ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 519 เข้าจวน (กลาง)

ตอนที่ 519 เข้าจวน (กลาง)

​เพียง​ไม่นาน​ทั้ง​เรือน​ก็​เต็มไปด้วย​ผู้คน

​กานฮู​หยิน​ก็ได้​มาก​ล่า​วทัก​ทายกั​บสื​ออี​เหนียง​อย่างกระตือรือร้น​ ​สือ​อี​เหนียง​และฮู​หยิน​ห้า​ก็ได้​พูดคุย​กับ​นาง​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​หาเหตุ​ผล​เพื่อ​ขอตัว​ออกจาก​เรือนหอ​ไป

​เวลานี้​ก็​ยาม​จื่อ​แล้ว​ ​ทั้งสอง​จึง​ค่อนข้าง​เหนื่อยล้า​เป็นอย่างมาก​ ​พูดคุย​กัน​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​แยกย้าย​กลับ​เรือน​ของ​ตัวเอง​ไป

​เพียงแต่ว่า​สือ​อี​เหนียง​ที่พึ่ง​ก้าว​เท้า​ลง​บน​ขั้นบันได​ของ​เรือน​หลัก​ ​อวี​้​ป่าน​สาวใช้​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​เข้ามา​หาด​้วย​ความรีบร้อน

​“ฮู​หยิน​สี่​”​ ​นาง​ขาน​เรียก​สือ​อี​เหนียง​เสียง​เบา​ ​“​ไท่ฮู​หยิน​ให้​บ่าว​มาตาม​ ​บอกว่า​มีเรื่อง​จะ​คุย​กับ​ท่าน​เจ้าค่ะ​”

​สือ​อี​เหนียง​จึง​ไปหา​ไท่ฮู​หยิน​พร้อมกับ​นาง

​ใน​เรือน​ไท่ฮู​หยิน​สว่างไสว​ไป​ด้วย​ตะเกียง​ไฟ​ ​ภายใต้​แสงไฟ​ ​สามารถ​มองเห็น​สีหน้า​ที่​เหนื่อยล้า​ได้​อย่างชัดเจน

​สือ​อี​เหนียง​ก็​เดิน​เข้าไป​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​ ​ไท่ฮู​หยิน​ได้​ให้​บ่าว​รับใช้​ที่​ปรนนิบัติ​อยู่​ใน​เรือน​ถอย​ออก​ไป​จน​หมด

​จากนั้น​ก็ได้​ถาม​สือ​อี​เหนียง​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​เจ้าสาว​เป็น​อย่างไรบ้าง​”

ที่แท้​แล้วก็​เป็นกังวล​ใจ​เรื่อง​นี้​นี่เอง​!

​สือ​อี​เหนียง​จ้องมอง​ไป​ยัง​ริ้วรอย​เหี่ยว​ย่น​ที่​หาง​ตาของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​ใน​ใจ​แอบ​รู้สึก​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​ชรา​กว่า​ตอนที่​นาง​ได้​เจอ​ใน​ครั้งแรก

​นาง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​กุมมือ​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ไว้​ ​พร้อมกับ​พูด​ขึ้นเสียง​เบา​ว่า​ ​“​เบื้องต้น​ถือว่า​ดีเจ​้า​ค่ะ​”​ ​จากนั้น​นาง​ก็​เล่า​ทุกอย่าง​ที่​ได้​เห็น​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ฟัง​อย่างละเอียดถี่ถ้วน​ ​“​…​ลักษณะ​หน้าตา​ดูดี​เป็นอย่างมาก​ ​หนังสือ​ตำรา​ที่​อ่าน​มาก​็​ค่อนข้าง​เยอะ​ ​กิริยามารยาท​สุภาพ​และ​สุขุม​!​”​ ​จากนั้น​ก็​นึกถึง​คน​ติดตาม​ที่​ติดตาม​ฟัง​ซื่อ​มาด​้วย​ ​“​ไม่ใช่​คนที​่​สายตา​คับแคบ​และ​ไร้​ซึ่ง​ประสบการณ์​”​ ​จากนั้น​ก็​นึกถึง​สะใภ้​ใหญ่​ผู้​นั้น​ ​“​เกรง​ว่า​คงจะ​เป็น​ญาติ​สกุล​เดิมที​่​ไม่ได้​มีนิ​สัย​ใจคอ​อดทน​อดกลั้น​เจ้าค่ะ​”

​ไท่ฮู​หยิน​กลับ​ไม่​คิด​เช่นนั้น​ ​“​ไม่ว่า​ภรรยา​ของ​เจ้า​สาม​จะ​ไป​ดอง​กับ​ตระกูล​ไหน​ ​นิสัยใจคอ​จะ​ดี​แค่ไหน​สุดท้าย​ก็​จะ​กลายเป็น​คน​มี​อารมณ์​ฉุนเฉียว​ไป​โดยปริยาย​”​ ​ในที่สุด​ก้อนหิน​หนักอึ้ง​ใน​อก​ก็​ถูก​ยก​ออก​ ​ไท่ฮู​หยิน​จึง​ถอนหายใจ​ออกมา​เฮือก​ใหญ่​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​“​เช่นนั้น​ก็​รอดู​ว่า​เช้า​วัน​มะรืน​จะ​มี​อะไร​เปลี่ยนแปลง​หรือไม่​”

​ฤกษ์งาม​ยาม​ดี​ถูก​กำหนด​ไว้​ค่อนข้าง​สาย​ ​หลังจากที่​ส่ง​แขก​กลับ​เรียบร้อย​ก็​เกือบจะ​เช้า​แล้ว​ ​แสงไฟ​ยามค่ำคืน​ใน​ห้อง​บ่าวสาว​จึง​จำเป็นต้อง​เปลี่ยนเป็น​วันพรุ่งนี้​แทน​ ​เช้า​วันพรุ่งนี้​หาก​ไม่มี​อะไร​ผิดพลาด​ ​ก็​จะ​ถือเป็น​งานมงคลสมรส​ที่​สมบูรณ์

​สือ​อี​เหนียง​จึง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​ปลอบใจ​ไท่ฮู​หยิน​ว่า​ ​“​ท่าน​วางใจ​เถิด​ ​ไม่มี​อะไร​เกิดขึ้น​อย่างแน่นอน​ ​ข้าว​่า​สีหน้า​ของ​ท่าน​เหนื่อยล้า​เต็มที​แล้ว​ ​ท่าน​รีบ​ไป​พักผ่อน​ดี​หรือไม่​ ​อย่างไร​เสีย​ข้า​ก็​ต้อง​ตื่น​แต่เช้า​เพื่อ​ไป​กล่าว​ทักทาย​ญาติ​ที่​ห้องโถง​อยู่​แล้ว​ ​มีเรื่อง​อัน​ใด​ก็​ให้​ป้า​รับใช้​มาแจ้ง​ข้า​ก็​พอ​เจ้าค่ะ​”

​“​ไม่ต้อง​หรอก​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​พูด​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​รอยยิ้ม​กรุ้มกริ่ม​เจือปน​ไป​ด้วย​ความ​เจ้าเล่ห์​เล็กน้อย​ ​“​เจ้า​ข่ม​นาง​ไม่ไหว​หรอก​ ​ข้า​ออกโรง​เอง​จะ​ดีกว่า​!​ ​เจ้า​รีบ​ไป​พักผ่อน​เถิด​ ​หน้าที่​ของ​เจ้า​ก็​คือ​ดูแล​จิ​่น​เกอ​ให้​ดี​ก็​พอ​!​”

​ถึงแม้ว่า​ไท่ฮู​หยิน​จะ​ดี​กับ​จุน​เกอ​เป็นอย่างมาก​ ​แต่​ก็​มี​ความสงสาร​และ​เวทนา​แฝง​อยู่​ใน​นั้น​เสมอ​ ​ส่วน​จิ​่น​เกอ​กลับเป็น​ความรักใคร่​เอ็นดู​เสียมา​กก​ว่า

​ค่าใช้จ่าย​งานแต่ง​ของ​สวี​ซื่อ​ฉิน​จะ​ถูก​จัดการ​อย่างไร​ ​สือ​อี​เหนียง​ไม่รู้​เรื่อง​นั้น​เลย​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​สนใจ​เรื่อง​เหล่านี้​หรือไม่​ ​ไท่ฮู​หยิน​เอง​ก็​ไม่เคย​เอ่ยถึง​เรื่อง​นี้​ ​นาง​เอง​ก็​ไม่กล้า​ที่จะ​ผลีผลาม​ไป​ถาม

​ใครต่อใคร​จะเข้า​ใจ​ผิด​คิด​ว่า​ตน​ได้​คืบ​จะ​เอา​ศอก​ ​ตอนนี้​ฟัง​จาก​น้ำเสียง​ของ​ไท่ฮู​หยิน​แล้ว​ ​ดูเหมือนว่า​กำลัง​เล่น​สงครามประสาท​กับฮู​หยิน​สาม​อยู่​ ​เช่นนั้น​นาง​ก็​ยิ่ง​ไม่สมควร​จะ​หยิบยก​เรื่อง​นี้​ขึ้น​มา​พูด​เข้าไป​ใหญ่

​สือ​อี​เหนียง​อยาก​จะ​ช่วย​ปรนนิบัติ​ไท่ฮู​หยิน​เข้านอน​ก่อน​ ​แต่​ไท่ฮู​หยิน​กลับ​โบกมือ​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ข้ามี​เรื่อง​จะ​คุย​กับ​ป้า​ตู้​ ​เจ้า​กลับ​เรือน​ไป​ก่อน​ก็แล้วกัน​!​ ​อย่า​ให้​เจ้า​สี่​ดื่ม​สุรา​มากเกินไป​ ​เขา​อายุ​ไม่น้อย​แล้ว​ ​สุรา​ดื่ม​มากเกินไป​ก็​จะ​กลายเป็น​โทษ​ต่อ​ร่างกาย​ได้​”

​“​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ขานรับ​เสียง​เบา​ ​แล้วจึง​ถอย​ออกจาก​เรือน​ไป​ ​จากนั้น​ก็​สั่ง​กับ​จู๋​เซียง​ว่า​ ​“​…​ไป​สืบมา​ว่า​ค่าใช้จ่าย​งานแต่ง​ของ​คุณชาย​น้อย​ใหญ่​นั้น​คิด​อย่างไร​”

​*****

​วัน​ถัดมา​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​เหวิ​นอี​๋​เหนียง​และ​เฉียว​อี๋​เหนียง​ก็​พากั​นมา​คารวะ​สือ​อี​เหนียง​ตั้งแต่​เช้าตรู่​ ​ทุกคน​ต่าง​ก็​แต่งตัว​ด้วย​เสื้อผ้า​ชุด​ใหม่​ ​หลังจากที่​สือ​อี​เหนียง​รับ​การ​คารวะ​จาก​ทุกคน​แล้ว​ ​ก็​มีสาว​ใช้​ใหญ่​และ​ป้า​รับใช้​ที่​ติดตาม​มา​เป็น​โขยง​ ​นำทาง​เด็ก​ๆ​ ​ไป​ยัง​โถง​บุปผา​เล็ก​ของ​ห้องโถง​หลัก​ ​สวี​ซื่อ​ฉิน​และ​ฟัง​ซื่อ​ใช้​ที่นี่​เป็น​ที่​กล่าว​ทักทาย​ญาติ

​นาง​พึ่ง​จะ​ไป​ถึง​ ฮู​หยิน​ห้า​ก็​พาซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​และ​เซิน​เกอ​มาถึง​พอดี

​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​รีบ​สะบัด​มือ​จาก​แม่นม​แล้ว​เข้าไป​จูงมือ​จิ​่น​เกอ​ทันที​ ​จิ​่น​เกอ​เห็น​นาง​หัวเราะ​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก็​เริ่ม​หงุดหงิด​ขึ้น​มา​ ​จึง​พยายาม​บิด​ตัว​ออกจาก​มือ​ของ​นาง​แล้ว​หันไป​มอง​อักษร​ ​‘​สี่​’​ ​สีแดง​สด​ที่​ติด​อยู่​กลาง​ห้องโถง​แทน

​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​เขินอาย​จน​ทำตัว​ไม่​ถูก​ ​สวี​ซื่อ​จุน​เดิน​เข้าไป​ถาม​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ว่า​ ​“​เหตุใด​เมื่อวาน​นี้​ถึง​ไม่เห็น​เจ้า​ใน​งานเลี้ยง​เลย​ ​เมื่อวาน​นี้​มี​ขนม​งา​ไส้​ดอก​กุ้ยฮ​วา​ ​พวก​ข้า​คิด​ว่า​เจ้า​จะ​ต้อง​ชอบ​อย่างแน่นอน​ ​ก็​เลย​ให้​ปี้​หลัว​เอา​ไป​ให้​ ​เจ้า​ได้​ทาน​แล้ว​หรือยัง​”

​เมื่อ​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ได้ยิน​แล้ว​ ​สีหน้า​ของ​นาง​ก็​ดู​ผ่อนคลาย​ลง​อย่างเห็นได้ชัด​ ​เผย​ให้​เห็น​รอยยิ้ม​บาง​ๆ​ ​นาง​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​ออดอ้อน​และ​สีหน้า​ที่​ดีใจ​ว่า​ ​“​แม่นม​บอกว่า​มัน​ทำ​มาจาก​ข้าวเหนียว​ ​ก็​เลย​ให้ทาน​แค่​ครึ่ง​ชิ้น​ ​เป็น​เหมือน​ที่​พี่​สี่​พูด​ไว้​ไม่มี​ผิด​ ​อร่อย​มาก​เจ้าค่ะ​!​”

​สวี​ซื่อ​จุน​ได้ยิน​แล้วก็​ดีใจ​เป็นอย่างมาก​ ​สอง​พี่น้อง​เริ่ม​ชวน​กัน​คุย​อย่างสนุกสนาน

​สายตา​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​จับจ้อง​ไป​ยัง​จิ​่น​เกอ

​จิ​่น​เกอ​สวม​เสื้อคลุม​นก​กระ​เรียน​ผ้าไหม​สีแดง​สด​ลาย​ก้อน​เมฆ​ห้าม​งคล​ ​กางเกง​ผ้าแพร​ต่วน​สีขาว​ ​ช่วง​แผ่น​อก​มีส​ร้อย​คอ​จี้​กุญแจทอง​คำสม​ดังปรารถนา​ห้อย​อยู่​ ​ผิว​ของ​เขา​ขาว​เนียน​ละเอียด​ ​ราวกับ​ถูก​ผลัด​ผิว​ด้วย​แป้ง​ขาว​ ​เงา​ดุจ​หยก​แกะสลัก​อย่างไร​อย่างนั้น​ ​นัยน์ตา​ที่​ทั้ง​โต​และ​ดำขลับ​ของ​เขา​เป็นประกาย​แวววาว​ ​น่ารักน่าชัง​ราวกุมาร​ทอง​ของ​พระโพธิสัตว์กวนอิม​ก็​ไม่​ปาน​ ​สายตา​ของ​เขา​และจิ​่น​เกอ​สบ​ประสานกัน​โดย​มิได้​ตั้งใจจิ​่น​เกอ​ก็​ส่ง​รอยยิ้ม​แป้น​ให้​กับ​เขา​ทันที​ ​แต่​ห้วงเวลา​นี้​หยุด​ไว้​ได้​เพียง​ไม่นาน​ ​สายตา​ของ​เขา​ก็​ถูก​โคมไฟ​ไข่มุก​ระย้า​สีแดง​สด​ที่​ซุ่ย​เอ๋อร​์​ถือ​อยู่​เหนือศีรษะ​ของ​จิ​่น​เกอ​ดึงดูด​ไป​อย่างรวดเร็ว

​สวี​ซื่อ​อวี​้​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ฉีก​ยิ้ม​ขึ้น​ที่​มุม​ปาก​ ​เผย​ให้​เห็น​รอยยิ้ม​บาง​ๆ

​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​หันไป​จูงมือ​ของ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เดินตาม​หลัง​สือ​อี​เหนียง​ออก​ไป​ต้อนรับ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หง​ ​คุณนาย​สอง​สกุล​ฟู่​และ​คุณนาย​สาม​สกุล​ติ้ง​ที่มา​จาก​เมือง​หนาน​จิง​ ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หง​และ​คุณนาย​สอง​สกุล​ฟู่​ได้​พาสะ​ใภ้​คนโต​มาด​้วย​ ​ไม่ได้​เจอ​หน้า​กัน​หลาย​ปี​ ​ไม่เพียงแต่​เป็นการ​กล่าว​ทักทาย​ญาติ​เท่านั้น​ ​แต่​ยัง​ได้​ไถ่ถาม​สารทุกข์สุกดิบ​อีกด้วย​ ​ขณะที่​กำลัง​ครึกครื้น​อยู่​นั้น​ ฮู​หยิน​สาม​ก็​เดิน​เข้ามา​พร้อมกับ​จง​ฉินปั​๋วฮู​หยิน​ ​เหล่า​บรรดา​ป้า​สะใภ้​ ​น้าสะใภ้​และ​คุณหนู​ของ​สกุล​กาน

​กานฮู​หยิน​ก็ได้​ยืน​พูดคุย​กับ​สือ​อี​เหนียง​และ​สตรี​คนอื่นๆ​ ​ด้วย​สีหน้า​ที่​ยิ้มแย้ม​ ​ลืม​ญาติ​ผู้หญิง​ที่อยู่​ใน​ตระกูล​รวมไปถึง​คุณหนู​ที่​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ ​ไป​เสีย​สนิท​ ​ส่วน​เหล่า​บรรดา​สะใภ้​ที่​เป็น​ญาติสนิท​ของฮู​หยิน​สาม​เห็น​แล้วก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​เบะ​ปาก​ ​จากนั้น​ก็​เห็น​จง​ฉินปั​๋ว​ ​สวี​ลิ่ง​ควน​และ​เหล่า​บรรดา​ลุง​ ​อา​ ​น้าชาย​และ​บุตร​เขย​ของ​สกุล​กาน​ ​รวมไปถึง​สวี​ซื่อ​เจี่ย​นที​่​เดินตาม​หลัง​สวี​ลิ่ง​อี๋​เข้ามา​พอดี

​โถง​บุปผา​ก็​โกลาหล​ขึ้น​มาทัน​ที

​ทุกคน​ทยอย​แบ่งแยก​ชาย​หญิง​ ​แยกกัน​นั่ง​ฝั่ง​ซ้าย​ขวา​ชัดเจน​ ​สะใภ้​กาน​เหล่า​เฉวียน​ก็​พาส​วี​ซื่อ​ฉิน​และ​ฟัง​ซื่อ​เข้ามา

​คู่บ่าวสาว​ก็ได้​เข้าไป​ทำความเคารพ​สวี​ลิ่ง​อี๋​และ​คนอื่นๆ​ ​ก่อน​เป็นอัน​ดับ​แรก​ ​นอกจาก​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​มอบ​กำไร​หงส์ทอง​คำ​หนึ่ง​คู่​เป็น​ของขวัญ​เจอ​หน้า​ครั้งแรก​แทนคุณ​ชาย​สาม​แล้ว​ ​คนที​่​เหลือก​็​พากั​นก​ล่าว​คำ​อวยพร​จำพวก​ ​‘​สามีภรรยา​ควร​เคารพ​ซึ่ง​กัน​ให้​เหมือนกับ​การ​เคารพ​แขก​’​ ​จากนั้น​ก็​ไป​ทำความเคารพ​เหล่า​บรรดา​สตรี​และ​เด็ก​ๆ​ ​ที่​ห้องโถง​ด้าน​ข้าง

ฮู​หยิน​สาม​จ้องมอง​บุตรชาย​และ​ลูกสะใภ้​ที่​กำลัง​คำนับ​นาง​อยู่​ ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​น้ำตา​คลอ​ขึ้น​มา​ ​จากนั้น​ก็​รับรอง​เท้า​ถุงเท้า​ที่​ฟัง​ซื่อ​ทำให้​ ​กล่าว​คำ​ว่า​ ​“​ดี​…​ดี​…​”​ ​ซ้ำแล้วซ้ำเล่า​ไม่ขาดสาย​ ​จน​ใบหน้า​ของ​ฟัง​ซื่อ​แดงก่ำ​เพราะ​ความ​เขินอาย​ ​ชิว​หลิง​ก็​รีบ​นำ​กล่อง​ไม้​สีแดง​สด​ไป​มอบให้

​ฟัง​ซื่อ​รับ​กล่อง​ไม้​มาด​้ว​ยส​อง​มือ​ ​สายตา​ของ​ทุกคน​ก็​จับจ้อง​ไป​ยัง​สือ​อี​เหนียง​ที่​ฐานะ​บรรดาศักดิ์​สูงส่ง​ที่สุด​ใน​ห้องโถง​นี้

​สือ​อี​เหนียง​กำลัง​จ้องมอง​ปิ่นปักผม​หงส์ทอง​คำ​ที่​ประดับ​ไป​ด้วย​หยก​มรกต​ ​ทับทิม​แดง​ ​เพชรตาแมว​และ​ไข่มุก​ขนาด​เท่า​เม็ด​บัว​บน​ศีรษะ​ของฮู​หยิน​สาม​ ​จากนั้น​ก็​แอบ​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​หันไป​รับ​กล่อง​ไม้​ที่​สลัก​ด้วย​ลาย​สีทอง​จาก​ชิว​อวี​่​และ​กำลังจะ​ยื่น​ให้​กับ​ฟัง​ซื่อ​ ​แต่ฮู​หยิน​ห้า​กลับหัว​เราะ​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ช้าก่อน​ ​ช้าก่อน​ ​ไหน​ๆ​ ​วันนี้​ก็​เป็น​วันที่​กล่าว​ทักทาย​เพื่อ​ทำความรู้จัก​กับ​ญาติพี่น้อง​ ​แล้ว​เรา​จะ​หนี​ไป​ไหน​ได้​เล่า​ ​ค่อยๆ​ ​ให้​ทีละ​คน​ตามลำดับ​จะ​ดีกว่า​”

​ทุกคน​ต่าง​ก็​พากัน​หันไป​มองฮู​หยิน​ห้า

​มือ​ที่​กำลัง​ยื่น​กล่อง​ไม้​ของ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ชะงัก​ไป​ ​จากนั้น​ก็​เก็บ​กล่อง​ไม้​กลับมา​ดังเดิม

​“​พี่สะใภ้​สาม​สู่ขอ​ลูกสะใภ้​ที่​ใบหน้า​งดงาม​ราวกับ​หยก​ก็​ไม่​ปาน​ ​ไม่รู้​ว่า​ชอบ​จริง​หรือ​แกล้ง​ชอบ​”​ ฮู​หยิน​ห้า​ยก​แขน​เสื้อ​ขึ้น​มาบัง​พร้อมกับ​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​“​ที่​บอกว่า​ก่อนหน้านี้​ไม่​นับ​ ​ข้า​จะ​รอดู​ว่าวั​นนี​้​พี่สะใภ้​สาม​จะ​มอบ​อะไร​เป็น​ของขวัญ​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​หันไป​ส่งสายตา​ให้​ชิว​หลิง​เปิด​ฝาก​ล่อง​ไม้​ ​“​สิ่ง​ที่​ได้ยิน​ด้วย​หู​อาจจะ​เป็นเรื่อง​เท็จ​ ​เห็นด้วย​ตา​ต่างหาก​ถึง​จะ​เป็นเรื่อง​จริง​”

ฮู​หยิน​สาม​ได้ยิน​แล้วก็​ยิ้ม​ขึ้น​บาง​ๆ​ ​รอยยิ้ม​ของ​นาง​แฝง​ไป​ด้วย​ความ​ลำพองใจ​มากกว่า​สำรวม​เสียด​้วย​ซ้ำ

​ชิว​หลิง​จึง​ยิ้ม​พร้อมกับ​เปิด​ฝาก​ล่อง​ไม้​ออก

​ด้านใน​เป็น​ชุด​เครื่องประดับ​ผม​เฟิน​ซิน​ทองคำ​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​ดู​ค่อนข้าง​เก่าแก่​ ​แต่​อย่างน้อย​ๆ​ ​ก็​หนัก​ราว​ห้า​ถึง​หก​ตำลึง​เห็นจะ​ได้

​พี่สะใภ้​ใหญ่​ของฮู​หยิน​สาม​รู้สึก​ว่า​ของขวัญ​ของฮู​หยิน​สาม​นั้น​ถือว่า​ใช้ได้​ ​มองดู​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก็ได้​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​เป็น​อย่างไรบ้าง​ ฮู​หยิน​ห้า​พอใจ​หรือไม่​”

​“​ถือว่า​ใช้ได้​!​”​ ฮู​หยิน​ห้า​พูด​ขึ้น​ด้วย​รอยยิ้ม

​ฟัง​ซื่อ​ก็​รู้สึก​ทำตัว​ไม่​ค่อย​ถูก​ขึ้น​มา​ ​จึง​ก้มหน้า​ลง​ต่ำ

​ใบหน้า​ของฮู​หยิน​สาม​ก็​เต็มไปด้วย​ความภาคภูมิใจ​เข้าไป​ใหญ่

​จากนั้น​สายตา​ของ​ทุกคน​ก็​จับจ้อง​ไป​ยัง​สือ​อี​เหนียง​อีกครั้ง

​ใบหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​ก็​เผย​ให้​เห็น​สีหน้า​ที่​ลังเล​ขึ้น​มา

​หลังจากที่​พี่สะใภ้​ใหญ่​ของฮู​หยิน​สาม​เห็น​แล้วก็​ยิ้ม​พร้อมกับ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​สี่​ ​ครอบครัว​สกุล​เดิม​ของ​พวก​ข้า​กำลัง​ตั้งหน้าตั้งตา​รอดู​ท่าน​อยู่​!​”

​สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​หัวเราะ​ออกมา​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​ยื่น​กล่อง​ไม้​ให้​กับ​ฟัง​ซื่อ​ ​“​น้ำใจ​เล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​จาก​ข้า​ ​ขอ​หลาน​สะใภ้​อย่า​ได้​รังเกียจ​!​”

​พี่สะใภ้​ใหญ่​ของฮู​หยิน​สาม​เห็น​ว่านาง​ไม่ยอม​เปิด​ฝาก​ล่อง​ไม้​ออก​ ​ไม่เปิดเผย​ต่อ​สายตา​ของ​ผู้คน​ ​จึง​คิด​ว่า​ต้อง​ไม่ใช่​ของดี​อย่างแน่นอน​ ​จึง​หัวเราะ​ออกมา​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​เยือกเย็น​แล้ว​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ของขวัญ​เจอ​หน้า​ของ​หย่ง​ผิง​โหวฮู​หยิน​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​ควรจะ​เปิด​ให้​พวกเรา​เห็น​เป็นบุญ​ตา​เสียหน่อย​ถึง​จะ​ถูก​!​”

​ฟัง​ซื่อ​ได้ยิน​แล้ว​สีหน้า​ของ​นาง​ก็​เต็มไปด้วย​ความกังวลใจ​ ​รีบ​หันไป​ส่งสายตา​ขอความช่วยเหลือ​จาก​สวี​ซื่อ​ฉิน

​สวี​ซื่อ​ฉิน​ทำ​เพียง​ยืน​ยิ้มอยู่​ข้างๆ​ ​เท่านั้น

ท่าน​อาสะใภ้​สี่​เป็น​คนจริง​ใจ​ ​และ​ถึงแม้ว่า​จะ​เป็น​ของ​ที่​ไม่ได้​มีค่า​มากมาย​อะไร​ ​แต่​โดยปกติ​แล้ว​จะ​ชนะ​ด้วย​ฝีมือ​ที่​มีสีสัน​เป็นอย่างมาก​ ​เขา​จึง​ไม่ได้​เป็นกังวล​ใจ​แต่อย่างใด

​ฟัง​ซื่อ​จนปัญญา​ ​นาง​หลุบ​ตาลง​ต่ำ​ ​จากนั้น​ก็​ค่อยๆ​ ​เปิด​ฝาก​ล่อง​ออก

​ปิ่นปักผม​ทองคำ​ถูก​วาง​อยู่​บน​แผ่น​รอง​กำมะหยี่​สีม่วง​บานเย็น​ ​หัว​ปิ่น​ที่​ค่อนข้าง​ใหญ่​ม้วน​ทรงกลม​ ​สลัก​ด้วย​ลาย​หงส์​คู่​ทะยาน​ฟ้า​ ​ปีก​ของ​หงส์​เหมือน​จริง​ราวกับ​ปีก​จริง​ก็​ไม่​ปาน​ ​ฝีมือ​การแกะสลัก​ละเอียด​ประณีต​และ​ลึกล้ำ​ ​กำลัง​สยาย​ปีก​โบยบิน​คลอเคลีย​อยู่​ท่ามกลาง​เมฆหมอก​ ​ก้อน​เมฆ​ซ้อนทับ​เป็นชั้นๆ​ ​จน​มิ​อาจ​นับ​ได้​ ​ถูก​ล้อมรอบ​ด้วย​หงส์​คู่​ ​และ​เป็น​เพราะ​ทำ​จาก​ทองคำ​ใหม่​ ​จึง​สว่าง​และ​เงางาม​เป็นอย่างมาก​ ​เกิด​เป็น​แสง​จ้า​กระทบ​ตาจน​แทบจะ​ลืมตา​ไม่​ขึ้น​เลย​ทีเดียว

​บางคน​เชยชม​ว่า​ ​“​งดงาม​ยิ่งนัก​”​ ​และ​บางคน​ก็​พูด​ขึ้น​ด้วย​ความสงสัย​ว่า​ ​“​น้ำหนัก​คงจะ​สิบ​กว่า​ตำลึง​เลย​กระมัง​”

​“​สิ่ง​นี้​ล้ำค่า​เกินไป​แล้ว​”​ ​ฟัง​ซื่อ​เงยหน้า​ขึ้น​มาม​อง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​สีหน้า​ที่​ตกใจ​ ​ราวกับ​ถูก​ไฟ​ลวก​อย่างไร​อย่างนั้น

​“​หงส์​คู่​ทะยาน​ฟ้า​ ​สลัด​ปีก​โบยบิน​”​ ​สือ​อี​เหนียง​จ้องมอง​นาง​ด้วย​รอยยิ้ม​ที่​อ่อนโยน​ ​“​อาสะใภ้​สี่​ขอ​อวยพร​ให้​พวก​เจ้า​แก่เฒ่า​ไป​ด้วยกัน​ ​รักใคร่​ผูกพัน​เป็นหนึ่งเดียว​”

​ฟัง​ซื่อ​ได้ยิน​แล้วก็​รู้สึก​ตื้นตันใจ​เป็นอย่างมาก

คำพูด​ประโยค​นี้​มาจาก​ ​‘​คัมภีร์​กวีนิพนธ์​ต้า​หย่า​และ​เจ​วี่​ยน​อา​’​ ​ปกติ​แล้ว​จะ​ใช้​ใน​การ​อวยพร​คู่สามีภรรยา​ให้​รักใคร่​กลมเกลียว​ ​การ​แต่งงาน​ที่​อุดมสมบูรณ์​ ​เป็น​บทกวี​ที่นา​งมัก​จะ​ชอบ​ขับร้อง​อยู่​ใน​ใจ​ก่อนที่จะ​แต่งงาน​ออกเรือน

​“​ขอบคุณ​ท่าน​อาสะใภ้​สี่​เจ้าค่ะ​!​”​ ​นาง​ย่อ​ตัว​ทำความเคารพ​ด้วย​ความ​ซาบซึ้ง

​สกุล​ฟัง​เป็น​ตระกูล​นักปราชญ์​ ​สวี​ซื่อ​ฉิน​ได้ยิน​คำพูดคำจา​ของ​สะใภ้​ใหญ่​สกุล​ฟัง​ ​รวมไปถึง​ฟัง​ซื่อ​ที่​อ่านหนังสือ​กวีนิพนธ์​มามาก​มาย​ ​จึง​รู้สึก​กังวล​ว่าด้วย​เหตุนี้​ ​ฟัง​ซื่อ​จะ​เป็น​คนที​่​เย่อหยิ่ง​ทะนง​ตน​มาโดยตลอด​ ​แต่​หลังจากที่​ได้รับ​ของขวัญ​เจอ​หน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​แล้ว​ ​ฟัง​ซื่อ​กลับ​กล่าว​ขอบคุณ​ด้วย​ความจริงใจ​ ​พลอย​ทำให้​ความกังวลใจ​ที่สูง​ลิ่ว​ของ​เขา​ร่วง​ลงมา​สู่​พื้น​…​จากนั้น​ก็ได้​ยินฮู​หยิน​ห้า​พูด​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​หยอกล้อ​ว่า​ ​“​พี่สะใภ้​สาม​ ​แค่นี้​พอ​เสียที​่​ไหน​กัน​ ​ท่าน​เป็น​ถึง​แม่​สามี​ ​แต่​เหตุใด​ถึง​โดน​พี่สะใภ้​สี่​ข่ม​ทับ​ได้​ ​ยังไง​ก็​ควร​ต้อง​เพิ่ม​อีกหน่อย​ถึง​จะ​ถูก​ ​เร็ว​เข้า​ ​รีบ​เพิ่ม​ของขวัญ​ให้​หลาน​สะใภ้​อีก​สัก​อย่าง​สอง​อย่าง​”

​สีหน้า​ของฮู​หยิน​สาม​พลัน​แข็งทื่อ​ไป​ในทันที​ ​ใน​ใจ​รู้สึก​ดีใจ​เป็นอย่างมาก​ที่​สือ​อี​เหนียง​เป็นหน้าเป็นตา​ให้​แก่นาง​ ​แต่​ก็​ยัง​เป็นกังวล​ใจ​กับฮู​หยิน​ห้า​ที่​ไม่​ค่อย​รู้ความ​ ​ขณะที่​นาง​กำลังจะ​พูด​อะไร​บางอย่าง​ ฮู​หยิน​ห้า​ก็ได้​เปิด​ฝาก​ล่อง​ไม้​ที่นาง​เอา​มา​ ​“​ของ​ข้า​อยู่​นี่​ ​รอ​พี่สะใภ้​สาม​มอบ​ของขวัญ​เจอ​หน้า​เพิ่ม​ให้​กับ​หลาน​สะใภ้​แล้ว​ ​ข้า​ก็​จะ​มอบให้​ทันที​”

​เวลา​นั้น​เอง​ ​ใน​เรือน​ก็อบ​อวล​ไป​ด้วย​กลิ่นอาย​ของ​อัญมณี

​บางคน​สูด​ลมหายใจ​เข้า​ลึก​ด้วย​ความ​อึ้ง​ ​บางคน​ก็​มอง​จน​ตาค้าง​ ​และ​บางคน​ก็​ชื่นชม​ไม่​ขาด​เสียง​ ​“​แต่ละ​ท่าน​ใจใหญ่​ไม่มีใคร​ยอม​ใคร​กัน​เลย​ทีเดียว​”

​ดอก​ทัด​หู​วาง​อยู่​บน​แผ่น​รอง​กำมะหยี่​สีม่วง​บานเย็น​ ​ขนาด​เท่ากับ​ถ้วย​สุรา​เห็นจะ​ได้​ ​ด้ามจับ​ทำ​จาก​ทองคำบริสุทธิ์​ ​กลีบดอก​ทำ​จาก​ทับทิม​สีแดง​สด​ขนาด​เท่า​เล็บมือ​ ​เล็ก​ใหญ่​สลับ​กัน​ไป​ ​ส่อง​ประกาย​ระยิบระยับ​ ​งดงาม​สะดุดตา​เป็น​อย่างยิ่ง

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท