ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 514 ร้อนระอุ (ปลาย)

ตอนที่ 514 ร้อนระอุ (ปลาย)

สือ​อี​เหนียง​ไม่ได้​คาดหวัง​กับ​เรื่อง​นี้​มากมาย​เท่าไร​นัก

อย่างไร​เสีย​ก็​เป็นเรื่อง​ก่อนที่​ชี​เหนียง​จะ​แต่งงาน​ ​โดยส่วนใหญ่​แล้ว​ผู้คน​เลือก​ที่จะ​หลีกเลี่ยง​เรื่อง​เหล่านี้​ ​โอกาส​ที่จะ​มีบุ​ตร​นั้น​น้อย​เป็นอย่างมาก​ ​และ​ถึงแม้ว่า​จะ​มี​ก็​จะ​ระมัดระวัง​เป็น​อย่างดี​ ​หากว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​เป็น​งูจงอาง​ ​จู​อาน​ผิง​ก็​เท่ากับ​เป็น​งู​ท้องถิ่น​ ​คำกล่าว​ที่ว่างู​ที่​แกร่ง​กว่า​จะ​ไม่​ข่ม​งู​ท้องถิ่น​ ​ก็​ยัง​ไม่แน่​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​สามารถ​สืบ​เจอ​หรือไม่

สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​รู้สึก​ว่าวิ​ธี​ของ​สือ​อี​เหนียง​ไม่​ค่อย​เหมาะสม​เท่าไร​นัก

จู​อาน​ผิง​ฉลาด​หลักแหลม​และ​มากความ​สามารถ​ ​อีกทั้ง​ยัง​เป็น​คนที​่​มี​กลยุทธ์​เป็นอย่างมาก​ ​เขา​จะ​ไป​ให้กำเนิด​ทายาท​ก่อนที่จะ​แต่งงาน​และ​ทำลาย​ชื่อเสียง​ส่งผล​กระทบ​กับ​เรื่องใหญ่​เช่น​งานแต่ง​ได้​อย่างไร​กัน

แต่​เมื่อ​เห็น​สีหน้า​ท่าที​ที่​กระตือรือร้น​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​เขา​ก็​ไม่​อยาก​จะ​พูด​อะไร​ที่​ทำให้​นาง​เสียน้ำใจ​ ​จึง​ทำได้​เพียง​ถาม​นาง​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​อ่อนโยน​ว่า​ ​“​ถ้า​เกิด​ว่า​เขา​ไม่มี​ทายาท​เล่า​”

สือ​อี​เหนียง​จึง​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​หากว่า​ไม่มี​ทายาท​จริงๆ​ ​ชี​เหนียง​ก็​จะ​รู้สึก​มั่นใจ​เพิ่มขึ้น​มากกว่า​เดิม​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​ค่อย​เข้าใจ​เจตนา​ของ​สือ​อี​เหนียง​ขึ้น​มา

หากว่า​จู​อาน​ผิง​มีบุ​ตร​นอกสมรส​ ​สกุล​หลัว​ก็​จะ​สามารถ​ใช้​เหตุผล​นี้​มา​อ้าง​ได้​ ​ถึงแม้ว่า​ชี​เหนียง​ไม่​สามารถ​มีบุ​ตร​ ​แต่​ก็​สามารถ​จับจุด​อ่อน​ของ​จู​อาน​ผิง​ ​อีกทั้ง​ยัง​ส่งผล​ดี​ต่อ​ชี​เหนียง​และ​สามารถ​เรียกร้อง​ความเห็นอกเห็นใจ​ได้​ ​ด้วย​ปัญหา​เรื่อง​บุตรนอกสมรส​ ​ชี​เหนียง​จะ​สามารถ​ถืออำนาจ​ที่​เหนือกว่า​ ​แต่​หากว่า​จู​อาน​ผิง​ไม่เคย​มีทา​ยาท​มาก​่อน​ ​เช่นนั้น​ก็​ยิ่ง​เป็นการ​ดี​เข้าไป​ใหญ่​ ​เพราะ​ชี​เหนียง​ก็​จะ​สามารถ​ผลัก​ภาระ​เรื่อง​การ​มีทา​ยาท​ให้​กับ​จู​อาน​ผิง​ทั้งหมด​ได้

เขา​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​ตัดสินใจ​บอก​กับ​สือ​อี​เหนียง​ว่า​ ​“​ข้า​ได้​แนะนำ​จู​อาน​ผิง​ให้​กับ​ซุ่น​อ๋อง​ ​เขา​เอง​ก็ได้​แนะนำ​พ่อค้า​แซ่วั​งคน​หนึ่ง​ที่อยู่​ใน​ซง​เจียง​ให้​กับ​ซุ่น​อ๋อง​ ​ต้น​ฤดูใบไม้ผลิ​ของ​ปีนี​้​ ​ซุ่น​อ๋อง​ได้​เหมา​ธุรกิจ​ผ้า​ทอ​ที่​ได้​ทำการค้า​กับ​ซง​เจียง​ของ​พ่อค้า​แซ่วั​งค​นนั​้น​ไว้​ทั้งหมด​…​”

สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​แปลกใจ​เป็นอย่างมาก​ ​“​แล้ว​สกุล​เหวิน​เล่า​”

“​บางที​การ​ที่​เรา​ให้กำลังใจ​เขา​สุ่มสี่สุ่มห้า​อาจ​ทำให้​เขา​จม​ลึก​กว่า​เดิม​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เย็นชา​ ​“​สกุล​เหวิน​เย่อหยิ่ง​และ​รุ่งเรือง​มาก​จน​เกินไป​ ​ถึง​เวลา​แล้ว​ที่จะ​ต้อง​ถอย​ลงมา​”​ ​พูด​จบ​เขา​ก็​ทอดถอนใจ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​“​เพียงแต่ว่า​สกุล​เหวิน​ยินยอม​ที่จะ​ถอย​ออกมา​ดี​ๆ​ ​หรือไม่ก็​เท่านั้น​!​”

“​สกุล​เหวิน​เป็น​ตระกูล​ที่​ทำ​เกี่ยวกับ​การค้า​เป็นหลัก​ ​เรื่อง​เกี่ยวกับ​ราชสำนัก​ ​ใช่​ว่า​จะเข้า​ใจ​เสมอไป​”​ ​สือ​อี​เหนียง​นึกถึง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​ตก​อยู่​ใน​ภาวะ​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก​ระหว่างทาง​ฝั่ง​ฮ่องเต้​และ​ทาง​สกุล​เหวิน​ตลอด​หลาย​ปี​ที่ผ่านมา​ ​นาง​จึง​กุมมือ​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ใต้​ผ้าห่ม​ ​“​ข้าว​่า​ท่าน​โหว​ลอง​คุย​กับ​เขา​ให้​กระจ่าง​จะ​ดีกว่า​ ​ไม่ว่า​พวกเขา​จะ​กล่าวโทษ​หรือ​รู้สึก​ขอบคุณ​ ​ขอ​แค่​ท่าน​โหว​ไม่รู้​สึก​ผิด​ต่อ​ตนเอง​ก็​เป็น​พอ​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เปลี่ยน​มา​เป็น​คน​กุมมือ​ของ​สือ​อี​เหนียง​แทน​ ​จากนั้น​ก็​ตอบกลับ​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​อืม​”​ ​แต่​น้ำเสียง​ของ​เขา​กลับ​เต็มไปด้วย​ความ​กลัดกลุ้ม

สือ​อี​เหนียง​จึง​ไม่ได้​พูดถึง​เรื่อง​นี้​ขึ้น​มา​อีก​ ​จากนั้น​นาง​ก็​เปลี่ยนไป​พูด​เรื่อง​ของ​ชี​เหนียง​ต่อ​ ​“​ฟัง​จาก​น้ำเสียง​ของ​ท่าน​โหว​แล้ว​ ​เท่ากับ​ว่า​ตอนนี้​จู​อาน​ผิง​อาศัย​ท่าน​โหว​ทำการค้า​อย่างนั้น​หรือ​เจ้า​คะ​”

“​ไม่​ถึงกับ​ว่า​อาศัย​ข้า​ทำการค้า​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตอบกลับ​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เรียบ​เฉย​ ​“​เพียงแต่ว่า​ทั้งสอง​ตระกูล​ต่าง​ก็​ฉีกหน้า​กัน​ย่อยยับ​ ​สกุล​จู​คงจะ​เสียหาย​ไม่น้อย​อย่างแน่นอน​”

สือ​อี​เหนียง​ถอนหายใจ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​นาง​ก็​ชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​จู่ๆ​ ​ก็​รู้สึก​ขำ​ขึ้น​มา

ตน​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​มีนิ​สัย​ใจคอ​ที่​ค่อนข้าง​เหมือนกัน

ทั้งสอง​ต่าง​ก็​เชื่อ​ว่า​ผลกำไร​นั้น​แข็งแกร่ง​และ​ยืนยาว​กว่า​ความสัมพันธ์​ ​แต่​การกระทำ​กลับ​ตรงกันข้าม​อย่าง​สิ้นเชิง​…

สือ​อี​เหนียง​หันไป​หนุน​แขน​ของ​เขา​ ​ขดตัว​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​เขา

เมื่อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​ว่านาง​ขยับตัว​เข้าหา​เขา​ ​เขา​ก็​ยื่นมือ​เข้าไป​ใน​แขน​เสื้อ​ของ​นาง​ ​ลูบ​แผ่น​หลัง​ที่​เนียน​ละเอียด​ของ​นาง​อย่างเบามือ​ ​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​อ่อนเพลีย​ว่า​ ​“​เจ้า​แค่​ไป​บอก​กับ​ชี​เหนียง​สัก​คำ​ก็​พอ​ ​เรื่อง​บาง​เรื่อง​ก็​ไม่​ควร​พูด​ลึก​จน​เกินไป​ ​พลอย​แต่​จะ​ทำให้​จู​อาน​ผิง​รู้สึก​ว่า​เรา​ทำดี​เพื่อ​หวังผล​ ​จะ​กลายเป็น​ผลร้าย​มากกว่า​ผลดี​”

“​ข้า​เข้าใจ​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”​ ​นิ้วมือ​ของ​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​ม้วน​เชือก​ของ​เสื้อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เล่น​ ​นาง​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ ​“​ข้า​เอง​ก็​ไม่​อยาก​จะ​ให้​ชี​เหนียง​เข้าใจผิด​ ​คิด​ว่าที่​พี่เขย​เจ็ด​ปิดบัง​ไม่ยอม​พูด​ออกมา​เพราะ​เรื่อง​เหล่านี้​”​ ​พูด​จบ​ ​จู่ๆ​ ​นาง​ก็​รู้สึก​แปลกใจ​ขึ้น​มา​อย่าง​บอก​ไม่​ถูก​ เหมือนว่า​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​จู​อาน​ผิง​และ​ชี​เหนียง​ราวกับ​กลีบดอกไม้​ที่​ลอย​อยู่​กลาง​น้ำ​และ​ดวงจันทร์​ที่​ปรากฏ​อยู่​ใน​กระจก​ ​ล่องลอย​และ​คลุมเครือ​ ​ว่างเปล่า​และ​ลวงตา​ ​ส่วน​นาง​และ​สวี​ลิ่ง​อี๋​กำลัง​พยายาม​ทำ​ทุกอย่าง​ให้​สงบ​อย่างระมัดระวัง​อย่างไร​อย่างนั้น

เมื่อก่อน​ชี​เหนียง​เคย​แกร่งกล้า​ ​แต่​เหตุใด​จู่ๆ​ ​ตอนนี้​นาง​ถึง​เหยาะแหยะ​เช่นนี้​ได้​!

“​ข้า​เคย​เล่า​ให้ท่าน​โหว​ฟัง​หรือไม่​ ​ตอนที่​ข้า​ยัง​เด็ก​ ​ข้า​เคย​ล้ม​ป่วย​อาการสาหัส​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ ​“​ตอนที่​ข้า​เจอ​กับ​ชี​เหนียง​เป็นครั้งแรก​ ​ก็​คือ​ตอนที่​ข้า​กำลัง​รักษา​อาการ​อยู่​ที่​ลาน​สวน​ ​ตอนนั้น​พึ่ง​จะเข้า​สู่​หน้าร้อน​ ​อากาศ​ค่อนข้าง​ร้อนระอุ​ ​ใน​เรือน​ไม่​ค่อย​ถ่ายเท​ ​จึง​ค่อนข้าง​อบอ้าว​เป็นอย่างมาก​ ​ข้า​กำลัง​นอน​อยู่​บน​เสื่อ​ ​ห่ม​ด้วย​ผ้า​หยาบ​ผืน​บาง​สีม่วง​น้ำเงิน​ ​แสงแดด​ที่​สาดส่อง​มานั​้​นรา​วกั​บลู​กศร​ทอง​ก็​ไม่​ปาน​ ​แสงแดด​เล็ดลอด​ผ่าน​ต้นไม้​ทอด​สู่​พื้นดิน​ ​มี​ลม​พัดผ่าน​เบา​ๆ​ ​เงา​ของ​แสงแดด​รำไร​กระทบ​ลง​บน​ตัว​ของ​ข้า​ ​มือ​ของ​ข้า​…​ข้า​รู้สึก​เหมือนว่า​ตัวเอง​เหมือน​เครื่อง​สำริด​ที่​ไม่ได้​ต้อง​แสงแดด​เป็นเวลา​หลาย​ปี​ ​ในที่สุด​กลิ่นอับ​ชื้น​และ​รอยด่าง​บน​ตัว​ข้า​ก็​ค่อยๆ​ ​จางหาย​ไป

มีเสียง​ของ​หญิงสาว​ดัง​ขึ้น​ผ่าน​กำแพง​ลาน​สวน​ว่า​ ​‘​ตรง​กำแพง​มีด​อก​ว่าน​ผักบุ้ง​อยู่​ด้วย​เจ้าค่ะ​’​ ​จากนั้น​ก็​มีเสียง​ใสแจ๋ว​ดัง​ขึ้น​ว่า​ ​‘​เด็ด​ไป​สัก​สอง​ดอก​ ​เอา​ไป​ติดกับ​ม่าน​เตียง​’​ ​หญิงสาว​คน​นั้น​ก็​โน้มน้าว​ว่า​ ​‘​ตอนนี้​ยังอยู่​ช่วง​ไว้ทุกข์​ ​นาย​หญิง​ใหญ่​เป็น​คนที​่​เคร่ง​เป็นอย่างมาก​ ​หากว่า​นาง​รู้เรื่อง​เข้า​ ​นาย​หญิง​ใหญ่​จะ​ดุ​เอา​ได้​ระ​เจ้า​คะ​’​ ​หญิงสาว​ที่​มีเสียง​ไพเราะ​ก็​พูด​ตอบ​ว่า​ ​‘​คนอื่น​เขา​เข้มงวด​กับ​ตัวเอง​ ​แล้ว​ผ่อนปรน​ต่อ​ผู้อื่น​ ​แต่​ท่าน​ป้า​สะใภ้​ใหญ่​กลับ​ผ่อนปรน​ต่อ​ตนเอง​ ​แล้วไป​เข้มงวด​กับ​ผู้อื่น​แทน​ ​พอ​ข้า​หัวเราะ​เสียงดัง​หน่อย​ ​นาง​ก็​จ้อง​ข้า​ไป​ครึ่ง​ค่อนวัน​ ​อีกทั้ง​ยัง​แอบ​ทำ​โจ๊ก​หมู​ให้​ซิว​เกอ​ทาน​คนเดียว​ด้วย​ ​อย่า​ทำ​เหมือน​ข้า​ไม่รู้​อะไร​เลย​…​หญิงสาว​อีก​คน​ก็​รีบ​พูด​ขึ้นเสียง​สั่นเทา​ว่า​’​ ​‘​คุณหนู​อย่า​พูด​เช่นนี้​นะ​เจ้า​คะ​ ​หาก​นาย​หญิง​ใหญ่​ได้ยิน​เข้า​ ​จะ​ลงโทษ​คุณหนู​ให้​คุกเข่า​บน​กระดาน​ซักผ้า​เอา​ได้​ ​ตั้งแต่​คุณหนู​กลับ​อวี​๋​หัง​ไป​ ​โดน​ลงโทษ​ร่วม​ห้า​ครั้ง​แล้ว​นะ​เจ้า​คะ​’​”

เมื่อ​พูดถึง​ตอนนี้​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​รู้สึก​ว่า​ร่างกาย​ของ​นาง​อ่อนนุ่ม​มากขึ้น​กว่า​เดิม​ ​น้ำเสียง​ก็​ฟัง​ดู​อารมณ์ดี​ขึ้น​มาก

สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​โน้มตัว​ลง​ไป​หอม​หน้าผาก​ของ​นาง​เบา​ๆ​ ​“​น้ำเสียง​ใสแจ๋ว​ที่​พูดถึง​ ​ก็​คือ​ชี​เหนียง​หรือ​”

สือ​อี​เหนียง​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​จากนั้น​นาง​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ท่าน​ปู่​พึ่ง​จะ​เสียชีวิต​ ​ท่าน​พ่อ​อยู่​ที่ฝู​เจี​้​ยน​ ​กลับ​ไป​ถึง​เร็ว​สุด​ ​ส่วน​ท่าน​อา​สอง​อยู่​ใน​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​ ​จึง​กลับ​ไป​ถึง​ช้า​สุด​ ​ตอนที่​นาง​กลับมา​ ​ข้า​ได้​ย้าย​ไป​พัก​รักษาตัว​อยู่​ที่​เรือน​สวน​แล้ว​ ​ก็​เลย​ไม่ได้​เจอ​กับ​นาง​ ​นาง​ย้าย​ไป​อยู่​ใน​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​ตั้งแต่​ยัง​เด็ก​ ​นาง​ได้รับ​ความรัก​และ​ถูก​เอาใจ​จาก​บิดา​มารดา​และ​พี่ชาย​ของ​นาง​ ​พอก​ลับ​ไป​แล้วจึง​ไม่​ค่อย​คุ้นชิน​เท่าไร​นัก​ ​วัน​ๆ​ ​ต้อง​อยู่​แต่​ใน​เรือน​ ​จึง​อุดอู้​เป็นอย่างมาก​ ​นาง​จึง​มักจะ​ฉวยโอกาส​ตอนที่​ทุกคน​พักผ่อน​ช่วง​กลางวัน​ ​ให้​สาวใช้​น้อย​แอบ​พา​ไป​เดินเล่น​ที่​ลาน​สวน​ ​เมื่อ​เห็น​ข้า​นอน​อยู่​ที่​ใต้​ต้นไม้​ ​นาง​ก็​ตกใจ​เป็นอย่างมาก​ ​จากนั้น​นาง​ก็​จ้องมอง​ข้า​ด้วย​ความรู้สึก​ที่​สงสาร​และ​เห็นอกเห็นใจ​ ​แล้วจึง​หันไป​สั่ง​ให้​สาวใช้​น้อย​เอา​ยาเม็ด​เสวี​่ย​จิน​มา​หนึ่ง​ขวด​ ​พูด​จบ​จู่ๆ​ ​นาง​ก็​หัวเราะ​เสียงดัง​ออกมา​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​‘​ข้า​เกลียด​ยาจำ​พวก​ยาเม็ด​เสวี​่ย​จิน​เป็น​ที่สุด​ ​สีดำ​ปี๋​ ​อย่าง​กับ​ยาที​่​ทำ​มาจาก​ดิน​โคลน​อย่างไร​อย่างนั้น​ ​ไม่รู้​ว่า​คนที​่​ปั้น​ยาเม็ด​ล้างมือ​สะอาด​แล้ว​หรือยัง​…​’​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​แล้วก็​หัวเราะ​ตาม

เวลา​นั้น​คง​เป็นช่วง​เวลา​ที่​สือ​อี​เหนียง​ลำบาก​ที่สุด​ใน​ชีวิต​กระมัง​ ​ถูก​พี่สาว​ของ​ตัวเอง​ทุบตี​จน​ล้มหมอนนอนเสื่อ​ ​ไป​นอน​รักษาตัว​อยู่​เรือน​สวน​ที่​ห่างไกล​ไร้​ผู้คน​ ​มี​เพียง​สาวใช้​สอง​คน​คอย​ปรนนิบัติ​รับใช้​ข้าง​กาย​เท่านั้น​ ​วัน​ๆ​ ​คลุกคลี​อยู่​กับ​แต่​ยา​ ​ชีวิต​และ​ความตาย​ไม่แน่​ไม่​นอน​ ​อนาคต​วันข้างหน้า​เลือนราง​ไม่ชัด​เจน​…​ถือเป็น​เรื่อง​ที่​เมื่อ​เอ่ยถึง​จะ​รู้สึก​บีบ​หัวใจ​เป็นอย่างมาก​ ​แต่​เมื่อ​ถูก​เล่า​ออกจาก​ปากของ​สือ​อี​เหนียง​ ​กลับ​ทำให้​รู้สึก​ตลกขบขัน​ ​ฟัง​แล้ว​พลอย​ทำให้​เบิกบานใจ​ขึ้น​มา​อย่าง​บอก​ไม่​ถูก​!

เขา​โอบ​แขน​ของ​นาง​แน่น​ขึ้น​กว่า​เดิม​ ​“​แล้ว​เจ้า​ได้​ทาน​หรือไม่​”

“​ทาน​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตอบกลับ​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​แล้วจึง​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​จนใจ​ว่า​ ​“​นาง​ไม่ได้​แค่​พยายาม​จะ​ป้อน​ยา​ให้​ข้า​เท่านั้น​ ​แต่​ยัง​คอย​จ้อง​ว่า​ข้า​ได้​อม​ยา​ไว้​แล้ว​จริงๆ​ ​หรือไม่​ ​บอกว่า​ยาเม็ด​เสวี​่ย​จิน​ไม่​เหมือน​ยาทั​่ว​ไป​ ​เป็น​ยาที​่​ท่าน​อาสะใภ้​สอง​ขอให้​คน​ของ​โรง​ยา​หลวง​ช่วย​ทำ​ขึ้น​โดยเฉพาะ​ ​เพราะ​รู้​ว่า​พวกเขา​จะ​กลับมา​ที่​อวี​๋​หัง​ ​และ​ที่​อวี​๋​หัง​ก็​ไม่มี​ยา​เช่น​ยาเม็ด​เสวี​่ย​จิน​…​”​ ​อาจ​เพราะ​นึกถึง​เหตุการณ์​ที่​น่าสนุก​ใน​ตอนนั้น​ ​รอยยิ้ม​ของ​นาง​จึง​ชัดเจน​ขึ้น​อย่างเห็นได้ชัด​ ​“​วันนั้น​ข้า​อม​ยาเม็ด​เสวี​่ย​จิน​ไว้​ทั้งวัน​ ​นึกไม่ถึง​ว่า​ข้า​จะ​รู้สึก​เย็น​ลง​ไม่น้อย​ ​เมื่อ​เรา​เห็น​ว่า​คน​คน​หนึ่ง​ที่​ชอบ​อะไร​และ​ไม่​ชอบ​อะไร​ ​ล้วนแล้วแต่​มีเรื่อง​ราว​สอดแทรก​ใน​นั้น​เสมอ​…​”​ ​พูด​จนถึง​ตอนท้าย​ ​น้ำเสียง​ของ​นาง​กลับ​ลังเล​ขึ้น​มา​เล็กน้อย

ดูเหมือนว่า​ตน​จะ​ไม่เคย​รู้มาก​่อน​เลย​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​ชอบ​อะไร​และ​ไม่​ชอบ​อะไร

อาหารการกิน​ ​ทาง​ห้องครัว​ทำ​อะไร​ให้ทาน​เขา​ก็​ทาน​หมด​ ​ไม่มี​อะไร​ที่​ต้องการ​เป็นพิเศษ​ ​เสื้อผ้าอาภรณ์​ ​ร้าน​ปัก​เย็บ​ทำ​ชุด​อะไร​มา​ให้​ ​เขา​ก็​ใส่​ทุก​ชุด​ ​อีก​อย่าง​ชุด​ที่​ใส่​อยู่​เรือน​เป็นประจำ​ ​ก็​มี​เพียง​ไม่​กี่​ชุด​เท่านั้น​ ​ที่อยู่อาศัย​ ​ก่อนหน้านี้​นาง​ไม่เคย​รู้​ ​แต่​หลังจากที่​แต่งงาน​เข้า​จวน​มา​แล้ว​ ​เขา​ก็​มักจะ​ให้​นาง​ตัดสินใจ​เสมอ​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​บ่อ​ปลาทอง​ที่​วาง​ไว้​ตรง​ระเบียง​ของ​หน้าต่าง​ ​หรือ​จะ​เป็น​ดอก​ซ่อนกลิ่น​ที่​ร้อย​เป็น​เส้น​ยาว​ห้อย​ระย้า​อยู่​บน​เพดาน​ของ​เตียงนอน​ ​เขา​ไม่เคย​ว่า​อะไร​แม้แต่​คำ​เดียว​ ​ส่วน​เรื่อง​เดินทาง​ ​ตน​ไม่เคย​รู้​เลย​ว่า​เขา​จะ​นั่ง​รถม้า​ออกเดินทาง​เมื่อไร​ ​จะ​นั่ง​เกี้ยว​เมื่อไร​ ​หรือ​จะ​ขี่ม้า​เมื่อไร​…

จู่ๆ​ ​ใบหน้า​ของ​นาง​ก็​ร้อนผ่าว​ขึ้น​มา​เล็กน้อย​ ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ขดตัว​ใน​อ้อมกอด​ของ​เขา

นาง​กำลัง​นึกถึง​เรื่อง​ที่​ทำให้​รู้สึก​แย่​อย่างนั้น​หรือ​ ​ก็​เลย​ขยับ​เข้าหา​เขา​ใกล้​กว่า​เดิม​ ​เหมือน​เด็กน้อย​ที่​ต้องการ​การ​ปลอบใจ​ก็​ไม่​ปาน

สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​ปล่อย​ให้​ร่าง​บาง​ของ​นาง​โอบกอด​เขา​ไป​ครึ่ง​ค่อน​ตัว

“​แล้ว​เจ้า​ชอบ​ทาน​ยาเม็ด​เสวี​่ย​จิน​หรือไม่​”

สือ​อี​เหนียง​หนุน​ศีรษะ​ลง​บน​ไหล่​ของ​เขา​ ​รู้สึก​ดีขึ้น​ไม่น้อย

“​ไม่​ชอบ​ทาน​เจ้าค่ะ​!​”​ ​นาง​ตอบกลับ​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​แต่ทว่า​เวลา​ที่​อากาศ​ร้อน​ๆ​ ​หาก​ได้​ทาน​ไป​สัก​สอง​เม็ด​ ​ก็​จะ​รู้สึก​เย็น​สดชื่น​ขึ้น​มา​อย่าง​บอก​ไม่​ถูก​”

ตั้งแต่​นั้น​เป็นต้นมา​ ​นาง​จึง​จดจำ​ว่า​พี่สาว​คน​นี้​ดี​กับ​นาง​อย่างนั้น​หรือ

สวี​ลิ่ง​อี๋​หันหน้า​มาหา​นาง​ ​ริมฝีปาก​ของ​นาง​ห่าง​จาก​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​ถึง​คืบ

“​พี่น้อง​ของ​เจ้า​ดี​ต่อกัน​เช่นนี้​ ​มิน่าเล่า​ ​เจ้า​ถึง​ได้​อยาก​จะ​ยุ่ง​เรื่อง​ครอบครัว​ของ​ชี​เหนียง​!​”​ ​เขา​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​อ่อนโยน​ ​แต่​ศีรษะ​กลับ​ค่อยๆ​ ​โน้ม​ลงมา​ ​ริมฝีปาก​ของ​เขา​ค่อยๆ​ ​เข้าใกล้​นาง​…​ใกล้​จน​สือ​อี​เหนียง​สัมผัส​ได้​ถึง​ลมหายใจ​อุ่นๆ​ ​ที่​รด​บน​ใบหน้า​ของ​นาง

สีหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​ก็​เริ่ม​ตื่นตระหนก​ขึ้น​มา​เล็กน้อย

หาก​ตอบรับ​ ​ลึก​ๆ​ ​ก็​ยัง​รู้สึก​ไม่สบายใจ​เล็กน้อย​ ​ครั้น​จะ​ปฏิเสธ​…​ก็​รู้สึก​ไม่สบายใจ​อยู่ดี

แล้ว​ตน​จะ​ทำ​อย่างไร​ดี​เล่า

“​ก็​ไม่​ถูก​เสีย​หมด​เจ้าค่ะ​…​ข้า​รู้สึก​ว่าการ​ที่สามี​ภรรยา​ได้​อยู่​ด้วยกัน​นั้น​เป็น​สิ่ง​ที่​สำคัญ​ที่สุด​…​”​ ​สือ​อี​เหนียง​รีบ​ตอบกลับ​ทันที​ ​ราวกับว่า​มัน​สามารถ​หยุด​การกระทำ​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้​ชั่วคราว​อย่างไร​อย่างนั้น​ ​“​บิดา​มารดา​จะ​จากไป​ก่อน​เรา​ ​ลูกหลาน​จะ​ตาม​เรา​มาที​หลัง​ ​มี​เพียง​สามีภรรยา​เท่านั้น​ที่จะ​ร่วมสุข​ร่วมทุกข์​ ​เดิน​ไป​ด้วยกัน​จนถึง​ปลายทาง​…​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​หยุด​ริมฝีปาก​ใน​จุด​ที่​ห่าง​จาก​สือ​อี​เหนียง​เพียง​ไม่​ถึง​หนึ่ง​นิ้ว

เขา​ยิ้ม​พร้อมกับ​จ้องมอง​ใบหน้า​ที่​แดงก่ำ​ของ​สือ​อี​เหนียง

ตั้งแต่​ผลักไส​อย่าง​ไม่​ลังเล​จน​ไป​ถึง​การ​หา​ข้ออ้าง​หลบหลีก​…​ครั้งนี้​ ​มี​เพียงแค่​อาการ​ทำตัว​ไม่​ถูก​เท่านั้น​!

ตน​ชอบ​ที่​สือ​อี​เหนียง​เป็น​แบบนี้

นาง​ไม่เคย​ฝืน​ความรู้สึก​ของ​ตัวเอง​แม้แต่​ครั้ง​เดียว​…​เวลา​ที่​ตอบรับ​ก็​จะ​ตอบรับ​เลย​ ​และ​เวลา​ที่​ไม่ต้องการ​นาง​ก็​จะ​ปฏิเสธ​ทันที​…​จึง​ทำให้​เขา​รับรู้​ได้​ถึง​ความรู้สึก​ที่แท้​จริง​ของ​นาง​อย่างชัดเจน

เมื่อ​ความคิด​นี้​แล่น​ผ่าน​เข้ามา​ใน​หัว​ ​จู่ๆ​ ​เขา​ก็​รู้สึก​ใจสั่น​ขึ้น​มา​อย่าง​บอก​ไม่​ถูก

สักวันหนึ่ง​ ​นาง​จะ​เป็น​ฝ่าย​เข้ามา​จูบ​เขา​ก่อน​หรือไม่​ ​เหมือน​นาง​เวลานี้​ ​ที่​ปล่อยตัวปล่อยใจ​ไป​กับ​เขา

ทันใดนั้น​เอง​ ​จู่ๆ​ ​เขา​ก็​ไม่​อยาก​ที่จะ​เข้าไป​มาก​ไป​กว่านี​้

เขา​อยาก​รับรู้​ถึง​ความรู้​ของ​การถูก​สือ​อี​เหนียง​คลอเคลีย​…

“​เจ้า​จะ​ใช้​เหตุผล​นี้​เพื่อที่จะ​ไป​โน้มน้าว​จู​อาน​ผิง​หรือ​”​ ​เขา​จ้องมอง​สือ​อี​เหนียง​อย่างสงบ​ด้วย​ความสงสัย​ ​สายตา​อ่อนโยน​ ​สือ​อี​เหนียง​กลับ​ร้อนรุ่ม​ไป​ทั้งตัว​ ​ราวกับ​อากาศ​ใน​เดือน​เจ็ด​ของ​ฤดูร้อน​ก็​ไม่​ปาน

“​ข้า​ก็​แค่​อยาก​ให้​ชี​เหนียง​มี​ความมั่นใจ​มากกว่า​นี้​ก็​เท่านั้น​เจ้าค่ะ​!​”​ ​ลมหายใจ​ที่​ร้อนผ่าว​ของ​เขา​พ่น​ลง​บน​ใบหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​พลอย​ทำให้​นาง​สั่น​ไหว​เล็กน้อย​ ​“​ถึงแม้ว่า​การ​มีบุ​ตร​จะ​เป็นเรื่อง​ที่​สำคัญ​ ​แต่​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​สามีภรรยา​นั้น​สำคัญ​ยิ่งกว่า​!​”

“​ความคิด​นี้​ไม่เลว​ทีเดียว​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ใช้ชีวิต​ก็​ควรจะ​ต้อง​หนักแน่น​ ​หาก​นาง​คิดได้​แล้ว​ ​ก็​คงจะ​ไม่เอา​แต่กลับ​ไป​ที่​สกุล​เดิม​เช่นนี้​”

หาง​ตาของ​เขา​ปรากฏ​รอยยิ้ม​จางๆ​ ​นัยน์ตา​เป็นประกาย​ราวกับ​ดวงดาว​ก็​ไม่​ปาน

ใน​ใจ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ยิ่ง​ว้าวุ่น​เข้าไป​ใหญ่

นาง​จึง​ทำได้​แต่​ผลัก​ตัว​สวี​ลิ่ง​อี๋​ออก​เพื่อที่จะ​กลบเกลื่อน​อารมณ์​ความรู้สึก​ของ​ตัวเอง​ ​“​ท่าน​โหวดู​ถูก​คน​จาก​สกุล​เดิม​ของ​ข้า​หรือ​!​”​ ​แต่​น้ำเสียง​ที่​พูด​ออกมา​นั้น​กลับ​ฟัง​ดู​ทะนง​ตน​และ​เอาแต่ใจ​มากกว่า​หยอกล้อ​เสียด​้วย​ซ้ำ

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท