ร้อยรักปักดวงใจ – ตอนที่ 557 หาตำแหน่ง

ตอนที่ 557 หาตำแหน่ง

​“​ก็​แค่​วันเกิด​ธรรมดา​เท่านั้น​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พูด​ด้วย​รอยยิ้ม​ ​“​ยิ่งไปกว่านั้น​ฉิน​เกอ​ของ​เจ้า​ไม่เพียงแต่​มอบ​ภาพ​อักษร​ให้​ข้า​ ​แล้วยัง​มอบ​พัด​ให้​ข้า​ตั้ง​สอง​เล่ม​”​ ​จากนั้น​ก็​บอก​นาง​ ​“​ทาน​บะหมี่​อายุ​ยืน​เถิด​!​”

​ฟัง​ซื่อ​ไม่​พูด​อะไร​ต่อ​ ​นาง​ก้มหน้า​ทาน​บะหมี่

​ไท่ฮู​หยิน​ทาน​ไป​ชาม​เล็ก​ๆ​ ​จากนั้น​ก็​เรียก​สวี​ซื่อ​เจี่ย​นที​่​ทาน​น้ำแกง​บะหมี่​จน​หมด​มาหา

​“​ช่วงนี้​เรียนหนังสือ​กับ​อาจารย์​ ​เป็น​เช่นไร​บ้าง​ ​ปีหน้า​ลง​สอบ​ได้​หรือไม่​”

​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ยิ้ม​อย่าง​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก​ ​“​ข้า​ไม่ได้​เก่ง​เหมือน​พี่​สอง​นะ​ขอรับ​!​”

​ไท่ฮู​หยิน​ยิ้ม​แล้ว​ถาม​เขา​ ​“​เช่นนั้น​ต่อไป​เจ้า​จะ​ทำ​อะไร​”

​เรื่อง​นี้​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ยัง​ไม่เคย​คิด

​เขา​ตื่นตระหนก​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​จากนั้น​ก็​พูดว่า​ ​“​ข้า​จะ​ทำตาม​ที่​ท่าน​พ่อ​บอก​ขอรับ​”

​ทุกคน​หัวเราะ

​ไท่ฮู​หยิน​เงยหน้า​ขึ้น​พูด​กับ​คุณชาย​สาม​ ​“​ลูก​ๆ​ ​ของ​แต่ละ​ครอบครัว​ล้วน​ได้รับ​ความใส่ใจ​จาก​ครอบครัว​ ​ข้า​คิด​ว่า​ ​เจี่ยน​เกอ​เป็น​คน​ร่าเริง​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​เรียน​ไม่เก่ง​เท่า​อวี​้​เกอ​ ​แต่​เขา​ก็​เป็น​คนตรง​ไป​ตรง​มา​และ​จริงใจ​กับ​คนอื่น​”​ ​พูด​จบ​ ​นาง​ก็​หยุดชะงัก​แล้ว​พูด​ต่อไป​ว่า​ ​“​ฉิน​เกอ​เป็น​บุตรชายคนโต​ของ​พวก​เจ้า​ ​ข้า​ไม่สน​ใจ​แล้ว​ ​องครักษ์​วัง​หลวง​มีตำ​แหน่ง​องครักษ์​ถือ​ธง​ ​ข้า​คิด​ว่า​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว​ ​ผ่าน​เทศกาล​ไหว้​บ๊ะ​จ่าง​ไป​แล้ว​ ​ให้​เจี่ยน​เกอ​ไปรับ​ตำแหน่ง​ที่นั่น​เถิด​!​”

​องครักษ์​ถือ​ธง​ ​คือ​คนที​่​เฝ้า​ประตู​ใหญ่​ของ​พระราชวัง

​นอกจาก​สวี​ลิ่ง​ควน​ ​ทุกคน​ใน​ห้อง​ล้วนแต่​ตกใจ​ ​คุณชาย​สาม​และฮู​หยิน​สาม​หันมา​มองหน้า​กัน​

​“​ท่าน​แม่​บอก​ข้าว​่า​อยาก​ให้​เจี่ยน​เกอ​มีเกียรติ​”​ ​สวี​ลิ่ง​ควน​ยิ้ม​ ​“​ข้า​จึง​เชิญ​คน​ของ​ฝ่าย​ทหาร​กรม​กลาโหม​ทานข้าว​ ​พวกเขา​เห็น​ว่า​เป็น​ข้า​ ​จึง​ถือ​รายชื่อ​มา​ให้​ข้า​เลือก​ ​ข้า​เห็น​ว่า​ตำแหน่ง​องครักษ์​ถือ​ธง​เริ่ม​ตั้งแต่​ระดับ​หก​ ​ต่อไป​จะ​ได้​เลื่อน​ไป​ยัง​กอง​ปัญจ​ทิศ​รักษา​นคร​จึง​เลือก​ตำแหน่ง​นี้​”​ ​เขา​ยิ้ม​อย่าง​พึงพอใจ​ ​“​คน​ของ​ฝ่าย​ทหาร​บอก​ให้​ข้า​รีบ​ตัดสินใจ​ ​บอกว่า​มี​หลาย​ตระกูล​จับจ้อง​ตำแหน่ง​นี้​อยู่​ ​หาก​สกุล​เรา​ไม่พอใจ​ ​พวกเขา​จะ​ได้​ตอบกลับ​สกุล​อื่น​โดยเร็ว​ที่สุด​ ​ขุนนาง​ชั้นสูง​กำลัง​รอ​ให้​พวกเขา​ไปรา​ยงา​นราย​ชื่อ​!​”

​สือ​อี​เหนียง​มอง​ไป​ยัง​สวี​ลิ่ง​อี๋

​ถึงแม้ว่า​สีหน้า​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​จะ​นิ่งเฉย​ ​แต่​ใน​สายตา​ของ​เขา​กลับ​มี​ความแปลกใจ​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​เขา​เอง​ก็​ไม่รู้​เรื่อง​นี้​เหมือนกัน​ ​

​คุณชาย​สาม​และฮู​หยิน​สาม​ยิ่ง​ไม่รู้​อะไร​เลย

​สีหน้า​ของ​ไท่ฮู​หยิน​เยือกเย็น​ ​“​ทำไม​กัน​ ​พวก​เจ้า​ไม่พอใจ​กับ​ตำแหน่ง​นี้​อย่างนั้น​หรือ​ ​หรือว่า​พวก​เจ้า​มีตำ​แหน่ง​ที่​ดีกว่า​นี้​?​”

​ถ้วย​ชา​ของ​ไท่ฮู​หยิน​เมื่อ​สอง​วันก่อน​ยัง​ทำให้​คุณชาย​สาม​รู้สึก​หวาดกลัว​ไม่​หาย​ ​เขา​จะ​กล้า​คิดมาก​ได้​เช่นไร​ ​จึง​รีบ​พูด​ ​“​ไม่ใช่​ขอรับ​ไม่ใช่​ ​ข้า​ไม่มี​ตำแหน่ง​อะไร​ ​แล้วก็​ไม่ได้​ไม่พอใจ​กับ​ตำแหน่ง​นี้​ ​แต่​แค่​คิดไม่ถึง​ว่า​…​”​ ​พูดถึง​ตรงนี้​ ​เขา​ก็​ตระหนัก​ขึ้น​มา​ได้​ ​ตำแหน่ง​นี้​ถึงแม้ว่า​จะ​เป็น​เจตนา​ของ​ไท่ฮู​หยิน​ ​แต่​หาก​ไม่มี​ชื่อเสียง​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​ให้​สวี​ลิ่ง​ควน​เป็น​คน​ออกหน้า​พูด​ ​เกรง​ว่า​คน​ของ​ฝ่าย​ทหาร​กรม​กลาโหม​ที่​เย่อหยิ่ง​เหล่านั้น​คง​ไม่มีทาง​นำ​รายชื่อ​ออกมา​ให้​สวี​ลิ่ง​ควน​เลือก​ตามอำเภอใจ​ ​เขา​รีบ​ดึง​แขน​เสื้อฮู​หยิน​สาม​แล้ว​คุกเข่า​ลง​ ​“​ขอบพระคุณ​ท่าน​แม่​ที่​ช่วย​หา​ตำแหน่ง​ดี​ๆ​ ​เช่นนี้​ให้​เจี่ยน​เกอ​”​ ​แล้ว​หันไป​โค้ง​คำนับ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​น้อง​สี่​ ​ขอบคุณ​เจ้า​ด้วย​!​”​ ​หันไป​โค้ง​คำนับ​สวี​ลิ่ง​ควน​ ​“​ขอบคุณ​น้อง​ห้า​ที่​ช่วย​พูด​ให้​เช่นกัน​”

ฮู​หยิน​สาม​ก็​ตระหนัก​ขึ้น​มา​ได้​แล้ว​เหมือนกัน

​อนาคต​ของ​บุตรชาย​ทั้งสอง​คน​คือ​ปัญหา​ที่​ติดอยู่ในใจ​ของ​นาง​มาต​ลอด

ตั้งแต่​สมัย​ของ​บรรพบุรุษ​ ​ตำแหน่ง​ขุนนาง​ระดับ​หนึ่ง​ถึง​ระดับ​เจ็ด​ ​บุตรชาย​สามารถ​สืบทอด​ตำแหน่ง​ได้​ ​แล้ว​หาก​มี​ความดี​ความชอบ​หรือว่า​ได้รับ​ความ​โปรดปราน​จาก​ฮ่องเต้​ ​บุตรชาย​สอง​สาม​คน​ก็​สามารถ​รับ​ตำแหน่ง​ได้​ ​สำหรับ​คนนอก​แล้ว​ ​ด้วย​ความดี​ความชอบ​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​และ​ความ​โปรดปราน​ที่​ฮ่องเต้​มีต​่อ​ฮองเฮา​ ​อนาคต​ของ​ลูก​ๆ​ ​ไม่ใช่​ปัญหา​ ​แต่​นาง​รู้จัก​ครอบครัว​ของ​ตัวเอง​ดี​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​เคย​พูด​เมื่อนานมาแล้ว​ว่า​ ​หาก​สกุล​สวี​ไม่ใช่​สกุล​ญาติ​ไม่เป็นไร​ ​แต่​ในเมื่อ​สกุล​สวี​เป็น​สกุล​ญาติ​ของ​ฮองเฮา​ ​ไม่เพียงแต่​ต้อง​ปฏิบัติตาม​กฎเกณฑ์​แล้วยัง​ต้อง​มีวินัย​ใน​ตนเอง​ ​จะ​ทำให้​ฮองเฮา​ลำบากใจ​ ​ทำให้​ราชวงค์​เสียชื่อเสียง​ไม่ได้​ ​แล้ว​เขา​ยัง​เคย​ปฏิเสธ​ความเมตตา​ของ​ฮ่องเต้​ ​ให้​บุตรชายคนโต​เรียนหนังสือ​และ​สอบ​เข้า​เอง​…​ทำให้​ครอบครัว​พวกเขา​กลืนไม่เข้าคายไม่ออก​ ​หาก​ให้​บุตรชายคนโต​รับ​ตำแหน่ง​ ​แล้ว​บุตรชาย​คนที​่​สอง​จะ​ทำ​เช่นไร​ ​หาก​ให้​บุตรชาย​คนที​่​สอง​รับ​ตำแหน่ง​ ​แล้ว​บุตรชายคนโต​จะ​ทำ​เช่นไร​ ​นาง​ยัง​เคย​บ่น​ให้​สามี​ของ​ตัว​ช่วย​คิด​ ​แต่​สามี​ตัวเอง​กลับ​ขี้ขลาด​ตาขาว​ ​ไม่กล้า​อ้าง​ชื่อเสียง​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​แล้วยัง​บอกว่า​ ​‘​น้อง​สี่​เป็น​คนฉลาด​ ​ถึง​ตอนนั้น​เขา​คงจะ​จัดการ​เอง​’​ ​ทำให้​นาง​โมโห​ตั้ง​หลายครั้ง​หลาย​ครา

แต่​คิดไม่ถึง​ว่า​ไท่ฮู​หยิน​โมโห​พวกเขา​สอง​สามีภรรยา​แล้ว​ ​จู่ๆ​ ​ก็​หา​ตำแหน่ง​ให้​สวี​ซื่อ​เจี่ย​น.​..​เช่นนี้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ก็​คงจะ​พูด​อะไร​ไม่ได้​ใช่​หรือไม่​ ​ถึง​ตอนนั้น​กระทรวง​ขุนนาง​เปิดรับ​สมัคร​ค่อย​รายงาน​ชื่อ​ของ​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ ​ต่อไป​นาง​ก็​ไม่มี​เรื่อง​อัน​ใด​ให้​ต้อง​คิดมาก​แล้ว​!

​คิด​เช่นนี้​ ฮู​หยิน​สาม​ก็​ยิ้ม​หน้าบาน​

​นาง​รีบ​ก้มหัว​ให้​ไท่ฮู​หยิน​ ​“​ท่าน​แม่เจ้า​คะ​ ​หาก​เจี่ยน​เกอ​ของ​เรา​ไม่มี​ท่าน​ ​เขา​จะ​ทำ​อย่างไร​”​ ​จากนั้น​ก็​รีบ​เรียก​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ ​“​เจ้า​เด็ก​โง่​ ​ยืน​ทำ​อะไร​อยู่​ตรงนั้น​ ​รีบ​มาก​้​มหัว​ให้ทาน​ย่า​เร็ว​เข้า​!​”​ ​นาง​เงยหน้า​ขึ้น​มองฮู​หยิน​ห้า​ที่นั่ง​อยู่​บน​เตียง​เตา​แล้ว​พูดว่า​ ​“​รีบ​ขอบพระคุณ​ท่าน​อา​ห้า​ด้วย​!​”

​สวี​ซื่อ​เจี่ย​นที​่​ยัง​อึ้ง​อยู่​ ​ถูก​มารดา​เรียก​เขา​ก็ได้​สติก​ลับ​มา​ ​จากนั้น​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​ยิ้ม

​“​ขอบพระคุณ​ท่าน​ย่า​ขอรับ​ ​ขอบพระคุณ​ท่าน​อา​ห้า​ขอรับ​”​ ​นึกถึง​ใคร​ก็​ขอบพระคุณ​คน​นั้น​ ​ท่าน​อา​สี่​ก็​เหมือนกัน​ ​เขา​ก้มหัว​ให้​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​“​ขอบพระคุณ​ท่าน​อา​สี่​ขอรับ​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ยิ้ม​แล้ว​พยักหน้า

​สวี​ลิ่ง​ควน​ลูบ​หัว​หลานชาย​ที่​ตัว​เตี้ย​กว่า​เขา​แค่​ครึ่ง​หัว​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ทำงาน​เป็น​องครักษ์​ถือ​ธง​ให้​ดี​ ​พยายาม​ช่วงชิง​ขุนนาง​ระดับ​ห้า​ ​ถึง​ตอนนั้น​ไป​ที่​กอง​ปัญจ​ทิศ​รักษา​นคร​ ​เจ้า​จะ​ได้​เป็น​ขุนนาง​ระดับ​ห้า​ ​ชีวิต​ของ​เจ้า​ก็​จะ​ดีขึ้น​”

​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ยิ้ม​ไม่​หุบ​ ​เขา​พยักหน้า​ซ้ำๆ​ ​“​ข้า​ฟัง​ท่าน​อา​ห้า​ขอรับ​”​ ​เหลือบมอง​พี่ชาย​และ​พี่สะใภ้​ที่​ยืน​อยู่​ข้างๆ​ ​จากนั้น​ก็​ลังเล​แล้ว​เรียก​ ​“​พี่ใหญ่​”​ ​อย่าง​ตะกุกตะกัก​พลาง​คิดในใจ​ว่า​ พี่ใหญ่​แต่งงาน​แล้ว​ ​ควร​ที่จะ​จัดการ​เรื่อง​หน้าที่​การงาน​ของ​พี่ใหญ่​ก่อน​แล้ว​ค่อย​มา​จัดการ​เรื่อง​ของ​ตน​… ​

​แต่​สวี​ซื่อ​ฉิน​กลับดี​ใจ​กับ​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​จาก​ใจจริง

เพราะ​เรื่อง​แต่งงาน​ของ​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​ ​ท่าน​แม่​เลย​เป็นกังวล​ไม่น้อย​ ​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​ก็เพราะว่า​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​เป็น​บุตรชาย​คนที​่​สอง​ ​ตาม​หลัก​แล้ว​ ​คนที​่​สืบทอด​ตำแหน่ง​ควร​เป็น​บุตรชายคนโต​ ​แต่ว่า​เขา​ไม่มี​ความสามารถ​เหมือน​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​สอบ​บัณฑิต​ซิ่ว​ไฉ​ไม่ได้​…​ตอนนี้​น้องชาย​มีตำ​แหน่ง​แล้ว​ ​ต่อไป​เรื่อง​แต่งงาน​ก็​ไม่ใช่​เรื่องใหญ่​แล้ว​

​“​เจ้า​ต้อง​ทำหน้าที่​ให้​ดี​”​ ​เขา​ตบ​ไหล่​น้องชาย​ตัวเอง​อย่าง​แผ่วเบา​ ​“​มี​อะไร​ไม่เข้าใจ​ก็​ต้อง​ถาม​ท่าน​อา​ห้า​ ​ท่าน​อา​ห้า​รับ​ตำแหน่ง​อยู่​ที่​ฝ่าย​องครักษ์​ของ​วัง​หลวง​ ​เขา​สนิทสนม​กับ​ทุกคน​”

​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​เห็น​ว่า​พี่ชาย​ตัวเอง​ไม่มี​ความขุ่นเคือง​ใจ​ ​ก็ดี​อก​ดีใจ​ ​“​ไม่ต้อง​เป็นห่วง​ขอรับ​ ​ถึง​ตอนนั้น​ข้า​จะ​ตั้งใจ​เรียนรู้​กับ​ท่าน​อา​ห้า​”

​ฟัง​ซื่อ​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก

​สวี​ซื่อ​เจี่ย​นมี​อนาคต​ก็​เท่ากับ​ว่า​สวี​ซื่อ​ฉิน​มี​อนาคต​ ​นาง​กลัว​ว่าฮู​หยิน​สาม​จะ​ก่อเรื่อง​ ​มอบ​ตำแหน่ง​ของ​พ่อ​สามี​ให้​บุตรชาย​คนเล​็ก​ ​แต่​ไม่รู้​ว่า​เพราะเหตุใด​ ​นาง​พลัน​รู้สึก​ว่า​เรื่องราว​มัน​แปลก​ๆ​

ทำไม​ไม่​ช่วย​หา​ตำแหน่ง​ให้​สวี​ซื่อ​เจี่ยน​เร็ว​กว่านี​้​หรือ​ช้า​กว่านี​้​ ​แต่กลับ​หา​ตำแหน่ง​ให้​เขา​หลังจากที่​พ่อตา​พึ่ง​จะ​ลาออก​จาก​ตำแหน่ง​ ​แล้วยัง​เป็นการ​ลาออก​จาก​ตำแหน่ง​ที่​ไม่​ค่อย​ดีสัก​เท่าไร​…​หรือว่า​สกุล​สวี​จะ​ไม่​หา​ตำแหน่ง​ใหม่​ให้​พ่อตา​ได้​แล้ว​เช่นนั้น​หรือ

​ความคิด​นี้​ผุด​ขึ้น​มา​ใน​หัว​ ​นาง​ส่ายหน้า​เบา​ๆ

บางที​ตน​อาจจะ​คิดมาก​เกินไป

​ปีนี​้​สวี​ซื่อ​เจี่ย​นอา​ยุ​สิบ​หก​แล้ว​ ​โดยปกติ​แล้ว​บุตรชาย​สกุล​ขุนนาง​อายุ​เท่านี้​ก็​ควรคิด​ถึง​เรื่อง​ของ​อนาคต​แล้ว​

​มองดู​บรรยากาศ​ที่​น่ายินดี​ ​ฟัง​ซื่อ​ลืม​เรื่อง​พวก​นั้น​ไป​ ​คิด​ว่า​ประเดี๋ยว​ต้อง​ส่ง​คน​ไปรา​ยงาน​ฟัง​จี้

วันนี้​ไท่ฮู​หยิน​แสดงออก​ชัดเจน​แล้ว​ ​สกุล​สวี​ไม่ได้​สนใจ​ข่าวลือ​ที่นา​งมี​ดวง​พิฆาต​สามี​ ​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​คง​ต้อง​ให้​พี่ใหญ่​มา​ขอขมา​ญาติผู้ใหญ่​สกุล​สวี​…​

​*****

​เมื่อ​เห็น​จิ​่น​เกอ​หายใจ​เป็นจังหวะ​สม่ำเสมอ​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​หยุด​ตบ​ก้น​เขา

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ที่​กำลัง​อ่านหนังสือ​อยู่​บน​เตียง​ก็​ขยับ​เข้ามา​มองดู​บุตรชาย​ของ​ตัวเอง​ ​“​หลับ​ไป​แล้ว​หรือ​!​”

​สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​นาง​กลัว​ว่า​เขา​จะ​ร้อน​จึง​จับมือ​ของ​เขา​ออกมา​ไว้​นอก​ผ้าห่ม​ ​จากนั้น​ก็​พูดเสี​ยง​เบา​ว่า​ ​“​หลับ​ไป​แล้ว​เจ้าค่ะ​”​ ​นาง​ลุกขึ้น​นั่ง​พิง​ไหล่​ของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​ ​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​ท่าน​คิด​ว่า​ท่าน​แม่​กำลัง​คิด​อะไร​อยู่​หรือ​ ​จู่ๆ​ ​ถึง​ให้​คุณชาย​ห้า​หา​ตำแหน่ง​ให้​เจี่ยน​เกอ​เงียบๆ​ ​แบบนี้​…​”​ ​นาง​รู้สึก​ไม่สบายใจ​ ​มักจะ​รู้สึก​เหมือน​มีเรื่อง​อัน​ใด​เกิดขึ้น​

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้ว​พูดว่า​ ​“​เจ้า​คิด​ว่า​ท่าน​แม่​ไม่​ปรึกษา​เรา​ ​ดังนั้น​…​ ​“

​“​ไม่ใช่​เจ้าค่ะ​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​“​ข้า​เห็นท่า​ที​ของ​พี่สะใภ้​สอง​และ​น้อง​สะใภ้​ห้า​ ​พวก​นาง​ตกใจ​มากกว่า​ข้า​เสียอีก​ ​เลย​คิด​ว่า​ท่าน​แม่​คงจะ​บอก​ให้​คุณชาย​ห้า​จัดการ​อย่าง​เงียบๆ​…​แต่​ข้า​แค่​ไม่เข้าใจ​ ​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​เรื่อง​นี้​เป็นเรื่อง​ที่​น่ายินดี​ ​เหตุใด​ท่าน​แม่​ถึง​ต้อง​ทำให้​ดู​มี​ลับลมคมใน​เช่นนี้​เล่า​!​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​เห็น​นาง​สับสน​ ​เขา​ก็​ยิ้ม​แล้ว​หอม​แก้ม​นาง​ ​จากนั้น​ก็​พูด​เบา​ๆ​ ​“​ไม่พูดถึง​เรื่อง​นี้​ดีกว่า​ ​วันนี้​วันเกิด​ของ​เจ้า​ ​เจ้า​อยากได้​อะไร​เป็นพิเศษ​หรือไม่​ ​ข้า​จะ​ซื้อ​ให้​เจ้า​”

​“​ไม่​อยากได้​อะไร​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​“​ท่าน​โหว​มอบ​ปิ่นปักผม​ทองให้​ข้า​แล้ว​ไม่ใช่​หรือ​ ​ข้าว​่า​มัน​ก็​สวยดี​ ​ไม่มี​อะไร​อยากได้​เป็นพิเศษ​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ครุ่นคิด​อยู่​ครู่หนึ่ง​แล้ว​พูดว่า​ ​“​หรือว่า​ ​เรา​จะ​พาลูก​ไป​อยู่​ที่​ตรอก​จิน​อวี​๋​สัก​สอง​สาม​วัน​เหมือน​น้อง​ห้า​ ​ตั้งแต่​ตรอก​จิน​อวี​๋​ซ่อมแซม​ใหม่​เจ้า​ก็​ยัง​ไม่เคย​ไป​ ​ที่นั่น​นั้น​ห่างไกล​ ​แต่​ก็​มี​ข้อดี​ของ​ความห่างไกล​ ​ล้อมรอบ​ด้วย​ภูเขา​และ​แม่น้ำ​ ​บรรยากาศ​ร่มรื่น​…​”

ถึง​ตอนนั้น​พวก​เด็ก​ๆ​ ​ยัง​ต้อง​มาคา​รวะ​ตัวเอง​ทุก​เช้า​ ​โดยเฉพาะ​สวี​ซื่อ​อวี​้​ ​เขา​อายุ​สิบห้า​สิบ​หก​แล้ว​ ​ทุกครั้งที่​ตัวเอง​เจอ​เขา​ยัง​ต้อง​แต่งตัว​ให้​เรียบร้อย​ ​กลัว​ว่า​เครื่องประดับ​จะ​ดู​หรูหรา​เกินไป​ ​หรือ​เสื้อผ้า​จะ​ดู​เรียบง่าย​เกินไป​ ​ทำให้​ดู​ไม่มี​มารยาท​…​แล้ว​อีก​อย่าง​ ​มัน​ไม่​เหมือน​ยุคปัจจุบัน​ ​ที่​แค่​กระเป๋าเดินทาง​ใบ​เดียว​ก็​ออก​นอกบ้าน​ได้​แล้ว​ ​ถึง​ตอนนั้น​แม้แต่​แจกัน​ที่​ชอบ​ใช้​ก็​ยัง​ต้อง​นำ​ไป​ด้วย​ ​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​สาวใช้​และ​ป้า​รับใช้​ ​อากาศ​ร้อน​ๆ​ ​เช่นนี้​ ​ไม่​สู้​อยู่​ที่​เรือน​ยัง​จะ​ดี​เสีย​กว่า​

​“​ข้าว​่า​ช่างมัน​เถิด​เจ้าค่ะ​!​”​ ​สือ​อี​เหนียง​ยิ้ม​ ​“​อากาศ​ร้อน​เช่นนี้​ ​ข้า​ไม่​อยาก​ขยับ​ไป​ไหน​ ​รอ​ให้​อากาศ​เย็น​ลง​อีก​สักหน่อย​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​เถิด​!​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​ครุ่นคิด​แล้ว​พูดว่า​ ​“​หรือว่า​ ​เจ้า​ปล่อย​ให้​จิ​่น​เกอ​อยู่​ที่​เรือน​ ​เจ้า​กลับ​ไป​อยู่​ที่​จวน​สกลุ​เดิม​สัก​สอง​สาม​วัน​?​ ​ถือโอกาส​ไปหา​ซื่อ​เหนียง​และ​อู่​เหนียง​ ​เฉียน​หมิง​เข้าไป​รับ​ตำแหน่ง​แทน​นายอำเภอ​เหวิน​เติง​ ​ ​ปลายเดือน​ห้า​ก็​จะ​ต้อง​ออก​ไป​จาก​เมืองหลวง​แล้ว​ ​ต่อไป​ก็​ไม่รู้​ว่า​จะ​ได้​เจอ​เขา​อีก​เมื่อไร​ ​พี่น้อง​อย่าง​พวก​เจ้า​คงมี​เรื่อง​ที่​ต้อง​คุย​กัน​…​”

​หวัง​อี๋​เหนียง​เป็น​คนดู​แล​จวน​ที่​ตรอก​กง​เสียน​ ​สือ​อี​เหนียง​เป็นคุณ​หนู​สกุล​หลัว​ ​แน่นอน​ว่านา​งคง​ไม่กล้า​ทำ​อะไร​บุ่มบ่าม​ ​สือ​อี​เหนียง​ก็​จะ​ได้​พักผ่อน​สัก​สอง​สาม​วัน​

​“​ท่าน​โหว​อย่า​ไล่​ข้า​ไป​ไหน​เลย​”​ ​สือ​อี​เหนียง​อด​ไม่ได้​ที่จะ​หัวเราะ​ ​“​ข้า​อยาก​อยู่​กับ​จิ​่น​เกอ​”​ ​เงยหน้า​ขึ้น​ก็​เห็น​มุม​ปากของ​สวี​ลิ่ง​อี๋​กระตุก​ ​เหมือน​เขา​กำลัง​อยาก​จะ​พูด​อะไร​บางอย่าง​ ​นาง​จึง​รีบ​ชิง​พูด​ขึ้น​ ​“​น้ำใจ​ของ​ท่าน​โหว​ข้า​รับ​ไว้​แล้ว​ ​ข้า​อยู่​ที่​เรือน​จน​เคยชิน​แล้ว​ ​ไม่​อยาก​ออก​ไป​ไหน​เจ้าค่ะ​ ​หาก​ท่าน​โหว​คิด​ว่า​อากาศ​ร้อน​ ​เช่นนั้น​ข้า​ไป​พูด​กับ​ไท่ฮู​หยิน​ ​เรา​ย้าย​ไป​อยู่​ที่​เรือน​ศาลา​ริมน้ำ​ฉุย​หลุน​ใน​ช่วง​ฤดูร้อน​ก็ได้​!​”

​สวี​ลิ่ง​อี๋​พลัน​นึก​ขึ้น​ได้​ว่า​ปกติ​สือ​อี​เหนียง​ก็​มักจะ​ชอบ​อยู่​ที่​เรือน​อยู่​แล้ว​ ​เขา​จึง​ยิ้ม​แล้ว​ไม่​พูด​อะไร​อีก

​สือ​อี​เหนียง​ถาม​เขา​ ​“​สอง​วันก่อน​บอกว่า​เขา​ไปรับ​ตำแหน่ง​ผู้ช่วย​นายอำเภอ​ที่​ฉุน​อาน​ไม่ใช่​หรือ​ ​เหตุใด​ถึง​เปลี่ยนไป​เป็น​นายอำเภอ​ที่​เหวิน​เติง​เล่า​”

​วันนี้​อู่​เหนียง​ไม่ได้​กลับ​สกุล​เดิม​ ​บอกว่า​สหาย​ของ​เฉียน​หมิง​มา​เป็น​แขก​ที่​จวน​ ​นาง​ต้อง​อยู่​ต้อนรับ​แขก​

​“​นายอำเภอ​ที่​เหวิน​เติง​แม้ว่า​จะ​ไม่ใช่​ตำแหน่ง​ที่สูง​ส่ง​ ​แต่​ก็​ถือเป็น​บิดา​มารดา​แห่ง​อำเภอ​ ​ไม่​เหมือน​ไป​ฉุน​อาน​ ​ถึงแม้ว่า​จะ​เป็น​ตำแหน่ง​ที่​มั่งคั่ง​ร่ำรวย​ ​แต่กลับ​ต้อง​ทำงาน​ภายใต้​อำนาจ​ของ​คนอื่น​”​ ​สวี​ลิ่ง​อี๋​อธิบาย​ ​“​เฉียน​หมิง​สนิทสนม​กับ​ฝ่าย​คัดเลือก​ของ​ทาง​กระทรวง​ขุนนาง​อยู่​แล้ว​ ​แล้วยัง​ยอม​เสียเงิน​ ​แน่นอน​ว่า​แค่​พูด​ก็​สำเร็จ​!​”

​“​ตอนที่​ป้า​ซ่ง​นำ​ของขวัญ​เทศกาล​ไหว้​บ๊ะ​จ่าง​ไป​มอบให้​ ​พี่​หญิง​ห้า​ไม่ได้​พูด​อะไร​ ​ข้า​จึง​คิด​ว่า​หลังจาก​เทศกาล​ไหว้​บ๊ะ​จ่าง​แล้ว​จะ​ไปหา​นาง​”​ ​สือ​อี​เหนียง​พยักหน้า​ ​“​ในเมื่อ​นาง​จะ​ออก​ไป​จาก​เมืองหลวง​ปลายเดือน​ห้า​แล้ว​ ​เช่นนั้น​พรุ่งนี้​ข้า​ไปหา​นาง​ดีกว่า​เจ้าค่ะ​”

ร้อยรักปักดวงใจ

ร้อยรักปักดวงใจ

Status: Ongoing

เมื่อจวนสกุลหลัว มีภรรยาเอกหนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหกคน จึงตามมาด้วยพี่น้องต่างมารดามากมาย

หลัวหยวนเหนียง บุตรีคนโตจากนายหญิงใหญ่ ได้แต่งเป็นภรรยาเอกของ สวีลิ่งอี๋ ที่มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงหย่งผิงโหว แม่ทัพใหญ่

ทว่า ช่างโชคร้ายที่หลัวหยวนเหนียงล้มป่วนหนักและรู้ดีว่าใกล้ถึงวาระสุดท้าย นางจึงวางแผนการใหญ่กับมารดา

นั่นคือ การเลือกหนึ่งในหญิงสาวพี่น้องสกุลหลัวที่ยังไม่ได้ออกเรือนมาคอยดูแล จุนเกอ บุตรชายสุดที่รักเพียงคนเดียว และ...

คอยรักษาอำนาจของสกุลหลัวไว้ในฐานะภรรยาเอก โดยการแต่งงานกับหย่งผิงโหวเพื่อเป็นภรรยาตัวแทน!

สุดท้าย ผู้ถูกเลือกนั้นกลับกลายเป็นบุตรีของอนุภรรยา คุณหนูสิบเอ็ดผู้รักความสงบอย่าง สืออีเหนียง

แม้ไม่อาจหนีพ้นชะตากรรมที่มีผู้กำหนดมาให้ มีแต่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายตรงหน้าต่อไป

ทักษะการปักผ้า ไหวพริบที่ติดตัวมา และเสน่ห์สุขุมดั่งน้ำนิ่ง อาจนำไปสู่กระแสน้ำพัดพาเหนือใครจะคาดเดา!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท