ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 532 เกลี้ยกล่อม (ปลาย)

ตอนที่ 532 เกลี้ยกล่อม (ปลาย)

​หลังจากนั้น​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​บอก​ให้​ชิว​อวี​่​ที่​เฝ้ายาม​ไป​บอก​ให้​โรง​ครัว​ต้ม​บะหมี่​น้ำแกง​ไก่​เข้ามา

​“​ไม่เป็นไร​เจ้า​คะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​รีบ​พูด​ ​“​ต้อง​ตั้ง​เตา​ใหม่​ ​ใน​กล่อง​อาหาร​ข้างนอก​มี​ขนม​อยู่​ ​ข้า​ทาน​รองท้อง​สัก​สอง​ชิ้น​ก็ได้​ ​อีก​อย่าง​ ​ประเดี๋ยว​ฟ้า​ก็​สว่าง​แล้ว​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่สน​ใจ​นาง​ ​เขา​บอก​ชิว​อวี​่​ ​“​รีบ​ไปรี​บมา​”

​สือ​อี​เหนียง​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตำหนิ​นาง​ด้วย​สีหน้า​ที่​เคร่งขรึม​ ​“​ใน​จวน​มีบ​่า​วรับ​ใช้​ตั้ง​มากมาย​ ​แต่​เจ้า​กลับ​ตื่น​เพราะ​หิว​ยามดึก​!​”​ ​เห็นท่า​ที​เกียจคร้าน​ของ​นาง​ ​ท่าทาง​ดู​เหนื่อยล้า​ ​เขา​ก็​รู้สึก​สงสาร​ ​ดึง​นาง​เข้ามา​กอด​ไว้​ใน​อ้อมแขน​ ​“​พึ่ง​จะ​อ้วน​ขึ้น​นิดหน่อย​ ​เจ้า​ไม่​รัก​ตัวเอง​เกินไป​แล้ว​”

​สือ​อี​เหนียง​หน้าแดง​ก่ำ​ ​นาง​เอน​ตัว​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่พูดไม่จา

​สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็นท่า​ที​ของ​นาง​ที่​ราวกับ​เด็กน้อย​ ​ก็​อด​หัวเราะ​ไม่ได้

​สือ​อี​เหนียง​หน้าแดง​จน​ร้อนผ่าว​ ​เพื่อ​ทำให้​ตัวเอง​หลุดพ้น​จาก​สถานการณ์​ตอนนี้​ ​นาง​จึง​พูด​เรื่อง​ทั่วไป​กับ​เขา​ ​“​ยาม​เย็น​ไป​คารวะ​ท่าน​แม่​ ​บังเอิญ​เจอ​กับ​พี่สะใภ้​สาม​เจ้าค่ะ​ ​ท่าน​โหว​เล่า​เจตนา​ของ​คุณชาย​สาม​ให้ท่าน​แม่​ฟัง​แล้ว​หรือยัง​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​รู้​ว่านาง​เขินอาย​ ​เขา​ยิ้ม​แล้ว​ห่ม​ผ้า​ให้​นาง​ ​ห่อ​ตัวนาง​อย่าง​แน่นหนา​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เล่า​แล้ว​ ​ท่าน​แม่​บอกว่า​ในเมื่อ​พวกเขา​คิด​เช่นนี้​ ​เรา​บังคับ​พวกเขา​ก็​คงจะ​ทำให้​พวกเขา​ไม่พอใจ​ ​พวกเขา​อยาก​ย้าย​ก็​ให้​พวกเขา​ย้าย​เถิด​!​”

​เขา​พูด​อย่าง​เรียบ​เฉย​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​เขา​เอง​ก็​คาดคิด​ไม่​ถึง

​สือ​อี​เหนียง​เสียใจ​ที่​พูด​เรื่อง​นี้​ขึ้น​มา​ ​ชิว​อวี​่​ยก​บะหมี่​น้ำแกง​ไก่​เข้ามา​พอดี​ ​สือ​อี​เหนียง​จึง​ยิ้ม​แล้ว​ลาก​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไป​ทาน​บะหมี่​ด้วยกัน

​“​ข้า​ไม่​ทาน​!​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ช่วย​สวม​เสื้อคลุม​ให้​นาง​ ​“​เจ้า​ทาน​เถิด​!​”​ ​จากนั้น​ก็​ลุกขึ้น​ยก​บะหมี่​เข้ามา​นั่ง​ข้างๆ​ ​มองดู​สือ​อี​เหนียง​ทาน​บะหมี่

​ภายใต้​แสงไฟ​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​ทาน​บะหมี่​ทีละ​คำ​ด้วย​สีหน้า​ที่​อิ่มเอิบใจ

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​มุม​ปาก​อย่าง​มีความสุข

ตน​ชอบ​สือ​อี​เหนียง​ที่​เป็น​เช่นนี้​ ​เรื่องเล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​ก็​สามารถ​ทำให้​นาง​มีความสุข​ได้

​เขา​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ยื่นมือ​ออก​ไป​จับ​ผม​ที่อยู่​ข้างหลัง​ใบ​หู​ของ​นาง​ ​“​ค่อยๆ​ ​ทาน​ ​ระวัง​ร้อน​”

​*****

​ทาน​บะหมี่​เสร็จ​ ​ล้างปาก​ล้างมือ​แล้ว​นอนลง​อีกครั้ง​ ​ท้องฟ้า​ก็​เริ่ม​สว่าง​แล้ว

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไป​ฝึก​ดาบ​ที่​สวนดอกไม้​หลัง​จวน​ ​ส่วน​สือ​อี​เหนียง​นอน​อยู่​บน​เตียง​ครู่หนึ่ง​จากนั้น​ก็​ลุกขึ้น

​มีบ​่า​วรับ​ใช้​เข้ามา​รายงาน​ ​“ฮู​หยิน​ขอรับ​ ​คุณชาย​ใหญ่​ตรอก​กง​เสียน​มา​ขอรับ​!​”

​สือ​อี​เหนียง​ไม่สบายใจ

มา​เช้า​ขนาด​นี้​ ​หรือว่า​เรื่อง​ของ​ชี​เหนียง​มี​อะไร​เปลี่ยนแปลง​?

​นาง​บอก​บ่าว​รับใช้​คน​นั้น​ ​“​เชิญ​คุณชาย​ใหญ่​ไป​นั่ง​ที่​ห้อง​หนังสือ​”​ ​แล้ว​เร่ง​ให้​ชิว​อวี​่​หวี​ผม​ให้​นาง​เร็ว​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​ไป​ที่​ห้อง​หนังสือ

​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​เอา​มือ​ไขว้หลัง​เดิน​วน​อยู่​ใน​ห้อง​หนังสือ​ด้วย​สีหน้า​ที่​เคร่งขรึม​

​ทันทีที่​เห็น​สือ​อี​เหนียง​ ​เขา​ก็​รีบ​เดิน​เข้ามา​ ​“​ข้า​เขียนจดหมาย​ให้ท่า​นพ​่อ​ ​เจ้า​รีบ​ส่ง​คน​นำ​ไป​ส่ง​ที่​อวี​๋​หัง​เถิด​”​ ​พูด​จบ​ก็​หยิบ​จดหมาย​ออกมา​จาก​แขน​เสื้อ​

นายท่าน​ใหญ่​ยัง​ไม่ได้​เขียนจดหมาย​ตอบกลับ​มา​ ​เหตุใด​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ถึง​ต้อง​ส่งจดหมาย​ไป​ที่​อวี​๋​หัง​อีกครั้ง​ด้วย​เล่า

​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​หรือ​เจ้า​คะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เชิญ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​นั่งลง​พูดคุย​กัน

​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​พูด​ช้าๆ​ ​ว่า​ ​“​ข้า​ได้รับ​จดหมาย​จาก​ท่าน​อา​สอง​แล้ว​ ​ฟัง​จาก​น้ำเสียง​ของ​ท่าน​อา​สอง​แล้ว​ ​เขา​เห็นด้วย​ที่จะ​ให้​ชี​เหนียง​รับ​บุตร​ของ​ซื่อ​เหนียง​ไป​เลี้ยง​เป็น​บุตรบุญธรรม​ ​แล้วยัง​บอก​ให้​ข้า​ไป​ช่วย​ชี​เหนียง​พูด​กับ​สกุล​จู​ ​ข้า​คิด​ว่า​เรื่อง​นี้​เกี่ยวข้อง​กับ​ตระกูล​ ​กฎเกณฑ์​บางอย่าง​ข้า​ก็​ไม่รู้​ดี​ ​จึง​ต้อง​ให้ท่า​นพ​่​ออ​อก​หน้า​ดูแล​สถานการณ์​โดยรวม​”

เช่นนี้​ก็​หมายความว่า​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​รู้​เจตนา​ของ​ท่าน​อา​สอง​แล้ว

​สือ​อี​เหนียง​เล่าเรื่อง​ที่​ได้ยิน​มาจากฮู​หยิน​ห้า​ให้​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ฟัง​

​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ขมวดคิ้ว​แน่น​ ​เอ่ย​ตำหนิ​สือ​อี​เหนียง​ ​“​น้อง​หญิง​เจ็ด​ไม่รู้​ความ​ ​เหตุใด​เจ้า​ก็​ไม่รู้​ความเหมือน​นาง​ ​ท่าน​อา​สอง​แค่​คิด​ว่า​สกุล​จู​ไม่เห็น​หัว​สกุล​หลัว​ ​ไม่​พูด​อะไร​สัก​คำ​ก็​กลับ​เปิด​ศาล​บรรพชน​ ​เขา​ก็​แค่​โมโห​ ​ลูก​ๆ​ ​อย่าง​เรา​จะ​วิพากษ์วิจารณ์​ผู้ใหญ่​ได้​เช่นไร​”

​สือ​อี​เหนียง​พูดไม่ออก

เรื่อง​มาถึง​ขั้น​นี้​แล้ว​ ​เขา​ยัง​อยาก​จะ​รักษา​ศักดิ์ศรี​ความเป็นญาติ​ผู้ใหญ่​ของ​นายท่าน​สอง​อีก

​นาง​ตอบกลับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​บอก​ให้​สาวใช้​ไป​เชิญ​พ่อบ้าน​ไป๋​มา

​สีหน้า​ของ​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ผ่อนคลาย​ลง​ ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​สอง​สาม​วันนี้​เจ้า​มีเรื่อง​สำคัญ​อะไร​หรือไม่​ ​หาก​ไม่มี​เรื่องสำคัญ​อะไร​ ​ก็​ไป​เกลี้ยกล่อม​ชี​เหนียง​เถิด​ ​อย่า​ให้​นาง​เอาแต่ใจตัวเอง​ ​เรื่อง​ทายาท​ ​ข้า​จะ​ช่วย​ออกหน้า​พูด​ให้​นาง​เอง​ ​อย่า​ให้​นาง​พูด​อะไร​กับ​น้องเขย​เจ็ด​ ​แล้วก็​ไม่ต้อง​พูด​อะไร​กับ​คน​สกุล​จู​ ​หาก​คน​สกุล​จูมา​หานาง​ ​หรือว่า​จู​อาน​ผิง​พูด​เรื่อง​ทายาท​กับ​นาง​ ​ก็​บอก​ให้​เขา​มาหา​ข้า​!​ ​“

กลัว​ว่า​หาก​ชี​เหนียง​ดื้อดึง​เช่นนี้​ต่อไป​ ​มัน​จะ​กลายเป็น​เรื่องใหญ่​ใช่​หรือไม่​!

​สือ​อี​เหนียง​เล่าเรื่อง​ที่​ตัวเอง​เชิญฮู​หยิน​ห้า​ไป​เกลี้ยกล่อม​ชี​เหนียง​ให้​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ฟัง​

​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​แล้ว​พูด​เบา​ๆ​ ​“​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​เจ้า​มี​เวลา​ก็​พาฮู​หยิน​ห้า​ไปหา​ชี​เหนียง​เถิด​”

​ถือว่า​ยอมรับ​ความคิดเห็น​ของ​ตาน​หยาง​แล้ว

​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับมา​พอดี​

​“​มีเรื่อง​ด่วน​อะไร​ ​เหตุใด​ถึง​มา​เช้า​ขนาด​นี้​”​ ​เขา​ยิ้ม​แล้ว​บอก​ให้​สาวใช้​จัด​อาหารเช้า

​“​อยาก​ยืม​คน​ของ​ท่าน​โหว​ส่งจดหมาย​ไป​ที่​อวี​๋​หัง​ขอรับ​”​ ​พวกเขา​สอง​พี่น้อง​เลือก​ข้ออ้าง​เหมือนกัน​อย่าง​ไม่ได้​นัดหมาย​ ​“​สอง​สาม​วันนี้​มี​รายงาน​จาก​แม่ทัพ​เจี่ยง​ที่ฝู​เจี​้​ยน​ ​โต้ว​เก๋อ​เหล่า​บอก​ให้​เรา​เขียน​รายงาน​ให้​หก​กรม​ส่ง​ไป​แต่ละ​มณฑล​ ​ข้า​ต้อง​รีบ​ไป​สำนัก​ศึกษา​ฮั่น​หลิน​ ​วัน​อื่น​ค่อย​มาดื​่ม​ชากั​บท​่าน​โหว​ขอรับ​”​ ​เขา​ปฏิเสธ​สวี​ลิ่ง​อี๋​อ้อม​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​ขอตัว​ลา​

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้ยิน​ว่า​เขา​มีธุระ​จึง​ไม่​รั้ง​เขา​ไว้​ ​เขา​ถาม​เรื่อง​สงคราม​ที่ฝู​เจี​้​ยน​พร้อมกับ​เดิน​ออก​ไป​ส่ง​หลัว​เจิ​้น​ซิ่ง​หน้า​ประตู​ ​จากนั้น​ก็​หันหน้า​มา​พูด​กับ​พ่อบ้าน​ไป๋​ ​“​สอง​สาม​วันนี้​คุณชาย​ใหญ่​ให้​เจ้า​ส่งจดหมาย​ให้​เขา​บ่อยครั้ง​หรือ​”

​เรื่อง​บาง​เรื่อง​ ​ไม่​ถาม​ก็​แสร้งทำ​เป็น​ไม่รู้​ ​แต่​เมื่อ​ถาม​แล้วก็​ปิดบัง​ไม่ได้

​“​ครั้งนี้​เป็น​ครั้ง​ที่สอง​ขอรับ​”​ ​พ่อบ้าน​ไป๋​พูด​ ​“​ครั้งแรกฮู​หยิน​เป็น​คน​บอ​ให้​นำ​จดหมาย​ไป​ส่ง​ขอรับ​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​พยักหน้า​แล้ว​กลับ​ไป​ที่​เรือน​หลัก​ ​ส่วน​สือ​อี​เหนียง​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​เสร็จ​แล้วก็​พา​จิ​่น​เกอ​ไป​ที่​เรือน​ของฮู​หยิน​ห้า

​“​พี่​หญิง​เจ็ด​ให้​ผู้ดูแล​หญิง​นำ​จดหมาย​มา​ ​บอกว่า​อีก​สอง​วัน​พี่เขย​เจ็ด​ก็​จะ​มาถึง​เยี​่​ยน​จิง​แล้ว​อย่างนั้น​หรือ​”

​จิ​่น​เกอ​ที่พึ่ง​จะ​เดิน​เป็น​ไม่ยอม​ให้​ใคร​อุ้ม​ ​เขา​จะ​เดิน​เอง​ให้​ได้​ ​เดิน​อยู่​ใน​ห้องโถง​ที่​กว้างขวาง​ของ​เรือนฮู​หยิน​ห้า​ ​ไม่ยอม​ให้​ใคร​ประคอง​ ​สือ​อี​เหนียง​กางแขน​ประคอง​จิ​่น​เกอ​อยู่​ข้างหลัง​ราวกับ​แม่​ไก่​ปกป้อง​ลูก​ไก่​ก็​ไม่​ปาน​ ​คอย​กัน​ไม่​ให้​เขา​ล้ม​ ​แล้วยัง​เงยหน้า​มองฮู​หยิน​ห้า​ที่นั่ง​อยู่​บน​เตียง​เตา​ข้างหน้า​ต่าง​เป็นครั้งคราว​

​“​ใช่​เจ้าค่ะ​!​”​ ฮู​หยิน​ห้า​คิด​ว่า​สือ​อี​เหนียง​เป็นห่วง​จิ​่น​เกอ​เกินไป​ ​“​ให้​แม่นม​ช่วย​ดู​เขา​ก็ได้​กระมัง​ ​พี่สะใภ้​สี่​มานั​่ง​เถิด​!​”​ ​จากนั้น​ก็​พูดว่า​ ​“​นาง​ถาม​ข้าว​่า​ควร​ทำ​อย่างไร​ดี​”

​“​เมื่อคืน​ข้า​กลับมา​เย็น​ ​เขา​นอนหลับ​ไป​ก็​ไม่เห็น​ข้า​ ​วันนี้​ตื่นขึ้น​มาก​็​จะ​ให้​ข้า​อุ้ม​ ​แม้แต่​ท่าน​โหวก​็​ไม่สน​ใจ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​อธิบาย​ ​“​ข้า​ดู​เขา​เอง​ดีกว่า​ ​ประเดี๋ยว​เขา​จะ​ร้องไห้​ ​เจ้า​ไม่รู้​อะไร​ว่า​เขา​ร้องไห้​ขึ้น​มา​แล้ว​น่ากลัว​แค่ไหน​”

ฮู​หยิน​ห้า​ได้​ฟัง​แล้วก็​หัวเราะ​ ​“​มี​เด็ก​คน​ไหน​ร้องไห้​ไม่น่า​กลัว​เล่า​”

​“​ข้า​เห็น​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​แม้แต่​ร้องไห้​ก็​ยัง​สง่างาม​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ ​เหลือบ​ไป​เห็น​จิ​่น​เกอ​จับ​ผ้าปูโต๊ะ​ ​นาง​ก็​รีบ​เดิน​เข้าไป​เกลี้ยกล่อม​ให้​จิ​่น​เกอ​ปล่อยมือ​ ​หลังจาก​จิ​่น​เกอ​ยอม​ปล่อยมือ​แล้ว​ ​นาง​จึง​พูด​กับฮู​หยิน​ห้า​ต่อ​ ​“​ต้อง​มี​คน​ไป​พูด​กับ​พี่เขย​เจ็ด​”​ แต่ฮู​หยิน​ห้า​ไม่ใช่​คนที​่​เหมาะสม​ ​หนึ่ง​คือ​นาง​เป็น​คนนอก​ ​สมัยโบราณ​มีคำ​พูด​ที่ว่า​ ​‘​เรื่อง​ฉาวโฉ่​ใน​ครอบครัว​ไม่​ควร​ให้​คนนอก​รู้​’​ ​หาก​จู​อาน​ผิง​รู้​ว่า​แม้แต่ฮู​หยิน​ห้า​ก็​ยัง​รู้​ ​เขา​จะ​เสียหน้า​ได้​ ​สอง​คือ​ตน​เป็น​คนที​่​มี​แม่​สามี​และ​มีลูก​ ​จะ​ลำบาก​เพราะ​เรื่อง​ของ​ชี​เหนียง​ไม่ได้ ​“​เจ้า​คิด​ว่า​ ​ให้​พี่​หญิง​สี่​ของ​ข้า​พูดดี​หรือไม่​”

​ที่ฮู​หยิน​ห้า​เชิญ​สือ​อี​เหนียง​มาก​็​เพราะ​เรื่อง​นี้

​เกลี้ยกล่อม​ชี​เหนียง​ ​นาง​เป็น​คน​ไป​เกลี้ยกล่อม​ได้​ ​แต่​หาก​เป็น​จู​อาน​ผิง​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​สถานะ​ ​ตำแหน่ง​หรือว่า​จุดยืน​ ​นาง​ล้วนแต่​ไม่เหมาะสม​ ​แต่​หาก​ตัวเอง​ปฏิเสธ​ ​ก็​กลัว​ว่า​สือ​อี​เหนียง​และ​ชี​เหนียง​จะ​คิด​ว่านาง​ไม่​อยาก​ช่วย​ ​ได้ยิน​สือ​อี​เหนียง​พูด​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก

​“​พี่​หญิง​สี่​คือ​ตัวเลือก​ที่​ดีที​่​สุด​”​ ฮู​หยิน​ห้า​ยิ้ม​ ​“​ใน​ฐานะ​พี่​หญิง​ ​มี​อะไร​ก็​พูด​ได้​ ​หาก​ไม่ไหว​ก็​ยัง​มีพี​่​เขย​สี่​ช่วย​พูด​ ​“

​“​เช่นนั้น​ข้า​ไป​บอก​พี่​หญิง​สี่​”​ ​สือ​อี​เหนียง​เห็น​จิ​่น​เกอ​ถือ​เก้าอี้​ไท่​ซือ​ไม่​ขยับ​ไป​ไหน​ ​นาง​คิด​ว่า​เขา​คง​เหนื่อย​แล้ว​ ​จึง​อุ้ม​เขา​แล้ว​พูดว่า​ ​“​น้อง​สะใภ้​ห้า​ไป​บอก​ชี​เหนียง​เถิด​”

ฮู​หยิน​ห้า​ออก​ความคิดเห็น​ที่​ตรง​กับ​ความต้องการ​ของ​ชี​เหนียง​แล้วยัง​ทำให้​ชี​เหนียง​ยอมรับ​ใน​คำพูด​ของฮู​หยิน​ห้า​ ​สำหรับ​ชี​เหนียง​แล้ว​คง​ราวกับ​เสียง​ของ​สวรรค์​ ​ส่วน​คำพูด​ของ​คนอื่น​ ​ตอนนี้​ชี​เหนียง​คงจะ​ไม่ยอม​ฟัง​

​“​ได้​เลย​!​”​ ฮู​หยิน​ห้า​คิด​ว่า​ตอนนี้​ชี​เหนียง​มี​ปม​ใน​ใจ​กับ​พี่น้อง​ของ​ตัวเอง​ ​ไม่​สู้​ตน​ไป​พูด​กับ​นาง​ดีกว่า​ ​“​ประเดี๋ยว​ข้า​เขียนจดหมาย​ให้​นาง​ดีกว่า​ ​หาก​จู​อาน​ผิง​ไม่ยอม​ฟัง​นาย​หญิง​อวี​๋​ ​ข้า​ค่อย​ให้​คุณชาย​ห้า​ไป​พูด​กับ​จู​อาน​ผิง​ ​เช่นนี้​จะ​ได้​ทำให้​ชี​เหนียง​สบายใจ​”

​สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​พวก​นาง​สอง​คน​ปรึกษา​กัน​เรื่อง​รายละเอียด​ ​คน​หนึ่ง​เขียนจดหมาย​ให้​ชี​เหนียง​ ​ส่วน​อีก​คน​หนึ่ง​เขียนจดหมาย​ให้​ซื่อ​เหนียง​

​ป้า​สือ​ชอบ​อก​ชอบใจ​เป็นอย่างมาก​ ​นาง​ยก​ของว่าง​และ​ผลไม้​เข้ามา​ไม่​หยุด​ ​เห็น​พวก​นาง​พูด​เรื่อง​ชี​เหนียง​ด้วยกัน​ ​นาง​ก็​ไล่​สาวใช้​ออก​ไป​แล้ว​ตัวเอง​คอย​อยู่​รับใช้​เอง​

​ใกล้​ถึง​เวลา​ทานอาหาร​กลางวัน​แล้ว​ ​สือ​อี​เหนียง​และฮู​หยิน​ห้า​ต่าง​ก็​อุ้ม​ลูก​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​

​อวี​้​ป่าน​ขยิบตา​ให้​พวก​นาง​ ​“ฮู​หยิน​สาม​อยู่​ข้างใน​เจ้าค่ะ​”

​พวก​นาง​ทั้งสอง​คน​หยุด​เดิน​ ​จากนั้น​ก็ได้​ยิน​เสียงร้อง​ไห้​ที่​แผ่วเบา​ดัง​ออกมา

​สายตา​ของฮู​หยิน​ห้ามี​รอยยิ้ม​

​นาง​กระซิบ​ถาม​อวี​้​ป่าน​ ​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​”

​อวี​้​ป่าน​เหลือบมอง​สือ​อี​เหนียง​ ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​ทำท่า​ที​เอียงหู​ฟัง​ ​นาง​จึง​พูด​เบา​ๆ​ ​“​เมื่อคืน​ ฮู​หยิน​สาม​และ​สาวใช้​เล่นไพ่​กัน​ทั้งคืน​ ​คุณนาย​น้อย​ใหญ่​คอย​ดูแล​อยู่​ข้างๆ​ ​ตลอด​ ​อาจจะ​เป็นเพราะว่า​ยืนนาน​เกินไป​ ​นาง​เลย​เท้า​ชา​ ​เดิน​ออกมา​ข้างนอก​จึง​หกล้ม​ข้อมือ​พลิก​เจ้าค่ะ​ ​แล้วยัง​เป็น​ลูกสะใภ้​ที่พึ่ง​จะ​แต่ง​เข้ามา​ ​ไม่กล้า​เอะอะโวยวาย​ ​ตื่นขึ้น​มายาม​เช้า​ ​ข้อมือ​จึง​บวม​เบ่ง​ราวกับ​ซาลาเปา​ ​ไท่ฮู​หยิน​เลย​โมโห​ ​กำลัง​ตำหนิฮู​หยิน​สาม​อยู่​เจ้าค่ะ​!​”

ฮู​หยิน​ห้า​เหลือบมอง​สือ​อี​เหนียง​แล้ว​พูดเสี​ยง​เบา​ ​“​เป็น​เช่นไร​เล่า​ ​ข้า​บอก​แล้ว​ว่า​คน​ใจแคบ​อย่าง​นาง​ ​ไม่ช้าก็เร็ว​ต้อง​เกิดเรื่อง​แน่นอน​!​”​ ​พูด​จบ​นาง​ก็​เม้มปาก​ยิ้ม​ ​“​ข้อมือ​คุณนาย​น้อย​ใหญ่​ของ​เรา​ช่าง​พลิก​ได้​ถูก​เวลา​เสีย​จริง​”

​สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​รู้สึก​ว่าฮู​หยิน​สาม​ทำเกินไป​ ​นาง​ครุ่นคิด​สักพัก​ ​ก่อน​จะ​เอ่ย​ถาม​อวี​้​ป่าน​ ​“​แล้ว​คุณชาย​น้อย​ใหญ่​ว่า​อย่างไรบ้าง​”

​อวี​้​ป่าน​แปลกใจ​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​คุณชาย​น้อย​ใหญ่​ไป​บอกฮู​หยิน​สาม​ ฮู​หยิน​สาม​ถึง​ได้​เชิญ​ท่าน​หมอ​มา​เจ้าค่ะ​”

​สือ​อี​เหนียง​แอบ​ถอนหายใจ​ใน​ใจ​ ​จากนั้น​ก็​พาลูก​ไป​เล่น​ที่​ใต้​ชายคา​แล้ว​พูดคุย​เรื่อง​ฟัง​ซื่อ​กับฮู​หยิน​ห้า

​“​แน่นอน​เจ้าค่ะ​”​ ฮู​หยิน​ห้า​พูด​ด้วย​สายตา​ที่​เป็นประกาย​ ​“​นาง​พึ่ง​จะ​แต่ง​เข้ามา​ก็​ข้อมือ​พลิก​ ​เรา​จะ​เพิกเฉย​ได้​อย่างไรเล่า​”

​สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​รู้สึก​หวาดระแวง

​*****

​จิ​่น​เกอ​เดิน​ไป​ได้​สอง​ก้าว​ก็​หันกลับ​มาม​อง​สือ​อี​เหนียง​ ​เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​เดินตาม​ตัวเอง​มา​เขา​ก็​เดิน​ไป​อีก​สอง​ก้าว​ ​จากนั้น​ก็​หันหน้า​มาม​อง​สือ​อี​เหนียง​ด้วย​ท่าที​ที่​อยาก​เดิน​แต่​ก็​กลัว​ ​น่ารักน่าชัง​เป็นอย่างมาก​ ​ทำเอา​สาวใช้​และ​ป้า​รับใช้​ใน​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​กลั้น​ขำ​เอาไว้​ไม่ได้​ ​มีสาว​ใช้​คน​หนึ่ง​เผลอ​หัวเราะ​เสียงดัง​ขึ้น​มา​ ​ทำเอา​คนใน​ห้อง​ตกใจ

​ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​ไท่ฮู​หยิน​ก็​บอก​ให้​อวี​้​ป่าน​มา​เชิญ​พวก​นาง​เข้าไป

ฮู​หยิน​สามตา​แดง​ ​นาง​ยืน​ทำ​หน้าเศร้า​อยู่​ข้างๆ​ ​เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​และฮู​หยิน​ห้า​เดิน​เข้ามา​ ​สายตา​ของ​นาง​ก็​มี​ความขุ่นเคือง

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท