ระบบล็อกอินสู่สวรรค์ [苟在女帝宫我举世无敌] – ตอนที่ 468 พุ่งเข้าไปในมิติไร้ขอบเขต เรียกขานฝานหวัง!

ตอนที่ 468 พุ่งเข้าไปในมิติไร้ขอบเขต เรียกขานฝานหวัง!

ควับ!

กระแสน้ำวนแห่งมิติไร้ขอบเขตหายไป เหลือไว้เพียงโทสะอันเย็นเยียบของร่างลึกลับเท่านั้นที่ยังคงอยู่ที่นี่!

จบแล้วหรือ?

ในขณะที่ทุกคนคิดว่าการต่อสู้จบลงแล้ว หนิงฝานก็แค่นเสียงเย็นเหนือความว่างเปล่า “หึ! ไม่ต้องเจอกันอีกแล้ว วันนี้คือจุดจบของชีวิตเจ้า!”

“ยันต์ไร้ขอบเขต เปิดออก!”

ชายหนุ่มหยิบยันต์ไร้ขอบเขตออกมาจากระบบ และเมื่ออาศัยพลังนั้น จู่ ๆ ลำแสงหลายร้อยล้านดวงก็ปรากฏขึ้น แล้วกระแสน้ำวนแห่งมิติไร้ขอบเขตที่เพิ่งหายไปก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

บึ้ม! ฟิ้ว!

หนิงฝานพุ่งเข้าใส่พร้อมกับกระบี่ในมือ

“อ๊าก เจ้า!”

“เป็นไปได้อย่างไร!”

“รีบช่วยท่านผู้นำเร็วเข้า!”

“หนิงฝาน เจ้ารังแกกันเกินไปแล้ว!!”

“…”

ไม่นานหลังจากนั้น มีเพียงเสียงตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวและเสียงระเบิดรุนแรงดังมาจากมิติไร้ขอบเขต ครึ่งชั่วยามต่อมา ความเงียบก็กลับคืนมาอีกครั้ง

ตอนที่หนิงฝานก้าวออกมาจากมิติไร้ขอบเขตอีกครั้ง ในมือของเขาถือศีรษะเปื้อนเลือดของเทพธิดาอูเยว่ มหาเทพปีศาจ บรรดานักล่าโลหิต ซึ่งอีกสามหัวผู้นำคือห้าผู้ฝึกยุทธ์ต้านสวรรค์ สามคนคือไป๋เวิง ตี้ถงและวาหวง!

พรึ่บ!

ซวินหวังรีบก้าวไปข้างหน้าและพูดด้วยใบหน้าที่เป็นกังวล “หนิงฝาน เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่ ไม่ได้รับบาดเจ็บใช่หรือไม่”

“ข้าไม่เป็นอะไร!”

ชายหนุ่มยิ้มน้อย ๆ จากนั้นก็ส่ายหัวพลางพูดว่า “น่าเสียดายที่ร่างลึกลับนั่นหนีไปได้!”

ซวินหวังส่ายหัว ขณะที่กำลังจะพูด กลับได้ยินมาจากด้านข้างว่า “สหายน้อย เจ้าทำได้ดีมาก!”

ควับ!

วิญญาณของราชาบรรพชนลอยอยู่เบื้องหน้าหนิงฝาน พูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “วันนี้สหายน้อยลงมือด้วยความเป็นธรรม ไม่เพียงช่วยชีวิตพรรคพวกของข้า ยังตัดหัวผู้ฝึกยุทธ์ทั้งห้าของพันธมิตรต้านสวรรค์ คุณูปการนี้เพียงพอที่จะบันทึกลงในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ของสภาผู้พิทักษ์เส้นทางราชันของพวกเรา!”

“ผู้อาวุโสชมเกินไปแล้ว!” หนิงฝานหัวเราะเบา ๆ

“ไม่เกินไปเลย! วันนี้หากไม่มีสหายน้อย เส้นทางราชันทั้งหมดเกรงว่าจะตกอยู่ในมือของพันธมิตรต้านสวรรค์ไปแล้ว ในนามของผู้คนหลายร้อยล้านคน ข้าอยากแสดงความขอบคุณเจ้าจากใจจริง!”

วิญญาณของราชาบรรพชนพูดอีกครั้ง และประสานมือคำนับหนิงฝานอย่างสุดซึ้ง

เมื่อเห็นเช่นนี้ หนิงฝานรีบโบกมือและพูดว่า “ไม่ได้ผู้อาวุโส ข้าเป็นชนรุ่นหลัง จะรับพิธีการเช่นนี้จากผู้อาวุโสได้อย่างไร ผู้อาวุโสกำลังทำให้ข้าน้อยลำบากแล้ว!”

วิญญาณของราชาบรรพชนส่ายศีรษะ ต่อมาก็กล่าวกับซวินหวังทั้งสาม “สามราชายังไม่รีบขอบคุณสหายน้อยตามข้าอีก!”

“ขอบคุณหนิงฝาน!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซวินหวังรีบประสานมือคำนับหนิงฝานทันที ในขณะที่สิงหวังลังเลชั่วครู่แต่ก็ประสานมือเช่นกัน

มีเพียงเจิ้นหวังเท่านั้นที่กระอักกระอ่วนอย่างยิ่ง!

เพราะเขามีความแค้นกับหนิงฝาน แม้กระทั่งวันก่อนหน้านี้เขายังวางกับดักใส่หนิงฝาน!

การได้เห็นอดีตศัตรูของเขากลายเป็นผู้มีบุญคุณช่วยชีวิตของตนอย่างกะทันหัน ทำให้เขารับไม่ได้ชั่วขณะ!

“เจิ้นหวัง!”

วิญญาณของราชาบรรพชนขึ้นเสียงติเตียน!

วิญญาณของราชาบรรพชนนั้นเทียบเท่ากับบรรพบุรุษของราชาทั้งสาม เจิ้นหวังจึงไม่กล้าทำผิดพลาด ทำได้เพียงกำจัดความไม่พอใจภายใน และประสานมือคำนับชายหนุ่มพร้อมเอ่ย “หนิงฝาน ขอบคุณสำหรับบุณคุณช่วยชีวิตวันนี้ จากนี้ไปความคับข้องใจระหว่างเรากระจ่างแล้ว!”

“เหอะ ๆ!” หนิงฝานเพียงยิ้มอย่างเฉยเมย

ถึงเขาจะมีความรู้สึกที่ไม่ดีต่อเจิ้นหวัง แต่มีศัตรูอีกหนึ่งคนไม่สู้มีเพื่อนเพิ่มหนึ่งคน เนื่องจากเจิ้นหวังเต็มใจที่จะจัดการเรื่องนี้ เขาจึงไม่มีอะไรจะพูด ท้ายที่สุดก็ไม่มีความแค้นที่แก้ไขไม่ได้ระหว่างทั้งสอง

“อืม!”

เมื่อเห็นเช่นนี้ วิญญาณของราชาบรรพชนก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

ความจริงแล้วในใจเขารู้สึกหวาดกลัวมาก ท้ายที่สุดผู้ที่ควบคุมกฎเกณฑ์สิบส่วนนั้นต้องเป็นผู้ที่น่ากลัวอย่างแน่นอน คนเช่นนี้เป็นสหายเท่านั้น ไม่อาจเป็นศัตรู!

หลังจากคิดเช่นนี้ วิญญาณของราชาบรรพชนก็พูดขึ้นอีกครั้ง “สหายน้อยหนิงฝาน ข้ามีคำขอที่เอาแต่ใจ ไม่รู้ว่าจะพูดดีหรือไม่!”

“ผู้อาวุโสพูดมาเถิด!” หนิงฝานกล่าว

วิญญาณของราชาบรรพชนครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ จากนั้นก็กล่าวอย่างเคร่งขรึม “ในฐานะผู้ก่อตั้งสภาผู้พิทักษ์เส้นทางราชัน ข้าขอเชิญเจ้าเข้าร่วมสภาผู้พิทักษ์เส้นทางราชันของพวกเรา หากเจ้าเข้าร่วม เจ้าจะเป็นราชาองค์ที่สี่แห่งเส้นทางราชันจักรพรรดิ!”

ทันทีที่คำพูดนี้ออกมาก็เกิดความโกลาหลขึ้นในหมู่ผู้ฝึกยุทธ์โดยรอบ!

“สวรรค์! ราชาองค์ที่สี่แห่งเส้นทางราชันจักรพรรดิ!!”

“จุ๊จุ๊! นี่ก็คือราชาแห่งเส้นทางราชันจักรพรรดิ ผู้ซึ่งมีอำนาจและสถานะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเส้นทาง!”

“เป็นเรื่องหาได้ยากยิ่งที่กึ่งจักรพรรดิสวรรค์ขั้นเจ็ดจะได้เป็นราชาแห่งเส้นทางราชัน!”

“ราชาทั้งสามอยู่บนเส้นทางราชันจักรพรรดิมาเป็นเวลาเนิ่นนานแล้ว ถึงเวลากำเนิดราชาองค์ที่สี่เสียที!”

“…”

มีเสียงถกเถียงกันมากมายในหมู่ฝูงชน

แต่เวลานี้ หนิงฝานกลับส่ายหัวและพูดว่า “ผู้อาวุโสล้อเล่นแล้ว ข้าน้อยเป็นเพียงกึ่งจักรพรรดิสวรรค์ขั้นเจ็ด มีคุณสมบัติใดเล่าที่จะเป็นราชาองค์ที่สี่ของเส้นทางราชันได้!”

“สหายน้อยไม่รู้อะไรเสียแล้ว!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น วิญญาณของราชาบรรพชนก็อธิบายว่า “สภาผู้พิทักษ์ของพวกข้าก่อตั้งขึ้นตามพลังแห่งกฎเกณฑ์ และจุดประสงค์คือเพื่อรักษากฎระเบียบของเส้นทางราชัน ตอนนี้สหายน้อยสามารถควบคุมพลังแห่งกฎเกณฑ์สิบส่วน หากไม่สามารถเป็นราชาองค์ที่สี่ได้ เกรงว่าคงไม่มีใครสามารถเป็นได้แล้ว!”

ซวินหวังที่อยู่ด้านข้างก็แอบพูดว่า “หนิงฝานตอบรับเถอะ เป็นราชาแห่งเส้นทางราชันนั้นมีประโยชน์มากมายทั้งยังช่วยให้เจ้าเข้าสู่ดินแดนสุดท้ายได้!”

“นี่…”

ตอนแรกหนิงฝานไม่ได้สนใจราชาแห่งเส้นทางราชัน แต่เมื่อซวินหวังพูดเช่นนี้ เขาก็เปลี่ยนใจทันทีและกล่าวด้วยความเคารพต่อวิญญาณของราชาบรรพชนทันที “เนื่องจากความเมตตาของผู้อาวุโสนั้นยากที่จะปฏิเสธ เช่นนั้นหนิงฝานก็ขอบังอาจสืบทอดตำแหน่งราชาองค์ที่สี่แห่งเส้นทางราชัน!”

“ฮ่าฮ่า! ดี!”

วิญญาณของราชาบรรพชนแหงนหน้าหัวเราะขึ้นฟ้า จากนั้นก็มองไปรอบ ๆ และประกาศเสียงดัง “ข้าในฐานะผู้ก่อตั้งสภาผู้พิทักษ์ขอประกาศให้ใต้หล้ารู้ว่านับจากนี้ไป หนิงฝานจะเป็นราชาองค์ที่สี่แห่งเส้นทางราชัน เรียกขานว่าฝานหวัง!”

สิ้นเสียงนั้น วิญญาณของราชาบรรพชนหยิบป้ายคำสั่งเปล่าออกมาจากอกของเขา ใช้ปลายนิ้วเป็นปลายพู่กันแหลม และพลังวิถีเป็นหมึก สลักคำว่า ‘ฝาน’ ตัวใหญ่บนป้ายคำสั่งทันที!

เมื่อหนิงฝานรับป้ายคำสั่งของฝานหวังมา ราชาทั้งสามแห่งเส้นทางราชันข้างกายก็ประสานมือเพื่อแสดงความยินดีกับหนิงฝานทันที “ข้ารอที่จะได้เห็นราชาองค์ใหม่ฝานหวัง!”

“สมาชิกหอตรวจการทุกคนขอคารวะฝานหวัง!”

“สมาชิกจวนผู้พิทักษ์ทุกคนขอคารวะฝานหวัง!”

“สมาชิกโถงผู้คุมกฎทุกคนขอคารวะฝานหวัง!”

ลมหายใจต่อมา ผู้ฝึกยุทธ์มากมายของสภาผู้พิทักษ์ต่างคุกเข่าลงต่อหนิงฝาน เสียงแสดงความยินดีดั่งเสียงฟ้าคำรามของสวรรค์ทั้งเก้า ปะทุดังขึ้นจากที่แห่งนี้เป็นเวลาเนิ่นนาน!

“ฝานหวังหรือ? ไม่เลว!”

เมื่อเห็นฉากนี้ หนิงฝานมองไปยังร่างมากมายซึ่งคุกเข่าอยู่ด้านล่าง เขาชูมือสองมือขึ้นและแสดงอำนาจแห่งราชา!

หลังจากแต่งตั้งตำแหน่งของฝานหวังแล้ว ร่างของวิญญาณของราชาบรรพชนก็สั่นไหวในทันใด และกลายเป็นภาพลวงตาสามส่วนอีกครั้ง

“ผู้อาวุโส!”

หนิงฝานพูดขึ้นอย่างเป็นกังวล ในขณะที่ราชาอีกสามองค์แห่งเส้นทางราชันก็มองมาเช่นกัน!

วิญญาณของราชาบรรพชนส่ายหัวพลางยิ้มน้อย ๆ “หึหึ ไม่เป็นไร แค่ร่างวิญญาณที่เหลืออยู่ในโลกนี้หมดแรงไปเล็กน้อย ดังนั้นจึงได้แต่หลับใหลต่อไป หนิงฝานไว้เจอกันอีกครั้ง วันหน้าหวังว่าฝานหวังจะเขย่าทั้งเส้นทางราชันจักรพรรดิ…แม้แต่สวรรค์และโลกก็ด้วย!”

ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ!

สิ้นเสียง วิญญาณของราชาบรรพชนก็เปลี่ยนเป็นลำแสงสามลำทันที และพุ่งเข้าสู่สามมหาวิถีอีกครั้ง