เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค – ตอนที่ 494 รั่วเมิ่งปล่อยวาง เตาหนูปะทะกุ่ยซา (3)

ตอนที่ 494 รั่วเมิ่งปล่อยวาง เตาหนูปะทะกุ่ยซา (3)

นางไม่อาจรู้ความทรงจำของเสวี่ยเอ๋อร์ได้ แต่ว่าห้วงฝันนั่นนางเคยเห็นมาก่อน

เสวี่ยเอ๋อร์ก็เคยพูดคุยเรื่องราวในใจกับนางด้วยเช่นกัน ในบทสนทนานั้นมีแต่เฟิงอวี้เฉินทั้งสิ้น นางจึงรู้เรื่องราวระหว่างพวกเขาทั้งหมด

เสวี่ยเอ๋อร์ที่เป็นเจ้าของร่างเดิมรักและจริงใจต่อเฟิงอวี้เฉิน

เฟิงอวี้เฉินจะไม่รักและจริงใจต่อเจ้าของร่างเดิมได้หรือ

เขาเป็นคนที่ยินดีสละชีวิตทิ้งได้เพื่อให้ได้อยู่ด้วยกันกับเจ้าของร่างเดิม

ทว่าสวรรค์กลับเล่นตลกให้นางมั่วเชียนเสวี่ยข้ามภพมา

ให้นางมีหนิงเซ่าชิงเสียก่อน

กาลเวลาผันผ่านไปพร้อมกับการบอกเล่า

มั่วเชียนเสวี่ยเล่าเสียกินใจ หลันรั่วเมิ่งฟังแล้วจิตใจเหม่อลอย

เมื่อมั่วเชียนเสวี่ยเล่าจบก็หยิบถ้วยชาที่วางอยู่บนโต๊ะเล็กๆ กลางป่าไผ่ขึ้นมา เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วยามแล้ว

แม้แต่มั่วเชียนเสวี่ยเองยังรู้สึกเหลือเชื่อ

กับเฟิงอวี้เฉินไม่ได้มีอะไรแท้ๆ มีแต่เรื่องเก่าๆ ระหว่างเสวี่ยเอ๋อร์กับเขา แต่ไม่อยากพูดขึ้นมา แต่ก็ยังเยอะมากอยู่ดี

แน่นอนว่ามั่วเชียนเสวี่ยก็ชี้แจงอย่างระมัดระวังกับหลันรั่วเมิ่งแล้วว่าตัวเองสูญเสียความทรงจำไป ไม่คิดอะไรกับเฟิงอวี้เฉินไปนานแล้ว

ยามนี้สิ่งที่นางรู้อันที่จริงโดยมากก็ฟังมาจากพวกสาวใช้คุยกัน ได้ยินสิ่งที่เฟิงอวี้เฉินพูดเพื่อกระตุ้นความทรงจำนาง

ระหว่างที่ทั้งสองสนทนากันก็เดินมาถึงศาลาที่มีไว้เพื่อหลบแดดโดยเฉพาะ แล้วพากันนั่งลง

มั่วเชียนเสวี่ยเอ่ยจบก็เหลือบตาขึ้นน้อยๆ เห็นท่าทางใจลอยของหลันรั่วเมิ่ง

นางรู้ว่าระหว่างความรักกับมิตรภาพนั้น คนทั่วไปต่างเลือกความรักทั้งสิ้น

นางไม่ใช่คนโง่ แน่นอนว่าย่อมมองออกอยู่แล้ว เฟิงอวี้เฉินยังไม่ได้มีความรู้สึกให้หลันรั่วเมิ่งมากมาย แต่หลันรั่วเมิ่งกลับรักลึกซึ้งต่อเฟิงอวี้เฉินแล้ว

นี่เป็นสิ่งที่ทำให้นางอับจนหนทางที่สุด

บุปผาร่วงหล่นมีใจ สายธารหลั่งไหลกลับไร้รัก

นี่นางทำร้ายหลันรั่วเมิ่งรึ

นึกถึงตอนนั้นที่เรียกได้ว่าตนเป็นคนผูกด้ายแดงให้พวกเขาทั้งสองคนเอง

อย่างไรเสียหากไม่มีหวังก็ย่อมไม่ผิดหวัง

มั่วเชียนเสวี่ยค่อนข้างไม่สบายใจ แต่มือที่นางจับหลันรั่วเมิ่งไว้กลับไม่ได้ปล่อยออก นางหวังเพียงว่าหลันรั่วเมิ่งจะคิดตกได้

นางเชื่อว่ากาลเวลาจะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งได้

หากมีระยะเวลากำหนดมาให้เฟิงอวี้เฉินคงจะหลงรักภรรยาที่ดีอย่างหลันรั่วเมิ่งได้แน่ หากหลันรั่วเมิ่งสามารถปล่อยวางลงได้ก็คงจะพบกับความสุขที่นางต้องการแน่นอน

เฟิงอวี้เฉินเป็นคนรักษาตนให้บริสุทธิ์ไม่ให้แปดเปื้อนและเป็นคนรักปักใจมั่น จุดนี้เห็นได้ตั้งแต่ที่เขาปฏิบัติต่อตนเลย ในอนาคตขอแค่เขาทุ่มเทความสนใจไปยังหลันรั่วเมิ่ง คงจะเป็นคู่สามีภรรยาที่สมบูรณ์แบบแน่…

หลันรั่วเมิ่งยามนี้เรียกได้ว่าสมองมีแต่ความมึนงง

นางเป็นคนมีไหวพริบจึงเดาได้ตั้งแต่แรกแล้ว บางทีระหว่างลูกพี่ลูกน้องอย่างเฟิงอวี้เฉินกับมั่วเชียนเสวี่ยอาจจะมีความรู้สึกที่ไม่ธรรมดาต่อกัน

เมื่อครู่นี้ก่อนที่ถามออกไป นางนึกว่าตัวเองเตรียมตัวเตรียมใจมาดีแล้วแท้ๆ

ทว่านางกลับไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นเช่นนี้

นางคิดไม่ถึงว่าความรู้สึกระหว่างพวกเขาจะ…ลึกซึ้ง ทำให้นาง…ทำให้นางไม่อาจรับได้

หากตอนนั้นมั่วเชียนเสวี่ยไม่โดนลอบฆ่า เช่นนั้นพวกเขาในยามนี้คงกลายเป็นสามีภรรยาที่น่าอิจฉาไปแล้วแน่ๆ ไหนเลยยังจะมีความรักระหว่างมั่วเชียนเสวี่ยกับหนิงเซ่าชิงเกิดขึ้นมาได้อีก

นึกย้อนกลับไปอีก หัวข้อสนทนาระหว่างนางกับเฟิงอวี้เฉินในทุกๆ คราเหมือนว่า…เหมือนว่าจะมีแต่มั่วเชียนเสวี่ยตลอดเลย

หากไม่มีคนเชื่อมความสัมพันธ์อย่างมั่วเชียนเสวี่ย พวกเขาก็คงไม่มีอะไรจะคุยกันแล้ว

หลันรั่วเมิ่งเข้าใจกระจ่าง นางไม่ใช่คนโง่และไม่ใช่สตรีใจแคบแบบนั้น ตรงกันข้ามนางเป็นสตรีที่คมในฝัก แม้ว่านางจะรับไม่ได้ในตอนนี้ แต่ก็เข้าใจในความลำบากใจของมั่วเชียนเสวี่ยได้

นางจะเลือกไม่บอกตนก็ได้ เลือกจะเยาะเย้ยตนก็ได้ ดูถูกตนก็ได้

แต่ว่า….

นางกลับไม่ทำ

นางจริงใจ

นางบอกเล่าความจริงอย่างจริงใจ

นางอยากจะช่วยตน

หลันรั่วเมิ่งค่อยๆ เงยหน้าขึ้นช้าๆ

มั่วเชียนเสวี่ยมองสีหน้าเหม่อลอยของอีกฝ่าย ไม่อยากเสียมิตรภาพนี้ไปจริงๆ และไม่อยากให้นางกับเฟิงอวี้เฉินต้องเกิดช่องว่างขึ้นเพราะตนด้วย จึงเอ่ยขึ้นว่า

“เรื่องมันผ่านไปแล้ว ยามนี้สำหรับข้าแล้วท่านพี่เป็นพี่ใหญ่ที่สนิทที่สุด สำหรับพี่ใหญ่ข้าก็เป็นแค่น้องสาวเท่านั้น รั่วเมิ่ง เจ้าเข้าใจหรือไม่ ยามนี้ข้ามีหนิงเซ่าชิงแล้ว ข้าพอใจแล้ว! ข้าอยากใช้ชีวิตกับหนิงเซ่าชิงไปจนแก่เฒ่า ไม่ขอให้เขาร่ำรวยเงินทองมหาศาล และไม่ขอให้เขามีฐานะสูงส่ง ต่อให้เขายังเป็นอาจารย์ในสำนักศึกษาชนบท ต่อให้เป็นขอทานไร้บ้าน ก็ต้องการเพียงเขาคนนั้นอยู่ดี เขาสอนหนังสือ ข้าก็จะทำกับข้าวให้เขา เขาต้องการข้าว ข้าก็จะควักเงินช่วยเขา หากเขาปล้นชิงของ ข้าก็จะถือดาบอยู่ข้างเขา!”

ถ้อยคำของมั่วเชียนเสวี่ยราวกับกำลังสาบาน วนเวียนอยู่ข้างหูหลันรั่วเมิ่งทำให้นางใจลอยอีกระลอก

และอิจฉาขึ้นมาอีกระลอก

ความรู้สึกเช่นนี้เป็นสิ่งที่นางเฝ้าฝันมาทั้งชีวิต

หลันรั่วเมิ่งคิดว่ามนุษย์ไม่ควรคิดจุกจิกมากมาย

นางเกลียดมั่วเชียนเสวี่ยไปแล้วจะได้อะไร

อย่างไรเสียตอนนั้นมั่วเชียนเสวี่ยก็เป็นคนผูกด้ายแดงระหว่างตนกับเฟิงอวี้เฉิง

หากไม่ได้มั่วเชียนเสวี่ย บางทีเฟิงอวี้เฉินอาจจะไม่แม้แต่จะปรายตามองตนสักแวบด้วยซ้ำ

นางไม่ได้ไม่พอใจเท่านั้น ยังอยากจะขอบคุณมั่วเชียนเสวี่ยเสียด้วยซ้ำ

หากไม่ได้มั่วเชียนเสวี่ย บางทีชั่วชีวิตนี้นางอาจจะใช้ชีวิตอยู่กับการรักข้างเดียวและความผิดหวังอันขมขื่นต่อไปก็ได้ และสุดท้ายก็ต้องแต่งงานกับคนอื่นไป

แต่งกับบุรุษที่นางไม่ได้ถูกตาต้องใจ แต่งกับคนที่นางไม่ได้รัก

หลันรั่วเมิ่งคิดได้ดังนั้นก็เงยหน้าขึ้น แววตาแจ่มใสอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะแย้มยิ้มอ่อนโยนให้มั่วเชียนเสวี่ย

“เชียนเสวี่ยเจ้าวางใจได้ แต่นี้ต่อไปเจ้าคือน้องสาวของข้า หากมีปัญหาอะไรข้าไม่มีทางยืนดูอยู่เฉยๆ แน่นอน!”

มั่วเชียนเสวี่ยลอบพรูลมหายใจโล่งอกออกมา ก่อนยิ้มจางๆ ให้หลันรั่วเมิ่ง แล้วตบหลังมือนางเบาๆ “เช่นนั้นก็ดี วันนี้เชียนเสวี่ยขอเรียกรั่วเมิ่งว่าอาซ้อใหญ่ไว้ล่วงหน้าเลยแล้วกัน…”

หลันรั่วเมิ่งก็ไม่ได้โวยวาย นางใช้มือกุมหลังมือมั่วเชียนเสวี่ย “ภายหน้าตระกูลเฟิงก็คือบ้านเดิมของเจ้า”

ตกค่ำฟากฟ้ามืดมิด

หลังจากที่อวิ๋นอิ๋นกล่อมซีซีนอนแล้วก็ตรงออกจากห้องมา นางมองซ้ายมองขวาอย่างระแวดระวัง เมื่อพบว่าไม่มีใครสะกดรอยตามนางแล้ว ก็เร่งฝีเท้าวิ่งขึ้นไปบนเขา

ที่นั่นมีบุรุษที่ทำให้นางคะนึงหารอนางอยู่

ตอนกลางวันนางไปทำสัญลักษณ์ไว้ที่นั่นแล้ว เขาบอกไว้ว่าขอแค่นางเรียกเขา เขาก็จะมาทันที

แต่ทั้งหมดนี้ไม่มีใครสะกดรอยตามมาจริงๆ น่ะรึ

แน่นอนว่าไม่มีทาง

องครักษ์ลับที่หนิงเซ่าชิงให้ไว้กับมั่วเชียนเสวี่ย องครักษ์ตระกูลถงที่ถงจื่อจิ้งพามาเองแทบจะคุ้มกันทั้งบ้านไร่แห่งนี้แน่นหนา ต่อให้คนนอกอยากเข้ามาก็ต้องลำบากเปลืองแรงยกใหญ่

และการกระทำทั้งหมดของอวิ๋นอิ๋นก็ล้วนอยู่ในสายตาของพวกองครักษ์ลับทั้งหมดอย่างไม่มีทางหลบซ่อนได้

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

Status: Ongoing

เพราะสำลักน้ำชาจนขาดอากาศ(?)ทำให้ มั่วเชียนเสวี่ย สาวมั่นหัวการค้าทะลุมิติมาอยู่ในโลกยุคโบราณและในร่างของคนอื่น

แต่นั่นยังไม่น่าตระหนกเท่าการที่ร่างนี้กำลังจะแต่งงานเพื่อแก้เคล็ดให้กับชายหนุ่มที่ป่วยร่อแร่เต็มที!

ในโลกที่หากขาดที่พึ่งผู้หญิงก็สามารถถูกขายเป็นทาสได้ตลอดเวลาสามีคนนี้ของนางนับว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยทีเดียว

ทั้งมีความรู้ สุภาพและไม่ใช้กำลังแถมหน้าตายังหล่อเหลาอีกด้วย เสียตรงร่างกายอ่อนแอไปหน่อยเท่านั้น

ชีวิตครอบครัวชนบทแสนยากจนของนางจึงเริ่มขึ้นที่ตรงนั้น… แต่อย่างไรนางไม่ยอมงอมืองอเท้ารับชะตากรรมแบบนี้แน่

ในเมื่อนางมีความรู้ความสามารถยังต้องกลัวสร้างกิจการไม่ได้อีกหรือ?!

เส้นทางร่ำรวยสายนี้นางจะบุกเบิกมันขึ้นมาด้วยตนเอง! และหวังว่าทุกอย่างจะราบรื่นด้วยดี

เพราะเหมือน ‘ร่างนี้’ ของนางกับฐานะเดิมของสามีเหมือนจะไม่ค่อยธรรมดาเสียด้วยสิ…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท