ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 515 เจ้าสาว (ต้น)

ตอนที่ 515 เจ้าสาว (ต้น)

สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​กว้าง​กว่า​เดิม

“​เจ้า​กล้า​ว่า​ข้า​หรือ​!​”

แววตา​ของ​เขา​ลุกโชน​ขึ้น​มาทัน​ที

สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​เม้มปาก​ยิ้ม​ตาม

ในขณะที่​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​คิด​ว่า​เขา​จะ​ทำ​อะไร​ต่อ​ ​จู่ๆ​ ​เขา​ก็​พลิกตัว​กลับ​ไป​นอน​ที่​เดิม​ ​จากนั้น​ก็​ถอนหายใจ​ออกมา​เฮือก​ใหญ่

“​รีบ​เข้านอน​เถิด​!​”​ ​น้ำเสียง​ฟัง​ดู​ค่อนข้าง​ผิดหวัง

สือ​อี​เหนียง​ไม่รู้​ว่า​จะ​ขำ​หรือ​จะ​ร้องไห้​ดี

การ​เข้าใจผิด​แบบนี้​ ​ต้อง​ทำความเข้าใจ​ใหม่​ถึง​จะ​ถูก​ ​มิเช่นนั้น​ ​วันข้างหน้า​หาก​สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​ตน​มีเรื่อง​กังวลใจ​ก็​จะ​ไม่กล้า​พูด​ออกมา​ ​วัน​เวลา​ที่​ทั้งสอง​รักใคร่​ประสาน​ใจ​นั้น​ก็​จะ​ไม่ได้​นาน​เท่าไร

เมื่อ​นึกถึง​ตรงนี้​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ขยับ​เข้าหา​เขา

ถึงแม้ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ไม่ได้ผลัก​ไส​นาง​ ​แต่กลับ​หลับตา​ไว้​แน่น​ ​เพื่อ​บอกเป็นนัย​ว่า​เขา​จะ​นอน​แล้ว

สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​กัดฟัน​แน่น

สวี​ลิ่ง​อี๋​คน​นี้​ ​ไม่เคย​ประนีประนอม​แม้แต่​ครั้ง​เดียว​…​แต่​ใน​ใจ​นาง​กลับ​เข้าใจ​ดี​ ​ว่า​สิ่ง​ที่นาง​ชื่นชม​ใน​ตัว​เขา​มาก​ที่สุด​ก็​คือ​การ​หักห้ามใจ​และ​ความ​ยึดมั่น​ใน​หลักการ

ใบหน้า​ของ​นาง​ก็​แดงก่ำ​ ​อิง​แนบ​อยู่​บน​ไหล่​ของ​เขา​ ​“​ตอนที่​ข้า​ท้อง​จิ​่น​เกอ​…​คือ​ช่วง​กลางเดือน​!​”

นาง​พึ่ง​จะ​พูด​จบ​ ​จู่ๆ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ลืมตา​ขึ้น​มา

แววตา​ที่​ลุกโชน​จับจ้อง​ไป​ยัง​ใบหน้า​ของ​นาง​ ​พลอย​ทำให้​ใบหน้า​ของ​นาง​ร้อนผ่าว​เข้าไป​ใหญ่

นาง​รู้ดี​ว่า​ตอนนี้​ใบหน้า​ของ​นาง​แดงก่ำ​ไป​หมด​แล้ว​ ​นาง​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ค่อนข้าง​ตะกุกตะกัก​ข้าง​หู​สวี​ลิ่ง​อี๋​ว่า​ ​“​แต่ละคน​นั้น​ไม่​เหมือนกัน​…​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​เงียบงัน​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​ราวกับว่า​กำลัง​พิจารณา​ไตร่ตรอง​ว่า​คำพูด​ที่นาง​พูด​ออกมา​นั้น​จริง​หรือ​เท็จ

จู่ๆ​ ​ก็​รู้สึก​ราวกับว่า​เวลา​ถูก​ยืด​ออก​ไป

สือ​อี​เหนียง​พี่​โอบกอด​คอ​ของ​เขา​ฝ่าย​เดียว​ก็​เริ่ม​รู้สึก​ทำตัว​ไม่​ถูก​ขึ้น​มา

ราวกับว่า​กำลัง​วิงวอน​ร้องขอ​เขา​อยู่​อย่างไร​อย่างนั้น

เมื่อ​ความคิด​แล่น​ผ่าน​ใน​หัว​ ​จู่ๆ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​ตอบกลับ​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​อืม​!​”​ ​จากนั้น​ก็​ตบหลัง​นาง​เบา​ๆ​ ​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เข้านอน​เถิด​!​”

ถูก​ปฏิเสธ​หรือ​…

ร่างกาย​ของ​สือ​อี​เหนียง​แข็งทื่อ​ไป​ชั่วขณะ​ ​จากนั้น​ก็​เห็น​สวี​ลิ่ง​อี๋​หลับตา​ลง​อีกครั้ง

ถูก​ปฏิเสธ​จริงๆ​ ​หรือ​!

สือ​อี​เหนียง​ทั้ง​อาย​ทั้ง​ฉุน​ ​ราวกับว่า​ร่างกาย​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​มี​หนาม​งอก​ขึ้น​มา​อย่างไร​อย่างนั้น​ ​พลอย​ทำให้​นาง​รู้สึก​ไม่สบาย​ตัวอย่าง​บอก​ไม่​ถูก​ ​และ​ก็​ไม่กล้า​ที่จะ​พลิกตัว​หันกลับ​มานอน​เลย​ทันที​ ​แต่​หากว่า​จะ​แสดงออก​มา​ว่า​ไม่พอใจ​ ​ก็​อิง​ไหล่​ของ​เขา​ต่อไป​ไม่ได้​ ​ขาด​อ้อมกอด​ของ​แขน​ที่​แข็งแกร่ง​ของ​เขา​ ​ก็​เหมือนกับ​ขาด​ความสบายใจ​ของ​การถู​กป​กป​้​อง​ไป

ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​นาง​ก็​ค่อยๆ​ ​พลิกตัว​ลง​จาก​เตียง​อย่างเบามือ​เบา​เท้า​ ​จากนั้น​นาง​ก็​เดิน​ไป​ที่​เตียง​เตา​ใหญ่​ริม​หน้าต่าง​แล้ว​ริน​น้ำ​มาดื​่ม​ ​ทอดสายตา​มอง​ไป​ยัง​โคมไฟ​สีแดง​ขนาดใหญ่​ที่​แกว่ง​ไปมา​ใต้​ชายคา​ของ​เรือน​ปีก​ทิศตะวันตก​นอก​หน้าต่าง​ ​จากนั้น​จิบ​ชา​ไป​หนึ่ง​คำ​ ​อารมณ์​จิตใจ​ก็​ค่อยๆ​ ​ดีขึ้น​มา

วันหลัง​จะ​ไม่​ทำ​เรื่อง​น่าอาย​แบบนี้​อีกแล้ว​…

เมื่อ​ความคิด​แล่น​ผ่าน​ใน​หัว​ ​จู่ๆ​ ​ร่างกาย​ก็​ลอยตัว​ขึ้น​มาจาก​พื้น

นาง​ร้อง​อุทาน​ออกมา​ด้วย​ความตกใจ

มีเสียง​หัวเราะ​ดัง​ขึ้น​ที่​ข้าง​หู​นาง

ชิว​อวี​่​สาวใช้​น้อย​ที่อยู่​เวร​ดึก​ตื่นขึ้น​มาด​้วย​ความ​สะลึมสะลือ​ ​“ฮู​หยิน​ ​เกิด​อะไร​ขึ้น​หรือ​เจ้า​คะ​”

นัยน์ตา​ที่​คุ้นเคย​ ​อ้อมกอด​ที่​อบอุ่น​…​นอกจาก​สวี​ลิ่ง​อี๋​แล้ว​จะ​เป็น​ใคร​ไป​ได้​อีก

สือ​อี​เหนียง​หันไป​จ้อง​เขา​ตาเขม​็ง​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ไม่เป็นไร​ ​เจ้า​ไป​นอน​เถิด​!​”

ไม่​รอ​ให้​เสียง​ฝีเท้า​ของ​ชิว​อวี​่​ได้​ทัน​ห่าง​ออก​ไป​จาก​ม่าน​ด้านนอก​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​อุ้ม​นาง​เดิน​อ้อม​ฉาก​บานพับ​ตรง​เข้าไป​ที่​เรือน​ชั้นใน​ ​“​เหตุใด​ถึง​อารมณ์​ฉุนเฉียว​เช่นนี้​ ​ข้า​ก็​แค่นอ​นพั​กป​ระ​เดี๋ยวเดียว​เท่านั้น​…​เจ้า​ก็​รอ​ไม่ไหว​แล้ว​หรือ​…​”​ ​น้ำเสียง​ของ​เขา​เต็มไปด้วย​ความ​หยอกล้อ

คาดไม่ถึง​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​ล้อ​ตน​เล่น​เช่นนี้​!

สือ​อี​เหนียง​จึง​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​กระอักกระอ่วน​ใจ​ ​“​ท่าน​โหว​พูดจา​แปลก​พิลึก​ ​ข้า​ก็​แค่​คอแห้ง​เท่านั้น​ ​ท่าน​โหว​รอ​ไม่ไหว​ก็​เลย​ตาม​ข้ามา​เอง​ต่างหาก​เจ้าค่ะ​…​”​ ​เพราะ​ไม่​ชิน​กับ​การ​หยอกล้อ​เช่นนี้​ของ​เขา​ ​ใน​ตอนท้าย​นาง​จึง​รู้สึก​พูด​ไม่​ค่อย​ออก

สวี​ลิ่ง​อี๋​วางตัว​นาง​ลง​ไป​บน​ที่นอน​นุ่ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้า​ก็​แค่​กลัว​ว่า​เจ้า​จะ​หนี​กลับ​ไป​ฟ้อง​เจิ​้น​ซิ่ง​”

สือ​อี​เหนียง​จิตใจ​สับสนวุ่นวาย​ไป​หมด

นาง​หันหน้า​หนี​ไป​ทาง​อื่น​ ​“​ท่าน​โหว​ทำ​อะไร​ผิด​ ​เหตุใด​ถึง​ได้​กลัว​ว่า​ข้า​จะ​กลับ​ไป​ฟ้อง​สกุล​เดิม​เล่า​เจ้า​คะ​”

นาง​เพิ่งจะ​พูด​จบ​ ​ก็​ถูก​สวี​ลิ่ง​อี๋​ขึ้น​มาค​ร่อ​มร​่าง​ของ​นาง​เอาไว้

“​เจ้า​บอกว่า​ข้า​ดูถูก​สกุล​เดิม​ของ​เจ้า​มิใช่​หรือ​”​ ​เขา​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​หาก​จู่ๆ​ ​เจ้า​หนี​กลับ​ไปร​่ำ​ไห้​ร้องทุกข์​กับ​ทาง​สกุล​เดิม​ของ​เจ้า​ ​แล้ว​ถ้า​เกิด​เจิ​้น​ซิ่ง​มาคิ​ดบัญ​ชี​กับ​ข้า​ ​ข้า​ไม่​เดือดร้อน​แย่​หรือ​!​”

“​ที่แท้​แล้ว​ ​ท่าน​โหวก​็​กลัว​ว่า​ข้า​จะ​กลับ​ไปร​่ำ​ไห้​ร้องทุกข์​กับ​ทาง​สกุล​เดิม​ของ​ข้า​!​”

สวี​ลิ่ง​อี๋​หัวเราะ​เสียง​เบา​ข้าง​หู​นาง​ ​“​ดังนั้น​ข้า​จึง​ต้อง​ให้​เจ้า​อยู่​ข้าง​กาย​…​จะ​ได้​ไม่ต้อง​หนี​กลับ​ไปร​้​อง​ทุกข์​กับ​คน​สกุล​เดิม​…​”

******

และ​แล้ว​ระดู​ของ​สือ​อี​เหนียง​ก็​มาตาม​ปกติ​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​ถอนหายใจ​ออกมา​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​จากนั้น​ก็ได้​จัดแจง​เวลา​ใหม่​ ​สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​รู้สึก​สบายใจ​ขึ้น​ ​หลังจากนั้น​สือ​อี​เหนียง​ก็​ใกล้ชิด​สนิทสนม​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​มากขึ้น​กว่า​เดิม​ ​ขอ​แค่​เขา​อยู่​ทานข้าว​ที่​เรือน​ ​นาง​ก็​จะ​ถาม​เขา​ก่อน​เสมอ​ว่า​เขา​อยาก​ทาน​อะไร​ ​มีอยู่​วันหนึ่ง​นาง​ได้​ให้​จู๋​เซียง​และ​คนอื่นๆ​ ​ไป​จัดระเบียบ​ข้าวของ​ของ​เขา​ ​จึง​เพิ่ง​สังเกตเห็น​ว่า​เสื้อผ้า​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เพิ่มมากขึ้น​กว่า​เดิม​ ​อีกทั้ง​ยัง​มีอยู่​ทุกที่​ ​ไม่ใช่​แค่​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​เท่านั้น​ ​แม้แต่​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​มีตั​้ง​หลาย​หีบ​ ​เขา​มักจะ​สวม​ชุด​ใหม่​แล้วไป​นอนค้าง​คืน​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​วันรุ่งขึ้น​ก็​เปลี่ยน​ชุด​เก่า​กลับมา​ ​แล้วยัง​นอนค้าง​ที่นั่น​ติดต่อกัน​อยู่​หลาย​คืน​ ​ชุด​ใหม่​ก็​ค่อยๆ​ ​ถูก​ลืม​ไป​ ​พอค​้​นอ​อก​มา​อีกที​ก็​กลายเป็น​เจอ​ชุด​ใหม่​โดยปริยาย​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​จัดระเบียบ​เสื้อผ้า​ทั้งหมด​ของ​เขา​ใหม่​ ​เสื้อผ้า​ชุด​ไหน​เก็บ​ไว้​ที่​เรือน​ปั้น​เย​่ว​์​พั่น​ ​ชุด​ไหน​เก็บ​ไว้​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​และ​ชุด​ไหน​เก็บ​ไว้​ที่​เรือน​หลัก​ ​ยัง​ได้​จัด​เสื้อผ้า​อีก​จำนวน​หนึ่ง​ไป​ไว้​ที่​เรือน​ของ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​และ​เฉียว​อี๋​เหนียง​อีกด้วย​ ​จากนั้น​ก็​แต่งตั้ง​ให้​คนละ​เอียด​รอบคอบ​เช่น​อวี​้​เหมย​มา​เป็น​คนดู​แล​โดยเฉพาะ​ ​ยุ่ง​วุ่นวาย​อย่างนี้​หลาย​ๆ​ ​วัน​ติดต่อกัน​ก็​ค่อยๆ​ ​มาถึง​ต้นเดือน​แปด​ ​ช่วง​ส่งมอบ​ของขวัญ​เทศกาล​วัน​ไหว้พระ​จันทร์​พอดี

ป้า​รับใช้​ที่​เป็น​คน​นำ​เงิน​ทำบุญ​ค่า​ธูปเทียน​ไป​ถวาย​ให้​กับ​ทาง​อาราม​ต้า​เจ​วี​๋​ยก​็​กลับมา​รายงาน​ว่า​ ​“​หยาง​อี๋​เหนียง​ได้​สมญานาม​ใหม่​ว่า​จิ้ง​คง​ ​มีหน้า​ที่​ดูแล​ดอกไม้​ใน​ลาน​สวน​ของ​ท่าน​อาจารย์​ผู้ดูแล​หลัก​ ​พอได้​ยิน​ว่า​บ่าว​ไปหา​ท่าน​อาจารย์​ของ​จิ้ง​คง​ ​เหล่า​บรรดา​แม่ชี​น้อย​ก็​รีบ​นำทาง​ข้า​ด้วย​ความ​กระตือรือร้น​ ​นาง​อยู่​เรือน​เดียวกัน​กับ​แม่ชี​น้อย​อีก​คน​ ​เรือน​หันหน้า​ไป​ทางทิศใต้​ ​ที่​หน้า​ประตู​มีต​้น​เซียง​ชุน​ต้น​ใหญ่​ปลูก​ไว้​หนึ่ง​ต้น​ ​นาง​ใช้ชีวิต​อย่าง​เรียบง่าย​ ฮู​หยิน​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ไป​เจ้าค่ะ​!​”

ดู​จาก​ความสามารถ​และ​ชั้นเชิง​ของ​นาง​แล้ว​ ​อยู่​ที่ไหน​ก็​สามารถ​ใช้ชีวิต​ได้​เป็น​อย่างดี​กระมัง​!

สือ​อี​เหนียง​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​สั่ง​ให้​ชิว​อวี​่​นำ​เงิน​ให้​ป้า​รับใช้​คน​นั้น​ไป​จำนวน​หนึ่ง​ ​แล้วจึง​ให้​นาง​ถอยกลับ​ไป

หลังจากที่​เทศกาล​วัน​ไหว้พระ​จันทร์​ผ่าน​ไป​ ​ทาง​ตรอก​กง​เสียน​ก็ได้​ส่งข่าว​มา​ว่า​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​ได้​ให้กำเนิด​บุตรชาย​ใน​วันที่​สิบเอ็ด​ของ​เดือน​เจ็ด​ที่ผ่านมา​ ​แม่​ลูก​ปลอดภัย​ทั้งคู่

คนที​่​มาแจ้ง​ข่าว​คือ​ภรรยา​ของ​หัง​ลิ่ว​ที่​เป็น​พี่ชาย​ของ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว

หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ต้อง​เดินทาง​เข้า​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลัว​จึง​ให้​หัง​ลิ่ว​และ​หัง​จิ​่ว​ติดตาม​เขา​มาด​้วย​ ​เพื่อให้​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ได้​เรียก​ใช้​ ​หลัว​เจิ​้น​เซิง​สอง​สามีภรรยา​ ​อี๋​เหนียง​หก​และ​อิง​เหนียง​ก็​เดินทาง​กลับ​ไป​ยัง​อวี​๋​หัง​ ​ส่วน​หัง​ลิ่ว​ก็​รับหน้าที่​อยู่​ดูแล​งาน​ที่​ตรอก​กง​เสียน

“​พี่ใหญ่​ให้​ใคร​กลับ​ไป​ส่งข่าว​ที่​อวี​๋​หัง​หรือ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เรียกตัว​สะใภ้​หัง​ลิ่ว​มาถาม​ ​“​ข้า​จะ​ได้​ฝาก​ข้าวของ​กับ​คน​ผู้​นั้น​ถูก​!​”

สะใภ้​หัง​ลิ่ว​นั่ง​อยู่​บน​เก้าอี้​ตรงข้าม​กับ​เตียง​เตา​ ​พอได้​ยิน​แล้ว​นาง​ก็​รีบ​ลุกขึ้น​มาทัน​ที​ ​“​เรียน​คุณหนู​สิบเอ็ด​ ​คุณนาย​ใหญ่​ส่งจดหมาย​มา​ให้​ช่วย​ตั้งชื่อ​ให้​คุณชาย​น้อย​สอง​ ​นายท่าน​ใหญ่​บอกว่า​รอ​ให้​ตั้งชื่อ​ได้​แล้ว​ค่อย​ให้​น้องชาย​สามี​ข้า​กลับ​ไป​ที่​อวี​๋​หัง​ ​วันที่​จะ​เดินทาง​กลับ​ยัง​ไม่ได้​กำหนด​ชัดเจน​ ​หาก​คุณหนู​สิบเอ็ด​จะ​ฝาก​ข้าวของ​กลับ​ไป​ ​ท่าน​ก็​เตรียม​ของ​ไว้​ ​ข้า​จะ​มารับ​แทน​เอง​เจ้าค่ะ​”

เป็น​หญิง​ที่​ฉลาด​พูด​เป็นอย่างมาก

สือ​อี​เหนียง​จึง​ให้​จู๋​เซียง​ไป​เตรียม​ของ​จำพวก​กุญแจ​อายุ​ยืน​ทองคำ​สำหรับ​เด็กแรกเกิด​ที่​เตรียม​ไว้​มา​ให้​สะใภ้​หัง​ลิ่ว​ ​ก่อนหน้านี้​นาง​ได้​คำนวณ​ไว้​ล่วงหน้า​ตั้งแต่แรก​ ​จึง​ได้​เตรียม​ของ​ไว้​แล้ว

นาง​อยาก​จะ​ถามไถ่​เกี่ยวกับ​เด็ก​เสียหน่อย​ ​แต่​น่าเสียดาย​ที่​สะใภ้​หัง​ลิ่ว​เอง​ก็​ฟัง​คนอื่น​เล่า​มา​อีกที​ ​นาง​อยาก​จะ​ถาม​ว่า​ช่วงนี้​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​เป็น​อย่างไรบ้าง​ ​แต่​ก็​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​เขา​ยัง​มี​อนุภรรยา​คอย​ดูแล​ ​ถาม​ไป​ก็​พลอย​แต่​จะ​รู้สึก​ว่า​เกินความจำเป็น

ขณะที่​กำลังจะ​ให้​สะใภ้​หัง​ลิ่ว​กลับ​ไป​นั้น​ ​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ก็​มาหา​พอดี

สือ​อี​เหนียง​รีบ​ออก​ไป​ต้อนรับ​นาง​ทันที​ ​จากนั้น​ก็​เชิญ​นาง​เข้ามา​ทาน​ต้ม​ถั่วเขียว​แช่เย็น​ด้วยกัน

คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ยิ้ม​เจื่อน​พร้อมกับ​ยก​ถ้วย​กระเบื้อง​ลายคราม​ขึ้น​มา​ ​“​เรือ​ส่งตัว​เจ้าสาว​ของ​สกุล​ฟัง​เริ่ม​ออกเดินทาง​แล้ว​ ​เป็น​ขบวน​สินเดิม​ที่​ทอด​ยาว​นับ​สิบ​ลี้​อย่างแท้จริง​ ​ครั้งนี้​ถือว่า​พี่สะใภ้​สาม​ของ​เจ้า​ประหยัด​เงินก้อน​ใหญ่​แล้ว​ ​แต่ทว่า​พอได้​เงยหน้า​มอง​สินเดิม​ที่​ทอด​ยาว​สุดลูกหูลูกตา​ของ​ลูกสะใภ้​ ​ข้า​เอง​ก็​ไม่รู้​ว่า​พี่สะใภ้​สาม​ของ​เจ้า​จะ​ทำใจ​ให้​สงบ​ได้​อย่างไร​”

สกุล​ฟัง​ใจกว้าง​มากกว่า​ที่ฮู​หยิน​สาม​คิด​เอาไว้​เป็นอย่างมาก​ ​คน​ของ​ทาง​ฝั่ง​เจ้าสาว​ได้​วัด​ขนาด​เครื่องเรือน​ของ​เรือน​ที่​ตรอก​ซาน​จิ​่ง​ทั้งหมด​เอาไว้​แล้ว​ ​แต่​พอได้​ยิน​ว่า​เรือนหอ​จะ​ถูก​สร้าง​ที่​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​ ​ก็​รีบ​ส่ง​คน​มา​วัด​ขนาน​ที่ทาง​เพื่อที่จะ​สั่งทำ​เครื่องเรือน​ใหม่

สือ​อี​เหนียง​ไม่​สะดวก​จะ​พูดถึง​เรื่อง​นี้​อยู่​แล้ว​ ​นาง​จึง​ถาม​แค่​ว่า​ ​“​พี่​หญิง​มาป​รึก​ษา​หารือ​เรื่อง​เรือ​รับ​เจ้าสาว​หรือ​เจ้า​คะ​”

คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​รู้​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ไม่​สะดวก​ใจ​จะ​พูดถึง​เรื่อง​นี้​ ​เพียงแต่ว่า​นาง​แค่​อยาก​จะ​บ่น​ก็​เท่านั้น​ ​ถึงแม้ว่า​งานแต่ง​ครั้งนี้​จะ​สำเร็จ​ลุล่วง​ไป​ด้วยดี​ ​แต่​หาก​วัน​ไหน​ถูก​ผู้คน​หยิบยก​เรื่อง​นี้​ขึ้น​มา​พูด​ ​จะ​คิด​ว่า​แม่สื่อ​อย่าง​พวก​นาง​เป็น​คน​เรียกร้อง​สินเดิม​เอา​ได้​ ​ถึง​เวลา​นั้น​นาง​จะ​เอาหน้า​ไป​ไว้​ที่ไหน​ ​ดังนั้น​นาง​จึง​แค่​อยาก​จะ​ระบาย​กับ​สือ​อี​เหนียง​ก็​เท่านั้นเอง

“​ทาง​ฝั่ง​สกุล​ฟัง​อยาก​จะ​ให้​รับ​ตัว​เจ้าสาว​เข้า​จวน​เลย​”​ ​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ก็​ไม่ได้​พูดถึง​เรื่อง​นั้น​อีก​ ​นาง​ยิ้ม​พลาง​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้าว​่า​เช่นนี้​ก็ดี​ไม่น้อย​ ​สินเดิม​ฝ่าย​หญิง​มากมาย​ขนาด​นั้น​ ​หาก​จะ​ให้​หยุดพัก​ที่​เรือน​สวน​ของ​รอง​เจ้ากรม​หลิว​เหมือน​ที่​คุย​ไว้​ก่อนหน้านี้​ ​วัน​ถัดมา​ค่อย​ไป​ส่งตัว​เจ้าสาว​ ​ไป​กลับ​เช่นนี้​ ​อย่า​ว่าแต่​จะ​ต้อง​ให้​ซอง​แดง​กับ​คน​หาบ​ยก​สินเดิม​ของ​เจ้าสาว​ถึง​สองครั​้ง​ ​ไหน​จะ​ข้าวของ​ที่​อาจจะ​ลืม​ทิ้ง​ไว้​หรือ​ถูก​คนอื่น​หยิบ​ติดไม้ติดมือ​ไป​ได้​ง่ายๆ​”

“​พี่​หญิง​มาก​ประสบการณ์​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​เชื่อ​พี่​หญิง​ไม่ผิด​พลาด​อย่างแน่นอน​”

คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ได้ยิน​แล้วก็​ถอนหายใจ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​น่าเสียดาย​ที่​เจ้า​ไม่ใช่​แม่​สามี​ ​มิเช่นนั้น​ ​แม่สื่อ​อย่าง​ข้า​ก็​คงจะ​สบาย​ขึ้น​ไม่น้อย​”

สือ​อี​เหนียง​พูดคุย​หัวเราะ​เป็นเพื่อน​นาง​อยู่​ครู่หนึ่ง

คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ก็ได้​พูดถึง​สวี​ซื่อ​อวี​้​ขึ้น​มา​ ​“​หลังจากที่​ออกทุกข์​แล้ว​ ​ก็​ถึง​เวลา​ที่จะ​ต้องหา​คู่หมั้น​แล้ว​ใช่​หรือไม่​”

“​ใช่​แล้ว​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ตอบกลับ​ ​“​เพียงแต่ว่า​อวี​้​เกอ​ไม่มีผล​งาน​และ​ตำแหน่ง​ชื่อเสียง​ ​จะ​หาคู่​หมั้น​หมาย​นั้น​ก็​คงจะ​ไม่ใช่​เรื่อง​ง่าย​”

คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​ถือว่า​ยาก​พอสมควร​ ​อีก​อย่าง​บุตรชายคนโต​ก็​ดัน​อายุ​ห่าง​จาก​เขา​เพียง​ไม่​กี่​ปี​เท่านั้น​ ​ครอบครัว​ที่​ฐานะ​ไม่​ค่อย​ดี​ ​พวก​เจ้า​ก็​คงจะ​ไม่​ถูกใจ​ ​แต่​หาก​เป็น​ครอบครัว​ที่​พอ​มี​ฐานะ​ ​ก็​จะ​รู้สึก​ว่า​สภาพการณ์​ของ​อวี​้​เกอ​นั้น​ค่อนข้าง​ตัดสินใจ​ยาก​ ​หาก​มีผล​งาน​หรือ​ชื่อเสียงเรียงนาม​สักหน่อย​ ​ก็​คงจะ​เจรจา​ง่าย​กว่านี​้​”

ทั้งสอง​ได้​พูดคุย​กัน​อยู่​ครู่ใหญ่​ ​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​ก็ได้​ไป​ยัง​เรือน​ของฮู​หยิน​สาม

ฮู​หยิน​สาม​ไม่เห็นด้วย

การ​ส่ง​เจ้าสาว​ไม่​ควร​ใช้​ถนนสายหลัก​ ​ควรจะ​พัก​ที่​เรือน​สวน​ของ​รอง​เจ้ากรม​หลิว​ก่อน​ ​ถึง​เวลา​ค่อย​เดิน​รอบ​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​อีก​สัก​รอบ​ ​ทุกคน​ต่าง​ก็​รู้​ว่า​สินเดิม​ลูกสะใภ้​คนโต​ของ​นาง​นั้น​ถือว่า​ค่อนข้าง​มาก​ ​ตอน​หาคู่​หมั้น​ให้​กับ​บุตรชาย​คน​รอง​ ​จะ​ได้​มี​ข้อต่อรอง​บ้าง

คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ขมวดคิ้ว​ขึ้น​ ​“​ต่อไป​ภายภาคหน้า​พวก​เจ้า​ก็​เป็น​ครอบครัว​เดียวกัน​แล้ว​ ​ควรจะ​เข้าใจ​และ​เห็นอกเห็นใจ​กัน​ถึง​จะ​ถูก​ ​บุตรสาว​ของ​สกุล​ฟัง​คน​นี้​ ​เดิมที​ตั้งใจ​จะ​เตรียม​เงิน​ราว​หนึ่ง​หมื่น​ตำลึง​เพื่อ​ใช้​เป็น​สินเดิม​ ​ตอนนี้​เกรง​ว่า​คงจะ​ต้อง​ใช้​สัก​สอง​หมื่น​ตำลึง​แล้ว​กระมัง​…​”

ไม่​รอ​ให้​นาง​พูด​จบ​ ฮู​หยิน​สาม​ก็​หัวเราะ​เบา​ๆ​ ​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เดิน​มาถึง​ก้าว​ที่​เก้า​สิบ​เก้า​แล้ว​ ​ขาด​ไป​สัก​ก้าว​ก็​ไม่ใช่​เรื่องใหญ่​โต​อะไร​”

คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​โกรธ​เป็นอย่างมาก​ ​ตอนที่​นาง​ไป​ขอตัว​ลาก​ลับ​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ก็ได้​เอ่ยถึง​เรื่อง​นี้

หลังจากที่​ส่ง​คุณนาย​สาม​สกุล​หวง​กลับ​ไป​แล้ว​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็ได้​เรียกฮู​หยิน​สาม​มาคุย​ ​“​อีก​ไม่​ถึง​เดือน​ก็​จะ​ถึง​งานแต่ง​ของ​ฉิน​เกอ​ ​เจ้า​จัดเตรียม​ไป​ถึง​ไหน​แล้ว​”

ที่ผ่านมา​ไท่ฮู​หยิน​ไม่ได้​ถาม​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​เลย​ ฮู​หยิน​สาม​เอง​ก็​กำลัง​แปลกใจ​อยู่​ไม่น้อย​ ​ตอนนี้​เมื่อ​เห็น​ไท่ฮู​หยิน​เอ่ยปาก​ถาม​ ​นาง​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​ตอบกลับ​ไป​ว่า​ ​“​ผนัง​กำแพง​ของ​เรือน​ที่​ตรอก​ซาน​จิ​่ง​ได้​ต่อเติม​และ​ทาสี​ขึ้นเงา​เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว​ ​ม่าน​เตียง​และ​ผ้าม่าน​ของ​ทั้ง​สี่​ฤดู​ก็​เตรียม​ไว้​แล้ว​ ​นึกไม่ถึง​ว่า​ข้า​ไม่อยู่​เรือน​มา​หลาย​ปี​ ​ค่าแรง​และ​ค่า​อาหาร​ต่าง​ก็​ขึ้นราคา​จน​หมด​ ​เงิน​ตั้ง​สอง​พัน​ตำลึง​ ​แต่​ไม่ได้​อะไร​ที่​เป็นรูปเป็นร่าง​เลย​ ​ข้า​ควัก​เงิน​ส่วนตัว​สมทบ​เข้าไป​แล้วก็​ยัง​ไม่พอ​ ​ตอนนี้​ข้า​เอง​ก็​กำลัง​รอคุณ​ชาย​สาม​ส่ง​เงิน​มาต​่อ​เติม​เรือนหอ​อยู่​เจ้าค่ะ​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท