ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 484 ถวายพระพร(ปลาย)

ตอนที่ 484 ถวายพระพร(ปลาย)

​แสงแดด​อัน​อบอุ่น​ใน​ตอนกลางวัน​ของ​ฤดูหนาว​สาดส่อง​ลงมา​ที่​ประตู​ตง​เหมิน​ ​คน​ส่วนใหญ่​ที่​เข้า​วัง​เพื่อมา​เข้าเฝ้า​ได้​ออกจาก​วัง​แล้ว​ ​แม้ว่า​ทหาร​จาก​กองทัพ​อวี​้​หลิน​ที่​ทำหน้าที่​รักษาการ​จะ​ยืน​ตัวตรง​ ​แต่​สีหน้า​ของ​พวกเขา​กลับ​ผ่อนคลาย​ลง​ ​พวกเขา​ทั้งหมด​มอง​ไป​ที่​สวี​ลิ่ง​ควน​ซึ่ง​กำลัง​พูดคุย​อยู่​กับ​สหาย​ร่วมงาน​สอง​สาม​คน​อยู่​ไม่​ไกล​ด้วย​ความเบื่อหน่าย

​เมื่อ​เห็น​ใคร​บางคน​เดิน​มา​ ​พวกเขา​ก็​เก็บ​สีหน้า​กลับมา​เคร่งขรึม​เหมือนก่อน​หน้า​นี้

​สีหน้า​ของ​ไท่ฮู​หยิน​กับ​สือ​อี​เหนียง​กลับ​เต็มไปด้วย​ความสงสัย

​สวี​ลิ่ง​ควน​ทักทาย​ผู้คน​ด้วย​รอยยิ้ม​ ฮู​หยิน​ห้า​และ​แม่นม​กู้​ที่​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ที่​คลุม​ตัว​ด้วย​เสื้อคลุม​บุ​หนัง​กระรอก​กำลัง​ยืน​อยู่​ที่​ประตู​ตง​เหมิน​ ​แต่ว่า​กลับ​ไม่เห็น​เงา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​

​ไท่ฮู​หยิน​กับ​สือ​อี​เหนียง​สับสน​เล็กน้อย​ ​ไท่ฮู​หยิน​หันไป​กำลังจะ​พูด​อะไร​บางอย่าง​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​สวี​ลิ่ง​ควน​ที่​เห็น​ไท่ฮู​หยิน​กับ​สือ​อี​เหนียง​แล้วก็​หันไป​พูดคุย​กับ​สหาย​ร่วมงาน​สอง​สาม​ประโยค

​สหาย​ร่วมงาน​ของ​เขามอ​งมา​ทาง​ไท่ฮู​หยิน​แล้ว​โค้ง​คำนับ​ก่อน​จะ​เดิน​ไป​ด้วยกัน

​สวี​ลิ่ง​ควน​เดิน​มาหา

ฮู​หยิน​ห้า​เห็น​ดังนั้น​ก็​มอง​ไป​ตาม​สายตา​ของ​สหาย​ร่วมงาน​ของ​สวี​ลิ่ง​ควน​จึง​พบ​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​กับ​สือ​อี​เหนียง​ออกมา​จาก​ประตู​ตง​เหมิน​แล้ว

​“​ท่าน​แม่​!​”​ ​นาง​รีบ​เดิน​ไปหา

​แม่นม​กู้​เห็น​ดังนั้น​ก็​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​แล้ว​เดินตาม​มาด​้วย

ฮู​หยิน​ห้า​ประคอง​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ท่าน​ไม่เป็นไร​ใช่​หรือไม่​!​”

​ความกังวล​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​แววตา​ของ​ไท่ฮู​หยิน​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​เมื่อ​เงยหน้า​ขึ้น​ก็​เห็น​ขันที​ที่​เดินตาม​พวก​นาง​ออกมา​ ​สีหน้า​ผ่อนคลาย​เล็กน้อย​ยิ้ม​อย่าง​มี​เมตตา

​“​พี่​สี่​ของ​เจ้า​เล่า​”​ ​น้ำเสียง​ไม่ได้​เป็นกังวล​แต่​ฟัง​ดู​อ่อนโยน​อย่างมาก

​“​ฮ่องเต้​ได้​ประทาน​รางวัล​แก่​จิ​่น​เกอ​มากมาย​”​ ​สวี​ลิ่ง​ควน​ที่​เดิน​มายิ​้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​พี่​สี่​ไป​ลงนาม​เอกสาร​รับผิดชอบ​ทรัพย์สิน​ที่​กรมพระราชวัง​กับ​ขันที​แล้ว​ขอรับ​”

​สีหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ผ่อนคลาย​ลง​ ​รอยยิ้ม​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ดู​สงบ​มากขึ้น​ ​สือ​อี​เหนียง​เดิน​ไปหา​แม่นม​กู้​เงียบๆ​ ​แล้ว​กระซิบ​ถาม​ว่า​ ​“​จิ​่น​เกอ​สบายดี​หรือไม่​”

​แม่นม​กู้​รีบ​ตอบ​ว่า​ ​“​กำลัง​หลับสนิท​เลย​เจ้าค่ะ​!​”

​สือ​อี​เหนียง​เปิด​ผ้าคลุม​ออก​มองดู​บุตรชาย

​เมื่อ​เห็น​ว่า​ใบหน้า​เล็ก​แดง​ระเรื่อ​ของ​จิ​่น​เกอ​ดู​มีความสุข​ ​ความรู้สึก​ไม่สบาย​ใน​ใจ​ของ​นาง​ก็​สงบ​ลง​เล็กน้อย

​ขันที​ผู้​นั้น​คำนับ​สวี​ลิ่ง​ควน​กับฮู​หยิน​ห้า​อย่างนอบน้อม​ ​“​ใต้เท้า​สวี​ ​เซี​่​ยน​จู่​ ​ช่าง​บังเอิญ​เสีย​จริง​ ​ฮองเฮา​ก็ได้​ประทาน​รางวัล​แก่​คุณชาย​น้อย​หก​มากมาย​เช่นกัน​…​แม้ว่า​อากาศ​จะ​หนาว​ ​แต่​ก็​ต้อง​ขอให้​ไท่ฮู​หยิน​ ​ใต้เท้า​สวี​ ​หย่ง​ผิง​โหวฮู​หยิน​และ​เซี​่​ยน​จู่​รอสั​กป​ระ​เดี๋ยว​ ​พอท​่าน​โหว​มา​แล้ว​ค่อย​ไป​ลงนาม​เอกสาร​รับผิดชอบ​ทรัพย์สิน​ที่​กรมพระราชวัง​กับ​พวกเรา​อีกครั้ง​แล้ว​ค่อย​ออกจาก​วัง​ก็​ยัง​ไม่​สาย​”​

​สวี​ลิ่ง​ควน​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​คำนับ​ขันที​ผู้​นั้น​ ​“​รบกวน​กง​กง​ให้​ต้อง​รอ​แล้ว​”​ ​พูด​พลาง​หยิบ​ถุงเงิน​สอง​ถุง​ออกมา​จาก​แขน​เสื้อ​แล้ว​ยัด​ใส่​มือ​ขันที​ทั้งสอง

​รอยยิ้ม​ของ​ขันที​ทั้งสอง​ดู​นอบน้อม​มากขึ้น​กว่า​เดิม​ ​หนึ่ง​ใน​สอง​คน​นั้น​ยัง​เยินยอ​พวกเขา​อีกด้วย​ ​“​คุณชาย​น้อย​หก​ดูดี​ยิ่งนัก​ ​ฮองเฮา​ทอดพระเนตร​แล้วก็​ไม่รู้​ว่า​พอ​พระทัย​มาก​แค่ไหน​ ​ยัง​จำได้​ที่​ตอนนั้น​คนใน​จวน​มารา​ยงา​นข​่า​วดี​ ​ฮองเฮา​พนมมือ​แล้ว​เอ่ย​อามิ​ตา​พุทธ​อยู่​หลายครั้ง​!​ ​แล้วยัง​ให้​หวง​กู​กู​ไป​จุด​ธูป​สาม​ดอก​ที่​หอ​พระ​อีกด้วย​”

​“​กง​กง​พูด​เกินไป​แล้ว​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​หัวเราะ​พลาง​ตอบ​ขันที​ผู้​นั้น​ ​“​เพียงแค่​หน้าตา​ดู​สะอาดสะอ้าน​แล้วก็​ว่านอนสอนง่าย​ ​กิน​อิ่ม​แล้วก็​นอน​ ​นอน​อิ่ม​แล้วก็​กิน​ ​ไม่เคย​งอแง​ตอนกลางคืน​…​”

​ขณะที่​กำลัง​พูดคุย​กัน​ ​ขันที​อีก​คน​หนึ่ง​ก็​พลัน​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ท่าน​โหว​มา​แล้ว​!​”

​ทุกคน​รีบ​มอง​ไป​ทาง​ประตู​วัง​ ​เห็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​สวม​หมวก​ชี​เหลียง​ ​สวม​เสื้อคลุม​ลาย​มังกร​สีแดง​เดิน​เข้ามา

​ใบหน้า​ของ​เขา​เคร่งขรึม​ ​ดวงตา​แหลมคม​ ​ดู​ไม่มี​ความยินดี​เลย​แม้แต่​นิด​ ​แต่กลับ​ดู​จริงจัง​อย่างมาก

​“​พี่​สี่​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​ควน​ตะโกนเรียก​อย่าง​ลังเล

​สายตา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​มอง​ไป​ที่​ไท่ฮู​หยิน​กับ​สือ​อี​เหนียง

​สีหน้า​ของ​เขา​ผ่อนคลาย​ลง​เล็กน้อย

​ขันที​ทั้งสอง​รีบ​เข้าไป​คำนับ​แล้ว​พูดถึง​จุดประสงค์​ของ​พวกเขา

​สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​เล็กน้อย​ ​ทักทาย​ไท่ฮู​หยิน​ก่อนที่จะ​ไป​กรมพระราชวัง​กับ​ขันที​ทั้งสอง

​สือ​อี​เหนียง​และ​คนอื่นๆ​ ​รอมา​มากกว่า​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​ ​ทุกคน​ต่าง​ก็​หิว​ ​จากนั้น​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ออกมา

​ไท่ฮู​หยิน​รีบ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​เจ้า​สี่​กับ​ข้า​นั่ง​รถม้า​คัน​เดียวกัน​!​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​พยุง​ไท่ฮู​หยิน​ออกจาก​ประตู​วัง

​รถม้า​หลังคา​เรียบ​สีดำ​ขลับ​ของ​จวน​สวี​รอ​อยู่​ที่​หน้า​ประตู​นาน​แล้ว​ ​ไท่ฮู​หยิน​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ขึ้นรถ​ม้า​คัน​แรก​ ​สือ​อี​เหนียง​กับ​แม่นม​กู้​นั่ง​รถม้า​คันที​่​สอง​ ​สวี​ลิ่ง​ควน​กับฮู​หยิน​ห้า​ขึ้นรถ​ม้า​คัน​สุดท้าย​ ​มุ่งหน้า​ไป​ที่​เหอฮ​วาห​ลี่​โดย​มี​องครักษ์​ห้อมล้อม

​สือ​อี​เหนียง​ถาม​แม่นม​กู้​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​เจ้า​อุ้ม​คุณชาย​น้อย​หก​ไป​เข้าเฝ้า​ฮ่องเต้​ ​รู้​หรือไม่​ว่า​ฮ่องเต้​ตรัส​ว่า​อะไร​บ้าง​”

​“​ไม่ทราบ​เจ้าค่ะ​!​”​ ​ขา​ของ​แม่นม​กู้​สั่น​อยู่​ตลอดเวลา​ ​ตอนนี้​ที่นั่ง​อยู่​ใน​รถม้า​ยัง​รู้สึก​เหมือนว่า​ร่างกาย​จะ​แตก​ออก​เป็น​เสี่ยง​ๆ​ ​รู้สึก​เพียง​ว่า​ทั้ง​ร่างกาย​ไร้​เรี่ยวแรง​ ​“​กง​กง​ใน​วัง​ให้​บ่าว​รอ​อยู่​ที่​หน้า​ประตู​พระตำหนัก​ ​มี​กง​กง​แซ่​เฮ่อ​ผู้​หนึ่ง​มา​อุ้ม​คุณชาย​น้อย​หก​เข้าไป​ ​แล้วก็​เป็น​กง​กง​แซ่​เฮ่อ​ที่​อุ้ม​ออกมา​เจ้าค่ะ​”

​สือ​อี​เหนียง​ถาม​อย่าง​ครุ่นคิด​ ​“​แล้ว​เหตุใด​พวก​เจ้า​ถึง​ไม่​ไป​ทูล​ลา​ฮองเฮา​เล่า​”

​แม่นม​กู้​เล่า​ว่า​ ​“​บ่าว​ยืน​รอ​อยู่​ข้างนอก​อยู่นาน​ ​องค์​ชาย​สาม​กับ​องค์​หญิง​ใหญ่​ก็​มา​ ​หลังจาก​ผ่าน​ไป​ประมาณ​หนึ่ง​ก้านธูป​ ​เฮ่อ​กง​กง​ก็​อุ้ม​คุณชาย​น้อย​หก​ออกมา​ ​หลังจากนั้น​ไม่นาน​ท่าน​โหวกับ​คุณชาย​ห้า​ก็​ออกมา​พร้อมกับ​ขันที​ที่​ตามมา​ด้วย​อีก​สอง​คน​เจ้าค่ะ​ ​”​ ​เมื่อ​พูดถึง​ตรงนี้​นาง​ก็​หยุด​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​“​ตอนนั้น​สีหน้า​ของ​ท่าน​โหวดู​แย่มาก​ ​แต่​คุณชาย​ห้า​กลับ​ยิ้ม​อย่าง​ร่าเริง​แล้วยัง​เขี่ย​จมูก​หยอกล้อ​คุณชาย​น้อย​หก​อีกด้วย​ ​พูด​ประมาณ​ว่า​คุณชาย​น้อย​หก​เป็น​เศรษฐี​น้อย​ ​คุณชาย​น้อย​หก​ที่​กำลัง​หลับ​อยู่​ถูก​คุณชาย​ห้า​กวน​จน​ตื่น​ ​ขมวดคิ้ว​แล้ว​ร้องไห้​อยู่​พัก​หนึ่ง​ ​ท่าน​โหว​เห็น​ดังนั้น​สีหน้า​ก็​ยิ่ง​ดู​แย่มาก​ขึ้น​กว่า​เดิม​จึง​ให้​คุณชาย​ห้า​ไปหา​ไท่ฮู​หยิน​ ​คุณชาย​ห้า​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ตะลึง​ไป​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​พูดว่า​ไท่ฮู​หยิน​อยู่​ที่​ตำหนัก​ฮองเฮา​ ​ต้อง​ไป​ทูล​ลา​หรือไม่​ ​ท่าน​โหว​ไม่​พูด​อะไร​สัก​คำ​ก็​เดิน​ออก​ไป​แล้ว​ ​บ่าว​ไม่รู้​จะ​ทำ​อย่างไร​จึง​เดินตาม​ท่าน​โหว​ไป​ ​ขันที​ทั้งสอง​ตะโกนเรียก​ท่าน​โหว​อยู่​ข้างหลัง​สอง​สาม​ครั้ง​ ​พอ​เห็น​ว่า​ท่าน​โหว​ไม่สน​ใจ​ก็​เลย​ตาม​พวกเรา​มาที​่​ประตู​ตง​เหมิน​ด้วย​ ​ท่าน​โหว​หา​ที่​สำหรับ​หลบ​ลม​ให้​บ่าว​ยืน​อุ้ม​คุณชาย​น้อย​หก​รอ​อยู่​ที่นั่น​ ​ขันที​ทั้งสอง​เห็น​ว่า​สีหน้า​ของ​ท่าน​โหวดู​ไม่ดี​ ​พวกเขา​จึง​เพียงแค่​รับคำ​แล้ว​ยืน​อยู่​เป็นเพื่อน​พวกเรา​ ​ผ่าน​ไป​สักพัก​ใหญ่​คุณชาย​ห้า​กับฮู​หยิน​ห้า​ก็​มา​ ​บอกว่า​ฮองเฮา​ยัง​พูดคุย​อยู่​กับ​ไท่ฮู​หยิน​และฮู​หยิน​ ​เขา​ได้​ส่ง​ขันที​น้อย​ไปรา​ยงาน​แล้ว​ ​ท่าน​โหว​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ให้ฮู​หยิน​ห้า​อยู่​กับ​บ่าว​และ​คุณชาย​น้อย​หก​ ​ส่วน​ท่าน​โหวก​็​ไป​ที่​กรม​ราชกิจ​ภายใน​กับ​ขันที​ทั้งสอง​เจ้าค่ะ​!​”​

​สือ​อี​เหนียง​ยิ่ง​ฟัง​ก็​ยิ่ง​งวยงง

เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​ ​ดูเหมือนว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​พาล​แม้กระทั่ง​ฮองเฮา

​กว่า​จะ​กลับมา​ถึง​จวน​ ​หลัง​ลง​จาก​รถม้า​สวี​ลิ่ง​อี๋​นั้น​ท่าทาง​ดู​ผ่อนคลาย​ ​แต่​สีหน้า​ของ​ไท่ฮู​หยิน​กลับ​เคร่งขรึม​แทน​

​สือ​อี​เหนียง​แอบ​รู้สึก​ประหลาดใจ​ ​ช่วยฮู​หยิน​ห้า​พยุง​ไท่ฮู​หยิน​ขึ้นรถ​ลาก​กลับ​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน

​“​พวก​เจ้า​เอง​ก็​เหนื่อย​แล้ว​ ​กลับ​ไป​พักผ่อน​เถิด​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ให้​ป้า​ตู้​ปรนนิบัติ​นาง​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ ​แล้ว​หันไป​พูด​กับ​บุตรชาย​และ​ลูกสะใภ้​ว่า​ ​“​พรุ่งนี้​พวก​เจ้า​ยัง​ต้อง​ไป​เยี่ยม​ญาติ​อีก​!​”​ ​จากนั้น​ก็​กำชับ​อวี​้​ป่าน​ ​“​ไป​เรียกฮู​หยิน​สอง​มา​!​ ​วัน​ตรุษจีน​ใหญ่​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​อยู่​ที่​เรือน​เสา​หวา​คนเดียว​…​พวกเรา​สอง​คน​จะ​ได้มา​อยู่​เป็นเพื่อน​กัน​!​”

​“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​พูด​เช่นนี้​ก็​ไม่​ถูก​”​ ​สวี​ลิ่ง​ควน​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ยิ้ม​อย่าง​เบิกบาน​แล้ว​นั่งลง​ข้างๆ​ ​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ยิ่ง​คน​เยอะ​ก็​ยิ่ง​ครึกครื้น​ ​มี​แค่​ท่าน​กับ​พี่สะใภ้​สอง​เพียง​สอง​คน​จะ​ไม่​เงียบเหงา​ไป​หน่อย​หรือ​”​ ​พูด​อย่างกระตือรือร้น​ว่า​ ​“​ให้​พวกเรา​เล่นไพ่​นกกระจอก​เป็นเพื่อน​ท่าน​ดี​หรือไม่​”

​ไม่​รอ​ให้​ไท่ฮู​หยิน​พูด​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​พูดตัดบท​สวี​ลิ่ง​ควน​ ​“​ท่าน​แม่​เหนื่อย​มาทั​้ง​วัน​แล้ว​ ​พวกเรา​แยกย้าย​กัน​เถิด​!​ ​ให้ท่าน​ได้​พักผ่อน​”

​สวี​ลิ่ง​ควน​ท่าทาง​ลังเลใจ

ฮู​หยิน​ห้า​ดึง​แขน​เสื้อ​สวี​ลิ่ง​ควน​ ​“​ท่าน​แม่​ ​เช่นนั้น​อีกสักครู่​พวกเรา​ค่อย​มาหา​ท่าน​ดีกว่า​เจ้าค่ะ​”

​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า

​ทุกคน​คำนับ​แล้ว​ถอย​ออก​ไป

ฮู​หยิน​ห้า​ถาม​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ท่าน​จะ​ไป​เมื่อไร​”​ ​ปีนี​้​หลัว​เจิ​้น​เซิง​กับ​คุณนาย​สี่​สกุล​หลัว​ฉลอง​ตรุษจีน​ที่​เยี​่​ยน​จิง​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​จะ​พา​เด็ก​ๆ​ ​ไป​อวยพร​ตรุษจีน​ที่​ตรอก​กง​เสียน

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​แล้วก็​จะ​ออกเดินทาง​เลย​”

​ตั้งแต่​นาง​แต่ง​เข้า​สกุล​สวี​มา​ ​ไม่ว่า​ลม​จะ​แรง​หรือ​ฝน​จะ​ตก​นาง​ก็​จะ​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​ก่อน​ยาม​เฉิน​หนึ่ง​เค​่อ​ ฮู​หยิน​ห้า​จึง​ไม่ได้​ถาม​เวลา​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เช่นนั้น​ก็ดี​ ​ข้า​จะ​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​แต่เช้า​หน่อย​ ​พวกเรา​จะ​ได้​กลับ​สกุล​เดิม​พร้อมกัน​”

​“​ดี​เลย​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า​แล้ว​กลับ​ไป​ที่​เรือน​หลัก​พร้อมกับ​สวี​ลิ่ง​อี๋

​เมื่อ​เข้ามา​ใน​เรือน​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​มีสี​หน้า​นิ่ง​ ​กำชับ​หู่​พั่ว​ด้วย​น้ำเสียง​เคร่งขรึม​ ​“​ไป​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​มา​!​”

​หู่​พั่ว​ไม่รู้​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​ ​ขานรับ​คำ​แล้ว​รีบ​สาวเท้า​ไป​ยัง​เรือน​หน​่​วน​เก๋อ​ทันที

​สือ​อี​เหนียง​กำลังจะ​ช่วย​สวี​ลิ่ง​อี๋​เปลี่ยนเสื้อ​ ​แต่​เมื่อ​เห็น​สถานการณ์​เช่นนี้​ก็​อดใจ​เต้น​แรง​ไม่ได้​ ​“​ท่าน​โหว​ ​เกิด​อะไร​ขึ้น​เจ้า​คะ​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่ได้​ปริปาก​พูด​อะไร​ ​แต่​ท่าทาง​กลับ​เยือกเย็น​เล็กน้อย

​สือ​อี​เหนียง​ร้อนใจ​ ​กำลังจะ​ถาม​ซ้ำ​ ​แม่นม​กู้​ก็​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ที่​กำลัง​หลับสนิท​เดิน​เข้ามา

​สวี​ลิ่ง​อี๋​เดิน​ไปรับ​จิ​่น​เกอ​มา​วาง​บน​เตียง​เตา​โดย​ไม่​พูด​อะไร​ ​แล้ว​เริ่ม​ถอดเสื้อผ้า​ของ​จิ​่น​เกอ

​จิ​่น​เกอ​ตื่นขึ้น​มา​แล้ว​ร้องไห้​เสียงดัง

​สือ​อี​เหนียง​รีบ​เดิน​ไป​ ​“​ท่าน​โหว​ ​ท่าน​ทำ​อะไร​ ​ระวัง​ลูก​จะ​ไม่สบาย​!​ ​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่สน​ใจ​ ​สีหน้า​ของ​เขา​ตึงเครียด​ ​เพียง​ครู่เดียว​ก็​ถอดเสื้อผ้า​จิ​่น​เกอ​ออก​จน​หมด​ ​จากนั้น​ก็​มองดู​ร่างกาย​ของ​เด็กน้อย​อย่างละเอียด

​สือ​อี​เหนียง​รีบ​ถอด​เสื้อแขนยาว​มาค​ลุม​ลูก​น้อย​ ​พูดเสี​ยง​แข็ง​ว่า​ ​“​ท่าน​โหว​ ​ท่าน​มี​อะไร​ก็​มาคุ​ยกัน​ดี​ๆ​ ​ลูก​ยัง​เล็ก​ ​หาก​เป็นหวัด​ขึ้น​มา​จะ​ยิ่ง​ยุ่งยาก​เข้าไป​ใหญ่​…​”​ ​เมื่อ​แม่นม​กู้​เห็น​ดังนั้น​ก็​รีบ​นำ​เสื้อคลุม​ที่​สือ​อี​เหนียง​พึ่ง​ถอด​มาค​ลุม​ให้​สือ​อี​เหนียง

​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​จับ​เท้า​น้อย​ๆ​ ​ที่​โผล่​ออกมา​จาก​ร่มผ้า​ของ​จิ​่น​เกอ​มาดู​ก่อน​จะ​ปล่อยมือ

​สือ​อี​เหนียง​ขมวดคิ้ว​ ​กำลังจะ​ถาม​ให้​ชัดเจน​ ​เมื่อ​เงยหน้า​ขึ้น​กลับ​เห็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​ถอนหายใจ​เฮือก​ใหญ่​ด้วย​ความ​โล่งอก

​เมื่อ​นึกถึง​พฤติกรรม​ที่​ผิดปกติ​ของ​เขา​ตอน​อยู่​ใน​วัง​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​คว้า​แขน​เขา​แล้ว​ตะโกนเรียก​ ​“​ท่าน​โหว​!​”

​“​ไม่มี​อะไร​ ​ไม่มี​อะไร​!​”​ ​มาถึง​ตอนนี้​สวี​ลิ่ง​อี๋​พึ่ง​จะ​ตอบคำถาม​สือ​อี​เหนียง​ ​เขา​ตบมือ​สือ​อี​เหนียง​เบา​ๆ​ ​ ​“​ตอนที่​อยู่​พระตำหนัก​เฉียน​ชิง​ ​ฮ่องเต้​กำลัง​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ ​องค์​หญิง​ใหญ่​ก็​วิ่ง​พรวด​เข้ามา​ ​ฮ่องเต้​ตื่นตระหนก​ ​แขน​ที่​ประคอง​จิ​่น​เกอ​ชนกับ​พนัก​ที่ประทับ​…​จิ​่น​เกอ​ก็​เลย​ร้อง​ขึ้น​มา​ ​เฮ่อ​กง​กง​อุ้ม​ไป​กล่อม​อยู่นาน​ ​ไม่รู้​ว่า​ได้รับบาดเจ็บ​ตรงไหน​หรือไม่​!​”

​สือ​อี​เหนียง​ก็​รู้สึก​กังวลใจ​ขึ้น​มา​จึง​ตรวจดู​ลูก​น้อย​ที่อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​นาง​อีก​รอบ​ ​เมื่อ​พบ​ว่า​ไม่มี​บาดแผล​จึง​ได้​วางใจ​ ​อยาก​จะ​ตำหนิ​สวี​ลิ่ง​อี๋​สักหน่อย​ ​แต่​สีหน้า​ของ​เขา​นั้น​ยังคง​เต็มไปด้วย​ความกังวล​ ​จึง​ได้​กลืน​คำพูด​ลง​ไป​ ​ใน​ใจ​อด​คิด​ขึ้น​มา​ไม่ได้​ หรือว่า​เป็น​เพราะเหตุนี้​ ​ดังนั้น​สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​สีหน้า​ไม่ดี​มาต​ลอด​ทาง

เช่นนั้น​เหตุใด​ไท่ฮู​หยิน​จึง​ได้​ดู​เคร่งขรึม​หลังจาก​ลง​จาก​รถม้า

​นาง​อยาก​จะ​ถาม​อย่างละเอียด​ ​แต่​จิ​่น​เกอ​ที่อยู่​ใน​อ้อมแขน​นั้น​ร้องไห้​ราวกับว่า​ใจ​จะ​สลาย​ ​ทั้ง​ยัง​ไม่ได้​สวม​เสื้อผ้า​ ​อีกทั้ง​ด้านนอก​ก็​มีบ​่า​วรับ​ใช้​รายงาน​ผ่าน​ผ้าม่าน​ว่า​ ​“​ทาง​กรมพระราชวัง​ได้​ส่ง​ของขวัญ​จาก​ฮ่องเต้​ ​ฮองเฮา​ ​และ​ไท่​จื่อ​เฟ​ยมา​แล้ว​ขอรับ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​หอม​แก้ม​จิ​่น​เกอ​พลาง​กำชับ​นาง​ ​“​เจ้า​รีบ​ช่วย​แต่งตัว​ให้​ลูก​ ​เดี๋ยว​ข้า​จะ​ไปดู​สักหน่อย​ ​แล้วก็​จะ​ไป​เชิญ​หมอ​มาตร​วจ​ดู​จิ​่น​เกอ​อย่างละเอียด​ด้วย​…​”

​สือ​อี​เหนียง​ตอบ​เพียง​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​ช่วย​แม่นม​กู้​แต่งตัว​ให้​จิ​่น​เกอ​ ​จากนั้น​ก็​กล่อม​บุตรชาย​ที่​กำลัง​ร้องไห้​งอแง

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท