ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 501 ทางเลือก (กลาง)

ตอนที่ 501 ทางเลือก (กลาง)

กลับมา​ก่อน​ก็​กลับมา​ก่อน​ ​แล้ว​เหตุใด​ต้อง​อยู่​ที่​ศาลา​ชุน​เหยี​่​ยน​ตั้ง​นาน​เล่า

​สวี​ลิ่ง​อี๋​มองดู​ท่าที​ที่​นิ่งเฉย​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​ก็​แอบ​หัวเราะ​ใน​ใจ

นาง​ยัง​ไม่รู้​นิสัย​ของ​ตัวเอง​ ​ยิ่ง​เป็นเรื่อง​ที่​สำคัญ​เท่าไหน​ ​นาง​ก็​ยิ่ง​ทำท่า​ที​ไม่สน​ใจ​เท่านั้น

​เขา​จึง​สนใจ​เพียง​ครึ่ง​ประโยค​แรก​มากกว่า

​“​ทำไม​ถึง​ไปหา​ข้า​เล่า​”​ ​เขามอง​ไป​ที่นา​งด​้ว​ยสาย​ตา​ที่​มี​รอยยิ้ม​ ​“​ข้ามี​หลิน​ปัว​คอย​ดูแล​ ​เมื่อก่อน​ก็​เคย​อยู่​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​เป็น​เดือน​ๆ​ ​เสื้อผ้า​อะไร​ก็​มี​หมด​ ​เจ้า​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​!​ ​ไปหา​ข้า​กลาง​ค่ำ​กลางคืน​เช่นนี้​ ​ทำให้​ข้า​เป็นห่วง​เจ้า​เสียมา​กก​ว่า​!​”​ ​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​มองดู​รองเท้า​ที่​ปัก​ลาย​ดอก​กล้วยไม้​หยก​สีแดง​ของ​สือ​อี​เหนียง

​สือ​อี​เหนียง​จึง​ดึง​เท้า​กลับ​ตาม​สัญชาตญาณ​

ก่อนหน้านี้​นาง​คิด​ว่า​ประโยค​ที่ว่า​ ​‘​กลับมา​ก่อน​’​ ​คือ​จุดสำคัญ​ ​เช่นนี้​ ​เรื่อง​ที่​หยาง​อี๋​เหนียง​อยู่​ที่​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​ก็​กลายเป็น​หัวข้อ​บทสนทนา​…​ซึ่ง​นาง​คิด​วิธี​รับมือ​สำหรับ​เรื่อง​นี้​ไว้​แล้ว​ ​หาก​เขา​ถาม​ ​นาง​จะ​ตอบ​เขา​ว่า​ ​‘​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​คือ​เรือน​ห้อง​หนังสือ​ของ​ท่าน​โหว​ ​สกุล​หยาง​ถูก​กวาดล้าง​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​ไปหา​ท่าน​ ​ข้า​คิด​ว่านา​งค​งมี​เรื่องสำคัญ​อยาก​จะ​ปรึกษา​ท่าน​ ​สตรี​อย่าง​ข้า​ ​ไม่​ควร​เข้าไป​ยุ่ง​เจ้าค่ะ​’

บางที​หาก​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​เช่นนี้​เขา​อาจจะ​เล่าเรื่อง​ที่​หยาง​อี๋​เหนียง​อยู่​ที่​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​ให้​นาง​ฟัง​!

แต่​เขา​กลับ​ไม่​พูด​อะไร​สัก​คำ​ ​เอาแต่​พูดถึง​ครึ่ง​ประโยค​แรก​ ​ฟัง​จาก​น้ำเสียง​นั้น​ ​ราวกับว่า​นาง​แอบ​ไปหา​เขา​เป็นการ​ส่วนตัว​!

​สือ​อี​เหนียง​โมโห​ ​คิด​ว่า​หาก​ตัวเอง​ไม่​ตอบ​ ​มัน​ก็​จะ​เหมือนกับ​ที่​เขา​พูด​ ​แต่​หาก​ตอบ​ ​ตอนนี้​นาง​ยัง​หาเหตุ​ผล​ที่​ฟังขึ้น​ไม่ได้​…​นาง​กังวล​ ​หัวหมุน​อย่างรวดเร็ว​ ​แต่​คน​ถาม​กลับ​นั่ง​อย่าง​สง่างาม​ ​รอยยิ้ม​ก็​อ่อนโยน​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ ​นาง​เหลือบมอง​ไป​ที่​ผล​อิง​เถา​แกะสลัก​ใน​ถาด​หยก​เหอ​เถี​ยน​ที่อยู่​ข้างหลัง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​จากนั้น​ก็​พูดว่า​ ​“​ยาม​เที่ยง​ท่าน​โหว​มาหา​จิ​่น​เกอ​แล้วก็​กลับ​ไป​ ​ไม่อยู่​ทานข้าว​ที่นี่​ ​สาวใช้​เก็บ​เซียง​ชุน​มาทำ​ขนม​เซียง​ชุน​ ​เพราะว่า​เป็นต้น​อ่อน​ ​จึง​ทั้ง​หอม​ทั้ง​นุ่ม​ ​อร่อย​มาก​เจ้าค่ะ​ ​จึง​อยาก​นำ​ไป​ให้ท่าน​โหว​ทานพ​รุ่ง​นี้​เช้า​”

จริง​หรือ​?

ต้นอ่อน​ของ​เซียง​ชุน​ต้อง​เก็บ​ตอนเช้า​ไม่ใช่​หรือ​?​ ​ถึงแม้ว่า​เขา​จะ​ไม่ได้​อยู่​ทานข้าว​เที่ยง​ ​แต่​เขา​ก็​เล่น​กับ​จิ​่น​เกอ​ตั้ง​นาน​ ​หาก​ทำ​ขนม​เซียง​ชุน​ไว้​จริงๆ​ ​ด้วย​นิสัย​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​นาง​คงจะ​บอก​ให้​บ่าว​รับใช้​ของ​เขา​นำ​กลับ​ไป​ด้วย​ ​หรือไม่ก็​ให้​สาวใช้​ส่ง​ไป​ให้พรุ​่ง​นี้​เช้า​ ​นาง​ไม่ใช่​คนที​่​จะ​วิ่ง​ไป​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​กลาง​ค่ำ​กลางคืน​เช่นนี้​!

​สายตา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เฉียบแหลม​

​“​ถึง​เวลา​ทาน​เซียง​ชุน​แล้ว​หรือ​”​ ​เขา​หัวเราะ​ ​“​ช่วงนี้​ข้า​ยุ่ง​จน​ลืม​เรื่อง​นี้​ไป​เลย​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​อีกว่า​ ​“​เจ้า​ไม่เป็นอะไร​ก็ดี​แล้ว​ ​บอก​ให้​สาวใช้​ห่อ​เซียง​ชุน​ให้​หลิน​ปัว​นำ​กลับ​ไป​เถิด​!​”

​ตอนเช้า​เก็บ​ต้นอ่อน​ของ​เซียง​ชุน​แล้ว​จริงๆ​ ​แต่​ทำ​บะหมี่​เซียง​ชุน​ ​ไม่ได้​ทำ​ขนม​เซียง​ชุน

​“​คิดไม่ถึง​ว่า​ท่าน​โหว​จะ​มา​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​“​พอดี​ว่า​ป้า​ตู้​มาดู​จิ​่น​เกอ​ ​จึง​ให้​นาง​นำ​กลับ​ไป​แล้ว​”​ ​นาง​พูด​ ​“​ในเมื่อ​ท่าน​โหว​ชอบ​ ​พรุ่งนี้​เช้า​ข้า​จะ​ให้​สาวใช้​ไป​เก็บ​ต้นอ่อน​ของ​เซียง​ชุน​แต่เช้า​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​ปฏิเสธ​ ​เขา​พูด​ ​“​ที่​เรือน​ยัง​มีต​้​นอ​่อ​นข​อง​เซียง​ชุน​อยู่​ใช่​หรือไม่​”

​เป็น​ประโยคบอกเล่า​ ​ไม่ใช่​ประโยคคำถาม

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​อย่าง​แผ่วเบา

​การ​โกหก​ที่​เป็นความ​จริง​ ​มักจะ​มี​ความจริง​อยู่​ใน​นั้น​เก้า​ถึง​สิบ​ส่วน​!

​ต้นอ่อน​ของ​เซียง​ชุน​จะ​อ่อน​ตอน​ก่อน​และ​หลัง​พระอาทิตย์​ขึ้น​ ​นาง​บอก​ให้​โรง​ครัว​ทำ​ขนม​เซียง​ชุน​ให้​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ทานพ​รุ่ง​นี้​ ​รอ​ให้พระ​อาทิตย์​ขึ้น​แล้ว​ค่อย​ไป​เก็บ​มัน​จะ​ไม่ทัน​ ​โรง​ครัว​น่าจะ​ยัง​มีต​้​นอ​่อ​นข​อง​เซียง​ชุน​อยู่

​นาง​ยิ้ม​แล้ว​ตอบรับ​ ​“​ยัง​มีอยู่​เจ้าค่ะ​”

​มองดู​เขา​ด้วย​สายตา​ที่​เป็นประกาย​ ​ราวกับ​เด็กน้อย​ที่​ก่อเรื่อง​สำเร็จ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลั้น​เสียงหัวเราะ

​“​ข้า​ยุ่ง​อยู่​ตลอด​ ​ยัง​ไม่ได้​ทานข้าว​เลย​ ​เจ้า​ทำ​บะหมี่​เซียง​ชุน​ ​ให้​ข้า​สัก​ชาม​เถิด​!​”

ท่าน​อยาก​ทาน​ ​ข้า​ก็​จะ​ทำให้​ทาน​!

​“​ได้​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​ลงมา​จาก​เตียง​เตา​ ​“​แต่​ตอนนี้​ยามซ​วี​แล้ว​ ​เหตุใด​ท่าน​โหว​ถึง​ยัง​ไม่ได้​ทานข้าว​เล่า​”

เขา​ไม่​ทาน​อะไร​ยามดึก​ไม่ใช่​หรือ​ ​ประเดี๋ยว​จะ​ทำ​ชาม​ใหญ่​ให้​เขา​ ​ดู​สิว​่า​จะ​ทาน​หมด​หรือไม่

​นาง​ยิ้ม​ ​“​ท่าน​โหว​นั่ง​พัก​สักครู่​ ​ประเดี๋ยว​บะหมี่​ก็​มา​เจ้าค่ะ​!​”

​แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​ตาม​นาง​ไป​ที่​โรง​ครัว​เล็ก

​“​ซื่อ​เจิง​มาคุ​ยกับ​ข้า​ตั้ง​นาน​ ​จากนั้น​หวัง​ลี่​ก็​มา​”​ ​เขา​นั่ง​ที่​โต๊ะ​สี่เหลี่ยม​นอก​ห้องครัว​มองดู​สือ​อี​เหนียง​นวดแป้ง​ ​“​พวก​ข้า​จึง​พูดคุย​กัน​จน​ลืม​เวลา​ ​เดิมที​ว่า​จะ​อยู่​ทานข้าว​เย็น​ด้วยกัน​ ​แต่​บ่าว​รับใช้​จวน​องค์​หญิง​รีบ​วิ่ง​มาบ​อก​ว่า​มีเรื่อง​สำคัญ​ให้​ซื่อ​เจิง​รีบ​กลับ​ไป​ ​พึ่ง​จะ​จัด​อาหาร​เสร็จ​ ​ผู้ดูแล​สกุล​หวัง​ก็​มาหา​หวัง​ลี่​ ​บอกว่า​ขันที​มาหา​เขา​ตามคำสั่ง​ของ​ฮ่องเต้​…​พอกำ​ลัง​จะ​ทาน​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​ก็​มาหา​ข้า​อีก​ ​สุดท้าย​จึง​ไม่ได้​ทาน​อะไร​เลย​จนถึง​ตอนนี้​”

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​ฟัง​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ ​แต่​ป้า​อู๋​ผู้ดูแล​โรง​ครัว​เล็ก​ที่​คอย​ยืน​รับใช้​อยู่​ข้างๆ​ ​กลับหัว​ใจเต้น​แรง

ไม่รู้​ว่า​ท่าน​โหว​และฮู​หยิน​เล่น​อะไร​กัน​อยู่​ ​ถึงแม้ว่า​อยาก​จะ​ให้ฮู​หยิน​ต้ม​บะหมี่​ให้​ ​แต่​แค่​บอก​โรง​ครัว​ก็​พอแล้ว​ ​เหตุใด​ถึง​ให้ฮู​หยิน​ลงมือทำ​เอง

แล้วก็​ท่าน​โหว​ ​อยาก​ทาน​บะหมี่​ ​แค่นั​่ง​จิบ​ชา​ประเดี๋ยวเดียว​ก็ได้​ทาน​ ​แต่กลับ​มานั​่ง​รอที​่​โรง​ครัว​เล็ก​เช่นนี้​!

​นาง​นึก​ขึ้น​มา​ได้​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ยัง​ไม่สบาย​ ​แล้วก็​เห็น​ข้อมือ​เล็ก​ๆ​ ​ที่​ถอด​กำไล​ข้อมือ​ออก​แล้ว​ของ​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​นวดแป้ง​เบา​ๆ​ ​นาง​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​กังวล​

การ​นวดแป้ง​เป็น​งาน​ที่​ต้อง​ใช้​แรง​ ​หาก​นวด​ไม่ดี​ ​ประเดี๋ยว​เส้น​บะหมี่​จะ​กลายเป็น​ก้อน

​นาง​จึง​มอง​ไป​ที่​สือ​อี​เหนียง

​ในที่สุด​แขน​เสื้อ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ก็​หล่น​ลงมา​ ​นาง​รีบ​เดิน​เข้าไป​ช่วย​สือ​อี​เหนียง​พับ​แขน​เสื้อ​ ​แล้ว​ถือโอกาส​กระซิบ​ข้าง​หู​สือ​อี​เหนียง​เบา​ๆ​ ​“​บ่าว​บอก​ให้​สาวใช้​ข้างนอก​นวดแป้ง​เอาไว้​แล้ว​เจ้าค่ะ​ ​ประเดี๋ยว​บ่าว​ขยิบตา​ให้ท่าน​ ​ท่าน​ก็​ไป​ต้ม​บะหมี่​ที่​ห้อง​เตา​ได้​เลย​เจ้าค่ะ​!​”

​แต่​สือ​อี​เหนียง​กลับ​นวดแป้ง​ต่อ​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูด​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​อาหาร​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​ที่สุด​ของ​มนุษย์​ ​หาก​ท่าน​โหว​เจอ​เหตุการณ์​เช่นนี้​อีก​ก็​ควร​ทานข้าว​ให้​อิ่ม​ก่อน​นะ​เจ้า​คะ​!​”

​แต่​เขา​กลับ​ไม่เข้าใจ​อะไร​ ​แค่​รู้สึก​ว่า​ท่าที​ของ​สือ​อี​เหนียง​อ่อนโยน​และสง่า​งาม​ ​ทำให้​เขา​รู้สึก​สบายใจ​ ​เขา​จึง​เอน​ตัว​ลง​บน​เก้าอี้​ไท่​ซือ​แล้ว​ชื่นชม​นาง​ ​“​เดิมที​คิด​ว่า​คง​ไม่​พูด​อะไร​มาก​ ​แต่​ใคร​จะ​รู้​ว่า​พูด​ตั้ง​นาน​”

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​พูด​อะไร​กัน​เจ้า​คะ​”

ไม่รู้​ว่า​หยาง​อี๋​เหนียง​โน้มน้าวใจ​สวี​ลิ่ง​อี๋​สำเร็จ​หรือไม่

​“​หยาง​อี๋​เหนียง​บอกว่า​นาง​อยาก​ออกบวช​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูดเสี​ยง​เรียบ​ ​“​ข้า​ตกลง​แล้ว​ ​พรุ่งนี้​จะ​ให้​พ่อบ้าน​ไป๋​ไปหา​วัด​ที่​เหมาะสม​ให้​นาง​ ​ถึง​ตอนนั้น​เจ้า​ให้​คน​ไป​ช่วย​นาง​เก็บ​ข้าวของ​ ​หาก​คิด​ว่า​ไม่ไหว​ ​ก็​บอก​ให้​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ไป​จัดการ​เถิด​”

ข่าว​นี้​กะทันหัน​เกินไป​!

​ป้า​อู๋​ ​จู๋​เซียง​และ​ชิว​อวี​่​หันมา​มองหน้า​กัน​แล้ว​กลั้นหายใจ

​สีหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​มี​ความตกใจ​ปรากฏ​ขึ้น​มา

​“​ทำไม​จู่ๆ​ ​ถึง​คิด​อยาก​จะ​ออกบวช​?​ ​ไป​อยู่​ที่​วัด​ชั่วคราว​ ​หรือว่า​…​”

หาก​ไป​อยู่​ที่​วัด​ชั่วคราว​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​ยัง​มีโอกาส​กลับมา​ ​แต่​หาก​ไม่ใช่​เช่นนั้น​ ​ก็​เท่ากับ​ถูก​ไล่ออก​จาก​จวน​สกุล​สวี​!

​“​ตัดสินใจ​ออกบวช​แล้ว​!​”​ ​ใน​บรรยากาศ​ที่​เงียบสงัด​ ​น้ำเสียง​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่เพียงแต่​ชัดเจน​ ​แล้วยัง​เสียงดัง​ฟัง​ชัด​ ​“​ไป​อยู่​ที่​วัด​ให้​คุ้นเคย​ก่อน​สัก​ระยะ​หนึ่ง​ ​แล้ว​ค่อย​โกน​หัว​อย่างเป็นทางการ​!​”

เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​!

​สือ​อี​เหนียง​สับสน​ไป​หมด​ ​นาง​อยาก​ถาม​ว่า​มัน​เกิด​อะไร​ขึ้น​กัน​แน่​ ​แต่​ก็​คิด​ว่า​ใน​และ​นอก​โรง​ครัว​มี​คน​ยืน​อยู่​ไม่​ต่ำกว่า​สิบ​คน​ ​คิด​ว่า​หาก​นาง​ถาม​ตอนนี้​คงจะ​ไม่เหมาะสม​จึง​เก็บความ​สงสัย​เอาไว้​ใน​ใจ​แล้ว​ขานรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​เสียง​เบา​ ​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​พรุ่งนี้​ข้า​จะ​จัดการ​คน​ไป​ช่วย​หยาง​อี๋​เหนียง​เก็บ​ข้าวของ​!​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​รู้สึก​ว่า​สือ​อี​เหนียง​เปลี่ยนไป​ ​พลัน​เสียใจ​ที่​พูด​เรื่อง​นี้​ทำลาย​บรรยากาศ​ ​เขา​จึง​ยิ้ม​แล้ว​พูดเสี​ยง​ดัง​ ​“​อ้อ​ใช่​ ​แล้ว​เมื่อไร​จะ​นวด​เสร็จ​หรือ​”

​*****

​บ่าว​รับใช้​สอง​คน​หาม​เสลี่ยง​ออกมา​ส่ง​หยาง​อี๋​เหนียง​

​“​อี๋​เหนียง​ขอรับ​ ​บ่าว​ส่ง​ถึง​แค่​ตรงนี้​นะ​ขอรับ​”​ ​บ่าว​รับใช้​ปล่อยมือ​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​เกิด​ขาอ่อน​แรง​ ​นาง​ทรุดตัว​นั่งลง​บน​กอง​หญ้า​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​“​ดึก​แล้ว​ ​อี๋​เหนียง​รีบ​กลับ​ไป​ที่​เรือน​เถิด​ขอรับ​ ​ประเดี๋ยว​บ่าว​รับใช้​ออกมา​ลาดตระเวน​ยาม​กลางคืน​จะเข้า​ใจ​ผิด​คิด​ว่า​อี๋​เหนียง​เป็น​คนร้าย​เอา​ขอรับ​”

​ความเจ็บปวด​ที่​เท้า​ทำให้​หยาง​อี๋​เหนียง​ตกใจ

ตอนนี้​ยาม​ใด​แล้ว​ ​นาง​ไม่​เพียง​คิด​หาทาง​เอา​ตัว​รวด​ ​แต่กลับ​เหม่อลอย​ราวกับ​คน​เสียสติ​เช่นนี้

​คิดได้​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​พยายาม​ลุกขึ้น​ยืน

​ข้อเท้า​ซ้าย​รู้สึก​เจ็บ​แปลบ​ขึ้น​มา

หรือว่า​ข้อเท้า​พลิก​?

แต่​กลาง​ค่ำ​กลางคืน​เช่นนี้​ ​ไม่มีใคร​สัก​คน​…​หาก​ตะโกน​เสียงดัง​ ​ทำให้​บ่าว​รับใช้​ที่​ออกมา​ลาดตระเวน​ตกใจ​แล้ว​ถาม​ว่านาง​ทำไม​ถึง​มา​อยู่​ที่นี่​…

​นาง​เม้มปาก​ ​อดกลั้น​ต่อ​ความเจ็บปวด​แล้ว​เดิน​กะเผลก​ไป​ข้างหน้า

​*****

​คนที​่​รับใช้​อยู่​ใน​ห้อง​ล้วนแต่​รู้สึก​ถึง​เจตนา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋

​ป้า​อู๋​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ประเดี๋ยว​ก็​เสร็จ​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​ ​หาก​ท่าน​โหว​หิว​แล้ว​ ​ยัง​มีน​้ำ​แกง​ไก่​ใส่​โสม​อยู่​บน​เตา​ ​หรือว่า​ให้​บ่าว​ตัก​มา​ให้ท่าน​โหว​ทาน​รองท้อง​ก่อน​สัก​ชาม​ดีเจ​้า​คะ​”

​“​ไม่เป็นไร​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​นั่ง​อยู่​ตรงนั้น​อย่างสงบ​ ​“​รอบะ​หมี่​ของฮู​หยิน​ดีกว่า​!​”

​ทันทีที่​เขา​พูด​จบ​ ​ป้า​อู๋​ก็​เห็น​สาวใช้​ที่​ดูแล​เตา​โผล่​หัว​ออกมา​จาก​ห้อง​เตา

​นาง​เข้าใจ​ในทันที​ ​จากนั้น​ก็​ขยิบตา​ให้​สือ​อี​เหนียง​ ​“ฮู​หยิน​ ​นวดแป้ง​เสร็จ​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”​ ​นาง​พูด​พร้อมกับ​ยื่น​ไม้​นวดเ​เป้ง​ให้​นาง

​สือ​อี​เหนียง​มอง​ไป​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​ใบหน้า​เต็มไปด้วย​ความ​รอคอย​ก็​รู้สึก​ขำขัน​ ​ความไม่สบายใจ​เมื่อครู่นี้​หาย​ไปรา​วกั​บก​้อน​เมฆ​…​จากนั้น​ก็​รับ​ไม้​นวดเ​เป้ง​มาจาก​มือ​ของ​ป้า​อู๋

​*****

​ป้า​หยาง​ที่​กำลัง​รอ​อยู่​หน้า​ประตู​สวนดอกไม้​ด้วย​ความเป็นห่วง​ ​เห็น​เงา​คน​เดิน​กะเผลก​เข้ามา​ ​นาง​ก็​ตะโกน​ถาม​ว่า​ ​“​ใคร​!​”​ ​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ตื่นตระหนก

​“​ท่าน​ป้า​”​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ไร้​เรี่ยวแรง​ ​“​ข้า​เอง​!​”

​“​อี๋​เหนียง​!​”​ ​ป้า​หยาง​ตกใจ​ ​นาง​รีบ​เดิน​เข้าไป​ประคอง​หยาง​อี๋​เหนียง​ ​เห็น​เสื้อผ้า​ของ​นาง​ฉีกขาด​ ​นาง​ก็​ยิ่ง​ตื่นตระหนก​เข้าไป​ใหญ่​ ​“​อี๋​เหนียง​ ​ท่าน​เป็น​อะไร​เจ้า​คะ​”

​“​ท่าน​ประคอง​ข้า​เข้าไป​ใน​ป่า​ข้างทาง​เร็ว​เข้า​”​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​มองดู​โคมไฟ​สีแดง​ทาง​ศาลา​ปี้​อี​ที่​ค่อยๆ​ ​เคลื่อนตัว​เข้ามา​ใกล้​ๆ​ ​“​เกรง​ว่า​จะ​เป็น​คน​ลาดตระเวน​ยาม​กลางคืน​ ​มีเรื่อง​อัน​ใด​ ​กลับ​ไป​ก่อน​ค่อย​ว่า​กัน​”

​ป้า​หยาง​ตอบรับ​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​ประคอง​หยาง​อี๋​เหนียง​เข้าไป​ใน​ป่า​ข้างทาง

​*****

​“​ไม่เลว​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​วาง​ตะเกียบ​ลง​ ​รับ​ชา​ที่​จู๋​เซียง​ยื่น​ให้​มาดื​่​มล​้าง​ปาก​ ​“​เส้น​บะหมี่​เหนียวแน่น​ ​เซียง​ชุน​ก็​อร่อย​ ​พรุ่งนี้​ก็​ทำ​บะหมี่​เซียง​ชุน​อีก​เถิด​!​”

​ป้า​อู๋​และ​คนอื่นๆ​ ​พากัน​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​จากนั้น​ก็​ขยิบตา​ให้​กัน

​โชคดี​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​ตาม​ไป​ที่​ห้อง​เตา​ ​ไม่เช่นนั้น​คง​ถูก​เขา​จับได้​แน่นอน

​“​มี​ไม่​มาก​แล้ว​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยก​ชาต​้า​หง​เผา​ที่​ชิว​อวี​่​ถือ​อยู่​ใน​มือวาง​ไว้​ข้างหน้า​เขา​ ​“​เดิมที​เหลือ​เอาไว้​ทำ​บะหมี่​เซียง​ชุน​ให้​จุน​เกอ​และ​เจี​้ย​เกอ​พรุ่งนี้​เช้า​!​”

​คิดไม่ถึง​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ทาน​ไป​ตั้ง​สาม​ชาม

​“​เช่นนั้น​ก็​ทำให้​ข้าวั​นมะ​รืน​ก็ได้​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​แล้ว​ยืน​ขึ้น​ ​“​ทาน​ไป​ตั้ง​เยอะ​ก็​ต้อง​ย่อย​หน่อย​”​ ​จากนั้น​ก็​จับมือ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เรา​ไป​เดินเล่น​ใน​ลาน​กัน​เถิด​!​”

​*****

​ป้า​หยาง​ย้าย​ตะเกียง​มา​ไว้​ที่​ข้อเท้า​ของ​หยาง​อี๋​เหนียง​ ​ข้อเท้า​ของ​นาง​บวม​เป่ง

​“​ประเดี๋ยว​บ่าว​ไป​นำ​ผ้า​ชุบ​น้ำเย็น​มาป​ระ​คบ​ให้​เจ้าค่ะ​!​”​ ​ป้า​หยาง​รีบ​พูด​ ​“​พรุ่งนี้​เช้า​ค่อย​ไปรา​ยงานฮู​หยิน​ ​ให้ฮู​หยิน​เชิญ​หมอ​มาดู​ท่าน​”

​“​ไม่เป็นไร​!​”​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​ดึง​แขน​เสื้อ​ป้า​หยาง​ ​“​เจ้า​ไป​ขอ​ยานวด​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​มาทา​ให้​ข้า​ก็​พอ​!​”

​ภายใต้​แสงไฟ​ ​สีหน้า​ของ​นาง​หม่นหมอง​

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท