ตอนที่ 429 วงอาคมคู่ต้องห้าม บดขยี้อย่างไร้ปรานี!
ตู้ม! ฟิ้ว! ฟิ้ว!
สิ่งที่เทียนหลิงจื่อโยนออกมาปรากฏขึ้น ทันใดนั้น ลวดลายวงกลมของแสงอมตะที่ระเบิดออกมาก็เพิ่มขึ้น วงกลมของแสงลอยขึ้นสูงราวกับเสาแสง มันล้อมรอบตัวเขาไว้ และอีกวงปรากฏอยู่ที่ฝูเทียน
“หืม?!”
เมื่อเห็นฉากนี้ ฝูเทียนก็ตกใจทันที แม้เขาจะไม่รู้ว่าผลกระทบของแสงโซ่คืออะไร แต่คงไม่ใช่สิ่งที่ดีเป็นแน่!
“ไสหัวไป!”
ฝูเทียนเหวี่ยงกำปั้นออกไป เพียงหมัดเดียว ปรากฏเป็นกำปั้นเงานับพันพุ่งทะลวงอากาศ พยายามจะทำลายแสงของโซ่ตรวนที่พุ่งเข้ามา
แต่เปล่าประโยชน์!
มันไม่สนใจการโจมตีของฝูเทียน ลำแสงพันธนาการเขาราวกับวิญญาณอสรพิษ
หืม!
ขณะที่โซ่เปล่งประกายแสง พลังต้องห้ามโดยกำเนิดที่ปั่นป่วนและน่าสะพรึงกลัวแต่เดิมในร่างกายของเขาลดลงอย่างรวดเร็ว ณ จุดนั้นราวกับกระแสน้ำ และถูกระงับไว้ในร่างกายอย่างสมบูรณ์ชั่วพริบตา ไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป
“นี่มันอาวุธวิเศษอะไรกัน!”
สีหน้าของฝูเทียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย มองไปที่เทียนหลิงจื่อฝั่งตรงข้าม เห็นเพียงว่าหลังถูกห่อหุ้มด้วยโซ่แห่งแสงเช่นกัน และพลังโดยธรรมชาติของเขาก็ถูกกักขังไว้ในร่างกายโดยสมบูรณ์
ยามนี้ ทั้งสองไม่สามารถใช้พลังวิถีอันยิ่งใหญ่ที่ควบคุมโดยร่างกายของพวกเขาได้!
“เหอะเหอะ!”
เทียนหลิงจื่อยิ้มเล็กน้อย และอธิบายว่า “นี่คือวงอาคมคู่ต้องห้าม ซึ่งสามารถยับยั้งพลังของวิถีของทั้งศัตรูและตนเอง ตอนนี้ทั้งเจ้าและข้าไม่สามารถใช้พลังวิถีได้ ใช้ได้เพียงพลังบริสุทธิ์กับคาถา ยุติธรรมมาก ใช่หรือไม่?”
“บัดซบ! ยุติธรรมบ้านปู่แกน่ะสิ!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซวีคุนที่ไม่พอใจก็อดไม่ได้ที่จะสาปแช่งด้วยความโกรธ และเหลยเหมิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาก็ดูอารมณ์เสียอย่างมากเช่นกัน!
เหตุผลที่ฝูเทียนสามารถต่อสู้กับเทียนหลิงจื่อข้ามระดับได้ เป็นเพราะร่างต้องห้ามโดยกำเนิดของเขา!
ตอนนี้เขาได้สูญเสียพลังต้องห้ามของเขาไป อาศัยเพียงความแข็งแกร่งของฝูเทียนซึ่งมีเพียงขอบเขตกึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นหกย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเทียนหลิงจื่อ ที่อยู่ขอบเขตกึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นเจ็ด!
“ดี!”
“เทียนหลิงจื่อแข็งแกร่งมาก!”
“วงอาคมคู่ต้องห้าม ขณะเดียวกัน มันห้ามพลังของทั้งสองฝ่ายไว้ ทำให้ฝูเทียนเสียเปรียบทันที!”
“จุ๊จุ๊! สมแล้วที่เป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูลเทียน ในแง่ของภูมิหลัง ฝูเทียนคนนี้ยังแย่กว่าเล็กน้อย!”
“ต่อไป เกรงว่าฝูเทียนจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเทียนหลิงจื่อแล้ว การต่อสู้ครั้งนี้กำลังจะจบลง!”
“…”
เมื่อเห็นฉากนี้ ผู้คนที่เฝ้าดูการต่อสู้ทั้งภายในและภายนอกตระกูลเทียนต่างส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างดุเดือด!
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
เทียนชางประมุขแห่งตระกูลเทียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นไปบนฟ้า เห็นได้ชัดว่าชื่นชมวิธีการของเทียนหลิงจื่อ!
ทันใดนั้น ตราชั่งแห่งชัยชนะก็เอียงมาทางเขา!
เวลานี้ เหลยเหมิงและซวีคุนพูดกับหนิงฝานว่า “ลูกพี่ ชายผู้นี้ขี้โกง ท่านจะไม่สนใจจริงหรือ”
“หึ! พวกเจ้าคิดว่าฝูเทียนเสียเปรียบหรือ?” หนิงฝานยิ้มอย่างไม่แยแส
“ต้องเสียเปรียบสิ!” ทั้งสองพูด
ชายหนุ่มส่ายหัว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความจนปัญญา “ดูเหมือนว่าพวกเจ้าลืมไปว่าฝูเทียนนอกจากวิถีต้องห้ามโดยกำเนิดแล้วยังควบคุมอีกหนึ่งวิถีด้วย!”
“โอ๊ะ!”
“อ๋อ!”
เมื่อได้ยินดังนั้น ทั้งสองก็ลูบหัวแก้เก้อทันที!
ใช่แล้ว!
ฝูเทียนไม่เพียงแต่ควบคุมวิถีต้องห้ามโดยกำเนิด แต่ยังฝึกฝนวิถีแห่งจิตใจด้วย!
หากเป็นการต่อสู้เมื่อครู่นี้ วิถีแห่งจิตใจย่อมไม่อาจช่วยอะไรเขาได้มากนัก ทว่าตอนนี้มันต่างออกไป พลังวิถีของทั้งสองฝ่ายถูกห้ามโดยวงอาคมคู่ต้องห้าม ดังนั้นวิถีแห่งจิตใจจึงล้ำค่าเป็นอย่างมาก!
“หึ! เจ้ามารหัวขน ข้าจะส่งเจ้าไปตายเอง!”
ยามนี้ เทียนหลิงจื่อพูดอย่างมั่นใจ สายตาของเขาดุร้ายมาก “อย่ากังวลไป หลังจากเจ้าตาย ร่างต้องห้ามโดยกำเนิดของเจ้าจะอยู่กับข้าเอง!”
ตู้ม!
สิ้นคำ เทียนหลิงจื่อก็รวบรวมพลังกึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นเจ็ดและระเบิดใส่ฝูเทียนทันที
“หึหึ!”
เห็นเทียนหลิงจื่อมีความมั่นใจว่าจะฆ่าเขาได้ ฝูเทียนก็มีท่าทางแปลก ๆ ชอบกล บนใบหน้าของเขา เห็นได้ชัดว่าเขาพบว่าวงอาคมคู่ต้องห้าม ไร้ผลกับวิถีแห่งจิตใจของเขา!
แต่อีกฝ่ายมีเพียงพลังบริสุทธิ์ แม้มันจะเป็นพลังของกึ่งราชันจักรพรรดิเซียนสวรรค์ขั้นเจ็ด วิถีแห่งจิตใจของเขาก็สามารถกวาดล้างได้อย่างง่ายดาย!
ยามนี้ เขาสงบลงกว่าที่เคย
แม้จะยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบ ๆ และเฝ้าดูเทียนหลิงจื่อใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว!
“ดี!”
“ดูเหมือนว่าฝูเทียนจะยอมแพ้แล้ว!”
เมื่อเห็นฉากนี้ หลายคนส่ายหัว คิดว่าฝูเทียนรู้ตัวแล้วว่า เขาต้องตายเป็นแน่จึงเลิกต่อต้าน
พรึ่บ!
ภายใต้สายตาของทุกคน เทียนหลิงจื่อก็มาถึงตัวฝูเทียนในชั่วพริบตา
“หืม เจ้ายอมเลิกต่อต้านแล้วหรือ? น่าเสียดายนัก แม้เจ้าจะยอมแพ้ แต่ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ!”
เห็นฝูเทียนยืนอยู่ข้างหน้าเขาอย่างเงียบ ๆ เทียนหลิงจื่อพลันแสยะยิ้มร้าย ซัดฝ่ามือใส่ฝูเทียนตรง ๆ
เขาวางแผนจะทรมานฝูเทียนสักรอบเสียก่อน แล้วค่อยกลืนกินมัน!
ตู้ม!
ทว่าในตอนที่ฝ่ามือกำลังจะโดนตัวฝูเทียนนั้น ฝ่ามือใหญ่อีกข้างก็คว้าฝ่ามือของเขาได้อย่างง่ายดาย
“หืม?”
“อะไรกัน!”
ฉากกะทันหันนี้ ทำให้เทียนหลิงจื่อหน้าซีดด้วยความตกใจ ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“ไอ้โง่!”
ฝูเทียนยิ้มอย่างดูถูกเหยียดหยาม จากนั้นฝ่ามือของเขาก็สั่นสะเทือนในทันใด พลังที่ไม่มีใครเทียบได้ของวิธีเต๋าอันยิ่งใหญ่ได้ทำลายฝ่ามือของเทียนหลิงจื่อในทันที และส่งอีกฝ่ายลอยกระเด็นออกไปอย่างแรง
“อ๊าก!”
“พลังวิถีอันยิ่งใหญ่!”
“เป็นไปไม่ได้! เจ้าจะใช้พลังวิถีต่อได้อย่างไร วงอาคมคู่ต้องห้ามไม่มีทางไร้ผล!”
เทียนหลิงจื่อถอยกลับในขณะที่พยายามจับแขนที่หักของเขา ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและความตื่นตกใจที่ควบคุมไม่ได้!
เวลาเดียวกัน สมาชิกของตระกูลเทียนที่นำโดยเทียนชางและคนอื่น ๆ ซึ่งเฝ้าดูการต่อสู้อยู่ก็ตกใจเช่นกัน!
“หึหึ! ใครบอกเจ้าว่าข้าควบคุมวิถีเดียวเท่านั้น!”
ฝูเทียนยิ้มอย่างเย็นชา ขณะที่ก้าวไป เขาก็ปรากฏตัวต่อหน้าเทียนหลิงจื่ออีกครั้ง!
“ข้าจะบอกเจ้าให้ว่า นอกจากวิถีต้องห้ามโดยกำเนิดแล้ว ข้ายังฝึกฝนวิถีแห่งจิตใจด้วย!”
ตู้ม!
สิ้นเสียง พลังเต๋าอันน่าสะพรึงกลัวที่เป็นของวิถีแห่งจิตใจก็เบ่งบานเต็มที่ออกมาจากร่างกายของฝูเทียน!
พลั่ก! อ๊าก!
พลังเต๋ากวาดไปทางเทียนหลิงจื่อ แขนอีกข้างแหลกลาญ เสียงกรีดร้องดังขึ้น!
ทว่าฝูเทียนย่อมไม่ปล่อยเขาไป ยังคงตามติดเหมือนเงา!
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม! พลั่ก! พลั่ก! อ๊าก!
ทันใดนั้น ทั้งเสียงคำรามและเสียงกรีดร้องปะปนกัน แขน ขา หน้าอกและส่วนอื่น ๆ ของเทียนหลิงจื่อพลันระเบิดออก หมอกเลือดลอยคลุ้งเต็มอากาศในพริบตา
ตอนนี้ เทียนหลิงจื่อที่เมื่อครู่ยังคงอหังการถูกฝูเทียนบดขยี้อย่างไร้ความปราณี!
ฉากนี้ทำให้เกิดความโกลาหลในหมู่ผู้ชม ทั้งภายในและภายนอกตระกูลเทียน ไม่มีใครคิดว่าฝูเทียนจะฝึกฝนสองวิถี!
ส่วนเทียนหลิงจื่อใช้วงอาคมคู่ต้องห้าม ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขายกก้อนหินทุบเท้าตนเอง เปลี่ยนฉากที่เดิมสูสี ให้กลายเป็นการบดขยี้ที่นองเลือดและไร้ความปรานีฝ่ายเดียว!
“อ๊าก!”
“ท่านประมุขช่วยข้าด้วย!”
ในที่สุด เทียนหลิงจื่อก็หาได้มีท่าทางเหมือนคนที่แข็งแกร่งอีกต่อไป เขากรีดร้องขอความช่วยเหลือจากเทียนชาง!
“มารหัวขน เจ้ากล้า!”
เมื่อได้ยินเสียงของบุตรแห่งสวรรค์อันดับหนึ่ง เทียนชางก็หายจากอาการตกใจ จากนั้นเขาตะโกนอย่างกราดเกรี้ยวและลงมือทันที!