ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 545 สงสัย (ต้น)

ตอนที่ 545 สงสัย (ต้น)

​จิ​่น​เกอ​ส่ง​ยิ้ม​กว้าง​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ ​ใน​ปาก​ยัง​มี​เค้ก​ข้าวสาลี​ที่​ยัง​เคี้ยว​ไม่​หมด

​ไท่ฮู​หยิน​ไม่สน​ใจ​เรื่อง​นี้​ ​หอม​แก้ม​เขา​ไป​สอง​ที

​รู้สึก​ได้​ว่า​ท่าน​ย่า​ชอบ​เขา​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​ยิ้ม​จน​ตาหยี

​“​มา​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ลากเสียง​ยาว​ ​“​เรียก​ข้าว​่า​ท่าน​ย่า​สิ​!​”

​จิ​่น​เกอ​เรียก​ ​“​ท่าน​ย่า​”​ ​แต่​ไม่​ค่อย​ชัด

​ไท่ฮู​หยิน​ได้ยิน​ดังนั้น​ก็​ยิ้ม​จน​ตาหยี​ ​รีบ​กำชับ​ป้า​ตู้​ ​“​เร็ว​ ​ไป​นำ​กำไล​หิน​โมรา​แดง​ของ​ข้า​ที่อยู่​ใน​ลิ้นชัก​กระจก​มา​ใส่​ให้​คุณชาย​น้อย​หก​ ​นั่น​เป็น​ของ​ที่​ตอนที่​ข้า​ยัง​เด็ก​เจ้าอาวาส​วัด​ฉือ​หยวน​ซึ่ง​เป็น​อาจารย์​ของ​ไต้​ซือ​จี้​หนิง​ปลุกเสก​ให้​ ​เอา​มา​ใส่​ให้​จิ​่น​เกอ​ของ​พวกเรา​ ​คุ้มครอง​ให้​เขา​แคล้วคลาด​ปลอดภัย​!​”

​“​ท่าน​แม่​ ​ของ​สิ่ง​นี้​มีค่า​เกินไป​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​รีบ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​เขา​ยัง​เป็น​เด็ก​ ​หาก​ท่าน​อยาก​จะ​มอบให้​เขา​ ​ก็​รอ​ให้​เขา​โต​อีก​สักหน่อย​แล้ว​ค่อย​มอบให้​ก็​ยัง​ไม่​สาย​”

​ไท่ฮู​หยิน​ลูบ​ศีรษะ​จิ​่น​เกอ​ที่นั่ง​ทาน​เค้ก​ข้าวสาลี​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​นาง​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ตอน​โตก​็​มี​ของขวัญ​สำหรับ​ตอน​โต​ที่จะ​มอบให้​ ​ตอน​เด็ก​ก็​มี​ของขวัญ​สำหรับ​ตอน​เด็ก​ที่จะ​มอบให้​”​ ​ไม่เห็นด้วย​กับ​ข้อเสนอ​ของ​สือ​อี​เหนียง​ ​จากนั้น​ก็​สอน​สือ​อี​เหนียง​ ​“​วัน​ๆ​ ​เอาแต่​บ่นว่า​จิ​่น​เกอ​ของ​พวกเรา​ไม่ยอม​พูด​ ​เจ้า​ดู​สิ​ ​ตอนนี้​เขา​ก็​พูด​แล้ว​ไม่ใช่​หรือ​ ​ข้า​เคย​บอก​เจ้า​แล้ว​ว่า​อย่า​รีบร้อน​ ​เจ้า​ก็​ไม่ยอม​ฟัง​ ​วัน​ๆ​ ​เอาแต่​เร่งเร้า​ให้​ลูก​พูด​ ​หาก​ใจร้อน​เกินไป​จะ​ไม่ได้​ทาน​เต้าหู้​ร้อน​ ​ทุกอย่าง​ล้วน​มี​ขอบเขต​ของ​มัน​ ​เมื่อถึง​เวลา​ที่​เขา​ควร​พูด​ก็​ย่อม​พูด​ออกมา​เอง​”​ ​แล้ว​พูด​ต่อ​อีกว่า​ ​“​โบราณ​กล่าว​ไว้​ว่านก​ที่​ปกติ​ไม่ยอม​ร้อง​ ​พอ​ร้อง​เพียง​ครั้ง​เดียว​ก็​ทำให้​คน​ตกตะลึง​ ​ดู​จิ​่น​เกอ​ของ​พวกเรา​สิ​ ​พอ​เอ่ยปาก​พูด​ ​ก็​พูด​เป็น​ประโยค​เลย​ ​เหมือน​เด็ก​ทั่วไป​เสียที​่​ไหน​กัน​”​ ​ขณะที่​พูด​ใน​ใจ​ก็​ปิติยินดี​เป็นอย่างมาก​จึง​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​ขึ้น​มา​หอม​แก้ม​อีก​สอง​ที

​สวี​ลิ่ง​อี๋​กับ​สือ​อี​เหนียง​เพียงแต่​ยิ้มอยู่​ข้างๆ​ ​ส่วน​จิ​่น​เกอ​ก็​ทาน​ขนม​อย่าง​เอร็ดอร่อย​ ​พอ​ถูก​ไท่ฮู​หยิน​รบกวน​เขา​ก็​ส่งเสียง​งอแง​เล็กน้อย

​ไท่ฮู​หยิน​รีบ​ปล่อย​เขา​ลง​ ​“​เจ้า​กิน​เค้ก​ข้าวสาลี​ไป​เถิด​ ​ท่าน​ย่า​ไม่​กวน​เจ้า​แล้ว​”​ ​จากนั้น​ก็​อด​ถาม​ไม่ได้​ว่า​ ​“​เค้ก​ข้าวสาลี​ทำ​สด​ใหม่​นี้​อร่อย​หรือไม่​”

​จิ​่น​เกอ​รีบ​พยักหน้า

​ไท่ฮู​หยิน​หันไป​บอก​กับ​อวี​้​ป่าน​ ​“​เร็ว​เข้า​ ​ไป​นำ​ข้าวสาลี​อีก​เกือบ​ครึ่ง​ถุง​ที่​ได้รับ​พระราชทาน​มาจาก​ใน​วัง​มา​ให้ฮู​หยิน​สี่​”

​อวี​้​ป่าน​รับคำ​แล้ว​ถอย​ออก​ไป

ใน​จวน​ยัง​มีฮู​หยิน​ห้า​อยู่​ด้วย

​สือ​อี​เหนียง​กำลังจะ​ปฏิเสธ​ ​ป้า​ตู้​ก็​ยิ้ม​พลาง​ถือ​กล่อง​ไม้​แกะสลัก​สีแดง​เดิน​เข้ามา

​ไท่ฮู​หยิน​รีบ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​เอา​มา​ให้​ข้า​!​”​ ​จากนั้น​ก็​หยิบ​กำไล​หิน​โมรา​ขนาด​เท่า​ไข่​นก​พิราบ​ออกมา

​หาก​ใส่​ไว้​ที่​มือ​จะ​ใหญ่​เกินไป​ ​จะ​แขวน​ไว้​ที่​คอก​็​เล็ก​เกินไป

​ไท่ฮู​หยิน​เห็น​ดังนั้น​ก็​กำชับ​ป้า​ตู้​ ​“​ไป​นำ​สร้อย​ลาย​มังกร​เส้น​นั้น​ของ​ข้ามา​ใส่​ให้​คุณชาย​น้อย​หก​”

​ป้า​ตู้​หันไป​หยิบ​สร้อยคอ​สีทอง​มา​ ​สร้อยคอ​เส้น​นั้น​มี​ขนาด​เท่า​หัวแม่มือ​เล็ก​ๆ​ ​ของ​เด็กน้อย​ ​สลักลาย​เกล็ด​มังกร​อย่างประณีต​ ​ภายใน​ห้อง​ไม่ได้​มีแสง​สว่าง​มาก​นัก​ ​แต่​ราวกับ​ทะเลสาบ​ที่​ถูก​แสงส่อง​เป็นประกาย​ระยิบระยับ​ก็​ไม่​ปาน

​จู่ๆ​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​นึกถึง​ปลอกคอ​สุนัข​…

​นาง​รีบ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ให้​ข้า​ถัก​โซ่​ให้​จิ​่น​เกอ​ดี​หรือไม่​เจ้า​คะ​”​ ​ปฏิเสธ​อย่าง​อ้อมค้อม

​ไท่ฮู​หยิน​ถือ​สร้อย​ไว้​ใน​มือ​ ​คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ก็ดี​เหมือนกัน​ ​สร้อย​เส้น​นี้​แกะสลัก​ลวดลาย​ ​อาจจะ​บาด​มือ​ได้​ ​เดี๋ยว​จะ​ทิ่ม​คอ​จิ​่น​เกอ​ของ​พวกเรา​ ​เจ้า​ถัก​โซ่​สวย​ๆ​ ​ให้​เขา​ ​จากนั้น​ก็​ร้อย​กำไล​หิน​โมรา​แดง​ให้​เขา​ใส่​”

​สือ​อี​เหนียง​รีบ​รับคำ​ ​“​เจ้าค่ะ​”

​ไท่ฮู​หยิน​นำ​สร้อย​เส้น​นั้น​ใส่​ลง​ใน​กล่อง​ไม้​แกะสลัก​สีแดง​ที่​ใส่​กำไล​หิน​โมรา​แดง​อยู่​ ​แม้ว่า​สร้อย​เส้น​นี้​จะ​ไม่ได้​ใช้​ ​แต่​ก็​มอบ​เป็น​รางวัล​ให้​จิ​่น​เกอ​เช่นกัน

​“​ท่าน​แม่​!​”​ ​ครั้งนี้​แม้แต่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​รู้สึก​ว่า​ให้​มากเกินไป​แล้ว​ ​“​จิ​่น​เกอ​อยู่​ใน​วัย​กำลัง​ซน​ ​ระวัง​เขา​จะ​ทำ​หาย​ขอรับ​”

​“​เหลวไหล​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ของ​ใน​ห้อง​จะ​หาย​ได้​อย่างไร​ ​เช่นนั้น​จะ​มีบร​รดา​ป้า​รับใช้​และ​สาวใช้​ของ​เขา​ไว้​ทำไม​…​”

​ขณะที่​ไท่ฮู​หยิน​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​กำลัง​พูดคุย​กัน​อยู่​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​จ้องมอง​ไป​ยัง​สร้อย​สีทอง​สว่างไสว​ที่​วาง​อยู่​ใน​กล่อง​ไม้​แกะสลัก​สีแดง​บุด​้ว​ยกำ​มะ​หยี่

​เขา​โยน​เค้ก​ข้าวสาลี​ใน​มือ​ลง​บน​เตียง​เตา​แล้วไป​คว้า​สร้อย​เส้น​นั้น​มา

​สร้อย​ถูก​ลาก​ออกจาก​กล่อง​มา​อยู่​ใน​มือ​ของ​จิ​่น​เกอ

​ข้างใน​ห้อง​มีเสียง​สิ่งของ​กระทบ​กัน​เบา​ๆ​

​ไท่ฮู​หยิน​ก้มหน้า​มาม​อง

​จิ​่น​เกอ​กำลัง​ออกแรง​ดึง​สร้อยทอง​เส้น​นั้น

​ไท่ฮู​หยิน​หัวเราะ​เสียงดัง​ ​“​ดึง​ไม่ได้​นะ​ ​ดึง​ไม่ได้​นะ​!​”

​จิ​่น​เกอ​เงยหน้า​มอง​ไท่ฮู​หยิน​ ​แววตา​เป็นประกาย​ ​น่ารักน่าชัง​เป็นอย่างมาก

​ไท่ฮู​หยิน​ให้​อวี​้​ป่าน​บิด​ผ้า​ชุบ​น้ำ​หมาดๆ​ ​มา​เช็ดมือ​ให้​จิ​่น​เกอ​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ระวัง​หาก​ดึง​จน​ขาด​ ​จิ​่น​เกอ​ก็​จะ​ไม่มี​ใส่​แล้ว​!​”

​จิ​่น​เกอ​กลับ​พยายาม​ลุกขึ้น​จาก​อ้อมแขน​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​นำ​สร้อยทอง​ทาบ​ไว้​บน​คอ​ของ​ไท่ฮู​หยิน

​ไท่ฮู​หยิน​ชะงัก​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​เผย​ให้​เห็น​รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า

​“​ไอ​๊​หยา​!​ ​จิ​่น​เกอ​ของ​ข้า​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​กอด​หลาย​ชาย​ ​“​จะ​สวม​สร้อย​ให้​ย่า​หรือ​!​”

​จิ​่น​เกอ​ยิ้ม​พลาง​มอง​ไท่ฮู​หยิน

​“​เห็น​หรือไม่​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​หันกลับ​ไป​มอง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​จิ​่น​เกอ​ของ​พวกเรา​ไม่ใช่​เด็ก​ที่​พอ​ถูก​เอาใจ​แล้ว​จะ​ไม่รู้​จัก​ที่ต่ำที่สูง​ ​เจ้า​มี​อะไร​ต้อง​กังวล​อีก​ ​เอาล่ะ​ ​ไม่ต้อง​พูด​เรื่อง​นี้​แล้ว​ ​ป้า​ตู้​ ​เจ้า​นำ​ของ​เหล่านี้​ไป​เก็บ​ให้​คุณชาย​น้อย​หก​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ทำได้​เพียง​ก้มหน้า​รับคำ​ ​“​ขอรับ​”​ ​ส่วน​สือ​อี​เหนียง​ก็​ยิ้ม​เจื่อน​ๆ​

ฮู​หยิน​ห้า​พาซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​กับ​เซิน​เกอ​มาคา​รวะ​ ​เหลือบ​ไป​เห็น​กล่อง​ที่​วาง​อยู่​บน​โต๊ะ

​ทันใดนั้น​นาง​ก็​ดึง​แขน​เสื้อ​ไท่ฮู​หยิน​พลาง​ออดอ้อน​ ​“​ท่าน​มอบ​ของดี​ให้​จิ​่น​เกอ​อีกแล้ว​หรือ​ ​เซิน​เกอ​ของ​พวกเรา​ก็​อยากได้​เหมือนกัน​!​”

​“​เจ้า​นี่​ช่าง​ขี้​งก​เสีย​จริง​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​พลาง​บิด​หูฮู​หยิน​ห้า​เบา​ๆ​ ​“​เจ้า​วางใจ​เถิด​ ​พอ​เซิน​เกอ​เริ่ม​พูด​เมื่อไร​ ​ข้า​ก็​มี​ให้​เช่นกัน​”

​ ​“​จิ​่น​เกอ​พูด​ได้​แล้ว​หรือ​!​”​ ฮู​หยิน​ห้า​สีหน้า​เต็มไปด้วย​ความประหลาดใจ​ ​“​ยิน​ด้วย​เจ้าค่ะ​พี่​สี่​ ​ยินดี​ด้วย​พี่สะใภ้​สี่​”​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​พลาง​มอง​จิ​่น​เกอ​ ​“​จิ​่น​เกอ​ ​เจ้า​รู้​หรือไม่​ว่า​ข้า​คือ​ใคร​ ​ข้า​คือ​อาสะใภ้​ห้า​ของ​เจ้า​!​”

​สือ​อี​เหนียง​บอก​จิ​่น​เกอ​ ​“​เรียก​อาสะใภ้​ห้า​สิ​”

​“​อาสะใภ้​ห้า​!​”​ ​จิ​่น​เกอ​พูดเสี​ยง​ดัง​ฟัง​ชัด

ฮู​หยิน​ห้า​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​พูด​ด้วย​ความประหลาดใจ​ ​“​เด็ก​คน​นี้​ ​พลังงาน​เหลือล้น​เสีย​จริง​!​”

​“​นั่น​น่ะ​สิ​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ท่าทาง​ภูมิใจ​ ​“​ข้า​จำได้​ว่า​ตอน​เจ้า​สี่​ยัง​เด็ก​ ​ก็​ไม่​สูง​เท่า​จิ​่น​เกอ​…​”

​“​เช่นนั้น​ก็​แสดงว่า​ค่อยๆ​ ​พัฒนา​ขึ้น​ทีละ​รุ่น​!​”​ ฮู​หยิน​ห้าม​อง​สวี​ลิ่ง​อี๋​พลาง​ปิดปาก​หัวเราะ

​ทุกคน​ต่าง​ก็​พากัน​หัวเราะ​ ​บรรยากาศ​ครึกครื้น​เป็นอย่างมาก​ ​จนกระทั่ง​พ่อบ้าน​ไป๋​มา​เชิญ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไป​ทำ​ธุระ​ที่​เรือน​นอก​ ​ทุกคน​จึง​ได้​แยกย้าย​กัน​ไป

​ป้า​สือ​กระซิบ​เตือนฮู​หยิน​ห้า​ ​“​ท่าน​พูด​คำ​นี้​ออกมา​เร็ว​เกินไป​ ​ขอ​ของรางวัล​ต่อหน้าฮู​หยิน​สี่​เช่นนี้​ ​ใน​ใจฮู​หยิน​สี่​จะ​คิด​อย่างไร​เจ้า​คะ​”

ฮู​หยิน​ห้า​ไม่​คิด​เช่นนั้น​ ​“​พี่สะใภ้​สี่​นับว่า​เป็น​คนซื่อ​สัตย์​ ​ข้า​พูด​กับ​นาง​อย่างชัดเจน​เช่นนี้​ ​นาง​จะ​ได้​ไม่ถือสา​ข้า​ ​ข้า​ไม่​อยาก​หลบ​ๆ​ ​ซ่อน​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​ไป​นั่ง​รู้สึก​ไม่ดี​อยู่​ที่​เรือน​คนเดียว​”​ ​พูด​พลาง​หัวเราะ

​ป้า​สือ​เห็น​ว่าที่​นาง​พูด​ก็​มีเหตุผล​จึง​พยักหน้า​เบา​ๆ​ ​ไม่ได้​พูด​อะไร​อีก​ ​เรียก​สาวใช้​มาป​รน​นิ​บัติฮู​หยิน​ห้า​เปลี่ยนเสื้อ

​ชิว​อวี​่​นำ​ข้าวสาลี​สด​ใหม่​มาส​่ง

​“​ใน​วัง​พระราชทาน​ให้​ไท่ฮู​หยิน​มา​หนึ่ง​ถุง​ ฮู​หยิน​ของ​พวกเรา​แบ่ง​ไป​ส่วนหนึ่ง​ ​แล้ว​ให้​บ่าว​นำ​ส่วน​นี้​มา​ให้​เจ้าค่ะ​”​ ​คำพูด​คลุมเครือ​เช่นนี้​ไม่​สามารถ​ปิดบัง​คนฉลาด​อย่างฮู​หยิน​ห้า​ได้​ ​ป้า​สือ​ขอบคุณ​และ​ให้รางวัล​ชิว​อวี​่​ ​เมื่อ​ส่ง​ชิว​อวี​่​ไป​แล้วฮู​หยิน​ห้า​ก็​เบ้​ปาก​พูดว่า​ ​“​หาก​ไท่ฮู​หยิน​เป็น​คน​มอบให้​ ​ยอมให้​อวี​๋​ป่าน​นำมา​ส่ง​…​นับว่า​นาง​อยู่​เป็น​!​”​ ​ขณะที่​พูด​ก็​ยก​มุม​ปาก​ขึ้น​ ​กำชับ​ป้า​สือ​ว่า​ ​“​นำ​ใบบัว​ตากแห้ง​ใน​ฤดูร้อน​ปี​ที่แล้ว​มา​ ​ไป​แช่น้ำ​แล้ว​เอา​ไป​นึ่ง​ทำ​เค้ก​ข้าวสาลี​ใบบัว​ ​แล้ว​นำ​ไป​ส่ง​ให้​ไท่ฮู​หยิน​กับฮู​หยิน​สี่​”

​ป้า​สือ​ขานรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​แล้วไป​ทำ​เค้ก​ข้าวสาลี​ใบบัว

​สือ​อี​เหนียง​เอง​ก็​ทำ​เค้ก​ข้าวสาลี​ใบบัว​เช่นกัน​ ​นอกจาก​จะ​ส่ง​ให้​ไท่ฮู​หยิน​แล้ว​ ​ยัง​ส่ง​ไป​ที่​ตรอก​กง​เสียน​กับ​ตรอก​ซาน​จิ​่​งด​้วย​ ​พวก​เด็ก​ๆ​ ​กินกัน​อย่าง​เอร็ดอร่อย​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยพูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ฤดูร้อน​ปีนี​้​ข้า​จะ​ช่วย​ท่าน​ตาก​ใบบัว​!​”

​สวี​ซื่อ​อวี​้​เสนอ​ความคิดเห็น​ ​“​เพิ่ม​ใบ​เอม​ลง​ไป​ด้วย​จะ​ยิ่ง​อร่อย​!​”

​“​เอา​สิ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า​ ​นำ​โซ่​ลาย​ค้างคาว​หลาก​สีมา​ทาบ​ที่​อก​ของ​จิ​่น​เกอ​ ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​พวกเรา​ก็​เหลือ​แป้งสาลี​ไว้​ ​ทำ​ทั้ง​เค้ก​ข้าวสาลี​ใบบัว​และ​เค้ก​ข้าวสาลี​ใบ​เอม​อย่าง​ละ​นิด​ละ​หน่อย​!​”

​สวี​ซื่อ​จุน​สงสัย​ ​ถาม​สือ​อี​เหนียง​ ​“​ท่าน​แม่​กำลัง​ทำ​อะไร​หรือ​ขอรับ​ ​ทำไม​ถึง​ต้อง​ถัก​โซ่​ให้​น้อง​หก​ด้วย​”

​เมื่อ​พิจารณา​ถึง​ความสวยงาม​ ​สือ​อี​เหนียง​ตัดสินใจ​ทำ​เสื้อกั๊ก​ตัวเล็ก​ไว้​ใส่​ทับ​เสื้อคลุม​ ​จากนั้น​ก็​นำ​กำไล​หิน​โมรา​แดง​เส้น​นั้น​แขวน​ไว้​ที่​ปก​เสื้อ​ด้าน​ซ้าย

​“​ดูดี​หรือไม่​”​ ​นาง​ถาม​สวี​ซื่อ​จุน

​เสื้อกั๊ก​สีเขียว​มรกต​ ​กระดุม​สีขาว​หยก​ ​แขวน​กำไล​หิน​โมรา​สีแดง​ด้วย​โซ่​หลาก​สี​ ​จุน​เกอ​รีบ​พยักหน้า​ ​“​ดูดี​ขอรับ​!​”

​“​แขวน​เครื่องประดับ​หยก​อื่นๆ​ ​ก็​ดูดี​เช่นกัน​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​ให้​ข้า​ถัก​โซ่​ให้​พวก​เจ้า​คนละ​เส้น​ดี​หรือไม่​”

​สวี​ซื่อ​อวี​้​รู้สึก​ว่า​เขา​โต​แล้ว​ ​ย่อม​ไม่ได้​นับ​รวม​เขา​เข้าไป​ด้วย​ ​ส่วน​สวี​ซื่อ​จุน​ก็​รู้​ว่า​สือ​อี​เหนียง​สุขภาพ​ไม่ดี​ ​ช่วงนี้​ท่าน​พ่อ​ก็​ไม่​ให้ท่าน​แม่​ทำงาน​เย็บ​ปัก​ ​มี​เพียง​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ที่​รีบ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​เอา​ขอรับ​!​ ​ท่าน​แม่​ทำให้​ข้า​สัก​หนึ่ง​อัน​ ​ตอน​ตรุษจีน​ท่าน​ย่าม​อบ​หยก​บริสุทธิ์​ให้​ข้า​หนึ่ง​อัน​ ​ข้ามี​เสื้อกั๊ก​สีเหลือง​อยู่​หนึ่ง​ตัว​ ​จะ​ได้​เอา​มา​แขวน​หยก​อันนั้น​พอดี​”

​หาก​ถาม​ว่า​ใน​บรรดา​เด็ก​ๆ​ ​เหล่านี้​สือ​อี​เหนียง​ชอบ​ใคร​มาก​ที่สุด​ ​คำตอบ​ก็​คือ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​ไม่ว่า​นาง​จะ​พูด​อะไร​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยก​็​จะ​ตอบกลับ​นาง​เสมอ​ ​ซ้ำ​ยัง​ตอบ​ได้​ตรง​กับ​ความคิด​ของ​นาง​ ​ก็​เหมือน​ตอนนี้​ที่​เขา​คล้อยตาม​ความคิด​ของ​สือ​อี​เหนียง​จับคู่​เสื้อผ้า​และ​เครื่องประดับ​ออกมา​ได้​ค่อนข้าง​โดดเด่น

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เจ้า​เริ่ม​หัด​วาดภาพ​กับ​อาจารย์​จ้าว​แล้ว​หรือ​”

​“​ขอรับ​!​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​พึ่ง​เริ่ม​ฝึก​ลายเส้น​”

​“​เช่นนั้น​ผ่าน​ไป​อีก​สักพัก​ช่วย​วาด​แบบ​ให้​ข้า​สัก​สอง​ภาพ​หน่อย​สิ​”

​“​ได้​ขอรับ​!​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยดี​ใจมาก​ ​ความสุข​เหล่านั้น​ออกมา​จาก​ก้นบึ้ง​ของ​หัวใจ​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​เป็นความ​จริงใจ​ ​“​ท่าน​แม่​ต้องการ​ให้​วาดลวดลาย​แบบ​ไหน​ ​หาก​ข้าวาด​ได้​ไม่ดี​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​ข้า​จะ​ไป​ขอให้​อาจารย์​จ้าว​ช่วย​วาด​ให้​”

​“​ไม่ต้อง​หรอก​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เป็น​ลาย​ที่​ง่าย​มาก​ ​หาก​เจ้า​วาด​ได้​ไม่ดี​ ​ข้า​จะ​สอน​เจ้า​เอง​”

​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​รีบ​รับปาก​ ​วิ่ง​ไป​อยู่​ตรงหน้า​นาง​ ​“​ท่าน​แม่​จะ​เริ่ม​วาด​เมื่อไร​ขอรับ​”

​สือ​อี​เหนียง​เห็น​ว่า​เขา​เต็มไปด้วย​ความสนใจ​ ​คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​วัน​มะรืน​เจ้า​หยุด​เรียน​ ​เช่นนั้น​เป็น​วัน​มะรืน​ดี​หรือไม่​”

​“​พรุ่งนี้​ก็​หยุด​เรียน​เช่นกัน​”​ ​สวี​ซื่อ​เจี​้​ยพูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​อาจารย์​จ้าว​มี​เพื่อน​ที่​ไปร​่วม​สอบ​เตี่ยน​ซื่อ​ ​อาจารย์​จ้าว​ต้อง​ไป​ส่ง​เขา​”

​สือ​อี​เหนียง​ถาม​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​“​พรุ่งนี้​เจ้า​ต้อง​ไป​ส่ง​คุณชาย​ฟัง​หรือไม่​ ​จะ​ให้​ข้า​ตระเตรียม​รถม้า​ไว้​ให้​เจ้า​หรือไม่​”

​สวี​ซื่อ​อวี​้​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ท่าน​แม่​ให้​รถม้า​ไป​ส่ง​ข้า​ที่​ตรอก​ซาน​จิ​่ง​เถิด​ขอรับ​!​ ​จากนั้น​ข้า​กับ​พี่ใหญ่​ค่อย​ไป​ส่ง​พี่ใหญ่​ฟัง​ด้วยกัน​”​ ​ไม่ได้​เกรงใจ​เหมือน​เมื่อก่อน​แล้ว

​สือ​อี​เหนียง​ให้​ชิว​อวี​่​นำ​ป้าย​คู่​ไป​จัดการ​ที่​เรือน​นอก

​จากนั้น​จู๋​เซียง​ก็​กลับมา

​“​ของ​ได้​นำ​ไป​ส่ง​หมด​แล้ว​เจ้าค่ะ​ ​อี๋​เหนียง​บอกว่า​ขอบคุณ​คุณหนู​ที่​คิดถึง​ ​ให้​ข้า​นำ​ถุง​หอม​ที่​ทำ​เอง​กับ​มือ​มา​ให้​บรรดา​คุณชาย​น้อย​”​ ​ทาง​ด้าน​ตรอก​ซาน​จิ​่ง​เป็น​อย่างไรบ้าง​ก็​ไม่ได้​บอก

​สือ​อี​เหนียง​ก็​ไม่ได้​ถาม​ ​เมื่อถึง​กลางคืน​จู๋​เซียง​ปรนนิบัติ​นาง​ล้างหน้า​จึง​ได้​ถาม​เบา​ๆ​ ​ว่า​ ​“​เกิด​อะไร​ขึ้น​ที่​ตรอก​ซาน​จิ​่ง​หรือ​”

​จู๋​เซียง​พูดเสี​ยง​เบา​ลง​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​ ​บ่าว​เห็น​รถม้า​หนึ่ง​คัน​จอด​อยู่​ ​ดูเหมือนว่า​จะ​เป็นฮู​หยิน​สาม​ ​คุณนาย​ใหญ่​เพียงแค่​ขอบคุณ​ที่​บ่าว​นำ​ของ​มาส​่ง​ ​ส่วน​เรื่อง​อื่น​ก็​ไม่ได้​พูด​อะไร​เจ้าค่ะ​!​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท