ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 503 พัวพัน(ต้น)

ตอนที่ 503 พัวพัน(ต้น)

ภายใต้​สถานการณ์​เช่นนี้​…

สือ​อี​เหนียง​หน้าแดง​ก่ำ

นาง​กอด​คอส​วีลิ​่​งอี​๋​และ​ขยับ​หน้า​ตัวเอง​เข้าไป​แนบ​กับ​ใบหน้า​ของ​เขา

สือ​อี​เหนียง​ขี้อาย​ขนาด​นั้น​ ​แล้ว​เขา​ก็​ถาม​เช่นนั้น​ ​ไม่ต้อง​พูดถึง​คำตอบ​ ​เกรง​ว่านา​งคง​จะ​เขินอาย​จน​ตอบ​ไม่​ถูก​…

คิด​เช่นนี้​ ​จู่ๆ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​รู้สึก​ไม่สบายใจ​…​เขา​อด​ไม่ได้​ที่จะ​กอด​สือ​อี​เหนียง​แน่น

เช่นนี้​นั้น​มองไม่เห็น​ดวงตา​ที่​สดใส​ของ​นาง​ ​แค่​สัมผัส​ได้​ถึง​รูปร่าง​ที่​งดงาม​ของ​นาง​…​ไม่​แปลกที่​สือ​อี​เหนียง​มักจะ​หน้าแดง​แล้ว​มุดหัว​เข้าไป​ใน​อ้อมแขน​ของ​เขา​เสมอ​!

“​มั่ว​เหยี​ยน​…​”

เขา​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​มี​ความสงสัย​ ​ลังเล​ ​และ​เนิ​่​บนาบ​ ​แล้วยัง​มี​ความไม่สบายใจ​…​ไม่ใช่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​ยิ้ม​สดใส​ราวกับ​ดวงอาทิตย์​ ​และ​ก้าวเดิน​อย่าง​น่าเกรงขาม​อีกแล้ว​…

หรือว่า​เพราะ​คำพูด​ของ​ตน​ ​ทำให้​เขา​เปลี่ยนไป​เช่นนี้​?

ไม่รู้​ว่า​เพราะเหตุใด​ ​นาง​ถึง​แอบ​ปิติ​ดีใจ

******

“​คนที​่​ครอบครัว​มาหา​เช่นนั้น​หรือ​?​”​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​สวม​เสื้อคลุม​ ​มองดู​หยาง​อี๋​เหนียง​ที่นั่ง​ร้องไห้​อยู่​ข้าง​ตัวเอง​

หยาง​อี๋​เหนียง​พยักหน้า​ ​ใช้​ผ้าเช็ดหน้า​เช็ดน้ำ​ตา​แล้ว​พูดเสี​ยง​สะอึกสะอื้น​ ​“​บอกว่า​มี​อันธพาล​เห็น​ว่า​สกุล​หยาง​ถูก​กวาดล้าง​ ​จึง​ฉวยโอกาส​โจมตี​ ​ตั๋ว​ยืม​เงิน​สาม​พัน​ตำลึง​แต่กลับ​ต้อง​คืนเงิน​สาม​หมื่น​ตำลึง​ ​ไม่เช่นนั้น​ ​จะ​ไป​ฟ้อง​บิดา​ของ​ข้า​ที่​ศาล​ ​ท่าน​พ่อ​ไม่มีทาง​เลือก​ ​จึง​ส่ง​คน​มาหา​ข้า​ ​อยาก​ให้​ข้า​ขอร้อง​ให้ท่าน​โหว​ช่วย​ออกหน้า​แทน​เจ้าค่ะ​…​”

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ขมวดคิ้ว

ทันทีที่​คน​จากไป​ชาก​็​เย็น​ ​แต่​พระราช​โองการ​ของ​ฮ่องเต้​ยัง​ไม่ได้​ป่าวประกาศ​ ​คน​เหล่านี้​ก็​ทน​รอ​ไม่ไหว​แล้ว

นาง​คิดถึง​มารดา​ที่​ยัง​ไม่มี​ข่าวคราว​อะไร​…ไม่รู้​ว่า​บิดา​ของ​ชิว​หง​จะ​เกลี้ยกล่อม​ให้ท่าน​แม่​ออก​ไป​จาก​สกุล​เหวิน​ได้​หรือไม่​

คิด​เช่นนี้​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ก็​แอบ​ถอนหายใจ​ใน​ใจ

หยาง​อี๋​เหนียง​เห็น​ดังนั้น​ ​นาง​ก็​พลัน​โล่งใจ

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​คน​นี้​รัก​เงิน​มาก​ที่สุด​ ​นาง​กลัว​ว่า​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​จะ​ไม่มี​ปฏิกิริยา​อะไร​เสียมา​กก​ว่า

คิด​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​เช็ดน้ำ​ตา​สอง​สาม​ครั้ง​แล้ว​พูด​เบา​ๆ​ ​“​คนอื่น​ไม่รู้​ ​แต่ว่า​พี่​หญิง​รู้ดี​ ​ตั้งแต่​ข้า​แต่ง​เข้ามา​…​ ​เคย​คุย​กับ​ท่าน​โหว​แค่​ไม่​กี่​ประโยค​ ​แล้ว​ท่าน​โหวก​็​เย็นชา​กับ​ข้า​นัก​ ​ไม่​เหมือนกับฮู​หยิน​และ​พี่​หญิง​ ​เขา​อ่อนโยน​และ​เป็นมิตร​ ​มีเรื่อง​อัน​ใด​เขา​ก็​ดูแล​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​ในนาม​แล้ว​ข้า​ถือเป็น​อนุภรรยา​ของ​ท่าน​โหว​ ​เรื่องใหญ่​เช่นนี้​ ​ก็​ควร​ปรึกษา​กับฮู​หยิน​ก่อน​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​ทำ​หน้าเศร้า​ ​“​แต่ว่า​ตอนนี้​สกุล​หยาง​ถูก​กวาดล้าง​ ​จะ​เป็น​ตาย​ร้าย​ดี​เช่นไร​ก็​ไม่รู้​ ​ถึงแม้ว่าฮู​หยิน​อยาก​ช่วย​ ​แต่​เกรง​ว่านา​งคง​ต้อง​รักษา​ชื่อเสียง​และ​อนาคต​ของ​สกุล​สวี​ ​จะ​ยอม​สูญเสีย​ผลประโยชน์​ที่​ยิ่งใหญ่​ไป​เพียง​เพราะ​กำไร​แค่น​้อ​ยนิด​ได้​เช่นไร​เจ้า​คะ​…​ข้า​จึง​ไม่กล้า​ไป​ขอความช่วยเหลือ​จากฮู​หยิน​…​”

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​นึกถึง​ตัวเอง​

ตอนนั้น​นาง​ก็​นอน​พลิกตัว​ไปมา​ตั้ง​หลาย​คืน​ ​กว่า​จะ​รวบรวม​ความกล้า​ไปหาฮู​หยิน​…​แต่​คิดไม่ถึง​ว่าฮู​หยิน​จะ​ตอบ​ตกลง​อย่างง่ายดาย​ ​แล้ว​สุดท้าย​ก็​ยัง​หาวิ​ธี​ให้​นาง

“​หลังจาก​คิด​เช่นนี้​ ​ข้า​เดิน​ไป​ถึง​หน้า​ประตู​ลาน​แล้วก็​เดิน​กลับมา​ ​กลับมา​นั่ง​ที่​เรือน​ก็​ไม่สบายใจ​ ​สุดท้าย​ถึง​ได้​ข้อเท้า​พลิก​เจ้าค่ะ​”​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​เหยียด​ข้อเท้า​ที่​ห่อ​ด้วย​ผ้าฝ้าย​สีขาว​ราวกับ​บ๊ะ​จ่าง​ให้​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ดู​ ​“​คิด​ว่า​มัน​ดึก​แล้ว​ ฮู​หยิน​ไม่สบาย​ ​ไปหาฮู​หยิน​ก็​กลัว​ว่า​จะ​ทำให้ฮู​หยิน​ตกใจ​ ​ท่าน​ป้า​เตือน​เช่นนี้​ ​ข้า​จึง​มา​ขอ​ยานวด​จาก​พี่​หญิง​”

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​รีบ​ถามถึง​ข้อเท้า​ของ​นาง​ ​พอ​รู้​ว่า​ไม่​ร้ายแรง​อะไร​ ​นาง​ก็​พูด​ปลอบใจ​หยาง​อี๋​เหนียง​ ​“​ยานว​ดอั​นนี​้​ใช้​ดีมาก​!​ ​เจ้า​พักผ่อน​สัก​คืน​ ​พรุ่งนี้​เชิญ​ท่าน​หมอ​มาสั​่ง​ยา​ให้​เจ้า​ทาน​สัก​สอง​สาม​ถ้วย​ ​ประเดี๋ยว​ก็ดี​ขึ้น​!​”

หยาง​อี๋​เหนียง​พยักหน้า​ ​แต่กลับ​พูดว่า​ ​“​ข้า​ไม่ได้​กังวล​เรื่อง​เท้า​ของ​ข้า​ ​ค่อยๆ​ ​รักษา​ ​ประเดี๋ยว​ก็ดี​ขึ้น​เจ้าค่ะ​”​ ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​นาง​ก็​ก้มหน้า​ลง​แล้ว​พูดเสี​ยง​เบา​ ​“​ข้า​เป็นห่วง​คนใน​ครอบครัว​…​พวก​อันธพาล​บังคับ​ให้ท่า​นพ​่อ​ของ​ข้า​คืนเงิน​ ​ผ่าน​มาสิบ​วัน​แล้ว​ ​ไม่รู้​ว่า​ตอนนี้​เขา​เป็น​เช่นไร​บ้าง​ ​ท่าน​พ่อ​ของ​ข้า​เป็น​คนตรง​ไป​ตรง​มา​ ​หาก​เขา​ไม่ยอม​อันธพาล​พวก​นั้น​…​”​ ​นางร้องไห้​อีกครั้ง​ ​“​ข้า​กลัว​ว่า​เขา​จะ​เป็น​อะไร​ไป​…​ถึงแม้ว่า​ข้า​จะ​อยู่​ที่นี่​อย่าง​สุขสบาย​…​แต่​เกรง​ว่า​ชาติ​นี้​ข้า​คงจะ​นอนไม่หลับ​แน่นอน​เจ้าค่ะ​…​”

“​ไม่เป็นอะไร​หรอก​!​”​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ช่วย​นาง​วิเคราะห์​ ​“​คน​พวก​นั้น​ก็​แค่​อยากได้​เงิน​!​ ​บังคับ​เขา​จนถึงที่สุด​แล้ว​ไม่ได้​อะไร​ ​ทุกคน​ก็​แยกย้าย​กัน​ไป​ ​มัน​ไม่มี​ประโยชน์​อะไร​ต่อ​พวกเขา​ ​ข้า​คิด​ว่า​ ​เจ้า​อย่า​คิดมาก​ไป​เลย​ ​กลับ​ไป​นอน​พักผ่อน​เถิด​ ​พรุ่งนี้​เช้า​เรา​ไป​ขอร้องฮู​หยิน​ด้วยกัน​ ​ดู​ว่าฮู​หยิน​พูด​เช่นไร​แล้ว​ค่อย​ตัดสินใจ​”​ ​ ​จากนั้น​ก็​พูด​อีกว่า​ ​“ฮู​หยิน​เป็น​คน​ใจกว้าง​ ​แล้วยัง​เข้าใจ​หัวอก​คนอื่น​ ​คนใน​จวน​มีเรื่อง​อัน​ใด​ก็​ชอบ​ไป​ปรึกษาฮู​หยิน​ ​หาก​นาง​ช่วย​ได้​ ​นาง​ต้อง​ช่วย​เจ้า​แน่นอน​ ​เรื่อง​นี้​เจ้า​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​”

“​จริง​หรือ​เจ้า​คะ​!​”​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​สายตา​เป็นประกาย​ ​นาง​ยื่นมือ​ออก​ไป​ดึง​แขน​เสื้อ​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​“​เช่นนั้น​ ​เรา​ไป​ขอร้องฮู​หยิน​ตอนนี้​เลย​ได้​หรือไม่​”

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ตกใจ

“​พี่​หญิง​อาจจะ​ไม่รู้​”​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​ร้องไห้​อีกครั้ง​ ​“​ข้า​นอน​ไป​แล้ว​ ​แต่​เมื่อ​หลับตา​ลง​ก็​ฝัน​ว่า​มี​คน​มายึ​ดบ​้าน​ ​ท่าน​พ่อ​ถูก​ทุบตี​ ​ท่าน​แม่​และ​น้อง​ของ​ข้า​เสื้อผ้า​ขาด​หลุดลุ่ย​ ​ทานข้าว​ก็​ไม่​อิ่ม​ท้อง​ ​ร้องไห้​บอก​ให้​ข้า​ช่วย​พวกเขา​…​”​ ​นาง​ซบ​เข่า​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​แล้ว​ร้องไห้​ ​“​ข้า​ยัง​จะ​นั่ง​ติด​ได้​เช่นไร​กัน​…​นึก​ขึ้น​มา​ได้​ว่า​พี่​หญิง​จริงใจ​กับ​ทุกคน​ ​ดี​กับ​ข้า​เหมือน​ข้า​เป็น​น้องสาว​แท้ๆ​ ​ทั้งๆ​ ​ที่​รู้​ว่า​พี่​หญิง​นอน​แล้ว​ ​แต่​ข้า​ก็​ยัง​หน้าด้าน​มาหา​พี่​หญิง​…​”​ ​นาง​เงยหน้า​ที่​เต็มไปด้วย​น้ำตา​ขึ้น​มา​ ​“​พี่​หญิง​เจ้า​คะ​ ​พี่​หญิง​โปรด​เห็นแก่​ข้า​ที่​แต่ง​เข้ามา​ก็​เรียนรู้​กฎเกณฑ์​กับ​พี่​หญิง​ ​พี่​หญิง​ไปหาฮู​หยิน​กับ​ข้า​นะ​เจ้า​คะ​…​ไม่ว่าฮู​หยิน​จะ​ยอม​เจอ​เรา​หรือไม่​ ​แต่​ข้า​จะ​ได้​สบายใจ​…​ไม่เช่นนั้น​ ​ข้ามัก​จะ​คิด​ว่า​ตัวเอง​ไม่ยอม​ไป​ขอความช่วยเหลือ​จาก​ใคร​ ​เพราะ​ความปลอดภัย​ของ​ตัวเอง​…​”

เรื่อง​ของ​สกุล​เหวิน​เอง​ก็​ยัง​ไม่​เรียบร้อย​ ​แน่นอน​ว่า​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ย่อม​เข้าใจ​ความรู้สึก​ของ​นาง​ ​แต่ว่า​ไปหา​สือ​อี​เหนียง​ตอนนี้​…

“​แค่​ไปดู​เฉยๆ​ ​ก็​พอ​”​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​อ้อนวอน​อย่าง​ขมขื่น​ ​“​หากฮู​หยิน​นอน​แล้ว​ ​เรา​ก็​จะ​ไม่​รบกวนฮู​หยิน​!​”

บิดา​ของ​หยาง​อี๋​เหนียง​เป็น​สกุล​ญาติ​ ​ถึงแม้ว่า​สกุล​หยาง​จะ​ถูก​กวาดล้าง​ ​แต่​มัน​ก็​ผ่าน​ไป​ตั้ง​หลาย​วัน​แล้ว​ ​และ​บิดา​ของ​หยาง​อี๋​เหนียง​ก็​ไม่​ถูก​คุมขัง​ ​คิด​ว่า​เรื่อง​นี้​คง​ไม่เกี่ยว​อะไร​กับ​ครอบครัว​ของ​หยาง​อี๋​เหนียง​ ​แล้วก็​เหมือน​ที่​หยาง​อี๋​เหนียง​พูด​ ​จะ​ช่วย​หรือไม่​ ​ก็​ขึ้นอยู่กับฮู​หยิน

เหวิ​นอี​๋​เหนียง​นึกถึง​ความ​มี​เมตตา​ที่​สกุล​เหวิน​เข้าไป​มีส่วน​เกี่ยวข้อง​กับ​สกุล​หยาง​ ​แต่​สือ​อี​เหนียง​ก็​ยัง​ยื่นมือ​ช่วย​นาง​…

“​ก็ได้​!​”​ ​นาง​เรียก​ตง​หงมา​แต่งตัว​ให้​นาง​ ​“​เรา​ไปดู​กัน​ก่อน​ ​หากฮู​หยิน​นอน​แล้ว​ ​เรา​ก็​จะ​ไม่​รบกวนฮู​หยิน​!​”

สีหน้า​ของ​หยาง​อี๋​เหนียง​เต็มไปด้วย​ความดีใจ​ ​นาง​พยักหน้า​ซ้ำๆ​ ​“​พี่​หญิง​ ​ข้า​รู้​ว่า​พี่​หญิง​ใจกว้าง​ ​ความรู้สึก​ของ​ข้า​ตอนนี้​ ​นอกจาก​พี่​หญิง​แล้วก็​ไม่มีใคร​เข้าใจ​ข้า​แล้ว​กระมัง​…​”

******

สวี​ลิ่ง​อี๋​ค่อยๆ​ ​ใช้​ผ้าเช็ดหน้า​ซับ​เม็ด​เหงื่อ​ที่​ขมับ​ให้​สือ​อี​เหนียง​อย่าง​อ่อนโยน​ ​จากนั้น​ก็​ถาม​นาง​เบา​ๆ​ ​“​เหนื่อย​หรือไม่​”

สือ​อี​เหนียง​หลับตา​ลง​ ​ปล่อย​ให้​เขา​กอด​ตัวเอง​แล้ว​ตอบกลับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​อย่าง​แผ่วเบา

นัยน์ตา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เต็มไปด้วย​รอยยิ้ม​ ​เขา​รีบ​สำรวจ​มอง​สีหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง

เมื่อ​เห็น​นาง​หน้าแดง​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก

แต่​สือ​อี​เหนียง​กลับ​ขยับตัว​ ​“​ตัว​ของ​ข้ามี​แต่​เหงื่อ​เจ้าค่ะ​…​”

เขา​รู้​ว่านาง​รัก​ความสะอาด​ ​แล้ว​เขา​ก็​ชอบ​ความสะอาด​ของ​นาง​ ​แต่​ครั้งนี้​ ​เขา​กลับ​กอด​นาง​เอาไว้​ใน​อ้อมแขน​ ​“​รอก​่อน​ ​ประเดี๋ยว​ข้า​ช่วย​เช็ดตัว​ให้​เจ้า​!​”

เขา​อยาก​กอด​นาง​เช่นนี้​อีก​สักพัก

สือ​อี​เหนียง​ไม่​อยาก​ขยับ​แม้แต่​นิ้วมือ​ ​เห็น​เขา​ยืนกราน​เช่นนี้​ ​นาง​จึง​หลับตา​แล้ว​ซบ​ลง​บน​ตัว​ของ​เขา

อาจจะ​เป็นเพราะว่า​เหนื่อย​เกินไป​ ​ทันทีที่​นาง​หลับตา​ลง​ก็​ผล็อย​หลับ​ไป​ทันที

สือ​อี​เหนียง​อยู่​ใน​ความ​งุนงง​ ​แต่กลับ​ได้ยิน​เสียง​ของ​จู๋​เซียง​ดัง​ขึ้น​มา​ ​“​ท่าน​โหว​ ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​ขันที​ใน​พระราชวัง​ได้รับ​คำสั่ง​จาก​ฮ่องเต้​ให้​มา​เชิญ​ท่าน​โหว​ไป​เข้าเฝ้า​เจ้าค่ะ​!​”

ตัว​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​กระตุก

“​ท่าน​โหว​เจ้า​คะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตื่นขึ้น​มา​แล้ว​รีบ​กอด​สวี​ลิ่ง​อี๋

แตกต่าง​จาก​ความอ่อนโยน​เมื่อ​ครู่​ ​ตอนนี้​นาง​เป็นห่วง​และ​ไม่สบายใจ​

เหตุใด​จู่ๆ​ ​ถึง​เชิญ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไป​เข้าเฝ้า​ตอนนี้​!

เจี​้​ยน​หนิง​โหว​ ​โซ่ว​ชังปั​๋ว​แล้วยัง​มี​เก๋อ​เหล่า​อีก​สอง​คนที​่​ถูก​คุมขัง​อยู่​ ​อีกทั้ง​หัน​ซิ่น​ยัง​ถูก​สังหาร​ใน​พระราชวัง​!

รู้สึก​ถึง​ตัว​ที่​แข็งทื่อ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​รีบ​กอด​นาง​อย่าง​อ่อนโยน​ ​“​ไม่เป็นไร​ ​ไม่เป็นไร​!​ ​ช่วงนี้​ฮ่องเต้​กำลัง​ยุ่ง​เรื่อง​การปฏิวัติ​ระบอบ​การปกครอง​!​”

สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​ ​คิด​ว่า​คำพูด​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​มีเหตุผล

จู่ๆ​ ​ก็​โจมตี​เก๋อ​เหล่า​สอง​คน​ ​ราชสำนัก​กำลัง​วุ่นวาย​ ​ฮ่องเต้​ไม่มีทาง​ทำ​อะไร​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตอนนี้​แน่นอน​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​สวี​ลิ่ง​อี๋​มี​คน​ของ​ตัวเอง​อยู่​ใน​พระราชวัง​ตั้ง​มากมาย​ ​หาก​ฮ่องเต้​คิด​จะ​ทำ​อะไร​เขา​ก็​ต้อง​รู้​ ​แล้ว​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ยัง​สังเกต​การเคลื่อนไหว​ใน​ราชสำนัก​ตลอด​ ​เขา​คงจะ​ต้อง​ได้ยิน​ข่าวลือ​บ้าง​ไม่​มาก​ก็​น้อย​!

นาง​ถอนหายใจ

สวี​ลิ่ง​อี๋​รู้​ว่านาง​เป็นห่วง​ตัวเอง​ ​เขา​จึง​พูด​หยอกล้อ​นาง​ ​“​ทำไม​กัน​ ​ไม่​อยาก​ให้​ข้า​ไป​เช่นนั้น​หรือ​!​”

สือ​อี​เหนียง​หน้าแดง

โชคดี​ที่​เขา​พูดอ้อมค้อม​ ​ไม่เช่นนั้น​หาก​เขา​พูด​ออกมา​ตรงๆ​ ​นาง​คงจะ​เขินอาย​อย่างมาก

“​ใช่​เจ้าค่ะ​!​”​ ​นาง​รู้​ว่า​เขา​กำลัง​หยอกล้อ​ตัวเอง​ ​“​ไม่ได้​หรือ​เจ้า​คะ​?​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ประหลาดใจ

เขา​อด​หัวเราะ​ไม่ได้

“​ไม่​อยาก​ให้​ข้า​ไป​…​”​ ​เขา​ใช้​หน้าผาก​ตัวเอง​แตะ​หน้าผาก​ของ​นาง​แล้ว​พูด​เบา​ๆ​ ​มีกลิ่น​อาย​ของ​ความรัก​และ​เอ็นดู​ ​“​เช่นนั้น​ข้า​ก็​จะ​อยู่​กับ​เจ้าที่​เรือน​!​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท