้ามโดยกำเนิดพุ่งออกจากร่างกายของเขาเหมือนกระแสน้ำ พริบตาก็รวมอยู่บนกำปั้นของเขา แสงสว่างจ้า กำปั้นทั้งหมดดูเหมือนจะหนักอย่างยิ่ง!
ลมหายใจต่อมา ฝูเทียนกระทืบเท้าอย่างหนัก ทั้งตัวเขาพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า และชกออกไป แสงกำปั้นที่น่าสะพรึงกลัวมีความยาวหนึ่งหมื่นจั้งก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ปะทะกับฝ่ามือขนาดยักษ์ของเทียนหลิงจื่อที่ทาบทับลงมา
ตู้ม!
ชั่วพริบตา การโจมตีของทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรงในความว่างเปล่า การโจมตีครั้งนี้น่ากลัวยิ่งกว่าครั้งก่อน ความว่างเปล่าที่ไม่มีที่สิ้นสุดแยกออกเป็นใยแมงมุม คลื่นอากาศทำลายล้างเหมือนกับระลอกคลื่น มันกระจายออกไปเหมือนคลื่น และผู้คนนับไม่ถ้วนที่ได้รับผลกระทบต่างต้องวิ่งถอยหนีด้วยความตื่นตระหนก แม้แต่ภูเขา ตำหนักและศาลาเก่าแก่จำนวนนับไม่ถ้วนในจวนตระกูลเทียนยังถูกทำลายสิ้น!
หลังจากการโจมตีหนึ่งครั้ง ทั้งสองก็แยกออกจากกันในพริบตา แต่เพียงแค่มองกันและกันอย่างเย็นชา ทั้งสองก็กลายเป็นสายฟ้าสองเส้น หนึ่งสีม่วงและอีกหนึ่งสีดำ เริ่มปะทะกันอย่างบ้าคลั่งอีกครั้ง!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
ร่างของทั้งสองเคลื่อนไหวในแนวตั้งและแนวนอน ปะทะกันอย่างต่อเนื่อง เหนือความว่างเปล่ามีแสงวูบวาบและเสียงคำราม พลังทำลายล้างอันน่าสะพรึงกลัวซัดขึ้นบนท้องนภาและดิ่งลงมายังพิภพราวกับทะเลคลั่ง!
ฉากอันน่าสะพรึงกลัวที่เกิดจากการต่อสู้ระหว่างทั้งสองก็ดึงดูดเสียงอันน่าสยดสยองของผู้คนนับไม่ถ้วน
“สองคนนี้ต่อสู้กันได้น่ากลัวยิ่งนัก!”
“นั่นสิ! อย่างที่เรารู้กันดีว่า ด่านของเส้นทางจักรพรรดิในช่วงหลัง ๆ ยิ่งถูกจำกัดโดยกฎแห่งเส้นทางราชันจักรพรรดิ หากกึ่งราชันจักรพรรดิทั่วไปต่อสู้กันในด่านที่ห้าสิบ พวกเขาอาจไม่สามารถทะลวงความว่างเปล่าได้ด้วยซ้ำ ทว่าพลังที่เกิดจากการต่อสู้ของทั้งสองคน มันมีพลังพอที่จะถล่มตระกูลเทียนทั้งหมดได้!”
“เฮือก! เมื่อเทียบกับเทียนหลิงจื่อ เด็กคนที่ชื่อฝูเทียนดูจะน่าทึ่งยิ่งกว่า!”
“ถูกต้อง! ต่อสู้อย่างดุเดือดกับเทียนหลิงจื่อที่อยู่ขอบเขตกึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นเจ็ด ทั้งที่ตนเองอยู่ขอบเขตกึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นหก สมแล้วที่มีร่างต้องห้ามโดยกำเนิดในตำนาน!”
“…”
การสัประยุทธ์ระหว่างทั้งสองเริ่มรุนแรงขึ้นขึ้นเรื่อย ๆ ฟ้านภามืดมิด สุริยันและจันทราอับแสง
ด่านที่ห้าสิบบนเส้นทางราชันจักรพรรดิสั่นสะเทือน!
“บัดซบ!”
ขณะที่การต่อสู้ปะทุดุเดือดนั้น เทียนหลิงจื่อเริ่มกระวนกระวายใจ ท้ายที่สุด เขาเป็นกึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นเจ็ดซึ่งเหนือกว่าฝูเทียนถึงหนึ่งขั้น หากเอาชนะฝูเทียนมิได้ นั่นหมายความว่าแม้อยู่ในขอบเขตเดียวกัน เขาก็หาใช่คู่ต่อสู้ของฝูเทียนไม่
ในใจคิดหาทาง ลมหายใจต่อมา แสงที่มืดมนพลันส่องประกายในดวงตาของเทียนหลิงจื่อ
“หึ!”
“ดูข้าให้ดี…ฝ่ามือชางเทียน!!”
ทันใดนั้น เทียนหลิงจื่อเงยหัวขึ้นฟ้าและตะโกนเสียงดัง จากนั้นพลังมหึมาก็รวมตัวกันบนฝ่ามือของเขา
ตู้ม!
ในที่สุด เมื่อฝ่ามือตบลงอย่างแรง ความว่างเปล่าเหนือจวนตระกูลเทียนพลันแตกเป็นเสี่ยง ๆ จากนั้นฝ่ามือที่น่าสะพรึงกลัวซึ่งมีความยาวแสนจั้งก็ตกลงมา พลังไร้เทียมทานของฝ่ามือชางเทียน!
ภายใต้ฝ่ามือที่ตกลงมา โลกทั้งใบ ความว่างเปล่ารอบทิศทาง ดูเหมือนจะต้านไม่ได้และคล้ายจะพังทลายสิ้น!
มิหนำซ้ำ ฝ่ามือนี้ยังทำให้สิ่งมีชีวิตนับไม่ถ้วนที่เฝ้าดูการต่อสู้ทั้งภายในและภายนอกตระกูลเทียนรู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก!
“หืม?”
แม้แต่ฝูเทียนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตึงเครียด และรับรู้ถึงภัยคุกคามร้ายแรงจากฝ่ามือนี้!
ตู้ม!
ฝูเทียนไม่กล้าประมาท เขาเกร็งร่างกายทันที พลังในร่างต้องห้ามโดยกำเนิดทะลักบ่าออกมาราวสายน้ำ ทำให้กลิ่นอายของเขาพุ่งถึงจุดสูงสุดในทันที!
“ในเมื่อเจ้าคือฝ่ามือชางเทียน เช่นนั้นวันนี้ ข้าฝูเทียนจะทำลายมัน เพื่อพิสูจน์ชื่อของข้า!”
“นามกำปั้นของข้า ฝูเทียน!!”
ตู้ม!
ฝูเทียนโคจรพลังต้องห้ามโดยกำเนิดทั้งหมดผ่านหมัด แล้วหมัดก็ฉีกผ่านความว่างเปล่าของสวรรค์และโลก ณ จุดนั้น ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า!
หนึ่งหมัดหนึ่งฝ่ามือ หนึ่งขึ้นหนึ่งลง พวกมันทั้งหมดเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็วพร้อมกับพลังที่น่าสะพรึงกลัว!
ตู้ม!
ในที่สุด ภายใต้สายตาตกตะลึงของผู้คนนับไม่ถ้วน ฝ่ามือชางเทียนและหมัดฝูเทียนปะทะกันอย่างแรง!
ความว่างเปล่าทั้งหมดของสวรรค์และโลกพังทลายลง พลังของทั้งสองเดือดพล่านราวกับมังกรคลั่งสองตัว!
ฉีกขาด!
แตกสลาย!
พังทลาย!
ทุกสิ่งรอบตัวแหลกลาญอย่างรวดเร็ว มีเพียงร่างของทั้งสองเท่านั้นที่เผชิญหน้ากันบนท้องฟ้า!
ทว่าเมื่อทั้งสองมีพลังทัดเทียมกัน เทียนหลิงจื่อกลับยกยิ้มอย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็โยนบางสิ่งออกไป
“ไป!!”