บทที่ 475 แย่งกินหญ้า ลูกวัวน้อยโมโหจนร้องไห้!
ถึงแม้ปลามังกรจะเหิมเกริม ทว่ามันยังรู้จักขอบเขต ไม่ได้โอหังถึงขั้นไม่สนสิ่งใด
อย่างเช่นก่อนหน้านี้ที่มันใช้บารมีข่มมัจฉาสัตมายา มันมิได้ลงมือกับมัจฉาสัตมายา แต่กินปลาตัวอื่นเพื่อทำให้มัจฉาสัตมายากลัว
อย่างไรมัจฉาสัตมายาก็มีความเกี่ยวข้องกับลั่วสุ่ย และลั่วสุ่ยอยู่ในลานท่านบรรพจารย์เซียนมานาน แม้ว่าในใจมันจะดูแคลนอีกฝ่าย กระนั้นยังมิกล้าบาดหมางกับแมวนั่นจนเกินไปนัก
ถึงอย่างไรมันก็เพิ่งมา ทุกอย่างยังไม่มั่นคง รอให้สถานะของมันมั่นคงเมื่อใด ก็ไม่ต้องสนใจลั่วสุ่ยอีก
มันในฐานะมัจฉาเซียน ย่อมเป็นที่ชื่นชมของท่านบรรพจารย์เซียนมากกว่า!
พลังของมันถูกผนึก ทว่าความแข็งแกร่งของเนื้อกายยังอยู่ มันฟาดหางปลากับพื้น เด้งตัวขึ้น ไม่นานก็มาถึงลานเล็กด้านข้าง มาอยู่ฝั่งอสูรฟ้าชิงหนิว
“หมอนี่หัวใสดีนี่!”
ภายในโอ่ง หลังมัจฉาสัตมายาเห็นปลามังกรไปหาพวกอสูรฟ้าชิงหนิวก็คิดในใจ
เดิมมันคิดว่าปลามังกรโอหังถึงขั้นไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงจริง ๆ ไร้ความเกรงกลัว แต่บัดนี้ดูแล้ว ปลามังกรยังไม่ถึงขั้นนั้น ยังมีความเกรงกลัวอยู่
ปลามังกรฉลาดมาก มิได้หมายตาสิ่งอื่นในลาน หากแต่หมายตาหญ้าที่เป็นอาหารพวกอสูรฟ้าชิงหนิว
หัวแหลมมาก ขืนหมายตาสิ่งอื่น ไม่รู้ว่าปลามังกรต้องมีจุดจบเช่นไร แต่หากไปยุ่งกับหญ้าที่พวกอสูรฟ้าชิงหนิวกิน ปลามังกรย่อมสบายตัวกว่ามาก ปัญหาไม่ร้ายแรงเท่าการแตะต้องสิ่งอื่น
“นี่ เจ้าวัวโง่…วันหน้าข้าจะเป็นพี่ใหญ่ของที่นี่ รู้หรือไม่”
ปลามังกรมาอยู่ฝั่งอสูรฟ้าชิงหนิว เนตรปลาของมันเปี่ยมไปด้วยความดูถูก ก่อนจะเอ่ยต่อ “คิดไม่ตกจริง ๆ ว่าเหตุใดท่านบรรพจารย์เซียนถึงต้องเลี้ยงอสูรวัวสายเลือดชั้นต่ำอย่างพวกเจ้า”
มันพูดด้วยเสียง ‘บุ๋งบุ๋ง’ ทว่า ขอบเขตพลังของอสูรฟ้าชิงหนิวไม่ต่ำ พอฟังวาจาของปลามังกรรู้เรื่อง
สายเลือดอสูรฟ้าชิงหนิวแสนน่าทึ่ง มิได้ด้อยไปกว่าสิบอสูรร้ายแห่งบรรพกาลนัก ทว่าสายเลือดปลามังกรน่าตะลึงยิ่งกว่า ปลามังกรจึงไม่เห็นอสูรฟ้าชิงหนิวอยู่ในสายตา
“เจ้าปลาตัวนี้ไยจึงพูดจาเช่นนี้!”
ลูกวัวน้อยเอ่ยอย่างไม่พอใจ
มันเข้าใจในทุกถ้อยคำของอสูรฟ้าชิงหนิว เป็นเพราะหญ้าที่มันกินสูงส่งเลิศล้ำเกินไป มิฉะนั้น มันคงฟังเสียง ‘บุ๋งบุ๋ง’ ของปลามังกรไม่ออก
“ที่ว่าวัวโง่หมายความว่าอย่างไร เจ้าปลาตัวนี้พูดจาไม่รื่นหูเสียเลย ขืนเจ้ายังปากพล่อยเช่นนี้ ข้าจะเรียกเจ้าว่าปลาโง่!”
ลูกวัวน้อยเอ่ยเสียงเคียดแค้น วาจาของปลามังกรน่าโมโหนัก
“เจ้าว่ากระไร!?”
ปลามังกรมองลูกวัวน้อยตาขวาง ลูกวัวน้อยตัวนี้บังอาจพูดจาเช่นนี้กับมันเชียวหรือ
อสูรฟ้าชิงหนิวผู้เฒ่าได้ยินวาจาของลูกวัวน้อยแล้วตกตะลึง รีบออกมาขวางอยู่ข้างหน้าลูกวัวน้อย เอ่ยกับปลามังกรด้วยรอยยิ้มเอาใจ “พี่ใหญ่อย่าโมโหไปเลย มันยังเล็ก ไม่รู้ความ พวกเราเต็มใจนับถือท่านเป็นพี่ใหญ่”
มันสัมผัสถึงความทรงพลังของสายเลือดปลามังกรได้ว่าเหนือกว่าพวกมันมาก มันมิกล้าล่วงเกินปลามังกร และเคยได้ยินว่าท่านเซียนให้ความสำคัญกับปลามังกรมาก ทั้งยังเอ่ยชมปลามังกรว่าไม่เลว
ประกอบกับมันไม่ต้องการมีเรื่อง ให้นับถือเป็นพี่ใหญ่ก็นับถือเถิด มิใช่เรื่องใหญ่
“แค่คำว่าไม่รู้ความแล้วจะจบง่าย ๆ หรือ”
ปลามังกรยิ้มเย็น “ง่ายดายขนาดนั้นเสียเมื่อไร เจ้าต้องคุกเข่าขอขมาข้า!”
“เจ้าปลาตัวนี้ไยจึงมีนิสัยเช่นนี้!”
ลูกวัวน้อยไม่สน มันเอ่ยด้วยความโมโห “เจ้าเข้ามาหาเรื่อง แล้วยังให้ข้าขอขมาเจ้าอีก เจ้ามีเหตุผลบ้างหรือไม่!”
“หยุดพูดได้แล้ว!”
อสูรฟ้าชิงหนิวเฒ่าสุขุมพอ ไม่ต้องการให้เป็นเรื่องใหญ่ ขืนทะเลาะกันต่อไป ไม่ว่าผู้ใดก็จบไม่สวย
“พี่ปลา เราทั้งหมดล้วนอาศัยในลานเล็กท่านเซียน ไม่จำเป็นต้องบาดหมางจนเข้าหน้าไม่ติดกระมัง หากเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาจริง ๆ เราคงลำบากกันทั้งหมด!”
มันบอกกับปลามังกร
หลังปลามังกรได้ยินคำกล่าวนี้ ก็ลดความโอหังลงมานิดหน่อย
จริงอย่างที่ว่า หากกลายเป็นเรื่องใหญ่ ต้องลำบากกันทั้งหมด
วัวพวกนี้ต่างจากปลาในโอ่ง ท่านบรรพจารย์เซียนเลี้ยงปลาพวกนั้นไว้ให้ลั่วสุ่ยกิน แต่วัวพวกนี้ต่างออกไป
บอกตามตรง มันมิกล้าทำอะไรวัวพวกนี้นัก
“คราวนี้แล้วไป หากยังมีคราวหน้า ข้าไม่อภัยให้แน่!”
มันแค่นเสียงเย็น
“ขอบคุณพี่ปลา”
อสูรฟ้าชิงหนิวกล่าวขอบคุณปลามังกร
ลูกวัวน้อยยังอยากพูดอะไรอีกหน่อย แต่ถูกแม่วัวปรามไว้
มีเรื่องน้อยก็ทุกข์น้อย ปลามังกรอยากโอหังก็ปล่อยมันโอหังไป พวกมันไม่จำเป็นต้องถือสาเอาความกับปลามังกร
หากมีเรื่องกันจนสุดท้ายสร้างความไม่พอใจให้ท่านเซียน บาปนี้คงมหันต์
“ถอยไป ข้าขอกินหญ้าหน่อย”
ปลามังกรเอ่ยอย่างไม่เกรงใจ
คราวนี้ลูกวัวน้อยทนไม่ไหวอีกต่อไป มันวิ่งพรวดออกจากด้านหลัง บอกกับปลามังกรว่า “นี่คือหญ้าที่คุณชายให้เป็นอาหารของเรา เจ้ามีสิทธิ์อันใดมาขอกิน!”
แค่ด่ากันยังพอทน นี่ยังจะกินหญ้าของพวกมันอีกหรือ ลูกวัวน้อยทนไม่ได้จริง ๆ
ปลามังกรตัวนี้ทำเกินไปแล้ว!
“ไสหัวไป เจ้าไม่มีปากมีเสียงที่นี่!”
ปลามังกรตวาด อยากจะใช้หางปลาฟาดลูกวัวน้อยให้ตาย
แต่สุดท้ายมันก็ทนไว้ได้ มิได้ลงมือ ขืนฆ่าลูกวัวน้อยจริง ๆ ถึงตอนนั้นต้องเป็นปัญหาใหญ่แน่
“ข้าไม่สน! เจ้าห้ามกินหญ้าของเรา! นี่คือหญ้าที่ท่านเซียนให้เรา! ถ้าเจ้าอยากกิน เจ้าต้องไปขออนุญาตจากคุณชายก่อน หากคุณชายให้เจ้ากิน เจ้ากินได้ตามสบาย!”
ลูกวัวน้อยขวางอยู่เบื้องหน้าปลามังกร ให้ตายก็ไม่ยอมให้ปลามังกรกินหญ้า
“ใช่แล้ว นี่คือสิ่งที่ท่านเซียนประทานให้เรา พวกเรามิกล้าตัดสินใจโดยพลการ”
อสูรฟ้าชิงหนิวเฒ่ากล่าว ครั้งนี้มิได้ยอมถอย
เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ มันไม่กล้าตัดสินใจพลการ อนุญาตให้ปลามังกรกินหญ้าเหล่านี้จริง ๆ
“บัด…ซบ แค่ขอกินหญ้าสักเส้นสองเส้น ไยจึงยุ่งยากปานนี้”
ปลามังกรสบถอย่างไม่พอใจ สายตาทอประกายดุดัน “ข้าขอบอกพวกเจ้า อย่าบังคับให้ข้าลงมือแก่งแย่ง!”
แม้ว่าพลังของมันถูกผนึก กระนั้นมันก็ยังเป็นมัจฉาเซียน พลังเนื้อกายแกร่งกล้าเป็นพิเศษ จัดการอสูรฟ้าชิงหนิวพวกนี้ได้สบาย
มิฉะนั้น มันคงไม่กำแหงเพียงนี้
“หากเจ้ากล้าลงมือแย่ง ข้าจะ…ข้าจะไปฟ้องคุณชาย!”
ลูกวัวน้อยเอ่ยอย่างไม่ยอมแพ้
“ฟ้องคุณชายรึ”
ปลามังกรหัวเราะ “รีบไปสิ อย่าเอาแต่กลั้นไว้ ข้าขอร้องล่ะ เจ้าช่วยรีบไปฟ้องทีได้หรือไม่”
มันไม่กลัวหรอก
ระหว่างที่พำนักอยู่ในลานเล็ก มันตระหนักแล้วว่าข้อห้ามของท่านบรรพจารย์เซียนคือสิ่งใด หากลูกวัวน้อยไปฟ้องท่านบรรพจารย์เซียนจริง เช่นนั้นลูกวัวน้อยย่อมต้องฝ่าฝืนข้อห้ามของท่านบรรพจารย์เซียน ถึงครานั้น ลูกวัวน้อยรังแต่จะอนาถากว่านี้
มันไม่เชื่อว่าลูกวัวน้อยจะกล้าไปฟ้อง
และมันเล็งเห็นข้อนี้ ถึงคิดมากินหญ้าที่นี่ ถึงอย่างไรต่อให้มันแย่งหญ้าของอสูรฟ้าชิงหนิวมากิน อสูรฟ้าชิงหนิวก็ได้แต่ยอมเป็นใบ้ พูดความทุกข์ใจนี้ให้ผู้ใดฟังไม่ได้
บวกกับมันมีขอบเขต แย่งไม่เยอะ กินแค่ไม่กี่เส้น ยิ่งไม่มีทางเกิดเรื่อง
“เจ้า ๆๆ…!”
ลูกวัวน้อยโมโหจนร้องไห้ออกมา
มันย่อมทราบในข้อห้ามของท่านเซียน ที่มันเอ่ยไว้ก่อนหน้าเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น มันไฉนเลยจะกล้าฟ้องคุณชาย ฝ่าฝืนข้อห้ามท่านเซียน!
พี่ลั่วสุ่ยยังมิกล้า ไม่ได้รับอนุญาตจากท่านเซียน พี่ลั่วสุ่ยไม่กล้าแม้แต่จะพูดภาษามนุษย์ด้วยซ้ำ ต้องรักษาร่างแมวไว้ตลอด
เจ้า…เจ้าปลามังกรตัวนี้เกินไปแล้ว!