รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人] – บทที่ 483 ข้าคือพี่ใหญ่ของที่นี่ ลั่วสุ่ยก็ต้องหลีกทางให้!

บทที่ 483 ข้าคือพี่ใหญ่ของที่นี่ ลั่วสุ่ยก็ต้องหลีกทางให้!

บทที่ 483 ข้าคือพี่ใหญ่ของที่นี่ ลั่วสุ่ยก็ต้องหลีกทางให้!

ปลามังกรออกมา จิตสังหารดุดันพลุ่งพล่าน

มันกลั้นโทสะไว้เต็มกระบุง จนบัดนี้ในที่สุดก็มีโอกาส จะให้มันปล่อยไปได้อย่างไร

เป็นไปไม่ได้!

ไอ้พวกเฮงซวย! มันเป็นถึงมัจฉาเซียน เคยต้องอัปยศเยี่ยงนี้ที่ไหน!

แม้ว่าจอบเซียนเล่มนั้นท่านบรรพจารย์เซียนจะเป็นผู้ทำขึ้นมา ทว่าจอบเล่มนั้นไฉนเลยจะเทียบกับมันได้

จอบเล่มนั้นทำประโยชน์มากที่สุดได้แค่พรวนดิน จะมีประโยชน์อื่นใดอีก

ท่านบรรพจารย์เซียนคงไม่สามารถพกจอบไปทำศึกกระมัง

จะเป็นไปได้อย่างไร เช่นนั้นมิเสียภาพพจน์ท่านบรรพจารย์เซียนเอาหรือ!

สถานะของจอบเล่มนี้อย่างไรก็ได้แค่นี้สำหรับท่านบรรพจารย์เซียน!

บัดนี้มันเพิ่งมาถึง สถานะยังไม่สูงสำหรับท่านบรรพจารย์เซียน ทว่ารอให้ผ่านไปอีกระยะ มันย่อมต้องมีสถานะสูงส่งกว่าจอบเล่มนั้นแน่!

“ไอ้จอบเส็งเคร็ง รอให้ข้ามีสถานะสูงขึ้นเมื่อใด ข้าจะแยกร่างเจ้าให้ไม่เหลือซาก!”

มันเอ่ยเสียงเคียดแค้น ไม่กลัวจอบนั่นสักนิด

จอบเล่มนั้นแข็งแกร่งกว่ามันแล้วอย่างไร

ทั้งหมดนี้ก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น!

วันหน้า มันย่อมต้องแข็งแกร่งกว่าจอบ!

ต่อมา มันก็มาอยู่ที่ลานเล็กด้านข้าง

อสูรฟ้าชิงหนิวสี่ตัวเห็นปลามังกรเข้ามา สีหน้าพลันเปลี่ยนกันหมด

จอบเซียนเพิ่งออกไป ปลามังกรก็มาที่นี่ เห็นได้ชัดว่าปลามังกรไม่หวังดี!

“เหอะ เจ้าพวกวัวโง่เง่าทั้งหลาย ครั้งนี้ข้าจะรอดูว่าผู้ใดปกป้องพวกเจ้าได้อีก!”

ปลามังกรยิ้มเย็น เนตรปลาทอประกายดุดันขณะจ้องมองอสูรฟ้าชิงหนิว

“เจ้าปลาตัวนี้ เจ้าเป็นที่โปรดปรานของคุณชาย ได้เข้ามาอยู่ในลานเล็กของคุณชาย ถือเป็นวาสนาสูงสุดของเจ้า เจ้าควรทะนุถนอมโอกาสนี้ให้ดีถึงจะถูก เหตุใดถึงไม่รู้จักสงบเสงี่ยม เอาแต่ก่อเรื่องอยู่เรื่อย!”

อสูรฟ้าชิงหนิวเฒ่ากล่าว

ปลามังกรตัวนี้บ้าบิ่นเกินไปแล้ว ขนาดอยู่ในลานเล็กคุณชายยังหาญกล้าทำตามอำเภอใจเช่นนี้ ปลามังกรไม่กลัวทำให้คุณชายไม่พอใจเลยหรือ

“ไม่รู้จักสงบเสงี่ยม เอาแต่ก่อเรื่องอย่างนั้นรึ พูดจาสุนัขไม่รับประทานกระไรของเจ้า!”

ปลามังกรเอ่ยเสียงเย็น “ข้าแค่ต้องการกินหญ้าของพวกเจ้าเพียงไม่กี่เส้น หาใช่เรื่องใหญ่ที่ไหน พวกเจ้ายกหญ้าให้ข้าก็จบแล้ว หากจะบอกว่าไม่รู้จักสงบเสงี่ยม เอาแต่ก่อเรื่อง นั่นก็เป็นพวกเจ้า! แค่หญ้าไม่กี่เส้นกลับทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต พวกเจ้านี่เหลือเกิน!”

มอ มอ มอ!

ลูกวัวน้อยโมโหแทบบ้า เนตรวัวแดงก่ำ อยากโหม่งปลาตัวนี้ให้ตายไปเสีย

กลายเป็นความผิดของพวกมันเสียได้?

ปลามังกรตัวนี้เข้าใจยอกย้อนโบ้ยความผิดจริง!

“หญ้านี้คุณชายให้พวกเรามา เจ้ามีสิทธิ์อะไรมากิน? ได้รับอนุญาตจากคุณชายแล้วหรือ”

ลูกวัวน้อยเอ่ยด้วยท่าทางโมโห “เจ้าเพียงเห็นว่าพวกเรารังแกได้ง่าย ถึงได้คิดมาแย่งหญ้าของเราไปกิน เก่งจริงเจ้าไปกินผักหรือผลไม้ในไร่สิ!”

“ยังกล้าแข็งข้อกับข้าอีกหรือ!”

ปลามังกรแค่นเสียงเย็น “วันนี้ข้าต้องกินหญ้านี้ให้ได้ ข้าจะดูซิว่าผู้ใดไม่ยอมให้ข้ากิน!”

“เจ้าไปกินขี้เถอะ!”

“ไม่มีทาง!”

อสูรฟ้าชิงหนิวสี่ตัวขวางอยู่เบื้องหน้ากองหญ้า อย่างไรก็ไม่ยอมให้ปลามังกรได้กินหญ้าของพวกมันง่าย ๆ

“เยี่ยม!”

ปลามังกรหัวเราะร่วน เอ่ยด้วยน้ำเสียงอึมครึม “ตอนจอบนั่นอัดข้า พวกเจ้าหัวเราะสะใจเป็นที่หนึ่ง วันนี้ข้าจะให้พวกเจ้าได้ลิ้มรสการถูกอัดเสียบ้าง!”

มันจองหองพองขนถึงขีดสุดขณะเอ่ยต่อ “เจ้าพวกวัวโง่ วัวงี่เง่า เดรัจฉานชั้นต่ำ สายเลือดเลวทราม อย่างพวกเจ้าบังอาจทำตัวเป็นปรปักษ์กับข้า ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเอาเสียเลย!”

มันทำท่าจะลงมือในทันที หมายจะอัดอสูรฟ้าชิงหนิวสี่ตัวนี้ให้หนัก

“เจ้าสามหาวมาก!”

เวลานั้นเอง ลั่วสุ่ยกลับมาถึง คิ้วเรียวคล้ายใบหลิวของนางขมวดมุ่น เมื่อได้ยินวาจาที่ปลามังกรกล่าว

ทั้งวัวโง่ วัวงี่เง่า เดรัจฉานชั้นต่ำ สายเลือดเลวทราม…

ปลามังกรตัวนี้พูดจาไม่น่าฟังเอาเสียเลย!

บุ๋ง บุ๋ง!

พี่ลั่วสุ่ยกลับมาแล้ว พี่น้องเอ๋ย ส่งข้าออกไปเร็ว!

ภายในโอ่ง มัจฉาสัตมายาตะโกนด้วยความเต็มตื้น สั่งให้ปลาตัวอื่นส่งมันออกไป

ได้เลย!

ปลาตัวอื่นพากันลงมือ ส่งตัวมัจฉาสัตมายาออกไป

“พี่ลั่วสุ่ย ในที่สุดท่านก็กลับมา!”

มัจฉาสัตมายาร้องไห้คร่ำครวญ อย่าให้พูดเลยว่าสะเทือนใจปานใด ช่วงที่ผ่านมา มันคิดถึงพี่ลั่วสุ่ยเหลือเกิน!

บัดนี้ลั่วสุ่ยอยู่ในร่างมนุษย์ กระนั้นมันยังจำลั่วสุ่ยได้ในปราดเดียว มันจำเสียงลั่วสุ่ยได้!

“เจ้าออกมาได้อย่างไร คุณชายไม่อยู่บ้านหรือ”

ลั่วสุ่ยถาม

“ใช่แล้ว คุณชายไม่อยู่บ้าน เห็นว่าหยิบกระดานหมากออกไปด้วย เหมือนว่าจะไปเล่นหมากกับตงฟางเวิ่น”

มัจฉาสัตมายาเหินไปอยู่ข้างกายลั่วสุ่ย “ไม่เช่นนั้น ปลามังกรตัวนี้มีหรือจะกำเริบเสิบสานได้เพียงนี้! เฮ้อ พี่ลั่วสุ่ย ท่านไม่รู้เลยว่าหลายวันที่ผ่านมาข้าต้องทนทุกข์ทรมานขนาดไหน คุณชายยังไม่เคยปฏิบัติต่อข้าเช่นนี้เลย!”

มันร้องไห้หงุงหงิง น้อยอกน้อยใจเป็นที่สุด สาธยายความชั่วของปลามังกร

ระหว่างที่ลั่วสุ่ยฟัง สีหน้าก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ

นางโมโหมาก คิดไม่ถึงเลยว่าปลามังกรตัวนี้จะสร้างเรื่องเก่งเยี่ยงนี้!

“เจ้ากล้าดีอย่างไร ไม่กลัวคุณชายรู้เรื่องราวทั้งหมดนี้หรือ”

นางหันมองปลามังกร คิ้วขมวดเป็นปม ปลามังกรตัวนี้น่าชิงชังยิ่งนัก ข่มเหงเสี่ยวชี แล้วยังข่มเหงอสูรฟ้าชิงหนิวอีก

“เจ้ามีสิทธิ์อะไรมายุ่งเรื่องของข้า เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร!?”

ปลามังกรยิ้มเย็น ไม่เกรงกลัวลั่วสุ่ยแม้แต่น้อย “หากเจ้ามองสถานการณ์เป็นก็ไสหัวไปให้ไกล ๆ มิฉะนั้น ข้าจะอัดเจ้าด้วย!”

ทุกอย่างในลานแห่งนี้ล้วนเป็น ‘สิ่งของธรรมดา’ สำหรับท่านบรรพจารย์เซียน มันไม่กลัวลั่วสุ่ยไปฟ้องเช่นกัน

ลั่วสุ่ยมิได้โง่ปานนั้น ไม่กล้าฝ่าฝืนท่านบรรพจารย์เซียนเช่นกัน

มันหันไปมองมัจฉาสัตมายา เอ่ยอย่างดูแคลน “ปลาต่ำต้อยที่ท่านบรรพจารย์เซียนเลี้ยงไว้เป็นอาหารแมวบังอาจว่าร้ายข้าถึงเพียงนี้ อีกเดี๋ยวข้าจะกินเจ้าด้วย!”

“ว่าร้ายรึ!?”

มัจฉาสัตมายาสบถก่นด่า “เจ้าช่างกล้าพูดจริงเชียว ประโยคไหนของข้าไม่จริงกัน เจ้ายังกล้าทำร้ายพี่ลั่วสุ่ยอีกหรือ ความโปรดปรานที่พี่ลั่วสุ่ยได้จากท่านเซียนเจ้าหรือจะเทียบได้! เจ้าลองแตะต้องพี่ลั่วสุ่ยดูสิ รอดูว่าคุณชายจะปล่อยเจ้าไปหรือไม่!”

“ในอดีตอาจใช่ แต่หลังจากนี้ไม่ใช่อีกแล้ว! ข้ามาอยู่ที่นี่แล้ว ผู้ที่ท่านบรรพจารย์เซียนโปรดปรานที่สุดย่อมต้องเป็นข้า! สิ่งมีชีวิตสายเลือดต่ำต้อยอย่างพวกเจ้าไฉนเลยจะทัดเทียมข้าได้!”

ปลามังกรเอ่ย ไม่มีความเกรงกลัวเช่นเดิม

มันหัวเราะจากใจจริง ไม่ว่าจะเป็นอสูรฟ้าชิงหนิว หรือปลาตัวอื่นในโอ่ง หรือแม้กระทั่งลั่วสุ่ย ล้วนทาบเขาไม่ติด ห่างกันไกลโข!

นอกจากมีชีวิตเป็นนิรันดร์ มันไม่ต่างจากมัจฉาเซียนจริง ๆ เลย พวกลั่วสุ่ยมีหรือจะเทียบกับมันได้!?

เป็นไปไม่ได้เลย!

มันเชื่อว่ามันคือผู้ที่ได้รับความโปรดปรานที่สุดในลานเล็กนี้!

“เจ้าจองหองเกินไปแล้ว คุณชายไม่ชอบนิสัยเช่นเจ้าที่สุด!”

ลั่วสุ่ยทอดมองปลามังกร “เจ้าต้องขอขมาในทุกการกระทำก่อนหน้าของเจ้า ขอโทษเสี่ยวชี ขอโทษอสูรฟ้าชิงหนิว!”

“ข้าอยากจะขำให้ตาย! เจ้ามีสิทธิ์ใดสั่งสอนข้า ให้ข้าขอโทษอย่างนั้นหรือ! เจ้าอยู่ในชนชั้นไหน ไม่สำเหนียกบ้างเลยรึ”

ปลามังกรเอ่ยยิ้ม ๆ

มันดูออกว่าลั่วสุ่ยแข็งแกร่งมาก ทว่าลั่วสุ่ยยังมิได้ก้าวสู่ขั้นเซียน ตัวมันนั้นมีร่างเซียน ลั่วสุ่ยย่อมทำอะไรมันไม่ได้

“เจ้าปลาตัวนี้ช่าง…ยโสโอหัง น่าสังเวชนัก!”

ลั่วสุ่ยสั่นศีรษะ ปลามังกรตัวนี้สำคัญตัวเองเกินไปแล้ว

ที่นี่คือที่ใด?

ที่นี่คือลานเล็กของคุณชาย!

ปลามังกรคิดจริงหรือว่านางทำอะไรปลามังกรมิได้

“มัววางมาดใส่ข้าอยู่ได้! วันนี้ข้าจะอัดเจ้าก่อนเป็นคนแรก!”

สายตาปลามังกรมุ่งร้าย มั่นใจในร่างเซียนของตน หมายจะอัดลั่วสุ่ยก่อน

มันมาถึงที่นี่แล้ว ต่อจากนี้ไป มันคือพี่ใหญ่ของที่นี่!

ผู้ใดก็ไม่สามารถข่มมันได้!

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

รู้สึกตัวอีกที ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว [原來我是世外高人]

Status: Ongoing

‘หลี่จิ่วเต้า’ ชายหนุ่มผู้ถูกส่งตรงจากดาวเคราะห์สีฟ้ามายังโลกแห่งการฝึกตน ทว่ากลับไร้ซึ่งคุณสมบัติใด ๆ ในการเข้าสู่วิถีผู้ฝึกตน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหันมาตกปลา วาดภาพและเขียนกลอนขาย

อันที่จริงหลี่จิ่วเต้ารู้เพียงเล็กน้อยว่า เจ้าแมวน้อยที่มาหาตนเป็นครั้งเป็นคราวเพื่อขอปลากินนั้น แท้จริงแล้วคือพยัคฆ์ขาว ส่วนชายผมขาวที่แข่งเขียนพู่กันกับเขาเป็นตัวตนระดับบรรพกาล และที่จะลืมไปไม่ได้ สตรีผู้งดงามที่มาร้องขอให้เขาช่วยวาดรูปอยู่ทุกวัน นางถึงกับเป็นเซียนในตำนาน!

ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “เอาล่ะ…เช่นนั้น ข้าเป็นใครกัน?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน