ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 518 เข้าจวน (ต้น)

ตอนที่ 518 เข้าจวน (ต้น)

​กลางคืน​หลังจากที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับมา​ถึง​เรือน​ ​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​เล่น​หา​ของเล่น​กับ​จิ​่น​เกอ​อยู่

​“​กลอง​ป๋อง​แป​๋ง​ของ​จิ​่น​เกอ​ไป​ไหน​แล้ว​เอ่ย​”​ ​สือ​อี​เหนียง​หยอกล้อ​เขา​ ​“​รีบ​ไปหา​มา​ให้​แม่​เร็ว​เข้า​”

​จิ​่น​เกอ​ก็​รีบ​นั่งลง​กับ​พื้น​ ​คลาน​ไป​ที่​มุม​ของ​เตียง​เตา​หยิบ​กลอง​ป๋อง​แป​๋​งมา​ให้​สือ​อี​เหนียง​ทันที

​สือ​อี​เหนียง​จึง​หอม​แก้ม​ของ​เขา​ไป​หนึ่ง​ที​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ขึ้น​พึมพำ​ว่า​ ​“​เจ้า​ฉลาด​ขนาด​นี้​ ​เหตุใด​ถึง​ยัง​ไม่ยอม​พูด​เล่า​!​”

​จิ​่น​เกอ​เขย่า​กลอง​ป๋อง​แป​๋ง​พลาง​ยิ้ม​ให้​สือ​อี​เหนียง

​สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​น้ำตา​คลอ​ขึ้น​มา

​สวี​ลิ่ง​อี๋​เดิน​เข้ามา​อุ้ม​เขา​ไว้​ใน​อ้อมกอด

​“​พูด​เป็น​เร็ว​ขนาด​นั้น​ไป​ทำไม​กัน​”​ ​เขา​เอง​ไม่​คิด​เช่นนั้น​ ​“​เสียงดัง​เจี๊ยวจ๊าว​ ​ไม่​สุขุม​หนักแน่น​”

​“​ท่าน​โหวก​ลับ​มา​แล้ว​หรือ​เจ้า​คะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​รีบ​ลง​จาก​เตียง​เตา​ ​เข้าไป​ดมกลิ่น​สุรา​บน​ตัว​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​จากนั้น​ก็​เข้าไป​อุ้ม​บุตรชาย​มา​ ​“​วันนี้​แขก​คงจะ​เยอะแยะ​มากมาย​เลย​กระมัง​ ​ท่าน​โหว​เหนื่อย​มาทั​้ง​วัน​แล้ว​ ​รีบ​ไป​ล้าง​เนื้อ​ล้าง​ตัว​เถิด​เจ้าค่ะ​!​”

​แต่​มือ​ของ​เขา​ที่​กำลัง​อุ้ม​ลูก​อยู่​นั้น​กลับ​ไม่ยอม​ปล่อย​ ​“​ประเดี๋ยว​ค่อย​ไป​ ​เล่น​กับ​จิ​่น​เกอ​สักประเดี๋ยว​ก่อน​!​”​ ​จากนั้น​เขา​ก็​โยน​จิ​่น​เกอ​ขึ้นไป​กลางอากาศ​แล้วก็​รับ​ไว้

​จิ​่น​เกอ​หัวเราะ​เสียงดัง​ด้วย​ความสนุก​สนาน

​สือ​อี​เหนียง​รู้​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​มือ​ไม้​มั่นคง​ ​แต่​ใน​ใจ​ก็​ยัง​รู้สึก​หวาดเสียว​อยู่ดี

​“​ท่าน​โหว​ไป​อาบน้ำอาบท่า​ก่อน​ดีกว่า​เจ้าค่ะ​!​”​ ​นาง​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ ​ด้วย​ความเป็นห่วง​ ​“​จิ​่น​เกอ​เล่น​สนุก​จน​เกินไป​จะ​นอนไม่หลับ​เอา​!​”

​เมื่อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​แล้วก็​หยุด​เล่น​ไป​ ​จากนั้น​ก็​ยื่น​บุตรชาย​ให้​กับ​สือ​อี​เหนียง

​จิ​่น​เกอ​รีบ​อ้อน​สวี​ลิ่ง​อี๋​ทันที

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ทำได้​เพียง​ลูบ​ศีรษะ​ของ​เขา​เบา​ๆ​ ​“​พรุ่งนี้​เรา​ค่อย​มา​เล่น​กัน​ใหม่​”

​“​พรุ่งนี้​ท่าน​โหว​ยัง​ต้อง​ดูแล​แขก​อีก​”​ ​เพราะ​จวน​หย่ง​ผิง​โหว​จัดงาน​แต่ง​ ​ขุนนาง​ใน​ราชสำนัก​ที่​คบค้าสมาคม​ต่าง​พากั​นมา​มอบ​ของขวัญ​อวยพร​งานมงคลสมรส​ ​คุณชาย​สาม​เอง​ก็​ไม่อยู่​จวน​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​จึง​เป็น​ผู้ดูแล​หลัก​ของ​สถานการณ์​โดยรวม​แทน​ ​ต้อนรับขับสู้​แขก​ที่มา​เยือน​ ​“​ไม่​ควร​มา​เล่น​กับ​เด็ก​ตามอำเภอใจ​ ​ตอนนี้​เขา​ฟัง​คำพูด​รู้เรื่อง​แล้ว​ ​วันข้างหน้า​หลังจากที่​เติบโต​ไป​แล้ว​ ​จะ​ไม่เชื่อ​ถือ​และ​วางใจ​บิดา​มารดา​อย่าง​เรา​ได้​”

​“​ข้า​รู้​แล้ว​!​”​ ​อาจ​เพราะ​เขา​ดื่ม​สุรา​เข้าไป​ ​ปกติ​แล้ว​สวี​ลิ่ง​อี๋​ค่อนข้าง​สุขุม​เป็นอย่างมาก​ ​แต่​เขา​กลับ​ยิ้ม​พร้อมกับ​บีบ​จมูก​ของ​สือ​อี​เหนียง​เบา​ๆ​ ​“​เหตุใด​เจ้า​ถึง​พูดมาก​ขนาด​นี้​ ​ธุระ​ใน​จวน​มีพ​่​อบ​้า​นคอย​จัดการ​ดูแล​ ​พรุ่งนี้​เช้า​ข้า​อยู่​เล่น​เป็นเพื่อน​กับ​จิ​่น​เกอ​สักประเดี๋ยว​แล้ว​ค่อย​ออก​ไป​ต้อนรับ​แขก​ ​อย่างไร​เสียงาน​แต่ง​ก็​ถูก​กำหนด​ไว้​ตอนต้น​ยาม​ไฮ​่​ ​เจ้า​นั่นแหละ​ที่​ต้องหา​เวลา​มา​พักผ่อน​ให้​ดี​ ​เจ้าสาว​เข้า​ประตู​จวน​ ​เกิดมี​ใคร​เล่นพิเรนทร์​ขึ้น​มาก​็​อาจจะ​ลาก​ยาว​จนถึง​เช้า​ของ​อีก​วัน​ก็ได้​ ​วันที่​สอง​ยัง​ต้อง​มาก​ล่า​วทัก​ทาย​ญาติ​อีก​”

​สือ​อี​เหนียง​ขานรับ​เสียง​เบา​ ​“​เจ้าค่ะ​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​เดิน​ไป​ยัง​ห้อง​ชำระ

​ตอนที่​เขา​ออกมา​ ​สือ​อี​เหนียง​และ​จิ​่น​เกอ​ก็​ไม่ได้​อยู่​ใน​เรือน​แล้ว

​ชิว​อวี​่​จึง​รีบ​รายงาน​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​พา​คุณชาย​น้อย​หก​เข้านอน​เจ้าค่ะ​!​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​แล้ว​ขึ้นไป​เอนกาย​นอน​อยู่​บน​เตียง​ ​อ่านหนังสือ​ ​‘​บันทึก​การท่องเที่ยว​’​ ​ไป​ครึ่ง​ค่อน​เล่ม​เห็นจะ​ได้​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​ค่อย​เดิน​เข้ามา​ด้วย​สีหน้า​ที่​อ่อนล้า

​“​จิ​่น​เกอ​หลับ​แล้ว​หรือ​!​”​ ​เขา​ค่อนข้าง​รู้สึก​ผิด​ ​จึง​รีบ​เปิด​ผ้าห่ม​ออก​เพื่อ​บอกเป็นนัย​ให้​สือ​อี​เหนียง​รีบ​มา​พักผ่อน

​สือ​อี​เหนียง​กลับ​ชี้​ไป​ยัง​ชุดจื​๋อ​ตัว​สีน้ำเงิน​สด​ที่​ปัก​ด้วย​ลายเมฆ​มงคล​สีทอง​ที่​แขวน​อยู่​บน​ราว​แขวน​ผ้า​สีดำ​เงา​สลัก​ด้วย​ลาย​ปี่​เซียะ​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​นั่น​คือ​ชุด​ที่​ท่าน​โหว​จะ​สวม​ใน​วันพรุ่งนี้​เจ้าค่ะ​”

​สายตา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋จั​เบ​จ้อง​ไป​ยัง​เก้าอี้​เล็ก​ที่อยู่​ใต้​ราว​แขวน​ผ้า

​บน​เก้าอี้​มี​ถุงเท้า​สีขาว​วาง​ไว้​หนึ่ง​คู่​ ​ถุงเท้า​ถูก​ปัก​ด้วย​ลายเมฆ​มงคล​ ​เดินเส้น​ด้วย​ไหม​สีน้ำเงิน​สด​และ​สีทอง​สลับ​กัน​ ​ภายใต้​ความหรูหรา​นั้น​เต็มไปด้วย​ความสง่างาม​ ​พลอย​ทำให้​คนที​่​พบเห็น​รู้สึก​สะดุดตา​อย่าง​บอก​ไม่​ถูก​ ​ดูออก​ได้​ในทันที​ว่า​เป็น​สิ่งของ​ที่​ไม่ธรรมดา

​“​เจ้า​หยุด​ปัก​ผ้า​ได้​แล้ว​”​ ​เขา​กุมมือ​ของ​สือ​อี​เหนียง​เอาไว้​ ​“​ก็​แค่​ถุงเท้า​ ​คนอื่น​มองไม่เห็น​เสียหน่อย​”

ปัก​ผ้า​ใน​เวลา​กลางคืน​ ​ถือเป็น​การ​สิ้นเปลือง​ฝีมือ​การ​ปัก​ของ​นาง​เกินไป​แล้ว​ ​ตน​เอา​มาสวม​ใส่​ก็​ยัง​รู้สึก​เสียดาย

​แท้จริง​แล้ว​มี​คน​สังเกตเห็น

​เมื่อวาน​นี้​โจว​ซื่อ​เจิง​เอาแต่​ถาม​ว่า​ใคร​ทำ​ถุงเท้า​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​เขา​ยินดี​จะ​ออก​เงิน​หนึ่ง​พัน​ตำลึง​เพื่อที่จะ​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​สละ​ช่าง​ปัก​คน​นั้น​ให้​แก่​เขา​ ​แถม​ยัง​พูด​อีกว่า​ ​‘​…​อย่างไร​เสีย​เจ้า​ก็​ไม่ได้​ให้ความสำคัญ​กับ​สิ่ง​เหล่านี้​เสียหน่อย​’

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่​สะดวก​ที่จะ​บอกว่า​สือ​อี​เหนียง​เป็น​คน​ปัก​ให้​ ​จึง​บอก​ไป​ว่า​เป็น​ช่าง​ที่​ปัก​เย็บ​เสื้อผ้า​ให้​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​ก็​เลย​ทำ​ถุงเท้า​ให้​เขา​สอง​คู่

​โจว​ซื่อ​เจิง​ได้ยิน​แล้วก็​อด​รู้สึก​ผิดหวัง​เสีย​ไม่ได้

ภรรยา​คน​ใหม่​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ชอบ​แต่งเนื้อแต่งตัว​ ​เป็น​คนที​่​แต่งตัว​เป็น​ ​ถือว่า​มีชื่อเสียง​ใน​ต้า​โจว​พอสมควร​ ​การ​ซื้อ​ตัว​ช่าง​ปัก​ของ​ผู้อื่น​ ​ก็​เท่ากับ​เป็นการ​ซื้อ​ตัว​คนสนิท​ที่​ใกล้ชิด​กับ​เจ้าตัว​ที่สุด​อย่างแท้จริง

​“​ท่าน​โหว​เป็น​คน​บอก​เอง​ว่า​สวมใส่​สบาย​ไม่ใช่​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​“​แค่นี้​ก็​เพียงพอ​แล้ว​!​”

ก็​จริง

ถุงเท้า​ที่​สือ​อี​เหนียง​ทำให้​เขา​ไม่เพียงแต่​พอดี​กับ​เท้า​เท่านั้น​ ​แต่​ยัง​ถูกใจ​เขา​อีกด้วย​ ​ฝีไม้ลายมือ​ละเอียด​งดงาม​ ​ไม่​ฉูดฉาด​จน​เกินไป​ ​เขา​พึงพอใจ​เป็นอย่างมาก

​ส่วน​สือ​อี​เหนียง​นั้น​เมื่อ​เห็น​ว่า​เขา​ไม่​พูด​อะไร​ ​ก็​ค่อยๆ​ ​ขึ้นไป​บน​เตียง​อย่าง​เงียบๆ

​สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​ว่านาง​ไม่​บ่น​ตน​เหมือนเช่น​เคย​ ​ก็​เลย​พูด​ขึ้น​ด้วย​ความเป็นห่วง​ว่า​ ​“​เจ้า​เหนื่อย​มาก​ใช่​หรือไม่​”

​“​เป็น​งาน​ของ​บ้าน​คุณชาย​สาม​ ​ข้า​ไม่ใช่​ผู้ดูแล​หลัก​ที่​ควบคุม​ดูแล​เรื่อง​การหุงต้ม​ของ​งาน​ ​เป็น​แค่​คนที​่​คอย​ยืน​ชม​ความ​ครึกครื้น​ก็​เท่านั้น​ ​ไม่​เหนื่อย​เลย​เจ้าค่ะ​”​ ​น้ำเสียง​ของ​นาง​ฟัง​ดู​ลังเล​เป็นอย่างมาก

​“​เป็น​อะไร​ไป​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ขยับ​ขึ้น​มา​พิง​บน​หัว​เตียง​ ​แล้ว​หันมา​นอนตะแคง​ข้าง

​สือ​อี​เหนียง​พลิกตัว​หันมา​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ท่าน​ว่า​ข้า​ควร​กลับ​ไปรับ​หน้าที่​ควบคุม​ดูแล​เรื่อง​การหุงต้ม​อีกครั้ง​ดี​หรือไม่​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เพราะ​เห็น​ว่า​ท่าน​แม่​ยุ่ง​จน​มือ​ไม้​พัน​กัน​ไป​หมด​ ​เจ้า​ก็​เลย​อด​รู้สึก​เป็นห่วง​ไม่ได้​ใช่​หรือไม่​”

​สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​“​ข้า​ลอง​คิด​พิจารณา​ดูแล​้ว​ ​ปีนี​้​จุน​เกอ​อายุ​สิบ​ขวบ​ ​คุณหนู​เก้า​สกุล​เจียง​อายุ​น้อยกว่า​เขา​เพียง​ไม่​กี่​เดือน​ ​ผ่าน​ไป​สัก​ห้า​หก​ปี​ ​เรา​ไม่รีบร้อน​ ​แต่​สกุล​เจียง​ไม่ใช่​ ​ถึง​เวลา​นั้น​ ​เรา​ค่อย​ให้​คุณหนู​เก้า​สกุล​เจียง​มารับ​หน้าที่​เป็น​ผู้ดูแล​หลัก​ที่​ควบคุม​ดูแล​เรื่อง​การหุงต้ม​แทน​ ​ท่าน​คิดเห็น​อย่างไร​”

​ถึงแม้ว่า​ที่ผ่านมา​นาง​ไม่เคย​กระตือรือร้น​ที่จะ​ช่วงชิง​แต่อย่างใด​ ​แต่​ตั้งใจ​และ​ทุ่มเท​เป็นอย่างมาก​ ​นี่​เป็นครั้งแรก​ที่นาง​เผย​ให้​เห็น​ว่า​ไม่​อยาก​รับหน้าที่​เป็น​ผู้ดูแล​หลัก

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่ได้​พูด​อะไร

​สือ​อี​เหนียง​จึง​ลุกขึ้น​นั่ง​ ​“​ท่าน​โหว​รู้สึก​ว่า​ไม่เหมาะสม​หรือ​เจ้า​คะ​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​หลาย​วันก่อน​ข้า​พา​จุน​เกอ​ไป​เดิน​เขา​มิใช่​หรือ​ ​เขา​…​”​ ​จู่ๆ​ ​ก็​หยุดชะงัก​คำพูด​ไป

​ตอนที่​สวี​ซื่อ​จุน​กลับมา​นั้น​เขา​ดูดี​ใจ​เป็นอย่างมาก​ ​ตั้งหน้าตั้งตา​เล่า​ถึง​สถานที่​ที่​เขา​ไป​ ​ได้​เจอ​กับ​ใคร​บ้าง​ ​ทาน​อะไร​ไป​บ้าง​ ​เหตุการณ์​เป็น​อย่างไร​ให้​กับ​สือ​อี​เหนียง​ฟัง​…​ส่วน​สวี​ลิ่ง​อี๋​นั้น​ ​หลังจากที่​เขา​กลับมา​ก็​ไม่ได้​พูดถึง​เรื่อง​นี้​เลย​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​นึก​ว่า​ทุกอย่าง​ราบรื่น​และ​ปกติ​ดี​ ​นึกไม่ถึง​เลย​ว่า​ทั้งสอง​จะ​รู้สึก​ไม่​เหมือนกัน

​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ขมวดคิ้ว​แน่น

​สวี​ลิ่ง​อี๋​เงียบงัน​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้วจึง​ค่อย​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ ​“​หลาน​ของ​โต้ว​เก๋อ​เหล่า​อายุ​น้อยกว่า​จุน​เกอ​ราว​หนึ่ง​ปี​ ​กลับ​เข้าใจ​หลักธรรม​ที่ว่า​ ​‘​มี​กิจธุระ​ใด​ก็​ให้​ผู้น้อย​คอย​รับใช้​’​ ​แต่​เขา​นี่​สิ​…​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​เจื่อน​ ​“​เอาแต่​พูดคุย​หัวเราะ​กับ​บ่าว​รับใช้​ชาย​ ​ตัว​ติดกัน​ไม่ยอม​ห่าง​ ​พอตอ​นที​่​ให้​เขา​ไป​คารวะ​โต้ว​เก๋อ​เหล่า​และ​หวัง​ลี่​ ​เขา​ก็​เอาแต่​ขลาดกลัว​…​”​ ​ถึงแม้ว่า​เขา​จะ​หยุด​พูด​ไป​ ​แต่กลับ​ไม่​อาจ​ปิดบัง​ความผิดหวัง​ได้

​“​ค่อยๆ​ ​เป็น​ค่อยๆ​ ​ไป​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ทำได้​เพียง​ปลอบโยน​สวี​ลิ่ง​อี๋​เท่านั้น​ ​“​ไม่แน่​บางที​บุตรชาย​ของ​หวัง​ลี่​อาจจะ​พิเศษ​ไม่​เหมือน​ผู้อื่น​ ​ถือเป็น​ข้อยกเว้น​ก็​เป็นได้​”

​ค่อน​ชีวิต​ที่ผ่านมา​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่เคย​พ่าย​ต่อ​ผู้ใด​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​อยู่​ใน​สถานการณ์​ตกเป็นเบี้ยล่าง​หรือ​อยู่​ใต้​ลม​ ​แต่​เขา​ก็​ยัง​เชื่อมั่น​เสมอ​ว่า​สักวัน​จะ​สามารถ​ลุกขึ้น​ยืนหยัด​ด้วยตัวเอง​ได้​ ​มี​เพียง​เรื่อง​ของ​จุน​เกอ​เท่านั้น​ที่​ทำให้​เขา​ไม่เคย​เชื่อมั่น​และ​ถอดใจ​ตั้งแต่​ต้น​จน​จบ​เสียด​้วย​ซ้ำ

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ถอนหายใจ​ออกมา​เฮือก​ใหญ่​ ​“​เข้านอน​เถิด​!​ ​พรุ่งนี้​ยัง​มีเรื่อง​มากมาย​ที่​ต้อง​ทำ​”

​สือ​อี​เหนียง​แนบ​ใบหน้า​ติดกับ​แผ่น​หลัง​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​จากนั้น​ก็​โอบกอด​เอว​ของ​เขา​ไว้

​*****

​วัน​ถัดมา​ ​งานเลี้ยงต้อนรับ​แขก​ก็​เริ่ม​ขึ้น​ ​เสียง​ประทัด​ดัง​ขึ้น​ ​เริ่ม​ขบวน​ยก​เกี้ยว​เจ้าสาว​ ​ทุกอย่าง​ดำเนิน​ไป​อย่างราบรื่น

​หลังจากที่​เจ้าสาว​เข้า​ประตู​จวน​ ​เจ้าสาว​และ​เจ้าบ่าว​ก็​ไขว้​แขน​ดื่ม​สุรา​ ฮู​หยิน​ห้า​รีบ​จูงมือ​สือ​อี​เหนียง​ไปดู​เจ้าสาว

​ป้า​รับใช้​ที่​ค่อนข้าง​มีหน้ามีตา​และ​สาวใช้​น้อย​กำลัง​ยืน​อยู่​ใต้​ชายคา​ของ​เรือนหอ​ ​เหล่า​บรรดา​น้าสะใภ้​และ​น้า​หญิง​สกุล​กาน​ต่าง​ก็​อยู่​ใน​เรือนหอ​ ​ทุกที่​เต็มไปด้วย​ผู้คน​ที่​สวมใส่​ชุด​มงคล​สีแดง​สด​ ​บรรยากาศ​งานมงคล​ที่​รื่นเริง​กำลังจะ​เริ่ม​ขึ้น​แล้ว

​สือ​อี​เหนียง​และฮู​หยิน​ห้า​เพิ่งจะ​เดินผ่าน​ประตู​ของ​ลาน​สวน​เข้าไป​ ​เหล่า​ป้า​รับใช้​ที่​ฉลาด​หัวไว​รีบ​ตะโกน​เสียงดัง​ขึ้น​มาทัน​ที​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​สี่​และฮู​หยิน​ห้ามา​แล้ว​!​”

​“ฮู​หยิน​สี่​”​ ​“ฮู​หยิน​ห้า​”​ ​เสียง​กล่าว​ทักทาย​ของ​เหล่า​บรรดา​ป้า​รับใช้​และ​สาว​รับใช้​น้อย​ดัง​ขึ้น​พร้อมกับ​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​ต่อ​ๆ​ ​กัน​เป็นแถว​ยาว​ไม่​สิ้นสุด​ ​บ่าว​รับใช้​ที่​ยืน​ขวาง​อยู่​ใน​ตอนแรก​ก็​พากั​นข​ยับ​ออก​ไป​ด้าน​ข้าง​เพื่อ​เปิดทาง​ให้​ทั้งสอง​เข้าไป

​สือ​อี​เหนียง​และฮู​หยิน​ห้า​ก็​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​เพื่อ​เป็นการ​รับ​การ​คารวะ​ทักทาย​ ​จากนั้น​ก็​พากัน​เดิน​เข้า​ประตู​เรือนหอ​ไป​พร้อมกัน

​คนที​่​ค่อนข้าง​คุ้นเคย​ของ​สกุล​กาน​ก็​เดิน​เข้ามา​ต้อนรับ​ทันที​ ​บางคน​ที่​ไม่รู้​จัก​ก็​ยังคง​ยืน​อยู่​ที่​เดิม​พร้อมกับ​ยิ้ม​ให้​อย่าง​สำรวม​เพื่อ​เป็นการ​กล่าว​ทักทาย​ ​บางคน​ก็​ขยับ​ถอยหลัง​จน​ชิด​กับ​ผนังห้อง​ ​ส่วน​บางคน​ก็​เดิน​เข้ามา​หา​เพื่อ​กล่าว​ทักทาย

​สือ​อี​เหนียง​ ฮู​หยิน​ห้า​และ​ญาติ​ทาง​ฝั่ง​สกุล​กาน​ต่าง​ก็ได้​ทำ​คารวะ​ซึ่งกันและกัน​ ​จากนั้น​จึง​ค่อย​มีโอกาส​เข้าไป​ยล​โฉม​เจ้าสาว

มิน่าเล่าฮู​หยิน​สาม​ถึง​ได้​ตอบรับ​งานแต่ง​ครั้งนี้

​เจ้าสาว​อายุ​เยาว์วัย​ ​ไม่เพียงแต่​เหมือน​ดอก​จำปี​ที่พึ่ง​ผลิบาน​เท่านั้น​ ​หว่าง​คิ้ว​ของ​นาง​เต็มไปด้วย​ความสุภาพ​อ่อนโยน​ ​สง่างาม​ตามแบบฉบับ​ที่​บุตรี​ตระกูล​สูงศักดิ์​พึงมี​ ​ดูออก​ได้​อย่างชัดเจน​ว่า​ตระกูล​ธรรมดา​ไม่​สามารถ​อบรม​บ่ม​เพาะ​ออกมา​เช่นนี้​ได้​อย่างแน่นอน​ ​บุตรสาว​ของ​สกุล​ฟัง​ผู้​นี้​ถูก​อบรม​บ่ม​สอน​มา​เป็น​อย่างดี

​ในแง่​ของ​นิสัย​จิตใจ​ ​เมื่อ​เปรียบเทียบ​สวี​ซื่อ​ฉิน​กับ​ฟัง​ซื่อ​แล้ว​ ​ออกจะ​ดู​ค่อนข้าง​สูงส่ง​เกินไป​เสียด​้วย​ซ้ำ

​เมื่อ​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​และฮู​หยิน​ห้า​กำลัง​สังเกต​มอง​นาง​ ​ใบหน้า​ของ​เจ้าสาว​ก็​แดง​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​ราวกับ​แสงแดด​ใน​ยามเช้า​ก็​ไม่​ปาน​ ​พยายาม​ข่ม​ความ​เขินอาย​พร้อมกับ​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ ​“​ท่าน​อาสะใภ้​ทั้งสอง​โปรด​อย่า​ถือสา​ ​วันพรุ่งนี้​ข้า​จะ​ไป​คำนับ​ท่าน​อาสะใภ้​ทั้งสอง​แต่เช้า​ตรู่​เลย​เจ้าค่ะ​”

​การ​นั่ง​บน​เตียง​จะ​ไม่​สามารถ​ลงมา​เหยียบ​พื้น​ได้

ฮู​หยิน​ห้า​และ​สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หันมา​สบตา​กัน​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​เข้าไป​กุมมือ​ของ​เจ้าสาว​ไว้​ ​“​สะใภ้​คน​นี้​งดงาม​ยิ่งนัก​ ​มิน่าเล่า​พี่สะใภ้​สาม​ถึง​ได้​รีบร้อน​ไป​สู่ขอ​สะใภ้​ให้​ได้​ก่อน​จึง​ค่อย​รู้สึก​สบายใจ​!​”

​เจ้าสาว​ใบหน้า​แดงก่ำ​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​ตอบกลับ​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เกรงใจ​ว่า​ ​“​ขอบคุณ​อาสะใภ้​ห้า​ที่​เอ็นดู​ ​ข้า​ฟัง​ซื่อ​มิก​ล้า​รับ​เจ้าค่ะ​”

ย้าย​จาก​หู​โจว​ที่​ห่างไกล​แต่งงาน​เข้า​เมือง​เยี​่​ยน​จิง​ ​จึง​ยัง​ไม่​คุ้นชิน​ ​ไหน​จะ​ต้อง​เริ่มต้น​ใช้ชีวิต​ใหม่​เร็ว​ๆ​ ​นี้​อีก​ ​เป็น​ใคร​ก็​ย่อม​กังวลใจ​ทั้งนั้น

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้า​เป็น​คน​อวี​๋​หัง​ ​เพียงแต่ว่า​ก่อนที่​ข้า​จะ​แต่งงาน​ออกเรือน​ ​ยัง​ไม่เคย​เดินทาง​ไป​ไหน​ ​ก็​เลย​ไม่รู้​ว่า​อวี​๋​หัง​ห่าง​จาก​หู​โจว​แค่ไหน​”

​ดวงตา​ของ​เจ้าสาว​พลัน​เป็นประกาย​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​แพรวพราว​ดุจ​ผลึก​แก้ว​ก็​ไม่​ปาน​ ​พลอย​ทำให้​ใบหน้า​ของ​นาง​ดู​งดงาม​น่ามอง​ยิ่งขึ้น

​นาง​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ ​“​ข้า​เคย​ติดตาม​ท่าน​ย่า​ไป​ที่​หังโจว​ครั้งหนึ่ง​ ​ต่อมา​ก็​ติดตาม​ท่าน​พ่อ​ไปรั​บรา​ชกา​รอยู​่​ที่นั่น​สอง​ปี​ ​แต่​ไม่เคย​ไป​ที่​อวี​๋​หัง​สักครั้ง​ ​ข้า​เคย​อ่าน​เจอ​ใน​หนังสือ​เล่ม​หนึ่ง​ ​ว่า​กัน​ว่า​แม่น้ำ​เสา​ซี​ไหล​จาก​อวี​๋​หัง​ไป​ทาง​ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ​ของ​อำเภอ​อู​เฉิง​เข้าสู่​ทะเลสาบ​ไท่​หู​ ​หู​โจว​ของ​พวก​ข้า​…​”​ ​เมื่อ​พูดถึง​ตรงนี้​จู่ๆ​ ​นาง​ก็​รู้สึก​ว่า​ตนเอง​พูดจา​เสียมารยาท​ไป​ ​ใบหน้า​ของ​นาง​พลัน​ปรากฏ​สีหน้า​ขวยเขิน​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​นาง​จึง​พูด​ใหม่​ว่า​ ​“​หู​โจว​ใกล้​กับ​ทะเลสาบ​ไท่​หู​ ​ข้า​คิด​ว่า​คงจะ​ห่าง​จาก​อวี​๋​หัง​ไม่​ไกล​เท่าไร​นัก​!​”​ ​เมื่อ​พูด​จบ​สีหน้า​แววตา​ของ​นาง​ก็​ดู​ผ่อนคลาย​ลง​ไปมาก

​สือ​อี​เหนียง​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เป็นครั้งแรก​ที่​ข้า​ได้ยิน​เช่นนี้​ ​น่าเสียดาย​ที่​วันนี้​เป็น​วัน​มงคล​ของ​เจ้า​ ​มิเช่นนั้น​ข้า​ก็​คงจะ​เอา​หนังสือ​ตำรา​ออกมา​กาง​ ​แล้ว​นั่ง​ค้นหา​กับ​เจ้า​เสีย​แล้ว​ ​จะ​ต้อง​คำนวณ​ได้​อย่างแน่นอน​ว่า​แท้จริง​แล้ว​อวี​๋​หัง​ห่าง​จาก​หู​โจว​แค่ไหน​กัน​แน่​!​”

​ฟัง​ซื่อ​เม้มปาก​ยิ้ม​บาง​ๆ​ ​ดู​สง่างาม​สม​กับ​การ​เป็นคุณ​หนู​ของ​ตระกูล​ใหญ่

ฮู​หยิน​ห้า​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ก็​พูด​เชิง​ล้อเล่น​ว่า​ ​“​ดีจริง​เชียว​ ​ต่อไป​ตระกูล​เรา​ก็​คงมี​ปลา​แห้ง​ทาน​ไม่​หวาด​ไม่​หวั่น​อย่างแน่นอน​”

​ฟัง​ซื่อ​และ​สือ​อี​เหนียง​ส่ง​ยิ้ม​ให้​ซึ่งกันและกัน​ ​บรรยากาศ​ใน​เรือน​จึง​ดู​แน่นแฟ้น​ยิ่งขึ้น

​จากนั้น​ก็​มี​คน​ยก​เก้าอี้​ไท่​ซือ​มา​ให้​ทั้งสอง​นั่ง

​สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​เป็น​ป้า​รับใช้​ทั้งสอง​ที่มา​ส่ง​ขบวน​สินเดิม​เมื่อวาน​นี้

​ฟัง​ซื่อ​ก็ได้​แนะนำ​ว่า​ ​“​นี่​คือ​ป้า​เฉิง​ ​ส่วน​นี่​คือ​ป้า​หลี​่​ ​เดินทาง​มา​พร้อมกับ​พวก​ข้าเจ้า​ค่ะ​”

​สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ให้​กับ​ทั้งสอง​เบา​ๆ

​ทั้งสอง​พากั​นคุก​เข่า​คำนับ​สือ​อี​เหนียง​และฮู​หยิน​ห้า​ทันที

​ชิว​อวี​่​และ​เหอ​เซียง​สาวใช้​ข้าง​กาย​ของฮู​หยิน​ห้า​ก็​รีบ​เข้าไป​ประคอง​ป้า​รับใช้​ทั้งสอง​ลุกขึ้น

​“​วันนี้​เป็น​วัน​มงคล​ของ​คุณนาย​น้อย​ใหญ่​ ​เลย​อยาก​จะ​มาคำ​นับ​พวกเรา​ ​แต่​ไม่​ถูก​เวลา​!​”​ ฮู​หยิน​ห้า​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​แย้ม

​เวลา​นั้น​เอง​ก็​มีเสียง​ที่​เริงร่า​ของฮู​หยิน​สาม​ดัง​ขึ้น​จาก​ด้านนอก​ ​“​พี่สะใภ้​ใหญ่​ช้าๆ​ ​หน่อย​ ​ลาน​สวน​นี้​ข้า​พึ่ง​ลง​อิฐ​ใหม่​ไป​อย่างเร่งรีบ​ ​งาน​ข้า​ก็​ค่อนข้าง​ยุ่ง​ ​ยัง​ไม่ได้​ตรวจดู​ว่า​เรียบ​หรือไม่​ ​ระวัง​ขา​จะ​พลิก​เอา​ได้​”

​ญาติ​ทาง​ฝั่ง​สกุล​กาน​ต่าง​ก็​รีบ​พากัน​เข้าไป​ประคอง​ทันที

​สือ​อี​เหนียง​จึง​หันไป​แนะนำ​กับ​ฟัง​ซื่อ​ว่า​ ​“​ท่าน​นี้​คือฮู​หยิน​ของ​ท่าน​จง​ฉินปั​๋ว​ ​มาถึง​แล้ว​”

​ฟัง​ซื่อ​ก็​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​เห็นได้ชัด​ว่านาง​รู้จักฮู​หยิน​ของ​จง​ฉินปั​๋ว

ฮู​หยิน​ห้า​หันมา​กระซิบ​ข้าง​หู​ของ​สือ​อี​เหนียง​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​เรือนหอ​เล็ก​ขนาด​นี้​ ​พวกเรา​ควร​กลับ​ไป​ก่อน​ดีกว่า​กระมัง​!​”

​สือ​อี​เหนียง​ไม่​อยาก​จะ​พูด​อะไร​กับ​จง​ฉินปั​๋วฮู​หยิน​มากเกินไป​ ​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​พยักหน้า​เบา​ๆ​

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท