ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 546 สงสัย (กลาง)

ตอนที่ 546 สงสัย (กลาง)

หาก​จู๋​เซียง​ไม่ได้​มอง​ผิด​ ฮู​หยิน​สาม​กลับมา​ในเวลานี้​ ​ไม่​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​ ​ฟัง​ซื่อ​ก็​ปิดปากเงียบ​ไม่พูดถึง​…​ต้อง​เกิดเรื่อง​ขึ้น​อย่างแน่นอน

จะ​เกี่ยวกับ​ข่าวลือ​ที่ว่า​ฟัง​ซื่อ​มีด​วง​พิฆาต​สามี​หรือไม่

​สือ​อี​เหนียง​ครุ่นคิด​พลาง​กำชับ​จู๋​เซียง​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​พวกเรา​ก็​ไม่กล้า​ฟันธง​ว่าฮู​หยิน​สาม​ได้​กลับมา​เยี​่​ยน​จิง​หรือไม่​ ​แม้ว่า​นาง​จะ​กลับมา​เยี​่​ยน​จิง​แล้ว​ ​การ​ทำ​เช่นนี้​แสดงว่า​ไม่​อยาก​ให้​พวกเรา​รู้​ ​พวกเรา​ก็​แค่​ทำเป็น​ไม่รู้​ก็​พอแล้ว​!​”

​“ฮู​หยิน​วางใจ​ได้​”​ ​จู๋​เซียง​รีบ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​บ่าว​จะ​ระวัง​เจ้าค่ะ​”

​จู๋​เซียง​ไม่เพียงแต่​มีไหวพริบ​ ​ทั้ง​ยัง​ทำหน้าที่​ต่างๆ​ ​ได้​อย่างเหมาะสม​ ​ร่าเริง​น้อยกว่า​หู่​พั่ว​ ​แต่​อ่อนโยน​มากกว่า​ ​เหมือน​ดอกไม้​แต่ละ​ชนิด​ที่​มี​ลักษณะเด่น​ต่างกัน

​สือ​อี​เหนียง​พึ่งพาอาศัย​พวก​นาง​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ ​รู้สึก​ว่า​จู๋​เซียง​กับ​หู่​พั่ว​เหมือนกับ​มือซ้าย​และ​มือขวา​ของ​ตัวเอง​ที่​ไม่​สามารถ​ขาด​ไป​ได้

​นาง​นึกถึง​หู่​พั่ว​ ​“​ผิง​อาน​ดีขึ้น​แล้ว​กระมัง​”

​หู่​พั่ว​ให้กำเนิด​บุตรชายคนโต​เมื่อ​วันที่​สิบ​เก้า​เดือน​แปด​ปี​ที่แล้ว​ ​ตั้งชื่อ​ว่า​ผิง​อาน​ให้​คล้อง​ตาม​ชื่อ​บุตร​ของ​ปินจ​วี​๋​ ​ตอนนี้​ผ่าน​ไป​เป็นเวลา​แปด​เดือน​แล้ว​ ​ปี​ที่แล้ว​บอกว่า​เป็นไข้​จาก​ลมหนาว​จึง​ขอให้​พ่อบ้าน​ไป๋​ช่วย​ไป​เชิญ​หมอ​หลวง​อู๋​จาก​สำนัก​หมอ​หลวง​มาตร​วจ​ให้​ ​เมื่อ​สือ​อี​เหนียง​รู้​ก็​ให้​จู๋​เซียง​นำ​สมุนไพร​ไป​ส่ง​ให้​ ​ซ้ำ​ยัง​ไป​เยี่ยม​ด้วยตัวเอง​หนึ่ง​ครั้ง

​“​แม้ว่า​จะ​ดีขึ้น​มา​แล้ว​ ​แต่​ก็​ยัง​ไอ​อยู่เล็ก​น้อย​เจ้าค่ะ​”​ ​จู๋​เซียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​หมอ​หลวง​อู๋​บอกว่า​ตราบใดที่​คอย​ดูแล​ใน​ช่วง​ที่​ประเดี๋ยว​เป็น​ประเดี๋ยว​หาย​ ​พอ​เด็ก​อายุ​เลย​สิบ​ขวบ​ไป​แล้วก็​จะ​สามารถ​หายขาด​ได้​”

​ผิง​อาน​ป่วย​เป็นโรค​ไอ​เรื้อรัง

​“​เจ้า​ไป​บอก​กับ​หู่​พั่ว​ว่า​หาก​เด็ก​ต้องการ​สมุนไพร​อะไร​หรือว่า​ต้องหา​หมอ​แบบ​ไหน​ก็​ให้​นาง​บอก​กับ​พ่อบ้าน​ไป๋​ได้​เลย​ ​ทาง​ฝั่ง​ของ​พ่อบ้าน​ไป๋​ข้า​ได้​ไป​พูด​ไว้​เรียบร้อย​แล้ว​”

​จู๋​เซียง​ยิ้ม​แล้ว​ขานรับ​ ​“​เจ้าค่ะ​”​ ​จากนั้น​ก็​พูดถึง​เรื่อง​หนึ่ง​ขึ้น​มา​ ​“​ตอนที่​บ่าว​ไป​เยี่ยม​พี่​หู่​พั่ว​ ​พี่​เยี​่​ยน​หร​งก​็​ไป​เยี่ยม​พี่​หู่​พั่ว​เช่นกัน​ ​ซ้ำ​ยัง​พา​อวี​้​เจี่ย​เอ๋อร​์​บุตรสาว​คนโต​ของ​นาง​ไป​ด้วย​เจ้าค่ะ​”

​“​อ้อ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​นาง​ก็​ไป​ด้วย​หรือ​”

​“​เดิมที​อยาก​จะ​กลับมา​คำนับฮู​หยิน​พร้อมกับ​บ่าว​ ​แต่​อวี​้​เจี่ย​เอ๋อร​์​งอแง​ไม่​หยุด​ ​จึง​ให้​ข้า​กลับมา​คารวะฮู​หยิน​แทน​นาง​”​ ​พูด​พลาง​ยืน​ตัวตรง​จะ​คำนับ​สือ​อี​เหนียง

กลัว​จะเข้า​มาส​ร้าง​ปัญหา​ให้​นางใน​จวน​เสียมา​กก​ว่า​!

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​จับมือ​นาง​ ​“​เจ้า​แค่นำ​คำมา​บอก​ก็​พอ​ ​ข้า​รู้​ถึง​ความตั้งใจ​ของ​นาง​ก็​เพียงพอ​แล้ว​!​”

​จู๋​เซียง​เข้าใจ​นิสัย​ของ​นาง​ดี​ ​จึง​ไม่ได้​ดึงดัน​ ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​พี่​เยี​่​ยน​หรง​ยัง​บอกอี​กว่า​ ​โชคดี​ที่​มีฮู​หยิน​ ​พี่เขย​เฉา​จึง​ได้​เลื่อนขั้น​ขึ้น​เป็น​ผู้ดูแล​เจ้าค่ะ​”

​“​เฉา​อาน​ก็​นับว่า​เป็น​คนขยัน​หมั่นเพียร​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ต่อให้​ไม่มี​ข้า​ ​ไม่ช้าก็เร็ว​เขา​ก็​จะ​ต้อง​ได้​เลื่อนตำแหน่ง​เป็น​ผู้ดูแล​อยู่ดี​”

​ทั้งสอง​คนพูด​คุย​เรื่อง​ทั่วไป​ ​เสียง​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ดัง​มาจาก​ด้านนอก​ ​“​สือ​อี​เหนียง​ ​เจ้า​ล้างหน้า​เสร็จ​แล้ว​หรือยัง​”

​สือ​อี​เหนียง​รีบ​ตอบ​เสียงดัง​ ​สวม​เสื้อ​อ่าว​แล้ว​ออกมา​จาก​ห้อง​ชำระ​ ​“​มี​อะไร​หรือ​เจ้า​คะ​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​นั่ง​อยู่​ที่​หัว​เตียง​ ​ซ้ำ​ยัง​ถือ​หนังสือ​เล่ม​หนา​อยู่​ใน​มือ

​“​เจ้า​รีบ​มา​”​ ​เมื่อ​เขา​เห็น​ว่า​สือ​อี​เหนียง​ออกมา​ ​ก็​มีสี​หน้า​ลำบากใจ​เล็กน้อย​ ​“​จิ​่น​เกอ​อยาก​ฟัง​นิทาน​เรื่อง​จิง​เว​่ย​ถม​ทะเล​…​”​ ​เขา​พูด​ยัง​ไม่ทัน​จบ​ ​จิ​่น​เกอ​ที่นั่ง​อยู่​ใน​อ้อมแขน​ของ​เขา​ก็​เบะ​ปาก​แล้ว​ยืน​ขึ้น

​“​ท่าน​แม่​!​”​ ​เขา​กางแขน​ออก​ ​ทำท่า​ทาง​เหมือน​อยาก​ให้​อุ้ม​ ​“​ท่าน​แม่​ ​เล่านิทาน​!​”​ ​น้ำเสียง​สะอึกสะอื้น​เล็กน้อย

​สือ​อี​เหนียง​รีบ​เข้าไป​อุ้ม​เขา

​พึ่ง​สังเกตเห็น​ว่า​หนังสือ​ที่​สวี​ลิ่ง​อี๋​ถือ​อยู่​ใน​มือ​คือ​ตำรา​ขุนเขา​มหาสมุทร

​นาง​เหงื่อ​แตก​พลั่ก

นิทาน​เรื่อง​จิง​เว​่ย​ถม​ทะเล​เป็น​เพียง​นิทาน​ภาษาจีน​โบราณ​สั้น​ๆ​ ​เท่านั้น​ ​คน​หนึ่ง​รู้จัก​แต่​อ่าน​ตาม​หนังสือ​ให้​ฟัง​ ​คน​หนึ่ง​ก็​เป็น​เด็ก​ที่​ฟังได้​แต่​ภาษาพูด​ทั่วไป​…​ไม่​แปลก​เลย​ที่สอง​พ่อ​ลูก​จะ​รู้สึก​ไม่ได้​รับ​ความเป็นธรรม

​สือ​อี​เหนียง​คิด​วิธี​หา​ตรงกลาง

​สือ​อี​เหนียง​อุ้ม​จิ​่น​เกอ​แล้ว​นั่งลง​ ​หยิบ​ตำรา​ขุนเขา​มหาสมุทร​มา​ ​เล่า​เป็น​ประโยค​จีน​โบราณ​ผสม​กับ​ประโยค​ภาษาพูด​ทั่วไป

​แม้ว่า​จะ​มีบาง​ประโยค​ที่​ฟัง​ไม่เข้าใจ​ ​แต่​ส่วนใหญ่​ก็​เป็น​เนื้อเรื่อง​ที่​เขา​คุ้นเคย​อยู่​แล้ว​ ​จิ​่น​เกอ​จึง​สงบ​ลง​ทันที​ ​พอสื​ออี​เหนียง​เล่า​ไป​ถึง​หน้าที่​หก​ ​เขา​ก็​ค่อยๆ​ ​หลับตา​ลง​แล้ว​ผล็อย​หลับ​ไป

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ทำตัว​ไม่​ถูก​ ​“​ปกติ​เจ้า​กล่อม​จิ​่น​เกอ​นอน​ด้วย​วิธี​นี้​หรือ​”

​สือ​อี​เหนียง​กลัว​ว่า​จะ​ทำให้​จิ​่น​เกอ​ที่พึ่ง​หลับ​ไป​ตื่นขึ้น​มา​ ​เลย​พยักหน้า​พลาง​ตบ​ตูด​จิ​่น​เกอ​เบา​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​อุ้ม​บุตรชาย​ไป​วาง​ไว้​บน​เตียง

​“​ปกติ​ข้า​ใช้​ภาษาพูด​เล่านิทาน​ให้​จิ​่น​เกอ​ฟัง​เจ้าค่ะ​!​”​ ​นาง​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ก็​ตอนนั้น​ไม่ว่า​จะ​ทำ​อย่างไร​เขา​ก็​ไม่ยอม​พูด​ไม่ใช่​หรือ​ ​ข้า​จึง​ทำได้​เพียง​พูด​กับ​เขา​บ่อยๆ​ ​หวัง​ว่า​เขา​จะ​เรียนรู้​ได้​บ้าง​สัก​สอง​สาม​คำ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ไม่ได้​พูด​อะไร​ ​มอง​สือ​อี​เหนียง​แล้ว​ลูบ​ศีรษะ​จิ​่น​เกอ​อย่าง​แผ่วเบา

​สือ​อี​เหนียง​ปรึกษา​กับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ข้า​อยาก​ดึง​เนื้อหา​บางส่วน​ของ​ตำรา​ปฐมวัย​มาทำ​เป็น​สมุดภาพ​ให้​จิ​่น​เกอ​เรียนรู้​ ​ท่าน​โหว​คิด​ว่า​อย่างไรบ้าง​เจ้า​คะ​”

​“​ความคิด​นี้​ไม่เลว​เลย​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ข้า​เห็น​ว่าที่​อาจารย์​จ้าว​สอน​เจี​้ย​เกอ​จน​แตกฉาน​ได้​ก็​ใช้​วิธี​นี้​เช่นกัน​ ​ได้ผล​ค่อนข้าง​ดี​เลย​ทีเดียว​”

​สือ​อี​เหนียง​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​รู้สึก​สนใจ​เป็นอย่างมาก

​เช้า​วันรุ่งขึ้น​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​ ​ได้​พบ​กับ​ฟัง​ซื่อ​ ​แต่กลับ​ไม่เห็น​สวี​ซื่อ​ฉิน​ ​หลังจากที่​สวี​ซื่อ​ฉิน​กับ​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ย้าย​ไป​อยู่​ที่​ตรอก​ซาน​จิ​่ง​ ​จะ​ฝนตก​หรือ​แดดออก​ทั้งสอง​คน​และ​ฟัง​ซื่อ​ก็​จะ​มาคา​รวะ​ไท่ฮู​หยิน​อยู่​เสมอ

​“​เหตุใด​วันนี้​ฉิน​เกอ​กับ​เจี่ยน​เกอ​ถึง​ไม่​มา​เล่า​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​ถาม​นาง

​“​วันนี้​มีธุระ​เล็กน้อย​เจ้าค่ะ​”​ ​ฟัง​ซื่อ​ยิ้ม​แล้ว​พูด​อีกว่า​ ​“​ปกติ​จะ​มา​เวลานี้​ ​กลัว​ว่า​หาก​มาสาย​ท่าน​ย่า​จะ​เป็นห่วง​จึง​ให้​ข้ามา​ก่อน​ ​พวกเขา​คง​ใกล้​จะ​มา​แล้ว​!​”​ ​จากนั้น​นาง​ก็​พูดคุย​เป็นเพื่อน​ไท่ฮู​หยิน​อยู่​สักพัก​ก่อน​จะ​ลุกขึ้น​แล้ว​กล่าว​ลา

​หลังจากนั้น​ไม่นาน​ ​สอง​พี่น้อง​สวี​ซื่อ​ฉิน​กับ​สวี​ซื่อ​เจี่ย​นก​็​มา​ ​พูด​เหมือนกับ​ที่​ฟัง​ซื่อ​พูด

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​แล้ว​กลับ​เรือน​พร้อมกับ​สวี​ซื่อ​เจี​้ย

​ระหว่างทาง​นาง​ถาม​เกี่ยวกับ​สมุดภาพ​ของ​อาจารย์​จ้าว

​“​…​แต่ละ​ประโยค​จะ​ใช้​กระดาษ​แผ่น​เล็ก​ๆ​ ​มา​วาด​เป็น​รูปภาพ​ ​บางครั้ง​อาจารย์​จ้าว​ก็​นำ​กระดาษ​เหล่านั้น​ใส่​ไว้​ใน​กล่อง​ไม้​สีดำ​ใบ​เล็ก​ ​ใคร​จับได้​ประโยค​ไหน​ก็​ให้​ท่อง​ประโยค​นั้น​ ​สนุก​อย่างมาก​”​ ​จากนั้น​ก็​ร้อง​ ​“​เอ๊ะ​ ​ท่าน​แม่​จะ​สอน​จิ​่น​เกอ​หรือ​ขอรับ​”​ ​เขามอง​จิ​่น​เกอ​ที่​กำลัง​เดิน​อยู่​ข้างหน้า​กับ​สาวใช้​อาจิน​ ​เบิกตา​โต​ ​“​พอ​อาจารย์​จ้าว​กลับมา​ข้า​จะ​ช่วย​ท่าน​แม่​ไป​ขอ​จาก​อาจารย์​จ้าว​มาสั​กชุด​ดี​หรือไม่​!​”​ ​เขา​ให้​คำสัญญา​อย่าง​เต็มใจ

​เมื่อ​สือ​อี​เหนียง​เห็น​เด็ก​ตัวเล็ก​ๆ​ ​อย่าง​เขา​ทำท่า​ทาง​เหมือน​ผู้ใหญ่​ก็​อด​หัวเราะ​ไม่ได้​ ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ข้า​อยาก​ลอง​ให้​จิ​่น​เกอ​เรียนรู้​ตัวอักษร​สักหน่อย​ ​เมื่อถึง​เวลา​ต้อง​ไป​เรียน​จะ​ได้​ไม่ต้อง​เสียเวลา​มาก​”​ ​ทั้ง​ยัง​อยากรู้​ว่า​อาจารย์​จ้าว​วาดภาพ​อะไร​บ้าง​ ​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​อาจารย์​จ้าว​มีส​มุด​ภาพ​เช่นนี้​หลาย​ชุด​หรือ​”

​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ตอบ​ว่า​ ​“​พี่​สี่​หนึ่ง​ชุด​ ​ข้า​หนึ่ง​ชุด​ ​แล้ว​ข้า​ยัง​เจอ​ใน​ห้อง​หนังสือ​ของ​อาจารย์​จ้าว​อีก​หนึ่ง​ชุด​!​”

​“​เช่นนั้น​เจ้า​ช่วย​ข้า​ไป​ขอ​จาก​อาจารย์​จ้าว​สัก​หนึ่ง​ชุด​เถิด​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​เมื่อ​กลับ​ไป​ที่​เรือน​ก็​ให้​ชิว​อวี​่​ไป​หยิบ​กระดาษ​มา​ ​“​พวกเรา​มา​วาด​แบบ​กัน​”​ ​พูด​พลาง​จรด​พู่กัน​ลง​บน​กระดาษ​ ​“​วาดลวดลาย​พืชน้ำ​สัก​สอง​สาม​แผ่น​ให้​คนที​่​ร้าน​มงคลสมรส​ ​ให้​พวกเขา​ปัก​ไว้​รอบ​ขอบ​ผ้า​สี่​ด้าน​ ​ตรงกลาง​เว้น​ที่ว่าง​ไว้​ ​ทำให้​ดู​โล่ง​และ​เรียบง่าย​”

​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​เห็น​สือ​อี​เหนียง​ลง​พู่กัน​ได้​อย่าง​คล่องแคล่ว​ก็​เบิกตา​โต​ ​“​ท่าน​แม่​ ​ท่าน​เก่ง​มาก​ขอรับ​ ​เหมือน​ที่​อาจารย์​จ้าว​วาด​ทุกอย่าง​เลย​”

​“​จะ​เหมือน​ทุกอย่าง​เลย​ได้​อย่างไร​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​พลาง​ส่ง​พู่กัน​ให้​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ ​“​เจ้า​วาด​ตาม​แบบนี้​ได้​หรือไม่​”

​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ตอบ​ตกลง​แล้ว​วาด​ตาม​นาง

​แม้ว่า​จะ​วาด​ได้​ไม่​ลื่นไหล​ ​แต่​หาก​ดู​ตาม​อายุ​ของ​เขา​แล้ว​ ​นี่​ถือว่า​หา​ได้​ยาก​มาก

​สือ​อี​เหนียง​เอ่ย​ชม​เขา​ไม่​หยุด​ ​“​นึกถึง​ตอนนั้น​ที่​ข้า​เรียน​ลากเส้น​กับ​อาจารย์​ ​ใช้เวลา​อยู่​กว่า​ครึ่ง​ปีก​ว่า​จะ​แตกฉาน​”

​สวี​ซื่อ​เจี​้ย​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็ดี​ใจมาก​ ​แนะนำ​ว่า​ ​“​วาด​แค่​ลาย​พืชน้ำ​สีเขียว​ไม่​ค่อย​สวย​เท่าไร​ ​ข้าว​่า​พวกเรา​วาด​ดอก​จื่อ​เถิง​ประดับ​ไว้​บน​ต้น​พืชน้ำ​ด้วยดี​กว่า​ ​เช่นนี้​จะ​ทำให้​มีสีสัน​สดใส​มากขึ้น​”

​สือ​อี​เหนียง​คิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​ก่อน​จะ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ความชอบ​ของ​แต่ละคน​ไม่​เหมือนกัน​ ​พวกเรา​หาด​อก​ไม้​อีก​สอง​สาม​ชนิด​มาปั​กดี​กว่า​!​”

​“​ดอก​สายน้ำผึ้ง​ดี​หรือไม่​ ​ดอกมะลิ​เล่า​ขอรับ​”

​ทั้งสอง​คน​คุย​ไป​หัวเราะ​ไป​ ​พอ​ถึง​ตอนเย็น​ก็​วาด​ไป​ได้​เจ็ด​แปด​รูป​แล้ว

​ตอน​ไป​คารวะ​ไท่ฮู​หยิน​ ​ฟัง​ซื่อ​ยืนหยัด​ที่จะ​มาคา​รวะ​ ​แต่​สวี​ซื่อ​ฉิน​กับ​สวี​ซื่อ​เจี่ย​นอ​้าง​ว่า​มี​งาน​สังสรรค์​จึง​ไม่​สามารถ​มา​ได้

​ไท่ฮู​หยิน​ได้​ฟัง​ดังนั้น​ก็​ขมวดคิ้ว​ ​“​อายุ​น้อย​ๆ​ ​เช่นนี้​ ​กำลัง​เป็นเวลา​ที่​ต้อง​ตั้งใจ​ศึกษา​เล่าเรียน​ ​มี​งาน​สังสรรค์​อะไร​ที่​จำเป็นต้อง​ไป​”

​ฟัง​ซื่อ​ยิ้ม​อย่าง​อ่อนโยน​ ​“​ข้า​ไม่ได้​ถาม​ ​พอก​ลับ​ไป​จะ​ส่ง​คน​ไป​ถาม​แล้ว​กลับมา​รายงาน​ท่าน​ย่า​เจ้าค่ะ​”

​หรือว่า​จะ​เป็นความ​รู้สึก​ที่​ผู้อาวุโส​มีต​่อ​เด็ก​ๆ​ ​ไท่ฮู​หยิน​ไม่​เพียง​รัก​และ​เอ็นดู​ซิน​เจี่ย​เอ๋อร​์​ ​จิ​่น​เกอ​ ​และ​เซิน​เกอ​ ​แม้แต่​ฟัง​ซื่อ​ก็​ยัง​เอ็นดู​เป็นอย่างมาก

​“​เจ้า​ไม่ต้อง​ไป​ถาม​หรอก​!​”​ ​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ประเดี๋ยว​เขา​จะ​คิด​ว่า​เจ้า​มา​ฟ้อง​ข้า​ ​รอ​ผ่าน​ไป​สัก​สอง​สาม​วัน​ข้า​จะ​ถาม​เขา​เอง​”

​ฟัง​ซื่อ​รีบ​ย่อเข่า​คำนับ​ไท่ฮู​หยิน

​ไท่ฮู​หยิน​กลับ​หันไป​พูด​กับ​สือ​อี​เหนียง​อย่าง​ทอดถอนใจ​ ​“​มี​คนที​่​ซื่อตรง​เหมือน​เจ้า​อีก​คน​แล้ว​!​ ​หาก​เป็น​ตาน​หยาง​ก็​คง​กอด​ข้า​แล้ว​ทั้ง​ร้องไห้​ทั้ง​หัวเราะ​ไป​นาน​แล้ว​”

​“​น้อง​สะใภ้​ห้ามี​ความ​เป็นตัวของตัวเอง​ ​ข้า​ไม่​อาจ​เทียบ​ได้​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​อย่างเกรงใจ

​ฟัง​ซื่อ​ยืน​ยิ้มอยู่​ข้างๆ​

​ต่อมา​อีก​ไม่​กี่​วัน​ ​สอง​พี่น้อง​สวี​ซื่อ​ฉิน​ ​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ ​และ​ฟัง​ซื่อ​ก็​ไม่ได้​มาคำ​นับ​ไท่ฮู​หยิน​พร้อมกัน​เช่นเคย​ ​อย่า​ว่าแต่​สือ​อี​เหนียง​ ​แม้แต่​ไท่ฮู​หยิน​ที่​เห็น​เช่นนี้​ก็​ยัง​รู้สึก​สงสัย

​นาง​ถาม​สือ​อี​เหนียง​ ​“​เด็ก​สอง​คน​นี้​คง​ไม่ได้​ทะเลาะ​กัน​หรอก​กระมัง​ ​หาก​เป็น​เช่นนี้​ ​ท่าน​อาสะใภ้​อย่าง​เจ้า​ก็​คง​ต้อง​ไปดู​แล้ว​ช่วย​เกลี้ยกล่อม​พวกเขา​สักหน่อย​”

​สือ​อี​เหนียง​เหมือน​ได้รับ​มันเทศ​ร้อน​ๆ​ ​มาถือ​ไว้​ใน​มือ​ ​ใน​ฐานะ​หย่ง​ผิง​โหวฮู​หยิน​ที่​เป็น​ผู้ดูแล​จวน​ย่อม​ไม่มีเหตุผล​จะ​บ่ายเบี่ยง​ได้

​นาง​ยิ้ม​พลาง​รับปาก​ ​กำลังจะ​กำชับ​ให้​ป้า​ซ่ง​ไป​เตรียม​รถม้า​ ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ก็​มา​ขอ​พบ

​“​ท่าน​ย่า​ ​ท่าน​แม่​”​ ​เขา​โค้ง​คำนับ​ ​สีหน้า​มี​ความภาคภูมิใจ​อย่าง​ปกปิด​ไม่ได้​ ​“​พี่ชาย​คุณนาย​ใหญ่​หรือ​คุณชาย​ฟัง​สอบ​ได้​อันดับ​สาม​ขอรับ​”

​ไท่ฮู​หยิน​ได้​ฟัง​แล้วก็​ดีอกดีใจ​ ​“​นี่​เป็นเรื่อง​ที่​น่ายินดี​อย่างยิ่ง​”​ ​จากนั้น​ก็​พูด​กับ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ว่า​ ​“​เจ้า​ไป​บอก​กับ​ท่าน​พ่อ​ของ​เจ้า​ด้วย​ ​เขา​จะ​ได้ดี​ใจ​”

​สวี​ซื่อ​อวี​้​รีบ​พูด​ขึ้น​มา​ว่า​ ​“​ข่าว​นี้​ท่าน​พ่อ​เป็น​คน​บอก​ข้ามา​ขอรับ​”

​ในเมื่อ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เป็น​คน​ถาม​มา​ ​เช่นนั้น​ก็​ต้อง​มี​ข่าว​ของ​เฉียน​หมิง​อย่างแน่นอน

สือ​อี​เหนียง​ให้​ชิว​อวี​่​ไป​ถาม

​ชิว​อวี​่​กลับมา​ ​“​ได้​ลำดับ​ที่สาม​ร้อย​เก้า​ ​เป็น​บัณฑิต​ระดับ​สาม​เจ้าค่ะ​”

​สุดท้าย​ก็​ไม่มี​ปฏิ​หารย์​เกิดขึ้น​ ​ไม่มี​อะไร​เปลี่ยนแปลง

​ทาง​ด้าน​ของ​ฟัง​จี้​ ​สกุล​สวี​ได้​สั่ง​กล่อง​เครื่องเขียน​จาก​ไม้​หวง​หยาง​ของ​ร้าน​ตัว​เป่า​เก๋​อส​่ง​ไป​ให้​ ​ทาง​ฝั่ง​ของ​เฉียน​หมิง​สวี​ลิ่ง​อี๋​ได้​เดินทาง​ไปหา​ด้วยตัวเอง

​“​ขอให้​ข้า​ช่วย​ให้​เขา​ได้​เป็น​ปลัดอำเภอ​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​กลับมา​พลาง​ยิ้ม​อย่างลำบาก​ใจ​ ​“​บอกว่า​แทนที่จะ​ไป​เป็น​หัวหน้า​กรม​สอบสวน​หรือ​เป็น​คณะ​ราชทูต​ ​ไม่​สู้​ไป​เป็น​ปลัดอำเภอ​ที่​เขต​อำเภอ​ดีกว่า​ ​ทำ​ผลงาน​ให้​สำเร็จ​เพื่อ​จะ​ได้​เลื่อนขั้น​เป็น​นายอำเภอ​หรือ​ฝ่ายปกครอง​”

​“​แล้ว​ท่าน​โหว​ว่า​อย่างไร​เจ้า​คะ​”

​“​ข้า​คิด​ว่า​เช่นนี้​ก็ดี​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​พูด​พึมพำ​ว่า​ ​“​เจิ​้น​ซิ่ง​จะ​ออกจาก​ตำแหน่ง​แล้ว​ ​ข้า​อยาก​ให้​เขา​ไป​อยู่​ที่หก​กรม​”

​ถ้าหาก​เฉียน​หมิง​ก็​อยู่​ที่หก​กรม​ ​เช่นนั้น​ก็​จะ​สะดุดตา​เกินไป

​“​แล้ว​พี่ใหญ่​เห็นด้วย​หรือไม่​”

​“​ท่าน​พ่อตา​เห็นด้วย​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ตอบ​ไม่​ตรง​คำถาม​ ​“​ข้า​แค่​ทำตาม​ความประสงค์​ของ​พ่อตา​”

​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​เล็กน้อย

​มีสาว​ใช้​น้อย​วิ่ง​เข้ามา​รายงาน​ ​“​บัณฑิต​ทั่นฮ​วา​คน​ใหม่​มา​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​ ​

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​พลาง​ไป​ที่​ห้องโถง​บุปผา​เรือน​นอก

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท