ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 504 พัวพัน(กลาง)

ตอนที่ 504 พัวพัน(กลาง)

สือ​อี​เหนียง​ไม่​คิด​ว่าที่​เขา​พูด​นั้น​เป็นความ​จริง

​นาง​ยิ้ม​แล้ว​กอด​สวี​ลิ่ง​อี๋

​ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​นาง​ก็​ดิ้น​แล้ว​ลุกขึ้น​ ​“​ข้า​รับใช้​ท่าน​โหว​เปลี่ยนเสื้อ​ผ้า​ดีกว่า​เจ้า​คะ​!​”

​แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​ไม่​ขยับตัว​แล้ว​โอบกอด​นาง​อย่าง​แนบแน่น​ขึ้น​ ​มอง​ไป​ที่นา​งด​้ว​ยสาย​ตา​ที่​แวววับ​พลาง​ตะโกน​ถาม​คนที​่​อยู่​นอก​ม่าน​ ​“​คนใน​พระราชวัง​ที่มา​คือ​ใคร​กัน​”

​“​คนใน​พระตำหนัก​เฉียน​ชิง​เจ้าค่ะ​”​ ​จู๋​เซียง​ตอบกลับ​ด้วย​ความเคารพ​ ​“​บอกว่า​มาหา​ท่าน​โหวตา​มรั​บสั​่ง​ของ​ฮ่องเต้​เจ้าค่ะ​”

​“​รู้​แล้ว​!​”​ ​เขามอ​งดู​สือ​อี​เหนียง​อย่างใจจดใจจ่อ​ ​จากนั้น​ก็​ลูบ​หน้าผาก​นาง​เบา​ๆ​ ​“​ไป​บอก​ผู้ดูแล​จ้าว​ ​บอก​ให้​พา​เขา​ไป​ดื่ม​ชา​ที่​เรือน​หน​่​วน​เก๋​อด​้าน​หลัง​ห้องโถง​ใหญ่​”

​จู๋​เซียง​ขานรับ​แล้ว​เดิน​ออก​ไป

​สวี​ลิ่ง​อี๋​จูบ​ขมับ​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​ท่าที​ที่​ไม่​อยาก​ลุกขึ้น

​สือ​อี​เหนียง​ลังเล​ ​“​ท่าน​โหว​ ​หรือว่า​ท่าน​รู้​ว่า​ฮ่องเต้​เรียก​ท่าน​ไป​เข้าเฝ้า​เพราะ​เรื่อง​อัน​ใด​อย่างนั้น​หรือ​เจ้า​คะ​”

​มือ​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​วาง​อยู่​ตรง​ส่วนโค้ง​อัน​บอบบาง​แต่กลับ​งดงาม​ของ​นาง​ ​“​ในเมื่อ​ไม่ใช่​เรื่อง​ของ​ฮองเฮา​ ​ท่าน​โหว​ที่​ไม่มี​อะไร​ทำ​อย่าง​ข้า​ ​ไม่ต้อง​ไป​ยุ่ง​กับ​คนใน​ราชสำนัก​เหล่านั้น​จะ​ดีกว่า​”

​สือ​อี​เหนียง​สูด​หายใจเข้า

นาง​ไม่ได้​ใจเย็น​เหมือน​เขา​!​ ​รู้​ว่า​มี​คน​รอ​อยู่​ข้างนอก​แล้วยัง​…

​“​ท่าน​โหว​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ผลัก​เขา​ออก​ ​“​ท่าน​ไปดู​ดีกว่า​เจ้าค่ะ​!​”​ ​ทันทีที่​พูด​จบ​ ​ก็​มีเสียง​ของ​จู๋​เซียง​ดัง​ออกมา​จาก​ข้างนอก​ ​“​ท่าน​โหว​เจ้า​คะ​ ​ผู้ดูแล​จ้าว​ขอ​พบ​ท่าน​เจ้าค่ะ​!​”

​สือ​อี​เหนียง​พลัน​ตัว​แข็งทื่อ

​สวี​ลิ่ง​อี๋​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ถอนหายใจ​เบา​ๆ​ ​เขา​รู้​ว่าวั​นนี​้​คง​ไม่มี​อะไร​เกิดขึ้น​แล้ว​!

​เขา​แอบ​คิด​เสียดาย​ใน​ใจ

สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​มี​อารมณ์​เช่นนี้​บ่อยๆ​…​ทำลาย​บรรยากาศ​เสีย​จริง​!

​เขา​พลิกตัว​มานั​่​งบน​หัว​เตียง​แล้ว​ตะโกน​ออก​ไป​ ​“​มีเรื่อง​อัน​ใด​”

​“​ท่าน​โหว​ขอรับ​”​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​มี​ม่าน​กั้น​อยู่​ ​อีกทั้ง​เสียง​ของ​ผู้ดูแล​จ้าว​ก็​ไม่​ดัง​มาก​นัก​ ​แต่กลับ​ได้ยิน​อย่างชัดเจน​ ​เขา​พูด​อย่าง​กระชับ​ ​“​ก่อนที่​ขันที​จะ​มาป​ระกาศ​พระราช​โองการ​ ​เฉิน​เก๋อ​เหล่า​และ​ใต้เท้า​หวัง​ต่าง​ก็​อยู่​ที่​พระตำหนัก​เฉียน​ชิง​ ​เมื่อ​เฉิน​เก๋อ​เหล่า​และ​ใต้เท้า​หวัง​ออกมา​จาก​พระราชวัง​ ​ฮ่องเต้​ก็​ให้​ขันที​มาป​ระกาศ​พระราช​โองการ​เชิญ​ท่าน​เข้าไป​ใน​พระราชวัง​ทันที​ขอรับ​ ​ก่อนหน้านี้​มีเรื่อง​ที่ฝู​เจี​้​ยน​ ​แต่​เนื้อหา​คือ​อะไร​ ​ตอนนี้​ยัง​ไม่รู้​ชัดแจ้ง​ ​แต่​ยาม​อิ​๋​นน​่า​จะ​มี​ข่าวคราว​ขอรับ​”

​“​สกุล​โอว​มี​การเคลื่อนไหว​อะไร​หรือไม่​”

​“​คุณชาย​สี่​และ​คุณชาย​หก​สกุล​โอว​ยัง​ต่อต้าน​กัน​เหมือนเดิม​ ​คุณชาย​เจ็ด​ที่​เป็น​บุตร​ของ​ภรรยา​เอก​และ​คุณชาย​ห้า​ที่​เป็น​บุตร​ของ​อนุภรรยา​ยืน​อยู่​ฝั่ง​คุณชาย​สี่​ ​คุณชาย​สอง​ ​คุณชาย​สาม​ที่​เป็น​บิดา​ของ​หวง​กุ้ย​เฟ​ยส​กุล​โอว​และ​คุณชาย​เก้า​ยืน​อยู่​ฝั่ง​คุณชาย​หก​ขอรับ​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ทำ​สีหน้า​พอใจ​แล้ว​ตอบกลับ​ว่า​ ​“​ข้า​รู้​แล้ว​”

​จากนั้น​ผู้ดูแล​จ้าว​ก็​ขอตัว​ออก​ไป

​“​ท่าน​โหว​ ​ท่าน​ออก​ไปดู​เถิด​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​กอด​ผ้าห่ม​แน่น​ ​“​ช่วงนี้​ราชสำนัก​กำลัง​วุ่นวาย​ ​บางที​ฮ่องเต้​อาจจะ​มีเรื่อง​ด่วน​ก็ได้​เจ้าค่ะ​!​”

​ถึงแม้ว่า​การ​ที่​ขันที​ออกมา​จาก​พระราชวัง​จะ​มี​ขั้นตอน​วุ่นวาย​ ​อาจจะ​ต้อง​ใช้เวลา​พอสมควร​ ​ไป​ช้า​หน่อย​ฮ่องเต้​ก็​ไม่มีทาง​ว่า​อะไร​ ​แต่ว่า​มี​ขันที​ที่มา​ประกาศ​พระราช​โองการ​ ​หาก​มี​ข่าวลือ​อะไร​แพร่กระจาย​ออก​ไป​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​อาจจะ​กลายเป็น​คน​เย่อหยิ่ง​ ​เพิกเฉย​พระราช​โองการ​ของ​ฮ่องเต้​

จะ​ทำให้​เสีย​เรื่องใหญ่​เพราะ​เรื่องเล็ก​ได้​เช่นไร​!

​นาง​ไม่​รอ​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​อะไร​ก็​สวม​เสื้อคลุม​ ​ลง​จาก​เตียง​แล้ว​เรียก​จู๋​เซียง​ ​“​บอก​ให้​สาวใช้​ตัก​น้ำ​เข้ามา​รับใช้​ท่าน​โหว​เปลี่ยน​ชุด​!​”

​จู๋​เซียง​ตอบกลับ​อย่างรวดเร็ว​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ดีใจ

​นาง​ก็​กลัว​ว่า​ท่าน​โหว​จะ​สนใจ​แต่​สือ​อี​เหนียง​ ​ทำให้​สือ​อี​เหนียง​เสื่อมเสีย​ชื่อเสียง​

​สวี​ลิ่ง​อี๋​มองดู​ท่าที​ที่​เคร่งขรึม​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​เขา​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ยิ้ม​แล้ว​บิด​จมูก​นาง​ ​“​ดูเหมือนว่า​ข้า​อยาก​เป็น​ขุนนาง​ทรยศ​คงจะ​ไม่ใช่​เรื่อง​ง่าย​!​”

​สือ​อี​เหนียง​เม้มปาก​ยิ้ม​ ​“​เพราะว่า​ตอนที่​ขุนนาง​ทรยศ​มีชีวิต​อยู่​เขา​มีชีวิต​ที่​สุขสบาย​เจ้าค่ะ​!​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​หัวเราะ​ ​จับ​เส้น​ผม​ที่​ตกลง​มาตรง​แก้ม​ของ​นาง​ ​นึกถึง​กลิ่นหอม​ที่​แผ่​กระจาย​อยู่​บน​หน้าอก​ของ​ตัวเอง​เมื่อ​ครู่​ ​หัวใจ​ของ​เขา​ก็​พลัน​เต้น​แรง​ ​เขา​จับ​หน้านาง​ ​หอม​แก้ม​นาง​แล้ว​พูดเสี​ยง​กระซิบ​ ​“​รอ​ข้า​กลับมา​!​”

​สือ​อี​เหนียง​หน้าแดง​ทันที

​*****

​ท่าน​ป้า​ที่​เฝ้า​ประตู​เห็น​ว่า​คนที​่​มาคือ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ ​นาง​ก็​ยิ้ม​ ​“​อี๋​เหนียง​มาทำ​อะไร​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​จากนั้น​ก็​มองดู​หยาง​อี๋​เหนียง​ที่อยู่​ข้างหลัง​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ด้วย​ความสงสัย

​“ฮู​หยิน​นอน​แล้ว​หรือยัง​”​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ถาม​อย่าง​ไม่มี​ความคาดหวัง​อะไร

​ทุกอย่าง​ล้วน​มี​การเปลี่ยนแปลง​ ​ถึงแม้ว่า​วันนี้​หยาง​อี๋​เหนียง​จะ​ลำบาก​ ​แต่​ก็​รับประกัน​ไม่ได้​ว่าวัน​ไหน​นาง​จะ​สูงส่ง​ ​การ​ที่นา​งมา​หา​สือ​อี​เหนียง​ครั้งนี้​ ​ก็​ถือว่า​เป็นการ​ให้​คำอธิบาย​แก่​หยาง​อี๋​เหนียง

​“​อี๋​เหนียง​โชคดี​เสีย​จริง​เจ้าค่ะ​!​”​ ​ท่าน​ป้า​เฝ้า​ประตู​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ยิ้ม​อย่าง​ประจบสอพลอ​ ​“​มี​คน​ของ​พระราชวัง​มา​เชิญ​ท่าน​โหว​เข้าไป​ใน​พระราชวัง​ ฮู​หยิน​พึ่ง​จะ​ส่ง​ท่าน​โหว​ออก​ไป​ ​ตอนนี้​น่าจะ​ยัง​ไม่​นอน​!​”

​สีหน้า​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​และ​หยาง​อี๋​เหนียง​พลัน​เปลี่ยนไป​ ​พวก​นาง​หันมา​มองหน้า​กัน

เข้าไป​ใน​พระราชวัง​กลางดึก​ดื่น​เช่นนี้​ ​ไม่รู้​ว่า​เป็นเรื่อง​ดี​หรือ​เรื่อง​ร้าย​?

​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​รีบ​พูด​ ​“​ท่าน​ป้า​ไปรา​ยงาน​ให้​ข้า​หน่อย​เถิด​”​ ​จากนั้น​นาง​ก็​ยัด​เงิน​สอง​สาม​ตำลึง​ให้​ป้า​รับใช้​คน​นั้น

​ป้า​รับใช้​คน​นั้น​คิด​ว่า​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​คือ​อี๋​เหนียง​ที่​มีหน้ามีตา​ที่สุด​ของ​สือ​อี​เหนียง​…​จึง​รับเงิน​มา​ใส่​ไว้​ใน​แขน​เสื้อ​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​อี๋​เหนียง​รอสั​กค​รู่​ ​บ่าว​จะ​ไป​บอก​แม่นาง​จู๋​เซียง​ประเดี๋ยวนี้​”

​“​รบกวน​ท่าน​ป้า​แล้ว​!​”​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​พูด​ด้วย​ความเกรงใจ​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้องโถง​กับ​หยาง​อี๋​เหนียง​ ​รอ​ใน​ที่​ที่​ไม่มี​ลม​พัด

​“​พี่​หญิง​ ​พี่​หญิง​คิด​ว่า​ ​ฮ่องเต้​เชิญ​ท่าน​โหว​เข้าเฝ้า​ตอนนี้​ ​เพราะ​เรื่อง​อัน​ใด​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​หยาง​อี๋​เหนียง​ถาม​ด้วย​สีหน้า​ที่​เป็นกังวล

ตอนแรก​กลัว​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​อยู่​ที่​เรือน​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​ถึง​ตอนนั้น​คงจะ​ลำบาก​ ​แต่​คิดไม่ถึง​ว่า​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะเข้า​ไป​ใน​วัง​…​หรือว่า​นี่​คือ​เจตนา​ของ​สวรรค์​ ​แต่​ไม่รู้​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​เล่าเรื่อง​ที่นาง​ไป​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​ให้​สือ​อี​เหนียง​ฟัง​หรือไม่​…​แต่​ถึงแม้​จะ​เล่า​แล้วก็​ไม่เป็นไร​ ​ด้วย​นิสัย​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​เขา​ไม่มีทาง​เล่า​ให้​นาง​ฟัง​อย่างละเอียด​แน่นอน​…​แต่​ตอนนี้​กลัว​แค่​ว่า​จะ​ไม่​เจอ​นาง​ ​ไม่มี​แม้แต่​โอกาส​…

​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​คิด​ว่านา​งกำ​ลัง​เป็นห่วง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​จึง​ไม่​สงสัย​อะไร​ ​ถอนหายใจ​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ข้า​ก็​ไม่รู้​เหมือนกัน​!​”​ ​ด้วย​สีหน้า​ที่​สับสน​

ตั้งแต่​สือ​อี​เหนียง​พูด​กับ​นาง​ชัดเจน​แล้ว​ ​ความคิด​บางอย่าง​ที่​ฝัง​ลึก​อยู่​ใน​หัวใจ​ของ​นาง​มา​หลาย​ปีก​็​เปลี่ยนแปลง​ไป​ ​จู่ๆ​ ​นาง​ก็​เริ่ม​สับสน​ใน​ตัวเอง​ ​และ​ยิ่ง​ไม่กล้า​ออก​ความคิดเห็น​เกี่ยวกับ​เรื่อง​พวก​นี้​ ​นาง​แค่​ขอให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่เป็นอะไร​ก็​พอ​ ​ไม่อย่างนั้น​ ​คน​สกุล​นี้​จะ​มีชีวิต​อยู่​ต่อไป​ได้​เช่นไร​…

​อีก​ด้าน​หนึ่ง​ ​จู๋​เซียง​ได้รับ​รายงาน​จาก​ป้า​รับใช้​คน​นั้น​ ​“​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​พา​หยาง​อี๋​เหนียง​มาหาฮู​หยิน​เช่นนั้น​หรือ​”

​ป้า​รับใช้​คน​นั้น​ยิ้ม​แล้ว​พยักหน้า​ ​เห็นแก่​เงิน​สอง​สาม​ตำลึง​นั้น​นาง​จึง​พูดว่า​ ​“​แม่นาง​ ​ข้า​บอกว่าฮู​หยิน​นอน​แล้ว​ ​แต่​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​บอกว่า​ ​ถึง​ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​ให้​ข้ามา​บอก​แม่นาง​!​”

​จู๋​เซียง​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​บอก​สาวใช้​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​“​ข้า​ออก​ไปดู​ก่อน​ ​หากฮู​หยิน​ถาม​ ​เจ้า​ก็​บอกว่า​ประเดี๋ยว​ข้า​กลับมา​!​”​ ​จากนั้น​ก็​ออก​ไป​ที่​ห้องโถง​กับ​ป้า​รับใช้​คน​นั้น

​ทันทีที่​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​เห็น​จู๋​เซียง​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​เดิน​เข้าไป​ ​“​หยาง​อี๋​เหนียง​มีเรื่อง​ด่วน​อยาก​เจอฮู​หยิน​ ​ข้า​จึง​มา​เป็นเพื่อน​…​”

นาง​กลัว​ว่า​จะ​ถูก​ท่าน​โหว​ส่งตัว​ไป​อยู่​ที่​วัด​ ​ดังนั้น​จึง​ถือโอกาส​ตอนที่​เรื่อง​นี้​ยัง​ไม่​แพร่กระจาย​ออก​ไป​ ​มาหาฮู​หยิน​กลาง​ค่ำ​กลางคืน​เพราะ​หวัง​ว่า​ท่าน​โหว​จะ​เปลี่ยนใจ​กระมัง​ ​แล้ว​เรื่อง​เช่นนี้​ ​นาง​ไม่มีทาง​พูด​ต่อหน้า​คนอื่น​แน่นอน​!

​จู๋​เซียง​ยิ้ม​แล้ว​มอง​ไป​ที่​หยาง​อี๋​เหนียง​ ​“ฮู​หยิน​นอน​ไป​แล้ว​เจ้าค่ะ​ ​หรือ​หาก​หยาง​อี๋​เหนียง​มีเรื่อง​อัน​ใด​ให้​บ่าว​ไปรา​ยงาน​ให้​ก็ได้​เจ้าค่ะ​!​”​ ​นาง​ปฏิเสธ​ไป​อย่าง​อ้อมค้อม

​หยาง​อี๋​เหนียง​แอบ​ก่น​ด่า​ใน​ใจ​ว่า​จู๋​เซียง​นั้น​วุ่นวาย​ ​แต่​นาง​ก็​ต้อง​ผ่าน​ด่าน​นี้​ไป​ให้​ได้

​นางน้ำ​ตา​คลอ​เบ้า​แล้ว​พูด​สะอึกสะอื้น​ ​“​เกิดเรื่อง​ขึ้นกับ​ครอบครัว​ของ​ข้า​ ​จึง​อยาก​ขอร้อง​ให้ฮู​หยิน​ช่วย​ข้า​ขอร้อง​ท่าน​โหว​…​”

ท่าน​โหว​จะ​ส่ง​นาง​ไป​อยู่​ที่​วัด​จึง​นึกถึงฮู​หยิน​ขึ้น​มา​?​ ​แล้ว​ก่อนหน้านี้​ไป​ทำ​อะไร​มา​?

​จู๋​เซียง​ยิ้ม​อย่าง​แผ่วเบา​ ​“​อีก​สอง​สาม​ชั่ว​ยาม​ก็​จะ​เช้า​แล้ว​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ตอนนี้​ท่าน​โหว​ไม่อยู่​ที่​จวน​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​บอก​ให้​บรรดา​ผู้ดูแล​ไป​จัดการ​ ​ก็​ต้อง​รอ​ให้​ฟ้า​สว่าง​ก่อน​เจ้าค่ะ​ ​บ่าว​คิด​ว่า​ ​ประเดี๋ยว​อี๋​เหนียง​ค่อย​มา​ใหม่​เถิด​!​”

​การ​ที่​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​มี​วันนี้​ได้​ ​แง่มุม​หนึ่ง​คือ​สือ​อี​เหนียง​ให้เกียรติ​นาง​ ​อีก​แง่มุม​หนึ่ง​ที่​สำคัญ​คือ​นาง​สังเกต​คน​ออก​และ​อยู่​เป็น​ ​ได้ยิน​เช่นนี้​นาง​ก็​หันหน้า​มายิ​้ม​แล้ว​ช่วย​จู๋​เซียง​เกลี้ยกล่อม​หยาง​อี๋​เหนียง​ ​“​แม่นาง​จู๋​เซียง​พูด​ถูก​ ​ประเดี๋ยว​ก็​เช้า​แล้ว​ ฮู​หยิน​พึ่ง​จะ​พักผ่อน​ ​อีกทั้ง​ท่าน​โหวก​็​ไม่อยู่​ที่​เรือน​…​”

​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ยัง​พูด​ไม่​จบ​ ​ก็​มีสาว​ใช้​วิ่ง​หอบ​เข้ามา​ ​“​พี่​จู๋​เซียง​ ฮู​หยิน​บอกว่า​ ​เชิญ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​และ​หยาง​อี๋​เหนียง​เข้าไป​พบ​เจ้าค่ะ​!​”

​จู๋​เซียง​ตกใจ​

เห็นได้ชัด​ว่า​หยาง​อี๋​เหนียง​มี​เจตนา​ที่​ไม่ดี​ ​เหตุใดฮู​หยิน​ถึง​ยัง​อยาก​เจอ​นาง​เล่า

​นาง​เป็นกังวล​ ​แต่​ตอนนี้​ก็​ทำ​อะไร​ไม่ได้​ ​จึง​ยิ้ม​แล้ว​เชิญ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​และ​หยาง​อี๋​เหนียง​เข้าไป​ ​“​เชิญ​อี๋​เหนียง​ตาม​บ่าว​มา​เจ้าค่ะ​!​”

​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​คิด​ว่า​เรื่อง​ที่​ตัวเอง​ควร​ทำ​ก็​ทำ​แล้ว​ ​เรื่อง​ที่​เหลือ​นาง​ไม่​อยาก​มีส่วนร่วม​ ​แต่ว่าฮู​หยิน​ให้​นาง​เข้าไป​ด้วย​ ​พูด​เช่นนั้น​ตอนนี้​มัน​คงจะ​ไม่เหมาะสม​ ​นาง​จึง​รีบ​เดินตาม​ไป

​หยาง​อี๋​เหนียง​ดีอกดีใจ

ขอ​แค่​สือ​อี​เหนียง​ยอม​เจอ​นาง​ก็​พอแล้ว​…

​*****

​แสงไฟ​ของ​เรือน​หลัก​สว่างไสว​ ​สือ​อี​เหนียง​เอน​ตัว​อยู่​บน​หมอน​ใบ​ใหญ่​บน​เตียง​เตา​ข้างหน้า​ต่าง​ด้วย​สีหน้า​ที่​เกียจคร้าน

​นาง​ยก​ถ้วย​ชา​ขึ้น​มา​จิบ​แล้ว​พูดว่า​ ​“​หยาง​อี๋​เหนียง​มีเรื่อง​อัน​ใด​หรือ​”

​แต่กลับ​ไม่​บอก​ให้​สาวใช้​ยก​ของว่าง​และ​น้ำชา​ ​ยก​เก้าอี้​มา​ให้​พวก​นาง​นั่ง​เหมือน​ทุกครั้ง​

​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​ลอบ​สังเกต​สือ​อี​เหนียง​อย่างระมัดระวัง

​ผิว​ที่​ขาว​อม​ชมพู​ ​สายตา​ที่​อ่อนโยน​และ​ท่าที​ที่​สงบนิ่ง​ ​ดูแล​้​วนาง​น่าจะ​กำลัง​อารมณ์ดี

​นาง​โล่งใจ​ขึ้น​มา​

​หยาง​อี๋​เหนียง​คุกเข่า​ลง​ต่อหน้า​สือ​อี​เหนียง

​“ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​!​”​ ​นาง​พูด​ด้วย​ความรู้สึกผิด​ ​“​ข้า​ทำความ​ผิด​ ​ตอนนี้​ข้า​เสียใจ​เป็นอย่างมาก​ ฮู​หยิน​โปรด​เห็นแก่​ข้า​ที่​ไม่รู้​ความ​ ​ช่วย​ข้า​ด้วย​เถิด​เจ้าค่ะ​!​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​ร้องไห้​แล้ว​โขก​หัว​ลง​บน​พื้นเสีย​งดัง​

การเปิดฉาก​เช่นนี้​ ​สด​ใหม่​เสีย​จริง

เกิดเรื่อง​ขึ้นกับ​ครอบครัว​ ​คิด​ว่า​ตน​ไม่มี​ความสามารถ​ใน​การ​จัดการ​จึง​แอบ​ไปหา​สวี​ลิ่ง​อี๋​เป็นการ​ส่วนตัว​ ​ก็​พอ​เข้าใจ​ได้​ ​แต่​ตน​ไม่​ให้อภัย​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​ผลลัพธ์​ที่นาง​ได้​จาก​การ​ไปหา​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่ใช่​การ​ช่วยเหลือ​ครอบครัว​ ​แต่กลับ​ส่งตัว​เอง​ไป​อยู่​ที่​วัด​ ​หาก​สวี​ลิ่ง​อี๋​อยาก​จะ​ตัดความสัมพันธ์​กับ​สกุล​หยาง​เพียง​เพราะ​สกุล​หยาง​ถูก​กวาดล้าง​ ​เขา​คงจะ​ส่ง​หยาง​อี๋​เหนียง​ไป​อยู่​ที่​วัด​ตั้ง​นาน​แล้ว​ ​เขา​จะ​รอ​ให้​ถึง​ตอนนี้​เวลานี้​ทำไม​ ​เกิด​อะไร​ขึ้น​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​พูด​นาง​ก็​พอ​จะ​เดา​ออก​…

หาก​สวี​ลิ่ง​ไม่มี​อำนาจ​ ​ไม่มี​ประสบการณ์​และ​อายุ​ยังน้อย​ ​ตอนจบ​มัน​จะ​เป็น​เช่นไร​ ​เกรง​ว่า​คงจะ​ไม่มีใคร​บอก​ได้​ ​แต่​สุดท้าย​สวี​ลิ่ง​อี๋​นั้น​ตัดสินใจ​ส่ง​นาง​ไป​อยู่​ที่​วัด​ ​และ​หลังจากที่​นาง​รู้​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​มา​เจอ​กับ​ตน​ ​นาง​ยัง​พยายาม​ทำ​ทุกอย่าง​เพื่อมา​เจอ​ตน​ ​แล้วยัง​ทำท่า​ที​อ่อนน้อม​ถ่อมตัว​ ​เข้ามา​ก็​ก้มหัว​ยอมรับผิด​…

ไม่ต้อง​พูดถึง​จุดยืน​ ​แค่​ความกล้าหาญ​เช่นนี้​ก็​หา​ได้​ยาก​แล้ว​!

​สือ​อี​เหนียง​มอง​ไป​ที่​ม่าน​เตียง

​พลัน​รู้สึก​ว่าความ​อบอุ่น​ใน​อ้อมแขน​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยัง​ไม่​จางหาย​ไป

​ทันใดนั้น​ ​นาง​ก็​อยากรู้​ว่า​หยาง​อี๋​เหนียง​จะ​พูด​อะไร​บ้าง​!

​นาง​นั่ง​ตัวตรง​ด้วย​สีหน้า​ที่​เคร่งขรึม

​“​หยาง​อี๋​เหนียง​ทำ​อะไร​ผิด​เช่นนั้น​หรือ​”​ ​นาง​ยิ้ม​อย่าง​สง่างาม​ ​“​เหตุใด​ถึง​ต้อง​ร้องห่มร้องไห้​ขอร้อง​ให้​ข้า​ให้อภัย​เช่นนี้​เล่า​”

​หยาง​อี๋​เหนียง​ได้ยิน​คำถาม​แล้วก็​ตกใจ

​ถึงแม้ว่า​น้ำเสียง​ของ​สือ​อี​เหนียง​ยังคง​อ่อนโยน​เหมือน​ทุกครั้ง​ ​แต่​คำพูด​ที่​พูด​ออกมา​กลับ​กระแทกแดกดัน​เช่นนี้​

​ทุกคน​ใน​ห้อง​หันมา​มองหน้า​กัน​

ฮู​หยิน​ไม่เคย​ไม่ไว้หน้าใคร​เช่นนี้​!

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท