ตอนที่ 481 สุดยอดสวรรค์ขั้นเก้า เขตหวงห้ามสุญญะแปดทิศ!
หนิงฝานเริ่มเรียกใช้คัมภีร์โบราณของจักรพรรดิเซียน ผลึกเต๋าตรงหน้าพลันกลายเป็นพายุมหาวิถีที่ลุกโชน พุ่งเข้าสู่ร่างกายอย่างบ้าคลั่ง รากฐานการบ่มเพาะของเขาเริ่มเร่งความเร็วจนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
ขั้นกลางของกึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นแปด!
ขั้นสูงของกึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นแปด!
ขั้นสุดยอดของกึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นแปด!
…
ผลึกเต๋าห้าพันล้านก้อน พลังเต๋าที่อยู่ข้างในพวกมันน่าสะพรึงยิ่ง มากพอจะให้หนิงฝานดูดกลืนมาหลายปี!
สิบปี!
ยี่สิบปี!
ห้าสิบปี!
ห้าสิบปีผ่านไปในพริบตา!
หลังจากผ่านไปห้าสิบปี หนิงฝานดูดกลืนผลึกเต๋าทั้งสิ้นห้าพันล้านก้อน!
หลังจากผลึกเต๋าห้าพันล้านก้อนเข้าสู่ร่างกาย รากฐานการบ่มเพาะของหนิงฝานไปถึงขั้นสุดยอดของกึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นเก้า!
“เป็นไปได้หรือไม่ว่า ความมั่งคั่งคือกฎเกณฑ์ของคู่รักในโลกการบ่มเพาะ ความมั่งคั่งจึงสำคัญยิ่งกว่า!”
หลังจากฝึกฝนเสร็จสิ้น หนิงฝานอดที่จะถอนหายใจอย่างมีอารมณ์ไม่ได้!
หากทำการฝึกฝนทีละขั้น จนอยากไปถึงขั้นสุดยอดของกึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นเก้า ต้องใช้เวลาอย่างต่ำสามร้อยปี ตอนนี้ด้วยความช่วยเหลือของผลึกเต๋าห้าพันล้านก้อน จึงใช้เวลาเพียงห้าสิบปีเท่านั้น!
สำหรับหนิงฝาน ถึงแม้รากฐานการบ่มเพาะจะไปถึงขั้นสุดยอดของกึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นเก้า พลังต่อสู้ของเขาจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงสะเทือนปฐพี!
ตอนนี้เขามั่นใจแล้ว ถ้าหากพบใครบางคนที่แข็งแกร่งเท่ากับชายวัยกลางคนในชุดคลุมสีหมึกผู้เข้าสู่ระดับตระหนักวิถี แม้จะไม่มีความช่วยเหลือของเยี่ยชิงเอ๋อร์ เขาก็สามารถสังหารได้ด้วยตัวเอง!
ใช่แล้ว!
หนิงฝานในวันนี้เติบโตจนถึงระดับน่าสะพรึงที่เขาสามารถต่อสู้กับยอดฝีมือขอบเขตรู้แจ้งคนอื่นได้!
“คนอื่นจะเป็นยังไงบ้างนะ?”
เมื่อไม่มีผลึกเต๋า หนิงฝานจึงเลิกเก็บตัว เมื่อเขาออกสู่โลกภายนอก จึงพบเหลยเหมิง ซวีคุนและคนอื่นที่ออกจากการเก็บตัวมาหลายปีแล้ว!
หลักจากเก็บตัวมาหลายปี รากฐานการบ่มเพาะของทุกคนมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก!
เหลยเหมิง ซวีคุนและจินเลี่ยไปถึงขั้นสุดยอดของกึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นเก้า ส่วนฝูเทียนและฉู่ลิ่วเจี๋ยไปถึงขอบเขตครึ่งก้าวรู้แจ้งในอึดใจเดียว!
โดยเฉพาะฝูเทียน ในฐานะร่างกายที่มีมหาวิถีต้องห้ามกับมหาวิถีจิตใจ เขาจึงถูกเรียกว่าไร้เทียมทานในขอบเขตครึ่งก้าวรู้แจ้ง!
ตู้ม!
เมื่อหนิงฝานรู้สึกซาบซึ้งในตัวทุกคน กลิ่นอายน่าสะพรึงพลันผุดขึ้นจากห้องโถงใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลนัก พลังงานไร้ที่สิ้นสุดรวมตัวเป็นบงกชฟ้าในความว่างเปล่าทันที แสงสีฟ้าไร้พรมแดนสาดส่อง ทำให้ค่ายที่มั่นของศาลาตรวจตราส่องสว่าง!
วิ้ง!
ลมหายใจต่อมา สิ่งที่น่าประหลาดใจยิ่งกว่า คือบงกชฟ้าเริ่มเบ่งบานช้า ๆ เผยร่างในชุดสีฟ้า ในเวลาเดียวกันกลิ่นอายน่าสะพรึงที่เป็นของขอบเขตรู้แจ้งได้แผ่กระจายออกไป!
ตู้ม!
ในท้ายที่สุด เมื่อบงกชฟ้าบานสะพรั่งอย่างเต็มที่ กลิ่นอายแห่งการรู้แจ้งไปถึงจุดสูงสุดเช่นกัน!
เมื่อมองจากไกล ๆ บงกชฟ้าขนาดใหญ่เบ่งบานระหว่างสวรรค์และปฐพี พยายามประคับประคองสวรรค์และปฐพีเอาไว้!
“โห! ขอบเขตการรู้แจ้ง!”
เมื่อเห็นฉากนี้ ผู้คนนับไม่ถ้วนตกตะลึง แม้กระทั่งสายตาของหนิงฝานยังทอประกายไร้ที่สิ้นสุด!
ฟ้าว!
เมื่อภาพของบงกชฟ้าหายไป ร่างในชุดสีฟ้าวูบไหว เยี่ยชิงเอ๋อร์ออกมาหาพวกหนิงฝาน
“ยินดีด้วยที่แม่นางชิงเอ๋อร์ไปถึงขอบเขตรู้แจ้ง!”
ตอนนี้ หนิงฝานแสดงความยินดี เหลยเหมิงและพวกซวีคุนที่อยู่ด้านหลังประสานมือให้เช่นกัน!
เยี่ยชิงเอ๋อร์ยิ้มหวานออกมา “เรื่องนี้ต้องขอบคุณฝานหวังสำหรับหินมหาวิถี ถ้าไม่ใช่เพราะหินมหาวิถี ต่อให้มีเวลาอีกสามพันปี ข้าก็ไม่สามารถเข้าสู่อีกขอบเขตของการรู้แจ้งได้หรอก!”
“แม่นางชิงเอ๋อร์สุภาพเกินไปแล้ว เป็นเพราะพรสวรรค์ไร้ที่ติของแม่นางชิงเอ๋อร์ต่างหาก!” หนิงฝานว่าพลางยิ้ม
ฟ้าว!
ขณะทั้งสองสนทนา ร่างหนึ่งวูบไหวอีกครั้ง ผมขาวชุดคลุมสีดำ เป็นซวินหวังนั่นเอง!
ทันทีที่ซวินหวังมาถึง เขาชำเลืองมองเยี่ยชิงเอ๋อร์ ดวงตาทอประกายเจิดจ้า “สมกับเป็นลูกหลานในตำนานของจักรพรรดิชิง บรรลุถึงขอบเขตรู้แจ้งได้ด้วยอายุเท่านี้ ดูท่าเจ้าจะถูกคาดหวังให้บรรลุขอบเขตวิถีขีดสุดและแม้กระทั่งได้แข่งขันเพื่อโชคชะตาเดียวในอนาคต!”
“ท่านซวินหวังชมเกินไปแล้ว ความสามารถของข้าจะไปมีโชคชะตาเช่นนั้นได้อย่างไร!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เยี่ยชิงเอ๋อร์ก็ยิ้มอย่างสุภาพออกมา
หลังจากกล่าวเช่นนี้ ซวินหวังเพียงส่ายหน้าและไม่กล่าวอะไรอีก ก่อนจะหันไปมองหนิงฝานอีกครั้ง
เมื่อเห็นเช่นนี้ เขาก็ตกตะลึงไปเล็กน้อย!
ถึงแม้หนิงฝานจะแผ่กลิ่นอายขอบเขตกึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นเก้าออกมาเท่านั้น แต่กลับทำให้ยอดฝีมือขอบเขตตระหนักวิถีรู้สึกถึงอันตรายร้ายแรง เรื่องเช่นนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!
ตู้ม!
ลมหายใจต่อมา ดวงตาทอประกาย เขาชำเลืองมองหนิงฝานด้วยพลังอันน่าสะพรึงที่เป็นของระดับตระหนักวิถี!
เมื่อเห็นเช่นนี้ หนิงฝานไม่แตกตื่นแต่อย่างใด ขณะทั่วร่างสั่นไหว จิตกระบี่อันน่าพรั่นพรึงพลุ่งพล่าน แล้วจิตกระบี่ก็รวมตัวเป็นกระบี่เล่มหนึ่ง สำแดงพลังโจมตีฟาดฟันในทันที!
ปัง!
เสียงระเบิดดังกึกก้อง พลังทั้งสองสลายไปเหนือความว่างเปล่า!
“หนิงฝาน พลังต่อสู้ของเจ้าร้ายกาจนัก!”
เมื่อเห็นเช่นนี้ ซวินหวังอดที่จะถอนหายใจไม่ได้!
ต้องรู้ก่อนว่า เขาก้าวเข้าสู่ขอบเขตรู้แจ้งเมื่อใดไม่ทราบ ถึงแม้จะใช้พลังเพียงครึ่งเดียวเพื่อทำการโจมตีเมื่อครู่ แต่มันมากพอที่จะเอาชนะยอดฝีมือขอบเขตรู้แจ้งอย่างเยี่ยชิงเอ๋อร์ได้!
แต่ตอนนี้ หนิงฝานผู้อยู่เพียงขั้นสุดยอดของกึ่งราชันจักรพรรดิสวรรค์ขั้นเก้าก็สามารถเอาชนะได้อย่างง่ายดาย!
พลังต่อสู้นี้… น่าตกตะลึงยิ่งนัก!
“กลายเป็นว่าคนที่เลื่อนขั้นมากที่สุดในหมู่พวกเราก็คือฝานหวังนี่เอง!” ตอนนี้ เยี่ยชิงเอ๋อร์อดที่จะเดาะลิ้นไม่ได้!
ถึงแม้นางไม่อยากยอมรับ แต่ก็รู้ทันทีว่า ตอนเผชิญหน้ากับหนิงฝานเมื่อครู่ โอกาสที่ชนะนั้นมีน้อยนัก!
“นายท่านคู่ควรกับคำว่านายท่านเสียจริง!”
“สมแล้วที่นายท่านเป็นผู้นำ!”
“ลูกพี่หนิงฝานแข็งแกร่งไร้เทียมทาน!”
“…”
เหลยเหมิงและพวกซวีคุนตื่นเต้นยิ่งกว่า ราวกับหนิงฝานไม่ใช่ผู้ไร้เทียมทาน แต่เป็นพวกเขา
“หึหึ แค่เรื่องเล็กน้อย ไม่ควรค่ากล่าวถึงหรอก!”
เมื่อได้รับคำชมจากทุกคน หนิงฝานเพียงยิ้มถ่อมตัว เมื่อเห็นว่าทุกคนอยากชื่นชมอีก จึงหันไปมองซวินหวัง ถามว่า “ท่านซวินหวัง เพราะเหตุผลส่วนตัวของข้า ทำให้ต้องมุ่งสู่ดินแดนสุดท้ายโดยไว ข้าสงสัยว่าท่านซวินหวังพอจะบอกพิกัดของเส้นทางข้างหน้าได้หรือไม่?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซวินหวังก็ยิ้มออกมา “หนิงฝาน ไม่ต้องห่วง ข้ามาที่นี่ก็เพราะเรื่องนี้แหละ!”
“เอาเช่นนี้แล้วกัน เจ้ามากับข้า เดินไปคุยไปดีกว่า!”
ฟ้าว!
ซวินหวังบินออกจากเมืองไปพร้อมกับหนิงฝาน เยี่ยชิงเอ๋อร์ เหลยเหมิงและพวกซวีคุน!
ระหว่างทาง ซวินหวังกล่าวว่า “ทุกท่าน ใครก็ตามที่ประสบกับเส้นทางราชันจักรพรรดิ แล้วอยากก้าวเข้าสู่ดินแดนสุดท้าย แต่ก่อนจะได้เห็นดินแดนสุดท้าย พวกเจ้าต้องผ่านบททดสอบด่านที่หนึ่งร้อยเสียก่อน!”
“เท่าที่พวกข้าทราบ เส้นทางราชันจักรพรรดิถูกแบ่งออกเป็นหนึ่งร้อยแปดด่าน สิ่งที่เรียกว่าบททดสอบด่านที่หนึ่งร้อย เรื่องนี้จะข้องเกี่ยวกับแปดด่านสุดท้าย พูดให้ถูกก็คือแปดด่านสุดท้ายไม่ถือเป็นเส้นทางราชันจักรพรรดิ แต่เป็นเขตหวงห้ามสุญญะแปดทิศ มีเพียงก้าวผ่านเขตหวงห้ามสุญญะแปดทิศเท่านั้น จึงจะได้พบเจอกับดินแดนสุดท้าย!”
“เขตหวงห้ามสุญญะแปดทิศ อาจจะถูกเรียกว่าเขตหวงห้ามที่หนึ่ง เขตหวงห้ามที่สอง เขตหวงห้ามที่สาม… จนกระทั่งถึงเขตหวงห้ามที่แปด! เขตหวงห้ามยิ่งสูงยิ่งอันตราย ยิ่งสูงยิ่งน่าสะพรึง ถึงขั้นมีหลายพื้นที่ที่แม้แต่ยอดฝีมือขอบเขตรู้แจ้งก็สูญสิ้นชีวิตหากเข้าไป!”