ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 530 เกลี้ยกล่อม (ต้น)

ตอนที่ 530 เกลี้ยกล่อม (ต้น)

​“​น้อง​สะใภ้​ห้า​กับ​ชี​เหนียง​สนิทสนม​กัน​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ ​“​รู้​ว่า​พี่​หญิง​เจ็ด​อยู่​ที่​เยี​่​ยน​จิง​ ​นาง​จึง​อยาก​มาหา​”

เช่นนั้น​สือ​อี​เหนียง​ได้​เล่าเรื่อง​ของ​ชี​เหนียง​ให้ฮู​หยิน​ห้า​ฟัง​หรือไม่

​ซื่อ​เหนียง​ครุ่นคิด​ ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​ไม่​พูด​อะไร​ ​นาง​ก็​ไม่กล้า​ถาม​ ​สุดท้าย​นาง​ก็​ถอนหายใจ​เบา​ๆ​ ​แล้ว​เชิญ​สือ​อี​เหนียง​เข้าไป​ให้​ห้อง​ปีก​ ​“​เรา​เข้าไป​นั่ง​ข้างใน​กัน​เถิด​!​”

​สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า

​ทันใดนั้น​ก็​มีเสียง​ร้องไห้​ดัง​ออกมา​จาก​ห้อง​ปีก

​ใบหน้า​ของ​ซื่อ​เหนียง​เต็มไปด้วย​ความ​ตื่นตระหนก

​แต่​สือ​อี​เหนียง​กลับ​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก

ตน​กลัว​ว่า​ชี​เหนียง​จะ​ไม่ยอม​พูด​อะไร​กับฮู​หยิน​ห้า​ ​แต่​ตอนนี้​นาง​พูด​แล้ว​ ​เรื่องราว​ก็​จะ​ง่าย​ขึ้น​

​สือ​อี​เหนียง​ดึง​แขน​เสื้อ​ของ​ซื่อ​เหนียง​ ​“​พี่​หญิง​สี่​เจ้า​คะ​ ​ปล่อย​ให้​น้อง​สะใภ้​ห้า​และ​พี่​หญิง​เจ็ด​คุย​กัน​เถิด​!​”

​ซื่อ​เหนียง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​เดิน​ไป​นั่ง​ใน​ห้อง​กับ​สือ​อี​เหนียง

​สือ​อี​เหนียง​กลัว​ว่านาง​จะ​ถาม​ว่า​สวี​ลิ่ง​อี๋​คิด​เช่นไร​กับ​เรื่อง​นี้​ ​จึง​พูดถึง​เรื่อง​อวี​๋​อี๋​ชิง​กับ​ซื่อ​เหนียง​ ​“​…​ได้ยิน​มา​ว่า​โต้ว​เก๋อ​เหล่า​ที่พึ่ง​ได้รับ​ตำแหน่ง​ดี​กับ​พี่เขย​สี่​มาก​ ​อยาก​ให้​พี่เขย​สี่​ไปรับ​ตำแหน่ง​ศาล​พลเรือน​ที่​กระทรวง​ขุนนาง​ ​พี่เขย​สี่​ปฏิเสธ​ไป​แล้ว​หรือ​”

​ซื่อ​เหนียง​ก็​กำลัง​กังวล​เรื่อง​นี้​อยู่​เหมือนกัน​ ​ได้ยิน​สือ​อี​เหนียง​ถาม​เช่นนี้​ก็​รีบ​พูดว่า​ ​“​เจ้า​ได้ยิน​มาจาก​ท่าน​โหว​ใช่​หรือไม่​”

​สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า

​ซื่อ​เหนียง​พูด​เบา​ๆ​ ​“​เช่นนั้น​ท่าน​โหว​ได้​บอก​หรือไม่​ว่าการ​ที่​พี่เขย​สี่​ของ​เจ้า​ทำ​เช่นนี้​เหมาะสม​หรือไม่​เหมาะสม​”

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ท่าน​โหว​ไม่​ค่อย​อยาก​พูด​เรื่อง​นี้​กับ​ข้า​นัก​ ​แต่​นี่​เป็นเรื่อง​ที่​เกี่ยวกับ​พี่เขย​สี่​ ​ข้า​จึง​พูด​ขึ้น​มา​ ​ข้า​ไม่​ค่อย​มีโอกาส​พูด​เรื่อง​พวก​นี้​กับ​พี่​หญิง​สี่​เท่าไร​ ​จึง​มาถาม​เรื่อง​นี้​กับ​พี่​หญิง​สี่​เจ้าค่ะ​”

​ซื่อ​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ถอนหายใจ​ ​“​พี่เขย​สี่​ของ​เจ้า​เป็น​คนซื่อ​สัตย์​และ​จงรักภักดี​ ​บอกว่า​ถึงแม้ว่า​โต้ว​เก๋อ​เหล่า​เป็น​คน​กล้าหาญ​และ​เด็ดเดี่ยว​ ​แต่​เขา​กลับเป็น​คน​โหดเหี้ยม​…​”​ ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​นาง​ก็​หยุดชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​สายตา​ของ​นาง​มี​ความเสียใจ​ ​ราวกับ​พยายาม​ปิดบัง​อะไร​บางอย่าง​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​ผลัก​ชาม​ลายคราม​สีฟ้า​ที่​วาง​อยู่​ด้านหน้า​สือ​อี​เหนียง​ ​“​พูด​เรื่อง​พวก​นี้​ทำไม​กัน​ ​เมล็ด​ทานตะวัน​ที่พึ่ง​คั่ว​มา​ใหม่​ๆ​ ​เจ้า​ลอง​ชิม​ดู​ ​หาก​อร่อย​ ​ประเดี๋ยว​ข้า​ให้​เจ้า​นำ​กลับ​ไป​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ชิม​”

ความในใจ​ที่สามี​พูด​ใน​ห้องนอน​ ​แล้วยัง​เป็นเรื่อง​เกี่ยวกับ​ราชสำนัก​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​เป็น​พี่น้อง​กัน​ ​แต่​ก็​ไม่​ควร​เล่า​ให้​ฟัง​…​ ​ปกติ​ซื่อ​เหนียง​เป็น​คน​เก็บความ​ลับ​อยู่​ ​แต่​วันนี้​…​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะว่า​เรื่อง​นี้​กระทบ​ต่อ​อวี​๋​อี๋​ชิง​ ​เช่นนั้น​ก็​เรื่อง​ของ​พี่​หญิง​เจ็ด​ทำให้​นาง​ไม่​ค่อย​มีสติ​สัมปชัญญะ​เหมือนปกติ​

​“​ได้​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​นั่ง​ทาน​เมล็ด​ทานตะวัน​แล้ว​พูด​เรื่อง​ทั่วไป​กับ​ซื่อ​เหนียง​ ​“​ประเดี๋ยว​ก็​จะ​ถึง​ฤดูหนาว​แล้ว​ ​เรื่อง​ใน​จวนจะ​ค่อยๆ​ ​เยอะ​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​ท่าน​โหว​บอก​ให้​ข้า​กลับ​ไปดู​แล​เรื่อง​ใน​จวน​ ​ข้า​กำลัง​คิด​ว่า​ของ​ปีใหม่​ปีนี​้​จะ​ซื้อ​จาก​ไหน​บ้าง​ดี​ ​พี่​หญิง​สี่​ซื้อ​เมล็ด​ทานตะวัน​นี้​มาจาก​ไหน​หรือ​ ​รสชาติ​ดี​อย่างมาก​ ​ข้า​จะ​ได้​บอก​ให้​ผู้ดูแล​ไป​ซื้อ​กลับมา​ทาน​ตอน​ปีใหม่​”

​“​ร้าน​เหมา​จี้​บน​ถนน​ถนน​ตง​ต้า​!​”​ ​ซื่อ​เหนียง​กลัว​ว่า​สือ​อี​เหนียง​จะ​ถาม​อะไร​อีก​ ​นาง​จึง​พูด​ออกนอกเรื่อง​ไป​ไกล

​พวก​นาง​สอง​คน​นั่ง​คุย​เรื่อยเปื่อย​อยู่​ประมาณ​สอง​ก้านธูป​ ฮู​หยิน​ห้า​ก็​ยัง​ไม่​ออกมา​ ​ซื่อ​เหนียง​เห็น​ว่า​มัน​สาย​แล้ว​ ​จึง​บอก​ให้​โรง​ครัว​เตรียม​อาหาร​ ​จากนั้น​ก็​ลุกขึ้น​ไป​เชิญฮู​หยิน​ห้า​และ​ชี​เหนียง​ออกมา​ทานข้าว​

​สือ​อี​เหนียง​ห้าม​ซื่อ​เหนียง​เอาไว้​ ​“​…​ปล่อย​ให้​พวก​นาง​คุย​กัน​เถิด​ ​ตอนนี้​เป็นช่วง​เวลา​สำคัญ​ ​เกรง​ว่า​พี่​หญิง​เจ็ด​คงจะ​ทาน​อะไร​ไม่​ลง​กระมัง​”

​ซื่อ​เหนียง​ครุ่นคิด​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เช่นนั้น​ข้า​จะ​บอก​ให้​โรง​ครัว​เหลือ​อาหาร​ไว้​ให้​พวก​นาง​!​”

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พยักหน้า​ ​ทานข้าว​กลางวัน​ที่​จวน​ของ​ซื่อ​เหนียง​ ​นอน​กลางวัน​ ​จากนั้น​ก็​เล่น​กับ​ฉี่​เกอ​ ​เห็น​ฟ้า​เริ่ม​มืด​ลง​จนถึง​เวลา​ต้อง​จุด​โคมไฟ​แล้ว​ ​ก็​นึก​ขึ้น​มา​ได้​ว่า​จิ​่น​เกอ​ไม่เคย​ห่าง​ตัวเอง​นาน​ขนาด​นี้​ ​ไม่รู้​ว่า​เขา​เป็น​อย่างไรบ้าง​ ​นาง​ก็​ไม่สบายใจ​ขึ้น​มาทัน​ที​ ​อยาก​มี​ปีก​สอง​ข้าง​บิน​กลับ​ไป​ที่​เรือน​ตอนนี้​ทันที​ ​แต่​ก็​พลัน​นึก​ขึ้น​ได้​ว่าวั​นนี​้ฮู​หยิน​ห้า​ทาน​แค่​ของว่าง​ที่​ซื่อ​เหนียง​บอก​ให้​สาวใช้​ยก​เข้าไป​แค่​สอง​สาม​ชาม​…​ก็​รู้สึก​ไม่สบายใจ​ ​กำลัง​ลังเล​ว่า​จะเข้า​ไป​ขัดจังหวะฮู​หยิน​ห้า​กับ​ชี​เหนียง​ดี​หรือไม่​ ​ก็​มีสาว​ใช้​วิ่ง​เข้ามา​รายงาน​ ​“​นาย​หญิง​ ฮู​หยิน​เจ้า​คะ​ ​คุณนาย​สกุล​จู​และ​ตาน​หยาง​เซี​่​ยน​จู่​ออกมา​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​

​พวก​นาง​สอง​คน​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​รีบ​ลุกขึ้น​เดิน​ไป​ที่​เรือน​หลัง​ทันที​ ​จากนั้น​ก็​เจอ​อกับฮู​หยิน​ห้า​และ​ชี​เหนียง​ที่​กำลัง​จับมือ​กัน​อยู่

ฮู​หยิน​ยิ้มแย้ม​อย่าง​มีชีวิตชีวา​ ​ชี​เหนียง​ถึงแม้ว่า​จะ​ตาแดง​ ​แต่​บน​ใบหน้า​กลับ​มี​รอยยิ้ม​จางๆ​

​ซื่อ​เหนียง​เห็น​เช่นนี้​ก็ดี​ใจ​ ​สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​ยิ้ม​เหมือนกัน​

​“​คิด​ว่า​พวก​เจ้า​จะ​คุย​กัน​นาน​กว่านี​้​เสียอีก​”​ ​ซื่อ​เหนียง​เดิน​เข้าไป​ ​“​หิว​แล้ว​ใช่​หรือไม่​”​ ​นาง​บอก​สาวใช้​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​“​จัด​อาหาร​เร็ว​เข้า​”

​“​นาย​หญิง​อวี​๋​เจ้า​คะ​”​ ฮู​หยิน​ห้า​รีบ​พูด​ ​“​วันนี้​ค่ำ​แล้ว​ ​เรา​ค่อย​มาร​บก​วน​ท่าน​วัน​อื่น​ดีกว่า​”

​“​ได้​อย่างไร​กัน​!​”​ ​ซื่อ​เหนียง​พูด​ ​แต่​ชี​เหนียง​กลับ​พูดแทรก​ขึ้น​ว่า​ ​“​พี่​หญิง​สี่​ ​อย่า​รั้ง​พวก​นาง​เลย​เจ้าค่ะ​ ​เซิน​เกอ​อยู่​ที่​เรือน​คนเดียว​ทั้งวัน​ ​ตาน​หยาง​คง​คิดถึง​เขา​แล้ว​ ​วัน​อื่น​เรา​ค่อย​เชิญ​พวก​นาง​มาทา​นข​้าว​ด้วยกัน​ก็ได้​!​ ​“

​“​พูด​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​!​”​ ​ซื่อ​เหนียง​ได้ยิน​แล้วก็​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

​แต่​ชี​เหนียง​กลับ​พูด​อีกว่า​ ​“​ข้า​กับ​ตาน​หยาง​ไม่ใช่​คนอื่น​ ​ไม่ต้อง​เกรงใจ​กัน​!​”​ ​นาง​สนิทสนม​กับ​ตาน​หยาง​มากขึ้น​กว่า​แต่ก่อน​

ดูเหมือนว่า​พวก​นาง​สอง​คน​จะ​คุย​กันได​้​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว​

​สือ​อี​เหนียง​แอบ​พยักหน้า​ใน​ใจ​ ​พูดคุย​กับ​ซื่อ​เหนียง​และ​ชี​เหนียง​สอง​สาม​ประโยค​ ​จากนั้น​พวก​นาง​ก็​เดิน​ออกมา​ส่ง​ขึ้นรถ​ม้า​หน้า​ประตู

​ชี​เหนียง​ยืน​ร่ำฮู​หยิน​ห้า​อยู่​หน้า​รถม้า​ ​“​ทันทีที่​มี​ข่าว​ ​ข้า​จะ​ให้​ป้า​รับใช้​ของ​ข้า​ไปรา​ยงาน​เจ้า​ทันที​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ทาง​ฝั่ง​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​น้อง​หญิง​สิบเอ็ด​ช่วย​พูด​ให้​ข้า​ด้วย​ ​บอกว่า​ข้า​สบายใจ​ขึ้น​แล้ว​จะ​ไป​ก้มหัว​คารวะ​นาง​ ​หาก​ไป​ตอนนี้​ ​สีหน้า​ดู​ย่ำแย่​เช่นนี้​ ​ประเดี๋ยว​นาง​จะ​ไม่สบายใจ​เอา​ได้​”

​“​รู้​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ขอตัว​ลา​

​จากนั้น​รถม้า​ก็​แล่น​ออก​ไป​จาก​ตรอก

​สีหน้า​ของฮู​หยิน​ห้า​หม่นหมอง​ลง​

​“​พี่สะใภ้​สี่​ ​ข้า​คิด​ว่า​เรื่อง​นี้​ ​เรา​ไป​ปรึกษา​กับ​คุณชาย​ที่​ตรอก​กง​เสียน​ดีกว่า​”

​สือ​อี​เหนียง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ตกใจ​ ​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​หรือ​”

​“​เรื่อง​ที่​ชี​เหนียง​จะ​รับ​บุตรชาย​คนเล​็ก​ของ​สกุล​อวี​๋​ไป​เลี้ยง​ ​เหตุผล​ครึ่งหนึ่ง​เพราะว่า​ตอนนั้น​จู​อาน​ผิง​เคย​สัญญา​กับ​ชี​เหนียง​เอาไว้​ ​แต่​ตอนนี้​จู​อาน​ผิง​เปลี่ยนใจ​ ​ชี​เหนียง​คิด​ว่า​จู​อาน​ผิง​ไม่​รักษา​คำสัญญา​ ​นาง​จึง​ไม่ยอม​ ​แต่​เหตุผล​อีก​ครึ่งหนึ่ง​คือ​นายท่าน​สอง​สกุล​หลัว​!​”

​“​ท่าน​ลุง​สอง​เช่นนั้น​หรือ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​งุนงง

ฮู​หยิน​ห้า​พยักหน้า​ ​จากนั้น​ก็​พูดว่า​ ​“​ชี​เหนียง​เป็น​คน​บอก​เอง​ ​ตอนนั้น​นาง​กลับ​ไป​สกุล​เดิม​เพราะ​เรื่อง​นี้​ ​นายท่าน​สอง​ตำหนิ​นาง​ ​ต่อมา​ได้ยิน​ว่า​มี​คนใน​สกุล​จู​ยุยง​นาย​หญิง​ผู้เฒ่า​สกุล​จู​ ​เขา​จึง​เปลี่ยนใจ​ ​บอกว่า​ ​บรรดา​สกุล​ญาติ​ของ​สกุล​จู​แยกย้าย​กัน​ไป​ตั้งแต่​สมัย​ท่าน​ปู่​ของ​จู​อาน​ผิง​แล้ว​ ​ทรัพย์สมบัติ​ครึ่งหนึ่ง​ของ​สกุล​จู​ ​ครึ่งหนึ่ง​เป็น​ของ​บิดา​ของ​จู​อาน​ผิง​ ​เป็น​ของ​ที่​ท่าน​ปู่​ทิ้ง​เอาไว้​ ​ส่วน​อีก​ครึ่งหนึ่ง​จู​อาน​ผิง​เป็น​คน​หามา​เอง​ ​บรรดา​สกุล​ญาติ​เหล่านั้น​มีสิทธิ์​อะไร​มา​แบ่ง​ไป​ ​จากนั้น​ก็​เขียนจดหมาย​ฉบับ​หนึ่ง​บอก​ให้​ชี​เหนียง​นำมา​ให้​นาย​หญิง​อวี​๋​…​”

ถึงแม้ว่า​ก่อนหน้านี้​จะ​เดา​ว่านาย​ท่าน​สอง​และ​นาย​หญิง​สอง​ต้อง​รู้เรื่อง​นี้​แน่นอน​ ​แต่​เพราะว่า​รัก​และ​ตามใจ​บุตรสาว​มากเกินไป​จึง​ปล่อย​ให้​ชี​เหนียง​ทำ​เช่นนี้​ ​แต่กลับ​คิดไม่ถึง​ว่านาย​ท่าน​สอง​จะ​มีบทบาท​หลัก​ใน​เรื่อง​นี้​!

​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​เย็นยะเยือก​ขึ้น​มา​

ตอนนี้​แม้แต่​ซื่อ​เหนียง​ที่​ใจกว้าง​และ​ฉลาด​ยัง​…

​นาง​ไม่​อยาก​จะ​เชื่อ​ ​รีบ​ขัดจังหวะฮู​หยิน​ห้า​แล้ว​พูด​เบา​ๆ​ ​“​เช่นนั้น​พี่​หญิง​สี่​ของ​ข้าว​่า​เช่นไร​”

​“​นาย​หญิง​อวี​๋​คิด​ว่า​เรื่อง​นี้​เหลวไหล​เกินไป​ ​ไม่ต้อง​พูดถึง​นาง​ ​แม้แต่​ใต้เท้า​อวี​๋​ ​ก็​ไม่มีทาง​ยอมให้​บุตร​ของ​ตัวเอง​ไป​เป็น​บุตรบุญธรรม​ขง​สกุล​จู​ ​เกลี้ยกล่อม​ให้​ชี​เหนียง​รีบ​กลับ​เกา​ชิง​ ​ไม่ว่า​เช่นไร​ก็​ต้อง​อยู่​ที่​เรือน​หลัก​ให้​ได้​ ​แล้ว​ประเดี๋ยว​นาง​จะ​ตาม​ไป​ที่​เกา​ชิง​ ​ไป​ช่วย​ชี​เหนียง​พูด​กับ​สกุล​จู​ ​แต่​เรื่อง​ที่จะ​รับ​เด็ก​มา​เลี้ยง​เป็น​บุตรบุญธรรม​ ​อย่า​แม้แต่​จะ​คิด​ ​ให้​จู​อาน​ผิง​แต่งตั้ง​อี๋​เหนียง​ ​หาก​คลอด​บุตรชาย​ ​ก็​ไปรา​ยงา​นที​่​ฝ่าย​ราชการ​แล้ว​เลี้ยง​ในนามของ​ชี​เหนียง​ ​หาก​ไม่มี​บุตร​ ​เช่นนั้น​ก็​ขึ้นอยู่กับ​สกุล​หลัว​ ​ถึง​ตอนนั้น​จะ​ทำให้​คนที​่​บอก​ให้​รับ​เด็ก​มา​เลี้ยง​เป็น​บุตรบุญธรรม​อับอาย​ขาย​ขี้​หน้า​ให้​หมด​”

นี่​คือ​ซื่อ​เหนียง​ที่​ตัวเอง​รู้จัก​!

​สือ​อี​เหนียง​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก

​“​แต่​ชี​เหนียง​ใน​ตอนนั้น​มาหา​พี่​หญิง​สี่​ด้วย​ความดีใจ​”​ ​นาง​พูด​เบา​ๆ​ ​“​จะ​ให้​พี่​หญิง​สี่​คืน​ความยุติธรรม​ให้​ตัวเอง​ ​ให้​จู​อาน​ผิง​ทำตาม​สัญญา​ ​เช่นนี้​ ​นาง​จะ​ยอม​ฟังได้​อย่างไร​”

​“​ใช่​แล้ว​!​”​ ฮู​หยิน​ห้า​ถอนหายใจ​ ​“​ตอนนั้น​นาง​คิด​ว่านาย​ท่าน​สอง​พูด​ถูก​ ​แล้วยัง​บอกว่า​ ​หาก​คนใน​สกุล​จู​เคารพ​นาง​ก็​คงดี​ ​แต่​ตั้งแต่​นาง​แต่ง​เข้าไป​ใน​สกุล​จู​ ​ตั้งแต่​เรื่อง​อาหารการกิน​จนถึง​เรื่อง​เสื้อผ้า​หน้า​ผม​ ​ญาติผู้ใหญ่​ใน​สกุล​จู​และ​บรรดา​ลูกสะใภ้​ก็​เอาแต่​จับผิด​นาง​ ​รู้​ว่า​จู​อาน​ผิง​ไม่ยอมรับ​อนุภรรยา​เพราะ​นาง​ ​ทุกคน​ก็​เอาแต่​รอ​หัวเราะเยาะ​ ​ตอนนี้​บอก​ให้​นาง​รับ​อนุภรรยา​ให้​สามี​ตัวเอง​ ​เช่นนั้น​ก็​เหมือน​ให้​นาง​ตบ​ปาก​ตัวเอง​น่ะ​สิ​”

​“​เพราะ​อย่างนั้น​นาง​จึง​อาละวาด​หรือ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​คาดเดา

ฮู​หยิน​ห้า​ยิ้ม​อย่าง​ขมขื่น​ ​“​นาง​หยิบ​กรรไกร​แทง​เข้าไป​ที่​หน้าอก​ตัวเอง​…​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​สาวใช้​ที่อยู่​ข้างๆ​ ​ไหวพริบดี​ ​เกรง​ว่า​…​”​ ​จากนั้น​นาง​ก็​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​โชคดี​ที่​แทง​ถูก​มือ​ของ​สาวใช้​คน​นั้น​!​”

โชคดี​ที่​แทง​ถูก​มือ​ของ​สาวใช้​คน​นั้น​!​?

​เห็นท่า​ที​ที่​ไม่สน​ใจ​คนอื่น​ของฮู​หยิน​ห้า​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​ลังเล​ที่จะ​พูด

​แต่ฮู​หยิน​ห้า​กลับ​ไม่ได้​คิด​อะไร​มาก

ไม่ว่า​ใคร​เจอ​เรื่อง​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​ญาติผู้ใหญ่​ของ​สกุล​เช่นนี้​ก็​คงจะ​ลำบากใจ​!​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ตน​เป็น​น้อง​สะใภ้​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​อึดอัด​ก็​เป็นเรื่อง​ธรรมดา

​นาง​แสร้งทำ​เป็น​ไม่เห็น​แล้ว​พูด​ต่อ​ ​“​หลังจาก​นายท่าน​สอง​รู้​ว่านาย​หญิง​อวี​๋​ไม่ยอม​มอบ​บุตร​ของ​ตัวเอง​ให้​ชี​เหนียง​ ​เขา​ก็​เขียนจดหมาย​มาตั​้ง​หลาย​ฉบับ​ ​แล้วยัง​ส่ง​สหาย​ของ​ตัวเอง​มาที​่​เยี​่​ยน​จิง​ ​บอกว่า​หาก​นาย​หญิง​อวี​๋​ไม่ยอม​พูด​ ​เช่นนั้น​นายท่าน​สอง​ก็​จะ​มาหา​บุตร​เขย​ที่นาย​ท่าน​สอง​เลี้ยงดู​เหมือน​บุตรชาย​แท้ๆ​ ​คน​นี้​เอง​ ​นาย​หญิง​อวี​๋​จึง​ต้อง​ตอบ​ตกลง​”

ดังนั้น​ซื่อ​เหนียง​จึง​พูด​อะไร​ไม่ได้​…

​สือ​อี​เหนียง​ก้มหน้าก้มตา​ ​นั่ง​เงียบ​ไม่พูดไม่จา​อยู่นาน

ฮู​หยิน​ห้า​เห็น​ความเศร้า​และ​ความโมโห​ปรากฏ​ขึ้น​บน​ใบหน้า​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​ก็​รู้สึก​เห็นอกเห็นใจ​

​นาง​อยาก​ปลอบใจ​สือ​อี​เหนียง​ ​แต่​ปกติ​พวก​นาง​สอง​คน​ไม่​ค่อย​ไปมาหาสู่​กัน​มาก​นัก​ ​นาง​จึง​ไม่รู้​ว่า​พูด​อย่างไร​ถึง​จะ​เหมาะสม

​ท่ามกลาง​ความ​เงียบงัน​ ​เสียง​ของ​ผู้คน​ที่อยู่​นอก​รถม้า​ดัง​ขึ้น​เรื่อยๆ

​ผ่าน​ถนน​ซี​ต้า​ที่​เรียงราย​เต็มไปด้วย​ร้านค้า​ ​ก็​จะ​เป็น​ถนน​เจิ​้​งอา​นที​่​เงียบสงบ​ ​สามารถ​มองเห็น​ตรอก​เหอฮ​วาห​ลี่​ที่อยู่​ไกลๆ

​คิด​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​พูดว่า​ ​“​พี่สะใภ้​สี่​เจ้า​คะ​ ​ข้า​คิด​ว่า​กุญแจ​สำคัญ​ของ​เรื่อง​นี้​คือ​นายท่าน​สอง​ ​รุ่น​ลูก​อย่าง​เรา​คง​ทำ​อะไร​ไม่ได้​แล้ว​ ​พี่สะใภ้​สี่​คง​ต้อง​รีบ​คิด​หาวิ​ธี​!​”

​สือ​อี​เหนียง​เงยหน้า​ขึ้น​ด้วย​สีหน้า​ซาบซึ้ง​ ​“​น้อง​สะใภ้​ห้า​ ​ขอบคุณ​เจ้าที่​เตือน​ข้า​ ​พรุ่งนี้​เช้า​ข้า​จะ​ไป​ตรอก​กง​เสียน​ทันที​”​ ​นาง​ถามฮู​หยิน​ห้า​ ​“​แล้ว​พี่​หญิง​เจ็ด​ของ​ข้า​…​ตอนนี้​นาง​คิดเห็น​อย่างไร​”

ฮู​หยิน​ห้า​ได้ยิน​แล้วก็​มีสี​หน้า​พอใจ​ ​“​ข้า​บอก​นาง​ว่า​ ​แทนที่จะ​ให้​จู​อาน​ผิง​ทำตาม​สัญญา​ ​ไม่​สู้​บอกว่า​จู​อาน​ผิง​ผิดสัญญา​ยัง​จะ​ดีกว่า​!​”

​สือ​อี​เหนียง​มองดูฮู​หยิน​ห้า​ด้วย​ความ​ตะลึง

ฮู​หยิน​ดู​มีท​่า​ที​สบายใจ​ราวกับ​ดื่ม​ชาร้อน​ใน​ฤดูหนาว

​สายตา​ของ​นาง​มี​ร่องรอย​ของ​ความพอใจ​

​“​ผู้ชาย​ ​เมื่อมี​ความสุข​ก็​พูด​ออกมา​จน​หมด​ ​หาก​ผู้หญิง​อย่าง​เรา​เอาแต่​เก็บ​ทุก​เรื่อง​เอาไว้​ใน​ใจ​ ​เช่นนั้น​คง​ต้องหา​สมุดบันทึก​ ​คอย​บอก​ให้​สาวใช้​บันทึก​เอาไว้​”​ ฮู​หยิน​ห้า​ยิ้ม​ ​“​ชี​เหนียง​ไม่มี​บุตร​ ​มัน​คือ​ความผิด​ของ​ชี​เหนียง​ ​แต่​จู​อาน​ผิง​ที่​สัญญา​ว่า​จะ​รับ​บุตรชาย​ของ​ใคร​สัก​คนใน​บรรดา​พี่น้อง​มา​เลี้ยง​เป็น​บุตรบุญธรรม​ ​มัน​คือ​ความผิด​ของ​จู​อาน​ผิง​ ​เมื่อ​เทียบ​กัน​แล้ว​ ​ก็​ถือว่า​หายกัน​”

คน​บางคน​ ​เกิด​มาก​็​มี​ความสามารถ​ใน​การ​จัดการ​ความสัมพันธ์​ระหว่าง​สามีภรรยา

ฮู​หยิน​ห้า​คือ​คนที​่​มีพรสวรรค์​เช่นนี้​!

​หลาย​ปี​มานี​้​ ​ชี​เหนียง​รู้สึก​ผิด​ที่​มีบุ​ตร​ให้​สกุล​สามี​ไม่ได้​ ​ดังนั้น​นาง​จึง​ชอบ​อาละวาด​ ​เรื่องเล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​นาง​ก็​สามารถ​ทำให้​มัน​เป็นเรื่อง​ใหญ่​ได้​ ​และ​คำพูด​ของฮู​หยิน​ห้า​นั้น​ช่วย​เติมเต็ม​ช่องว่าง​ใน​ใจ​ของ​ชี​เหนียง​

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท