ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 535 สำเร็จ (ปลาย)

ตอนที่ 535 สำเร็จ (ปลาย)

​ภายใต้​สถานการณ์​เช่นนี้​ ​แน่นอน​ว่า​ฟัง​ซื่อ​ต้อง​พูด​แบบนี้​เท่านั้น​ ​แต่​ใคร​จะ​รู้​ว่าฮู​หยิน​ห้า​หันมา​มอง​แล้ว​นั่งลง​อีกครั้ง​จริงๆ​ ​“​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​เช่นนั้น​ข้า​ก็​ไม่​เกรงใจ​แล้ว​นะ​”

​เดิมที​ฟัง​ซื่อ​คิด​ว่า​ ​สือ​อี​เหนียง​คือ​หย่ง​ผิง​โหวฮู​หยิน​ ​ไท่ฮู​หยิน​บอก​ให้ฮู​หยิน​สาม​กลับ​ไป​ซาน​หยาง​ ​แน่นอน​ว่านาง​ต้อง​มี​การ​เตรียมการ​อะไร​ไว้​ ​ดังนั้น​จึง​มาหา​สือ​อี​เหนียง​ ​แต่ฮู​หยิน​ห้า​นั่งลง​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​ไม่กล้า​ถาม​ ​แต่​การ​พูดคุย​กับ​อาสะใภ้​ทั้งสอง​คนใน​บรรยากาศ​ที่​ผ่อนคลาย​และ​ปิติ​เช่นนี้​ไม่ใช่​โอกาส​ที่​หา​ได้​ง่ายๆ​ ​นาง​จึง​มีสี​หน้าที่​อ่อนโยน​มากขึ้น

ฮู​หยิน​ห้า​อด​ไม่ได้​ที่จะ​มอง​ฟัง​ซื่อ​ใหม่​

​พวก​นาง​สาม​คน​นั่ง​พูดคุย​กัน​เรื่อง​พิธี​ขึ้น​ปิ่นปักผม​ของ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​จากนั้น​ป้า​รับใช้​ของ​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​ก็​นำ​ไข่แดง​มา​ให้​ ​“​คุณหนู​ใหญ่​ของ​เรา​คลอด​บุตรสาว​เจ้าค่ะ​”

​“​ไอ​๊​หยา​”​ ฮู​หยิน​ห้า​ยิ้ม​ ​“​คุณนาย​ใหญ่​สกุล​หลิน​เป็น​ยาย​คน​แล้ว​”

​ฟัง​ซื่อ​จึง​ถาม​ว่า​ ​“​คุณหนู​ใหญ่​ที่​แต่งงาน​ไป​อยู่​ที่​เมือง​ซัง​โจว​หรือ​เจ้า​คะ​”

ฮู​หยิน​ห้า​พยักหน้า​ ​จากนั้น​ก็​พูดถึง​ฮุ่ย​เจี่ย​เอ๋อร​์​กับ​นาง​เบา​ๆ

​ทาง​สือ​อี​เหนียง​ ​นาง​บอก​ให้​ชิว​อวี​่​นำ​เงิน​สอง​ตำลึง​ให้​ป้า​รับใช้​คน​นั้นแล​้ว​ถาม​ว่า​ ​“​คลอด​ราบรื่น​ดี​หรือไม่​ ​เด็ก​น้ำหนัก​ตัว​เท่าไร​”​ ​จากนั้น​ก็​ไปรา​ยงาน​ไท่ฮู​หยิน​ที่​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​กับฮู​หยิน​ห้า​และ​ฟัง​ซื่อ​ ​คำถาม​ที่​ฟัง​ซื่อ​เตรียม​มา​จึง​ไม่ได้​ถาม​

​อีก​ฝั่ง​หนึ่ง​ ​สะใภ้​กาน​เหล่า​เฉวียน​ถามฮู​หยิน​สาม​ด้วย​เสียง​กระซิบ​ ​“​ไม่​บอกอะ​ไร​คุณชาย​น้อย​ใหญ่​หรือ​เจ้า​คะ​”

ฮู​หยิน​สาม​ทำ​สีหน้า​ลังเล​

​สะใภ้​กาน​เหล่า​เฉวียน​เกลี้ยกล่อม​นาง​ ​“​คุณนาย​น้อย​ใหญ่​ไม่รู้​ความ​ ​ท่าน​ก็​ต้อง​สั่งสอน​ ​แต่​คุณชาย​น้อย​ใหญ่​คือ​บุตรชาย​ของ​ท่าน​ ​ท่าน​จะ​โมโห​ใส่​เขา​ได้​เช่นไร​เจ้า​คะ​ ​ไม่รู้​ว่า​มี​คน​ตั้ง​กี่​คนที​่​แต่ง​ภรรยา​แล้ว​ลืม​ท่าน​แม่​ของ​ตัวเอง​ ​แต่​ท่าน​ดู​คุณชาย​น้อย​ใหญ่​สิ​เจ้า​คะ​ ​มาคา​รวะ​ท่าน​ทุกวัน​ยัง​ไม่พอ​ ​แม้แต่​วันที่​คุณนาย​น้อย​ใหญ่​ข้อมือ​พลิก​ ​ไม่​มารา​ยงาน​ท่าน​ก่อน​ ​แม้แต่​ท่าน​หมอก​็​ยัง​ไม่กล้า​เชิญ​มา​ ​เขา​พึ่ง​จะ​แต่งงาน​ ​ท่าน​ปล่อย​ให้​คุณชาย​น้อย​ใหญ่​สับสน​ได้​เช่นไร​เจ้า​คะ​”

ฮู​หยิน​สาม​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ถอนหายใจ​แล้ว​พูด​เบา​ๆ​ ​“​ถ้าอย่างนั้น​เจ้า​ก็​ไป​เชิญ​คุณชาย​น้อย​ใหญ่​มา​เถิด​!​”

​“​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สะใภ้​กาน​เหล่า​เฉวียน​ยิ้ม​แล้ว​ขานรับ​ ​จากนั้น​ก็​ออก​ไป​เรียก​สวี​ซื่อ​ฉิน​เข้ามา

​“​เป็น​เจตนา​ของ​พ่อ​เจ้า​ ​หาก​ข้า​ย้ายออก​ไป​แล้ว​ ​พวก​เจ้า​สอง​พี่น้อง​ก็​ย้าย​ไป​อยู่​ที่​ตรอก​ซาน​จิ​่ง​เถิด​ ​หนึ่ง​คือ​ที่นั่น​คือ​ทรัพย์สมบัติ​ของ​เรา​ ​ไม่มี​คน​อยู่​ดูแล​ ​เรือน​ก็​จะ​ทรุดโทรม​ได้​ง่าย​ ​สอง​คือ​คนใน​ตรอก​เหอฮ​วาห​ลี่​ชอบ​สังสรรค์​ ​ตอนนี้​อาจารย์​จ้าว​ก็​สนใจ​แต่​จุน​เกอ​ ​เขา​ดูแล​ไม่​ทั่วถึง​ ​ข้า​อยาก​เชิญ​อาจารย์​มาสอน​หนังสือ​พวก​เจ้าที่​จวน​ ​พวก​เจ้า​อยู่​ที่นั่น​ ​จะ​ได้​เรียนหนังสือ​อย่างสบายใจ​”​ ฮู​หยิน​สาม​พูด​กับ​บุตรชาย​ตัวเอง​เบา​ๆ​ ​“​หาก​ข้า​ย้ายออก​ไป​แล้ว​ ​พวก​เจ้า​ทำตาม​ที่​ท่าน​อา​สี่​ของ​พวก​เจ้า​บอก​เถิด​ ​ไป​อยู่​ที่​ตรอก​ซาน​จิ​่ง​ ​ขึ้นปีใหม่​ก็​อย่า​ลืม​มาคา​รวะ​ไท่ฮู​หยิน​ ฮู​หยิน​และ​ท่าน​โหว​”

​สวี​ซื่อ​ฉิน​อิจฉา​ที่​สวี​ซื่อ​อวี​้​ได้​ไป​เรียนหนังสือ​ที่​เล่อ​อาน​มาต​ลอด​ ​เมื่อ​ได้ยิน​ว่า​บิดา​ของ​ตน​วางแผน​ไว้​ให้​ตั้ง​นาน​แล้ว​ ​ไม่ว่า​จะ​สุขุม​เพียงใด​ ​แต่​ตอนนี้​เขา​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ยิ้ม​อย่าง​มีความสุข​ ​พูด​อย่าง​ชอบใจ​ ​“​ข้า​จะ​ไม่ลืม​คำสั่งสอน​ของ​ท่าน​แม่​ขอรับ​”

ฮู​หยิน​สาม​เห็นท่า​ที​ดีใจ​ของ​บุตรชาย​ ​นาง​ก็ดี​ใจ​ ​จากนั้น​ก็​บอกว่า​ ​“​ดูแล​น้อง​เจ้า​ให้​ดี​ ​น้อง​ยัง​เด็ก​เรื่อง​พวก​นี้​ยัง​ไม่ต้อง​บอก​เขา​”​ ​สวี​ซื่อ​ฉิน​ขานรับ​ ฮู​หยิน​สาม​จึง​บอก​ให้​คน​ไป​เรียก​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​เข้ามา​ ​เห็น​ว่า​มัน​สาย​แล้ว​ ​จึง​เชิญ​บุตรชาย​ทั้งสอง​คน​ทานข้าว​ที่​เรือน​ของ​ตัวเอง​

​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ได้ยิน​แล้วก็​ฉงนใจ​ ​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​เหตุใด​พี่สะใภ้​ใหญ่​ยัง​ไม่​กลับมา​ขอรับ​”

ฮู​หยิน​สาม​ยิ้ม​อย่าง​เยาะเย้ย​ ​“​นาง​ไป​ที่​เรือน​ของ​ท่าน​อาสะใภ้​สี่​ ​บอกว่า​ประเดี๋ยว​จะ​กลับมา​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​ประเดี๋ยว​ของ​นาง​จะ​นาน​ขนาด​นี้​”

​สีหน้า​ของ​สวี​ซื่อ​ฉิน​หม่น​ลง

ฮู​หยิน​สาม​ลอบ​ยิ้ม​ใน​ใจ

บุตรชาย​ของ​ข้า​คือ​คนที​่​ข้า​ตั้งครรภ์​มาก​ว่า​สิบ​เดือน​ ​เขา​ย่อม​กตัญญูรู้คุณ​ ​ส่วน​ลูกสะใภ้​อย่าง​เจ้า​จะ​เลียแข้งเลียขา​สือ​อี​เหนียง​ไป​ตลอดชีวิต​เช่นนั้น​หรือ

​คิด​เช่นนี้​ ​นาง​ก็​ยิ้ม​แล้ว​บอก​ให้​สาวใช้​จัด​อาหาร​ ​“​ท่าน​อาสะใภ้​สี่​ของ​พวก​เจ้า​เป็น​คน​อัธยาศัย​ดี​ ​ไม่​ส่ง​คน​มารา​ยงา​นข​้า​ ​คิด​ว่าน​่า​จะ​เชิญ​นาง​ทานข้าว​ที่นั่น​ ​เรา​ไม่ต้อง​รอ​หรอก​…​”

​ทันทีที่​พูด​จบ​ ​ฟัง​ซื่อ​ก็​กลับมา

​เห็น​แม่​สามี​และ​บุตรชาย​ทั้งสอง​คน​นั่ง​อยู่​บน​เตียง​เตา​อย่าง​อบอุ่น​ ​แม่​สามี​มอง​นาง​ด้วย​สายตา​ที่​เย็นชา​ ​ส่วน​สามี​มอง​นาง​ด้วย​สายตา​ที่​เคร่งขรึม​ ​สวี​ซื่อ​เจี่ย​นม​อง​นาง​ด้วย​สายตา​ที่​เป็นกังวล​ ​นาง​รู้​ว่า​เพราะ​ตัวเอง​มาช​้า​ ​แต่​ก็​แสร้งทำ​เป็น​ไม่รู้​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูด​กอบกู้​สถานการณ์​ ​“​ท่าน​แม่เจ้า​คะ​ ​คุณหนู​ใหญ่​สกุล​เวย​เป่ย​โหว​คลอด​บุตรสาว​แล้ว​เจ้าค่ะ​…​”

​ฟัง​ซื่อ​ยิ้ม​ ​จนกระทั่ง​เห็น​ว่า​สีหน้า​ของ​สวี​ซื่อ​ฉิน​ผ่อนคลาย​ลงนาง​ถึง​ได้​โล่งใจ​

​สีหน้า​ของฮู​หยิน​สาม​มี​ความ​เย้ยหยัน

​เมื่อฮู​หยิน​สาม​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​นาง​ก็​ขอให้​ไท่ฮู​หยิน​กำหนด​วัน​ออกเดินทาง​ให้​นาง

​ไท่ฮู​หยิน​ไม่​ดู​แม้แต่​ปฏิทิน​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​วัน​อื่น​ไม่​สู้​วันนี้​ ​ข้า​คิด​ว่า​ ​วัน​มะรืน​เถิด​!​ ​ข้า​จะ​ได้​เตรียมตัว​ขึ้นปีใหม่​อย่างสบายใจ​”

ฮู​หยิน​สาม​ตกใจ​ ​นาง​ฝืนยิ้ม​แล้ว​ขานรับ​ ​“​เจ้า​คะ​”​ ​จากนั้น​ก็​กลับ​ไป​บอก​ให้​สะใภ้​กาน​เหล่า​เฉวียน​เก็บ​ข้าวของ

​วัน​ต่อมา​สือ​อี​เหนียง​และฮู​หยิน​ห้า​เป็นเจ้าภาพ​ ​เชิญฮู​หยิน​สอง​มา​เป็น​แขก​ ​จัดงาน​เลี้ยงส่งฮู​หยิน​สาม

ฮู​หยิน​สาม​ดื่ม​สุรา​คารวะ​สะใภ้​ทั้ง​สาม​คน​ ​บอก​ให้​พวก​นาง​ช่วยดูแล​สวี​ซื่อ​ฉิน​สอง​พี่น้อง​ ฮู​หยิน​ห้า​ตอบ​ตกลง​ ​ทุกคน​พูดคุย​หัวเราะ​กัน​อย่าง​อบอุ่น​ ​เมื่อถึง​วัน​ออกเดินทาง​ ​สือ​อี​เหนียง​และ​คนอื่นๆ​ ​ก็​นำ​ยา​และ​เสบียง​ออก​ไป​ส่งฮู​หยิน​สาม​ที่​หน้า​ประตู​ใหญ่​ด้วยกัน​ ​มองดู​รถม้า​แล่น​ออก​ไป​แล้ว​ ​จากนั้น​ก็​ไปรา​ยงาน​ไท่ฮู​หยิน​

​ไม่มี​แม่​สามี​คอย​ควบคุม​ ​ตั้งแต่นั้นมา​ฟัง​ซื่อ​ก็​มาคา​รวะ​ไท่ฮู​หยิน​เช้า​เย็น​ ​วัน​ธรรมดา​ก็​เย็บปักถักร้อย​ ​อ่านหนังสือ​อยู่​ที่​เรือน​ ​ไม่​ก็​ไปหา​สือ​อี​เหนียง​และฮู​หยิน​ห้า​ ​ใช้ชีวิต​อย่าง​สุขสบาย​ใน​จวน​

​แค่​ชั่วพริบตา​เดียว​ก็​มาถึง​วันเกิด​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​แล้ว

​สือ​อี​เหนียง​ทำ​บะหมี่​รวมมิตร​ให้​ทุกคน​และ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ทาน​เหมือนเดิม​ ​แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับ​เรียก​สวี​ซื่อ​อวี​้​ไป​ที่​ห้อง​หนังสือ​

​สวี​ซื่อ​จุน​เห็น​ดังนั้น​ก็​ทำ​สีหน้า​เห็นอกเห็นใจ

​สือ​อี​เหนียง​รู้สึก​ขบขัน​ ​บอก​ให้​สาวใช้​ชงชา​หลง​จิ​่ง​ต้อนรับ​เขา​ ​“​นี่​คือ​ชา​ที่​ท่าน​ลุง​ใหญ่​นำมา​ให้​เจ้า​ ​ลอง​ชิม​ดู​สิ​!​”

​สวี​ซื่อ​จุน​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ยิ้ม​ ​“​ช่วงนี้​ท่าน​ลุง​ใหญ่​ทำ​อะไร​ขอรับ​ ​ทำไม​ไม่เห็น​เขา​มาที​่​จวน​เลย​!​”

​“​ว่า​กัน​ว่า​ใต้เท้า​เจี่ยง​ที่ฝู​เจี​้​ยน​กำลังจะ​กลับมา​พระราช​สำนัก​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​หยิบ​ตะกร้า​เย็บปักถักร้อย​จาก​เตียง​เตา​มาถัก​เชือก​จีน​ ​“​ช่วงนี้​กำลัง​ยุ่ง​อยู่​กับ​การ​เตรียมงาน​เลี้ยง​ฉลองชัย​ชนะ​กับ​คน​ของ​กรม​พิธีกรรม​ ​คง​ต้อง​รอ​ถึง​เดือน​สิบสอง​ถึง​จะ​มี​เวลาว่าง​”

​เจิน​เจีย​เอ๋อร​์​นั่งลง​ข้าง​สือ​อี​เหนียง​ ​นาง​ช่วย​สือ​อี​เหนียง​ดึง​เชือก

​“​ท่าน​แม่​ ​ข้า​จำ​ใต้เท้า​เจี่ยง​ได้​ขอรับ​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ได้ยิน​เช่นนี้​ก็​ตื่นเต้น​ ​“​เขา​มีนาม​ว่า​เจี่ย​งอ​วิ​๋น​เฟย​ ​มี​หนวดเครา​ยาว​ๆ​”​ ​พูด​จบ​ก็​ยกมือ​ประกอบ​ท่าทาง​ ​วาด​หนวด​ตรงหน้า​อก​ตัวเอง​ ​“​ทุกคน​แอบ​เรียก​เขา​ว่า​ ​’​ท่าน​เครา​งาม​’​ ​ขอรับ​”

​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยกำ​ลัง​ถือ​กล่อง​กระจก​ที่​จิ​่น​เกอ​นำมา​จาก​เรือน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​หลอกล่อ​ให้​จิ​่น​เกอ​เดิน​ ​อาจิน​ ​สาวใช้​ก็​เดินตาม​หลัง​จิ​่น​เกอ​อย่างใกล้ชิด

​ได้ยิน​เช่นนี้​เขา​ก็​หันหน้า​มาม​อง​สวี​ซื่อ​จุน

​“​พี่​สี่​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​ท่าน​จะ​รู้จัก​คนเก่ง​เช่นนี้​”​ ​เขา​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​อิจฉา​ ​รู้สึก​ว่า​ตั้งแต่​พี่ชาย​ของ​ตัวเอง​ย้ายออก​ไป​อยู่​ที่​ลาน​ข้างนอก​ก็​เปลี่ยนไป​ ​ไม่เพียงแต่​รู้จัก​คนที​่​ตัวเอง​ไม่รู้​จัก​ ​แล้วยัง​พูดจา​เป็นผู้ใหญ่​มากขึ้น​ ​“​ข้า​ได้ยิน​อาจารย์​จ้าว​บอกว่า​ ​ใต้เท้า​เจี่ยง​เป็น​คน​มี​ความสามารถ​ ​มี​อนาคต​ที่​กว้างไกล​ ​แล้วยัง​เป็น​แม่ทัพ​ที่​มีชื่อเสียง​รอง​จาก​ท่าน​พ่อ​ขอรับ​”

​ขณะที่​เขา​พูด​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​คว้า​เสื้อ​ของ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ได้​แล้ว​ ​เขา​เขย่ง​เท้า​ขึ้นไป​คว้า​กล่อง​กระจก​ใน​มือ​ของ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​

​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​รีบ​ยก​แขน​ขึ้น​สูง

​สวี​ซื่อ​จุน​พยักหน้า​ ​“​ทุกคน​ล้วนแต่​บอกว่า​ท่าน​พ่อ​เก่ง​ที่สุด​!​”

รู้​แค่นี้​มัน​ยัง​ไม่พอ

​สือ​อี​เหนียง​ลอง​แนะนำ​ให้​สวี​ซื่อ​จุน​คิด​อะไร​ที่​ลึก​กว่านี​้​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ข้า​ก็​คิดไม่ถึง​ว่า​จุน​เกอ​จะ​รู้จัก​ใต้เท้า​เจี่ยง​”​ ​จากนั้น​ก็​ทำ​สีหน้า​สงสัย​ ​“​ใต้เท้า​เจี่ยง​เป็น​คน​เช่นไร​หรือ​”

​“​เขา​เป็น​คน​เข้มงวด​ขอรับ​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ระลึก​ความหลัง​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อ​ ​“​แต่​เขา​ดี​กับ​ข้ามาก​ขอรับ​ ​ยัง​ถาม​ว่า​ข้า​เหนื่อย​หรือไม่​ ​หวัง​อวิ​่​นอิจ​ฉา​ข้า​อย่างมาก​”

​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ถูก​คำพูด​ของ​สวี​ซื่อ​จุน​ดึงดูด​ ​เขา​ยืน​ตรง​แล้ว​พูด​กับ​สวี​ซื่อ​จุน​ ​“​หวัง​อวิ​่​นคือ​ใคร​หรือ​ ​สหาย​ใหม่​ของ​พี่​สี่​หรือ​”

​“​ใช่​แล้ว​”​ ​สวี​ซื่อ​จุน​ยิ้ม​ ​“​เขา​คือ​บุตรชาย​ของ​หวัง​ลี่​ ​ใต้เท้า​หวัง​ ​เรียน​เก่ง​อย่างมาก​ ​นิสัย​ดี​กับ​ทุกคน​ ​ขี่ม้า​เป็น​แล้วยัง​ดีด​พิณ​เป็น​อีกด้วย​ ​ครั้งก่อน​ตอนที่​ใต้เท้า​หวัง​มาที​่​จวน​ก็​พา​เขา​มาด​้วย​ ​ท่าน​พ่อ​บอก​ให้​ข้า​ตั้งใจ​เรียน​กับ​เขา​”​ ​พูด​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​หดหู่​ ​จากนั้น​ก็​กลับมา​สดใส​เหมือนเดิม​อย่างรวดเร็ว​ ​เขา​พูดเสี​ยง​ดัง​ด้วย​ท่าที​ที่​ร่าเริง​ ​“​ข้า​เคย​พูดถึง​เจ้า​ให้​หวัง​อวิ​่น​ฟัง​ ​เขา​สนใจ​เจ้า​เป็นอย่างมาก​ ​แล้วยัง​บอกว่า​ครั้งหน้า​ให้​ข้า​พา​เขา​มาหา​เจ้า​ ​หาก​ครั้งหน้า​เขา​มา​ ​ข้า​จะ​บอก​ให้​สาวใช้​มาเรียก​เจ้า​ไปหา​ข้า​ ​เรา​ต้อง​เล่น​ด้วยกัน​สนุก​แน่นอน​”

​จิ​่น​เกอ​จับ​เสื้อ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​แน่น​ ​ประเดี๋ยว​ก็​เขย่ง​เท้า​ ​ประเดี๋ยว​ก็​กระโดด​ ​แต่​ก็​คว้า​กล่อง​กระจก​ใน​มือ​ของ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ไม่ได้​สักที​ ​เขา​ร้อง​แอ​๊​ๆ​ ​อย่างใจ​ร้อน

​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ได้ยิน​ว่า​จะ​ได้​รู้จัก​สหาย​ใหม่​ ​เขา​ก็​ไม่สน​ใจ​จิ​่น​เกอ​ ​ยิ้ม​แล้ว​ขานรับ​ ​“​ขอรับ​”​ ​ซ้ำๆ​ ​จากนั้น​ก็​พูดว่า​ ​“​เช่นนั้น​ต้อง​รอ​ให้​ถึง​วันหยุด​ของ​ข้า​!​”

​ทันทีที่​พูด​จบ​ ​จิ​่น​เกอ​ที่​ไม่มีใคร​สนใจ​ก็​ร้องไห้​งอแง​ขึ้น​มา

​เขา​ร้องไห้​เสียงดัง​ ​ทำเอา​ทุกคน​ตกใจ

​สวี​ซื่อ​จุน​และ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ตกใจ​ ​พวกเขา​สอง​คน​ทำ​หน้า​อึ้ง

​สือ​อี​เหนียง​และ​เจิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​รีบ​ลง​จาก​เตียง​เตา

​ฉับพลัน​ก็​มี​คน​เดิน​เข้ามา​ตรง​ผ้าม่าน​ที่​ประตู​แล้ว​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ ​“​อย่า​ร้องไห้​ ​อย่า​ร้องไห้​!​”​ ​จากนั้น​เอ่ย​ถาม​ด้วย​น้ำเสียง​ที่​อ่อนโยน​ ​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​ ​ใคร​รังแก​จิ​่น​เกอ​”

​สือ​อี​เหนียง​มองดู​ ​เป็น​สวี​ซื่อ​อวี​้​

​เขา​ปลอบ​จิ​่น​เกอ​เสียง​เบา​ด้วย​สีหน้า​ที่​อ่อนโยน​ ​จิ​่น​เกอ​หยุด​ร้องไห้​ทันที​ ​จากนั้น​ก็​ชี้​ไป​ที่​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยอย​่าง​สะอึกสะอื้น​

​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​หน้าแดง​ ​“​พี่​สอง​ขอรับ​ ​ข้า​…​ข้า​กำลัง​เล่น​กับ​น้อง​หก​ขอรับ​!​”​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​ยื่น​กล่อง​กระจก​ให้​จิ​่น​เกอ​

​จิ​่น​เกอ​ยิ้ม​แล้ว​ถือ​กล่อง​กระจก​มาก​อด​ไว้​ใน​อ้อมแขน​อย่างรวดเร็ว​

​สวี​ซื่อ​อวี​้​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้ว​พูด​เบา​ๆ​ ​“​น้อง​หก​ยัง​เล็ก​ ​ไม่รู้​ความ​ ​เจ้า​เป็น​พี่​ ​ต้อง​ยอม​เขา​บ้าง​”

​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​้​มห​น้า​ก้ม​ตา​แล้ว​ขานรับ​ ​“​ขอรับ​”​ ​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​เหลือบมอง​สือ​อี​เหนียง​ ​เมื่อ​เห็น​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ให้​เขา​อย่าง​แผ่วเบา​ ​เขา​ก็​ยิ้ม​มุม​ปาก​ด้วย​สีหน้า​ดีใจ​ ​จากนั้น​ก็​ขานรับ​ ​“​ขอรับ​”​ ​เสียงดัง​อีกครั้ง

​สวี​ซื่อ​อวี​้​ยิ้ม​อย่าง​แผ่วเบา​

​“​คุย​กับ​ท่าน​โหว​เสร็จ​แล้ว​หรือ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​เข้าไป​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ ​“​ทำไม​ท่าน​โหว​ไม่​กลับมา​ด้วย​เล่า​”

​อาจจะ​เป็นเพราะว่า​สวี​ซื่อ​อวี​้​ช่วย​ปลอบประโลม​จิ​่น​เกอ​ ​จิ​่น​เกอ​เลย​บิด​ตัว​มุด​เข้าไป​ใน​อ้อมแขน​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​เหมือนเดิม​

​สือ​อี​เหนียง​และ​สวี​ซื่อ​อวี​้​พลัน​ตกตะลึง​ ​หันมา​มองหน้า​กัน​ทันที​

​สีหน้า​ของ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ตึงเครียด​ ​เขา​รีบ​พูด​ ​“​ใต้เท้า​หวัง​มา​ ​ท่าน​พ่อ​จึง​ออก​ไป​ลาน​ข้างนอก​ขอรับ​”​ ​ราวกับ​กำลัง​ปิดบัง​อะไร​บางอย่าง​ ​รีบ​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​ท่าน​พ่อ​มอบ​สี่​สิ่งล้ำค่า​แห่ง​ห้อง​ตำรา​ให้​ข้า​ ​อวยพร​ให้​ข้า​สอบผ่าน​ระดับ​ราชสำนัก​ของ​ปีหน้า​อย่างราบรื่น​!​”​ ​พูด​จบ​ ​เขา​ก็​ตบหลัง​จิ​่น​เกอ​เบา​ๆ

​จิ​่น​เกอ​เงยหน้า​ขึ้น​ ​ยก​กล่อง​กระจก​ใน​มือขึ้น​ให้​มารดา​ดูแล​้​วร​้​อง​ ​“​แอ​๊​ๆ​”​ ​ราวกับ​จะ​พูดว่า​ ​‘​ท่าน​แม่​ดูก​ล่อง​กระจก​ของ​ข้า​สิ​’

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​ลูบ​หัว​เขา​เบา​ๆ

​“​เช่นนั้น​ก็ดี​!​”​ ​นาง​มอง​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​“​ช่วงนี้​เจ้า​ตั้งใจ​อ่านหนังสือ​ ​ต้อง​สอบ​ระดับ​ราชสำนัก​ผ่าน​แน่นอน​”

​สวี​ซื่อ​อวี​้​พยักหน้า

​จากนั้น​ก็​มีสาว​ใช้​เข้ามา​รายงาน​ ​“​คุณชาย​น้อย​ใหญ่​ ​คุณหนู​ใหญ่​ ​และ​คุณชาย​น้อย​สาม​มา​เจ้าค่ะ​!​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท