เฉินชิงจื่อแข็งแกร่งมาก เขาสามารถทำลายเต๋าแห่งความว่างเปล่าและฝ่ามือแห่งพลังได้ในหนึ่งดาบ แม้ว่าอย่างหลังจะขาดนิ้วมือไปหนึ่งนิ้วและไม่สมบูรณ์ก็ตาม แต่เขาก็สามารถใช้กระบี่ไม้หนึ่งด้ามทำลายทั้งมือได้ในชั่วพริบตา ทั้งยังฟันแขนขวาของเว่ยยางจื่อไปด้วย เรื่องนี้อธิบายถึงความน่าสะพรึงของเฉินชิงได้เลย
แต่…ทางด้านเว่ยยางจื่อคล้ายจะน่าสะพรึงยิ่งกว่า แม้ว่าร่างเดิมของเว่ยยางจื่อจะมีสามหัวหกแขน แต่…พอแขนขาดไปข้างหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นตระกูลไม่รู้สิ้นคนใดก็ย่อมมีอานุภาพอ่อนแอลง แต่ตอนนี้พลานุภาพของเว่ยยางจื่อกลับไม่ใช่แค่ไม่อ่อนแอ กลับกัน ขณะที่เสียงหัวเราะดังออกมา เขาก็ยิ่งแข็งแกร่ง
“เจ้าไม่เหมือนกับตระกูลไม่รู้สิ้นคนอื่น” ดวงตาของเฉินชิงฉายแววดุร้าย จดจ้องไปที่เว่ยยางจื่อแล้วเอ่ยขึ้นช้าๆ
“ย่อมไม่เหมือน เดิมตระกูลไม่รู้สิ้นก็ไม่มีร่างเดิมอยู่แล้ว สิ่งที่เรียกว่าสามหัวหกแขนนั้น…เป็นเพียงชีพจรวิชาเทพเท่านั้น และชีพจรวิชาเทพนี้…ก็ไม่ได้นำมาแทนที่โชคชะตา แต่นำมา…ผนึกพลัง!”
“เฉินชิงจื่อ ให้ข้าผู้เฒ่าได้เห็นขีดจำกัดของเจ้าหน่อยเถอะ ดูว่าเจ้าสามารถทำให้ชายชราผู้นี้ปลดผนึกทั้งหมดแล้วแสดงพลังต่อสู้ที่แท้จริงออกมาได้หรือไม่!” ความคาดหวังในแววตาของเว่ยยางจื่อเข้มข้นยิ่งขึ้น ประกายแสงในดวงตาเปล่งออกมาพร้อมเสียงหัวเราะลั่น ชั่วขณะนี้ ทั่วร่างของเขามีแสงเจิดจ้าสาดส่องออกมาโดยมีศีรษะเป็นแหล่งกำเนิดในทันที
แสงนี้คล้ายกับอาทิตย์แรก แต่กลับแรงกล้าเสียยิ่งกว่า ราวกับว่าร่างกายของเขากลายเป็นแหล่งกำเนิดแสงเพียงหนึ่งเดียวของทั้งจักรวาล เมื่อมันแผ่กระจายออกมาก็ทำให้รู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ยากจะพรรณา
นี่คือ…เต๋าแสงแสว่าง!
“เว่ยยางจื่อผู้นี้มีกี่เต๋ากันแน่” หวังเป่าเล่อหรี่ตาลง สีหน้าของปรมาจารย์เต๋าเจ็ดวิญญาณข้างๆ ก็เคร่งเครียดยิ่งกว่าเดิม เมื่อพวกเขามองไป เว่ยยางจื่อก็กางแขนออก ทันใดนั้นแสงสว่างบนร่างของเขาก็กลายเป็นท้องทะเลและระเบิดสาดซัดไปทั่วทุกทิศ
“ต้องขอบคุณศิษย์น้องเล็กของเจ้า คืนพินาศของเขามอบแรงบันดาลใจให้ข้า ที่แท้เต๋าแห่งแสงก็ใช้เช่นนี้ได้ด้วย!” ท่ามกลางเสียงหัวเราะของเว่ยยางจื่อ ทะเลแสงที่แผ่ซ่านอยู่บนร่างของเขาก็พุ่งไปจัดการกับเฉินชิงจื่อด้วยอานุภาพสะเทือนฟ้าสะเทือนดินตรงๆ
ในดวงตาของเฉินชิงจื่อมีประกายเย็นชาวาบผ่าน เขาไม่ได้หลบ แต่คลายมือขวาออกแล้วถือโอกาสผนึกมุทรา ชี้ไปที่กระบี่ไม้ที่ถูกเขาคลายออกจนมันพุ่งออกไปด้วยตัวเอง
“ร่างที่สอง!” เพียงแค่คำสามคำ แต่พริบตาที่มันดังออกมาจากปากของเฉินชิงจื่อ กระบี่ไม้ที่พุ่งออกไปด้วยตัวเองก็โปร่งใสในชั่วพริบตาราวกับไม่มีอยู่จริง!
เมื่อแสงทั้งหมดสัมผัสเข้ากับกระบี่ไม้โปร่งใส มันก็ทะลวงผ่านไปตรงๆ ไม่ก่อเกิดเป็นอุปสรรคขวางกั้นกันและกันแม้สักนิด เพราะความโปร่งใสเดิมทีก็บรรจุทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้อยู่แล้ว
ในชั่วอึดใจ กระบี่ไม้โปร่งใสก็ทะลวงผ่านทะเลแห่งแสง พุ่งทะยานไปยังเว่ยยางจื่อ ส่วนเต๋าแห่งแสงสว่างของเว่ยยางจื่อก็ส่งเสียงหวีดหวิวเข้ามาใกล้กับเฉินชิงจื่อเพื่อบดขยี้เขาให้สิ้น
ฉากนี้รวดเร็วหาใดเปรียบ แม้แต่หวังเป่าเล่อหรือปรมาจารย์เต๋าเจ็ดวิญญาณก็ทำได้เพียงฝืนพยายามมองเห็นให้ชัดเจนเท่านั้น ชั่วพริบตา เสียงดังก้องกังวานเทียมฟ้าก็สะท้อนก้องไปทุกสารทิศ อวกาศในบริเวณที่ทั้งสองฝ่ายสัมผัสกันถูกทำลายสิ้นโดยสมบูรณ์และเกิดเป็นหลุมดำ แต่หลุมดำที่สามารถกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างแห่งนี้ ในชั่วขณะนั้นกลับคล้ายสูญเสียพลังของตัวเอง ยากจะทำอะไรเฉินชิงจื่อกับเว่ยยางจื่อแม้เพียงนิด
แต่ทะเลแสงนั้นไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ตอนนี้หลังจากมันแพร่กระจายไปหาเฉินชิงจื่อแล้วก็ทำให้ร่างกายของเฉินชิงจื่อต้องถอยร่นออกไป ร่างกายคล้ายจะถูกแทรกซึมอย่างรวดเร็ว มองจากตาเปล่าเห็นได้ว่ากำลังจะถูกแสงสว่างครอบคลุมไปจนหมด โชคดีที่ในชั่วอึดใจก็มีปราณมืดที่มาพร้อมความตายอันเข้มข้นแผ่ซ่านออกมาจากภายในร่างของเฉินชิงจื่อ มันต่อต้านกับทะเลแสง ท่ามกลางการสยบและขับไล่ระหว่างกันนี้เอง ร่างของเฉินชิงจื่อก็หยุดลงทันใด ไม่ใช่แค่ไม่ถอยหลังต่อ แต่ถึงขั้นพุ่งออกมาอย่างฉับพลัน
เข้าพุ่งไปยังทะเลแสงตรงๆ และปล่อยให้ทะเลแสงแพร่กระจายเข้าไปในร่าง โดยอาศัยกลิ่นอายความตายมาต้านไว้ ความเร็วเขาสูงมาก ถึงขนาดเกินกว่าความเร็วของกระบี่ไม้เสียอีก พริบตาก็ไล่ตามมาทันแล้วคว้าจับกระบี่ไม้ที่เข้ามาใกล้เว่ยยางจื่อได้ จากนั้นก็เคลื่อนมันไปที่ศีรษะของเว่ยยางจื่อด้วยความเร็วที่รวดเร็วและน่าสะพรึงยิ่งกว่าเมื่อก่อน!
ภาพนี้เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว คิดไม่ถึงว่าเฉินชิงจื่อที่อยู่ใต้ทะเลแสงและคล้ายไม่อาจประคองตัวเองต่อไปได้จะพลิกสถานการณ์ได้ในชั่วอึดใจ ถึงขั้นที่ระเบิดความเร็วเกินจินตนาการออกมา แม้แต่ทางด้านเว่ยยางจื่อก็ยังใจแกว่ง
“เขาซ่อนพลังไว้!!” ความคิดนี้เพิ่งจะลอยขึ้นมา ร่างของเฉินชิงจื่อที่ถือกระบี่ไม้ก็เข้ามาใกล้ เขาฟันไปยังศีรษะของเว่ยยางจื่อตรงๆ โดยไม่ลังเลสักนิด กระบี่ไม้ของเขายังคงโปร่งใสเช่นเคย ถึงขนาดที่ในชั่วขณะนี้เอง บนกระบี่ของเขายังระเบิดพลานุภาพเหนือล้ำยิ่งกว่าแต่ก่อนออกมาอีกด้วย
เห็นได้ชัดว่าการเปลี่ยนเป็นโปร่งใสเมื่อกี้ ไม่ใช่ร่างที่สองที่ทำให้ไม้สมบูรณ์แบบทันที เฉินชิงซ่อนพลังเอาไว้จริงๆ ด้วย และกระบี่ไม้ด้ามนี้…ภายใต้การควบคุมของเขา ก็เป็นเช่นเดียวกัน
ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างระเบิดออกมา อวกาศส่องสว่าง แสงกระบี่ล้นหลาม เงาร่างของเฉินชิงจื่อวาบผ่านข้างกายเว่ยยางจื่อไป เลือดพุ่งออกมาจากคอของเว่ยยางจื่อ หัวของเขากระเด็นขึ้นสูง
ยังไม่จบ หลังจากวาบผ่านตัวเว่ยยางจื่อไป แม้ว่าเฉินชิงจะไม่ได้หันกายมา แต่มือถือกระบี่ไม้ฟันลงไปหนึ่งพันกระบี่อยู่ข้างหลัง ทุกกระบี่ที่ฟันลงไปมีพลังสะเทือนฟ้าระเบิดออกมา ทั้งหมดพุ่งไปโจมตีร่างขาดหัวของเว่ยยางจื่อ
แต่หนึ่งพันกระบี่นี้กลับไม่ได้แสดงพลังที่สมควรมีออกมา เพราะว่า…ความว่างเปล่าหลายชั้นกำลังพุ่งเข้ามาถึงในชั่วอึดใจ สิ่งที่สร้างความว่างเปล่าเหล่านี้ขึ้นก็คือมือซ้ายของเว่ยยางจื่อ ในชั่วพริบตา มือซ้ายของเขาก็คล้ายเป็นแหล่งกำเนิดความว่างเปล่า ชั่วขณะเดียวความว่างเปล่านับร้อยชั้นก็ซ้อนทับกันจนเกิดเป็นแนวขวางกั้น
แม้จะเป็นเช่นนี้ แต่เฉินชิงจื่อก็ได้เตรียมท่าไม้ตายนี้มานานแล้ว ไม่ใช่จะสามารถทำลายกันได้ง่ายๆ ความว่างเปล่านับร้อยทับซ้อนกันของเว่ยยางจื่อจึงพังทลายโดยพลัน สิ่งที่ถูกทำลายไปด้วยก็ยังมีมือซ้ายของเขา
เขาใช้สิ่งนี้เป็นเครื่องแลกเปลี่ยน สุดท้ายก็สามารถทำลายท่าไม้ตายของเฉินชิงจื่อได้ ขณะเดียวกัน ลำตัวของเว่ยยางจื่อก็ถอยหลังกะทันหัน ตอนนี้บนลำคอที่ไร้หัวมีปราณมืดแผ่ออกมาแล้วก่อตัวเป็นหัวที่สอง ขณะเดียวกันมือซ้ายที่เสียไปของเขาก็งอกออกมาใหม่อีกครั้ง
อีกทั้งในชั่วขณะที่แขนซ้ายข้างใหม่นี้ปรากฏขึ้นมากลับมีสายฟ้าพัวพันอยู่ พลานุภาพแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม แต่…ทั้งหมดนี้เมื่อเทียบกับหัวที่สองที่งอกออกมาแล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ส่วนสำคัญเลย
พริบตาที่หัวที่สองของเขาปรากฏขึ้น ความว่างเปล่าก็สะเทือนเลื่อนลั่น อวกาศสั่นไหว ความชั่วร้ายดำมืดไร้ใดเทียมปะทุออกมาในพริบตา คล้ายกับไอมาร เหมือนกับเต๋ามาร แตกต่างโดยสิ้นเชิงกับแสงสว่างก่อนหน้านี้ และถึงขนาดทรงพลังยิ่งกว่าด้วย
แม้แต่กลิ่นอายของเว่ยยางจื่อก็เปลี่ยนไปทันทีพร้อมกับการปรากฏขึ้นของหัวที่สอง ผมของเขาปลิวไสว ท่าทางองอาจ ทั่วร่างแผ่ความชั่วร้ายไร้ที่สิ้นสุด เขายืนอยู่ตรงนั้น ปราณมืดแผ่ออกมานอกร่างราวกับสามารถกัดกร่อนจิตใจทั้งหมดได้
“น่าสนใจ!” เขาสั่นศีรษะ มุมปากของเว่ยยางจื่อเผยรอยยิ้มเหี้ยมออกมา เขามองไปยังเฉินชิงจื่อที่มีสีหน้าอึมครึมเล็กน้อย และเฉินชิงจื่อก็มองเห็นเต๋าของเว่ยยางจื่อแล้ว
อันที่จริง ชั่วขณะนี้หวังเป่าเล่อกับปรมาจารย์เต๋าเจ็ดวิญญาณก็มองเห็นความจริงแล้วเช่นกัน
เว่ยยางจื่อมีสามหัวหกแขน ทุกหัวแฝงไว้ซึ่งมหาเต๋าหนึ่งสาย ทุกแขนก็เช่นเดียวกัน อย่างเช่นหัวที่ถูกตัดไปนั้นแฝงไว้ซึ่งเต๋าแห่งแสงสว่าง และหัวที่สองนี้ก็เห็นได้ชัดว่าเบนไปทางสายมาร เป็นเต๋าประเภทความมืด
ส่วนแขนของเขา สองข้างที่ถูกเฉินชิงจื่อตัดทิ้งไปนั้น ข้างหนึ่งแฝงไว้ซึ่งเต๋าพละกำลัง อีกข้างก็เป็นเต๋าแห่งความว่างเปล่า ส่วนแขนข้างใหม่ที่งอกออกมานี้ เมื่อเห็นว่ามีสายฟ้าพัวพันอยู่ก็รู้เลยว่ามันคือเต๋าอัสนี
นี่ยังเป็นแค่ครั้งที่สอง สิ่งสำคัญที่สุดคือ ทุกครั้งที่เว่ยยางจื่อเสียหัวหรือแขนไป พลังฝึกปรือของเขาก็คล้ายถูกปลดผนึกจริงๆ มันแข็งแกร่งทรงพลังยิ่งกว่าเดิม หากเป็นเช่นนี้ต่อไปความยากที่จะเอาชนะก็จะเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
หวังเป่าเล่อตัวสั่นเทาอยู่เงียบๆ เขาเดินออกมาทันที ปรมาจารย์เต๋าเจ็ดวิญญาณก็กัดฟันพุ่งออกมาเช่นกัน เดิมทีพวกเขาไม่คิดเข้าร่วมรบ แต่เมื่อดูจากตอนนี้แล้ว แม้ว่าพลังช่วยเหลือจะไม่มากนัก แต่ก็ไม่อาจทนดูต่อไปได้
“ดูเฉยๆ ก็พอ!” แต่ขณะที่ทั้งสองคนพุ่งออกมา เฉินชิงจื่อก็เอ่ยขึ้นทันใด แววตาของเขามีความเย็นชาส่องวาบ เขาจดจ้องไปยังเว่ยยางจื่อ ยกมือขวาขึ้นโบกแล้วเอ่ยออกมา
“ร่างที่สาม!”
………………………………..