ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 498 ช่วงชิง (กลาง)

ตอนที่ 498 ช่วงชิง (กลาง)

“​อยาก​เจอ​คน​ของ​สกุล​เดิมที​่​เรือน​ข้า​?​”​ ​สือ​อี​เหนียง​มองดู​ชิว​อวี​่​ที่มา​รายงาน​แล้ว​ยิ้ม​อย่าง​แผ่วเบา​

ชิว​อวี​่​ก้มหน้าก้มตา​ตอบกลับ​ ​“​หยาง​อี๋​เหนียง​พูด​เช่นนี้​เจ้าค่ะ​”

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​บาง​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เชิญ​หยาง​อี๋​เหนียง​ไป​เจอ​แขก​ที่​โถง​บุปผา​ข้าง​ประตู​ฉุยฮ​วา​เถิด​!​”

ชิว​อวี​่​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​นาง​รีบ​ขานรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​พูด​จบ​ ​ก็​มีสี​หน้า​ลังเล​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​…​ ​หาก​คนที​่​ซื่อ​ต้า​เป่า​มารา​ยงา​นอะ​ไร​หยาง​อี๋​เหนียง​…​”

“​ถึงแม้​จะ​เป็น​เช่นนั้น​ ​เกรง​ว่า​ท่าน​โหวก​็​คงจะ​รู้อยู่​แล้ว​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​อย่าง​นิ่ง​สงบ​ ​“​เจ้า​ไปรา​ยงา​นนาง​เถิด​!​”​ ​ไม่ได้​พูด​อะไร​ไปมา​กก​ว่านี​้​อีก

แน่นอน​ว่า​ชิว​อวี​่​ไม่กล้า​ถาม​อะไร​อีก​ ​นาง​ย่อเข่า​คำนับ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป

สือ​อี​เหนียง​นั่ง​เงียบ​อยู่​ที่​เดิม​ครู่หนึ่ง

ตอนนี้​มีเรื่อง​มากมาย​ ​ถึงแม้ว่า​ใน​จวนจะ​ดูเหมือน​ไม่มี​อะไร​เกิดขึ้น​ ​แต่​ได้ยิน​ซิ่ว​เหลียน​บอกว่า​ ​ฝ่าย​รักษาการณ์​ไม่มีวัน​หยุดงาน​ ​เกิดเรื่อง​เช่นนี้​ขึ้น​ ​ไม่มีทาง​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ไม่รู้​ ​คน​ของ​ฝ่าย​รักษาการณ์​ก็​ไม่มีทาง​ให้​ป้า​หยาง​ไป​เจอ​ต้า​เป่า​คน​นั้น​เพียงลำพัง​…​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​ตน​ก็​ไม่​ควร​ยื่นมือ​เข้าไป​ยุ่ง​!

คิด​เช่นนั้น​ ​นาง​ก็​ยิ้ม​แล้ว​ลุกขึ้น​ไป​เรือน​หน​่​วน​เก๋อ

ไม่รู้​ว่า​เป็น​เพราะ​สือ​อี​เหนียง​มักจะ​ชอบ​ให้​จิ​่น​เกอ​ฝึก​พลิกตัว​หรือเปล่า​ ​ตอนนี้​จิ​่น​เกอ​พลิกตัว​ได้​เก่ง​มาก​ ​แล้วยัง​พลิก​ไปมา​ได้​ด้วย​ ​แม่นม​กู้​คนเดียว​เริ่ม​ดูแล​เขา​ไม่ไหว​ ​อาจิน​และ​หง​เหวิน​จึง​ไม่กล้า​อยู่​ห่าง​จาก​เขา​แม้แต่น้อย​

เมื่อ​นาง​เข้าไป​ข้างใน​ ​จิ​่น​เกอ​กำลัง​นอน​มุดหัว​อยู่​บน​เตียง​เตา​ ​ครั้น​เห็น​มารดา​ของ​ตัวเอง​เดิน​เข้ามา​เขา​ก็​ยิ้มดี​ใจ

สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​เดิน​ไป​อุ้ม​เขา​ ​เอ่ย​ถาม​อย่าง​อ่อนโยน​ ​“​จิ​่น​เกอ​ทำ​อะไร​อยู่​หรือ​”

จิ​่น​เกอ​ดิ้น​พล่าน​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​นาง

อาจิน​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​รีบ​รายงาน​ ​“​คุณชาย​น้อย​หก​ไม่ยอม​ให้​คน​อุ้ม​ ​จะ​เล่น​บน​เตียง​เตา​เจ้าค่ะ​”

“​จริง​หรือ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​หอม​แก้ม​เขา​ด้วย​ใบหน้า​ที่​เต็มไปด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​เหตุใด​เจ้า​ถึง​ซน​เช่นนี้​!​”

จิ​่น​เกอ​ราวกับ​รู้​ว่า​มารดา​กำลัง​คุย​กับ​เขา​ ​ส่ง​ยิ้ม​กว้าง​ให้​สือ​อี​เหนียง​พลาง​ส่งเสียง​ ​“​แอ​๊​ๆ​ๆ​”

ในเวลาเดียวกัน​นั้น​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​ที่​ยืน​อยู่​ใต้​ชายคา​สีหน้า​พลัน​เปลี่ยนไป​ ​“ฮู​หยิน​ให้​ข้า​เจอ​กับ​ต้า​เป่า​ที่​โถง​ปุบ​ผา​ข้าง​ประตู​ฉุยฮ​วา​?​”​ เช่นนั้น​ก็​หมายความว่า​ ​นาง​ไม่​อยากรู้​ว่า​ต้า​เป่า​จะ​พูด​อะไร​กับ​ตน​!

ไม่รู้​หรือว่า​ไม่สน​ใจ​กัน​แน่​?

ทันใดนั้น​นาง​ก็​รู้สึก​สับสน​

ชิว​อวี​่​ไม่รู้​ว่า​หยาง​อี๋​เหนียง​คิด​อะไร​อยู่​ ​นาง​แค่​รู้สึก​ว่าการ​ที่​หยาง​อี๋​เหนียง​อยาก​เจอ​กับ​คนที​่​ชื่อ​ต้า​เป่า​คน​นั้น​ที่​เรือน​ของ​สือ​อี​เหนียง​นั้น​ช่าง​ไม่รู้​ความ​ ​เมื่อ​เห็น​สีหน้า​ของ​หยาง​อี๋​เหนียง​เปลี่ยนไป​ ​นาง​ก็​ยิ้ม​ ​“ฮู​หยิน​พูด​เช่นนี้​เจ้าค่ะ​ ​แล้วยัง​บอก​ให้​บ่าว​มาบ​อก​อี๋​เหนียง​ว่า​ ​ในเมื่อ​มี​คน​ของ​สกุล​เดิม​มาหา​อี๋​เหนียง​ ​บอก​ให้​อี๋​เหนียง​ต้อนรับ​เขา​ให้​ดี​ ​ทาง​โรง​ครัว​ ​โรงม้า​และ​ห้อง​ซือ​ฝังฮู​หยิน​ก็​บอก​หมด​แล้ว​ ​ถึง​ตอนนั้น​อี๋​เหนียง​ส่ง​คน​ไป​บอก​พวกเขา​ก็​พอ​ ​อาหาร​ ​ม้า​ ​และ​รางวัล​ตอน​กลับ​ก็​เตรียม​ไว้​หมด​แล้ว​เจ้าค่ะ​”

หยาง​อี๋​เหนียง​กำลัง​อยาก​จะ​พูด​อะไร​ ​ชิว​อวี​่​ก็​ชิง​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​ยัง​สั่ง​ให้​บ่าว​นำ​รายชื่อ​งานเลี้ยง​วันที่​สาม​เดือน​สาม​ไป​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ ​หาก​ท่าน​มีเรื่อง​อัน​ใด​ ​ก็​บอกอ​วี​้​เหมย​เถิด​ ​บ่าว​ขอตัว​ก่อน​เจ้าค่ะ​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​ย่อเข่า​คำนับ​แล้วไป​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​กับ​สาวใช้​อีก​สอง​คน​ทันที

ป้า​หยาง​มองดู​แผ่น​หลัง​ที่​เดิน​ออก​ไป​ไกล​ของ​ชิว​อวี​่​แล้ว​พูดเสี​ยง​เบา​ ​“​อี๋​เหนียง​เจ้า​คะ​ ​เรา​ ​เรา​จะ​ทำ​เช่นไร​ดีเจ​้า​คะ​”

“​ในเมื่อฮู​หยิน​พูด​เช่นนี้​”​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​มีสี​หน้า​เย็นชา​ ​“​เรา​ก็​ทำตาม​เถิด​!​”

ป้า​หยาง​ยัง​อยาก​จะ​พูด​อะไร​ ​แต่​หยาง​อี๋​เหนียง​กลับ​หันหน้า​เดิน​ไป​ทาง​ประตู​ฉุยฮ​วา​แล้ว​

ที่นั่น​มี​โถง​บุปผา​เล็ก​ๆ​ ​ปกติ​ใช้​ต้อนรับ​ผู้ดูแล​หญิง​ที่​มีหน้ามีตา​ของ​จวน​อื่น​ ​ตกแต่ง​อย่าง​เรียบง่าย

ต้า​เป่า​ที่​ถูก​ทุบตี​มา​ ​ทั้ง​หัว​และ​แขน​จึง​ถูก​ผ้า​พัน​เอาไว้​

“​…​หลังจาก​รู้​ว่า​ท่าน​โหว​ถูก​กวาดล้าง​ ​ครอบครัว​พวกเรา​ก็​ถูก​พวก​อันธพาล​เล่นงาน​ ​ไม่เพียงแต่​มารีด​ไถ​เงิน​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ ​แล้วยัง​ไม่รู้​ว่า​ไปหา​ตั๋ว​ยืม​เงิน​ที่นาย​ท่าน​เป็น​คนเขียน​มาจาก​ไหน​ ​ตั๋ว​ยืม​เงิน​สาม​พัน​ตำลึง​ ​แต่​ดอกเบี้ย​ตั้ง​สาม​หมื่น​ตำลึง​ ​พวก​หลี​่​จั่ง​และ​เป่า​จั่ง​ที่​เป็น​สหาย​ของ​นายท่า​นก​ลับ​แสร้งทำ​เป็น​ไม่รู้​ ​นายท่าน​ไม่มีทาง​เลือก​ ​จึง​ให้​บ่าว​มาหา​คุณหนู​ขอรับ​ ​ขอร้อง​ให้​คุณหนู​พูด​กับ​ท่าน​โหว​ ​ให้​คน​พวก​นั้น​ได้​เห็น​ ​แก้น​แค้น​ให้​นายท่าน​ด้วย​ขอรับ​”

สาวใช้​สอง​คนที​่​คอย​รับใช้​อยู่​ใน​โถง​บุปผา​ก้มหน้าก้มตา​ลอบ​ยิ้ม

หยาง​อี๋​เหนียง​หน้าแดง​ ​นาง​พูด​อะไร​ไม่​ออก​ ​จากนั้น​ก็​บอก​ให้​ป้า​หยาง​พาต้า​เป่า​ไป​ทานข้าว​

แต่​ต้า​เป่า​กลับ​ขอร้อง​หยาง​อี๋​เหนียง​ ​“​คุณหนู​ขอรับ​ ​เรื่อง​นี้​จะ​จัดการ​เช่นไร​ ​อย่างน้อย​ท่าน​ก็​ต้อง​ให้​บ่าว​กลับ​ไปรา​ยงาน​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​นายท่า​นคง​จะ​ไม่​อยาก​มีชีวิต​อยู่​ต่อไป​แล้ว​ขอรับ​!​”

หยาง​อี๋​เหนียง​ได้​ฟัง​แล้วก็​โมโห​จน​ปวดใจ​ ​“​เจ้า​ไป​บอก​เขา​ว่า​ ​ติดหนี้​ก็​ต้อง​คืน​ ​มัน​คือ​กฎ​ของ​สัจธรรม​ ​หาก​เขา​คิด​ว่า​ดอกเบี้ย​เยอะ​เกินไป​ ​ก็​ไป​ฟ้องศาล​!​”​ ​พูด​จบ​นาง​ก็​เดิน​ออก​ไป

ป้า​หยาง​รีบ​เดินตาม​ไป

หยาง​อี๋​เหนียง​กำลัง​โมโห​ ​จึง​เดิน​เร็ว​กว่า​ปกติ​สองเท่า​ ​เมื่อ​กลับ​ไป​ถึง​เรือน​ ​นาง​ก็​ล้ม​ตัว​ลงนอน​บน​เตียง​เอา​มือ​กุม​แผ่น​อก​ตัวเอง

ป้า​หยาง​เห็น​สีหน้า​ของ​นาง​ซีด​ขาว​ ​จึง​รีบ​ไปริน​ชาร้อน​มา​ให้

น้ำตา​ของ​หยาง​อี๋​เหนียง​พลัน​ไหลริน​ออกมา​

ป้า​หยาง​รู้​ว่านาง​ลำบากใจ​ ​จึง​พูด​ปลอบ​นาง​อย่าง​อ่อนโยน​ ​“​ถึงแม้ว่า​จะ​ผิดพลาด​ขนาด​ไหน​ ​แต่​เขา​ก็​เลี้ยงดู​ท่าน​มา​ ​ไม่มี​เขา​ก็​ไม่มี​ท่าน​ ​แล้ว​อีก​อย่าง​ตอน​อยู่​ที่​จน​สกุล​เดิม​ถึงแม้ว่า​จะ​ยากลำบาก​ ​แต่​เขา​ก็​ไม่​เหมือน​คนอื่นๆ​ ​ที่​พอ​เจอ​ปี​ที่​ไม่มีผล​ผลิต​ก็​ขาย​ลูกหลาน​ของ​ตัวเอง​ให้​คนอื่น​…​”

หยาง​อี๋​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ร้องไห้

ป้า​หยาง​นั่ง​อยู่​ข้างๆ​ ​คอย​ลูบ​หัว​ของ​นาง​เบา​ๆ

ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​ก็​ค่อยๆ​ ​หยุด​ร้อง​ ​จากนั้น​ก็​ค่อยๆ​ ​ลุกขึ้น​นั่ง​ตัวตรง​ ​“​ท่าน​ป้า​ ​ท่าน​ไป​บอก​ให้​สาวใช้​ตัก​น้ำ​เข้ามา​ให้​ข้า​ล้างหน้าล้างตา​เถิด​ ​ประเดี๋ยว​ไปดู​ที่​เรือน​หลัก​ว่า​ท่าน​โหวก​ลับ​มา​แล้ว​หรือยัง​!​”

ป้า​หยาง​รู้​ว่านา​งดี​ขึ้น​แล้ว​ ​ก็​ยิ้ม​แล้ว​ตอบรับ​ ​จากนั้น​ก็​ไป​บอก​ให้​สาวใช้​ตัก​น้ำ​เข้ามา​ ​แล้วไป​ดู​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตามคำสั่ง

*****

สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​เจน​ตนา​ของ​ต้า​เป่า​คน​นั้น​นาง​ก็​ตกใจ​

นี่​คือ​คำพูด​ที่ว่า​ ​ไม้​ล้ม​ลิง​กัง​กระเจิง[1]เช่นนั้น​หรือ

นาง​ถอนหายใจ​เบา​ๆ​ ​แล้ว​พูด​กับ​ชิว​อวี​่​ ​“​ช่วงนี้​ข้า​จะ​พักผ่อน​อยู่​ที่​เรือน​ ​วันที่​สาม​เดือน​สาม​ ​โจวฮู​หยิน​ ​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​และ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​อาจจะ​มาหา​ข้า​ ​เจ้า​ไป​บอก​สะใภ้​จี้​ถิง​ ​ไปดู​ว่า​ช่วงนี้​ที่​เรือน​หน​่​วน​ฝัง​มีด​อก​อะไร​ที่​สีสัน​สวยงาม​หรือไม่​ ​ถึง​ตอนนั้น​ย้าย​มาสัก​สอง​สาม​กระถาง​ ​นำมา​ประดับ​ตกแต่ง​เรือน​ให้​ข้า​ ​แล้วก็​ให้​นาง​ส่ง​ท่าน​ป้า​ที่​รู้ความ​สอง​คน​ไป​ที่​จวน​จง​ฉินปั​๋​วกับ​ป้า​ซ่ง​วันพรุ่งนี้​ ​ไปดู​ว่า​ลาน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​สกุล​กาน​ขาดแคลน​ดอกไม้​หรือไม่​ ​อยาก​จะ​ตกแต่ง​ตรงไหน​หรือไม่​!​”

สอง​สาม​ปี​มานี​้​ ​นาง​ส่ง​คน​ไปดู​แล​ดอกไม้​ต้นไม้​ใน​ลาน​ของ​กาน​ไท่ฮู​หยิน​อยู่​ตลอด

ชิว​อวี​่​ตอบรับ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป

จู๋​เซียง​ที่​รับใช้​อยู่​ข้างๆ​ ​ก็​พูดว่า​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​กระดูก​ที่​หัก​ก็​ยัง​ติด​อยู่​กับ​เส้นเอ็น​ ​ถึงแม้ว่า​หยาง​อี๋​เหนียง​จะ​บอกว่า​คนใน​สกุล​หยาง​ไม่ดี​กับ​นาง​ ​แต่​เกิดเรื่อง​เช่นนี้​ขึ้น​ ​เกรง​ว่านา​งคง​จะ​ช่วย​ออกหน้า​ขอร้อง​ ​ท่าน​ดู​จาก​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ก็​รู้​แล้ว​เจ้าค่ะ​ ฮู​หยิน​ไม่​สู้​ปรึกษา​กับ​ท่าน​โหว​ ​ถึง​ตอนนั้น​จะ​ได้​ให้​คำตอบ​หยาง​อี๋​เหนียง​ไป​ตรงๆ​ ​นาง​จะ​ได้​ไม่​ไปหา​ท่าน​โหว​เจ้าค่ะ​!​”

ถึงแม้​จะ​พูดอ้อมค้อม​ ​แต่​ความหมาย​กลับ​แฝง​อยู่​ใน​นั้น

นาง​กลัว​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ใจอ่อน​เพราะ​หน้าตา​ที่​สวยงาม​ของ​หยาง​อี๋​เหนียง​ ​ไม่​สู้​ปรึกษา​กับ​ท่าน​โหว​ให้​เรียบร้อย​ ​ถึง​ตอนนั้น​ตน​ก็​ค่อย​ไป​บอก​หยาง​อี๋​เหนียง​ ​จะ​ได้​ให้​หยาง​อี๋​เหนียง​รู้​ว่า​ตน​นั้น​มีอิทธิพล​มาก​แค่ไหน

สือ​อี​เหนียง​มอง​ไป​ที่นาง​แล้ว​ยิ้ม​ ​“​ข้า​ไม่​อยาก​ช่วย​นาง​เรื่อง​นี้​”

จู๋​เซียง​ได้​ฟัง​แล้วก็​ประ​หลาก​ใจ

นาง​คือ​คน​ของ​อี๋​เหนียง​ห้า​ ​เป็น​คน​เฉลียวฉลาด​มีไหวพริบ​ดี​ ​ถือเป็น​แขน​ซ้าย​ของ​ตัวเอง​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​พูดเสี​ยง​เบา​ ​“​หาก​เจ้า​ฟัง​ความหมาย​ของ​ต้า​เป่า​ออก​ ​เจ้า​ก็​น่าจะ​รู้​ว่า​บิดา​ของ​หยาง​อี๋​เหนียง​เป็น​คน​เช่นไร​!​ ​เขา​ไม่​คิด​ที่จะ​ทำให้​เรื่อง​มัน​สงบ​ลง​ ​แต่กลับ​คิด​ว่า​จะ​จัดการ​คน​พวก​นั้น​แบบ​ใด​ ​ตอนนี้​ฟัง​ดูแล​้​วรา​วกับ​ว่า​เขา​ได้รับ​ความ​ไม่​ยุติธรรม​ ​แต่​เจ้า​ลอง​คิดดู​ดี​ๆ​ ​เกรง​ว่า​เขา​คง​เป็น​คนที​่​ยโส​โอหัง​ ​คน​เช่นนี้​ ​เหตุใด​ข้า​ต้อง​ช่วย​เขา​ด้วย​เล่า​!​”

จู๋​เซียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​พยักหน้า​เล็กน้อย​ ​จากนั้น​ก็​พูด​อย่าง​เคร่งขรึม​ ​“​บ่าว​เพียง​เห็น​ว่าฮู​หยิน​ช่วยเหลือ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​ตอนนี้​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​จริงใจ​และ​ซื่อสัตย์​กับฮู​หยิน​มาก​เจ้าค่ะ​ ​…​ ​“

“​ใช่​ว่า​ข้า​ต้องการ​ความจริงใจ​และ​ซื่อสัตย์​ทั้งหมด​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูดเสี​ยง​เบา​ราว​กระซิบ​ ​จากนั้น​ก็​กลับมา​พูดเสี​ยง​ปกติ​ ​“​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ไม่​เหมือน​หยาง​อี๋​เหนียง​ ​ไท่ฮู​หยิน​สกุล​เหวิน​เดือดร้อน​เพราะ​บุตรชาย​ของ​ตัวเอง​!​”

จู๋​เซียง​หน้าแดง​ ​นาง​พูดเสี​ยง​เบา​ ​“​บ่าว​ ​บ่าว​รู้​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

สือ​อี​เหนียง​ไม่​พูด​อะไร​อีก​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​เปลี่ยน​เรื่อง​ ​“​หู่​พั่ว​ไม่​ขาดแคลน​อะไร​แล้ว​จริง​หรือ​”

จู๋​เซียง​พึ่ง​ออกมา​จาก​เรือน​ของ​หู่​พั่ว

“​ไม่​ขาดแคลน​อะไร​แล้ว​จริงๆ​ ​เจ้าค่ะ​!​”​ ​จู๋​เซียง​ยิ้ม​ ​“​พี่​หู่​พั่ว​บอกว่า​ ​นาง​ไม่ได้​อยู่​ทำงาน​ที่​จวน​แล้ว​ ​แต่​ยัง​มีท​่าน​ให้เงิน​ก้นถุง​ ​พี่เขยก​่​วน​ก็​มีเงิน​เดือน​ ​เสื้อผ้า​และ​เครื่องประดับ​ก็​ไม่จำเป็น​ต้อง​เพิ่ม​ ​ประหยัด​หน่อย​ก็​มีเงิน​ใช้​ไป​ถึง​สามสี​่​ปี​เจ้าค่ะ​ ​แล้ว​พี่​ปินจ​วี​๋​ก็​ยัง​นำ​เสื้อผ้า​ที่​ฉั​งอาน​เคย​ใส่​ส่ง​ไป​ให้​ ​อีกทั้ง​นาง​ยัง​ทำงาน​เย็บปักถักร้อย​แล้ว​นำ​ไป​ขาย​ที่​ร้าน​เหมือนกับ​ปินจ​วี​๋​ ​บอกว่าฮู​หยิน​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ ​รอ​ให้​ผ่าน​ไป​สัก​สอง​สาม​วัน​ ​ท่าน​ดีขึ้น​แล้ว​ ​นาง​ค่อย​มาหา​ท่าน​เจ้าค่ะ​”

ใน​บรรดา​สาวใช้​ที่​แต่งงาน​ออก​ไป​ ก​่​วน​ชิง​นั้น​มี​ความสามารถ​ด้อย​ที่สุด​ ​ดังนั้น​สือ​อี​เหนียง​จึง​เป็นห่วง​หู่​พั่ว​ที่สุด​ ​ได้ยิน​จู๋​เซียง​พูด​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​อยาก​หา​เสื้อผ้า​ของ​จิ​่น​เกอ​ให้​จู๋​เซียง​นำ​ไป​ให้​หู่​พั่ว​ ​แต่​คิดดู​แล้ว​ ​เนื้อผ้า​พวก​นั้น​ล้วนแต่​มีราคา​เกินไป​ ​หาก​นำ​ไป​ให้​หู่​พั่ว​จริงๆ​ ​เกรง​ว่า​หู่​พั่ว​คงจะ​ไม่​ให้​ลูก​ตัวเอง​ใส่​แน่นอน​ ​นาง​จึง​บอก​กับ​จู๋​เซียง​ ​“​ถ้าอย่างนั้น​เจ้า​ก็​อย่า​ช่วย​หู่​พั่ว​ปิดบัง​ ​หาก​มี​อะไร​ก็​พูด​ออกมา​เถิด​!​”

จู๋​เซียง​ยิ้ม​แล้ว​ตกปากรับคำ

จากนั้น​ฟัง​ซีก​็​เดิน​เข้ามา​ ​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​ไป​ที่​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”

สือ​อี​เหนียง​เลิก​คิ้ว

จู๋​เซียง​พูด​ ​“​นาง​ช่างกล​้า​เสีย​จริง​!​”

พวก​นาง​สอง​คน​หันไป​มอง​สือ​อี​เหนียง​ ​รอ​ให้​สือ​อี​เหนียง​ตัดสินใจ

สือ​อี​เหนียง​ค่อยๆ​ ​ลุกขึ้น​ ​“​เรา​ไปดู​กัน​เถิด​!​”

*****

ทาง​ที่​เดิน​ไป​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​ค่อนข้าง​แคบ​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​ถือ​โคมไฟ​อยู่​ ​แต่​เสียง​ฉีกขาด​ของ​เสื้อผ้า​ที่​ดัง​ขึ้น​มาทำ​ให้​หยาง​อี๋​เหนียง​รู้​ว่า​กระโปรง​สีเขียว​ตัวใหม่​ของ​นาง​คงจะ​ถูก​เกี่ยว​จน​ขาด​ไป​แล้ว​สอง​สาม​ที่

มี​คน​ตะโกน​ถาม​ขึ้น​มา​ ​“​นั่น​ใคร​!​”

หยาง​อี๋​เหนียง​หยุด​เดิน​ ​นาง​หายใจเข้า​แล้ว​พูดเสี​ยง​เบา​ ​“​ข้า​หยาง​อี๋​เหนียง​ ​เจ้า​ไปรา​ยงาน​ท่าน​โหว​ให้​ที​เถิด​ว่า​ข้ามี​เรื่องสำคัญ​จะ​คุย​กับ​ท่าน​โหว​”

คนที​่​ตะโกน​เมื่อ​ครู่​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ตอบกลับ​ ​“​อี๋​เหนียง​โปรด​รอสั​กค​รู่​ขอรับ​ ​บ่าว​จะ​ไปรา​ยงาน​ท่าน​โหว​ประเดี๋ยวนี้​!​”

หยาง​อี๋​เหนียง​เอ่ย​ ​“​ขอบใจ​”​ ​แล้ว​ยืน​ตัวตรง​รอ​อยู่​ที่​เดิม

พระจันทร์​ใน​วัน​ขึ้น​สิบห้า​ค่ำ​มักจะ​กลม​โต​ ​แต่​ปีนี​้​กลับเป็น​พระจันทร์​ครึ่ง​เสี้ยว​ ​ไร้​ดวงดาว​บน​ท้องฟ้า​ ​ลม​พัดผ่าน​ยอดไม้​ทำให้เกิด​เสียง​ ​พลอย​ทำให้​นาง​รู้สึก​ราวกับ​อยู่​ใน​คลื่น​ทะเล​ ​โดดเดี่ยว​และ​เดียวดาย​ ​แต่กลับ​ไม่กล้า​ขยับ​ไป​ไหน​แม้แต่น้อย

นาง​เคย​ได้ยิน​คนพูด​ว่า​ ​ห้อง​หนังสือ​ของ​ขุนนาง​ระดับสูง​อย่าง​สวี​ลิ่ง​อี๋​มักจะ​มี​คน​คุ้มกัน​ที่​มีฝีมือ​คอย​เฝ้า​อยู่​ตลอด​ ​หาก​ไม่​ระวัง​ ​ก็​อาจจะ​ถูก​เข้าใจผิด​ว่า​เป็น​คนร้าย​และ​ถูก​ฆ่า​ตาย​ได้​…

เมื่อก่อน​ ​นาง​เป็น​คน​ของ​ไท่​เฮา​ ​แต่​ตอนนี้​ ​นาง​เป็น​เพียง​หลานสาว​ของ​นักโทษ

หาก​เป็น​อะไร​ไป​ ​เกรง​ว่า​คง​ไม่มีใคร​จำ​นาง​ได้​!

คิด​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​ว่า​เวลา​ช่าง​ผ่าน​ไป​ช้า​เสีย​จริง

———————————————–

[1]​ไม้​ล้ม​ลิง​กัง​กระเจิง ​มัก​ใช้​เพื่อ​เปรียบเทียบ​กับ​การกำ​จัด​ผู้​ชั่วช้า​ที่​มีอำนาจ​บารมี​ ​เมื่อ​กำจัด​ตัวการ​หัวหน้า​ใหญ่​ได้​เมื่อใด​ ​บรรดา​ลูกสมุน​ที่​เคย​รวมหัว​กัน​ทำชั่ว​ก็​ย่อม​แตก​กระจาย​ไป​เอง​ในที่สุด

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท